司文妙ยอดหญิงเเห่งเเผ่นดิน

-

เขียนโดย ตำหนักบุปผา

วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.07 น.

  6 ตอน
  1 วิจารณ์
  7,678 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561 17.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) 三

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
"เร่งตีฝีเท้าม้าให้เร็วไว!"กั๋วเว่ยออกคำสั่งเสียงดัง
 
"ขอรับ!"เมิ่งเหยารับคำเเล้วรีบควบให้ฝีเท้าม้าเร็วขึ้นมากกว่าเดิมจนสามารถพอตีห่างจากกองกำลังนำหน้าด้วยพลทหารคบเพลิงของมองโกลได้
 
 
ยามเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากหัวค่ำสู่ยามอาทิตย์กำลังฉายเเสงขึ้นส่องบอกต้อนรับวันใหม่
 
"ถึงที่ใดเเล้วเมิ่งเหยา"นายท่านเปิดม่านออกมองป่ายามรุ่งเช้าที่ยังสลัวอยู่
 
"ใกล้ออกเขตซินเจียงเเล้วขอรับ"
 
"ดีมาก"ผู้นำตระกูลเค่อเอ้อร์ซื่อพยักหน้ารับทราบก่อนเอ่ยชม "เราคงนำห่างเเล้ว...พวกมองโกลคงตามมิทัน"
 
"เช่นนั้นก็หยุดพักม้าพักเอาเเรงเสียก่อนเถิด"ท่านผู้นำออกความคิดเห็น
 
"เเต่มันค่อนข้างเสี่ยงมากเลยนะขอรับนายท่าน"เมิ่งเหยากล่าวด้วยความพะวง
 
"เช่นนั้นก็มิเป็นไร...ไปต่อเถิด"
 
"เหตุใดต้องเร่งฝีเท้าม้าเร็วขนาดนี้ด้วยเจ้าคะท่านพ่อ เกิดอันใดขึ้นกัน"ซือเหวินเมี่ยวที่ตื่นเพราะเสียงสนทนาของบิดาเเละคนใช้ ค่อยๆขยับตัวขึ้นพิงผนังด้วยความงัวเงียเเล้วถามถึงเหตุการณ์ราตรีที่ผ่านมา
 
"มีโจรป่าจะบุกปล้นกองเกวียนเราน่ะลูก มิมีอันใดหรอก"กั๋วเว่ยกล่าวเเถเบี่ยงประเด็นไป
 
"อีกนานหรือไม่เจ้าคะจึงจะถึงเมืองใดเมืองหนึ่งบ้าง"ซือเหวินเมี่ยวเริ่มกล่าวเสียงงอเเง "ข้าเริ่มหิวเเล้ว"
 
"ท่านพี่อายุสิบเจ็ดเเล้วนะ...เหตุใดจึงงอเเงเฉกเด็กเจ็ดขวบเช่นนี้เล่า"เหวินเถียนเห็นท่าทีของพี่สาวจึงเกิดอยากเเซะขึ้นมาบ้าง
 
"ยุ่ง!"เค่อเอ้อร์ซื่อซือเหวินเมี่ยวขมวดคิ้วด้วยสีหน้ามิพอใจ "จะนอนก็นอนไป!"
 
"พี่ใหญ่ก็เอาเเต่คิดจะไล่ข้า เห็นเหวินเถียนเป็นหมูเป็นหมาหรืออย่างไร!"เหวินเถียนเบ้ปากสะบัดหน้าหนีเเสร้งมิพอใจ
 
"เงียบปากไป!"ซือเหวินเมี่ยวชี้หน้าไล่น้องสาว
 
"ทราบเเล้วๆเงียบก็เงียบสิท่านพี่!"
 
"ลูกหิวเเล้วนะเจ้าคะ ให้เมิ่งเหยาหาเเวะเข้าไปในตัวเมืองก่อนได้หรือไม่"คุณหนูใหญ่กุมท้องเเสดงถึงความหิวโหยเมื่อยามตื่นจากนิทรา
 
"ทนเอาสักเล็กน้อยก่อนนะลูก ออกจากเขตซินเจียงเมื่อใดเเล้วจะรีบให้เมิ่งเหยาหาสำรับให้"เหยียนเม่ยกล่าวเเทนเซี่ยงกง
 
"ข้าหิว! ออกจากซินเจียงคือเมื่อใด! มิใช่ว่ายามนี้ยังเพียงอยู่กลางมณฑลซินเจียงอยู่! ข้ามิอยากรอเเล้ว!"ซือเหวินเมี่ยวเริ่มออกอาการจะโวยวาย
 
"อย่าดื้อไปหน่อยเลยเมี่ยวเอ๋อ"ซือเหยียนเม่ยยังคงยืนยันคำกล่าวเดิม
 
"ท่านเม่! ข้าหิวๆ ข้าหิว!"คุณหนูใหญ่เค่อเอ้อร์ซื่อกล่าวโวยวายพร้อมกำมือเเน่น "ได้ยินหรือไม่!"
 
"ใจเย็นๆก่อนนะลูก"
 
"มิเหลืออันใดให้เย็นเเล้วท่านเเม่! บอกให้เมิ่งเหยาหยุดม้า! ข้าจะลงไปหาทานเอง! เมิ่งเหยาหยุดรถม้า! เมิ่ง---"
 
"เค่อเอ้อร์ซื่อซือเหวินเมี่ยว!"ฮูหยินกล่าวเเทรกเสียงดุเด็ดขาด "อายุเจ้ามิใช่น้อยๆเเล้วนะ! คิดจะเอาเเต่ใจไปถึงเมื่อใดกัน! เหวินเถียนอายุน้อยกว่าเจ้าเกือบสี่ห้าปียังมิคิดเอาเเต่ใจเท่าเจ้าเลย!"
 
"ท่านเเม่!"ซือเหวินเมี่ยวโพล่งปากออกไปด้วยความมิพอใจส่วนตัว "เหตุใดท่านต้องเอานางมาเปรียบกับข้า! หรือเพราะท่านรักนางมากกว่าข้า!" นางชี้น้องสาวที่นั่งอยู่ข้างมารดาด้วยอารมณ์เดือดพล่าน
 
เหวินเถียนที่เป็นโจทย์หลักของหัวข้อสนทนาสะดุ้งเล็กน้อยถึงปานกลาง "เหวินเถียนมิทราบ เหวินเถียนมิเกี่ยว" นางกล่าวเสียงเบาก่อนคลานไปเเอบหลังหยุนเยว่ "พี่หยุนเยว่...บังข้าที"
 
"เอาเถิดๆ"เค่อเอ้อร์ซื่อกั๋วเว่ยยกมือปรามสองก่อนที่มารดาเเลบุตรีจะใช้โทสาเเผดเผากันจนเกวียนรถม้าไหม้ "พ่อจะถามเมิ่งเหยาให้ว่าพอจะหยุดหาอันใดให้เจ้าทานประทังไปก่อนได้หรือไม่"
 
ซือเหวินเมี่ยวค่อยๆคลายมือที่กำอยู่เเละความโกรธลงเเล้วจึงพยักหน้าเข้าใจ "เข้าใจเเล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ"
 
"อืม"กั๋วเว่ยผงกศรีษะก่อนหันหลังโผล่หน้าออกไปถามคนควบม้า "พอจะหาอันใดให้ซือเหวินเมี่ยวนางทานระงับดับอารมณ์โทโสของนางได้หรือไม่"
 
"เเต่..."เมิ่งเหยาเงียบไปสักพัก "หากหยุด
...มันจะ.." เขากลับมากล่าวอีกครั้งด้วยความอึกอัก  "เข้าใจเเล้วขอรับ"  คนควบม้าของตะกูลเค่อเอ้อร์ซื่อชะลอความเร็วของล้อก่อนลงมาจากหลังม้า
 
ซือเหวินเมี่ยวค่อยๆก้าวลงจากเกวียนมายืดเส้นยืดสาย "ข้าได้ยินเสียงน้ำ"
 
เมิ่งเหยาพยักหน้า "เช่นนั้นบ่าวจะไปจับปลาให้นะขอรับ"
 
"อืม"คุณหนูใหญ่พยักหน้า
 
 
หลังจากนั้นประมาณห้าเค่อ
 
เมิ่งเหยากลับมาพร้อมปลาเกือบสิบตัว เเละใช้เวลาปิ้งไปกับเสียงบ่นออดเเอดของคุณหนูใหญ่ที่ทำหน้าบึ้งหน้าบูดเกือบครึ่งก้านธูป
 
หลังจากที่ปลาปิ้งสุกดีเเล้ว ซือเหวินเมี่ยวค่อยๆละเมียดละไมทานช้าๆอย่างมิสนใจโลกภายนอก จนเป็นผลให้กระทั่งทุกคนทานอิ่มเสร็จเเล้ว นางยังทานไปได้เพียงครึ่งของด้านหนึ่งเท่านั้น
 
"กินให้ไวๆหน่อยได้หรือไม่พี่ใหญ่"เหวินเถียนกล่าวขึ้นพร้อมเบ้ปาก
 
"ยุ่ง! อิ่มเเล้วก็เงียบปากไป!"ซือเหวินเมี่ยวละปากเเละตาที่จดใจกับปลาขึ้นมามองตาเขียวใส่น้องสาว
 
"โหดร้าย"เหวินเถียนเเลบลิ้นปลิ้นตาใส่ก่อนเดินหนีขึ้นไปนั่งเตรียมพร้อมบนเกวียน
 
"ไวกว่านี้ได้หรือไม่ลูก"ซือเหยียนเม่ยเดินมากล่าวใกล้ๆ
 
คุณหนูใหญ่เค่อเอ้อร์ซื่อที่ยังเเง่งอนเรื่องที่ทะเลาะกับมารดาก่อนหน้านี้อยู่หันหน้าหนี "มิได้เจ้าค่ะ ไวสุดคือเท่านี้"
 
"เช่นนั้นไปทานบนรถดีหรือไม่"
 
"มิดีเจ้าค่ะ"คุณหนูใหญ่สวนตอบทันควัน "ทางขรุขระ หากไปทานบนรถก็คิดคอตายพอดี"
 
 
เมิ่งเหยาขมวดคิ้วพิงต้นไม้มิใกล้มิไกลจากที่จอดรถม้าพร้อมคิดหาทางที่จะออกจากซินเจียงได้ไวกว่าที่เป็นอยู่ หากคุณหนูใหญ่ยังคงละเมียดละไมอยู่เช่นนี้ก็เกรงว่าพวกมองโกลจะไล่ตามล่าทัน มันเป็นเรื่องที่สมควรต้องคิดเผื่อไว้เเม้จะเป็นยามกลางวันยังมิยามราตรีที่น่ากลัวก็ตาม เพราะเขาเองรู้สึกถึงลางสังหรณ์เเปลกๆตั้งเเต่หยุดรถม้าเเล้ว เกรงว่าจะเกิดอันใดที่มิคาดฝันขึ้น
 
"เป็นอันใดหรือ"หยุนเยว่เดินเข้ามาใกล้ๆ
 
"มิมีอันใด...ข้าเพียงเหนื่อยเล็กน้อย"เมิ่งเหยากล่าวปัดออกไปจากความจริง
 
"โกหกนี่! เจ้าเกรงเรื่องมองโกลอยู่ถูกหรือไม่! ปล่อยวางเสียครึ่งบ้างก็ได้เมิ่งเหยา นี่ยังเป็นตอนกลางวันอยู่เลยนะ"หยุนเยว่กล่าว
 
"ข้าทราบเเล้วๆ"เมิ่งเหยารับคำเสียงเบา "เเล้วนี่เจ้ามีอันใดหรือปล่าว"
 
"เอ่อ...ข้า"หยุนเยว่มองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่กก่อนหันหน้าหนีด้วยใบหน้าเเดงก่ำ "มิมี! ข้ามิได้จะกล่าวอันใด! มิได้กล่าวอันใด!" นางรีบเดินหนีหมายจะไปรวมอยู่ที่รถม้า เเต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีลูกธนูถูกยิงไปปักต้นไม้เบื้องหน้านาง
 
"หยุนเยว่!"เมิ่งเหยาที่เห็นดังนั้นก็รู้สึกตัวได้ทันทีว่าลูกธนูเป็นของพวกมองโกลเป็นเเน่ จึงรีบวิ่งไปจับมือสตรีตรงหน้าเเละพาวิ่งหนีด้วยความรวดเร็ว "เจ้ารีบไปบอกนายท่านให้หนีไปให้ไวที่สุด!" เขาดึงมือหยุนเยว่ให้มาอยู่ข้างหน้าเเล้วรีบดันนางให้วิ่งไปก่อน เมื่อมาถึงที่รถม้าเขาก็เก็บของสัมภาระทุกๆอย่างใส่เกวียนอย่างเร็วมากที่สุด
 
"อันใด! เป็นอันใดเมิ่งเหยา!"ซือเหวินเมี่ยวที่นั่งเเทะปลาอยู่ลุกขึ้นกล่าวด้วยความตกใจ
 
"พวกเราต้องหนีให้ไวที่สุด!"เมิ่งเหยากล่าวเสียงดุดัน 
 
ด้วยเสียงดุดันอันน่ากลัวนี่เองจึงเป็นผลให้สตรีทุกชีวิตรีบขึ้นเกวียนด้วยความเร็วเเสง เหลือเพียงนายท่านผู้นำตระกูล
 
"นายท่านควบอาชาพาคุณหนูเเละฮูหยินหนีไปก่อนนะขอรับ พวกมองโกลตามเราทันเเล้ว"
 
"มิได้การ!"เค่อเอ้อร์ซื่อกั๋วเว่ยสบถเสียงดัง "เเล้วเจ้าเล่า!"
 
"มิต้องห่วงข้าน้อยขอรับ!"เมิ่งเหยาดึงดาบเล่มยาวออกมาจากฝัก "ข้าน้อยจะต้านกองกำลังพวกมันเอง คงถ่วงเวลาได้มิมากก็น้อย"
 
ทันใดนั้นก็มีกองกำลังนับสิบชีวิตในอาภรณ์อย่างพวกมองโกลวิ่งกรูเข้ามาจากไกลๆ
 
"รีบไปเสียขอรับ! ชีวิตของข้าน้อยได้ตอบเเทนพระคุณของนายท่านยังมิพอช่างบาปนัก ขอชาติให้บ่าวได้รับใช้นายท่านอีก!"เมิ่งเหยากล่าวพร้อมทิ้งฝักดาบเตรียมตัวประจัญปะทะกับทหารมองโกล
 
"เข้าใจเเล้ว!"กั๋วเว่ยรีบขึ้นหลังอาชาเเละควบหนีห่างไปทันที
 
ผู้พลีกายใช้ชีวิตตนเข้าเเลกกับชีวิตสกุลเค่อเอ้อร์ซื่อที่เมื่อเห็นรถวิ่งเเล่นออกไปเเล้วก็รีบวิ่งเข้าหาทหารมองโกลพร้อมฟาดฟันใส่อย่างเลือดพล่านบ้าคลั่ง
 
ซือเหวินเมี่ยวเเละหยุนเยว่ที่ยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วอยู่นั้น พวกนางรีบเปิดผ้าเเพรบังที่หลังเกวียนออกดู มันเป็นผลให้พวกนางเบิกตากว้างเพราะเห็นสิ่งที่เลวร้าย 
 
ซือเหวินเมี่ยวเห็นสิ่งที่มันจะตราตรึงหลอกหลอนนางไปทั้งชีวิต...ความเอาเเต่ใจของนางได้คร่าชีวิตผู้ภักดีไปเสียเเล้ว ภาพที่นางเห็นด้วยสองตาก็คือเมิ่งเหยาฟาดฟันดาบอยู่กลางวงล้อมของทหารมองโกล เขาคำรามน่าเกรงกลัวเสียงดังจนสะท้อนก้องไปทั่วป่า จากคำรามเพื่อความฮึกเหิมจนเเปรเปลี่ยนไปเป็นคำรามเพราะความเจ็บปวดที่ดาบนับสิบเล่มเเทงทะลุกายาเขาทุกทิศ พวกทหารมองโกลดึงดาบออกจากบุรุษผู้มีใจภักดีเเล้วกระซวกเข้าไปใหม่นับหลายสิบครั้งจนสิ้นลมหายใจด้วยความป่าเถื่อนเเละโหดร้าย...เป็นสิ่งจำฝังใจที่นางต้องจดจำหลอกหลอนไปทั้งชีวิตว่ากว่าที่นางจะได้ไปตามฝั่งฝันต้องเสียผู้ภักดีเช่นเมิ่งเหยาไป
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ชอบใครมากที่สุด

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา