บุหลันกระจ่างใจ

-

เขียนโดย สุดเชย

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 02.26 น.

  12 ตอน
  3 วิจารณ์
  12.64K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) เจอกันอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
        บุหลันกลับมาอยู่บ้านได้เกือบเดือนแล้วและใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเต็มที่ให้สมกับที่จากไปนาน พ่อกำนันกับแม่เพ็ญปลาบปลื้มใจมากที่ลูกสาวเรียนจบปริญญาโท แต่ละวันบุหลันใช้เวลาอยู่กับแม่ในตอนเช้าจากนั้นช่วงบ่ายจะตามพ่อเข้าไปในสวน เพื่อดูแปลงเกษตรสาธิตที่พี่ตะวันริเริ่มทำตามแนวทางเกษตรพอเพียง บุหลันดีใจที่เห็นว่าพี่ตะวันทำงานที่สวนด้วยความสุข พ่อและแม่ก็มีความสุขที่ลูกชายคนโตมาช่วยงาน ดังนั้นจึงถึงเวลาที่หล่อนจะต้องเข้ากรุงเทพเพื่อไปเริ่มงานเสียที งานที่เธอส่งใบสมัครไปตั้งแต่ก่อนจะเรียนจบและได้รับการตอบรับให้เข้าไปรายงานตัวในวันจันทร์ที่จะถึงนี้แล้ว แม้พ่อจะไม่เต็มใจในตอนแรกแต่ด้วยแรงสนับสนุนจากแม่และพี่ตะวัน ในที่สุดพ่อก็ต้องยอมแพ้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่กำนันยอดวางใจว่าอย่างน้อยอรอุมาก็จะเข้าไปทำงานที่กรุงเทพด้วยกัน 
       เมื่อถึงวันเดินทางทศพลจัดส่งรถมารับถึงที่บ้านสวน อรอุมามานอนค้างด้วยเพื่อจะได้ไม่เสียเวลาย้อนกลับไปกลับมา ครั้งนั้นสองสาวต้องอาศัยรถที่ศรันย์เป็นธุระจัดการพากลับบ้าน ทศพลรู้สึกผิดจึงสัญญาว่าจะส่งรถมารับเข้ากรุงเทพเพื่อเป็นการแก้ตัวและยังยืนยันที่จะให้ทั้งสองไปนอนที่คอนโดมิเนียมของเขา แต่เพราะบริษัทออแกไนซ์ที่อรอุมาเข้าทำงานและคอนโดที่เธอซื้อไว้แล้วอยู่ค่อนข้างห่างจากที่ทำงานของบุหลัน ดังนั้นหญิงสาวจึงขออาศัยกับทศพลเป็นการชั่วคราวเพราะใกล้กว่ามาก แม้ว่าอรอุมาจะยืนยันที่จะให้เพื่อนรักไปอยู่ด้วยกันให้ได้
       กว่าจะส่งอรอุมาก็บ่ายแก่แล้ว เมื่อมาถึงคอนโดของทศพลก็พลบค่ำพอดี หญิงสาวมีคีย์การ์ดที่เขาทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เจอกันที่สนามบิน อันที่จริงการตัดสินใจซื้อห้องที่คอนโดเดียวกับทศพลนี้ก็เพราะความสะดวกเป็นหลัก เนื่องจากใกล้ที่ทำงานและทำเลที่ปลอดภัย

       “ โทรศัพท์มาหาฉันด้วยนะว่ารายงานตัวเป็นอย่างไรบ้าง แล้วบอกเจ๊นิดหน่อยด้วยว่ายังติดเลี้ยงปลอบขวัญที่ทิ้งเราสองคนไว้ที่สนามบินด้วย ’’ อรอุมาสั่งก่อนจะลงรถไป
       “ วันนี้คุณทศพลไม่ได้ไปทำงานที่ไหนใช่มั้ยจ๊ะ ’’ บุหลันถามนายเติมคนขับรถเมื่อถึงคอนโดเป็นที่เรียบร้อย
       “ ครับ วันนี้คุณทศพลไม่มีงานที่ไหน สั่งให้ผมไปรับคุณสองคนตั้งแต่เช้า ’’ นายเติมจอดรถหน้าตึกแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตู เขาบอกให้หล่อนขึ้นไปรอที่ห้อง สัมภาระทั้งหลายจะขนตามขึ้นไปส่งให้
       บุหลันขึ้นลิฟต์ไปจนถึงชั้นบนสุดที่เป็นเพนเฮาส์ นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวมาที่คอนโดนี้ ซึ่งพ่อและแม่ของทศพลซื้อไว้ให้เป็นของขวัญที่เรียนจบ เมื่อกลับมาเขาก็ย้ายมาอยู่ที่นี่และมีชีวิตอิสระเป็นของตัวเอง จะกลับไปหาพ่อแม่เดือนละ 2-3 ครั้งเมื่อมีวันหยุดเท่านั้น ส่วนห้องที่เธอตกลงซื้อนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการตกแต่งและยังไม่พร้อมจะเข้าอยู่จึงต้องมาอาศัยอยู่กับทศพลเป็นการชั่วคราว 
       เมื่อครั้งที่ยังอยู่บ้านสวนหล่อนได้รับโทรศัพท์จากศรันย์สองสามครั้ง อรอุมาเป็นคนให้เบอร์ติดต่อกับเขาไป และเมื่อรู้ว่าหล่อนวางแผนจะซื้อคอนโดมิเนียมเขาก็กระตือรือร้นจะเป็นธุระให้ แต่เธอปฏิเสธและบอกไปว่าตัดสินใจเลือกที่เดียวกับทศพลไปแล้ว 
       ยังจำได้ว่าเมื่อพ่อกำนันรู้ว่ามีผู้ชายโทรศัพท์มาหาลูกสาวสุดหวง พ่อถึงกับสอบสวนเป็นการใหญ่ถึงประวัติของผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียดยิบ ซึ่งบุหลันก็ไม่ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับศรันย์มากไปกว่าที่บอกพ่อไปแล้ว และนั่นก็ยิ่งทำให้พ่อกำนันไม่ค่อยไว้ใจมากขึ้นไปอีก ย้ำนักย้ำหนาว่า
       “ ถ้ามีคนเข้ามาจีบต้องพามาให้พ่อดูตัวก่อนนะลูก หนุ่มๆเดี๋ยวนี้ไว้ใจไม่ได้ พ่อต้องได้เห็นก่อนที่ลูกจะตัดสินใจคบกันนะ ’’ 
        แม่กับพี่ตะวันได้แต่มองตากันยิ้มๆ ส่วนบุหลันไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับศรันย์อีกเลย คิดมาถึงตรงนี้ก็ขำกับตัวเองคนเดียว 
       เมื่อขึ้นไปถึงบุหลันก็เปิดประตูเข้าไปเดินสำรวจข้างใน สมแล้วที่เป็นห้องของทศพลเพราะนอกจากจะจัดตกแต่งอย่างมีสไตล์แล้ว ยังมีรูปถ่ายของบรรดาชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีหลายคนอยู่ในกรอบแขวนไว้ตามมุมต่างๆในห้องรับแขก บางรูปก็ดูเป็นศิลปะที่ผู้ชายอวดสรีระและรูปร่าง นี่แค่ห้องรับแขกนะ ถ้าเป็นห้องนอนส่วนตัวจะมีรูปแบบไหน บุหลันไม่อยากจะคิด
       เดินเข้าไปอีกหน่อยถัดจากห้องรับแขกทางขวามือก็ถึงห้องครัว แม้จะมีอุปกรณ์ครบครันแต่ดูเหมือนเจ้าของแทบจะไม่แตะต้องเลย ทศพลคงจะใช้เวลาในห้องนี้น้อยมากและเมื่อข้ามฟากจากห้องครัวผ่านกลับมาที่ห้องรับแขกเพื่อจะเดินไปยังส่วนของห้องนอนสองห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน นายเติมก็ขนกระเป๋าขึ้นมาส่งพอดี 
       “ เอาวางไว้ตรงนั้นก็ได้จ้ะ เดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง นายเติมกลับไปพักผ่อนเถิดขับรถมาทั้งวัน ’’ 
       พูดจบก็ยัดธนบัตรจำนวนหนึ่งใส่ในมือนายเติม และแม้ว่าเขาจะปฏิเสธแต่เธอก็ยืนกรานว่าตั้งใจจะให้ ตอบแทนที่อุตส่าห์ไปรับมาแล้วยังขนกระเป๋าให้ทั้งของเธอและของอรอุมาอีกด้วย
       เมื่อนายเติมกลับไปแล้วบุหลันทิ้งกระเป๋าไว้ที่เดิมแล้วเดินไปทางห้องนอน ห้องของหล่อนอยู่ทางซ้ายจากทางเดิน ในห้องมีเครื่องใช้ครบครันพร้อมห้องน้ำส่วนตัว ขนาดห้องก็ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ที่สำคัญไม่มีรูปชายหนุ่มนุ่งน้อยห่มน้อยแขวนไว้ให้ตะขิดตะขวงใจ
       สำรวจห้องตัวเองแล้วก็เดินออกมาเห็นประตูห้องของทศพลแง้มอยู่ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงคนกำลังอาบน้ำซึ่งคงจะเป็นเจ้าของห้อง บุหลันนั่งรอสักครู่ก็ส่งเสียงเรียก
       “ เจ๊คะ อาบน้ำเสร็จรึยัง หนูมาถึงตั้งนานแล้วไม่ได้ยินเลยหรือ แหม นี่ถ้ามีโจรเข้ามาปล้นคงกวาดไปหมดบ้านแล้ว ’’ 
       พูดจบก็ไถลไปเดินดูรูปภาพชายหนุ่มน้อยใหญ่ในอิริยาบถต่างๆ บางรูปก็ทำให้คนดูหันหน้าหนีแทบไม่ทัน และในขณะที่บุหลันกำลังจดๆจ้องๆอยู่ที่รูปผู้ชายคนหนึ่งที่วางไว้ที่โต๊ะทำงานก็รู้สึกสะกิดใจเสียจริงจึงหยิบขึ้นมาดูใกล้ๆ ในรูปเป็นชายหนุ่มที่แม้จะมองหน้าไม่ค่อยชัดเพราะถ่ายในระยะไกลแต่ก็พอจะดูออกว่าหน้าตาดีทีเดียว เขาใส่สูทตัดเย็บเข้ารูปอย่างดี จากรูปถ่ายดูเหมือนกำลังกล่าวขอบคุณอยู่บนเวที เพราะในมือมีรางวัลอะไรสักอย่างถืออยู่ด้วย คงจะเป็นดาราหนุ่มที่ทศพลดูแลอยู่ 
       แม้จะกลับมาซักระยะแล้วแต่บุหลันก็ไม่เคยสนใจจะดูละครหรือรายการทีวีนอกจากข่าวสารบ้านเมือง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หญิงสาวจะไม่รู้จักหน้าค่าตาของดาราดังระดับประเทศผู้นี้ แถมรูปที่ถ่ายจากด้านล่างเวทีขึ้นไปก็ไม่ชัดถึงขนาดจะมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงได้  
       ยังไม่ทันที่จะวางรูปลงกับโต๊ะก็มีเสียงคนฮัมเพลงออกมาจากห้องน้ำ ทศพลคงจะออกมาแล้ว ถ้าเช่นนั้นหล่อนควรจะออกไปรอข้างนอกเพื่อให้เขาแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า คิดแล้วก็ค่อยๆวางรูปนั้นลง แต่ยังไม่ทันจะหันหลังกลับก็มีเสียงผู้ชายพูดขึ้นมาว่า
       “ เธอเป็นใคร เข้ามาห้องนี้ได้อย่างไร ’’ 
       บุหลันตกใจจนเกือบจะทำรูปหล่นลงพื้น เสียงนี้ไม่ใช่ทศพลแน่นอน แล้วเขาเป็นใครกัน เมื่อหันกลับไปมองเต็มตาก็แทบช็อคที่เห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในสภาพนุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปิดท่อนล่างส่วนท่อนบนเปลือยเปล่า ที่แผงหน้าอกได้รูปของเขามีหยดน้ำเกาะพราว ผมเผ้าเปียกน้ำลู่ไปทางหนึ่ง ดูเขาจะตกตะลึงไม่น้อยที่เห็นหล่อนเช่นกันแต่บุหลันรีบก้มหน้าไม่กล้ามอง และก่อนที่จะพูดอะไรกันเขาก็ปราดเข้ามาประชิดตัวพร้อมทั้งจับแขนไว้แล้วพูดว่า
       “ เธอนั่นเอง! ’’ 
       พูดเพียงแค่นั้นก็จ้องหน้าหญิงสาวไม่วางตา บุหลันทำตัวไม่ถูกที่จู่ๆก็มีผู้ชายในสภาพกึ่งเปลือยมาจับเนื้อต้องตัวแถมยังพูดราวกับว่าเคยเจอกันมาก่อน คิดอะไรไม่ออกได้แต่พูดเสียงสั่นๆว่า
       “ ฉันเป็นเพื่อนกับเจ้าของห้องนี้ คุณเป็นใครทำไมมาอาบน้ำที่ห้องนี้แล้วเจ๊อยู่ที่ไหน ’’ 
       บุหลันพูดทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่ก่อนจะกระชากแขนตัวเองกลับมาพร้อมกับเคลื่อนตัวช้าๆไปทางประตูห้อง แต่ยังไม่ทันจะก้าวออกจากห้องผู้ชายคนนั้นก็จับตัวเธอไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้จนตัวติดกัน บุหลันตกใจแทบสิ้นสติแล้วอีกฝ่ายก็พูดขึ้นว่า
       “ จะก้มหน้าคุยกันอีกนานมั้ย เงยหน้าขึ้นมาให้ฉันเห็นชัดๆหน่อยสิ ’’ คราวนี้น้ำเสียงเขาดูออกจะล้อเลียนหน่อยๆ
       บุหลันเริ่มจะโกรธขึ้นมาแล้ว หมอนี่เป็นใครกันจึงกล้าเข้ามาอยู่ในห้องของทศพล แถมยังมาจับตัวเธอไว้ไม่ยอมปล่อยอีกซึ่งหล่อนคิดว่ามันออกจะมากเกินไปแล้ว ที่สำคัญคำพูดของเขายังฟังแปลกๆเหมือนเคยเจอกันมาก่อน คิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาเต็มตา 
       วินาทีนั้นบุหลันแทบจะหยุดหายใจ ใบหน้าที่เลื่อนเข้ามาใกล้จนจมูกเกือบจะชนกันอยู่แล้วนั้นเป็นใบหน้าที่บุหลันอยากจะลืมไปเสียให้สิ้น เขานั่นเอง ผู้ชายที่เคยทำให้บุหลันทั้งอับอายและคับแค้นใจ ตาสองคู่ประสานกัน บุหลันจ้องเขาตาไม่กระพริบ ส่วนเขาก็มองหล่อนด้วยดวงตาแฝงแววล้อเลียน หญิงสาวไม่ชอบสายตาแบบนี้เลย มันทำให้คิดไปถึงคืนวันนั้น แต่อย่างไรก็ตามเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร บุหลันจ้องกลับด้วยสายตาโกรธเคือง แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้านแถมยังมองไม่วางตาพร้อมรอยยิ้มที่เธอเกลียดที่สุด และแทนที่จะปล่อยให้เป็นอิสระ เขากลับยิ่งโอบกระชับตัวหล่อนให้ใกล้เข้าไปอีกก่อนจะกระซิบที่ข้างหูว่า
       “ ไม่นึกเลยจริงๆว่าเราจะได้เจอกันอีก แต่คราวนี้ตัวเธอไม่มีกลิ่นอาหารเหมือนตอนนั้นแล้วนะ ออกจะหอมชื่นใจ ’’ 
       พูดแล้วยังแกล้งทำท่าสูดลมหายใจใกล้พวงแก้มของหญิงสาวแล้วหัวเราะเบาๆอย่างคนถูกใจที่ได้ล้อคนอื่นเล่น
       บุหลันโกรธจนหัวหมุนไปหมด เธอผลักตัวเขาออกอย่างแรงแล้วหันหลังกลับเตรียมจะวิ่งออกไปนอกห้อง แต่ก่อนที่จะก้าวขาออกไปก็รู้สึกหน้ามืดวิงเวียนจนจะล้มฟาดไปเพราะอารามตกใจระคนอับอาย
       ทิวากรตกใจที่จู่ๆหญิงสาวทำท่าจะเป็นลมตรงหน้า เขาพุ่งเข้าไปรับร่างของหล่อนไว้ก่อนที่จะล้มฟาดกับพื้น พร้อมกับร้องเรียกเมื่อเห็นว่าหล่อนเป็นลมไปเสียแล้ว
       “ เธอ เธอ! อะไรกัน ตกใจจนเป็นลมไปเลย ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง ’’ 
       พูดแล้วก็ทำท่าจะอุ้มหญิงสาวขึ้นมาแต่ทศพลก็เข้าห้องมาเสียก่อน เขาตกตะลึงกับภาพตรงหน้าก่อนจะได้สติถามเสียงแข็งไปว่า
       “ ตายแล้ว ทิวา นี่มันอะไรกัน’’ และเมื่อมองไปที่หญิงสาวที่นอนที่คอพับคออ่อนอยู่ในวงแขนของทิวากร ทศพลก็ตกใจร้องเสียงหลง
       “ บุหลัน!’’
 
      
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

       
 
      

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา