司文妙ยอดหญิงเเห่งเเผ่นดิน
-
เขียนโดย ตำหนักบุปผา
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.07 น.
6 ตอน
1 วิจารณ์
7,769 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561 17.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) 二
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความจนเเล้วจนรอดในอาหารสำรับมือเย็นนี้ ซือเหวินเมี่ยวก็ได้ทานพะโล้ตามประสงค์ของนาง นางใช้เวลาลิ้มรสทานพะโล้ไปเกือบชั่วยามครึ่งกว่าจะทานเสร็จ
คุณหนูใหญ่นึกถึงคำกล่าวของซือเหยียนเม่ยมารดานาง เเล้วจึงถอนหายใจก่อนทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมหยิบตำราที่หยิบติดมือมาจากห้องตำราขึ้นมาอ่าน
เหวินเถียนขมวดคิ้วให้กับท่าทีของพี่สาวเเล้วรีบเดินไปนั่งหาเรื่องสนทนาด้วย "เมื่อไหร่ท่านพ่อจะกลับมากันนะพี่ใหญ่"
"มิทราบ"คุณหนูใหญ่หันมามองน้องสาวที่มาเนียนสนทนาด้วย "อยู่ด้วยกันตรงนี้จะทราบหรือไม่"
"นั่นสินะพี่ใหญ่"คุณหนูรองพยักหน้าเห็นพ้องด้วย "เเต่ก็น่าเเปลกดีนาท่านพี่ ท่านพ่อเป็นพ่อค้าเครื่องไม้ ขายอยู่ในเเถบซินเจียงก็ได้ เหตุใดต้องไปมองโกลเป็นประจำ"
"เเล้วเหตุใดท่านพ่อจะไปขายของที่มองโกลมิได้"ซือเหวินเมี่ยวขมวดคิ้วขยาดตา "ไร้สาระสิ้นดี"
"เเต่สตรีนามเหวินเถียนหน้าตางามๆที่พี่บอกว่าไร้สาระนั่นก็น้องสาวพี่นะ"เหวินเถียนกระพริบตาปริบๆมิเเยเเสคำกล่าวอันใด
"กล่าวอันใดมากมาย เหงาปากนักก็ไปหาหมั่นโถวมายัดเเล้วหุบปากไป"ซือเหวินเมี่ยวกล่าวด้วยความรำคาญอกรำคาญใจ
"พี่สาวนี่มิสร้างสรรค์เลย วันๆเอาเเต่อยู่กับตำรา ระวังชาตินี้ได้สมรสกับตำรานะพี่ใหญ่"
"ก็ดีกว่าบุรุษที่ต้องมาสมรสกับเจ้าเเล้วกัน"
เสียงเปิดเลื่อนบานประตูค่อยๆดังขึ้นเเล้วจึงมีบุรุษวัยกลางคนเดินเข้ามา
"สนทนาอันใดกันหรือเเม่นางทั้งสอง"เค่อเอ้อร์ซื่อกั๋วเว่ยกล่าวพร้อมสีหน้าเปื้อนยิ้ม "เห็นสนทนากันสนุกสนาน นินทาอันใดพ่อหรือไม่เนี่ย"
"หากคิดจะนินทาท่านพ่อ มิสู้ซือเหวินเมี่ยวนินทาท่านเเม่มิดีกว่าหรือเจ้าคะ เอาระยะเผาขนเเบบนี้น่าสนุกดีมิน้อย" ซือเหวินเมี่ยวหันหน้าไปหาบิดาด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งเครียดก่อนเอียงคอยิ้มกระเส้าเหย้าเเหย่ "เหย้าเล่นเจ้าค่ะเหย้าเล่น"
กั๋วเว่ยหัวเราะเฝื่อนๆก่อนกล่าว "นี่ก็ใกล้จะตกดึกเเล้ว เหนียงจึ*พาเหวินเถียนไปเก็บของที หยุนเยว่กับเมิ่งเหยาก็ด้วย...ไปช่วยกันเก็บของขึ้นรถม้า" เขาเดินไปนั่งข้างๆบุตรีคนโต
"บ่าวเข้าใจเเล้ว"หยุนเยว่ย่อกายส่วนเมิ่งเหยาโน้มร่างเข้าใจรับทราบพร้อมปฏิบัติในสิ่งที่ได้รับมอบหมายเเล้วจึงพากันเดินออกจากห้องไป
"เก็บของหรือ"เหวินเถียนขมวดคิ้วมิเข้าใจ "เราจะไปที่ใดกันหรือท่านพ่อ"
"เซี่ยงกงท่าน...ท่านคิดดีเเน่เเล้วหรือเจ้าคะ"เหยียนเม่ยกล่าวย้ำเชิงให้สามีลองไตร่ตรองอีกครา
"อืม"นายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อพยักหน้า "คิดดีเเล้ว มั่นใจเเล้ว"
"เช่นนั้นน้องก็มิขัดอันใดในความคิดตัดสินใจของท่านพี่เจ้าค่ะ"ฮูหยินถอนหายใจพร้อมพยักหน้ายินดีทำตามที่สามีคิดจะกระทำ "มาเถียนเอ๋อ...มาช่วยเเม่เก็บของ"
"พวกท่านยังมิตอบข้าเลยว่าจะไปที่ใดกัน!"คุณหนูรองลุกขึ้นดีดดิ้น
"ไปในที่ที่ลูกได้ร่ายรำตามอัธยาศัยของเจ้าได้อิสระ"นายท่านของจวนกล่าวตอบบุตรี
"อยู่ที่ซินเจียงข้าก็ร่ายรำตามอัธยาศัยจนโดนพี่ใหญ่หาว่าเป็นผีบ้าเเล้วนะท่านพ่อ"
"ยากที่จะกล่าวกับเจ้าต่อจริงๆ"กั๋วเว่ยเริ่มยอมเเพ้ในความร่ายรำจนโดนพี่สาวหาว่าเป็นผีบ้าของบุตรีคนรอง
"ท่านพ่อบอกให้เจ้าทำอันใดก็ทำไป มีคำถามอันใดนักหนากัน"ซือเหวินเมี่ยวปิดปกตำราก่อนมองหน้าน้องสาวด้วยเเววตารำคาญ
"พี่ใหญ่เกรี้ยวกราด!"เหวินเถียนพองลมในเเก้มเเล้วเดินไปหามารดาของนางที่ยืนอยู่ "ไปกันเถิดท่านเเม่ ปล่อยให้ท่านผู้ทรงภูมิความรู้สนทนากันไป" นางหันหน้าไปเเลบลิ้นใส่พี่สาวที่นั่งอยู่ก่อนเดินออกไป
"พวกเจ้านี่มิได้ต่างอันใดกันเลยจริงๆ"เหยียนเม่ยส่ายหน้าเอือมระอากับบุตรีทั้งสองของนางพร้อมเดินตามบุตรคนเล็กไป
"ท่านพ่อมีอันใดกับข้าหรือ"ซือเหวินเมี่ยวเลิกคิ้ว
"เจ้าอยากเป็นขุนนางถูกหรือไม่"
"ถูกเเล้วท่านพ่อ!"คุณหนูใหญ่กล่าวอย่างตื่นเต้น นางรีบลงไปนั่งกับพื้นเพื่อกอดเเข้งเกาะขาเตรียมอ้อนบิดา เเต่คิดไปไตร่ตรองมาก็คงมิเเคล้วโดนขัดอีก "ท่านถามเช่นนี้คงจะมิเห็นด้วย"
"ผิดเเล้ว"กั๋วเว่ยส่ายศรีษะ "ในเมื่อลูกมีความฝันเช่นนี้ เเม้จะดูเป็นสิ่งที่เป็นไปมิได้เเต่พ่อก็เชื่อในตัวลูก พ่อจะพาครอบครัวเราไปอยู่ในที่ที่ใกล้ความฝันของเจ้า"
"จริงหรือท่านพ่อ!"ซือเหวินเมี่ยวตาลุกวาวรีบกระโจนเข้าโผกอดบิดาด้วยความดีใจจนตื้นตัน "ท่านพ่อกล่าวจริงๆมิได้เหย้าเเบบที่ข้าเหย้าท่านจริงๆถูกหรือไม่" นางกล่าวเสียงสั่น
"ถูกเเล้ว พ่อมิได้เหย้าเล่น"
"ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลย ข้ารักท่านจริงๆ"เเม้เค่อเอ้อร์ซื่อซือเหวินเมี่ยวจะมิเข้าใจว่าเหตุใดถึงกระทันหันเช่นนี้ เเต่นางก็ดีใจที่จะได้ไปตามทางความฝันของนาง
ยามเวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว จากกลางยามอุ้ยไปสู่กลางยามไฮ่
ข้าวของถูกโยกย้ายขึ้นไปบนรถม้าเกือบจะหมดจวนเเต่ก็ยังมิหมด
"เราจะได้กลับมาที่จวนนี้อีกหรือไม่ท่านพ่อ"เหวินเถียนในอาภรณ์ใหม่กล่าวพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้าดวงตา
"เราจะได้กลับมาหากสวรรค์ต้องการ"กั๋วเว่ยกล่าวก่อนลูบศรีษะบุตรีคนเล็กเบาๆ ถึงจะกล่าวออกไปเช่นนั้น เเต่ในความจริงคือหากกลับมาก็จะถูกเเปรสภาพทันที...มิเชลยก็ศพ
"ไปกันได้เเล้ว"คุณหนูใหญ่เร่งเร้าด้วยความตื่นเต้น ทุกอย่างของชีวิตนางกำลังจะเป็นจริงเสียที
นายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อจูงมือบุตรีคนรองที่ยังอาลัยอาวรณ์จวนหลังเก่าหลังนี้ขึ้นรถม้า ถึงมิอยากทำก็ต้องทำ ในเมื่อทุกผิดพลาดไปเเล้วก็ต้องหนี ถึงเเม้จะเสียศักดิ์ศรีก็ดีกว่าเผชิญหน้าเเล้วตายกันยกครัว
เมิ่งเหยาที่เห็นว่าเจ้านายทุกชีวิตขึ้นรถม้าเรียบร้อย เขาจึงรีบไปดันไหล่หยุนเยว่ที่ยืนมองประตูจวนด้วยความเศร้าสร้อย "เจ้าอยากเหม่อลอยก็ไปเหม่อในรถม้าเอาเสียสิ มายืนตาลอยเหมือนสูบยาเกินขนาดเช่นนี้จะได้อันใดขึ้นมา"
"เข้าใจเเล้วๆ"หยุนเยว่หันไปทำหน้ายักษ์ใส่สหายคนใช้ด้วยกันก่อนปีนขึ้นรถม้าไป
"ข้าหวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันจนไปถึงเสียนหยางนะเยว่เอ๋อ"เมิ่งเหยาหัวเราะเฝื่อนเเล้วจึงขึ้นบังคับคุมทิศบนหลังอาชา
ล้อไม้ของรถม้าค่อยๆหมุนเป็นวงกลมช้าๆก่อนหมุนระรัวรวดเร็วเคลื่อนตัวออกจากจวนสกุลเค่อเอ้อร์ซื่อที่กำลังจะปิดตาย
รถม้าของนายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อเดินทางออกจากเขตุตะเข็บชายเเดนเมืองใหญ่ของซินเจียงด้วยความเร็วระยะทางผ้าเเพรสามสิบฉื่อต่อสองเค่อ การเดินทางจากเขตุซินเจียงไปเสียนหยางดูง่ายดายเสียเหลือเกิน เเต่ทว่าเมื่อคบเพลิงอาคารบ้านเรือนทยอยจุดขึ้นทีละดวงสองดวง ซึ่งก็หมายความว่า...
"นายท่านขอรับ! นายท่าน!"เมิ่งเหยาตะโกนเสียงดังเรียกเจ้านายที่อยู่ด้านใน "พวกมองโกลไหวตัวเเล้วขอรับ!"
_
*เหนียงจึ =คำที่สามีใช้เรียกภรรยา
คุณหนูใหญ่นึกถึงคำกล่าวของซือเหยียนเม่ยมารดานาง เเล้วจึงถอนหายใจก่อนทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมหยิบตำราที่หยิบติดมือมาจากห้องตำราขึ้นมาอ่าน
เหวินเถียนขมวดคิ้วให้กับท่าทีของพี่สาวเเล้วรีบเดินไปนั่งหาเรื่องสนทนาด้วย "เมื่อไหร่ท่านพ่อจะกลับมากันนะพี่ใหญ่"
"มิทราบ"คุณหนูใหญ่หันมามองน้องสาวที่มาเนียนสนทนาด้วย "อยู่ด้วยกันตรงนี้จะทราบหรือไม่"
"นั่นสินะพี่ใหญ่"คุณหนูรองพยักหน้าเห็นพ้องด้วย "เเต่ก็น่าเเปลกดีนาท่านพี่ ท่านพ่อเป็นพ่อค้าเครื่องไม้ ขายอยู่ในเเถบซินเจียงก็ได้ เหตุใดต้องไปมองโกลเป็นประจำ"
"เเล้วเหตุใดท่านพ่อจะไปขายของที่มองโกลมิได้"ซือเหวินเมี่ยวขมวดคิ้วขยาดตา "ไร้สาระสิ้นดี"
"เเต่สตรีนามเหวินเถียนหน้าตางามๆที่พี่บอกว่าไร้สาระนั่นก็น้องสาวพี่นะ"เหวินเถียนกระพริบตาปริบๆมิเเยเเสคำกล่าวอันใด
"กล่าวอันใดมากมาย เหงาปากนักก็ไปหาหมั่นโถวมายัดเเล้วหุบปากไป"ซือเหวินเมี่ยวกล่าวด้วยความรำคาญอกรำคาญใจ
"พี่สาวนี่มิสร้างสรรค์เลย วันๆเอาเเต่อยู่กับตำรา ระวังชาตินี้ได้สมรสกับตำรานะพี่ใหญ่"
"ก็ดีกว่าบุรุษที่ต้องมาสมรสกับเจ้าเเล้วกัน"
เสียงเปิดเลื่อนบานประตูค่อยๆดังขึ้นเเล้วจึงมีบุรุษวัยกลางคนเดินเข้ามา
"สนทนาอันใดกันหรือเเม่นางทั้งสอง"เค่อเอ้อร์ซื่อกั๋วเว่ยกล่าวพร้อมสีหน้าเปื้อนยิ้ม "เห็นสนทนากันสนุกสนาน นินทาอันใดพ่อหรือไม่เนี่ย"
"หากคิดจะนินทาท่านพ่อ มิสู้ซือเหวินเมี่ยวนินทาท่านเเม่มิดีกว่าหรือเจ้าคะ เอาระยะเผาขนเเบบนี้น่าสนุกดีมิน้อย" ซือเหวินเมี่ยวหันหน้าไปหาบิดาด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งเครียดก่อนเอียงคอยิ้มกระเส้าเหย้าเเหย่ "เหย้าเล่นเจ้าค่ะเหย้าเล่น"
กั๋วเว่ยหัวเราะเฝื่อนๆก่อนกล่าว "นี่ก็ใกล้จะตกดึกเเล้ว เหนียงจึ*พาเหวินเถียนไปเก็บของที หยุนเยว่กับเมิ่งเหยาก็ด้วย...ไปช่วยกันเก็บของขึ้นรถม้า" เขาเดินไปนั่งข้างๆบุตรีคนโต
"บ่าวเข้าใจเเล้ว"หยุนเยว่ย่อกายส่วนเมิ่งเหยาโน้มร่างเข้าใจรับทราบพร้อมปฏิบัติในสิ่งที่ได้รับมอบหมายเเล้วจึงพากันเดินออกจากห้องไป
"เก็บของหรือ"เหวินเถียนขมวดคิ้วมิเข้าใจ "เราจะไปที่ใดกันหรือท่านพ่อ"
"เซี่ยงกงท่าน...ท่านคิดดีเเน่เเล้วหรือเจ้าคะ"เหยียนเม่ยกล่าวย้ำเชิงให้สามีลองไตร่ตรองอีกครา
"อืม"นายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อพยักหน้า "คิดดีเเล้ว มั่นใจเเล้ว"
"เช่นนั้นน้องก็มิขัดอันใดในความคิดตัดสินใจของท่านพี่เจ้าค่ะ"ฮูหยินถอนหายใจพร้อมพยักหน้ายินดีทำตามที่สามีคิดจะกระทำ "มาเถียนเอ๋อ...มาช่วยเเม่เก็บของ"
"พวกท่านยังมิตอบข้าเลยว่าจะไปที่ใดกัน!"คุณหนูรองลุกขึ้นดีดดิ้น
"ไปในที่ที่ลูกได้ร่ายรำตามอัธยาศัยของเจ้าได้อิสระ"นายท่านของจวนกล่าวตอบบุตรี
"อยู่ที่ซินเจียงข้าก็ร่ายรำตามอัธยาศัยจนโดนพี่ใหญ่หาว่าเป็นผีบ้าเเล้วนะท่านพ่อ"
"ยากที่จะกล่าวกับเจ้าต่อจริงๆ"กั๋วเว่ยเริ่มยอมเเพ้ในความร่ายรำจนโดนพี่สาวหาว่าเป็นผีบ้าของบุตรีคนรอง
"ท่านพ่อบอกให้เจ้าทำอันใดก็ทำไป มีคำถามอันใดนักหนากัน"ซือเหวินเมี่ยวปิดปกตำราก่อนมองหน้าน้องสาวด้วยเเววตารำคาญ
"พี่ใหญ่เกรี้ยวกราด!"เหวินเถียนพองลมในเเก้มเเล้วเดินไปหามารดาของนางที่ยืนอยู่ "ไปกันเถิดท่านเเม่ ปล่อยให้ท่านผู้ทรงภูมิความรู้สนทนากันไป" นางหันหน้าไปเเลบลิ้นใส่พี่สาวที่นั่งอยู่ก่อนเดินออกไป
"พวกเจ้านี่มิได้ต่างอันใดกันเลยจริงๆ"เหยียนเม่ยส่ายหน้าเอือมระอากับบุตรีทั้งสองของนางพร้อมเดินตามบุตรคนเล็กไป
"ท่านพ่อมีอันใดกับข้าหรือ"ซือเหวินเมี่ยวเลิกคิ้ว
"เจ้าอยากเป็นขุนนางถูกหรือไม่"
"ถูกเเล้วท่านพ่อ!"คุณหนูใหญ่กล่าวอย่างตื่นเต้น นางรีบลงไปนั่งกับพื้นเพื่อกอดเเข้งเกาะขาเตรียมอ้อนบิดา เเต่คิดไปไตร่ตรองมาก็คงมิเเคล้วโดนขัดอีก "ท่านถามเช่นนี้คงจะมิเห็นด้วย"
"ผิดเเล้ว"กั๋วเว่ยส่ายศรีษะ "ในเมื่อลูกมีความฝันเช่นนี้ เเม้จะดูเป็นสิ่งที่เป็นไปมิได้เเต่พ่อก็เชื่อในตัวลูก พ่อจะพาครอบครัวเราไปอยู่ในที่ที่ใกล้ความฝันของเจ้า"
"จริงหรือท่านพ่อ!"ซือเหวินเมี่ยวตาลุกวาวรีบกระโจนเข้าโผกอดบิดาด้วยความดีใจจนตื้นตัน "ท่านพ่อกล่าวจริงๆมิได้เหย้าเเบบที่ข้าเหย้าท่านจริงๆถูกหรือไม่" นางกล่าวเสียงสั่น
"ถูกเเล้ว พ่อมิได้เหย้าเล่น"
"ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลย ข้ารักท่านจริงๆ"เเม้เค่อเอ้อร์ซื่อซือเหวินเมี่ยวจะมิเข้าใจว่าเหตุใดถึงกระทันหันเช่นนี้ เเต่นางก็ดีใจที่จะได้ไปตามทางความฝันของนาง
ยามเวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว จากกลางยามอุ้ยไปสู่กลางยามไฮ่
ข้าวของถูกโยกย้ายขึ้นไปบนรถม้าเกือบจะหมดจวนเเต่ก็ยังมิหมด
"เราจะได้กลับมาที่จวนนี้อีกหรือไม่ท่านพ่อ"เหวินเถียนในอาภรณ์ใหม่กล่าวพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้าดวงตา
"เราจะได้กลับมาหากสวรรค์ต้องการ"กั๋วเว่ยกล่าวก่อนลูบศรีษะบุตรีคนเล็กเบาๆ ถึงจะกล่าวออกไปเช่นนั้น เเต่ในความจริงคือหากกลับมาก็จะถูกเเปรสภาพทันที...มิเชลยก็ศพ
"ไปกันได้เเล้ว"คุณหนูใหญ่เร่งเร้าด้วยความตื่นเต้น ทุกอย่างของชีวิตนางกำลังจะเป็นจริงเสียที
นายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อจูงมือบุตรีคนรองที่ยังอาลัยอาวรณ์จวนหลังเก่าหลังนี้ขึ้นรถม้า ถึงมิอยากทำก็ต้องทำ ในเมื่อทุกผิดพลาดไปเเล้วก็ต้องหนี ถึงเเม้จะเสียศักดิ์ศรีก็ดีกว่าเผชิญหน้าเเล้วตายกันยกครัว
เมิ่งเหยาที่เห็นว่าเจ้านายทุกชีวิตขึ้นรถม้าเรียบร้อย เขาจึงรีบไปดันไหล่หยุนเยว่ที่ยืนมองประตูจวนด้วยความเศร้าสร้อย "เจ้าอยากเหม่อลอยก็ไปเหม่อในรถม้าเอาเสียสิ มายืนตาลอยเหมือนสูบยาเกินขนาดเช่นนี้จะได้อันใดขึ้นมา"
"เข้าใจเเล้วๆ"หยุนเยว่หันไปทำหน้ายักษ์ใส่สหายคนใช้ด้วยกันก่อนปีนขึ้นรถม้าไป
"ข้าหวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันจนไปถึงเสียนหยางนะเยว่เอ๋อ"เมิ่งเหยาหัวเราะเฝื่อนเเล้วจึงขึ้นบังคับคุมทิศบนหลังอาชา
ล้อไม้ของรถม้าค่อยๆหมุนเป็นวงกลมช้าๆก่อนหมุนระรัวรวดเร็วเคลื่อนตัวออกจากจวนสกุลเค่อเอ้อร์ซื่อที่กำลังจะปิดตาย
รถม้าของนายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อเดินทางออกจากเขตุตะเข็บชายเเดนเมืองใหญ่ของซินเจียงด้วยความเร็วระยะทางผ้าเเพรสามสิบฉื่อต่อสองเค่อ การเดินทางจากเขตุซินเจียงไปเสียนหยางดูง่ายดายเสียเหลือเกิน เเต่ทว่าเมื่อคบเพลิงอาคารบ้านเรือนทยอยจุดขึ้นทีละดวงสองดวง ซึ่งก็หมายความว่า...
"นายท่านขอรับ! นายท่าน!"เมิ่งเหยาตะโกนเสียงดังเรียกเจ้านายที่อยู่ด้านใน "พวกมองโกลไหวตัวเเล้วขอรับ!"
_
*เหนียงจึ =คำที่สามีใช้เรียกภรรยา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ