ตลกร้ายใต้สะดือ
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
45 ตอน
9 วิจารณ์
52.39K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
40) สัมผัสลับที่ลึกล้ำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 40 สัมผัสลับที่ลึกล้ำ
“ หา…..ถอดเสื้อออก นี่คือเรื่องจริงรึเปล่าคะ ” สาวแพรร้องเสียงหลง ดวงตาเล็กหรี่เบิกโพลงขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ ใช่แล้ว นี่คือทางแก้เดียว และต้องรีบทำในทันที ไม่งั้นความร้อนภายในจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายจนทำให้หัวใจวายในทันที ” บุญกอบยื่นคำขาด พร้อมส่งสายตาคาดคั้นมายังเด็กสาว
เด็กสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนจนทำตัวไม่ถูก ครั้นจะละเลยไม่กระทำตามคำแนะนำของ ร.ป.ภ.หนุ่ม มันก็อาจทำให้เธอต้องถึงแก่ความตายด้วยโรคประหลาด แต่ครั้นจะกระทำตาม มันน่าละอายเสียเหลือเกิน
“ จะทำยังไงดีนะ ถ้าไม่ทำ เราอาจจะตาย แต่ถ้าทำ มันก็น่าอาย เพราะตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยถอดเสื้อต่อหน้าชายใดเลย ”
ทันทีที่เด็กสาวครุ่นคิด ภายในกายก็รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาอีกระดับ เพราะความขวยเขินที่หยุดไม่อยู่ และอาการดังกล่าวทำให้เด็กสาวตื่นตระหนกจนเผลอร้องเสียงหลง
“ ว้าย! แย่แล้ว พี่บุญกอบ ร่างกายของหนูมันร้อนขึ้นอีกแล้ว ”
บุญกอบได้ฟัง เขาก็ซ่อนยิ้มอยู่ภายใน ปากก็เร่งเร้าให้เด็กสาวรีบแก้ไขสถานการณ์
“ ไม่ได้การแล้ว น้องแพร อาการหนูกำเริบหนัก น้องแพรต้องรีบตัดสินใจแล้วว่าจะทำตามคำแนะนำของพี่หรือจะยอมรับความตาย ”
สาวแพรรู้สึกร้อนใจและสับสน ถึงนาทีนี้เธอต้องเลือกแล้ว ระหว่างความตายกับความอาย สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะอาย
“ ก็ได้ค่ะ ถอดเสื้อ ใช่มั้ยคะ ”
“ แม่นแล้ว ” บุญกอบตอบกระเส่า ประกายหื่นถูกเปล่งออกมาจากดวงตาอย่างชัดเจน
ด้วยความกลัวตาย เด็กสาวจึงไม่ทันสังเกตท่าทีของบุญกอบ และถึงได้เห็น ก็คาดว่าสาวแพรน่าจะไม่เข้าใจ เพราะเธอใสซื่อเกินกว่าจะตีความ
เด็กสาวร่างอวบงกๆเงิ่นๆอยู่ครู่หนึ่ง เพราะการถอดเสื้อต่อหน้าชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก มันเป็นอะไรที่น่าอายแบบสุดๆ เธอรวบรวมความกล้าอยู่นานพอดู ก่อนจะตัดสินใจปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง
“ แป๊ะ….”
แม้เสียงกระดุมเสื้อหลุดจากขั้วจะไม่สู้ดังนัก แต่บุญกอบก็ได้ยินอย่างชัดเจน เพราะเขากำลังเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ส่วนสองดวงตาก็เพ่งไปที่เด็กสาวที่กำลังเปลื้องผ้า
กระดุมเม็ดที่หนึ่งหลุดออกมาอย่างเชื่องช้า ซึ่งอาจเป็นเพราะเด็กสาวกำลังขวยเขินและสับสน แต่พอกระดุมเม็ดแรกหลุดออก กระดุมเม็ดที่สอง สามและสี่ก็เริ่มหลุดตามๆกันด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม เมื่อกระดุมเม็ดที่ห้าถูกปลดเปลื้อง ชายเสื้อนักศึกษาก็แบะกว้าง
“ ว้าว……นะ…นี่มัน ”
บุญกอบถึงกลับอ้าปากกว้าง ดวงตาเหลือกถลนจนแทบหลุดจากเบ้า เขาดูตื่นตกใจอย่างรุนแรงราวเห็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครได้ประจักษ์มาก่อน เหตุเพราะเจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันดูอเมซิ่งจนเกินจะห้ามใจได้ เจ้าสิ่งนั้นก็คือ…..
เรือนกายช่วงบนที่ขาวผ่องเป็นยองใยของเด็กสาว ผิวพรรณของเธอช่างละเอียดและเนียนใสยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกถึงหลายเท่า แต่จุดที่สะดุดตามากที่สุดเห็นจะไม่พ้น…..หนองโพคู่งาม กะขนาดแบบคร่าวๆ เห็นจะประมาณคัพ D เป็นอย่างต่ำ เจ้าเนินเนื้อที่อวบอัดนั้นถูกซุกซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นในดันทรงสีครีมอันเป็นสีที่กลมกลืนกับผิวของเจ้าตัวเสียเหลือเกิน
สาวแพรรู้สึกเขินอายจนพูดไม่ออก ในชีวิตนี้เธอไม่เคยอับอายขนาดนี้มาก่อน แต่เธอก็จำใจที่จะยืนโชว์ปทุมถันเต่งตึงให้หนุ่มอีสานร่างล่ำชื่นชมต่อไป ด้วยกลัวว่าโรคร้ายที่แสนประหลาดจะหวนกลับมารุมเร้า
“ ถอดเสร็จ แล้วจะให้ทำอะไรต่อ หรือแค่นี้เป็นอันจบ ”
เด็กสาวพยายามเก็บคำถามนี้ไว้ภายใน เนื่องจากเธอรู้สึกอายเกินกว่าจะพูดคำใดออกมา ทันใดนั้นเองหางตาของเธอก็พลันเหล่ไปเห็นบางสิ่งที่กำลังปูดโปนขึ้นมาอย่างช้าๆ บางสิ่งนั้นปรากฏอยู่ตรงกลางเป้าของหนุ่มอีสานร่างล่ำ
“ ว้าย! นะ…นั่นมัน หรือว่านั่นจะเป็น……” เด็กสาวปิดปาก ภายในอุทานดัง เพราะถึงเธอจะใสซื่อเพียงใด เธอก็พอรู้อยู่บ้างว่าสิ่งที่เห็นนั้นคืออะไร และเจ้าสิ่งนั้นทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวหนักกว่าเดิม
ด้วยความที่บุญกอบมัวแต่มองหนองโพอวบใหญ่ เขาจึงไม่ทันสังเกตเห็นอาการที่เปลี่ยนไปของเด็กสาว แถมเขายังเผลอล้วงมือลงไปลูบคลำเป้ากางเกงเบาๆ เพื่อคลายความตึงเครียดทางอารมณ์ เลยทำให้เด็กสาวรู้สึกขัดเขินยิ่งกว่าเดิม
“ ว้าย ว้าย ว้าย ดูดิ นอกจากไม่ทำให้มันหด พี่บุญกอบยังเอามือไปคลึงมันอีก น่าเกลียดจังเลย ” แม้เด็กสาวจะนึกตำหนิ แต่สายตาก็ยังเหม่อมองอยู่ไม่ขาด
สองหนุ่มสาวมองเรือนกายของกันและกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็เป็นฝ่ายบุญกอบที่ขยับตัวก่อน เขาก้าวเข้าหาเด็กสาวอย่างช้าๆ
“ พี่บุญกอบจะทำอะไรคะ ” สาวแพรร้องถามหนุ่มอีสานร่างล่ำด้วยเสียงกระซิบ กายอวบอัดถอยหลังหนี แต่สาวเจ้าก็ไปได้แค่ก้าวเดียวเท่านั้น เนื่องจากติดขอบโต๊ะไม้ขนาดเล็ก
บุญกอบเข้าประชิดกายของเด็กสาว ดวงตาของเขาเหลือบแลฟักแฟงคู่โตที่ขาวอวบกับใบหน้ากลมๆที่แดงซ่านสลับไปมาอยู่สองสามเที่ยว ก่อนจะกล่าวปลอบประโลมเด็กสาวด้วยเสียงกระเส่าที่ขาดช่วง
“ นะ….น้องแพรมะ…ไม่ต้องกังวลปะ..ไป พะ….พี่ไม่ทำอะ….อะไรน้องแพรแน่ พี่แค่อยากช่วย ”
“ ช่วยอะไรคะ ไม่ต้องช่วยหนูก็ได้ค่ะ หนูดีขึ้นมากแล้ว ” แม้สาวแพรจะรู้สึกร้อนรุ่มหนักกว่าเดิม แต่เธอก็โกหก เพราะเริ่มกลัวอาการหื่นที่บุญกอบแสดงออก ทว่าบุญกอบกลับไม่หลงไปกับคำโป้ปดของเด็กสาว
“ หึ หึ หึ ไม่จริงหรอก น้องแพรน่าจะยังมีอาการร้อนภายในอยู่ ท่าทางอาการจะหนักกว่าที่คิด ดังนั้นพี่จะช่วยน้องด้วยวิธีนี้เอง ” สิ้นคำของบุญกอบ หนุ่มอีสานร่างล่ำก็เอื้อมมือไปบีบเคล้นซาลาเปาคู่โตของเด็กสาวหน้าขาว
“ ว้าย!....พี่จะทำอะไรหนู ” เด็กสาวกรีดร้อง พร้อมสะบัดหนี แต่ก็ไม่พ้นวงแขนของหนุ่มอีสานร่างล่ำ เพียงพริบตา กายอวบอัดก็ถูกกอดรัด
“ หึ หึ หึ ถามมาได้ พี่ก็จะมาช่วยให้หนูหายจากอาการร้อนภายในไง ” บุญกอบพูดจบ เขาก็ก้มหน้าลงหอมแก้มขาวๆของเด็กสาวไปหนึ่งฟอดใหญ่
“ แต่นี่มันน่าจะเกินกว่าช่วยเหลือแล้วนะคะ ปล่อยหนูนะ หนูอยากออกจากที่นี่แล้ว ” เด็กสาวเอียงหน้าหลบ ปากก็ร้องบอกเสียงขุ่น
แม้เด็กสาวจะแสดงเจตจำนงอย่างแรงกล้า แต่มีหรือว่า ร.ป.ภ.หนุ่มจะปล่อยเหยื่ออันโอชะให้หนีรอด เขากอดรัดเด็กสาวแน่นขึ้น ส่วนริมฝีปากก็ระดมจูบหอมไปทั่วดวงหน้าที่ขาวผ่อง
“ อื้อ….ปล่อยนะ ปล่อย…..” เด็กสาวร้องห้ามด้วยเสียงที่ดังขึ้น แต่เธอก็อายเกินกว่าจะตะโกน
“ จะดีดดิ้นไปทำไมจ๊ะ น้องแพรคนสวย เธออยากจะหายจากโรคร้อนภายในไม่ใช่หรือ หยุดขัดขืนพี่เถอะ ” ร.ป.ภ.หนุ่ม พยายามกระซิบบอก
“ ไม่ ไม่ หนูไม่ได้ต้องการแบบนี้ ปล่อยหนูนะ อุ้บ…..”
เด็กสาวขาวอวบพูดไม่ทันจบ เธอก็ถูกประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม ด้วยความชำนาญงานของบุญกอบ จึงทำให้เด็กสาวนิ่งโดยพลัน
“ อื้อ…..นี่มันอะไรกัน ทำไมเราถึงรู้สึกเคลิ้มแบบนี้ เรี่ยวแรงก็เหมือนจะหดหายจนหมดสิ้น ” เด็กสาวนึกแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงของตนเอง
ร่างขาวอวบของเด็กสาวอ่อนแรงลงอย่างมากมายจน ร.ป.ภ.หนุ่มแทบไม่ต้องออกแรงกอด ส่งผลให้เขาคลายวงแขนและเปลี่ยนมาเคล้นคลึงฟักแฟงคู่โตที่เย้ายวน
“ อื้อ……” สาวแพรถึงกลับครวญดัง กายอวบขาวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ร.ป.ภ.หนุ่มรู้สึกสะใจในอารมณ์เอามากๆ เขาดูดปาก พร้อมบดขยี้ริมฝีปากอย่างหนักหน่วง บางครั้งก็สอดลิ้นยาวเข้าไปในโพลงปาก เพื่อแลกลิ้นกับเด็กสาว ส่วนสองมือก็บีบเคล้นไปทั่วปทุมถันที่อวบขาว
“ หึ หึ หึ ดูจากความแน่นของทรวงอก บอกได้เลยว่านังเด็กคนนี้ไม่เคยผ่านมือชายอย่างแน่นอน ”
ทว่าพายุอารมณ์ของบุญกอบยังไม่หมดลงแต่เพียงเท่านั้น ไม่ถึงอึดใจบุญกอบก็ล้วงมือซ้ายลงต่ำ เพื่อมุ่งไปยังเป้าหมายใหม่ เป้าหมายนั้นก็คือ……โคนขาอ่อนที่ขาวผ่อง
“ อ้า…..”
เหมือนเด็กสาวจะได้สติ เพราะเธอได้เอื้อมมือขวามาเกาะกุมมือมารเป็นเชิงขัดไม่ให้ไปต่อ บุญกอบจึงแก้ลำด้วยการเลื่อนริมฝีปากไปขบกัดที่ติ่งหู พร้อมใช้สองนิ้วบีบบี้ที่ปลายติ่งเต้า
“ อ้า……”
การแก้เกมของบุญกอบดูจะได้ผลเป็นอย่างดี เพราะในทันทีที่สาวแพรเจอกระบวนท่านี้ มือขวาที่เกาะกุมก็เริ่มอ่อนกำลังลงจนส่งผลให้มือมารล้วงลึกเข้าไปถึงเนื้อใน
“ โอ้ว……ซี้ด……”
กายอวบขาวกระตุกแรงอีกครั้ง ด้วยมือมารได้ล้วงลึกเข้าไปสัมผัสเนื้อในแบบเต็มฝ่ามือ มันเลยทำให้บุญกอบรู้ว่าเนินเนื้อที่กำลังสัมผัส ทั้งอวบใหญ่และหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำเหนียวหนืด
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
“ หา…..ถอดเสื้อออก นี่คือเรื่องจริงรึเปล่าคะ ” สาวแพรร้องเสียงหลง ดวงตาเล็กหรี่เบิกโพลงขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ ใช่แล้ว นี่คือทางแก้เดียว และต้องรีบทำในทันที ไม่งั้นความร้อนภายในจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายจนทำให้หัวใจวายในทันที ” บุญกอบยื่นคำขาด พร้อมส่งสายตาคาดคั้นมายังเด็กสาว
เด็กสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนจนทำตัวไม่ถูก ครั้นจะละเลยไม่กระทำตามคำแนะนำของ ร.ป.ภ.หนุ่ม มันก็อาจทำให้เธอต้องถึงแก่ความตายด้วยโรคประหลาด แต่ครั้นจะกระทำตาม มันน่าละอายเสียเหลือเกิน
“ จะทำยังไงดีนะ ถ้าไม่ทำ เราอาจจะตาย แต่ถ้าทำ มันก็น่าอาย เพราะตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยถอดเสื้อต่อหน้าชายใดเลย ”
ทันทีที่เด็กสาวครุ่นคิด ภายในกายก็รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาอีกระดับ เพราะความขวยเขินที่หยุดไม่อยู่ และอาการดังกล่าวทำให้เด็กสาวตื่นตระหนกจนเผลอร้องเสียงหลง
“ ว้าย! แย่แล้ว พี่บุญกอบ ร่างกายของหนูมันร้อนขึ้นอีกแล้ว ”
บุญกอบได้ฟัง เขาก็ซ่อนยิ้มอยู่ภายใน ปากก็เร่งเร้าให้เด็กสาวรีบแก้ไขสถานการณ์
“ ไม่ได้การแล้ว น้องแพร อาการหนูกำเริบหนัก น้องแพรต้องรีบตัดสินใจแล้วว่าจะทำตามคำแนะนำของพี่หรือจะยอมรับความตาย ”
สาวแพรรู้สึกร้อนใจและสับสน ถึงนาทีนี้เธอต้องเลือกแล้ว ระหว่างความตายกับความอาย สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะอาย
“ ก็ได้ค่ะ ถอดเสื้อ ใช่มั้ยคะ ”
“ แม่นแล้ว ” บุญกอบตอบกระเส่า ประกายหื่นถูกเปล่งออกมาจากดวงตาอย่างชัดเจน
ด้วยความกลัวตาย เด็กสาวจึงไม่ทันสังเกตท่าทีของบุญกอบ และถึงได้เห็น ก็คาดว่าสาวแพรน่าจะไม่เข้าใจ เพราะเธอใสซื่อเกินกว่าจะตีความ
เด็กสาวร่างอวบงกๆเงิ่นๆอยู่ครู่หนึ่ง เพราะการถอดเสื้อต่อหน้าชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก มันเป็นอะไรที่น่าอายแบบสุดๆ เธอรวบรวมความกล้าอยู่นานพอดู ก่อนจะตัดสินใจปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง
“ แป๊ะ….”
แม้เสียงกระดุมเสื้อหลุดจากขั้วจะไม่สู้ดังนัก แต่บุญกอบก็ได้ยินอย่างชัดเจน เพราะเขากำลังเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ส่วนสองดวงตาก็เพ่งไปที่เด็กสาวที่กำลังเปลื้องผ้า
กระดุมเม็ดที่หนึ่งหลุดออกมาอย่างเชื่องช้า ซึ่งอาจเป็นเพราะเด็กสาวกำลังขวยเขินและสับสน แต่พอกระดุมเม็ดแรกหลุดออก กระดุมเม็ดที่สอง สามและสี่ก็เริ่มหลุดตามๆกันด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม เมื่อกระดุมเม็ดที่ห้าถูกปลดเปลื้อง ชายเสื้อนักศึกษาก็แบะกว้าง
“ ว้าว……นะ…นี่มัน ”
บุญกอบถึงกลับอ้าปากกว้าง ดวงตาเหลือกถลนจนแทบหลุดจากเบ้า เขาดูตื่นตกใจอย่างรุนแรงราวเห็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครได้ประจักษ์มาก่อน เหตุเพราะเจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันดูอเมซิ่งจนเกินจะห้ามใจได้ เจ้าสิ่งนั้นก็คือ…..
เรือนกายช่วงบนที่ขาวผ่องเป็นยองใยของเด็กสาว ผิวพรรณของเธอช่างละเอียดและเนียนใสยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกถึงหลายเท่า แต่จุดที่สะดุดตามากที่สุดเห็นจะไม่พ้น…..หนองโพคู่งาม กะขนาดแบบคร่าวๆ เห็นจะประมาณคัพ D เป็นอย่างต่ำ เจ้าเนินเนื้อที่อวบอัดนั้นถูกซุกซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นในดันทรงสีครีมอันเป็นสีที่กลมกลืนกับผิวของเจ้าตัวเสียเหลือเกิน
สาวแพรรู้สึกเขินอายจนพูดไม่ออก ในชีวิตนี้เธอไม่เคยอับอายขนาดนี้มาก่อน แต่เธอก็จำใจที่จะยืนโชว์ปทุมถันเต่งตึงให้หนุ่มอีสานร่างล่ำชื่นชมต่อไป ด้วยกลัวว่าโรคร้ายที่แสนประหลาดจะหวนกลับมารุมเร้า
“ ถอดเสร็จ แล้วจะให้ทำอะไรต่อ หรือแค่นี้เป็นอันจบ ”
เด็กสาวพยายามเก็บคำถามนี้ไว้ภายใน เนื่องจากเธอรู้สึกอายเกินกว่าจะพูดคำใดออกมา ทันใดนั้นเองหางตาของเธอก็พลันเหล่ไปเห็นบางสิ่งที่กำลังปูดโปนขึ้นมาอย่างช้าๆ บางสิ่งนั้นปรากฏอยู่ตรงกลางเป้าของหนุ่มอีสานร่างล่ำ
“ ว้าย! นะ…นั่นมัน หรือว่านั่นจะเป็น……” เด็กสาวปิดปาก ภายในอุทานดัง เพราะถึงเธอจะใสซื่อเพียงใด เธอก็พอรู้อยู่บ้างว่าสิ่งที่เห็นนั้นคืออะไร และเจ้าสิ่งนั้นทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวหนักกว่าเดิม
ด้วยความที่บุญกอบมัวแต่มองหนองโพอวบใหญ่ เขาจึงไม่ทันสังเกตเห็นอาการที่เปลี่ยนไปของเด็กสาว แถมเขายังเผลอล้วงมือลงไปลูบคลำเป้ากางเกงเบาๆ เพื่อคลายความตึงเครียดทางอารมณ์ เลยทำให้เด็กสาวรู้สึกขัดเขินยิ่งกว่าเดิม
“ ว้าย ว้าย ว้าย ดูดิ นอกจากไม่ทำให้มันหด พี่บุญกอบยังเอามือไปคลึงมันอีก น่าเกลียดจังเลย ” แม้เด็กสาวจะนึกตำหนิ แต่สายตาก็ยังเหม่อมองอยู่ไม่ขาด
สองหนุ่มสาวมองเรือนกายของกันและกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็เป็นฝ่ายบุญกอบที่ขยับตัวก่อน เขาก้าวเข้าหาเด็กสาวอย่างช้าๆ
“ พี่บุญกอบจะทำอะไรคะ ” สาวแพรร้องถามหนุ่มอีสานร่างล่ำด้วยเสียงกระซิบ กายอวบอัดถอยหลังหนี แต่สาวเจ้าก็ไปได้แค่ก้าวเดียวเท่านั้น เนื่องจากติดขอบโต๊ะไม้ขนาดเล็ก
บุญกอบเข้าประชิดกายของเด็กสาว ดวงตาของเขาเหลือบแลฟักแฟงคู่โตที่ขาวอวบกับใบหน้ากลมๆที่แดงซ่านสลับไปมาอยู่สองสามเที่ยว ก่อนจะกล่าวปลอบประโลมเด็กสาวด้วยเสียงกระเส่าที่ขาดช่วง
“ นะ….น้องแพรมะ…ไม่ต้องกังวลปะ..ไป พะ….พี่ไม่ทำอะ….อะไรน้องแพรแน่ พี่แค่อยากช่วย ”
“ ช่วยอะไรคะ ไม่ต้องช่วยหนูก็ได้ค่ะ หนูดีขึ้นมากแล้ว ” แม้สาวแพรจะรู้สึกร้อนรุ่มหนักกว่าเดิม แต่เธอก็โกหก เพราะเริ่มกลัวอาการหื่นที่บุญกอบแสดงออก ทว่าบุญกอบกลับไม่หลงไปกับคำโป้ปดของเด็กสาว
“ หึ หึ หึ ไม่จริงหรอก น้องแพรน่าจะยังมีอาการร้อนภายในอยู่ ท่าทางอาการจะหนักกว่าที่คิด ดังนั้นพี่จะช่วยน้องด้วยวิธีนี้เอง ” สิ้นคำของบุญกอบ หนุ่มอีสานร่างล่ำก็เอื้อมมือไปบีบเคล้นซาลาเปาคู่โตของเด็กสาวหน้าขาว
“ ว้าย!....พี่จะทำอะไรหนู ” เด็กสาวกรีดร้อง พร้อมสะบัดหนี แต่ก็ไม่พ้นวงแขนของหนุ่มอีสานร่างล่ำ เพียงพริบตา กายอวบอัดก็ถูกกอดรัด
“ หึ หึ หึ ถามมาได้ พี่ก็จะมาช่วยให้หนูหายจากอาการร้อนภายในไง ” บุญกอบพูดจบ เขาก็ก้มหน้าลงหอมแก้มขาวๆของเด็กสาวไปหนึ่งฟอดใหญ่
“ แต่นี่มันน่าจะเกินกว่าช่วยเหลือแล้วนะคะ ปล่อยหนูนะ หนูอยากออกจากที่นี่แล้ว ” เด็กสาวเอียงหน้าหลบ ปากก็ร้องบอกเสียงขุ่น
แม้เด็กสาวจะแสดงเจตจำนงอย่างแรงกล้า แต่มีหรือว่า ร.ป.ภ.หนุ่มจะปล่อยเหยื่ออันโอชะให้หนีรอด เขากอดรัดเด็กสาวแน่นขึ้น ส่วนริมฝีปากก็ระดมจูบหอมไปทั่วดวงหน้าที่ขาวผ่อง
“ อื้อ….ปล่อยนะ ปล่อย…..” เด็กสาวร้องห้ามด้วยเสียงที่ดังขึ้น แต่เธอก็อายเกินกว่าจะตะโกน
“ จะดีดดิ้นไปทำไมจ๊ะ น้องแพรคนสวย เธออยากจะหายจากโรคร้อนภายในไม่ใช่หรือ หยุดขัดขืนพี่เถอะ ” ร.ป.ภ.หนุ่ม พยายามกระซิบบอก
“ ไม่ ไม่ หนูไม่ได้ต้องการแบบนี้ ปล่อยหนูนะ อุ้บ…..”
เด็กสาวขาวอวบพูดไม่ทันจบ เธอก็ถูกประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม ด้วยความชำนาญงานของบุญกอบ จึงทำให้เด็กสาวนิ่งโดยพลัน
“ อื้อ…..นี่มันอะไรกัน ทำไมเราถึงรู้สึกเคลิ้มแบบนี้ เรี่ยวแรงก็เหมือนจะหดหายจนหมดสิ้น ” เด็กสาวนึกแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงของตนเอง
ร่างขาวอวบของเด็กสาวอ่อนแรงลงอย่างมากมายจน ร.ป.ภ.หนุ่มแทบไม่ต้องออกแรงกอด ส่งผลให้เขาคลายวงแขนและเปลี่ยนมาเคล้นคลึงฟักแฟงคู่โตที่เย้ายวน
“ อื้อ……” สาวแพรถึงกลับครวญดัง กายอวบขาวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ร.ป.ภ.หนุ่มรู้สึกสะใจในอารมณ์เอามากๆ เขาดูดปาก พร้อมบดขยี้ริมฝีปากอย่างหนักหน่วง บางครั้งก็สอดลิ้นยาวเข้าไปในโพลงปาก เพื่อแลกลิ้นกับเด็กสาว ส่วนสองมือก็บีบเคล้นไปทั่วปทุมถันที่อวบขาว
“ หึ หึ หึ ดูจากความแน่นของทรวงอก บอกได้เลยว่านังเด็กคนนี้ไม่เคยผ่านมือชายอย่างแน่นอน ”
ทว่าพายุอารมณ์ของบุญกอบยังไม่หมดลงแต่เพียงเท่านั้น ไม่ถึงอึดใจบุญกอบก็ล้วงมือซ้ายลงต่ำ เพื่อมุ่งไปยังเป้าหมายใหม่ เป้าหมายนั้นก็คือ……โคนขาอ่อนที่ขาวผ่อง
“ อ้า…..”
เหมือนเด็กสาวจะได้สติ เพราะเธอได้เอื้อมมือขวามาเกาะกุมมือมารเป็นเชิงขัดไม่ให้ไปต่อ บุญกอบจึงแก้ลำด้วยการเลื่อนริมฝีปากไปขบกัดที่ติ่งหู พร้อมใช้สองนิ้วบีบบี้ที่ปลายติ่งเต้า
“ อ้า……”
การแก้เกมของบุญกอบดูจะได้ผลเป็นอย่างดี เพราะในทันทีที่สาวแพรเจอกระบวนท่านี้ มือขวาที่เกาะกุมก็เริ่มอ่อนกำลังลงจนส่งผลให้มือมารล้วงลึกเข้าไปถึงเนื้อใน
“ โอ้ว……ซี้ด……”
กายอวบขาวกระตุกแรงอีกครั้ง ด้วยมือมารได้ล้วงลึกเข้าไปสัมผัสเนื้อในแบบเต็มฝ่ามือ มันเลยทำให้บุญกอบรู้ว่าเนินเนื้อที่กำลังสัมผัส ทั้งอวบใหญ่และหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำเหนียวหนืด
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ