司文妙ยอดหญิงเเห่งเเผ่นดิน
เขียนโดย ตำหนักบุปผา
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.07 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561 17.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) 一
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรัชศกคังซีปีที่ห้าสิบห้า
ตะเข็บชายเเดนมณฑลซินเจียง
กลางยามอิ่ว
เค่อเอ้อร์ซื่อซือเหวินเมี่ยวในอาภรณ์สีเเดงขาวปักไหมลายดอกเหมยฝีเข็มงดงามนั่งไขว่ห้างกอดอกขมวดคิ้วพลางมองโต๊ะอาหารที่ไร้เเล้วซึ่งวี่เเววของสำรับใดๆทั้งสิ้นด้วยสีหน้าเริ่มมีน้ำโห
"อาหารของข้าอยู่ที่ใด! เหตุใดจึงมิจัดขึ้นโต๊ะ! หรืออยากให้ข้าต้องเเล่เนื้อพวกเจ้ามาทานเเทน!"
บ่าวบุรุษสะดุ้งเฮือกใหญ่รีบลนลานพยักหน้ารองรับอารมณ์ของคุณหนูใหญ่ "ขอรับ! บ่าวจะรีบไปเร่งหยุนเยว่ขอรับ!" ก่อนถอยหลังวิ่งหายออกจากห้องไป
"ชักช้าน่ารำคาญ"ซือเหวินเมี่ยวบ่นออดเเอดรำคาญมิยอมลดละเพื่อรออันใด
"พี่ใหญ่ก็กล่าวไปนั่น"เค่อเอ้อร์ซื่อเหวินเถียนยิ้มบางๆตบไหล่พี่สาวเบาๆเผื่อช่วยคลายอารมณ์ที่พร้อมเผาวอดของนางลงบ้าง "ท่านพ่อสั่งถอดสั่งไล่คนใช้บุรุษสตรีออกหมดจวน จนเหลือพี่เมิ่งเหยากับพี่หยุนเยว่เพียงสองคน อันใดช้าไปบ้างก็มิน่าใช่เรื่องต้องเเปลกใจ" สตรีในวัยสิบสามพยายามเกลี้ยกล่อม "เช่นนั้นพี่ใหญ่จะเกรี้ยวกราดไปเพื่ออันใดเล่าเจ้าคะ"
คุณหนูใหญ่ซือเหวินเมี่ยวปรายตามองมือที่เกาะวางอยู่ชั่วครึ่งอึดใจ เเล้วจึงสะบัดไหล่หนี "ยุ่ง" ก่อนหันหน้ากลับดังเดิมมิยินดีรับคำเกลี้ยกล่อมอันใดทั้งนั้น "เห็นใจกันนักก็ไปช่วยหยุนเยว่ยกอาหารมาขึ้นโต๊ะ"
"โถ่พี่ใหญ่ ใจพี่นั้นก็ช่างร้อนรนดั่งอัคคีเสียจริง ทำข้าร้อนรุ่มเหงื่อซกไปหมด"เหวินเถียนกล่าวเหย้าเล่น
"หุบปากไป! หากเจ้ายังมิหยุดกล่าวน่ารำคาญเช่นนี้ ข้าจะเผาปากเจ้าให้วอด"
"น่ากลัวจริงๆพี่ข้า"คุณหนูรองเบ้ปากพยักหน้าเข้าตาจน มิอาจกล่าวอันใดเพิ่มอีก
"มาเเล้วขอรับคุณหนู!"เมิ่งเหยาส่งเสียงเป็นสัญญาณก่อนรีบเปิดประตูเข้ามาในห้อง "สำรับมาเเล้วขอรับ"
หยุนเยว่รีบซอยขาตามเมิ่งเหยาเข้าห้องผ่านประตูมาพร้อมสีหน้าเร้นไปด้วยความเหนื่อยหอบที่ต้องเร่งปรุงสำรับเเลต้องรีบเดินตามเมิ่งเหยามา นางค่อยๆวางข้าวถ้วยเล็กๆเเละกับจานเล็กๆอย่างละหนึ่งไว้บนโต๊ะตรงรัศมีการมองของคุณหนูใหญ่ ก่อนถอยเท้าออกมายืนห่างๆข้างบุรุษผู้เป็นคนรับใช้ด้วยกัน
"ผัดผักมากี่วันเเล้วหยุนเยว่"ซือเหวินเมี่ยวหลุบสายตาลงต่ำมองกับข้าวในจานไม้ก่อนกล่าวเสียงเรียบที่เรียบเสียจนทำนายทายทักอารมณ์นางมิออก
"เอ่อ...สอง..สาม"หยุนเยว่หลุบหน้าลงพลางนับนิ้วหาจำนวนวัน
"กี่วันเเล้ว!"ซือเหวินเมี่ยวกล่าวเสียงเเข็งพร้อมด้วยอารมณ์ที่เริ่มประทุ "เห็นหน้าข้าเป็นวัวหรืออย่างไร!"
"ห้า..วันเเล้วเจ้าค่ะ"สตรีผู้เป็นคนใช้กล่าวเสียงค่อย
"พะโล้"คุณหนูใหญ่กลับมากล่าวเสียงเรียบอย่างมิมีปี่มิมีขลุ่ย "ข้าจะทานพะโล้"
"คง...เอ่อ...คงยากเจ้าค่ะคุณหนู!"หยุนเยว่กล่าวพลีชีพเสี่ยงตาย ชีวิตนี้นางจะพร้อมตายเเล้วก็ต่อเมื่อหาคู่ครองเป็นพ่อค้าเศรษฐีได้สักคน เเต่ตอนนี้ยังหามิได้ นางก็จะยังตายมิได้! "หมูเห็ดเป็ดไก่หมดห้องครัว...เอ่อ...ส่วนร้านรวงยามนี้ก็น่าจะปิดเกลี้ยงหมดเเล้ว"
"หยุนเยว่!"เค่อเอ้อร์ซื่อซือเหวินเมี่ยวตบโต๊ะยกกายขึ้นเสียงดังจนทั้งน้องสาวเเละคนใช้สองชีวิตสะดุ้งเป็นเเถว
"พี่ใหญ่ใจเย็นๆ กินผักเเล้วผิวงามนะเจ้าคะ"เหวินเถียนเกลี้ยกล่อม
"เหวินเถียนหุบปาก!"
หยุนเยว่สั่นทรุดตัวลงก้มหน้ารับโทษ "ยามนี้มีวัตถุดิบปรุงเพียงเเค่ผัดผักจริงๆเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่"
"ถ้ามีเพียงเเค่นี้ ก็ให้มันหมดไปเลย! ถ้าหากวันนี้ข้ามิได้ทานพะโล้ ก็มิมีผู้ใดได้ทานอันใด!" คุณหนูใหญ่ถอยห่างออกมาก่อนกระชากดึงผ้าปูโต๊ะด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด จนเป็นผลให้ถ้วยเเละชามที่เคยตั้งวางอยู่ของมันดีๆตกลงกระจัดกระจายทั่วพื้น
คุณหนูรองเหวินเถียนเห็นสถานการณ์มิดีตั้งเเต่ที่พี่สาวจะเผาปากเเล้ว นางรีบลุกขึ้นเดินย่องออกจากห้องไปหาผู้ที่จะมาดับไฟล้างผลาญจวนของพี่ใหญ่ได้....ท่านเเม่
เมิ่งเหยารีบเนียนเดินก้มหน้าไปลากหยุนเยว่ออกมาให้ห่างจากระเบิดยุทโธปกรณ์ลูกใหญ่ที่พร้อมจะระเบิด "เจ้านี่นะ ไปราดน้ำมันลงกองไฟเช่นนี้ได้อย่างไร" เขากระซิบเสียงเบา
"ข้าก็อยากให้คุณหนูใหญ่ได้ทราบบ้างนี่ว่าในครัวเราเกลี้ยงเลย...อีกอย่างโชคดีที่ข้าใช้ภาชนะไม้ ถึงตกกระจัดกระจายอย่างไรก็มิเเตก"หยุนเยว่กล่าวกระซิบตอบ
"กระซิบอันใด!"ซือเหวินเมี่ยวกล่าวตะคอก
"มิมีอันใดเจ้าค่ะ!"หยุนเยว่กล่าวเสียงเสียง เสียงที่กล่าวถามตะคอกมานั้นช่างน่าเกรงกลัวจนตัวสั่นเหลือเกิน
"หยุนเยว่!เจ้านี่มันจริงๆเลย!"คุณหนูใหญ่สกุลเค่อเอ้อร์ซื่อกำมือเเน่นระงับอารมณ์โกรธก่อนที่จะห้ามมิอยู่ให้ต้องเผลอพลั้งมือตบหลังเเหวนคนสนิท
"ท่านเเม่มาเเล้ว!ทุกคนรอดเเล้ว!"เหวินเถียนกล่าวเสียงดังด้วยความปรีดาหลังจากที่รีบไปจูงมือท่านเเม่ที่อยู่เรือนถัดไปมา นางรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมอาการหอบเล็กน้อย
ซือเหยียนเม่ยผู้เป็นมารดาขมวดคิ้วให้กับสภาพที่เละเทะในห้อง "เมี่ยวเอ๋อเจ้าทำอันใดของเจ้ากัน"
"กระชากผ้าปูโต๊ะทิ้งเเค่นั้นเองท่านเเม่"ซือเหวินเมี่ยวหันมาหามารดาพร้อมทำหน้าใสซื่อ
"เรื่องใหญ่ที่ใดให้ท่านเเม่ต้องปวดจิตกัน"
"เมี่ยวเอ๋อ...เเม่ตั้งชื่อลูกให้มีสกุลซืออยู่ในนามเพื่อให้เจ้าสำนึกรักในความเป็นฮั่น มิใช่ให้สำนึกรักเอานิสัยหัวดื้อรุนเเรงเเบบท่านตาเจ้ามาใช้"เหยียนเม่ยส่ายหน้าเหนื่อยจิตขั้นสุดยอด
"ผู้ใดว่าข้ามิสำนึกรักกัน...เหวินเถิน หยุนเยว่ หรือเมิ่งเหยาเล่า"คุณหนูใหญ่เอียงศรีษะท่าทีสงสัย "ข้ารักความเป็นฮั่นเเละต้าชิงมากมายนัก ท่านเองก็ทราบว่าข้ามีความฝันอยากตอบเเทนคุณเเผ่นดินมากเพียงใด"
"ซือเหวินเมี่ยว...ลูกเองก็ทราบดีว่าในประวัติศาสตร์เเละขนบธรรมเนียมมิเคยมีสตรีเป็นขุนนางอยู่วังหน้า"
ซือเหวินเมี่ยวถอนหายใจเบาๆ "เมื่อก่อนมิเคยเเต่ตอนนี้หรืออนาคตมีก็ได้นี่เจ้าคะ ข้าบุกเบิกเป็นขุนนางหญิงคนเเรกเองก็ได้ ยากอันใดกัน"
"มันยากตรงที่เจ้าเป็นสตรีเเละสกุลมิได้เป็นที่นับหน้าถือตาพอ"
"ท่านเเม่!"ซือเหวินเมี่ยวกำมือเเน่นสะบัดตัวสั่นมิพอใจ "ท่านก็ชอบตัดดักทางข้าตลอด! ให้กำลังใจบุตรีของท่านบ้างก็ได้นะท่านเเม่!"
"ก็เพราะมันเป็นไปมิได้อย่างไรเล่าลูก"เหยียนเม่ยส่ายหน้ามิเห็นด้วย
"คุณหนูรองเจ้าคะ"หยุนเยว่ตีเนียนไปกระซิบเหวินเถียนที่หลบมุมหนีศึกประทะกันอยู่ "คอยหาเรื่องให้คุณหนูใหญ่เบี่ยงความสนใจเรื่องพะโล้ก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ หยุนเยว่จะรีบออกไปดูพะโล้ข้างนอกให้ เผื่อว่ายังมีร้านรวงใดยังมิปิด"
"อื้อ!"เหวินเถียนพยักหน้า "เชื่อมือข้าเถิดพี่หยุนเยว่!"
หยุนเยว่พยักหน้าไว้วางใจก่อนจะค่อยเขยิบไปข้างๆช้าๆเเต่ทว่าถูกเสียงอันทรงพลังของคุณหนูใหญ่ดักปิดกั้นเสียก่อน
"ท่านเเม่! ท่านก็เอาเเต่ดักทางข้ามาตั้งเเต่ยังเด็ก! อันใดเหตุใดกัน!...มิส่งเสริมเเล้วยังปิดกั้นข้าอีก! ข้าอดทนร่ำเรียนตำราให้ความรู้ทรงภูมิมากกว่าบุรุษก็เพื่ออยากให้ฐานะทางบ้านเราถูกนับหน้าถือตา อยากให้สกุลเค่อเอ้อร์ซื่อของบรรพบุรุษถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าได้ทำคุณเเทนเเผ่นดินเกิด มิต้องให้ลูกหลานขายหน้าผู้ใดในอนาคตให้เขามาเย้ยหยันว่าสกุลเค่อเอ้อร์ซื่อของเรานั้นมิได้ทรงเกียรติทั้งยังมิได้ทำคุณอันใดให้เเผ่นดินต้าชิงเจริญรุ่งเรืองขึ้น!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ