วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ
-
เขียนโดย Hermione001
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.
20 ตอน
1 วิจารณ์
19.60K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) เราอย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้เลย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ซารังเสร็จหรือยัง เดี๋ยวสายนะ" เสียงเคาะประตูที่ดังมาพร้อมกับเสียงเรียกของยองวอน ฉันที่เลือกเสื้อผ้าใส่ไม่ได้เลยก็ต้องเดินออกไปเปิดประตูให้เขา
"นายรออีกแปปนึงได้ไหม ฉันยังไม่เสร็จเลย" ฉันพูดเมื่อเปิดประตูให้ยองวอน
"ทำไมวันนี้นานจัง ปกติเธอแต่งตัวเร็วกว่าซีโน่ซะอีก" ซีโน่ผู้ขึ้นชื่อเรื่องแต่งตัวเร็ว
"คือว่า ฉัน"
"นี่เลือกเสื้อผ้าอยู่หรอ" ยองวอนหันไปมองในห้องแต่งตัวก็เห็นกองเสื้อผ้าที่ฉันถอดเอาไว้ โอ้ย แล้วทำไมต้องมาเห็นด้วยเนี้ย
"555+ เธอกลัวไม่สวยหรอ กลัวฉันไม่ชอบใช่ป่ะ"
"อย่ามาหลงตัวเอง ฉันแค่อยากเปลี่ยนการแต่งตัวบ้าง"
"เสื้อผ้าเธอมีแต่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เลือกไปก็เท่านั้นแหละ ไว้วันหลังฉันพาไปซื้อใหม่ดีกว่า แต่ตอนนี้ฉันต้องไปซ้อมแล้ว สายเดี๋ยวพี่ซองมินจะบ่นเอา" เขาคว้ากระเป๋าที่อยู่ในห้องแต่งตัวและจับมือของฉันให้เดินตามไปที่รถ
"อีก2อาทิตย์ก็ถึงคอนเสิร์ตแล้ว การแสดงตอนของนายเรียบร้อยแล้วใช่ไหม" ฉันถามขึ้นเมื่อเราเข้ามานั่งในรถ
"ก็เรียบร้อยนะ แต่ฉันไม่ค่อยมั่นใจ ฉันแสดงไม่เก่งเหมือนจุนโฮด้วย" ยองวอนพูดขึ้นพร้อมกับขับรถออกจากลานจอดรถ
"นายก็แค่คิดว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆสิ เหมือนกลับไปตอนนั้นอีกครั้ง เดจาวูน่ะ เคยเป็นไหม"
"เคยสิ เป็นบ่อยด้วย" เขาตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี้ย"
"ก็แค่มีความสุขแค่นั้นเอง"
@ห้องซ้อมTrust5
"มาแล้วหรอคู่รักคู่ใหม่" เสียงซีโน่ตะโกนพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันกับยองวอนมาถึง ทำให้ฉันต้องรีบวิ่งไปปิดปากของเขาทัน
"นายจะเสียงดังทำไม เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยิน"
"ขอโทษๆ ฉันลืมตัว" เขาแกะมือฉันออกจากปากตัวเองและรีบขอโทษทันที
"มาครบแล้ว รีบซ้อมกันเถอะ อีกไม่นานก็ถึงคอนเสิร์ตแล้ว" พี่ซองมินเริ่มทำหน้าที่หัวหน้าวงสุดเท่แล้ว
ฉันรู้สึกดีมากที่ได้มานั่งดูพวกเขาซ้อมแบบนี้ จากเมื่อก่อนที่ต้องรอตั้งหลายเดือนพอรู้ว่าTrust5จะมีคอนเสิร์ตพวกเราก็ตื่นเต้นมา แล้วก็รอวันที่พวกเขาจะมาพอได้มานั่งดูแบบนี้ยังรู้สึกไม่เชื่อตัวเองอยู่เลยว่าจะมีวันนี้ได้ พวกเขาเริ่มซ้อมเพลงจากอัลบั้มใหม่ และยังมีบางเพลงที่เป็นของอัลบั้มเก่าด้วย เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงพวกเขาต้องซ้อมกันหนักจริงๆต่างคนต่างออกความคิดเห็นเพื่อให้การแสดงของพวกเขาออกมาดีที่สุดให้สมกับที่ทุกคนรอคอย
“ในเวลานี้จะมีแค่เราสองคน ผมไม่อยากปล่อยให้มันจางหาย
เป็นอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป...”
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นทำให้ต้องละสายตาจากหนุ่มๆทั้ง5คนตรงหน้า ฉันรีบเดินออกไปนอกห้องซ้อม เพราะในนี้เสียงดังมาก แต่เบอร์บนหน้าจอเป็นเบอร์ใหม่ที่ฉันไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่อง ฉันกดรับสายด้วยความสงสัย
"สวัสดีค่ะ" พร้อมกับกล่าวทักทายปลายสายทันที
"นี่เบอร์ซารังใช่ไหมคะ" ปลายสายที่เป็นผู้หญิงถามขึ้น
"ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่านั่นใครคะ"
"ฉันเอง โกอึนบี" โกอึนบี!! แล้วเธอโทรมาทำไมเนี้ย
"อ่อค่ะ ไม่ทราบว่าคุณอึนบีมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"
"พูดธรรมดากับฉันก็ได้ เหมือนที่พูดกับซีโน่กับฮยอนจุนน่ะ เราอายุเท่ากัน"
"เอ่ออ ฉันไม่ค่อยชินน่ะ"
"ฉันอยู่หน้าบริษัท ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม"
"ฉันหรอ?"
"ใช่ แต่ไม่ต้องบอกพี่ยองวอนนะ ฉันอยากคุยกับเธอสองคน"
"ได้ค่ะ" ฉันใช้เวลาคิดอยู่นิดหน่อยแต่ก็ตอบรับเธอกลับไป เธอบอกว่าจอดรถรออยู่ข้างบริษัทฉันจึงเดินออกมาตามทางที่เธอบอก ไม่นานก็เจอรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งจอดอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาคุยข้างในรถเถอะ ข้างนอกมันหนาว" อึนบีเลื่อนกระจกรถลงหลังจากที่ฉันเคาะไม่นาน
"คุณมีเรื่องอะไรหรอคะ" ฉันที่ตอนนี้เข้ามานั่งในรถเริ่มถามขึ้น
"คือ เรื่องวันนั้น" เธออ้ำอึ้งอยู่นิดหน่อย "ฉันขอโทษที่พูดแบบนั้นไปนะ" อึนบีคงจะหมายถึงคำพูดที่ทำให้ฉันรู้สึกสมเพชตัวเอง
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ" ฉันตอบรับพร้อมยิ้มให้เธอเล็กน้อย
"แต่ที่มาวันนี้ ฉันตั้งใจจะมาถามเรื่องของเธอกับพี่ยองวอน" เข้าเรื่องได้สักที "เธอกับพี่คบกันอยู่จริงๆหรอ"
"จริงค่ะ"
"เธอชอบเขาจริงๆหรอ"
"จริงค่ะ" คำตอบของฉันมันมีแค่นี้จริงๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ลึกๆแล้วก็สงสารเธอนิดหน่อยแต่ถ้าเรื่องที่พี่ซองมินพูดที่สระน้ำวันนั้นเป็นเรื่องจริง ยองวอนก็ไม่ควรกลับไปหาเธอ
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพี่ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ถ้าเป็นเรื่องคบกันเราพึ่งคบกันได้ไม่นาน แต่ถ้าเรื่องที่ยองวอนชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณคงต้องไปถามเขาเอง" เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
"งั้นเธอก็คงรู้แล้วสิว่าฉันเป็นแฟนเก่าพี่"
"รู้ค่ะ"
"ฉันรักพี่ ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่เพราะเรื่องบางอย่างทำให้เราผิดใจกัน จนฉันต้องไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ฉันไม่เคยหยุดรักพี่ถึงได้กลับมา" อึนบีเริ่มบรรยายถึงอดีตความรักอันสวยงาม "ฉันคิดว่าพี่ยังรักฉันอยู่ แต่คงเพราะโกรธฉันมากและเราก็ห่างกันไปนานมาก พี่คงกำลังสับสน" แล้วทำไมเธอไม่ไปพูดแบบนี้กับยองวอนเองล่ะ
"คุณคงไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเรารักกันมากแค่ไหน เราสนิทกันตั้งแต่เด็กที่พี่ยอมมาเป็นศิลปินฝึกหัดก็เพราะสัญญากับฉันไว้” เรื่องนี้ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย ใช่แล้วฉันติดตามพวกเขามาหลายปี แต่คนเดียวที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดคือยองวอน นี่หรอเหตุผลที่เขาไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เพราะสาเหตุคืออึนบีสินะ ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้ก็ไม่รู้
"10ปีที่เราอยู่ด้วยกัน เธอคงไม่คิดว่าพี่จะเลิกรักฉันได้ง่ายๆหรอกใช่ไหม" อึนบีพูดต่อเมื่อเห็นฉันเอาแต่นั่งเงียบ
"เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องของคุณสองคน คุณน่าจะไปคุยกับยองวอนมากกว่านะคะ" ฉันไปเกี่ยวอะไรกับความรัก100ปีของพวกเขา ทำไมต้องลากฉันลงมานั่งฟังเรื่องพวกนี้
"คุยกับเธอนี่แหละถูกแล้ว เพราะพี่โกรธฉันอยู่ คุยไปก็ไม่มีประโยชน์"
"แล้วคุณต้องการให้ฉันทำอะไร" ฉันคิดว่าเธอควรจะพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาตรงๆดีกว่ามานั่งพูดเรื่องในอดีตของพวกเขาให้ฉันเจ็บ
"ฉันอยากให้คุณถอยออกมาจากพี่ ถ้าสิ่งที่ฉันคิดมันถูก แล้วพี่ยังรักฉันอยู่คุณเองอาจจะต้องเป็นคนเจ็บที่สุด"
แล้วถ้าสิ่งที่เธอคิดมันผิดล่ะโกอึนบี ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งเธอแค่เพราะเธอเคยคบกับยองวอนน่ะหรอ
"ขอโทษนะ แต่เรื่องนั้นฉันคงทำให้ไม่ได้" ฉันสบตากับอึนบี "ถ้าฉันจะถอยก็ขอให้เป็นเพราะยองวอนต้องการแบบนั้น ฉันเข้าใจเรื่องที่คุณพูด แต่ไม่จำเป็นที่ฉันต้องทำตามแค่เพราะพวกคุณเคยคบกัน ขอบคุณที่เป็นห่วงว่าฉันจะเสียใจแล้วก็ขอโทษจริงๆค่ะ" พูดจบฉันก็รีบเปิดประตูรถทันที แต่อึนบีก็เอื้อมมือมาดึงมือฉันไว้
"ฉันจะทำให้พี่กลับมาให้ได้" ตอนนี้สายตาที่เธอจ้องมาที่ฉันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ในเวลานี้จะมีแค่เราสองคน ผมไม่อยากปล่อยให้มันจางหาย
เป็นอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป...”
ฉันหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าและพบว่าเป็นยองวอนที่โทรมา
"ซารังเธออยู่ไหน" เสียงยองวอนดังมากเพราะต้องตะโกนแข่งกับคนอื่นๆในห้องซ้อม อึนบีที่เหมือนจะได้ยินเธอเอาแต่จ้องฉันยกใหญ่
"ฉันหิว เลยออกมาซื้อของ"
"ไปคนเดียวหรอ ทำไมไม่เรียกฉัน ดึกขนาดนี้มันอันตราย"
"นายซ้อมอยู่ไม่อยากกวน แค่นี้นะฉันจะกลับแล้ว"
"เดี๋ยวก่อน ซื้อขนมอร่อยๆมาให้ฉันกินด้วย"
ยองวอนกดวางสายทันทีที่สั่งให้ฉันซื้อของกินเสร็จ ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและกำลังจะเดินลงจากรถ
"เธอบอกพี่ว่าออกมาซื้อของไม่ใช่หรอ ถ้ากลับไปตัวเปล่าเขาจะสงสัยเอานะ งั้นเราก็ไปซื้อของกันจริงๆเถอะ พี่ก็ฝากซื้อขนมด้วยนี่" อึนบีพูดขึ้นพร้อมทำสีหน้ายิ้มแย้ม ฉันนี่ปรับอารมณ์ตามไม่ทันเลย แต่ก็ยอมไปกับเธอ เพราะก็จริงอย่างที่อึนบีพูด ถ้ากลับไปตัวเปล่ายองวอนต้องเซ้าซี้ถามฉันแน่ๆ
"อันนี้พี่ชอบกินมากๆ เลยตอนเด็กๆ เราต้องมาซื้อกันทุกวัน อันนี้ก็ด้วย" ตั้งแต่มาถึงอึนบีเอาแต่หยิบขนมที่บอกว่ายองวอนชอบกินใส่ตะกล้าจนเต็มไปหมด
ไม่นานอึนบีก็พาฉันมาส่งที่หน้าบริษัท ฉันต้องรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องซ้อมเพราะบอกยองวอนตั้งนานแล้วว่ากำลังกลับ
"ซารัง ทำไมไปนานจัง ฉันว่าจะออกไปตามแล้ว" ยองวอนพูดขึ้นทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้ามาในห้อง
"ขอโทษที ฉันมัวแต่เดินเล่นอยู่"
"เดินเล่นตอนนี้เนี้ยนะ เดี๋ยวก็ป่วยหรอกหนาวจะตาย" ยองวอนเดินมากอดคอฉันและพาไปตรงโต๊ะที่มีคนอื่นๆยืนอยู่
"แหม๋ เป็นห่วงกันเหลือเกิน" ฮยอนจุนทำเสียงกระแนะกนะแหนใส่ฉันกับยองวอน
"นี่ขนมที่ฝากซื้อ" ฉันวางถุงขนมที่อึนบีซื้อลงบนโต๊ะ ซึ่งมีทั้งหมด5ถุง เธอซื้อมาให้ทุกคนเลย
"ซารัง อันนี้ของฉันแน่หรอไม่ทีของโปรดฉันสักอย่าง ปกติเธอซื้อแต่ของที่ฉันชอบนี่" ซีโน่โวยวายและทำหน้างอแงใส่ฉัน
"นั่นสิ หรือว่าเดี๋ยวนี้จำได้แต่ของยองวอนแล้ว กลายเป็นแฟนคลับอันดับ1ของยองวอนคนเดียวแล้วหรอ" คราวนี้เป็นพี่จุนโฮที่กำลังค้นของในถุงขึ้นมาดูทีละอย่าง
"ก็น่าจะใช่นะจุนโฮ เพราะของฉันมีแต่ของโปรดทั้งนั้น" ยองวอนหันไปทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่พี่จุนโฮ "อื้อ เธอรู้ได้ไงว่าฉันชอบอันนี้มากๆเลย ตอนเด็กๆกินทุกวัน ฉันว่าไม่เคยบอกแฟนคลับนะ เธอนี่สุดยอดจริงๆ" เหอะ! ไม่เคยบอกแฟนคลับแต่นายเคยบอกแฟนเก่า
ในขณะที่ทุกคนเอาแต่แซวฉันกับยองวอนก็คงมีแต่พี่ซองมินที่เอาแต่ยืนจ้องฉันไม่พูดไม่จา นี่ฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า
"เธอออกไปข้างนอกกับใครมาหรอ" อยู่ดีๆพี่ซองมินก็ถามขึ้นมา
"ฉันจะไปกับใครได้คะ ก็ไปคนเดียวสิ" ฉันพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด
"ถ้าเธอโกหกพวกเรา ทุกคนจะโกรธเธอนะ" แต่เหมือนจะปิดบังพี่ซองมินไม่ได้ ตอนนี้คนอื่นๆที่กำลังเลือกขนมอยู่เงยหน้าขึ้นมามองฉันเป็นตาเดียว จะจ้องฉันพร้อมกับแบบนี้ไม่ได้นะ
"คือ ฉัน" ตอนนี้สมองกำลังทำการประมวลผลหาคำโกหกอยู่
"อึนบีใช่ไหม" พี่ซองมินไม่รอให้ฉันได้โกหกอะไร และเขาก็เหมือนจะรู้ตั้งแต่แรก
"เพราะแบบนี้ถึงซื้อมาแต่ของที่ยองวอนชอบสินะ เพราะอึนบีไม่รู้ว่าพวกเราชอบกินอะไร" ฮยอนจุนรีบวางขนมลงถุงเหมือนเดิม และเดินไปซ้อมเต้นต่อทันที พี่จุนโฮ ซีโน่ และพี่ซองมินก็เดินตามไปติดๆ ทำไมทุกคนทำหน้าเหมือนฉันทำความผิดร้ายแรงอะไรขนาดนั้น ฉันไม่มีทางเลือกเธอบอกไม่ให้บอกคนอื่นๆ
ปึ้ง!! ยองวอนวางถุงขนมลงบนโต๊ะอย่างแรง
"มานี่" เขาลากฉันออกมาจากห้องซ้อมทันที ดูเหมือนอสูรร้ายกำลังจะเข้าร่างยองวอนอีกแล้ว
"เดี๋ยว!!ยองวอน จะไปไหนเดี๋ยวมีคนเห็น" ฉันพยายามแกะมือของยองวอนออกแต่เขาก็กำแน่นจนฉันแกะออกไม่ได้
ยองวอนพาฉันมาที่รถ เขาเปิดประตูและดันตัวฉันเข้าไปก่อนจะเดินไปฝั่งคนขับและสตาร์ทรถออกจากบริษัททันที
"ยองวอน ขับช้าๆหน่อยฉันกลัว" ตอนนี้เขาดูโกรธมากซึ่งฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันยอมรับว่าสิ่งที่อึนบีพูดเริ่มทำให้สับสนและไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เขาขับรถเร็วมากจริงๆ ทั้งๆที่ปกติตอนกลางคืนยองวอนขับรถช้าเหมือนเต่าเดิน
"ยองวอน!!" ฉันตะโดนเรียกชื่อเขาจนลั่นรถเมื่อเห็นว่ามีรถอีกคันออกมาจากถนน กรี๊ดดดดดด
เอี้ยดดดด!!! ยองวอนเหยียบเบรคจนเสียงล้อกับถนนที่ถูกันดังสนั่น ฉันเองที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นและหมอบอยู่กับคอนโซลหน้ารถ กลัวจนทำอะไรไม่ถูกกลัวจนขยับตัวไม่ได้
"ซารัง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ซารัง" ยองวอนพยายามจะจับตัวฉันให้เงยขึ้น แต่ตัวฉันก็แข็งทื่อในใจคิดแต่ว่าพวกเขาเป็นอะไรหรือเปล่า คนบนรถคันนั้น
"พวกเขาเป็นอะไรไหม มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า" ฉันพูดทั้งๆที่ยังหมอบอยู่กับคอนโซลของรถ
"รออยู่นี่นะ" พูดจบยองวอนก็ลงจากรถไปทันที
ฉันไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าไปมองพวกเขา ถ้ามีคนได้รับบาดเจ็บ ฉันจะทำยังไงดี แต่ไม่นานยองวอนก็กลับเข้ามาในรถ
"ซารัง พวกเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเรายังไม่ทันจะชนกันเลย" ยองวอนพูดขณะที่ลูบหัวของฉันเพื่อให้ฉันหายกลัว ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองรถอีกคัน พวกเขากำลังเลี้ยวไปตามทางฉันเลยเห็นแค่ไฟท้ายรถเท่านั้น
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บหรือเปล่าหัวกระแทกหรอ" ยองวอนดึงฉันให้หันหน้าไปมองเขา ทำไมสถานการณ์ตอนนี้มันทำให้ฉันทั้งกลัวทั้งเจ็บหัวใจมากขนาดนี้
"ยองวอน" ฉันเรียกชื่อเขาแผ่วเบา "เรากลับบ้านกันเถอะ ฉันกลัว" เขาไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ขับรถกลับไปยังคอนโด หรือที่ฉันหลุดปากพูดไปว่าบ้าน มันคงเป็นสิ่งที่ฉันอยากจะพูดกับพ่อแม่พี่ดลในวันนั้น
ไม่นานเราก็กลับมาถึงคอนโด ยองวอนที่เอาแต่เดินจับมือฉันตั้งแต่ลงจากรถโดยไม่กลัวว่าจะมีคนมาเห็นซักนิด ตอนนี้เขาพาฉันมาที่ห้อง ฉันนั่งลงตรงโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กๆหน้าประตูระเบียงยองวอนก็นั่งลงอยู่ข้างๆฉัน
"ซารัง" ไม่นานเขาก็เรียกฉันและเอื้อมมือมาจับมือของฉัน
"นายโกรธอะไรฉันหรอ?" ฉันหันไปถามยองวอน ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีสติขึ้นมาแล้ว หลังจากเหตุการณ์เมื่อกี้
"ฉันขอโทษ ฉันแค่หงุดหงิดที่เธอออกไปเจออึนบีโดยที่ไม่บอกฉัน ทำไมเธอไม่บอกฉัน" ฉันมองหน้าของเขานิ่ง ดูเหมือนยองวอนคนที่โมโหร้ายคนเมื่อกี้จะหายไปแล้ว
"ฉันหวงนาย" ฉันตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกไป "ฉันไม่อยากให้นายเจอเธอ มองหน้าเธอ หรือคุยกับเธอ"
"ซารัง"
"ฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ นายกับอึนบีมันมีความสัมพันธ์อื่นที่ฉันไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงได้เลย ฉันถึงไม่อยากพูดออกมาไง"
"แต่เธอก็น่าจะบอกว่าอึนบีมาที่บริษัท ไหนเราสัญญาว่าจะไม่มีความลับต่อกันไง"
"นายมาเป็นศิลปินฝึกหัดทำไม?" ฉันไม่ควรเอาเรื่องนี้มางี่เง่าใส่ยองวอนเลย แต่ใจของฉันมันอึดอัดจนแทบจะระเบิด
"อึนบีบอกเรื่องนี้กับเธอแล้วสิ" เขาปล่อยมือของฉันออก “หึ! แบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้เธอไปเจออึนบี เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง เธอไม่ได้เชื่อใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้วต่อให้อึนบีไม่ทำอะไรเลยเธอก็ไม่เชื่อฉันอยู่ดี"
"ฉันพยายามแล้วยองวอน แต่เธอกับนายมันมีเรื่องราวมากมายเหลือเกินที่ฉันไม่สามารถเชื่อใจนายได้ การที่กลัวว่าจะเสียนายให้กับผู้หญิงที่นายรักมาตลอดหลายปี ผู้หญิงที่รู้ทุกอย่างที่นายชอบกิน ผู้หญิงที่ทำให้นายมาเป็นTrust5 มันผิดด้วยหรอ นายมองดูฉันสิไม่มีอะไรเทียบเธอได้สักนิด เธอสวย เธอเก่ง เธอมีพร้อมทุกอย่างแต่" ฉันที่กำลังโวยวายเพราะอยากระบายทุกอย่างออกมาอยู่ๆยองวอนก็ดึงฉันเข้าไปกอด น้ำตาของฉันไหลออกมาโดยที่ไม่สามารถบังคับมันได้อีกแล้ว
"อย่าพูดแบบนี้อีกฉันขอร้อง เธอจะดูถูกใครก็ได้ในโลกใบนี้ฉันทนได้ แต่ต้องไม่ใช่พโยซารังของฉัน" ยองวอนกอดฉันแน่นเขาลูบหัวเพื่อหวังว่ามันจะทำให้ฉันใจเย็นลงบ้าง
"อึนบีเป็นคนทำให้ฉันเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดก็จริงแต่คนที่ทำให้ฉันเป็นTrust5 คือเธอนะซารัง ไม่มีเธอไม่มีแฟนคลับฉันก็มาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เธอลืมแล้วหรอ พวกเราพูดคำนี้เสมอ" ทำไมฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย พวกเขามักพูดคำนี้ทุกครั้งที่อยู่บนเวทีไม่ว่าจะตอนที่แสดงคอนเสิร์ตหรือตอนที่ได้รับรางวัลต่างๆ
"ต้นทางกับปลายทางสำหรับฉัน มันไม่สำคัญเท่าระหว่างทางเราเจออะไรและใครอยู่กับเราบ้าง แต่เธออยู่กับฉันมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ระหว่างทางเธอก็ยังอยู่และฉันอยากให้เธออยู่จนถึงปลายทางของฉัน" ใจของฉันสมองของฉันเริ่มคิดตามสิ่งที่เขาพูด ยองวอนมักจะโมโหใส่ฉันก่อนที่จะบอกเหตุผลเสมอ แต่ทุกครั้งที่เขาบอกเหตุผลมันกลับทำให้ฉันเข้าใจและอภัยให้เขาทุกครั้ง
"ก็จริงอยู่ที่อึนบีรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉัน สิ่งที่ชอบสีที่ชอบสถานที่ที่ชอบ แต่เธอไม่สามารถรู้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดคืออะไร แต่กับพโยซารังที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นานเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มักจะมีคำพูดหรือการกระทำแสนซื่อบื่อที่ทำให้ฉันรู้สึกดีเสมอ เหมือนเธอรู้ว่าคำพูดไหนที่ฉันอยากได้ยิน การกระทำไหนที่ฉันอยากเห็น" ยองวอนพูดขณะที่เขายังกอดฉันอยู่ ฉันได้แต่อยู่นิ่งๆในอ้อมกอดของเขา เพราะฉันชอบที่ได้ฟังความรู้สึกทุกอย่างของเขา "เราอย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้อีกเลยนะ ตอนเธอเป็นแบบนี้มันไม่น่ารักเลยสักนิด" ฉันดันตัวออกจากยองวอนทันทีที่เขาพูดจบ
แปะ!! ฉันตีไปที่แขนของเขาอย่างแรงทำให้ยองวอนสะดุ้งพร้อมกับสีหน้าที่งงๆของเขา
"ตีฉันทำไม"
"นายว่าฉันไม่น่ารัก" ฉันปาดน้ำตาและหันหน้าหนีไปทางระเบียง
"555+ นี่ไงที่ฉันชอบ แบบนี้แหละท่าทางซื่อบื่อของเธอ" เขาหัวเราะชอบใจกับการแกล้งงอลของฉัน
"เห้อออ วันนี้เหนื่อยจังซ้อมก็เหนื่อย แฟนก็งอล" ยองวอนลงทิ้งตัวลงนอนที่ตักของฉันและพูดขึ้น
"ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะเชื่อนาย" ฉันก้มลงมามองหน้าของเขา
"ดีมาก ฉันชอบที่ได้นอนตักเธอแบบนี้มากกว่าหมอนอีก" สีหน้าของเขาดูมีความสุขและก็สบายใจมาก
"นายชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ" อยู่ๆฉันก็คิดถึงคำถามที่อึนบีถามฉันที่รถ ไม่ใช่เพราะยังน้อยใจอยู่ แต่ฉันเองก็สงสัยมานานแล้ว
"ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ตัวจริงๆไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เราไปปั่นจักรยานกัน ตอนที่เธอร้องไห้งอแงกอดฉันที่กองถ่ายรายการ ตอนที่เราเผลอหลับไปบนรถ แต่ครั้งแรกที่ฉันรู้ตัวว่าใจเต้นแรงมากก็ตอนที่ฉันเรียกเธอว่าพโยซารัง หลังจากนั้นทุกอย่างก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น พอได้นอนกับเธอก็เริ่มมั่นใจว่าฉันชอบเธอ แล้วไหนจะตอนที่ป่วยอีก พอเห็นเธออยู่กับพี่ซองมินฉันก็ทั้งโกรธทั้งอิจฉาจนทำตัวงี่เง่าใส่พี่ไป ก็แค่นั้นแหละ" แค่นั้นหรอ นี่มันไม่แค่นั้นน่ะแล้ว เขาจำได้ทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ
"นอนกับนายอะไรล่ะ แค่นอนเตียงเดียวกันเอง" นายพูดแบบนี้ฉันก็เสียหายนะสิ
"ก็เหมือนกันนั่นแหละ เธอกอดฉันแน่นเลย" ยองวอนทำเสียงล้อเลียนฉันอีกแล้ว
"เลิกล้อฉันเรื่องนี้ได้แล้วน่า"
"แล้วเธอล่ะ ชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ฉันไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันชอบ แล้วก็ชอบมากด้วย"
"แค่เนี้ย ฉันอุตส่าพูดตั้งเยอะ โหว! น่าน้อยใจมาก" ยองวอนลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับทำหน้าน้อยใจและแกล้งหันไปทางอื่น เป็นการน้อยใจที่น่ารักมาก
"ยองวอน"
"หึ้"
จุ๊บ!! ฉันแกล้งเรียกให้เขาหันมา พอยองวอนหันมาก็รีบยื่นหน้าเข้าไปจุ้บที่ริมฝีปากของเขาทันที
อร้าย!! เขินๆๆๆ เขาอมยิ้มนิดหน่อยและลงไปนอนที่ตักของฉันเหมือนเดิม
"ถ้าเธอง้อแบบนี้ฉันจะงอลเธอทุกๆ5นาทีเลย" ยองวอนนอนหลับตาลงพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่แสนจะน่ารักทำให้ฉันละสายตาจากเขาไม่ได้เลยจริงๆ
ตอนนี้ทุกคนยังไม่กลับมา ฉันก็แอบดีใจที่ยังไม่มีใครกลับมา ขอฉันอยู่แบบนี้อีกสักเดี๋ยวนะทุกคน ฉันอยากเห็นยองวอนนอนยิ้มมีความสุขแบบนี้บนตักของฉันนานๆ
กรึก!!! แล้วววว ฝันมันก็สลายไปในพริบตา เมื่อมีคนอื่นเปิดประตูเข้ามาในห้องของฉันในขณะที่ยองวอนกำลังนอนยิ้มฝันหวานอยู่บนตัก ฉันหันไปมองที่ประตูแล้วก็ต้องตกใจจนร่างกายทำงานก่อนที่สมองจะสั่งเสียอีก ฉันลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติโดยลืมไปว่ายองวอนกำลังนอนตักของฉันอยู่
“โอ๊ยยยย ยัยลูกหมาขาสั้นมันเจ็บนะ” ยองวอนร้องโอดโอยเมื่อหัวของเขากระแทกกับพื้นเพราะฉันรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้บอกเขาก่อนล่วงหน้า
“ลูกชาย” ตามด้วยเสียงเรียกของคุณแม่ยองวอนซึ่งเป็นบุคคลที่ทำให้ฉันตกใจจนลืมทุกอย่าง ถึงฉันจะไม่เคยเจอคุณแม่ของยองวอนมาก่อนแต่ก็เคยเห็นอยู่บ่อยๆจากการสัมภาษณ์ต่างๆ
“แม่!!” ยองวอนหันไปทางต้นเสียงทันที แต่เขากลับไม่มีสีหน้าของความตกใจเลยสักนิดต่างจากฉันมาก จากนั้นเขาก็เดินไปทางท่านและสวมกอด เป็นภาพที่แสนจะอบอุ่นจนฉันรู้สึกอิจฉาและคิดถึงพ่อกับแม่มากๆ แต่ทำไมอยู่ๆท่านถึงมาได้ แถมมาเห็นภาพแบบนี้อีกต่างหาก แล้วฉันจะกล้ามองหน้าคุณแม่ของยองวอนไหมเนี้ย ไม่น่าเลยยยย
“เข้ามาก่อนสิครับ” ยองวอนเดินจับมือคุณแม่ของเขาและพามานั่งที่เตียงของฉัน ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้เพราะไม่กล้าขยับไปไหนจริงๆ
“ซารัง นี่แม่ฉันเอง”
“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบก้มหัวและกล่าวทักทายตามมารยาททันที
“มานี่สิ ไปยื่นทำอะไรตรงนั้น” คุณแม่ของยองวอนเรียกให้ฉันเข้าไปนั่งข้างๆตอนนี้ใจฉันเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่ยองวอนจูบฉันครั้งแรกอีก ฉันค่อยๆเดินไปนั่งที่พื้นฝั่งขวามือของคุณแม่ซึ่งมียองวอนนั่งอยู่ที่ฝั่งซ้าย
“ชอบลูกชายฉันหรอ” อยู่ๆคุณแม่ของยองวอนก็ถามขึ้นมาดื้อๆ โอ๊ย!! ฉันทำตัวไม่ถูกแล้ว มือเริ่มสั่นเพราะความตื่นเต้น
“ค่ะ” ฉันตอบด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับก้มหน้าลงมองที่พื้นเพราะไม่กล้าสบตาของคุณแม่
“แม่ อย่าแกล้งเธอสิครับ เดี๋ยวยัยลูกหมาก็กลั้นหายใจอีก รู้ไหมครับเวลาเธอตกใจมากๆจะชอบกลั้นหายใจนะ”
“555+ โอเคจ้ะ โอเค” คุณแม่ของยองวอนหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่ฉันนี่สิยิ้มไม่ออกจริงๆ
“ทำไมมาถึงแล้วไม่โทรหาผมล่ะ จะได้ไปรับ”
“เพราะลูกซ้อมอยู่แม่เลยไม่อยากกวน”
“กวนที่ไหน แม่ผมมาหาทั้งที แล้วพ่อล่ะครับ”
“รายนั้นไปเที่ยวกับเพื่อนยังไม่กลับเลย”
“โหววว แม่คงตื่นเต้นมากสินะถึงได้รีบมา ไม่รอพ่อแบบนี้”
“ก็ใช่สิ แม่อยากเห็นหน้าแฟนแกจะแย่ แต่ก็ไม่ผิดหวังที่นั่งรถมาตั้งไกล น่ารักสมกับที่อวดเอาไว้จริงๆ”
นี่ยองวอนไปเล่าเรื่องฉันให้คุณแม่ฟังแน่ๆ โอ๊ย!! ฉันไม่น่าไปพูดน้อยใจเรื่องที่เขาแนะนำฉันให้พ่อแม่อึนบีแทนที่จะเป็นพ่อแม่ของเขา ไม่น่าเลยจริงๆซารัง
“ใช่ไหมล่ะ ผมไม่โกหกแม่หรอก”
“แล้วหนูชื่ออะไรละจ้ะ” คราวนี้คุณแม่หันมาถามฉันบ้างหลังจากที่ฉันเอาแต่นั่งเงียบอยู่นาน
“พาราดาค่ะ”
“อ่าว แม่นึกว่าชื่อซารัง ได้ยินยองวอนกับเพื่อนๆเรียกแบบนั้นนี่”
“อ่อ ชื่อซารังผมเป็นคนตั้งเองครับ เพราะเธอเป็นคนไทยผมเลยตั้งชื่อให้เธอว่าพโยซารังไง” ยองวอนยิ้มให้คุณแม่พร้อมกับพูดแบบเขินๆ แต่นายไม่ต้องบอกว่าเรียกฉันว่าพโยซารังก็ได้มั้ง ฉันนี่จะบ้าตาย
“นี่ เที่ยวเรียกลูกสาวคนอื่นเขาเหมือนเป็นภรรยาตัวเองแบบนี้ ไปขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่เขาหรือยังเจ้าลูกชายตัวดี”
“เอ่อออ” เพราะยองวอนอ้ำอึ้งที่จะพูดเรื่องพ่อแม่ของฉัน ฉันเลยตัดสินใจเป็นคนพูดออกไปเอง
“คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูเสียไปหมดแล้วค่ะ” พอฉันพูดจบคุณแม่ก็รีบหันกลับมามองหน้าของฉันทันที
“อย่างงั้นหรอ แม่ขอโทษจริงๆ เพราะยองวอนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย โทรไปทีไรก็เอาแต่พูดว่าหนูน่ารักอย่างงั้นอย่างงี้ 555+ ฉันก็พึ่งเคยเห็นเจ้าตัวดีมีความสุขขนาดนี้เหมือนกัน” คุณแม่ของยองวอนยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่นและใจดี ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ารอยยิ้มที่แสนจะน่าหลงไหลของยองวอนได้มาจากคุณแม่คนสวยของเขานี่เอง เหมือนกันมากจริงๆ
“เอาไว้ว่างๆ ลูกก็พาเธอไปเที่ยวที่บ้านเราบ้างสิ เพราะเสียพ่อแม่ไปแล้วที่ผ่านมาคงลำบาก แต่เธอกลับโตมาได้อย่างดีและน่ารักขนาดนี้ แถมเก่งอีกต่างหาก ฉันฝันอยากจะมีลูกสาวน่ารักๆแบบนี้มานานแล้ว แต่ได้ลูกชายตัวแสบมาแทน555+”
“แม่พูดแบบนี้ผมก็น้อยใจนะ”
“555+” คุณแม่หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจที่เห็นลูกชายทำหน้างอใส่ “ขอบคุณที่คอยดูแลยองวอนแทนฉัน ขอบคุณเธอที่ทำให้ลูกชายฉันมีความสุขขนาดนี้ หลังจากที่คนเป็นแม่ไม่ได้เห็นมานาน แล้วก็ขอบคุณที่หนูโตมาเป็นคนเก่งและก็น่ารักขนาดนี้ด้วย”
"ซารังเสร็จหรือยัง เดี๋ยวสายนะ" เสียงเคาะประตูที่ดังมาพร้อมกับเสียงเรียกของยองวอน ฉันที่เลือกเสื้อผ้าใส่ไม่ได้เลยก็ต้องเดินออกไปเปิดประตูให้เขา
"นายรออีกแปปนึงได้ไหม ฉันยังไม่เสร็จเลย" ฉันพูดเมื่อเปิดประตูให้ยองวอน
"ทำไมวันนี้นานจัง ปกติเธอแต่งตัวเร็วกว่าซีโน่ซะอีก" ซีโน่ผู้ขึ้นชื่อเรื่องแต่งตัวเร็ว
"คือว่า ฉัน"
"นี่เลือกเสื้อผ้าอยู่หรอ" ยองวอนหันไปมองในห้องแต่งตัวก็เห็นกองเสื้อผ้าที่ฉันถอดเอาไว้ โอ้ย แล้วทำไมต้องมาเห็นด้วยเนี้ย
"555+ เธอกลัวไม่สวยหรอ กลัวฉันไม่ชอบใช่ป่ะ"
"อย่ามาหลงตัวเอง ฉันแค่อยากเปลี่ยนการแต่งตัวบ้าง"
"เสื้อผ้าเธอมีแต่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เลือกไปก็เท่านั้นแหละ ไว้วันหลังฉันพาไปซื้อใหม่ดีกว่า แต่ตอนนี้ฉันต้องไปซ้อมแล้ว สายเดี๋ยวพี่ซองมินจะบ่นเอา" เขาคว้ากระเป๋าที่อยู่ในห้องแต่งตัวและจับมือของฉันให้เดินตามไปที่รถ
"อีก2อาทิตย์ก็ถึงคอนเสิร์ตแล้ว การแสดงตอนของนายเรียบร้อยแล้วใช่ไหม" ฉันถามขึ้นเมื่อเราเข้ามานั่งในรถ
"ก็เรียบร้อยนะ แต่ฉันไม่ค่อยมั่นใจ ฉันแสดงไม่เก่งเหมือนจุนโฮด้วย" ยองวอนพูดขึ้นพร้อมกับขับรถออกจากลานจอดรถ
"นายก็แค่คิดว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆสิ เหมือนกลับไปตอนนั้นอีกครั้ง เดจาวูน่ะ เคยเป็นไหม"
"เคยสิ เป็นบ่อยด้วย" เขาตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี้ย"
"ก็แค่มีความสุขแค่นั้นเอง"
@ห้องซ้อมTrust5
"มาแล้วหรอคู่รักคู่ใหม่" เสียงซีโน่ตะโกนพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันกับยองวอนมาถึง ทำให้ฉันต้องรีบวิ่งไปปิดปากของเขาทัน
"นายจะเสียงดังทำไม เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยิน"
"ขอโทษๆ ฉันลืมตัว" เขาแกะมือฉันออกจากปากตัวเองและรีบขอโทษทันที
"มาครบแล้ว รีบซ้อมกันเถอะ อีกไม่นานก็ถึงคอนเสิร์ตแล้ว" พี่ซองมินเริ่มทำหน้าที่หัวหน้าวงสุดเท่แล้ว
ฉันรู้สึกดีมากที่ได้มานั่งดูพวกเขาซ้อมแบบนี้ จากเมื่อก่อนที่ต้องรอตั้งหลายเดือนพอรู้ว่าTrust5จะมีคอนเสิร์ตพวกเราก็ตื่นเต้นมา แล้วก็รอวันที่พวกเขาจะมาพอได้มานั่งดูแบบนี้ยังรู้สึกไม่เชื่อตัวเองอยู่เลยว่าจะมีวันนี้ได้ พวกเขาเริ่มซ้อมเพลงจากอัลบั้มใหม่ และยังมีบางเพลงที่เป็นของอัลบั้มเก่าด้วย เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงพวกเขาต้องซ้อมกันหนักจริงๆต่างคนต่างออกความคิดเห็นเพื่อให้การแสดงของพวกเขาออกมาดีที่สุดให้สมกับที่ทุกคนรอคอย
“ในเวลานี้จะมีแค่เราสองคน ผมไม่อยากปล่อยให้มันจางหาย
เป็นอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป...”
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นทำให้ต้องละสายตาจากหนุ่มๆทั้ง5คนตรงหน้า ฉันรีบเดินออกไปนอกห้องซ้อม เพราะในนี้เสียงดังมาก แต่เบอร์บนหน้าจอเป็นเบอร์ใหม่ที่ฉันไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่อง ฉันกดรับสายด้วยความสงสัย
"สวัสดีค่ะ" พร้อมกับกล่าวทักทายปลายสายทันที
"นี่เบอร์ซารังใช่ไหมคะ" ปลายสายที่เป็นผู้หญิงถามขึ้น
"ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่านั่นใครคะ"
"ฉันเอง โกอึนบี" โกอึนบี!! แล้วเธอโทรมาทำไมเนี้ย
"อ่อค่ะ ไม่ทราบว่าคุณอึนบีมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"
"พูดธรรมดากับฉันก็ได้ เหมือนที่พูดกับซีโน่กับฮยอนจุนน่ะ เราอายุเท่ากัน"
"เอ่ออ ฉันไม่ค่อยชินน่ะ"
"ฉันอยู่หน้าบริษัท ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม"
"ฉันหรอ?"
"ใช่ แต่ไม่ต้องบอกพี่ยองวอนนะ ฉันอยากคุยกับเธอสองคน"
"ได้ค่ะ" ฉันใช้เวลาคิดอยู่นิดหน่อยแต่ก็ตอบรับเธอกลับไป เธอบอกว่าจอดรถรออยู่ข้างบริษัทฉันจึงเดินออกมาตามทางที่เธอบอก ไม่นานก็เจอรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งจอดอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาคุยข้างในรถเถอะ ข้างนอกมันหนาว" อึนบีเลื่อนกระจกรถลงหลังจากที่ฉันเคาะไม่นาน
"คุณมีเรื่องอะไรหรอคะ" ฉันที่ตอนนี้เข้ามานั่งในรถเริ่มถามขึ้น
"คือ เรื่องวันนั้น" เธออ้ำอึ้งอยู่นิดหน่อย "ฉันขอโทษที่พูดแบบนั้นไปนะ" อึนบีคงจะหมายถึงคำพูดที่ทำให้ฉันรู้สึกสมเพชตัวเอง
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ" ฉันตอบรับพร้อมยิ้มให้เธอเล็กน้อย
"แต่ที่มาวันนี้ ฉันตั้งใจจะมาถามเรื่องของเธอกับพี่ยองวอน" เข้าเรื่องได้สักที "เธอกับพี่คบกันอยู่จริงๆหรอ"
"จริงค่ะ"
"เธอชอบเขาจริงๆหรอ"
"จริงค่ะ" คำตอบของฉันมันมีแค่นี้จริงๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ลึกๆแล้วก็สงสารเธอนิดหน่อยแต่ถ้าเรื่องที่พี่ซองมินพูดที่สระน้ำวันนั้นเป็นเรื่องจริง ยองวอนก็ไม่ควรกลับไปหาเธอ
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพี่ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ถ้าเป็นเรื่องคบกันเราพึ่งคบกันได้ไม่นาน แต่ถ้าเรื่องที่ยองวอนชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณคงต้องไปถามเขาเอง" เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
"งั้นเธอก็คงรู้แล้วสิว่าฉันเป็นแฟนเก่าพี่"
"รู้ค่ะ"
"ฉันรักพี่ ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่เพราะเรื่องบางอย่างทำให้เราผิดใจกัน จนฉันต้องไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ฉันไม่เคยหยุดรักพี่ถึงได้กลับมา" อึนบีเริ่มบรรยายถึงอดีตความรักอันสวยงาม "ฉันคิดว่าพี่ยังรักฉันอยู่ แต่คงเพราะโกรธฉันมากและเราก็ห่างกันไปนานมาก พี่คงกำลังสับสน" แล้วทำไมเธอไม่ไปพูดแบบนี้กับยองวอนเองล่ะ
"คุณคงไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเรารักกันมากแค่ไหน เราสนิทกันตั้งแต่เด็กที่พี่ยอมมาเป็นศิลปินฝึกหัดก็เพราะสัญญากับฉันไว้” เรื่องนี้ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย ใช่แล้วฉันติดตามพวกเขามาหลายปี แต่คนเดียวที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดคือยองวอน นี่หรอเหตุผลที่เขาไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เพราะสาเหตุคืออึนบีสินะ ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้ก็ไม่รู้
"10ปีที่เราอยู่ด้วยกัน เธอคงไม่คิดว่าพี่จะเลิกรักฉันได้ง่ายๆหรอกใช่ไหม" อึนบีพูดต่อเมื่อเห็นฉันเอาแต่นั่งเงียบ
"เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องของคุณสองคน คุณน่าจะไปคุยกับยองวอนมากกว่านะคะ" ฉันไปเกี่ยวอะไรกับความรัก100ปีของพวกเขา ทำไมต้องลากฉันลงมานั่งฟังเรื่องพวกนี้
"คุยกับเธอนี่แหละถูกแล้ว เพราะพี่โกรธฉันอยู่ คุยไปก็ไม่มีประโยชน์"
"แล้วคุณต้องการให้ฉันทำอะไร" ฉันคิดว่าเธอควรจะพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาตรงๆดีกว่ามานั่งพูดเรื่องในอดีตของพวกเขาให้ฉันเจ็บ
"ฉันอยากให้คุณถอยออกมาจากพี่ ถ้าสิ่งที่ฉันคิดมันถูก แล้วพี่ยังรักฉันอยู่คุณเองอาจจะต้องเป็นคนเจ็บที่สุด"
แล้วถ้าสิ่งที่เธอคิดมันผิดล่ะโกอึนบี ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งเธอแค่เพราะเธอเคยคบกับยองวอนน่ะหรอ
"ขอโทษนะ แต่เรื่องนั้นฉันคงทำให้ไม่ได้" ฉันสบตากับอึนบี "ถ้าฉันจะถอยก็ขอให้เป็นเพราะยองวอนต้องการแบบนั้น ฉันเข้าใจเรื่องที่คุณพูด แต่ไม่จำเป็นที่ฉันต้องทำตามแค่เพราะพวกคุณเคยคบกัน ขอบคุณที่เป็นห่วงว่าฉันจะเสียใจแล้วก็ขอโทษจริงๆค่ะ" พูดจบฉันก็รีบเปิดประตูรถทันที แต่อึนบีก็เอื้อมมือมาดึงมือฉันไว้
"ฉันจะทำให้พี่กลับมาให้ได้" ตอนนี้สายตาที่เธอจ้องมาที่ฉันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ในเวลานี้จะมีแค่เราสองคน ผมไม่อยากปล่อยให้มันจางหาย
เป็นอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป...”
ฉันหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าและพบว่าเป็นยองวอนที่โทรมา
"ซารังเธออยู่ไหน" เสียงยองวอนดังมากเพราะต้องตะโกนแข่งกับคนอื่นๆในห้องซ้อม อึนบีที่เหมือนจะได้ยินเธอเอาแต่จ้องฉันยกใหญ่
"ฉันหิว เลยออกมาซื้อของ"
"ไปคนเดียวหรอ ทำไมไม่เรียกฉัน ดึกขนาดนี้มันอันตราย"
"นายซ้อมอยู่ไม่อยากกวน แค่นี้นะฉันจะกลับแล้ว"
"เดี๋ยวก่อน ซื้อขนมอร่อยๆมาให้ฉันกินด้วย"
ยองวอนกดวางสายทันทีที่สั่งให้ฉันซื้อของกินเสร็จ ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและกำลังจะเดินลงจากรถ
"เธอบอกพี่ว่าออกมาซื้อของไม่ใช่หรอ ถ้ากลับไปตัวเปล่าเขาจะสงสัยเอานะ งั้นเราก็ไปซื้อของกันจริงๆเถอะ พี่ก็ฝากซื้อขนมด้วยนี่" อึนบีพูดขึ้นพร้อมทำสีหน้ายิ้มแย้ม ฉันนี่ปรับอารมณ์ตามไม่ทันเลย แต่ก็ยอมไปกับเธอ เพราะก็จริงอย่างที่อึนบีพูด ถ้ากลับไปตัวเปล่ายองวอนต้องเซ้าซี้ถามฉันแน่ๆ
"อันนี้พี่ชอบกินมากๆ เลยตอนเด็กๆ เราต้องมาซื้อกันทุกวัน อันนี้ก็ด้วย" ตั้งแต่มาถึงอึนบีเอาแต่หยิบขนมที่บอกว่ายองวอนชอบกินใส่ตะกล้าจนเต็มไปหมด
ไม่นานอึนบีก็พาฉันมาส่งที่หน้าบริษัท ฉันต้องรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องซ้อมเพราะบอกยองวอนตั้งนานแล้วว่ากำลังกลับ
"ซารัง ทำไมไปนานจัง ฉันว่าจะออกไปตามแล้ว" ยองวอนพูดขึ้นทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้ามาในห้อง
"ขอโทษที ฉันมัวแต่เดินเล่นอยู่"
"เดินเล่นตอนนี้เนี้ยนะ เดี๋ยวก็ป่วยหรอกหนาวจะตาย" ยองวอนเดินมากอดคอฉันและพาไปตรงโต๊ะที่มีคนอื่นๆยืนอยู่
"แหม๋ เป็นห่วงกันเหลือเกิน" ฮยอนจุนทำเสียงกระแนะกนะแหนใส่ฉันกับยองวอน
"นี่ขนมที่ฝากซื้อ" ฉันวางถุงขนมที่อึนบีซื้อลงบนโต๊ะ ซึ่งมีทั้งหมด5ถุง เธอซื้อมาให้ทุกคนเลย
"ซารัง อันนี้ของฉันแน่หรอไม่ทีของโปรดฉันสักอย่าง ปกติเธอซื้อแต่ของที่ฉันชอบนี่" ซีโน่โวยวายและทำหน้างอแงใส่ฉัน
"นั่นสิ หรือว่าเดี๋ยวนี้จำได้แต่ของยองวอนแล้ว กลายเป็นแฟนคลับอันดับ1ของยองวอนคนเดียวแล้วหรอ" คราวนี้เป็นพี่จุนโฮที่กำลังค้นของในถุงขึ้นมาดูทีละอย่าง
"ก็น่าจะใช่นะจุนโฮ เพราะของฉันมีแต่ของโปรดทั้งนั้น" ยองวอนหันไปทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่พี่จุนโฮ "อื้อ เธอรู้ได้ไงว่าฉันชอบอันนี้มากๆเลย ตอนเด็กๆกินทุกวัน ฉันว่าไม่เคยบอกแฟนคลับนะ เธอนี่สุดยอดจริงๆ" เหอะ! ไม่เคยบอกแฟนคลับแต่นายเคยบอกแฟนเก่า
ในขณะที่ทุกคนเอาแต่แซวฉันกับยองวอนก็คงมีแต่พี่ซองมินที่เอาแต่ยืนจ้องฉันไม่พูดไม่จา นี่ฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า
"เธอออกไปข้างนอกกับใครมาหรอ" อยู่ดีๆพี่ซองมินก็ถามขึ้นมา
"ฉันจะไปกับใครได้คะ ก็ไปคนเดียวสิ" ฉันพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด
"ถ้าเธอโกหกพวกเรา ทุกคนจะโกรธเธอนะ" แต่เหมือนจะปิดบังพี่ซองมินไม่ได้ ตอนนี้คนอื่นๆที่กำลังเลือกขนมอยู่เงยหน้าขึ้นมามองฉันเป็นตาเดียว จะจ้องฉันพร้อมกับแบบนี้ไม่ได้นะ
"คือ ฉัน" ตอนนี้สมองกำลังทำการประมวลผลหาคำโกหกอยู่
"อึนบีใช่ไหม" พี่ซองมินไม่รอให้ฉันได้โกหกอะไร และเขาก็เหมือนจะรู้ตั้งแต่แรก
"เพราะแบบนี้ถึงซื้อมาแต่ของที่ยองวอนชอบสินะ เพราะอึนบีไม่รู้ว่าพวกเราชอบกินอะไร" ฮยอนจุนรีบวางขนมลงถุงเหมือนเดิม และเดินไปซ้อมเต้นต่อทันที พี่จุนโฮ ซีโน่ และพี่ซองมินก็เดินตามไปติดๆ ทำไมทุกคนทำหน้าเหมือนฉันทำความผิดร้ายแรงอะไรขนาดนั้น ฉันไม่มีทางเลือกเธอบอกไม่ให้บอกคนอื่นๆ
ปึ้ง!! ยองวอนวางถุงขนมลงบนโต๊ะอย่างแรง
"มานี่" เขาลากฉันออกมาจากห้องซ้อมทันที ดูเหมือนอสูรร้ายกำลังจะเข้าร่างยองวอนอีกแล้ว
"เดี๋ยว!!ยองวอน จะไปไหนเดี๋ยวมีคนเห็น" ฉันพยายามแกะมือของยองวอนออกแต่เขาก็กำแน่นจนฉันแกะออกไม่ได้
ยองวอนพาฉันมาที่รถ เขาเปิดประตูและดันตัวฉันเข้าไปก่อนจะเดินไปฝั่งคนขับและสตาร์ทรถออกจากบริษัททันที
"ยองวอน ขับช้าๆหน่อยฉันกลัว" ตอนนี้เขาดูโกรธมากซึ่งฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันยอมรับว่าสิ่งที่อึนบีพูดเริ่มทำให้สับสนและไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เขาขับรถเร็วมากจริงๆ ทั้งๆที่ปกติตอนกลางคืนยองวอนขับรถช้าเหมือนเต่าเดิน
"ยองวอน!!" ฉันตะโดนเรียกชื่อเขาจนลั่นรถเมื่อเห็นว่ามีรถอีกคันออกมาจากถนน กรี๊ดดดดดด
เอี้ยดดดด!!! ยองวอนเหยียบเบรคจนเสียงล้อกับถนนที่ถูกันดังสนั่น ฉันเองที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นและหมอบอยู่กับคอนโซลหน้ารถ กลัวจนทำอะไรไม่ถูกกลัวจนขยับตัวไม่ได้
"ซารัง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ซารัง" ยองวอนพยายามจะจับตัวฉันให้เงยขึ้น แต่ตัวฉันก็แข็งทื่อในใจคิดแต่ว่าพวกเขาเป็นอะไรหรือเปล่า คนบนรถคันนั้น
"พวกเขาเป็นอะไรไหม มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า" ฉันพูดทั้งๆที่ยังหมอบอยู่กับคอนโซลของรถ
"รออยู่นี่นะ" พูดจบยองวอนก็ลงจากรถไปทันที
ฉันไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าไปมองพวกเขา ถ้ามีคนได้รับบาดเจ็บ ฉันจะทำยังไงดี แต่ไม่นานยองวอนก็กลับเข้ามาในรถ
"ซารัง พวกเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเรายังไม่ทันจะชนกันเลย" ยองวอนพูดขณะที่ลูบหัวของฉันเพื่อให้ฉันหายกลัว ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองรถอีกคัน พวกเขากำลังเลี้ยวไปตามทางฉันเลยเห็นแค่ไฟท้ายรถเท่านั้น
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บหรือเปล่าหัวกระแทกหรอ" ยองวอนดึงฉันให้หันหน้าไปมองเขา ทำไมสถานการณ์ตอนนี้มันทำให้ฉันทั้งกลัวทั้งเจ็บหัวใจมากขนาดนี้
"ยองวอน" ฉันเรียกชื่อเขาแผ่วเบา "เรากลับบ้านกันเถอะ ฉันกลัว" เขาไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ขับรถกลับไปยังคอนโด หรือที่ฉันหลุดปากพูดไปว่าบ้าน มันคงเป็นสิ่งที่ฉันอยากจะพูดกับพ่อแม่พี่ดลในวันนั้น
ไม่นานเราก็กลับมาถึงคอนโด ยองวอนที่เอาแต่เดินจับมือฉันตั้งแต่ลงจากรถโดยไม่กลัวว่าจะมีคนมาเห็นซักนิด ตอนนี้เขาพาฉันมาที่ห้อง ฉันนั่งลงตรงโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กๆหน้าประตูระเบียงยองวอนก็นั่งลงอยู่ข้างๆฉัน
"ซารัง" ไม่นานเขาก็เรียกฉันและเอื้อมมือมาจับมือของฉัน
"นายโกรธอะไรฉันหรอ?" ฉันหันไปถามยองวอน ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีสติขึ้นมาแล้ว หลังจากเหตุการณ์เมื่อกี้
"ฉันขอโทษ ฉันแค่หงุดหงิดที่เธอออกไปเจออึนบีโดยที่ไม่บอกฉัน ทำไมเธอไม่บอกฉัน" ฉันมองหน้าของเขานิ่ง ดูเหมือนยองวอนคนที่โมโหร้ายคนเมื่อกี้จะหายไปแล้ว
"ฉันหวงนาย" ฉันตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกไป "ฉันไม่อยากให้นายเจอเธอ มองหน้าเธอ หรือคุยกับเธอ"
"ซารัง"
"ฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ นายกับอึนบีมันมีความสัมพันธ์อื่นที่ฉันไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงได้เลย ฉันถึงไม่อยากพูดออกมาไง"
"แต่เธอก็น่าจะบอกว่าอึนบีมาที่บริษัท ไหนเราสัญญาว่าจะไม่มีความลับต่อกันไง"
"นายมาเป็นศิลปินฝึกหัดทำไม?" ฉันไม่ควรเอาเรื่องนี้มางี่เง่าใส่ยองวอนเลย แต่ใจของฉันมันอึดอัดจนแทบจะระเบิด
"อึนบีบอกเรื่องนี้กับเธอแล้วสิ" เขาปล่อยมือของฉันออก “หึ! แบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้เธอไปเจออึนบี เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง เธอไม่ได้เชื่อใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้วต่อให้อึนบีไม่ทำอะไรเลยเธอก็ไม่เชื่อฉันอยู่ดี"
"ฉันพยายามแล้วยองวอน แต่เธอกับนายมันมีเรื่องราวมากมายเหลือเกินที่ฉันไม่สามารถเชื่อใจนายได้ การที่กลัวว่าจะเสียนายให้กับผู้หญิงที่นายรักมาตลอดหลายปี ผู้หญิงที่รู้ทุกอย่างที่นายชอบกิน ผู้หญิงที่ทำให้นายมาเป็นTrust5 มันผิดด้วยหรอ นายมองดูฉันสิไม่มีอะไรเทียบเธอได้สักนิด เธอสวย เธอเก่ง เธอมีพร้อมทุกอย่างแต่" ฉันที่กำลังโวยวายเพราะอยากระบายทุกอย่างออกมาอยู่ๆยองวอนก็ดึงฉันเข้าไปกอด น้ำตาของฉันไหลออกมาโดยที่ไม่สามารถบังคับมันได้อีกแล้ว
"อย่าพูดแบบนี้อีกฉันขอร้อง เธอจะดูถูกใครก็ได้ในโลกใบนี้ฉันทนได้ แต่ต้องไม่ใช่พโยซารังของฉัน" ยองวอนกอดฉันแน่นเขาลูบหัวเพื่อหวังว่ามันจะทำให้ฉันใจเย็นลงบ้าง
"อึนบีเป็นคนทำให้ฉันเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดก็จริงแต่คนที่ทำให้ฉันเป็นTrust5 คือเธอนะซารัง ไม่มีเธอไม่มีแฟนคลับฉันก็มาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เธอลืมแล้วหรอ พวกเราพูดคำนี้เสมอ" ทำไมฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย พวกเขามักพูดคำนี้ทุกครั้งที่อยู่บนเวทีไม่ว่าจะตอนที่แสดงคอนเสิร์ตหรือตอนที่ได้รับรางวัลต่างๆ
"ต้นทางกับปลายทางสำหรับฉัน มันไม่สำคัญเท่าระหว่างทางเราเจออะไรและใครอยู่กับเราบ้าง แต่เธออยู่กับฉันมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ระหว่างทางเธอก็ยังอยู่และฉันอยากให้เธออยู่จนถึงปลายทางของฉัน" ใจของฉันสมองของฉันเริ่มคิดตามสิ่งที่เขาพูด ยองวอนมักจะโมโหใส่ฉันก่อนที่จะบอกเหตุผลเสมอ แต่ทุกครั้งที่เขาบอกเหตุผลมันกลับทำให้ฉันเข้าใจและอภัยให้เขาทุกครั้ง
"ก็จริงอยู่ที่อึนบีรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉัน สิ่งที่ชอบสีที่ชอบสถานที่ที่ชอบ แต่เธอไม่สามารถรู้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดคืออะไร แต่กับพโยซารังที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นานเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มักจะมีคำพูดหรือการกระทำแสนซื่อบื่อที่ทำให้ฉันรู้สึกดีเสมอ เหมือนเธอรู้ว่าคำพูดไหนที่ฉันอยากได้ยิน การกระทำไหนที่ฉันอยากเห็น" ยองวอนพูดขณะที่เขายังกอดฉันอยู่ ฉันได้แต่อยู่นิ่งๆในอ้อมกอดของเขา เพราะฉันชอบที่ได้ฟังความรู้สึกทุกอย่างของเขา "เราอย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้อีกเลยนะ ตอนเธอเป็นแบบนี้มันไม่น่ารักเลยสักนิด" ฉันดันตัวออกจากยองวอนทันทีที่เขาพูดจบ
แปะ!! ฉันตีไปที่แขนของเขาอย่างแรงทำให้ยองวอนสะดุ้งพร้อมกับสีหน้าที่งงๆของเขา
"ตีฉันทำไม"
"นายว่าฉันไม่น่ารัก" ฉันปาดน้ำตาและหันหน้าหนีไปทางระเบียง
"555+ นี่ไงที่ฉันชอบ แบบนี้แหละท่าทางซื่อบื่อของเธอ" เขาหัวเราะชอบใจกับการแกล้งงอลของฉัน
"เห้อออ วันนี้เหนื่อยจังซ้อมก็เหนื่อย แฟนก็งอล" ยองวอนลงทิ้งตัวลงนอนที่ตักของฉันและพูดขึ้น
"ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะเชื่อนาย" ฉันก้มลงมามองหน้าของเขา
"ดีมาก ฉันชอบที่ได้นอนตักเธอแบบนี้มากกว่าหมอนอีก" สีหน้าของเขาดูมีความสุขและก็สบายใจมาก
"นายชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ" อยู่ๆฉันก็คิดถึงคำถามที่อึนบีถามฉันที่รถ ไม่ใช่เพราะยังน้อยใจอยู่ แต่ฉันเองก็สงสัยมานานแล้ว
"ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ตัวจริงๆไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เราไปปั่นจักรยานกัน ตอนที่เธอร้องไห้งอแงกอดฉันที่กองถ่ายรายการ ตอนที่เราเผลอหลับไปบนรถ แต่ครั้งแรกที่ฉันรู้ตัวว่าใจเต้นแรงมากก็ตอนที่ฉันเรียกเธอว่าพโยซารัง หลังจากนั้นทุกอย่างก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น พอได้นอนกับเธอก็เริ่มมั่นใจว่าฉันชอบเธอ แล้วไหนจะตอนที่ป่วยอีก พอเห็นเธออยู่กับพี่ซองมินฉันก็ทั้งโกรธทั้งอิจฉาจนทำตัวงี่เง่าใส่พี่ไป ก็แค่นั้นแหละ" แค่นั้นหรอ นี่มันไม่แค่นั้นน่ะแล้ว เขาจำได้ทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ
"นอนกับนายอะไรล่ะ แค่นอนเตียงเดียวกันเอง" นายพูดแบบนี้ฉันก็เสียหายนะสิ
"ก็เหมือนกันนั่นแหละ เธอกอดฉันแน่นเลย" ยองวอนทำเสียงล้อเลียนฉันอีกแล้ว
"เลิกล้อฉันเรื่องนี้ได้แล้วน่า"
"แล้วเธอล่ะ ชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ฉันไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันชอบ แล้วก็ชอบมากด้วย"
"แค่เนี้ย ฉันอุตส่าพูดตั้งเยอะ โหว! น่าน้อยใจมาก" ยองวอนลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับทำหน้าน้อยใจและแกล้งหันไปทางอื่น เป็นการน้อยใจที่น่ารักมาก
"ยองวอน"
"หึ้"
จุ๊บ!! ฉันแกล้งเรียกให้เขาหันมา พอยองวอนหันมาก็รีบยื่นหน้าเข้าไปจุ้บที่ริมฝีปากของเขาทันที
อร้าย!! เขินๆๆๆ เขาอมยิ้มนิดหน่อยและลงไปนอนที่ตักของฉันเหมือนเดิม
"ถ้าเธอง้อแบบนี้ฉันจะงอลเธอทุกๆ5นาทีเลย" ยองวอนนอนหลับตาลงพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่แสนจะน่ารักทำให้ฉันละสายตาจากเขาไม่ได้เลยจริงๆ
ตอนนี้ทุกคนยังไม่กลับมา ฉันก็แอบดีใจที่ยังไม่มีใครกลับมา ขอฉันอยู่แบบนี้อีกสักเดี๋ยวนะทุกคน ฉันอยากเห็นยองวอนนอนยิ้มมีความสุขแบบนี้บนตักของฉันนานๆ
กรึก!!! แล้วววว ฝันมันก็สลายไปในพริบตา เมื่อมีคนอื่นเปิดประตูเข้ามาในห้องของฉันในขณะที่ยองวอนกำลังนอนยิ้มฝันหวานอยู่บนตัก ฉันหันไปมองที่ประตูแล้วก็ต้องตกใจจนร่างกายทำงานก่อนที่สมองจะสั่งเสียอีก ฉันลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติโดยลืมไปว่ายองวอนกำลังนอนตักของฉันอยู่
“โอ๊ยยยย ยัยลูกหมาขาสั้นมันเจ็บนะ” ยองวอนร้องโอดโอยเมื่อหัวของเขากระแทกกับพื้นเพราะฉันรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้บอกเขาก่อนล่วงหน้า
“ลูกชาย” ตามด้วยเสียงเรียกของคุณแม่ยองวอนซึ่งเป็นบุคคลที่ทำให้ฉันตกใจจนลืมทุกอย่าง ถึงฉันจะไม่เคยเจอคุณแม่ของยองวอนมาก่อนแต่ก็เคยเห็นอยู่บ่อยๆจากการสัมภาษณ์ต่างๆ
“แม่!!” ยองวอนหันไปทางต้นเสียงทันที แต่เขากลับไม่มีสีหน้าของความตกใจเลยสักนิดต่างจากฉันมาก จากนั้นเขาก็เดินไปทางท่านและสวมกอด เป็นภาพที่แสนจะอบอุ่นจนฉันรู้สึกอิจฉาและคิดถึงพ่อกับแม่มากๆ แต่ทำไมอยู่ๆท่านถึงมาได้ แถมมาเห็นภาพแบบนี้อีกต่างหาก แล้วฉันจะกล้ามองหน้าคุณแม่ของยองวอนไหมเนี้ย ไม่น่าเลยยยย
“เข้ามาก่อนสิครับ” ยองวอนเดินจับมือคุณแม่ของเขาและพามานั่งที่เตียงของฉัน ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้เพราะไม่กล้าขยับไปไหนจริงๆ
“ซารัง นี่แม่ฉันเอง”
“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบก้มหัวและกล่าวทักทายตามมารยาททันที
“มานี่สิ ไปยื่นทำอะไรตรงนั้น” คุณแม่ของยองวอนเรียกให้ฉันเข้าไปนั่งข้างๆตอนนี้ใจฉันเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่ยองวอนจูบฉันครั้งแรกอีก ฉันค่อยๆเดินไปนั่งที่พื้นฝั่งขวามือของคุณแม่ซึ่งมียองวอนนั่งอยู่ที่ฝั่งซ้าย
“ชอบลูกชายฉันหรอ” อยู่ๆคุณแม่ของยองวอนก็ถามขึ้นมาดื้อๆ โอ๊ย!! ฉันทำตัวไม่ถูกแล้ว มือเริ่มสั่นเพราะความตื่นเต้น
“ค่ะ” ฉันตอบด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับก้มหน้าลงมองที่พื้นเพราะไม่กล้าสบตาของคุณแม่
“แม่ อย่าแกล้งเธอสิครับ เดี๋ยวยัยลูกหมาก็กลั้นหายใจอีก รู้ไหมครับเวลาเธอตกใจมากๆจะชอบกลั้นหายใจนะ”
“555+ โอเคจ้ะ โอเค” คุณแม่ของยองวอนหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่ฉันนี่สิยิ้มไม่ออกจริงๆ
“ทำไมมาถึงแล้วไม่โทรหาผมล่ะ จะได้ไปรับ”
“เพราะลูกซ้อมอยู่แม่เลยไม่อยากกวน”
“กวนที่ไหน แม่ผมมาหาทั้งที แล้วพ่อล่ะครับ”
“รายนั้นไปเที่ยวกับเพื่อนยังไม่กลับเลย”
“โหววว แม่คงตื่นเต้นมากสินะถึงได้รีบมา ไม่รอพ่อแบบนี้”
“ก็ใช่สิ แม่อยากเห็นหน้าแฟนแกจะแย่ แต่ก็ไม่ผิดหวังที่นั่งรถมาตั้งไกล น่ารักสมกับที่อวดเอาไว้จริงๆ”
นี่ยองวอนไปเล่าเรื่องฉันให้คุณแม่ฟังแน่ๆ โอ๊ย!! ฉันไม่น่าไปพูดน้อยใจเรื่องที่เขาแนะนำฉันให้พ่อแม่อึนบีแทนที่จะเป็นพ่อแม่ของเขา ไม่น่าเลยจริงๆซารัง
“ใช่ไหมล่ะ ผมไม่โกหกแม่หรอก”
“แล้วหนูชื่ออะไรละจ้ะ” คราวนี้คุณแม่หันมาถามฉันบ้างหลังจากที่ฉันเอาแต่นั่งเงียบอยู่นาน
“พาราดาค่ะ”
“อ่าว แม่นึกว่าชื่อซารัง ได้ยินยองวอนกับเพื่อนๆเรียกแบบนั้นนี่”
“อ่อ ชื่อซารังผมเป็นคนตั้งเองครับ เพราะเธอเป็นคนไทยผมเลยตั้งชื่อให้เธอว่าพโยซารังไง” ยองวอนยิ้มให้คุณแม่พร้อมกับพูดแบบเขินๆ แต่นายไม่ต้องบอกว่าเรียกฉันว่าพโยซารังก็ได้มั้ง ฉันนี่จะบ้าตาย
“นี่ เที่ยวเรียกลูกสาวคนอื่นเขาเหมือนเป็นภรรยาตัวเองแบบนี้ ไปขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่เขาหรือยังเจ้าลูกชายตัวดี”
“เอ่อออ” เพราะยองวอนอ้ำอึ้งที่จะพูดเรื่องพ่อแม่ของฉัน ฉันเลยตัดสินใจเป็นคนพูดออกไปเอง
“คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูเสียไปหมดแล้วค่ะ” พอฉันพูดจบคุณแม่ก็รีบหันกลับมามองหน้าของฉันทันที
“อย่างงั้นหรอ แม่ขอโทษจริงๆ เพราะยองวอนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย โทรไปทีไรก็เอาแต่พูดว่าหนูน่ารักอย่างงั้นอย่างงี้ 555+ ฉันก็พึ่งเคยเห็นเจ้าตัวดีมีความสุขขนาดนี้เหมือนกัน” คุณแม่ของยองวอนยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่นและใจดี ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ารอยยิ้มที่แสนจะน่าหลงไหลของยองวอนได้มาจากคุณแม่คนสวยของเขานี่เอง เหมือนกันมากจริงๆ
“เอาไว้ว่างๆ ลูกก็พาเธอไปเที่ยวที่บ้านเราบ้างสิ เพราะเสียพ่อแม่ไปแล้วที่ผ่านมาคงลำบาก แต่เธอกลับโตมาได้อย่างดีและน่ารักขนาดนี้ แถมเก่งอีกต่างหาก ฉันฝันอยากจะมีลูกสาวน่ารักๆแบบนี้มานานแล้ว แต่ได้ลูกชายตัวแสบมาแทน555+”
“แม่พูดแบบนี้ผมก็น้อยใจนะ”
“555+” คุณแม่หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจที่เห็นลูกชายทำหน้างอใส่ “ขอบคุณที่คอยดูแลยองวอนแทนฉัน ขอบคุณเธอที่ทำให้ลูกชายฉันมีความสุขขนาดนี้ หลังจากที่คนเป็นแม่ไม่ได้เห็นมานาน แล้วก็ขอบคุณที่หนูโตมาเป็นคนเก่งและก็น่ารักขนาดนี้ด้วย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ