สืบสู้ผี ภาค 1-2
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ชายที่ชื่อสิงห์และแมวดำ !
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรอยยิ้มที่มุมปากและสายตาของสิงห์ที่ประสานกับสายตาของผมนั้น เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงแขนขวาทุ่มร่างของลูกน้องไอ้โรจน์คนที่จับล็อกแขนขวาของเขาไว้ก่อนหน้านี้ให้ล้มคะมำไปข้างหน้าอย่างรุนแรงโดยที่มันไม่ทันจะตั้งตัว !
และขณะที่ลูกน้องของไอ้โรจน์คนที่จับแขนซ้ายของสิงห์ไว้มัวตกตะลึงอ้าปากค้างอยู่นั้นมันก็ถูกสิงห์ใช้หัวไหล่ที่เหมือนจะสิ้นเรี่ยวแรงนั้นเหวี่ยงร่างของมันไปข้างหน้าอย่างแรงด้วยกำลังอันทรงพลังที่ใครๆก็ไม่คาดว่าจะได้เห็นจากร่างอันสะบักสะบอมของสิงห์ในยามนี้เช่นกัน !
ร่างทั้งสองของลูกน้องไอ้โรจน์บัดนี้ได้ไปนอนกลิ้งร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดจากการถูกกระแทกกับพื้นข้างหน้าอย่างรุนแรงด้วยกันทั้งสองคน...!
บัดนี้ชายผู้ได้ขึ้นชื่อว่าไอ้อัปลักษณ์ ก็ได้ทรงกายขึ้นมาอย่างองอาจราวกับว่าเขาไม่เคยได้รับความบาดเจ็บที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายมาก่อนเลยด้วยซ้ำ...!
ไอ้โรจน์เองบัดนี้ก็ถึงกับตื่นตะลึงตาค้างรวมทั้งเหล่าลิ่วล้อของมันที่ต่างก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวพวกมันเองในยามนี้เช่นกัน นี่ยังไม่นับกับปฏิกิริยาของพวกมันที่ต่างก็ก้าวถอยหลังไปคนล่ะก้าวสองก้าวกันอย่างไม่รู้ตัว...!
ส่วนนุชนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นมา และมองเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดตรงหน้าด้วยสีหน้าอันพิศวงระคนประหลาดใจอย่างที่สุด...
และสำหรับผมเองนั้น ไม่ว่าจะเป็นความตกตะลึงตาค้างหรือความพิศวงประหลาดใจล้วนเข้ามาอยู่ในตัวผมจนหมดสิ้น...
เคยได้ยินใครพูดไว้ว่า อารมณ์ในด้านต่างๆของมนุษย์นั้น ไม่ว่าจะอารมณ์รัก อารมณ์โกรธ อารมณ์แค้น หรืออารมณ์อื่นๆ จะแสดงพลังอันเหลือเชื่อออกมาเมื่อถึงจุดอันเป็นที่สุดจุดหนึ่ง เช่นเหตุการณ์ที่มีไฟใหม้บ้านแล้วคนที่อยู่ในบ้านนั้นยกตู้เซฟอันหนักอึ้งออกมาได้อย่างเหลือเชื่อทั้งที่ในเวลาปกตินั้นเขาไม่สามารถที่จะยกหรือขยับตู้นั้นได้ด้วยตัวของเขาเองคนเดียวได้เลย...
และก็คงเช่นเดียวกับสิงห์ในยามนี้ สิ่งที่จุดพลังให้เขาเหวี่ยงร่างของลูกน้องไอ้โรจน์ได้อย่างเหลือเชื่อในตอนนี้นั้นมันคงจะเกิดจากพลังที่เกิดจากอารมณ์ห่วงใยในตัวของนุชอย่างถึงที่สุดและอาจรวมถึงอารมณ์แห่งความแค้นที่หญิงคนรักถูกกระทำให้บาดเจ็บต่อหน้าต่อตา แม้ว่าที่จริงแล้วตัวของเขาเองนั้นแทบจะขยับตัวเคลื่อนไหวต่อไปอีกไม่ได้แล้วก็ตาม...!
สิงห์ก้าวย่างช้าๆเข้าไปหาพวกไอ้โรจน์ สายตาของเขาเพ่งจับอยู่ที่ดวงตาไอ้โรจน์อย่างไม่วางตาราวกับว่าเขาต้องการที่จะดื่มเลือดอันชั่วช้าบัดซบของไอ้โรจน์นั้นให้จงได้ในคืนนี้...!
ไอ้โรจน์ยามนี้ถึงกับครั่นคร้ามในดวงตาของสิงห์อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันเผลอก้าวถอยหลังไปอีกสองก้าวจนไปเหยียบตีนลูกน้องคนหนึ่งของมันที่มัวยืนตะลึงอยู่ข้างหลัง...
แล้วสติของไอ้โรจน์ก็เลยเริ่มกลับมา "เฮ๊ย...! พวกมึง ! มัวตะลึงอะไรกันอยู่ว๊ะ...?!" ไอ้โรจน์หันไปวีนแตกใส่ลูกน้องของมันทันที
"แค่ไอ้สองคนนั่นมันไม่ระวังจนโดนเหวี่ยงล้มแค่นี้ พวกมึงถึงกับอึ้งแดกกันหมดเลยรึว๊ะ...?! รีบๆไปจัดการมันสิโว๊ยพวกมึง ! รีบไปกระทืบไอ้สิงห์ให้สลบคาตีนซะเดี๋ยวนี้เลย พวกมึงจะปล่อยให้มันยืนเขม่นเล็งอยู่อย่างงี้ทั้งคืนกันรึไงว๊ะ ไอ้ควาย...?!"
น้ำเสียงอันสุดจะบริภาษของไอ้โรจน์เล่นเอาพวกกลุ่มลิ่วล้อนั้นถึงกับแทบหน้าเปลี่ยนสี... แต่ก็ได้ผล ที่พวกมันทั้งหมดนั้นถึงกับหายจากอาการอึ้งตื่นตะลึงกันทันที...!
ไอ้เทียนทำทีกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วดึงรั้งชายแขนเสื้อยืดไปไว้ที่หัวไหล่ "พี่โรจน์ใจเย็นๆเดี๋ยวผมจะจัดการตามสั่งให้ลูกพี่เดี๋ยวนี้เลย...!"
แล้วไอ้เทียนก็แล่นถลาไปข้างหน้าพร้อมกับหมัดขวาอันใหญ่โตที่พุ่งตรงไปยังหน้าของสิงห์ทันที !
ยังไม่ทันที่หมัดขวาอันรวดเร็วของไอ้เทียนจะถึงหน้าสิงห์ ชายผู้มีร่างกายอันอัปลักษณ์นั้นก็ก้มตัวตวัดเท้าอันใหญ่ยาวของเขานั้นตัดน่องขาของไอ้เทียนไปอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ...!
เสียงโครม ! เมื่อร่างไอ้เทียนหงายท้องตีลังกาลงไปกระแทกกับกระป๋องสีต่างๆที่วางระเกะระกะอยู่ใกล้ๆแถวนั้น !
ไอ้เทียนนั้นคงจะไม่ได้คาดว่าสิงห์จะรวดเร็วยิ่งกว่าก่อนจะบาดเจ็บซะอีก มันจึงต้องลงไปนอนนับดาวอยู่ตรงนั้นเอง...!
แล้วการตะลุมบอนอันดุเดือดก็เกิดขึ้น เมื่อพวกลิ่วล้อแต่ล่ะคนที่เหลือของไอ้โรจน์ก็เข้ากรุ้มรุมสิงห์จากทุกด้าน...!
เเต่แค่เพียงไม่กี่นาทีลูกน้องไอ้โรจน์เหล่านั้นแต่ล่ะคนต่างก็ต้องลงไปนอนคลุกดินหรือไปนอนแบ่บอยู่ท่ามกลางกระป๋องสีต่างๆแถวนั้นกันถ้วนทั่วทุกคน...!
ไอ้โรจน์หลังจากชมดูเหตุการณ์นี้ด้วยหน้าตาอันตื่นตะลึงแล้ว บัดนี้ท่าทางของมันก็ดูราวกับว่าจะเข่าอ่อนทรุดลงไปตรงนั้นให้ได้...
มันคงไม่อยากจะเชื่อว่า... ไอ้สิงห์ที่บาดเจ็บและน่าจะสิ้นฤทธิไปแล้วนั้น บัดนี้ได้กลายเป็นเสือสิงห์ที่เต็มไปด้วยพละกำลังอันดุร้าย...!
ผมเหลือบไปเห็นนุชยืนตะลึงแต่ก็กลับมีรอยยิ้มฉาบขึ้นอยู่บนใบหน้าในเวลาเดียวกัน
และผมเองนั้นก็ยังอดยิ้มไม่ได้กับชัยชนะของสิงห์ ชายที่ขึ้นชื่อว่ามีร่างกายสุดอัปลักษณ์แต่จิตใจระอุคุกรุ่นไปด้วยความรักที่มีต่อหญิงสาวที่ชื่อนุช...
"ม๊าวววววววว.....!"
ผมสะดุ้งขึ้นมาฉับพลันเมื่อได้ยินเสียงนั้น... แล้วเหลือบมองไปทางต้นเสียงนั้นทันที
ที่บนกำแพงรั้วบ้านนั้น ปรากฏแมวขึ้นมาตัวหนึ่งตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้...?
เป็นแมวดำ... ดำสนิทดุจนิล ! กับดวงตาสีทองเรื่อเรือง...!
มันกำลังนั่งมองลงมาทางด้านนี้ ราวกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดการตะลุมบอนกันขึ้นเมื่อครู่นี้นั้น มันเองก็ได้ชมดูจนพอใจแล้ว...
สิงห์หันหน้าขึ้นไปมองมัน สีหน้าของเขายามนั้นก็เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ?
แล้วแมวดำตัวนั้นก็ลุกขึ้นยืน สายตาคู่นั้นของมัน พลันหันมาทางผม...!
เอ๊ะ... แมวนั่นก็มองเห็นเรา...? ผมฉุกใจคิดแล้วก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นเห็นแมวตัวนี้ที่ไหนมาก่อน... ก็ที่ใกล้ๆต้นโพธิ์คืนนั้นยังไงล่ะ...?
ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรต่อไป หัวผมก็เริ่มรู้สึกมึนงงขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าสายตาของแมวดำตัวนั้นมันราวกับจะสะกดจิตผมจนมึนงงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าของสิงห์ที่เริ่มบิดเบี้ยวขณะที่จับจ้องมองแมวตัวนั้น ก็หันหน้ามาสบตากับผม แต่กลับปราศจากรอยยิ้มโดยสิ้นเชิง...
แล้วหน้าของสิงห์ก็ค่อยๆเริ่มบิดเบี้ยวมากขึ้นจนเปลี่ยนรูปไป...!
'มันอะไรกันนี่...?! มันกำลังเกิดอะไรขึ้น...?!' ผมถามตัวเองขณะที่หัวผมก็รู้สึกมึนงงเพิ่มขึ้นไปอีก...
ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่สติของผมจะดับวูบไปก็คือ... ภาพของนุชและไอ้โรจน์รวมทั้งกลุ่มลูกน้องนั้นก็ค่อยๆบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปไปเช่นเดียวกับสิงห์
และไม่ใช่แค่นั้น... ทั้งภาพและบรรยากาศของสถานที่ตรงที่ผมยืนอยู่นี้ต่างก็บิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปไปจนแยกอะไรไม่ออก...
แล้วภาพทุกอย่างข้างหน้าผมก็ดำมืด... ดับลง..........?!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ