司文妙ยอดหญิงเเห่งเเผ่นดิน

-

เขียนโดย ตำหนักบุปผา

วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.07 น.

  6 ตอน
  1 วิจารณ์
  7,676 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561 17.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) 二

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

จนเเล้วจนรอดในอาหารสำรับมือเย็นนี้ ซือเหวินเมี่ยวก็ได้ทานพะโล้ตามประสงค์ของนาง นางใช้เวลาลิ้มรสทานพะโล้ไปเกือบชั่วยามครึ่งกว่าจะทานเสร็จ 

 

คุณหนูใหญ่นึกถึงคำกล่าวของซือเหยียนเม่ยมารดานาง เเล้วจึงถอนหายใจก่อนทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมหยิบตำราที่หยิบติดมือมาจากห้องตำราขึ้นมาอ่าน

 

เหวินเถียนขมวดคิ้วให้กับท่าทีของพี่สาวเเล้วรีบเดินไปนั่งหาเรื่องสนทนาด้วย "เมื่อไหร่ท่านพ่อจะกลับมากันนะพี่ใหญ่"

 

"มิทราบ"คุณหนูใหญ่หันมามองน้องสาวที่มาเนียนสนทนาด้วย "อยู่ด้วยกันตรงนี้จะทราบหรือไม่"

 

"นั่นสินะพี่ใหญ่"คุณหนูรองพยักหน้าเห็นพ้องด้วย "เเต่ก็น่าเเปลกดีนาท่านพี่ ท่านพ่อเป็นพ่อค้าเครื่องไม้ ขายอยู่ในเเถบซินเจียงก็ได้ เหตุใดต้องไปมองโกลเป็นประจำ"

 

"เเล้วเหตุใดท่านพ่อจะไปขายของที่มองโกลมิได้"ซือเหวินเมี่ยวขมวดคิ้วขยาดตา "ไร้สาระสิ้นดี"

 

"เเต่สตรีนามเหวินเถียนหน้าตางามๆที่พี่บอกว่าไร้สาระนั่นก็น้องสาวพี่นะ"เหวินเถียนกระพริบตาปริบๆมิเเยเเสคำกล่าวอันใด 

 

"กล่าวอันใดมากมาย เหงาปากนักก็ไปหาหมั่นโถวมายัดเเล้วหุบปากไป"ซือเหวินเมี่ยวกล่าวด้วยความรำคาญอกรำคาญใจ

 

"พี่สาวนี่มิสร้างสรรค์เลย วันๆเอาเเต่อยู่กับตำรา ระวังชาตินี้ได้สมรสกับตำรานะพี่ใหญ่"

 

"ก็ดีกว่าบุรุษที่ต้องมาสมรสกับเจ้าเเล้วกัน"

 

เสียงเปิดเลื่อนบานประตูค่อยๆดังขึ้นเเล้วจึงมีบุรุษวัยกลางคนเดินเข้ามา

 

"สนทนาอันใดกันหรือเเม่นางทั้งสอง"เค่อเอ้อร์ซื่อกั๋วเว่ยกล่าวพร้อมสีหน้าเปื้อนยิ้ม "เห็นสนทนากันสนุกสนาน นินทาอันใดพ่อหรือไม่เนี่ย"

 

"หากคิดจะนินทาท่านพ่อ มิสู้ซือเหวินเมี่ยวนินทาท่านเเม่มิดีกว่าหรือเจ้าคะ เอาระยะเผาขนเเบบนี้น่าสนุกดีมิน้อย" ซือเหวินเมี่ยวหันหน้าไปหาบิดาด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งเครียดก่อนเอียงคอยิ้มกระเส้าเหย้าเเหย่ "เหย้าเล่นเจ้าค่ะเหย้าเล่น"

 

กั๋วเว่ยหัวเราะเฝื่อนๆก่อนกล่าว "นี่ก็ใกล้จะตกดึกเเล้ว เหนียงจึ*พาเหวินเถียนไปเก็บของที หยุนเยว่กับเมิ่งเหยาก็ด้วย...ไปช่วยกันเก็บของขึ้นรถม้า" เขาเดินไปนั่งข้างๆบุตรีคนโต

 

"บ่าวเข้าใจเเล้ว"หยุนเยว่ย่อกายส่วนเมิ่งเหยาโน้มร่างเข้าใจรับทราบพร้อมปฏิบัติในสิ่งที่ได้รับมอบหมายเเล้วจึงพากันเดินออกจากห้องไป

 

"เก็บของหรือ"เหวินเถียนขมวดคิ้วมิเข้าใจ "เราจะไปที่ใดกันหรือท่านพ่อ"

 

"เซี่ยงกงท่าน...ท่านคิดดีเเน่เเล้วหรือเจ้าคะ"เหยียนเม่ยกล่าวย้ำเชิงให้สามีลองไตร่ตรองอีกครา

 

"อืม"นายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อพยักหน้า "คิดดีเเล้ว มั่นใจเเล้ว" 

 

"เช่นนั้นน้องก็มิขัดอันใดในความคิดตัดสินใจของท่านพี่เจ้าค่ะ"ฮูหยินถอนหายใจพร้อมพยักหน้ายินดีทำตามที่สามีคิดจะกระทำ "มาเถียนเอ๋อ...มาช่วยเเม่เก็บของ"

 

"พวกท่านยังมิตอบข้าเลยว่าจะไปที่ใดกัน!"คุณหนูรองลุกขึ้นดีดดิ้น

 

"ไปในที่ที่ลูกได้ร่ายรำตามอัธยาศัยของเจ้าได้อิสระ"นายท่านของจวนกล่าวตอบบุตรี

 

"อยู่ที่ซินเจียงข้าก็ร่ายรำตามอัธยาศัยจนโดนพี่ใหญ่หาว่าเป็นผีบ้าเเล้วนะท่านพ่อ"

 

"ยากที่จะกล่าวกับเจ้าต่อจริงๆ"กั๋วเว่ยเริ่มยอมเเพ้ในความร่ายรำจนโดนพี่สาวหาว่าเป็นผีบ้าของบุตรีคนรอง

 

"ท่านพ่อบอกให้เจ้าทำอันใดก็ทำไป มีคำถามอันใดนักหนากัน"ซือเหวินเมี่ยวปิดปกตำราก่อนมองหน้าน้องสาวด้วยเเววตารำคาญ

 

"พี่ใหญ่เกรี้ยวกราด!"เหวินเถียนพองลมในเเก้มเเล้วเดินไปหามารดาของนางที่ยืนอยู่ "ไปกันเถิดท่านเเม่ ปล่อยให้ท่านผู้ทรงภูมิความรู้สนทนากันไป" นางหันหน้าไปเเลบลิ้นใส่พี่สาวที่นั่งอยู่ก่อนเดินออกไป

 

"พวกเจ้านี่มิได้ต่างอันใดกันเลยจริงๆ"เหยียนเม่ยส่ายหน้าเอือมระอากับบุตรีทั้งสองของนางพร้อมเดินตามบุตรคนเล็กไป

 

"ท่านพ่อมีอันใดกับข้าหรือ"ซือเหวินเมี่ยวเลิกคิ้ว

 

"เจ้าอยากเป็นขุนนางถูกหรือไม่"

 

"ถูกเเล้วท่านพ่อ!"คุณหนูใหญ่กล่าวอย่างตื่นเต้น นางรีบลงไปนั่งกับพื้นเพื่อกอดเเข้งเกาะขาเตรียมอ้อนบิดา เเต่คิดไปไตร่ตรองมาก็คงมิเเคล้วโดนขัดอีก "ท่านถามเช่นนี้คงจะมิเห็นด้วย"

 

"ผิดเเล้ว"กั๋วเว่ยส่ายศรีษะ "ในเมื่อลูกมีความฝันเช่นนี้ เเม้จะดูเป็นสิ่งที่เป็นไปมิได้เเต่พ่อก็เชื่อในตัวลูก พ่อจะพาครอบครัวเราไปอยู่ในที่ที่ใกล้ความฝันของเจ้า"

 

"จริงหรือท่านพ่อ!"ซือเหวินเมี่ยวตาลุกวาวรีบกระโจนเข้าโผกอดบิดาด้วยความดีใจจนตื้นตัน "ท่านพ่อกล่าวจริงๆมิได้เหย้าเเบบที่ข้าเหย้าท่านจริงๆถูกหรือไม่" นางกล่าวเสียงสั่น

 

"ถูกเเล้ว พ่อมิได้เหย้าเล่น"

 

"ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลย ข้ารักท่านจริงๆ"เเม้เค่อเอ้อร์ซื่อซือเหวินเมี่ยวจะมิเข้าใจว่าเหตุใดถึงกระทันหันเช่นนี้ เเต่นางก็ดีใจที่จะได้ไปตามทางความฝันของนาง

 

 

ยามเวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว จากกลางยามอุ้ยไปสู่กลางยามไฮ่

 

ข้าวของถูกโยกย้ายขึ้นไปบนรถม้าเกือบจะหมดจวนเเต่ก็ยังมิหมด

 

"เราจะได้กลับมาที่จวนนี้อีกหรือไม่ท่านพ่อ"เหวินเถียนในอาภรณ์ใหม่กล่าวพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้าดวงตา

 

"เราจะได้กลับมาหากสวรรค์ต้องการ"กั๋วเว่ยกล่าวก่อนลูบศรีษะบุตรีคนเล็กเบาๆ ถึงจะกล่าวออกไปเช่นนั้น เเต่ในความจริงคือหากกลับมาก็จะถูกเเปรสภาพทันที...มิเชลยก็ศพ 

 

"ไปกันได้เเล้ว"คุณหนูใหญ่เร่งเร้าด้วยความตื่นเต้น ทุกอย่างของชีวิตนางกำลังจะเป็นจริงเสียที

 

นายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อจูงมือบุตรีคนรองที่ยังอาลัยอาวรณ์จวนหลังเก่าหลังนี้ขึ้นรถม้า ถึงมิอยากทำก็ต้องทำ ในเมื่อทุกผิดพลาดไปเเล้วก็ต้องหนี ถึงเเม้จะเสียศักดิ์ศรีก็ดีกว่าเผชิญหน้าเเล้วตายกันยกครัว

 

เมิ่งเหยาที่เห็นว่าเจ้านายทุกชีวิตขึ้นรถม้าเรียบร้อย เขาจึงรีบไปดันไหล่หยุนเยว่ที่ยืนมองประตูจวนด้วยความเศร้าสร้อย "เจ้าอยากเหม่อลอยก็ไปเหม่อในรถม้าเอาเสียสิ มายืนตาลอยเหมือนสูบยาเกินขนาดเช่นนี้จะได้อันใดขึ้นมา"

 

"เข้าใจเเล้วๆ"หยุนเยว่หันไปทำหน้ายักษ์ใส่สหายคนใช้ด้วยกันก่อนปีนขึ้นรถม้าไป

 

"ข้าหวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันจนไปถึงเสียนหยางนะเยว่เอ๋อ"เมิ่งเหยาหัวเราะเฝื่อนเเล้วจึงขึ้นบังคับคุมทิศบนหลังอาชา

 

ล้อไม้ของรถม้าค่อยๆหมุนเป็นวงกลมช้าๆก่อนหมุนระรัวรวดเร็วเคลื่อนตัวออกจากจวนสกุลเค่อเอ้อร์ซื่อที่กำลังจะปิดตาย 

 

 

รถม้าของนายท่านเค่อเอ้อร์ซื่อเดินทางออกจากเขตุตะเข็บชายเเดนเมืองใหญ่ของซินเจียงด้วยความเร็วระยะทางผ้าเเพรสามสิบฉื่อต่อสองเค่อ การเดินทางจากเขตุซินเจียงไปเสียนหยางดูง่ายดายเสียเหลือเกิน เเต่ทว่าเมื่อคบเพลิงอาคารบ้านเรือนทยอยจุดขึ้นทีละดวงสองดวง ซึ่งก็หมายความว่า...

 

"นายท่านขอรับ! นายท่าน!"เมิ่งเหยาตะโกนเสียงดังเรียกเจ้านายที่อยู่ด้านใน "พวกมองโกลไหวตัวเเล้วขอรับ!"

 

_

*เหนียงจึ =คำที่สามีใช้เรียกภรรยา



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ชอบใครมากที่สุด

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา