วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ
เขียนโดย Hermione001
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.
แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) เราอย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้เลย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ซารังเสร็จหรือยัง เดี๋ยวสายนะ" เสียงเคาะประตูที่ดังมาพร้อมกับเสียงเรียกของยองวอน ฉันที่เลือกเสื้อผ้าใส่ไม่ได้เลยก็ต้องเดินออกไปเปิดประตูให้เขา
"นายรออีกแปปนึงได้ไหม ฉันยังไม่เสร็จเลย" ฉันพูดเมื่อเปิดประตูให้ยองวอน
"ทำไมวันนี้นานจัง ปกติเธอแต่งตัวเร็วกว่าซีโน่ซะอีก" ซีโน่ผู้ขึ้นชื่อเรื่องแต่งตัวเร็ว
"คือว่า ฉัน"
"นี่เลือกเสื้อผ้าอยู่หรอ" ยองวอนหันไปมองในห้องแต่งตัวก็เห็นกองเสื้อผ้าที่ฉันถอดเอาไว้ โอ้ย แล้วทำไมต้องมาเห็นด้วยเนี้ย
"555+ เธอกลัวไม่สวยหรอ กลัวฉันไม่ชอบใช่ป่ะ"
"อย่ามาหลงตัวเอง ฉันแค่อยากเปลี่ยนการแต่งตัวบ้าง"
"เสื้อผ้าเธอมีแต่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เลือกไปก็เท่านั้นแหละ ไว้วันหลังฉันพาไปซื้อใหม่ดีกว่า แต่ตอนนี้ฉันต้องไปซ้อมแล้ว สายเดี๋ยวพี่ซองมินจะบ่นเอา" เขาคว้ากระเป๋าที่อยู่ในห้องแต่งตัวและจับมือของฉันให้เดินตามไปที่รถ
"อีก2อาทิตย์ก็ถึงคอนเสิร์ตแล้ว การแสดงตอนของนายเรียบร้อยแล้วใช่ไหม" ฉันถามขึ้นเมื่อเราเข้ามานั่งในรถ
"ก็เรียบร้อยนะ แต่ฉันไม่ค่อยมั่นใจ ฉันแสดงไม่เก่งเหมือนจุนโฮด้วย" ยองวอนพูดขึ้นพร้อมกับขับรถออกจากลานจอดรถ
"นายก็แค่คิดว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆสิ เหมือนกลับไปตอนนั้นอีกครั้ง เดจาวูน่ะ เคยเป็นไหม"
"เคยสิ เป็นบ่อยด้วย" เขาตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี้ย"
"ก็แค่มีความสุขแค่นั้นเอง"
@ห้องซ้อมTrust5
"มาแล้วหรอคู่รักคู่ใหม่" เสียงซีโน่ตะโกนพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันกับยองวอนมาถึง ทำให้ฉันต้องรีบวิ่งไปปิดปากของเขาทัน
"นายจะเสียงดังทำไม เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยิน"
"ขอโทษๆ ฉันลืมตัว" เขาแกะมือฉันออกจากปากตัวเองและรีบขอโทษทันที
"มาครบแล้ว รีบซ้อมกันเถอะ อีกไม่นานก็ถึงคอนเสิร์ตแล้ว" พี่ซองมินเริ่มทำหน้าที่หัวหน้าวงสุดเท่แล้ว
ฉันรู้สึกดีมากที่ได้มานั่งดูพวกเขาซ้อมแบบนี้ จากเมื่อก่อนที่ต้องรอตั้งหลายเดือนพอรู้ว่าTrust5จะมีคอนเสิร์ตพวกเราก็ตื่นเต้นมา แล้วก็รอวันที่พวกเขาจะมาพอได้มานั่งดูแบบนี้ยังรู้สึกไม่เชื่อตัวเองอยู่เลยว่าจะมีวันนี้ได้ พวกเขาเริ่มซ้อมเพลงจากอัลบั้มใหม่ และยังมีบางเพลงที่เป็นของอัลบั้มเก่าด้วย เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงพวกเขาต้องซ้อมกันหนักจริงๆต่างคนต่างออกความคิดเห็นเพื่อให้การแสดงของพวกเขาออกมาดีที่สุดให้สมกับที่ทุกคนรอคอย
“ในเวลานี้จะมีแค่เราสองคน ผมไม่อยากปล่อยให้มันจางหาย
เป็นอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป...”
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นทำให้ต้องละสายตาจากหนุ่มๆทั้ง5คนตรงหน้า ฉันรีบเดินออกไปนอกห้องซ้อม เพราะในนี้เสียงดังมาก แต่เบอร์บนหน้าจอเป็นเบอร์ใหม่ที่ฉันไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่อง ฉันกดรับสายด้วยความสงสัย
"สวัสดีค่ะ" พร้อมกับกล่าวทักทายปลายสายทันที
"นี่เบอร์ซารังใช่ไหมคะ" ปลายสายที่เป็นผู้หญิงถามขึ้น
"ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่านั่นใครคะ"
"ฉันเอง โกอึนบี" โกอึนบี!! แล้วเธอโทรมาทำไมเนี้ย
"อ่อค่ะ ไม่ทราบว่าคุณอึนบีมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"
"พูดธรรมดากับฉันก็ได้ เหมือนที่พูดกับซีโน่กับฮยอนจุนน่ะ เราอายุเท่ากัน"
"เอ่ออ ฉันไม่ค่อยชินน่ะ"
"ฉันอยู่หน้าบริษัท ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม"
"ฉันหรอ?"
"ใช่ แต่ไม่ต้องบอกพี่ยองวอนนะ ฉันอยากคุยกับเธอสองคน"
"ได้ค่ะ" ฉันใช้เวลาคิดอยู่นิดหน่อยแต่ก็ตอบรับเธอกลับไป เธอบอกว่าจอดรถรออยู่ข้างบริษัทฉันจึงเดินออกมาตามทางที่เธอบอก ไม่นานก็เจอรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งจอดอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาคุยข้างในรถเถอะ ข้างนอกมันหนาว" อึนบีเลื่อนกระจกรถลงหลังจากที่ฉันเคาะไม่นาน
"คุณมีเรื่องอะไรหรอคะ" ฉันที่ตอนนี้เข้ามานั่งในรถเริ่มถามขึ้น
"คือ เรื่องวันนั้น" เธออ้ำอึ้งอยู่นิดหน่อย "ฉันขอโทษที่พูดแบบนั้นไปนะ" อึนบีคงจะหมายถึงคำพูดที่ทำให้ฉันรู้สึกสมเพชตัวเอง
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ" ฉันตอบรับพร้อมยิ้มให้เธอเล็กน้อย
"แต่ที่มาวันนี้ ฉันตั้งใจจะมาถามเรื่องของเธอกับพี่ยองวอน" เข้าเรื่องได้สักที "เธอกับพี่คบกันอยู่จริงๆหรอ"
"จริงค่ะ"
"เธอชอบเขาจริงๆหรอ"
"จริงค่ะ" คำตอบของฉันมันมีแค่นี้จริงๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ลึกๆแล้วก็สงสารเธอนิดหน่อยแต่ถ้าเรื่องที่พี่ซองมินพูดที่สระน้ำวันนั้นเป็นเรื่องจริง ยองวอนก็ไม่ควรกลับไปหาเธอ
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพี่ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ถ้าเป็นเรื่องคบกันเราพึ่งคบกันได้ไม่นาน แต่ถ้าเรื่องที่ยองวอนชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณคงต้องไปถามเขาเอง" เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
"งั้นเธอก็คงรู้แล้วสิว่าฉันเป็นแฟนเก่าพี่"
"รู้ค่ะ"
"ฉันรักพี่ ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่เพราะเรื่องบางอย่างทำให้เราผิดใจกัน จนฉันต้องไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ฉันไม่เคยหยุดรักพี่ถึงได้กลับมา" อึนบีเริ่มบรรยายถึงอดีตความรักอันสวยงาม "ฉันคิดว่าพี่ยังรักฉันอยู่ แต่คงเพราะโกรธฉันมากและเราก็ห่างกันไปนานมาก พี่คงกำลังสับสน" แล้วทำไมเธอไม่ไปพูดแบบนี้กับยองวอนเองล่ะ
"คุณคงไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเรารักกันมากแค่ไหน เราสนิทกันตั้งแต่เด็กที่พี่ยอมมาเป็นศิลปินฝึกหัดก็เพราะสัญญากับฉันไว้” เรื่องนี้ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย ใช่แล้วฉันติดตามพวกเขามาหลายปี แต่คนเดียวที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดคือยองวอน นี่หรอเหตุผลที่เขาไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เพราะสาเหตุคืออึนบีสินะ ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้ก็ไม่รู้
"10ปีที่เราอยู่ด้วยกัน เธอคงไม่คิดว่าพี่จะเลิกรักฉันได้ง่ายๆหรอกใช่ไหม" อึนบีพูดต่อเมื่อเห็นฉันเอาแต่นั่งเงียบ
"เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องของคุณสองคน คุณน่าจะไปคุยกับยองวอนมากกว่านะคะ" ฉันไปเกี่ยวอะไรกับความรัก100ปีของพวกเขา ทำไมต้องลากฉันลงมานั่งฟังเรื่องพวกนี้
"คุยกับเธอนี่แหละถูกแล้ว เพราะพี่โกรธฉันอยู่ คุยไปก็ไม่มีประโยชน์"
"แล้วคุณต้องการให้ฉันทำอะไร" ฉันคิดว่าเธอควรจะพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาตรงๆดีกว่ามานั่งพูดเรื่องในอดีตของพวกเขาให้ฉันเจ็บ
"ฉันอยากให้คุณถอยออกมาจากพี่ ถ้าสิ่งที่ฉันคิดมันถูก แล้วพี่ยังรักฉันอยู่คุณเองอาจจะต้องเป็นคนเจ็บที่สุด"
แล้วถ้าสิ่งที่เธอคิดมันผิดล่ะโกอึนบี ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งเธอแค่เพราะเธอเคยคบกับยองวอนน่ะหรอ
"ขอโทษนะ แต่เรื่องนั้นฉันคงทำให้ไม่ได้" ฉันสบตากับอึนบี "ถ้าฉันจะถอยก็ขอให้เป็นเพราะยองวอนต้องการแบบนั้น ฉันเข้าใจเรื่องที่คุณพูด แต่ไม่จำเป็นที่ฉันต้องทำตามแค่เพราะพวกคุณเคยคบกัน ขอบคุณที่เป็นห่วงว่าฉันจะเสียใจแล้วก็ขอโทษจริงๆค่ะ" พูดจบฉันก็รีบเปิดประตูรถทันที แต่อึนบีก็เอื้อมมือมาดึงมือฉันไว้
"ฉันจะทำให้พี่กลับมาให้ได้" ตอนนี้สายตาที่เธอจ้องมาที่ฉันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ในเวลานี้จะมีแค่เราสองคน ผมไม่อยากปล่อยให้มันจางหาย
เป็นอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป...”
ฉันหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าและพบว่าเป็นยองวอนที่โทรมา
"ซารังเธออยู่ไหน" เสียงยองวอนดังมากเพราะต้องตะโกนแข่งกับคนอื่นๆในห้องซ้อม อึนบีที่เหมือนจะได้ยินเธอเอาแต่จ้องฉันยกใหญ่
"ฉันหิว เลยออกมาซื้อของ"
"ไปคนเดียวหรอ ทำไมไม่เรียกฉัน ดึกขนาดนี้มันอันตราย"
"นายซ้อมอยู่ไม่อยากกวน แค่นี้นะฉันจะกลับแล้ว"
"เดี๋ยวก่อน ซื้อขนมอร่อยๆมาให้ฉันกินด้วย"
ยองวอนกดวางสายทันทีที่สั่งให้ฉันซื้อของกินเสร็จ ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและกำลังจะเดินลงจากรถ
"เธอบอกพี่ว่าออกมาซื้อของไม่ใช่หรอ ถ้ากลับไปตัวเปล่าเขาจะสงสัยเอานะ งั้นเราก็ไปซื้อของกันจริงๆเถอะ พี่ก็ฝากซื้อขนมด้วยนี่" อึนบีพูดขึ้นพร้อมทำสีหน้ายิ้มแย้ม ฉันนี่ปรับอารมณ์ตามไม่ทันเลย แต่ก็ยอมไปกับเธอ เพราะก็จริงอย่างที่อึนบีพูด ถ้ากลับไปตัวเปล่ายองวอนต้องเซ้าซี้ถามฉันแน่ๆ
"อันนี้พี่ชอบกินมากๆ เลยตอนเด็กๆ เราต้องมาซื้อกันทุกวัน อันนี้ก็ด้วย" ตั้งแต่มาถึงอึนบีเอาแต่หยิบขนมที่บอกว่ายองวอนชอบกินใส่ตะกล้าจนเต็มไปหมด
ไม่นานอึนบีก็พาฉันมาส่งที่หน้าบริษัท ฉันต้องรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องซ้อมเพราะบอกยองวอนตั้งนานแล้วว่ากำลังกลับ
"ซารัง ทำไมไปนานจัง ฉันว่าจะออกไปตามแล้ว" ยองวอนพูดขึ้นทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้ามาในห้อง
"ขอโทษที ฉันมัวแต่เดินเล่นอยู่"
"เดินเล่นตอนนี้เนี้ยนะ เดี๋ยวก็ป่วยหรอกหนาวจะตาย" ยองวอนเดินมากอดคอฉันและพาไปตรงโต๊ะที่มีคนอื่นๆยืนอยู่
"แหม๋ เป็นห่วงกันเหลือเกิน" ฮยอนจุนทำเสียงกระแนะกนะแหนใส่ฉันกับยองวอน
"นี่ขนมที่ฝากซื้อ" ฉันวางถุงขนมที่อึนบีซื้อลงบนโต๊ะ ซึ่งมีทั้งหมด5ถุง เธอซื้อมาให้ทุกคนเลย
"ซารัง อันนี้ของฉันแน่หรอไม่ทีของโปรดฉันสักอย่าง ปกติเธอซื้อแต่ของที่ฉันชอบนี่" ซีโน่โวยวายและทำหน้างอแงใส่ฉัน
"นั่นสิ หรือว่าเดี๋ยวนี้จำได้แต่ของยองวอนแล้ว กลายเป็นแฟนคลับอันดับ1ของยองวอนคนเดียวแล้วหรอ" คราวนี้เป็นพี่จุนโฮที่กำลังค้นของในถุงขึ้นมาดูทีละอย่าง
"ก็น่าจะใช่นะจุนโฮ เพราะของฉันมีแต่ของโปรดทั้งนั้น" ยองวอนหันไปทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่พี่จุนโฮ "อื้อ เธอรู้ได้ไงว่าฉันชอบอันนี้มากๆเลย ตอนเด็กๆกินทุกวัน ฉันว่าไม่เคยบอกแฟนคลับนะ เธอนี่สุดยอดจริงๆ" เหอะ! ไม่เคยบอกแฟนคลับแต่นายเคยบอกแฟนเก่า
ในขณะที่ทุกคนเอาแต่แซวฉันกับยองวอนก็คงมีแต่พี่ซองมินที่เอาแต่ยืนจ้องฉันไม่พูดไม่จา นี่ฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า
"เธอออกไปข้างนอกกับใครมาหรอ" อยู่ดีๆพี่ซองมินก็ถามขึ้นมา
"ฉันจะไปกับใครได้คะ ก็ไปคนเดียวสิ" ฉันพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด
"ถ้าเธอโกหกพวกเรา ทุกคนจะโกรธเธอนะ" แต่เหมือนจะปิดบังพี่ซองมินไม่ได้ ตอนนี้คนอื่นๆที่กำลังเลือกขนมอยู่เงยหน้าขึ้นมามองฉันเป็นตาเดียว จะจ้องฉันพร้อมกับแบบนี้ไม่ได้นะ
"คือ ฉัน" ตอนนี้สมองกำลังทำการประมวลผลหาคำโกหกอยู่
"อึนบีใช่ไหม" พี่ซองมินไม่รอให้ฉันได้โกหกอะไร และเขาก็เหมือนจะรู้ตั้งแต่แรก
"เพราะแบบนี้ถึงซื้อมาแต่ของที่ยองวอนชอบสินะ เพราะอึนบีไม่รู้ว่าพวกเราชอบกินอะไร" ฮยอนจุนรีบวางขนมลงถุงเหมือนเดิม และเดินไปซ้อมเต้นต่อทันที พี่จุนโฮ ซีโน่ และพี่ซองมินก็เดินตามไปติดๆ ทำไมทุกคนทำหน้าเหมือนฉันทำความผิดร้ายแรงอะไรขนาดนั้น ฉันไม่มีทางเลือกเธอบอกไม่ให้บอกคนอื่นๆ
ปึ้ง!! ยองวอนวางถุงขนมลงบนโต๊ะอย่างแรง
"มานี่" เขาลากฉันออกมาจากห้องซ้อมทันที ดูเหมือนอสูรร้ายกำลังจะเข้าร่างยองวอนอีกแล้ว
"เดี๋ยว!!ยองวอน จะไปไหนเดี๋ยวมีคนเห็น" ฉันพยายามแกะมือของยองวอนออกแต่เขาก็กำแน่นจนฉันแกะออกไม่ได้
ยองวอนพาฉันมาที่รถ เขาเปิดประตูและดันตัวฉันเข้าไปก่อนจะเดินไปฝั่งคนขับและสตาร์ทรถออกจากบริษัททันที
"ยองวอน ขับช้าๆหน่อยฉันกลัว" ตอนนี้เขาดูโกรธมากซึ่งฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันยอมรับว่าสิ่งที่อึนบีพูดเริ่มทำให้สับสนและไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เขาขับรถเร็วมากจริงๆ ทั้งๆที่ปกติตอนกลางคืนยองวอนขับรถช้าเหมือนเต่าเดิน
"ยองวอน!!" ฉันตะโดนเรียกชื่อเขาจนลั่นรถเมื่อเห็นว่ามีรถอีกคันออกมาจากถนน กรี๊ดดดดดด
เอี้ยดดดด!!! ยองวอนเหยียบเบรคจนเสียงล้อกับถนนที่ถูกันดังสนั่น ฉันเองที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นและหมอบอยู่กับคอนโซลหน้ารถ กลัวจนทำอะไรไม่ถูกกลัวจนขยับตัวไม่ได้
"ซารัง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ซารัง" ยองวอนพยายามจะจับตัวฉันให้เงยขึ้น แต่ตัวฉันก็แข็งทื่อในใจคิดแต่ว่าพวกเขาเป็นอะไรหรือเปล่า คนบนรถคันนั้น
"พวกเขาเป็นอะไรไหม มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า" ฉันพูดทั้งๆที่ยังหมอบอยู่กับคอนโซลของรถ
"รออยู่นี่นะ" พูดจบยองวอนก็ลงจากรถไปทันที
ฉันไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าไปมองพวกเขา ถ้ามีคนได้รับบาดเจ็บ ฉันจะทำยังไงดี แต่ไม่นานยองวอนก็กลับเข้ามาในรถ
"ซารัง พวกเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเรายังไม่ทันจะชนกันเลย" ยองวอนพูดขณะที่ลูบหัวของฉันเพื่อให้ฉันหายกลัว ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองรถอีกคัน พวกเขากำลังเลี้ยวไปตามทางฉันเลยเห็นแค่ไฟท้ายรถเท่านั้น
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บหรือเปล่าหัวกระแทกหรอ" ยองวอนดึงฉันให้หันหน้าไปมองเขา ทำไมสถานการณ์ตอนนี้มันทำให้ฉันทั้งกลัวทั้งเจ็บหัวใจมากขนาดนี้
"ยองวอน" ฉันเรียกชื่อเขาแผ่วเบา "เรากลับบ้านกันเถอะ ฉันกลัว" เขาไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ขับรถกลับไปยังคอนโด หรือที่ฉันหลุดปากพูดไปว่าบ้าน มันคงเป็นสิ่งที่ฉันอยากจะพูดกับพ่อแม่พี่ดลในวันนั้น
ไม่นานเราก็กลับมาถึงคอนโด ยองวอนที่เอาแต่เดินจับมือฉันตั้งแต่ลงจากรถโดยไม่กลัวว่าจะมีคนมาเห็นซักนิด ตอนนี้เขาพาฉันมาที่ห้อง ฉันนั่งลงตรงโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กๆหน้าประตูระเบียงยองวอนก็นั่งลงอยู่ข้างๆฉัน
"ซารัง" ไม่นานเขาก็เรียกฉันและเอื้อมมือมาจับมือของฉัน
"นายโกรธอะไรฉันหรอ?" ฉันหันไปถามยองวอน ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีสติขึ้นมาแล้ว หลังจากเหตุการณ์เมื่อกี้
"ฉันขอโทษ ฉันแค่หงุดหงิดที่เธอออกไปเจออึนบีโดยที่ไม่บอกฉัน ทำไมเธอไม่บอกฉัน" ฉันมองหน้าของเขานิ่ง ดูเหมือนยองวอนคนที่โมโหร้ายคนเมื่อกี้จะหายไปแล้ว
"ฉันหวงนาย" ฉันตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกไป "ฉันไม่อยากให้นายเจอเธอ มองหน้าเธอ หรือคุยกับเธอ"
"ซารัง"
"ฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ นายกับอึนบีมันมีความสัมพันธ์อื่นที่ฉันไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงได้เลย ฉันถึงไม่อยากพูดออกมาไง"
"แต่เธอก็น่าจะบอกว่าอึนบีมาที่บริษัท ไหนเราสัญญาว่าจะไม่มีความลับต่อกันไง"
"นายมาเป็นศิลปินฝึกหัดทำไม?" ฉันไม่ควรเอาเรื่องนี้มางี่เง่าใส่ยองวอนเลย แต่ใจของฉันมันอึดอัดจนแทบจะระเบิด
"อึนบีบอกเรื่องนี้กับเธอแล้วสิ" เขาปล่อยมือของฉันออก “หึ! แบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้เธอไปเจออึนบี เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง เธอไม่ได้เชื่อใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้วต่อให้อึนบีไม่ทำอะไรเลยเธอก็ไม่เชื่อฉันอยู่ดี"
"ฉันพยายามแล้วยองวอน แต่เธอกับนายมันมีเรื่องราวมากมายเหลือเกินที่ฉันไม่สามารถเชื่อใจนายได้ การที่กลัวว่าจะเสียนายให้กับผู้หญิงที่นายรักมาตลอดหลายปี ผู้หญิงที่รู้ทุกอย่างที่นายชอบกิน ผู้หญิงที่ทำให้นายมาเป็นTrust5 มันผิดด้วยหรอ นายมองดูฉันสิไม่มีอะไรเทียบเธอได้สักนิด เธอสวย เธอเก่ง เธอมีพร้อมทุกอย่างแต่" ฉันที่กำลังโวยวายเพราะอยากระบายทุกอย่างออกมาอยู่ๆยองวอนก็ดึงฉันเข้าไปกอด น้ำตาของฉันไหลออกมาโดยที่ไม่สามารถบังคับมันได้อีกแล้ว
"อย่าพูดแบบนี้อีกฉันขอร้อง เธอจะดูถูกใครก็ได้ในโลกใบนี้ฉันทนได้ แต่ต้องไม่ใช่พโยซารังของฉัน" ยองวอนกอดฉันแน่นเขาลูบหัวเพื่อหวังว่ามันจะทำให้ฉันใจเย็นลงบ้าง
"อึนบีเป็นคนทำให้ฉันเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดก็จริงแต่คนที่ทำให้ฉันเป็นTrust5 คือเธอนะซารัง ไม่มีเธอไม่มีแฟนคลับฉันก็มาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เธอลืมแล้วหรอ พวกเราพูดคำนี้เสมอ" ทำไมฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย พวกเขามักพูดคำนี้ทุกครั้งที่อยู่บนเวทีไม่ว่าจะตอนที่แสดงคอนเสิร์ตหรือตอนที่ได้รับรางวัลต่างๆ
"ต้นทางกับปลายทางสำหรับฉัน มันไม่สำคัญเท่าระหว่างทางเราเจออะไรและใครอยู่กับเราบ้าง แต่เธออยู่กับฉันมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ระหว่างทางเธอก็ยังอยู่และฉันอยากให้เธออยู่จนถึงปลายทางของฉัน" ใจของฉันสมองของฉันเริ่มคิดตามสิ่งที่เขาพูด ยองวอนมักจะโมโหใส่ฉันก่อนที่จะบอกเหตุผลเสมอ แต่ทุกครั้งที่เขาบอกเหตุผลมันกลับทำให้ฉันเข้าใจและอภัยให้เขาทุกครั้ง
"ก็จริงอยู่ที่อึนบีรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉัน สิ่งที่ชอบสีที่ชอบสถานที่ที่ชอบ แต่เธอไม่สามารถรู้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดคืออะไร แต่กับพโยซารังที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นานเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มักจะมีคำพูดหรือการกระทำแสนซื่อบื่อที่ทำให้ฉันรู้สึกดีเสมอ เหมือนเธอรู้ว่าคำพูดไหนที่ฉันอยากได้ยิน การกระทำไหนที่ฉันอยากเห็น" ยองวอนพูดขณะที่เขายังกอดฉันอยู่ ฉันได้แต่อยู่นิ่งๆในอ้อมกอดของเขา เพราะฉันชอบที่ได้ฟังความรู้สึกทุกอย่างของเขา "เราอย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้อีกเลยนะ ตอนเธอเป็นแบบนี้มันไม่น่ารักเลยสักนิด" ฉันดันตัวออกจากยองวอนทันทีที่เขาพูดจบ
แปะ!! ฉันตีไปที่แขนของเขาอย่างแรงทำให้ยองวอนสะดุ้งพร้อมกับสีหน้าที่งงๆของเขา
"ตีฉันทำไม"
"นายว่าฉันไม่น่ารัก" ฉันปาดน้ำตาและหันหน้าหนีไปทางระเบียง
"555+ นี่ไงที่ฉันชอบ แบบนี้แหละท่าทางซื่อบื่อของเธอ" เขาหัวเราะชอบใจกับการแกล้งงอลของฉัน
"เห้อออ วันนี้เหนื่อยจังซ้อมก็เหนื่อย แฟนก็งอล" ยองวอนลงทิ้งตัวลงนอนที่ตักของฉันและพูดขึ้น
"ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะเชื่อนาย" ฉันก้มลงมามองหน้าของเขา
"ดีมาก ฉันชอบที่ได้นอนตักเธอแบบนี้มากกว่าหมอนอีก" สีหน้าของเขาดูมีความสุขและก็สบายใจมาก
"นายชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ" อยู่ๆฉันก็คิดถึงคำถามที่อึนบีถามฉันที่รถ ไม่ใช่เพราะยังน้อยใจอยู่ แต่ฉันเองก็สงสัยมานานแล้ว
"ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ตัวจริงๆไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เราไปปั่นจักรยานกัน ตอนที่เธอร้องไห้งอแงกอดฉันที่กองถ่ายรายการ ตอนที่เราเผลอหลับไปบนรถ แต่ครั้งแรกที่ฉันรู้ตัวว่าใจเต้นแรงมากก็ตอนที่ฉันเรียกเธอว่าพโยซารัง หลังจากนั้นทุกอย่างก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น พอได้นอนกับเธอก็เริ่มมั่นใจว่าฉันชอบเธอ แล้วไหนจะตอนที่ป่วยอีก พอเห็นเธออยู่กับพี่ซองมินฉันก็ทั้งโกรธทั้งอิจฉาจนทำตัวงี่เง่าใส่พี่ไป ก็แค่นั้นแหละ" แค่นั้นหรอ นี่มันไม่แค่นั้นน่ะแล้ว เขาจำได้ทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ
"นอนกับนายอะไรล่ะ แค่นอนเตียงเดียวกันเอง" นายพูดแบบนี้ฉันก็เสียหายนะสิ
"ก็เหมือนกันนั่นแหละ เธอกอดฉันแน่นเลย" ยองวอนทำเสียงล้อเลียนฉันอีกแล้ว
"เลิกล้อฉันเรื่องนี้ได้แล้วน่า"
"แล้วเธอล่ะ ชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ฉันไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันชอบ แล้วก็ชอบมากด้วย"
"แค่เนี้ย ฉันอุตส่าพูดตั้งเยอะ โหว! น่าน้อยใจมาก" ยองวอนลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับทำหน้าน้อยใจและแกล้งหันไปทางอื่น เป็นการน้อยใจที่น่ารักมาก
"ยองวอน"
"หึ้"
จุ๊บ!! ฉันแกล้งเรียกให้เขาหันมา พอยองวอนหันมาก็รีบยื่นหน้าเข้าไปจุ้บที่ริมฝีปากของเขาทันที
อร้าย!! เขินๆๆๆ เขาอมยิ้มนิดหน่อยและลงไปนอนที่ตักของฉันเหมือนเดิม
"ถ้าเธอง้อแบบนี้ฉันจะงอลเธอทุกๆ5นาทีเลย" ยองวอนนอนหลับตาลงพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่แสนจะน่ารักทำให้ฉันละสายตาจากเขาไม่ได้เลยจริงๆ
ตอนนี้ทุกคนยังไม่กลับมา ฉันก็แอบดีใจที่ยังไม่มีใครกลับมา ขอฉันอยู่แบบนี้อีกสักเดี๋ยวนะทุกคน ฉันอยากเห็นยองวอนนอนยิ้มมีความสุขแบบนี้บนตักของฉันนานๆ
กรึก!!! แล้วววว ฝันมันก็สลายไปในพริบตา เมื่อมีคนอื่นเปิดประตูเข้ามาในห้องของฉันในขณะที่ยองวอนกำลังนอนยิ้มฝันหวานอยู่บนตัก ฉันหันไปมองที่ประตูแล้วก็ต้องตกใจจนร่างกายทำงานก่อนที่สมองจะสั่งเสียอีก ฉันลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติโดยลืมไปว่ายองวอนกำลังนอนตักของฉันอยู่
“โอ๊ยยยย ยัยลูกหมาขาสั้นมันเจ็บนะ” ยองวอนร้องโอดโอยเมื่อหัวของเขากระแทกกับพื้นเพราะฉันรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้บอกเขาก่อนล่วงหน้า
“ลูกชาย” ตามด้วยเสียงเรียกของคุณแม่ยองวอนซึ่งเป็นบุคคลที่ทำให้ฉันตกใจจนลืมทุกอย่าง ถึงฉันจะไม่เคยเจอคุณแม่ของยองวอนมาก่อนแต่ก็เคยเห็นอยู่บ่อยๆจากการสัมภาษณ์ต่างๆ
“แม่!!” ยองวอนหันไปทางต้นเสียงทันที แต่เขากลับไม่มีสีหน้าของความตกใจเลยสักนิดต่างจากฉันมาก จากนั้นเขาก็เดินไปทางท่านและสวมกอด เป็นภาพที่แสนจะอบอุ่นจนฉันรู้สึกอิจฉาและคิดถึงพ่อกับแม่มากๆ แต่ทำไมอยู่ๆท่านถึงมาได้ แถมมาเห็นภาพแบบนี้อีกต่างหาก แล้วฉันจะกล้ามองหน้าคุณแม่ของยองวอนไหมเนี้ย ไม่น่าเลยยยย
“เข้ามาก่อนสิครับ” ยองวอนเดินจับมือคุณแม่ของเขาและพามานั่งที่เตียงของฉัน ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้เพราะไม่กล้าขยับไปไหนจริงๆ
“ซารัง นี่แม่ฉันเอง”
“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบก้มหัวและกล่าวทักทายตามมารยาททันที
“มานี่สิ ไปยื่นทำอะไรตรงนั้น” คุณแม่ของยองวอนเรียกให้ฉันเข้าไปนั่งข้างๆตอนนี้ใจฉันเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่ยองวอนจูบฉันครั้งแรกอีก ฉันค่อยๆเดินไปนั่งที่พื้นฝั่งขวามือของคุณแม่ซึ่งมียองวอนนั่งอยู่ที่ฝั่งซ้าย
“ชอบลูกชายฉันหรอ” อยู่ๆคุณแม่ของยองวอนก็ถามขึ้นมาดื้อๆ โอ๊ย!! ฉันทำตัวไม่ถูกแล้ว มือเริ่มสั่นเพราะความตื่นเต้น
“ค่ะ” ฉันตอบด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับก้มหน้าลงมองที่พื้นเพราะไม่กล้าสบตาของคุณแม่
“แม่ อย่าแกล้งเธอสิครับ เดี๋ยวยัยลูกหมาก็กลั้นหายใจอีก รู้ไหมครับเวลาเธอตกใจมากๆจะชอบกลั้นหายใจนะ”
“555+ โอเคจ้ะ โอเค” คุณแม่ของยองวอนหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่ฉันนี่สิยิ้มไม่ออกจริงๆ
“ทำไมมาถึงแล้วไม่โทรหาผมล่ะ จะได้ไปรับ”
“เพราะลูกซ้อมอยู่แม่เลยไม่อยากกวน”
“กวนที่ไหน แม่ผมมาหาทั้งที แล้วพ่อล่ะครับ”
“รายนั้นไปเที่ยวกับเพื่อนยังไม่กลับเลย”
“โหววว แม่คงตื่นเต้นมากสินะถึงได้รีบมา ไม่รอพ่อแบบนี้”
“ก็ใช่สิ แม่อยากเห็นหน้าแฟนแกจะแย่ แต่ก็ไม่ผิดหวังที่นั่งรถมาตั้งไกล น่ารักสมกับที่อวดเอาไว้จริงๆ”
นี่ยองวอนไปเล่าเรื่องฉันให้คุณแม่ฟังแน่ๆ โอ๊ย!! ฉันไม่น่าไปพูดน้อยใจเรื่องที่เขาแนะนำฉันให้พ่อแม่อึนบีแทนที่จะเป็นพ่อแม่ของเขา ไม่น่าเลยจริงๆซารัง
“ใช่ไหมล่ะ ผมไม่โกหกแม่หรอก”
“แล้วหนูชื่ออะไรละจ้ะ” คราวนี้คุณแม่หันมาถามฉันบ้างหลังจากที่ฉันเอาแต่นั่งเงียบอยู่นาน
“พาราดาค่ะ”
“อ่าว แม่นึกว่าชื่อซารัง ได้ยินยองวอนกับเพื่อนๆเรียกแบบนั้นนี่”
“อ่อ ชื่อซารังผมเป็นคนตั้งเองครับ เพราะเธอเป็นคนไทยผมเลยตั้งชื่อให้เธอว่าพโยซารังไง” ยองวอนยิ้มให้คุณแม่พร้อมกับพูดแบบเขินๆ แต่นายไม่ต้องบอกว่าเรียกฉันว่าพโยซารังก็ได้มั้ง ฉันนี่จะบ้าตาย
“นี่ เที่ยวเรียกลูกสาวคนอื่นเขาเหมือนเป็นภรรยาตัวเองแบบนี้ ไปขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่เขาหรือยังเจ้าลูกชายตัวดี”
“เอ่อออ” เพราะยองวอนอ้ำอึ้งที่จะพูดเรื่องพ่อแม่ของฉัน ฉันเลยตัดสินใจเป็นคนพูดออกไปเอง
“คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูเสียไปหมดแล้วค่ะ” พอฉันพูดจบคุณแม่ก็รีบหันกลับมามองหน้าของฉันทันที
“อย่างงั้นหรอ แม่ขอโทษจริงๆ เพราะยองวอนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย โทรไปทีไรก็เอาแต่พูดว่าหนูน่ารักอย่างงั้นอย่างงี้ 555+ ฉันก็พึ่งเคยเห็นเจ้าตัวดีมีความสุขขนาดนี้เหมือนกัน” คุณแม่ของยองวอนยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่นและใจดี ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ารอยยิ้มที่แสนจะน่าหลงไหลของยองวอนได้มาจากคุณแม่คนสวยของเขานี่เอง เหมือนกันมากจริงๆ
“เอาไว้ว่างๆ ลูกก็พาเธอไปเที่ยวที่บ้านเราบ้างสิ เพราะเสียพ่อแม่ไปแล้วที่ผ่านมาคงลำบาก แต่เธอกลับโตมาได้อย่างดีและน่ารักขนาดนี้ แถมเก่งอีกต่างหาก ฉันฝันอยากจะมีลูกสาวน่ารักๆแบบนี้มานานแล้ว แต่ได้ลูกชายตัวแสบมาแทน555+”
“แม่พูดแบบนี้ผมก็น้อยใจนะ”
“555+” คุณแม่หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจที่เห็นลูกชายทำหน้างอใส่ “ขอบคุณที่คอยดูแลยองวอนแทนฉัน ขอบคุณเธอที่ทำให้ลูกชายฉันมีความสุขขนาดนี้ หลังจากที่คนเป็นแม่ไม่ได้เห็นมานาน แล้วก็ขอบคุณที่หนูโตมาเป็นคนเก่งและก็น่ารักขนาดนี้ด้วย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ