ตลกร้ายใต้สะดือ
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
45 ตอน
9 วิจารณ์
52.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) อุบัติเหตุในห้องลองเสื้อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 15 อุบัติเหตุในห้องลองเสื้อ
นายโมทย์หุบยิ้มในทันที เพราะเขาอ่านสีหน้าของเพื่อนรักได้ว่าสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ น่าจะเข้าขั้น….วิกฤตจริงๆ เขาจึงตอบกลับไปว่า…..
“ เออ…เดี๋ยวข้าไปช่วยนะ แพลบนึง ”
สิ้นคำกล่าว ร.ป.ภ.ผิวหมึกก็ก้าวไปหาบุญกอบที่รออยู่หน้าห้องลองเสื้อผ้า ไม่นานนักเขาก็ไปถึงจุดหมาย เพราะเขาเป็นชายร่างสูงผู้มีก้าวที่ยาวเอามากๆ
“ เอ้า เป็นอะไร รีบบอกมา ” นายโมทย์เร่งเร้า พร้อมจ้องหน้าเพื่อนรักด้วยอาการคาดคั้น
บุญกอบไม่ตอบคำในทันที เขากระมิดกระเมี้ยนอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่จะตัดสินใจ…..ชี้นิ้วไปที่ซิปกางเกง
“ เออ….กูจะบอกมึงว่า…ซิปกางเกงกูติด กูถอดกางเกงออกมาไม่ได้ ”
“ อ้าว…..เหี้ยแล้วดิ ห่าเอย ทีนี้จะทำยังไงกันดี ” ร.ป.ภ.ผิวหมึกโวยดัง ดวงตาเหลือกลานอย่างรุนแรงราวเห็นผีบุกเข้ามาหาทั้งป่าช้าก็ไม่ปาน
บุญกอบไม่ตอบ เขาได้แต่ยืนนิ่งเงียบ สีหน้าของเขาเจื่อนลงถนัดตาจนเกือบจะเข้าขั้นจ๋อยกันเลยทีเดียว
สองหนุ่มพยายามระดมมันสมองขบคิดหาทางออกกันอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายก็เป็นฝ่ายนายโมทย์ที่คิดได้ก่อน
“ เออ….กูรู้แล้วว่าจะให้ใครมาช่วยมึง ”
“ เอ๊ะ! ใครๆ…..มึงรีบบอกมาเลย ” บุญกอบเร่งเร้า เพราะเขาเองก็อยากจะหนีไปให้พ้นจากสภาวะกระอักกระอ่วนนี้เต็มทีแล้ว
นายโมทย์สบตาบุญกอบนิ่งๆอยู่อึดใจ ก่อนตอบกลับมาแบบเรียบๆว่า…..
“ น้องขิม ”
…………………
บุญกอบตกใจเป็นอันมากที่เพื่อนรักของเขาเสนอให้น้องขิมเป็นคนช่วยแก้ไขปัญหา เพราะบุญกอบไม่รู้ว่าสาวน้อยผู้จืดสนิทนางนี้เป็นคนเช่นไร เธอปกติดีมั้ย แต่ไม่ว่าหนุ่มภูธรจะกลัวอย่างไร เขาก็ไม่มีทางเลือก ด้วยเขาและเพื่อนซี้ผิวหมึกล้วนไม่มีสกิลในการแก้ไขอาการซิปติดเลยซักคน
บุญกอบยืนเกร็งอยู่หน้าห้องลองเสื้อผ้า โดยปล่อยให้เพื่อนซี้ผิวหมึกเป็นคนไปเจรจาความกับสาวขิมที่ยืนหน้านิ่งเป็นผีตายซาก ไม่นานสาวน้อยผู้จืดสนิทก็พยักหน้ารับคำและก้าวเข้ามาหาบุญกอบอย่างช้าๆ
เมื่อบุญกอบเผชิญหน้ากับสาวขิมในระยะประชิด คราวนี้เขาก็เป็นอันต้องก้มหน้า หลบตาไปซะเอง มันเป็นอะไรที่แปลกมาก เพราะแต่ก่อนเขามักจะชอบเหล่มองสาวๆอยู่ตลอดเวลา แถมบางครั้งยังจ้องมองสาวแบบไม่วางตาจนดูน่าเกลียดเสียด้วยซ้ำ มันเหมือนกับว่าสาวจืดสนิทนางนี้มีภูมิคุ้มกันที่ทำให้อาการหน้าหม้อของเหล่าชายพายเรือต้องสูญสลายไปจนสิ้น
สาวขิมยืนมองบุญกอบนิ่งๆอยู่อึดใจ เธอก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นๆโทนเดียวของเธอว่า…..
“ เข้าไปในห้องลองเสื้อผ้ากัน ดิชั้นจะแก้ไขให้คุณเอง ”
“ เอ๊ะ!....เข้าไปแก้ในห้อง เออ…..เอาเพื่อนผมเข้าไปด้วยได้มั้ย พอดีผมเป็นคนติดเพื่อนน่ะ ” บุญกอบตอบละล่ำละลัก พลางเเอบส่งสายตาเว้าวอนไปให้เพื่อนซี้ผิวหมึกที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ เฮ้อๆ……งานนี้คงไม่ได้แล้วล่ะว่ะ เพราะห้องลองเสื้อ มันเล็กนิดเดียวเอง แค่มึงกับน้องเข้าไปสองคน มันก็เต็มแล้ว รีบกลั้นใจเข้าไปเถอะ จะได้เสร็จเรื่องและไปทำงานกันซักที ” นายโมทย์ถอนหายใจแรง พร้อมตอบเพื่อนซี้กลับด้วยสายตา ประมาณว่า……ทนๆไปเถอะ เพื่อนเอย คราวนี้มันไฟท์บังคับแล้ว
บุญกอบออกอาการจ๋อย เขารวบรวมกำลังใจอยู่นาน ก่อนหันกลับไปพูดกับสาวน้อยที่ชวนหลอน
“ เอาล่ะครับ ไปแก้ไขปัญหาซิปติดกัน ”
แน่นอนว่าสาวขิมไม่ตอบคำใด เธอยังคงตีหน้านิ่งราวกับสากกะเบือที่ไร้ชีวิตและจิตใจ
…………………
สองหนุ่มสาวเข้าสู่ห้องลองเสื้อผ้าที่แสนคับแคบ มันแคบซะจนได้กลิ่นกายของกันและกัน ถ้าเป็นสาวอื่น บุญกอบจะดีใจเอามากๆ เพราะถ้ามีการจัดอันดับชายหน้าหม้อแห่งชาติ เขาต้องติดท็อปเท็นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กับสาวจืดนางนี้ มันเป็นอะไรที่ชวนอึดอัดจนเขาอดคิดไม่ได้ว่า…..
“ เมื่อไหร่จะเสร็จซักทีนะ ”
สาวจืดชำเลืองมองต่ำไปที่ซิปกางเกงด้วยสีหน้าที่ดูไร้อารมณ์ ครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยออกมาเรียบๆว่า….
“ ขอดิชั้นดูอาการหน่อย ”
สิ้นคำของสาวขิม สาวจืดสนิทก็ก้มกายลงไปคุกเข่าต่อหน้าบุญกอบ ทำให้ใบหน้าและดวงตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับซิปกางเกง ท่วงท่าดังกล่าวทำให้หนุ่มภูธรร่างล่ำนึกสยองโดยพลัน
“ เหวอ…..นางจะกัดของกูขาดคาปากหรือเปล่าวะเนี่ย เจ้าหล่อนยิ่งดูน่ากลัวอยู่ ”
ระหว่างที่บุญกอบนึกหลอนอยู่นั้นเอง สาวขิมก็จ้องมองซิปกางเกงเจ้าปัญหาอยู่นิ่งๆด้วยสีหน้าเรียบเฉยที่คล้ายหุ่นกระบอก เธอพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงพูดขึ้นมาลอยๆด้วยน้ำเสียงโทนเดียวว่า….
“ ซิปหลุดจากร่องและขาดเล็กน้อย ต้องขยับให้เข้าที่และใช้เข็มเย็บ ”
“ หาๆ…..ต้องขยับเป้ากางเกง แถมยังใช้เข็มเย็บอีก ถ้าพลาดขึ้นมา น้องชายของผมจะไม่เจ็บตัวหรือครับ มีวิธีอื่นอีกมั้ย ” บุญกอบโวยดัง เพราะกลัวว่าอันเดียวตัวเดียวของตนเองจะบาดเจ็บ ซึ่งสาวจืดสนิทก็โต้ตอบด้วยการเงยหน้าขึ้นสบตาและตอบกลับด้วยเสียงเยือกเย็นแบบผีดิบ
“ ไม่มี ”
หลังสาวจืดตอบจบ เธอก็ก้มหน้าลงไปมองซิปกางเกงที่ติดขัดอีกครั้ง เธอมองอยู่ซักสองสามวินาที เธอก็เอื้อมมือบางที่ขาวซีดไปขยับเนื้อผ้าตรงบริเวณเป้ากางเกง
“ อู้วๆ……”
บุญกอบอ้าปากครางดัง ด้วยมือน้อยๆของสาวจืดได้กระทบเข้ากับมังกรอ้วนล่ำที่หลับใหลอยู่ภายในแบบเต็มมือ อาการประหลาดดังกล่าว ทำเอาสาวจืดเงยหน้าขึ้นถามหนุ่มภูธรเรียบๆอีกครั้งว่า….
“ เป็นอะไรหรือคะ ”
บุญกอบไม่รู้ว่าจะตอบกับสาวจืดนางนี้ยังไงดี เขาทำได้แค่แอบคิดอยู่ภายใน
“ น้องจืดผีดิบคนนี้ เขาไม่เคยมีผัว พี่ชาย น้องชายรึไงกันนะ ถึงไม่รู้ว่าชายทุกคนมีจุดต้องห้ามที่ไม่ควรให้ใครแตะต้อง ”
เหมือนสาวจืดจะไม่ได้ต้องการคำตอบอะไรมากมาย พอความเงียบปกคลุมสถานการณ์อยู่ได้อึดใจ เธอก็เริ่มลงมือขยับเป้าต่อ แน่นอนว่าการขยับเขยื้อนในรอบนี้ ดูจะหนักขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัวจนทำให้บุญกอบรู้สึกเสียวสยิวอย่างรุนแรง
“ อู้วๆ……นอกจากเจ้าหล่อนจะไม่หยุด ยังบรรเลงหนักกว่าเดิมอีก ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ สงสัยต้องออกปากด่ากันหน่อยแล้วล่ะมั้ง ” บุญกอบเริ่มมีน้ำโห และในจังหวะที่เขาจะก้มหน้าลงไปด่า เขาก็พบกับบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องสงบปากสงบคำในทันที
สิ่งนั้นก็คือ…..โนตมๆของสาวจืดที่ซ่อนตัวตนอยู่ในปกเสื้อกี่เพ้า ปกเสื้อตัวนั้นค่อนข้างที่จะเว้า กว้างและลึก เลยเปิดพื้นที่ให้เนินเนื้อซึ่งใหญ่เกินตัวได้โชว์สัดส่วนอย่างเต็มที่ ที่สำคัญมันยังเข้ารูปทรง แถมยังขาวผ่องจนชวนมองอยู่ไม่ใช่น้อย
“ โอ้วๆ….นะ…นี่มันสวยสัตว์ๆ มันดูเต่งตึงและขาวสวยเสียเหลือเกิน แบบนี้ มันซ่อนรูปกันชัดๆ ” บุญกอบพึมพำเบาๆในลำคอ ดวงตาก็จับจ้องมองเป้าหมายต่อไปด้วยอาการตื่นตะลึง
สาวขิมยังไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกลอบมองหนองโพที่อวบใหญ่ เธอยังคงตั้งอกตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาซิปติดอย่างขะมักเขม้น ความตั้งใจของเธอทำให้มือบางกระทบถูกมังกรอวบอ้วนที่กำลังจะคึกคักอยู่ภายในเป้ากางเกงเป็นระยะ
แม้สาวขิมจะเป็นอย่างที่เห็น แต่สุดท้ายเธอก็ยังเป็นมนุษย์ปุถุชนที่พอจะหลงเหลืออารมณ์และความรู้สึกอยู่บ้าง เธอเลยรับรู้ว่าอะไรซักอย่างตรงบริเวณเป้า เริ่มจะอุ่นร้อนและกระตุกน้อยๆ และถ้าไม่หลอนไปเอง เธอก็คิดว่ามันกำลังจะขยายตัวใหญ่ขึ้นทีละนิด การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้เธอนึกประหลาดใจ
“ อะไรที่มันเต้นตุ้บ ตุ้บ อยู่ในเป้ากางเกงของชายคนนี้กันนะ ”
ไม่ว่าสาวขิมจะคิดหรือรู้สึกยังไง แต่บุญกอบกลับไม่สนใจที่จะรับรู้ เพราะสายตาชั่วๆของเขาโฟกัสอยู่เพียงสิ่งเดียว นั่นคือ….หนองโพคู่งามของสาวขิม
เนินเนื้ออวบใหญ่คู่นั้นสะบัดไปมาในปกเสื้อกี่เพ้าตามจังหวะการขยับกายของสาวขิม ด้วยความเว้าและกว้างของปกเสื้อ ทำให้ชั้นในลายลูกไม้สีดำแพลมออกมาประจักษ์ต่อสายตาของหนุ่มภูธรอยู่เป็นระยะ
“ ว้าวๆ……ทำไมถึงเอ็กส์แตกขนาดนี้ น้องคนนี้มีดีกว่าที่คิดซะแล้ว ”
ดวงตาของบุญกอบเริ่มเปล่งประกายหฤหื่นออกมา และยิ่งนานไปความรุนแรงของอาการยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณจนเขาเริ่มหอบหายใจแรง
“ แฮ่กๆ…..”
เสียงประหลาดดังกล่าวทำให้สาวขิมนึกประหลาดใจจนเงยหน้าขึ้นมองบุญกอบอีกครั้ง ปากก็กล่าวถามเรียบๆว่า…..
“ คุณเป็นอะไรไป ทำไมหอบหายใจแบบนั้น ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
นายโมทย์หุบยิ้มในทันที เพราะเขาอ่านสีหน้าของเพื่อนรักได้ว่าสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ น่าจะเข้าขั้น….วิกฤตจริงๆ เขาจึงตอบกลับไปว่า…..
“ เออ…เดี๋ยวข้าไปช่วยนะ แพลบนึง ”
สิ้นคำกล่าว ร.ป.ภ.ผิวหมึกก็ก้าวไปหาบุญกอบที่รออยู่หน้าห้องลองเสื้อผ้า ไม่นานนักเขาก็ไปถึงจุดหมาย เพราะเขาเป็นชายร่างสูงผู้มีก้าวที่ยาวเอามากๆ
“ เอ้า เป็นอะไร รีบบอกมา ” นายโมทย์เร่งเร้า พร้อมจ้องหน้าเพื่อนรักด้วยอาการคาดคั้น
บุญกอบไม่ตอบคำในทันที เขากระมิดกระเมี้ยนอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่จะตัดสินใจ…..ชี้นิ้วไปที่ซิปกางเกง
“ เออ….กูจะบอกมึงว่า…ซิปกางเกงกูติด กูถอดกางเกงออกมาไม่ได้ ”
“ อ้าว…..เหี้ยแล้วดิ ห่าเอย ทีนี้จะทำยังไงกันดี ” ร.ป.ภ.ผิวหมึกโวยดัง ดวงตาเหลือกลานอย่างรุนแรงราวเห็นผีบุกเข้ามาหาทั้งป่าช้าก็ไม่ปาน
บุญกอบไม่ตอบ เขาได้แต่ยืนนิ่งเงียบ สีหน้าของเขาเจื่อนลงถนัดตาจนเกือบจะเข้าขั้นจ๋อยกันเลยทีเดียว
สองหนุ่มพยายามระดมมันสมองขบคิดหาทางออกกันอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายก็เป็นฝ่ายนายโมทย์ที่คิดได้ก่อน
“ เออ….กูรู้แล้วว่าจะให้ใครมาช่วยมึง ”
“ เอ๊ะ! ใครๆ…..มึงรีบบอกมาเลย ” บุญกอบเร่งเร้า เพราะเขาเองก็อยากจะหนีไปให้พ้นจากสภาวะกระอักกระอ่วนนี้เต็มทีแล้ว
นายโมทย์สบตาบุญกอบนิ่งๆอยู่อึดใจ ก่อนตอบกลับมาแบบเรียบๆว่า…..
“ น้องขิม ”
…………………
บุญกอบตกใจเป็นอันมากที่เพื่อนรักของเขาเสนอให้น้องขิมเป็นคนช่วยแก้ไขปัญหา เพราะบุญกอบไม่รู้ว่าสาวน้อยผู้จืดสนิทนางนี้เป็นคนเช่นไร เธอปกติดีมั้ย แต่ไม่ว่าหนุ่มภูธรจะกลัวอย่างไร เขาก็ไม่มีทางเลือก ด้วยเขาและเพื่อนซี้ผิวหมึกล้วนไม่มีสกิลในการแก้ไขอาการซิปติดเลยซักคน
บุญกอบยืนเกร็งอยู่หน้าห้องลองเสื้อผ้า โดยปล่อยให้เพื่อนซี้ผิวหมึกเป็นคนไปเจรจาความกับสาวขิมที่ยืนหน้านิ่งเป็นผีตายซาก ไม่นานสาวน้อยผู้จืดสนิทก็พยักหน้ารับคำและก้าวเข้ามาหาบุญกอบอย่างช้าๆ
เมื่อบุญกอบเผชิญหน้ากับสาวขิมในระยะประชิด คราวนี้เขาก็เป็นอันต้องก้มหน้า หลบตาไปซะเอง มันเป็นอะไรที่แปลกมาก เพราะแต่ก่อนเขามักจะชอบเหล่มองสาวๆอยู่ตลอดเวลา แถมบางครั้งยังจ้องมองสาวแบบไม่วางตาจนดูน่าเกลียดเสียด้วยซ้ำ มันเหมือนกับว่าสาวจืดสนิทนางนี้มีภูมิคุ้มกันที่ทำให้อาการหน้าหม้อของเหล่าชายพายเรือต้องสูญสลายไปจนสิ้น
สาวขิมยืนมองบุญกอบนิ่งๆอยู่อึดใจ เธอก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นๆโทนเดียวของเธอว่า…..
“ เข้าไปในห้องลองเสื้อผ้ากัน ดิชั้นจะแก้ไขให้คุณเอง ”
“ เอ๊ะ!....เข้าไปแก้ในห้อง เออ…..เอาเพื่อนผมเข้าไปด้วยได้มั้ย พอดีผมเป็นคนติดเพื่อนน่ะ ” บุญกอบตอบละล่ำละลัก พลางเเอบส่งสายตาเว้าวอนไปให้เพื่อนซี้ผิวหมึกที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ เฮ้อๆ……งานนี้คงไม่ได้แล้วล่ะว่ะ เพราะห้องลองเสื้อ มันเล็กนิดเดียวเอง แค่มึงกับน้องเข้าไปสองคน มันก็เต็มแล้ว รีบกลั้นใจเข้าไปเถอะ จะได้เสร็จเรื่องและไปทำงานกันซักที ” นายโมทย์ถอนหายใจแรง พร้อมตอบเพื่อนซี้กลับด้วยสายตา ประมาณว่า……ทนๆไปเถอะ เพื่อนเอย คราวนี้มันไฟท์บังคับแล้ว
บุญกอบออกอาการจ๋อย เขารวบรวมกำลังใจอยู่นาน ก่อนหันกลับไปพูดกับสาวน้อยที่ชวนหลอน
“ เอาล่ะครับ ไปแก้ไขปัญหาซิปติดกัน ”
แน่นอนว่าสาวขิมไม่ตอบคำใด เธอยังคงตีหน้านิ่งราวกับสากกะเบือที่ไร้ชีวิตและจิตใจ
…………………
สองหนุ่มสาวเข้าสู่ห้องลองเสื้อผ้าที่แสนคับแคบ มันแคบซะจนได้กลิ่นกายของกันและกัน ถ้าเป็นสาวอื่น บุญกอบจะดีใจเอามากๆ เพราะถ้ามีการจัดอันดับชายหน้าหม้อแห่งชาติ เขาต้องติดท็อปเท็นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กับสาวจืดนางนี้ มันเป็นอะไรที่ชวนอึดอัดจนเขาอดคิดไม่ได้ว่า…..
“ เมื่อไหร่จะเสร็จซักทีนะ ”
สาวจืดชำเลืองมองต่ำไปที่ซิปกางเกงด้วยสีหน้าที่ดูไร้อารมณ์ ครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยออกมาเรียบๆว่า….
“ ขอดิชั้นดูอาการหน่อย ”
สิ้นคำของสาวขิม สาวจืดสนิทก็ก้มกายลงไปคุกเข่าต่อหน้าบุญกอบ ทำให้ใบหน้าและดวงตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับซิปกางเกง ท่วงท่าดังกล่าวทำให้หนุ่มภูธรร่างล่ำนึกสยองโดยพลัน
“ เหวอ…..นางจะกัดของกูขาดคาปากหรือเปล่าวะเนี่ย เจ้าหล่อนยิ่งดูน่ากลัวอยู่ ”
ระหว่างที่บุญกอบนึกหลอนอยู่นั้นเอง สาวขิมก็จ้องมองซิปกางเกงเจ้าปัญหาอยู่นิ่งๆด้วยสีหน้าเรียบเฉยที่คล้ายหุ่นกระบอก เธอพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงพูดขึ้นมาลอยๆด้วยน้ำเสียงโทนเดียวว่า….
“ ซิปหลุดจากร่องและขาดเล็กน้อย ต้องขยับให้เข้าที่และใช้เข็มเย็บ ”
“ หาๆ…..ต้องขยับเป้ากางเกง แถมยังใช้เข็มเย็บอีก ถ้าพลาดขึ้นมา น้องชายของผมจะไม่เจ็บตัวหรือครับ มีวิธีอื่นอีกมั้ย ” บุญกอบโวยดัง เพราะกลัวว่าอันเดียวตัวเดียวของตนเองจะบาดเจ็บ ซึ่งสาวจืดสนิทก็โต้ตอบด้วยการเงยหน้าขึ้นสบตาและตอบกลับด้วยเสียงเยือกเย็นแบบผีดิบ
“ ไม่มี ”
หลังสาวจืดตอบจบ เธอก็ก้มหน้าลงไปมองซิปกางเกงที่ติดขัดอีกครั้ง เธอมองอยู่ซักสองสามวินาที เธอก็เอื้อมมือบางที่ขาวซีดไปขยับเนื้อผ้าตรงบริเวณเป้ากางเกง
“ อู้วๆ……”
บุญกอบอ้าปากครางดัง ด้วยมือน้อยๆของสาวจืดได้กระทบเข้ากับมังกรอ้วนล่ำที่หลับใหลอยู่ภายในแบบเต็มมือ อาการประหลาดดังกล่าว ทำเอาสาวจืดเงยหน้าขึ้นถามหนุ่มภูธรเรียบๆอีกครั้งว่า….
“ เป็นอะไรหรือคะ ”
บุญกอบไม่รู้ว่าจะตอบกับสาวจืดนางนี้ยังไงดี เขาทำได้แค่แอบคิดอยู่ภายใน
“ น้องจืดผีดิบคนนี้ เขาไม่เคยมีผัว พี่ชาย น้องชายรึไงกันนะ ถึงไม่รู้ว่าชายทุกคนมีจุดต้องห้ามที่ไม่ควรให้ใครแตะต้อง ”
เหมือนสาวจืดจะไม่ได้ต้องการคำตอบอะไรมากมาย พอความเงียบปกคลุมสถานการณ์อยู่ได้อึดใจ เธอก็เริ่มลงมือขยับเป้าต่อ แน่นอนว่าการขยับเขยื้อนในรอบนี้ ดูจะหนักขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัวจนทำให้บุญกอบรู้สึกเสียวสยิวอย่างรุนแรง
“ อู้วๆ……นอกจากเจ้าหล่อนจะไม่หยุด ยังบรรเลงหนักกว่าเดิมอีก ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ สงสัยต้องออกปากด่ากันหน่อยแล้วล่ะมั้ง ” บุญกอบเริ่มมีน้ำโห และในจังหวะที่เขาจะก้มหน้าลงไปด่า เขาก็พบกับบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องสงบปากสงบคำในทันที
สิ่งนั้นก็คือ…..โนตมๆของสาวจืดที่ซ่อนตัวตนอยู่ในปกเสื้อกี่เพ้า ปกเสื้อตัวนั้นค่อนข้างที่จะเว้า กว้างและลึก เลยเปิดพื้นที่ให้เนินเนื้อซึ่งใหญ่เกินตัวได้โชว์สัดส่วนอย่างเต็มที่ ที่สำคัญมันยังเข้ารูปทรง แถมยังขาวผ่องจนชวนมองอยู่ไม่ใช่น้อย
“ โอ้วๆ….นะ…นี่มันสวยสัตว์ๆ มันดูเต่งตึงและขาวสวยเสียเหลือเกิน แบบนี้ มันซ่อนรูปกันชัดๆ ” บุญกอบพึมพำเบาๆในลำคอ ดวงตาก็จับจ้องมองเป้าหมายต่อไปด้วยอาการตื่นตะลึง
สาวขิมยังไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกลอบมองหนองโพที่อวบใหญ่ เธอยังคงตั้งอกตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาซิปติดอย่างขะมักเขม้น ความตั้งใจของเธอทำให้มือบางกระทบถูกมังกรอวบอ้วนที่กำลังจะคึกคักอยู่ภายในเป้ากางเกงเป็นระยะ
แม้สาวขิมจะเป็นอย่างที่เห็น แต่สุดท้ายเธอก็ยังเป็นมนุษย์ปุถุชนที่พอจะหลงเหลืออารมณ์และความรู้สึกอยู่บ้าง เธอเลยรับรู้ว่าอะไรซักอย่างตรงบริเวณเป้า เริ่มจะอุ่นร้อนและกระตุกน้อยๆ และถ้าไม่หลอนไปเอง เธอก็คิดว่ามันกำลังจะขยายตัวใหญ่ขึ้นทีละนิด การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้เธอนึกประหลาดใจ
“ อะไรที่มันเต้นตุ้บ ตุ้บ อยู่ในเป้ากางเกงของชายคนนี้กันนะ ”
ไม่ว่าสาวขิมจะคิดหรือรู้สึกยังไง แต่บุญกอบกลับไม่สนใจที่จะรับรู้ เพราะสายตาชั่วๆของเขาโฟกัสอยู่เพียงสิ่งเดียว นั่นคือ….หนองโพคู่งามของสาวขิม
เนินเนื้ออวบใหญ่คู่นั้นสะบัดไปมาในปกเสื้อกี่เพ้าตามจังหวะการขยับกายของสาวขิม ด้วยความเว้าและกว้างของปกเสื้อ ทำให้ชั้นในลายลูกไม้สีดำแพลมออกมาประจักษ์ต่อสายตาของหนุ่มภูธรอยู่เป็นระยะ
“ ว้าวๆ……ทำไมถึงเอ็กส์แตกขนาดนี้ น้องคนนี้มีดีกว่าที่คิดซะแล้ว ”
ดวงตาของบุญกอบเริ่มเปล่งประกายหฤหื่นออกมา และยิ่งนานไปความรุนแรงของอาการยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณจนเขาเริ่มหอบหายใจแรง
“ แฮ่กๆ…..”
เสียงประหลาดดังกล่าวทำให้สาวขิมนึกประหลาดใจจนเงยหน้าขึ้นมองบุญกอบอีกครั้ง ปากก็กล่าวถามเรียบๆว่า…..
“ คุณเป็นอะไรไป ทำไมหอบหายใจแบบนั้น ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ