วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ
เขียนโดย Hermione001
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.
แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) เชื่อฉันอีกสักเรื่องเถอะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันแทบไม่ได้เจอยองวอนหรือTrust5คนไหนเลย แถมไม่ได้ออกไปจากคอนโดเลยด้วยซ้ำเพราะกลัวว่าดวงตาจะได้รับผลกระทบ
ฉันอยู่แต่ในคอนโดมาเป็นอาทิตย์แล้ว คนอื่นๆก็ออกไปซ้อมเพื่อคอนเสิร์ตโปรโมทอัลบั้มใหม่ที่ประเทศไทย ที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่เดือน
ตอนนี้ตาของฉันเห็นชัดมากๆ วันแรกที่ลองมองดูโดยไม่ใส่ที่ครอบมันดีมากๆฉันดีใจจนแทบน้ำตาไหล ความรู้สึกที่ได้มองอะไรด้วยตาเปล่า แอบขอบคุณซีโน่กับพี่ซองมินที่พูดจนฉันยอมไปทำจนได้
ฉันไม่ได้ใส่ที่ครอบตาแล้ว ความจริงก็ถอดออกได้นานแล้วแหละแต่แค่กลัวไปเอง ก็คนเรามีตาแค่คู่เดียวนี่ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ฉันก็เลยได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่คอนโดนี่แหละ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ซารัง อยู่หรือเปล่า" เสียงยองวอนนี่แล้วทำไมฉันต้องตกใจด้วย ยังไม่ทันเห็นหน้าเขาเลย
"นายมีอะไร" ฉันตะโกนถามยองวอน
"นี่จะคุยแบบนี้หรอ ไม่คิดจะเปิดประตูหรือไง" เขาตะโกนตอบเข้ามา ฉันเลยต้องเดินไปเปิดประตูให้ เราไม่ได้คุยกันมาเป็นอาทิตย์รู้สึกแปลกๆ ยิ่งหลังจากที่เขาทำแบบนั้นแล้วด้วย ยิ่งคิดหน้าก็ยิ่งร้อนใจก็ยิ่งเต้นแรง
"นี่จะใส่แว่นดำอยู่ในห้องทำไม" เขาถามเมื่อเห็นฉันใส่แว่นกันแดดออกมาเปิดประตู
"ฉันกลัวแสงเข้าตา" ความจริงแล้วกลัวที่จะมองหน้านายด้วยตาเปล่าต่างหาก
"ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วเธอยังไม่หายอีกหรอ หรือรู้สึกเจ็บตาอยู่" เขาทำท่าเหมือนจะขยับเข้ามาใกล้ๆฉันเลยต้องรีบห้ามเอาไว้
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วแค่ยังไม่ชิน แล้วสรุปนายมีอะไร" รีบๆพูดมาเถอะ ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้นานๆ
"วันนี้ฉันต้องออกไปข้างนอกตอน1ทุ่ม แล้วเธอก็ต้องไปด้วย"
"วันนี้นายมีซ้อมทั้งวันจะออกไปไหน" งานคอนเสิร์ตก็ใกล้เข้ามาแล้วยังจะออกไปเที่ยวเล่นอีก
"ฉันต้องไปพบผู้ใหญ่ที่เคารพแล้วก็อยากให้เธอไปด้วย แต่งตัวสวยๆหน่อยล่ะ แล้วเสื้อยืดกางเกงยีนนี่ไม่ต้องเลยนะ เราไม่ได้ไปทำงาน คิดซะว่าไปเจอพ่อแม่เพื่อน"
"ไปเจอพ่อแม่เพื่อนฉันก็แต่งตัวแบบนี้แหละ อีกอย่างนอกจากเสื้อยืดกางเกงยีนฉันก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว" ทำไมฉันต้องแต่งตัวสวยๆด้วย ไม่ได้ไปเดทสักหน่อย แล้วทำไมฉันต้องคิดว่าไปเดทด้วย โอ้ยยย!
"นี่คือคำสั่งเข้าใจตรงกันนะ เดี๋ยวเรื่องเสื้อผ้าฉันจัดการเอง " พูดจบยองวอนก็เดินออกไปจากห้องทันที
"รับทราบค่ะ เจ้านายยยย" ฉันลากเสียงยาวเพื่อแสดงถึงการประชดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย หลังจากที่ไม่ได้คุยกันนานแต่ความเอาแต่ใจของเขาก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนยองวอนก็กำลังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นฉันเองก็ควรจะทำเหมือนกัน
ตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว ฉันที่ไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่นั่งรอเพราะยองวอนบอกว่าเขาจะจัดการเองนี่ คนอื่นก็คงจะไปซ้อมกันหมดแล้วด้วย
"ซารัง" เสียงพี่มีรันที่เดินเข้ามาในห้องทำให้ฉันต้องหันไปมอง
"พี่ไม่ได้ไปดูคนอื่นซ้อมหรอ" ฉันหันไปถามพี่มีรัน
"เดี๋ยวก็ไปแล้ว แต่ยองวอนให้พี่ช่วยอะไรบางอย่างน่ะ"
อย่าบอกนะว่ายองวอนให้พี่มีรันมาเลือกเสื้อผ้าให้ฉัน แต่ดูจากที่เธอกำลังค้นเสื้อผ้าในตู้ก็คงไม่ต้องเดาแล้วแหละ
"มานี่เร็ว ลองตัวนี้หน่อย" เธอหยิบชุดเดรสสีแดงสดออกมาจากตู้ ไม่น่ะฉันไม่ใส่มันแน่ๆ ทำไมฉันต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยเนี้ย
"ฉันไม่ใส่ตัวนั้นนะ ไม่เอา" ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
"ทำไมล่ะ สวยออก" เธอมองชุดสลับกับฉันไปมา "พี่ว่าเข้ากับผิวขาวๆของเธอแน่"
"สีมันแดงขนาดนั้นจะไม่น่าเกลียดไปหรอคะ ยองวอนบอกว่าให้คิดว่าไปเจอพ่อแม่เพื่อน คงไม่มีใครใส่เดรสสีแดงสั้นๆแบบนี้ไปมั้งคะพี่" ฉันเริ่มอธิบายให้พี่มีรันฟัง ทั้งแดงทั้งสั้นฉันไม่ใส่แน่ๆ
"ก็จริงของเธอ" พี่มีรันเอาชุดกลับเข้าไปแขวนในตู้ และเริ่มหาตัวอื่นต่อ
"งั้นตัวนี้ ไม่แดงไม่สั้น ไม่น่าเกลียดแน่นอน" อื้อหือ นี่ก็หวานแหววเหลือเกิน
"มันดู แบบว่า" ฉันกำลังคิดคำอธิบายพี่มีรันก็แทรกขึ้นมาทันที
"นอกจากชุดนี้ก็ไม่มีชุดไหนแล้วนะ ที่เหลือก็มีแต่สั้นๆหรือไม่ก็สีจัดๆแล้ว" นี่ไม่เหลือทางเลือกอะไรให้ฉันเลยหรอ "ไปเปลี่ยนเร็วๆ"
ฉันจำใจต้องเดินไปหยิบชุดมาเปลี่ยน ชุดเดรสสีชมพูยาวพอดีกับเข่าของฉัน เพราะพี่มีรันตัวเท่ากับฉันเลยทั้งเสื้อผ้ารองเท้าเราใส่เท่ากันหมดจนบางทีก็ยืมรองเท้ากันใส่ไปมา ฉันยืนมองตัวเองในกระจก มันดูแปลกตามากๆเพราะไม่เคยมีโอกาศได้แต่งตัวแบบนี้ ชุดนี้สวยมากๆสีชมพูหวานแหววเข้ารูป แขนเสื้อที่ยาวพอดีกับข้อมือของฉัน มีลูกไม้เล็กๆปักอยู่ที่ปลายแขนเสื้อและตรงระหว่างไหล่กับข้อศอกมีการออกแบบให้มีรอยขาดทำให้เห็นเนื้อแขนขาวซีดของฉัน
"เสร็จหรือยังซารัง จะได้แต่งหน้าต่อ" พี่มีรันตะโกนเรียกทำให้ฉันต้องละสายตาจากกระจกและเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
"โหวว ซารังเธอใส่สวยมาก" พี่มีรันยิ้มกว้างกับผลงานของตัวเอง "ไปแต่งหน้ากันต่อ" เธอเดินมาจับมือของฉันและพาเข้าไปห้องแต่งตัวอีกครั้ง
"ต้องแต่งหน้าด้วยหรอคะ" นี่แค่ไปเป็นเพื่อนยองวอน ทำไมฉันต้องแต่งเต็มขนาดนี้ก็ไม่รู้
"ไปเถอะน่า เร็วๆ"
พี่มีรันลากฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวและให้นั่งลงที่เก้าอี้ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มละเลงหน้าของฉันทันที
"เสร็จแล้ว ว้าวว นี่พี่เก่งหรือเธอสวยอยู่แล้วเนี้ย555+" เธอหัวเราะร่าเริงกับผลงานตัวเอง มีแต่ฉันที่นั่งยิ้มแหย๋อยู่หน้ากระจก
"พี่มีรัน ผมเข้าไปน่ะ" เสียงยองวอนดังมาจากหน้าห้อง
"จ้า เข้ามาเลย" เดี๋ยวก่อนสิฉันยังไม่พร้อม
"เป็นไง ฝีมือพี่พอใช้ได้ไหม" พี่มีรันจับฉันยืนขึ้น กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันกับยองวอนกำลังยืนจ้องหน้ากันอยู่ เขาเอาแต่จ้องฉันนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ นิ่งขนาดนี้หมายความว่ายังไงเนี้ย ฉันน่าเกลียดดูไม่ได้หรือสวยจนอึ้งห้ะ!!
"สวยครับ" ยองวอนตอบพี่มีรันหลังจากยืนนิ่งอยู่นาน แล้วทำไมแค่สวยครับฉันต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ด้วย เขาก็ตอบเพราะเอาใจพี่มีรันไปอย่างนั้นแหละ
"งั้นพี่ไปดูคนอื่นซ้อมก่อนนะ" พี่มีรันเดินออกไปจากห้องทิ้งให้ฉันอยู่กับยองวอน2คน
หลังจากคิดได้ว่าไม่ควรมายืนจ้องหน้าเขาแบบนี้ฉันก็รีบหันไปหยิบแว่นกันแดดบนโต๊ะเครื่องแป้งมาใส่ทันที
"นี่เธอจะใส่แว่นกันแดดออกไปข้างนอกตอนกลางคืนหรอ"
"ก็ฉันกลัวแสงจากรถแล้วก็แสงที่ไฟถนนนี่"
"ก็แล้วแต่ แต่พอเจอหน้าพวกท่านเธอต้องเอาแว่นออกนะ"
"รู้แล้วน่า ที่ประเทศไทยก็สอนมารยาทเหมือนกัน" ฉันทำเสียงประชดยองวอน "เดี๋ยวก่อน นายยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไปพบใครแล้วทำไมฉันต้องไปด้วย แถมยังมาจับฉันแต่งตัวแบบนี้อีก คงไม่ได้จะไปเจอออ" ฉันลากเสียงยาวที่คำสุดท้าย
"นี่อย่าบอกนะว่า เธอคิดว่าฉันจะพาไปเจอพ่อกับแม่" ก็ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นอะไรไปได้อีกล่ะ
"555555" แต่จากเสียงหัวเราะของเขาคงจะไม่ใช่ "คิดว่าฉันจะพาเธอไปรู้จักกับพ่อแม่หรอ เหมือนที่คนอื่นเขาพาแฟนไปเจอพ่อแม่อะไรแบบนี้ใช่ป่ะ55555" ยองวอนหัวเราะลั่น
"ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ จะมาหัวเราะทำไม" ฉันทำหน้างอใส่เขา น่าอายจริงๆไม่น่าถามแบบนั้นเลย ฉันนี่ก็คิดได้ยังไงตัวเองเป็นแค่ผู้จัดการ แค่เขามาบอกว่าชอบก็คิดเรื่องโง่ๆแบบนี้แล้ว ไม่เจียมตัวซะบ้างเลย ตอนนี้แทบอยากจะมุดดินหนี
"ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย" เขาเดินมาจับมือของฉันแล้วพาออกมาจากห้อง
"ไม่ต้องจับมือก็ได้ ฉันเดินเองได้" ฉันพยายามแกะมือของยองวอนออกแต่เขากลับยิ่งจับแน่นกว่าเดิม
"ใส่แว่นดำแบบนี้เดี๋ยวก็ตกบันไดขาหักหรอก ให้ฉันจับแหละดีแล้วหรืออยากให้อุ้มมากกว่า" ยองวอนพูดพร้อมกับทำท่าจะเขามาอุ้มฉัน
"จะบ้าหรอ ไม่ต้องเลยฉันไม่ได้พิการ"
รู้สึกแปลกจริงๆที่ต้องแต่งตัวแบบนี้ออกไปข้างนอก ถึงแม้จะใส่เสื้อโค้ทคลุมไว้ด้วยแต่ฉันก็ไม่ได้ใส่กระโปรงแบบนี้มานานมากแล้ว ไม่นานเราก็เดินมาถึงรถที่จอดอยู่ชั้นล่างของคอนโดโดยที่ยองวอนก็ยังคงจับมือฉันอยู่แบบที่ไม่เกรงกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเลยสักนิด
"ถึงรถแล้ว ปล่อยได้แล้ว" ฉันดึงมือออกจากมือของยองวอน แผลที่โดนน้ำร้อนลวกของเราใกล้จะหายแล้ว โชคดีที่ไม่เป็นแผลเป็น ตลกดีจัง เพราะมือข้างที่เขาจับกับมือของฉัน เป็นข้างที่โดนน้ำร้อนลวกมาเหมือนกัน ต่างคนก็ยังมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ทั้งคู่
"เธอจะไปไหน?" ยองวอนถามเมื่อเห็นฉันเดินไปที่ฝั่งคนขับ
"ก็จะไปขับรถไง"
"ฉันไม่ได้ให้เธอมาขับรถ วันนี้ให้มาเป็นเป็นเพื่อนไม่ใช่ให้มาทำงาน เธอคิดจะแต่งตัวแบบนั้นขับรถให้ฉันนั่งจริงๆหรอ" ยองวอนพูดพร้อมกับเดินมาดึงมือของฉันและพากลับมาอีกฝั่ง พร้อมกับเปิดประตูและดันตัวฉันเข้าไปในรถ
จากนั้นก็ขับออกจากลานจอดรถของคอนโด ไม่รู้เพราะเรื่องที่ผ่านมาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดหรือเพราะยองวอนขับรถตอนกลางคืนค่อนข้างช้า ฉันเลยรู้สึกว่าเวลามันนานมากกว่าที่เราจะมาถึง
ตอนนี้เราอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้าน2ชั้นที่ค่อนข้างจะสวยมากๆ ท่าทางเจ้าของบ้านหลังนี้จะรวยมากเลยแหละ ฉันถอดแว่นดำออกและรีบเดินตามยองวอนไป
ตื้อ ดึง ยองวอนกดกริงหน้าบ้านและไม่นานก็มีคนเดินมาเปิดประตู
"เชิญข้างในค่ะคุณหนูยองวอน" ผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งพูดขึ้น ซึ่งหน้าจะเป็นแม่บ้านของที่นี่
"นี่คุณป้ากาอิน เป็นป้าแม่บ้านของที่นี่แล้วก็เคยเลี้ยงฉันมาตอนเด็กๆ" ยองวอนพูดแนะนำคุณป้าที่มาเปิดประตู เคยเลี้ยงหรอว้าวว! ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้มาเป็นผู้จัดการยองวอนฉันคงตื่นเต้นมากๆ แต่ตอนนี้หลังเจอเรื่องมามากมายแล้วคงไม่น่าตกใจเท่าไหร่
"สวัสดีค่ะ" ฉันโค้งเพื่อแสดงความเคารพคุณป้ากาอิน
หลังจากนั้นเราก็เดินเข้ามาภายในบ้าน ข้างในนี้หรูหรากว่าข้างนอกมาก ฉันว่าคอนโดของTrust5สวยแล้ว แต่ที่นี่สวยกว่าเยอะเลย
"พี่! มาแล้วหรอ" อยู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาพร้อมกับตรงเข้ามาเกาะแขนของยองวอนซึ่งมีฉันยืนอยู่ข้างหลัง
"ปล่อยน่าอึนบี" ยองวอนพูดพร้อมกับแกะมือของเธอออก ใช่แล้วเธอคือโกอึนบีแฟนเก่าของยองวอน นี่เขามาบ้านเธอแล้วทำไมต้องพาฉันมาด้วย นายนี่มันยังไงกันพโยยองวอน บอกว่าชอบฉันแต่พาฉันมาบ้านแฟนเก่าเนี้ย
"ทำไมจับไม่ได้ล่ะ เมื่อก่อนพี่มาเรายังกระโดดกอดกันเลยด้วยซ้ำ"
"ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันไม่เหมือนกันนะอึนบี"
"คุณหนูคะ เข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่เถอะค่ะ ท่านรออยู่นานแล้ว" คุณป้ากาอินพูดขึ้นเมื่อเห็นสองคนนั้นเอาแต่เถียงกันไม่หยุด
ตอนนี้ตัวฉันหดเหลือแค่2นิ้ว ทำไมรู้สึกเป็นส่วนเกินขนาดนี้ก็ไม่รู้ อึดอัดจนแทบจะทนอยู่ไม่ไหว
"คุณลุงคุณป้า สวัสดีครับ" ยองวอนกล่าวทักทายพร้อมกับโค้งคำนับ น่าจะเป็นคุณผู้หญิงคุณผู้ชายของบ้านหลังนี้ หรือพ่อแม่ของอึนบี ฉันเองไม่รู้จะทำตัวยังไงเลยได้แต่โค้งคำนับตามยองวอน
"ยองวอนนน ไม่เจอกันนานเลย" คุณผู้หญิงที่ดูใจดีมากๆเดินตรงเข้ามาพร้อมกับกอดเขา พวกเขาดูสนิทกันมาก ใช่สิก็พ่อแม่แฟนเก่าเขา แถมป้ากาอินยังเคยเลี้ยงยองวอนมาด้วย
"มาๆ ทานข้าวกันดีกว่า เธอขับรถมาไกลน่าจะหิว" คุณผู้ชายที่ตอนนี้มีอึนบียืนกอดแขนอยู่พูดขึ้น
"คุณมากกว่าที่หิว ป้าบอกให้ทานก่อนเขาก็ไม่ยอม เอาบอกแต่ว่าจะรอเธอ555+"
"ขอโทษทีครับ พอดีรถติด" ยองวอนก้มหัวเล็กน้อยและกล่าวขอโทษ รถติดที่ไหนนายเองต่างหากที่ขับรถอย่างกับเต่าเดิน
"ไม่เป็นไรๆ กินข้าวกันเถอะ" คุณป้าเดินจับมือยองวอนไปที่ห้องอาหาร โอ้โห! นี่แค่ห้องทานข้าวใหญ่กว่าห้องรูหนูของฉันที่มีทุกอย่างครบอีก
แล้วฉันควรจะทำตัวยังไงเนี้ย ในขณะที่ทุกคนเดินไปจนหมดฉันก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่ห้องรับแขกส่วนเกินอย่างฉันจะไปทำไมละ ออกไปรอที่รถดีกว่า พอคิดได้ฉันก็กลับหลังหันและเดินออกจากห้องนั่งเล่นทันที แต่..
หมับ!!!
"เธอจะไปไหน" ยองวอนที่เดินออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เขาคว้ามือของฉันเอาไว้และถามขึ้น
"ฉันจะไปรอที่รถไง"
"จะออกไปรอที่รถทำไม ให้มาเป็นเพื่อนไม่ใช่ให้มานั่งรอในรถ" ยองวอนทำหน้าไม่พอใจที่ฉันจะไปรอข้างนอก ฉันมากกว่าไหมที่ต้องทำหน้าแบบนั้น
"นายจะให้ฉันเข้าไปทำไม ฉันไม่รู้จักใครสักคน" นั่นสิ จะให้ไปนั่งกินข้าวกับพวกเขาทั้งๆที่เป็นแค่ผู้จัดการนายเนี้ยนะ
"ฉันก็กำลังจะแนะนำให้รู้จักอยู่ไง เข้าไปข้างในกันให้ผู้ใหญ่รอนานๆมันไม่ดี ที่ประเทศไทยก็น่าจะสอนมานี่" จบประโยคด้วยการกวนประสาทฉันคืน เขาดึงมือของฉันให้เดินตามเข้าไป เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องอาหารฉันก็รีบดึงมือออกจากยองวอนทันที นายนี่ทำอะไรไม่ระวัง คิดจะเดินจับมือกับผู้จัดการให้แฟนเก่าที่กำลังจะกลับไปคบกันเห็นหรือไง
ตัวของฉันตอนนี้จากที่หดเหลือ2นิ้วกลายเป็น2เซนติเมตรไปแล้ว ทำไมฉันต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเนี้ย หัวโต๊ะเป็นคุณผู้ชายของบ้านหรือคุณพ่อของอึนบี ถัดมาฝั่งขวาก็เป็นคุณผู้หญิงข้างๆคุณผู้หญิงก็คืออึนบีนั่งอยู่ ส่วนฉันกับยองวอนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหรือข้างซ้ายของคุณผู้ชาย ยองวอนนั่งตรงข้ามกับคุณผู้หญิงส่วนฉันตรงข้ามกับอึนบี
เธอเอาแต่มองฉันแปลกๆตั้งแต่เห็นฉันแล้ว ตอนนี้ยิ่งมานั่งตรงข้ามกันก็ยิ่งเอาแต่จ้องฉัน ไม่น่าตามนายมาเลยพโยยองวอนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่ายองวอนจะพาฉันมาทำไม
"หลานนี่ใจร้ายจังนะยองวอน นี่ก็2ปีแล้วมั้งที่ไม่มาหาพวกเราเลย ลุงกับป้าเหงามากส่วนอึนบีอยู่ๆก็อยากจะไปเรียนต่อ ตอนแรกลุงกับป้าก็ไม่อยากให้ไปหรอก เพราะเรื่องงานของเธอกำลังอยู่ตัว แต่ลูกสาวคนนี้ก็เอาแต่ดื้อรั้นจะไปให้ได้เลยต้องยอมตามใจ" คุณผู้หญิงพูดขึ้นขณะที่พวกเรากำลังทานอาหารกันอยู่ ซึ่งฉันก็ได้แต่คีบข้าวเปล่าเข้าปากเพราะไม่กล้าตักอะไรหรือแม้แต่ขยับตัวยังไม่กล้าเลย
"ลุงนึกว่าเธอสองคนทะเลาะกันร้ายแรงซะอีก เพราะตอนอึนบีบอกว่าเลิกกับเธอวันต่อมาก็ขอไปเรียนต่อเลย แล้ววันที่ขึ้นเครื่องก็ไม่เห็นเธอด้วย แต่เห็นเธอมาวันนี้ก็สบายใจ" คุณผู้ชายเสริมขึ้น
"ผมขอโทษจริงๆครับ ผมยุ่งมาก เลยไม่ได้ไปส่งน้องเพราะวันนั้นติดงานด่วนมากๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ" ยองวอนหันไปมองหน้าคุณพ่อของอึนบีและกล่าวขอโทษ
"ที่จริงวันนี้ผมมีคนที่จะแนะนำให้คุณลุงคุณป้ารู้จักด้วยนะครับ"คราวนี้ยองวอนหันมาที่ฉัน
"แม่หนูนี่หรอ ป้าก็ว่าจะถามอยู่แต่ก็ลืมเลยเพราะมัวแต่ดีใจที่เธอมา"
"ครับ เธอชื่อซารังเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ของผมเอง" เดี๋ยวนี้เค้าแนะนำผู้จัดการส่วนตัวให้พ่อแม่แฟนรู้จักกันแล้วหรอ หรือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่
"อ่อ ดูยังอายุน้อยอยู่เลย เก่งจริงๆ อายุแค่นี้เป็นผู้จัดการศิลปินแล้ว" คุณพ่อของอึนบีหันมายิ้มให้ฉัน ฉันก็ได้แต่ยิ้มตอบท่านไปตามมารยาท
"ครับ เธออายุเท่าอึนบี" ยองวอนตอบ ใช่ฉันอายุเท่าแฟนเก่านายเองแหละ ชิ้!
"แล้วตอนนี้เราก็กำลังคบกันอยู่ด้วย"
"ห้ะ!!!" ฉัน อึนบี คุณพ่อคุณแม่ของอึนบี อุทานออกมาพร้อมกัน นี่เขาบอกว่าคบกับฉันอยู่หรอ ฉันหันไปมองหน้ายองวอน อันที่จริงเรากำลังจ้องหน้ายองวอนกันอยู่ นี่เขาบ้าไปแล้วหรอทำไมพูดแบบนี้ แล้วฉันไปคบกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
ยองวอนหันมามองหน้าฉันที่ตอนนี้ต้องการคำตอบจากเขามาก เขาเอามือมาจับมือของฉันและบีบมันเบาๆ คงจะพยายามบอกให้ฉันอยู่เฉยๆก่อนสินะ
"ครับ เราพึ่งคบกันได้ไม่นาน แต่ผมคิดว่าไหนๆก็มาหาคุณลุงคุณป้าแล้วก็พาเธอมาแนะนำตัวเลยดีกว่า" ยองวอนหันไปพูดต่อหลังจากสั่งปิดปากของฉันแล้ว ฉันไม่เข้าใจว่ายองวอนกำลังทำอะไรแต่ในใจก็เริ่มคิดว่าเขาอาจจะกำลังใช้ฉันเป็นโล่เพื่อให้อึนบีออกห่างจากเขา หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า “ไม้กันหมา” นั่นเอง นายนี่สมกับที่เป็นอสูรร้ายนิสัยไม่ดีจริงๆ
"แบบนี้นี่เอง ป้าก็ว่าเธอไม่เคยพาผู้จัดการส่วนตัวมาแนะนำให้เรารู้จักนี่นา555+" คุณผู้หญิงที่ตอนนี้เหมือนจะดึงสติกลับมาได้พูดขึ้นมา
"ก็ดีแล้ว เรื่องของเธอกับอึนบีก็จบลงนานแล้วควรจะเดินต่อไปข้างหน้า เห็นแบบนี้ก็สบายใจที่มิตรภาพของเธอสองคนยังอยู่ พี่น้องที่วิ่งเล่นกันตั้งแต่เด็กๆ" คุณแม่ของอึนบีพูดต่อหลังจากที่ทุกคนยังเอาแต่อึ้งอยู่
"อันที่จริงตอนเธอคบกันป้ากับลุงก็กังวลนิดหน่อย หนุ่มๆสาวๆถ้าเลิกกันไปจะมองหน้ากันติดไหม แต่ตอนนี้สบายใจขึ้นเยอะแล้ว เธอจะได้กลับมาดูแลน้องแทนป้าเหมือนเมื่อก่อนนี้ด้วย"
แต่เหมือนอึนบีจะไม่รู้สึกแบบนั้น สีหน้าของเธอดูโกรธอย่างเห็นได้ชัด เธอเอาแต่มองหน้าของฉันสลับกับยองวอนไปมา โอ้ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรฉันทำตัวไม่ถูกแล้วนะ ฉันต้องแกล้งเล่นละครตบตาเพราะยองวอนหรอเนี้ย
หลังจากสถานการณ์อันสุดแสนจะอึดอัดจบลง ยองวอนก็ขอตัวกลับและบอกพวกท่านว่าพรุ่งนี้มีงานต่อ ไม่งั้นคงไม่ได้กลับง่ายๆแน่
ฉันเดินออกมาหน้าบ้านพร้อมกับยองวอน และมีอึนบีเดินตามมาทีหลัง
ปึ้ง! อึนบีเดินมาปิดประตูรถที่ยองวอนกำลังเปิดเพื่อจะขึ้นรถ ฉันที่ตอนนี้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามได้แต่ยืนเป็นหินเพราะตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้า สมองเริ่มจินตนาการถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น
"พี่คิดจะทำอะไร" น้ำเสียงของอึนบีบ่งบอกถึงความโกรธของเธอตอนนี้มาก ทำให้เธอดูแปลกออกไปจากอึนบีที่แสนน่ารักเมื่อวันแรกที่ฉันเห็นเธอ
"ก็อย่างที่เธอเห็น ฉันพาซารังมาแนะนำให้คุณลุงกับคุณป้ารู้จัก" ยองวอนตอบพร้อมกับหันมามองที่ฉัน
"แนะนำหรอ กำลังคบกันหรอ พี่คิดจะเอาเธอมาเป็นข้ออ้างมากกว่า" ก็รู้นี่ แล้วจะโมโหทำไม ฉันมากกว่าที่ต้องโมโห
"แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย" ยองวอนตอบกลับด้วยสีหน้าที่นิ่งจนเริ่มน่ากลัว
"ก็เพราะกลัวว่าถ้าฉันยังไปวุ่นวายกลับพี่แล้วพี่จะกลับมาไง ไม่สงสารเธอบ้างหรอถูกเอามาเป็นเครื่องมือ พี่ไปหาวิธีอื่นเถอะ พี่ไม่สงสารซารังแต่ฉันสงสาร ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนฉันอายุเราก็เท่ากัน อย่ามาทำแบบนี้กับเธอเลย" คราวนี้เป็นอึนบีที่หันมามองฉันด้วยสายตาที่เหมือนฉันน่าสมเพชมาก ฉันควรจะรู้สึกยังไงในตอนนี้ สมเพชตัวเอง อาย เสียใจ หรือทุกอย่างเลย
"พโยซารัง!!" ยองวอนเรียกชื่อของฉันแบบที่เขาชอบเรียกล้อเลียนบ่อยๆ "เธอคิดว่าซารังได้ชื่อนี้มาเพราะเธอหรอ ฉันจะบอกให้นะ เรื่องที่เธอสงสัย ที่ซารังนามสกุลเดียวกับฉันไม่ใช่เพราะเราเป็นญาติกันแต่เพราะฉันชอบซารัง และชื่อของเธอฉันเป็นคนตั้งเองเรื่องนี้ทุกคนในTrust5ก็รู้ เพราะแบบนี้เธอถึงชื่อว่าพโยซารังไง"
อึนบีดูอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินมาก ทำไมฉันรู้สึกเหมือนกำลังทำร้ายเธอ ฉันไม่ควรให้ยองวอนเอาฉันมาใช้ทำร้ายคนอื่นแบบนี้
"พี่คิดว่าฉันจะเชื่อเพราะเรื่องแค่นี้หรอ"
"นั่นก็เรื่องของเธอ" ยองวอนดึงตัวอึนบีออกจากประตูรถ และขึ้นรถทันที "ขึ้นมาสิซารัง กลับบ้านกัน" เขาหันมาบอกฉันที่ตอนนี้เอาแต่จ้องหน้าของอึนบีอยู่ ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจขึ้นรถมาเพราะคิดว่าเรื่องนี้ฉันไม่ควรยื่นมือเข้าไปยุ่ง
ยองวอนขับรถออกมาจากบ้านของอึนบีทันที ตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บจนพูดออกมาไม่ถูก เหมือนความรักของฉันยองวอนกำลังเอามาใช้เพื่อทำร้ายคนอื่น ไหนเขาบอกว่าชอบฉัน หรือมันเป็นแค่เรื่องโกหก เขาพูดแบบนั้นเพียงแค่จะใช้ฉันทำเรื่องนี้หรอ
"เสร็จงานของฉันแล้วใช่ไหม" ฉันที่ตอนนี้หยิบแว่นตามาใส่เพื่อปิดบังไม่ให้เขารู้ว่าฉันกำลังเสียใจมากแค่ไหน
เอี้ยดดด!!! ยองวอนขับรถไปจอดที่ริมแม่น้ำพร้อมกับเหยียบเบรคอย่างกระทันหันจนหัวฉันเกือบจะทิ่ม ฉันหันไปมองเขาด้วยความโกรธ นายไม่มีสิทธิ์จะมาทำตัวแบบนี้ใส่ฉันหลังจากทำเรื่องแย่ๆแบบนั้น ฉันรีบเปิดประตูลงจากรถทันที
"ซารัง เดี๋ยวก่อน จะไปไหน" ฉันไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าของเขา "ซารังหยุดนะ ซารังฉันบอกให้หยุด!!!"
"พโยซารัง!!!" คราวนี้ยองวอนตะโกนเรียกฉันจนดังลั่น ทำให้ฉันต้องหยุดเดินและหันไปทางเขาที่กำลังเดินตามมา
"เธอจะไปไหน" ยองวอนเดินตามมาข้างหลังและพูดขึ้น ก็ไปให้พ้นจากนายไงไอ้คนทุเรศ
"ฉันทำงานเสร็จแล้ว จะไปไหนก็ได้ หมดหน้าที่หมดเวลางาน" ฉันหันไปตอบยองวอน ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วอากาศก็หนาวมากด้วย ฉันเองก็เริ่มสั่นเพราะชุดที่ใส่มามันปกป้องร่างกายจากความหนาวไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ในสมองคิดแค่ว่าต้องออกไปจากตรงนี้
"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้พาเธอมาเพื่อทำงาน"
"แล้วพามาทำไม นายจับฉันแต่งตัวเหมือนเป็นน้องหมาแล้วจูงสายลัดคอออกมาจากบ้าน จากนั้นสั่งให้นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวแล้วก็สั่งให้ฉันไล่กัดแฟนเก่านาย แบบนี้หรอ?" ตอนนี้น้ำตาฉันกำลังจะไหล ฉันพยายามห้ามไม่ให้มันไหลออกมาแต่มันเหมือนไม่ฟังคำสั่งของฉันเลย น้ำตาของฉันค่อยๆไหลผ่านแว่นดำทีละข้าง
ยองวอนเองก็ดูตกใจมาก เขาค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ฉันและถอดแว่นตาของฉันออกอย่างออนโยน ตอนนี้ถึงฉันจะอยากเข้มแข็งและปิดบังทุกอย่างไว้แค่ไหน ก็ทำไม่ได้อีกแล้ว เพราะสิ่งที่ฉันอดทนเก็บมันไว้กำลังระเบิดออกมา
"ซารัง ทุกอย่างที่ฉันพูดวันนี้คือเรื่องจริง เธอไม่ใช่สุนัข เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันชอบ การที่ฉันให้เธอแต่งตัวสวยๆเพื่อเอาไปอวดคนนั้นคนนี้มันผิดตรงไหน" ยองวอนถามพร้อมกับพยายามเช็ดน้ำตาของฉัน
"อวดคนโน้นคนนี้หรอ คนที่นายเอาฉันไปอวดคือแฟนเก่านายและพ่อแม่ของเธอ มีใครที่ไหนเอาผู้หญิงที่ตัวเองชอบไปแนะนำกับพ่อแม่ของแฟนเก่าบ้าง แล้วมันก็ผิดตรงที่นายใช้ฉันเป็นเครื่องมือ นายบอกเธอว่าฉันคือพโยซารังก็เพราะเรื่องนี้ เพราะต้องการกันเธอออกไป ยองวอนฉันเป็นคนนะ ฉันมีหัวใจ ถึงจะเป็นแค่ผู้จัดการแต่ก็ไม่ใช่ว่านายมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้" ฉันปล่อยโฮออกมาเพราะมันอดทนไม่ไหวแล้ว เขาจะทำแบบนี้กับฉัน กับความรักของฉันไม่ได้
ยองวอนนิ่งไปนิดหน่อยเหมือนกำลังคิดว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ต่อไปดี ไม่นานเขาก็เดินกลับไปที่รถฝั่งที่ฉันนั่งและหยิบมือถือของฉันออกมา ฉันได้แต่ยืนมองสิ่งที่เขากำลังทำ ยองวอนกดมือถือของฉันอยู่ไม่นานก็เดินกลับมาตรงที่ฉันยืนอยู่
Havana, ooh na-na
Half of my heart is in Havana, ooh-na-na
He took me back to East Atlanta, na-na-na
All but my heart is in Havana
There’s somethin’ ’bout his manners
เสียงมือถือของยองวอนดังขึ้น เขาหยิบออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้ฉันดู ชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอคือ พโยซารัง เขาบันทึกชื่อฉันว่าพโยซารังหรอ
"วันนั้นที่ฉันออกไปข้างนอกกับอึนบีแล้วเธอโทรตาม อึนบีบังเอิญเห็นชื่อเธอที่ฉันบันทึกไว้ ฉันไม่เคยบอกเรื่องนี้กับอึนบีสักคำ แล้วเธอคงไม่คิดว่าฉันวางแผนนี้ไว้เพื่อหลอกอึนบีหรือเธอหรอกนะ ฉันคงไม่เก่งขนาดที่จะรู้ว่าอึนบีจะตามเราออกมาข้างนอก หรือไม่เก่งขนาดที่จะรู้ว่าเธอจะมายืนต่อว่าฉันอยู่ตรงนี้" ฉันเริ่มคิดเรียบเรียงตามคำพูดของเขา
"ซารังฉันชอบเธอ และที่พาเธอมาวันนี้ไม่ใช่มาเพื่อใช้เธอกันอึนบีออกจากฉัน แต่พามาเพื่อบอกเขาว่าฉันชอบเธอไม่ว่าอึนบีจะพยายามทำอะไรมันก็ไม่มีประโยชน์แล้วเพราะใจฉันมันไม่เหมือนเดิมแล้ว" ยองวอนขยับเข้ามาใกล้จนฉันได้ยินเสียงหายใจของเขา
"ฉันชอบเธอก่อนที่อึนบีจะกลับมาด้วยซ้ำ ฉันไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่หัวใจมันก็เริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ" ยองวอนค่อยๆดึงฉันเข้าไปกอด ทำให้หูของฉันแนบอยู่กับหน้าอกของเขา
ตึกตึก ตึกตึก เสียงหัวใจของยองวอนมันเต้นแรงจริงๆเหมือนกับของฉัน
"แต่ฉันไม่ได้ชอบนาย" ฉันตัดสินใจพูดออกไป เขาชอบฉันแล้วยังไง ฉันมีสิทธิ์ที่จะชอบเขาได้หรอ
"เธอโกหก เธอชอบฉัน!!มากด้วย" ฉันรีบดันตัวออกจากยองวอนทันที
"นะนายจะมารู้ดีกว่าฉันได้ยังไง นี่มันความรู้สึกฉัน"
"ฉันรู้ก็แล้วกัน"
"ซารัง" เขาเรียกชื่อของฉันด้วยเสียงที่นุ่มนวลมากๆ
“เรื่องที่พูดกับคุณลุงคุณป้าฉันจริงจังนะ ขอโทษที่พาเธอมาแนะนำกับพ่อแม่ของอึนบีแทนที่จะเป็นพ่อแม่ของฉัน เรื่องนี้ฉันผิดจริงๆ แต่เอาไว้คราวหลังฉันจะพาเธอไปหาพ่อแม่ของฉัน”
"แต่ฉันคิดว่าเราไม่ควร ถึงฉันจะชอบนายจริงๆ แล้วมันยังไง นอกจากนายจะมีสัญญาห้ามมีแฟนเหลืออยู่1ปี แต่นายยังมีสัญญาห้ามมีความสัมพันธ์เกินเลยกับผู้จัดการหรือทีมงานอยู่ด้วยนายลืมแล้วหรอ เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ฉันผิดเองที่ไปชอบนายแต่ตอนนี้ฉันก็กำลังจะเลิกชอบนายแล้ว" ยองวอนได้แต่ยื่นนิ่งฟังสิ่งที่ฉันพูด
"ฉันรักงานนี้ ฉันรักที่ได้อยู่กับTrust5ทุกคน ฉันไม่มีใครแล้วนอกจากพวกนายที่เป็นครอบครัวใหม่ของฉันครอบครัวเดียวที่ฉันเหลืออยู่ เป็นครั้งแรกในรอบ2ปีที่ฉันไม่ต้องนอนคนเดียว กินข้าวคนเดียว ดูทีวีคนเดียว คอนโดเป็นบ้านหลังใหม่ของฉัน นายอย่าทำให้ฉันเสียทุกอย่างไปเลย ไม่ต้องถึงเรื่องที่เราคบกันหรอกแค่ทางบริษัทรู้ว่าฉันชอบนาย ฉันก็โดนไล่ออกแล้ว ขอร้องล่ะฉันไม่อยากเสียพวกนายไป" ยิ่งฉันชอบยองวอนมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งกลัว ยิ่งพวกเขาดีกับฉันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งกลัวจะเสียทุกอย่างไป
"แต่เราสองคนชอบกัน" ยองวอนพูดขึ้น
"แต่เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้นายก็รู้ มีสติหน่อยสิพโยยองวอน นายเป็นใครแล้วฉันเป็นใคร นายจะบ้าไปแล้วหรอ" ตอนนี้ฉันเริ่มโมโหกับความเอาแต่ใจของยองวอนที่จะทำให้ฉันเสียทุกอย่างไป
"เธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นไปไม่ได้" ยองวอนเริ่มตะคอกใส่ฉันเพื่อดึงสติฉันที่กำลังโวยวายอยู่ตอนนี้
"ตอนที่เธอนั่งดูการเปิดตัวของพวกเราเธอรู้อนาคตหรอว่าเราจะมีวันนี้ เธอไม่รู้อะไรเลยแต่ก็เอาแต่ให้กำลังใจและสนับสนุนพวกเรามาตลอด5ปี เพราะเธอเชื่อใจฉัน เธอก็แค่เชื่อฉันอีกสักเรื่องไม่ได้หรอ" เขาจับแขนทั้งสองข้างของฉันแน่น
"ฉันไม่เคยคิดจะเป็นศิลปินฝึกหัดแต่อยู่ๆก็ต้องมาเป็นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แล้วยังไงในเมื่อเป็นแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ก็เหมือนกับที่ฉันไม่เคยคิดจะชอบเธอแต่อยู่ๆเธอก็ทำให้ฉันชอบ แล้วคิดว่าฉันจะยอมแพ้เพราะเธอคิดว่าเรื่องของเราเป็นไปไม่ได้หรอ" เพราะทุกอย่างที่เขาพูดมามันถูกทั้งหมดจนฉันไม่สามารถจะหาข้ออ้างอะไรมาห้ามเขาได้
"ต่อให้เธอไม่โอเคฉันก็จะพยายาม ในเมื่อชอบไปแล้วไม่ว่าจะกี่ปีก็ต้องพยายาม เรื่องนี้เธอน่าจะรู้ดี" คงจะเหมือนที่เขาพยายามเพื่อTrust5 ยองวอนตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่คนที่เคยรู้จัก เขากำลังพูดทุกอย่างที่รู้สึกออกมา มันแตกต่างจากคนที่แอบไปนั่งเศร้ากับความทุกข์บนห้องคนเดียว
ตั้งแต่ขึ้นรถมายองวอนเอาแต่จับมือของฉันไม่ปล่อยเลย
"นี่ นายจะจับแบบนี้ตลอดเลยหรอ" ฉันหันไปถามเขา ขับรถก็ช้าอย่างกับเต่า
"ก็ฉันดีใจนี่ รู้ไหมฉันจิตตกตั้งนานตอนที่คิดว่าเธอชอบพี่ซองมิน" ยองวอนหันมาพูดกับฉันมือก็ยังจับมือฉันอยู่
"ก็ฉันชอบพี่เขาจริงๆนี่ ชอบมา5ปีแล้วด้วย"
"นี่ไง คำพูดนี้เลยเจ็บชะมัด"
"เอ้า ฉันก็ชอบพวกนายทุกคนมา5ปีทั้งนั้นแหละ"
"แล้วทำไมคืนนั้นเธอไม่พูดแบบนี้ รู้ไหมฉันเสียใจแค่ไหน"
"ก็นายไม่ได้ถามแบบนี้นี่ นายถามแค่พี่ซองมิน"
"แต่เธอก็น่าจะบอกสิ"
"โอเคๆ ฉันผิดเองเถียงกับนายไม่จบแน่"
"ดีมาก จุ้บ!!" ยองวอนจูบที่หลังมือของฉัน ฉันตกใจจนเกือบจะดึงมือออกเลยแหละ
"อะไร จูบหลังมือแค่นี้จะดึงออกเลยหรอ"
"ก็ฉันอายนี่ มันไม่ชิน อย่าเล่นแบบนี้สิ"
"อายทำไม จุ้บอย่างอื่นก็เคยมาแล้ว" ยองวอนพูดพร้อมกับทำท่าจะเข้ามาจูบฉัน
"หยุดแกล้งฉันเลยนะ ขับรถไปเลย"
“555+” เขาหัวเราะชอบใจจนลั่นรถเลย
"แล้วถ้าคนอื่นรู้จะทำยังไง?"
"รู้ก็รู้สิ ฉันไม่ได้จะปิดบังอยู่แล้ว อึนบีกับคุณลุงคุณป้ายังรู้แล้วเลย" ยองวอนตอบเหมือนไม่กลัวว่าจะเป็นปัญหาเลยสักนิด เขาหันมามองฉันนิดนึงก่อนจะพูดต่อ "ความจริงเรื่องนี้คนอื่นก็รู้กันจนเกือบหมดแล้วแหละ พี่ซองมินก็รู้แล้ว จุนโฮก็รู้แล้ว พี่มีรันก็รู้แล้ว เหลือแค่ซีโน่ฮยอนจุนพี่อึนจูที่ยังไม่รู้"
นี่รู้กันเยอะขนาดนี้เลยหรอ โอ้ย! อายจัง แต่เดี๋ยวก่อน พี่มีรันรู้ก็คงจะเป็นตอนที่ยองวอนให้มาแต่งตัวให้ฉัน แต่พี่จุนโฮกับพี่ซองมิน นี่พี่ซองมินคงไม่ได้เล่าเรื่องนั้นหรอกนะ
"เดี๋ยวสิ ทำไมพี่จุนโฮกับพี่ซองมินรู้ล่ะ" ฉันแกล้งถามยองวอนและทำเป็นไม่รู้เรื่อง
"ก็..วันที่เธอขึ้นมาหาฉันที่ห้องแล้วเราหลับไป คือความจริงแล้วฉันอุ้มเธอไปนอนที่เตียงของฉัน แต่ฉันไม่ได้ไปนอนเตียงจุนโฮหรอก ฉันนอนกับเธอ แล้วจุนโฮมันขึ้นมาเห็นเลยโดนจับได้"
"ห้ะ!! นี่นายนอนเตียงเดียวกับฉันหรอ นี่หลอกฉันหรอยองวอน" ฉันหันไปโวยวายใส่ยองวอนยกใหญ่ นี่พี่จุนโฮรู้ตั้งนานแล้วสิ ถึงได้มั่นใจขนาดนั้นว่ายองวอนไม่ได้จะกลับไปคบกับอึนบี สองคนนี้นี่ร้ายจริงๆ
"แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอนะ เธอมานอนกอดฉันเอง กอดแน่นซะด้วย" ยองวอนรีบแก้ตัวแต่ก็ยังปนความล้อเลียน โอ้ย! อายจริงๆก็ฉันติดหมอนข้างนี่
"แล้วพี่ซองมินรู้ได้ยังไง" ฉันยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการเลย
"ตอนที่เธอตกน้ำแล้วหลับไปฉันกับพี่นั่งเฝ้าเธอทั้งคืน ฉันอึดอัดเพราะแทบไม่เคยทะเลาะกับพี่เลย ก็เลยบอกสาเหตุที่งี่เง่าใส่พี่ไป ว่าฉันชอบเธอ แต่พี่ไม่เชื่อแล้วก็เอาแต่บอกว่าเธอชอบฉัน" แล้วพี่ซองมินมาแกล้งฉันเพื่อพิสูจน์นี่เอง ไว้ใจใครไม่ได้เลยจริงๆ
"ฉันก็มีเรื่องจะสารภาพ คือซีโน่ก็รู้เรื่องนี้ เขาบังเอิญได้ยินฉันพูดคนเดียวเรื่องที่นายนอนตักฉันตอนป่วย แต่ฉันดันพูดเป็นภาษาไทยเลยโดนจับได้ แต่เขาคิดว่าฉันชอบนายคนเดียว ไม่รู้ว่านายก็ชอบฉัน"
"555+ ลึกลับซับซ้อนจริงๆ งั้นก็แสดงว่าเหลือแค่ฮยอนจุนกับพี่อึนจูที่ไม่รู้ ดีละปล่อยให้งงตาแตกไปดีกว่า" ยองวอนดูสนุกขึ้นมาที่จะได้แกล้งคนอื่นๆ
ตอนนี้ก็เกือบตีหนึ่งแล้วเพราะยองวอนขับรถช้ามากและก็ยังจะเอาแต่จับมือฉัน ทุกคนน่าจะกลับคอนโดกันมาแล้วด้วย ฉันไม่อยากให้ใครเห็นว่าฉันแต่งตัวแบบนี้เลยจริงๆ น่าอายชะมัด
"พรุ่งนี้ไปดูฉันซ้อมด้วยนะ ตาเธอหายดีแล้วนี่" ยองวอนพูดกับฉันขณะที่เราสองคนยื่นอยู่ในลิฟต์
"ได้สิ วันนี้นายก็รีบพักผ่อนแล้วกันเดี๋ยวจะกลับมาป่วยอีก"
เราเดินเข้ามาในห้องก็พบว่าทุกคนนั่งอยู่ที่หน้าทีวีกันพร้อมหน้าพร้อมตามากๆ
"นี่พวกนายมานั่งทำไรกันเนี้ย ไม่หลับไม่นอนหรอ" ยองวอนพูดขึ้นเมื่อเห็นทุกคนอยู่กันครบเลย
"นายกับซารังหายไปไหนมา วันนี้ไม่ไปซ้อม" พี่อึนจูถามขึ้น
"ผมมีธุระต้องไปจัดการ เลยพาซารังไปด้วย"
"ธุระที่ว่าคือการพาซารังไปหาพ่อแม่อึนบีหรอ" ตอนนี้พี่อึนจูดูหน้ากลัวนิดหน่อย แต่พี่อึนจูรู้ได้ยังไงเนี้ย
"พี่อึนจูถามถึงนาย พี่เลยไม่รู้จะโกหกยังไง" อ่อ พี่มีรันยืนทำหน้ารู้สึกผิดอยู่ทางด้านหลัง
"ใช่" ยองวอนตอบสั้นๆ ทำไมตอนนี้มันรู้สึกเหมือนฉันกับยองวอนไปทำอะไรผิดร้ายแรงมาก็ไม่รู้
"คิดดีแล้วหรอยองวอนที่ทำแบบนี้ เอาซารังไปเป็นเครื่องมือแบบนี้ แล้วยังจะสัญญาที่ห้าม.."พี่อึนจูพูดยังไม่ทันจบประโยคยองวอนก็แทรกขึ้นมา
"ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจสะใหม่ ผมไม่ได้ใช้ซารังเป็นเครื่องมืออะไรทั้งนั้น แต่ผมชอบเธอจริงๆ ชอบก่อนที่อึนบีจะกลับมาแล้ว ส่วนเรื่องสัญญาผมคิดว่าถ้าทางค่ายและคนอื่นๆไม่รู้ก็ไม่น่าจะมีปัญหานี่" ยองวอนพยายามอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ แต่ฉันกลับทำได้แค่ยืนเฉยๆไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวออกไปจากตรงนี้
"ที่ยองวอนพูดก็ถูกนะพี่ ถ้าเป็นเรื่องอื่นที่น้องทำผิดผมคงห้ามได้ แต่เรื่องจะชอบใครรักใครต่อให้เป็นพ่อแม่ของยองวอนเองก็ยังห้ามไม่ได้เลย สัญญามันก็ไม่ได้อยู่ไปตลอดถ้าถึงตอนนั้นแล้วเขายังชอบกันอยู่มันก็เป็นเรื่องน่ายินดี ยองวอนของเราจะได้มีความสุขกับเขาบ้าง" พี่ซองมินก็ยังเป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่นเหมือนเดิม
"ผมเห็นด้วย เรื่องนี้ควรให้ยองวอนตัดสินใจเองหัวใจใครหัวใจมัน ในละครที่ผมแสดงชอบมีบทนี้ให้ผมพูดอยู่เรื่อยเลย555+" พี่จุนโฮทำตลกกลบเกลื่อนสถานการณ์ได้น่ารักมาก
"ถ้านายคิดดีแล้วพี่ก็คงห้ามไม่ได้ แต่ก็ระวังด้วยแล้วกันถ้ามีปัญหานายก็จะเดือดร้อนซารังก็ด้วย" พี่อึนจูที่ตอนนี้ดูเหมือนจะใจเย็นลงแล้วพูดขึ้น
"นี่สรุปมีแค่ผมหรอที่ไม่รู้เรื่องสองคนนี้" ในที่สุดฮยอนจุนที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นจนได้
"เรื่องของผู้ใหญ่นายไม่รู้แหละดีแล้ว" ซีโน่เดินไปกอดคอฮยอนจุนพร้อมกับพาเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง
"แต่นายกับซารังก็เด็กเหมือนฉันนะ ทำไมนายถึงรู้อ่ะ"
"เอาน่า เดี๋ยวเล่าให้ฟัง"
"แล้วนี่อึนบีว่ายังไงบ้าง" พี่จุนโฮถามขึ้น
"ท่าทางเหมือนไม่เชื่อ แต่ผมก็ไม่สนใจหรอก ยังไงผมก็ถือว่าบอกเธอไปแล้ว"
"แล้วอึนบีจะไม่พูดเรื่องนี้หรอ" คราวนี้เป็นพี่อึนจู
"ไม่หรอกครับ ถึงเธอจะเอาแต่ใจแต่เธอไม่เคยเอาเรื่องของผมไปบอกสื่อ" ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆก็ดีสิ
"ว้าว!! นี่แสดงว่าเรามีคู่รักอยู่ในคอนโด อิจฉาจังเลยยยยยย ฉันอายุมากกว่าแต่น้องดันมีแฟนก่อน" พี่ซองมินเดินมากอดคอฉันกับยองวอนพร้อมกับมองหน้าเราสลับกันไปมา
"พี่จะแซวก็ได้นะ แต่แซวแค่ผมพอแล้ว เดี๋ยวซารังอายจนเปลี่ยนใจผมก็แย่สิ กว่าจะอ้อนให้ยอมได้นี่ยากกว่าตอนขึ้นคอนเสิร์ตครั้งแรกอีก" ยองวอนพูดพร้อมกับหันมามองหน้าฉัน พี่ซองมินพูดฉันยังไม่อายเท่านายเลย
"555+ ยองวอนเพื่อนรักกลายเป็นน้องหมาซะแล้ว"
ตอนนี้ทุกคนคุยกันอย่างสนุกสนานแต่ฉันกลับอายจนอยากจะเดินหนี
"ฉันไปนอนก่อนนะ" ฉันพูดพร้อมกับเอามือของพี่ซองมินออกจากคอ "ไปกันเถอะพี่มีรัน พี่อึนจู" และเดินไปจับมือของพี่ๆลากขึ้นไปที่ห้องทันที
"อายหรอๆๆ เดี๋ยวก็ชินน่าซารัง555+" พี่จุนโฮตะโกนตามหลังมา ฉันจะไม่ชินเพราะพวกพี่นี่แหละ
ไม่รู้ว่าการเอาความรู้สึกโล่งที่ไม่ต้องปิดบังเรื่องทุกอย่างมาแลกกับความอายที่ทุกคนรู้เรื่องทั้งหมดมันจะคุ้มหรือเปล่า พวกเขาคงไม่หยุดล้อเลียนฉันง่ายๆแน่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ