บุหลันกระจ่างใจ
-
12) ดาราดัง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ทศพลจัดการให้บุหลันนอนพักผ่อนในห้องของหล่อนเองแล้วจึงออกมาที่ห้องรับแขก ทิวากรแต่งตัวเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งจิบเบียร์ปล่อยอารมณ์อยู่ที่โซฟา หลังจากมองชายหนุ่มเงียบๆสักครู่ก็พูดกับเขาว่า
“ วันนี้เป็นวันหยุดวันเดียวที่เธอกับพี่มีในเดือนนี้ แล้วทำไมเธอมาที่นี่ล่ะ ’’ ว่าแล้วก็นั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม ท่าทางของทิวากรดูจะรื่นรมย์ไม่น้อย
“ ก็ยัยน้ำฝนตามมาเฝ้าที่คอนโดน่ะสิเลยต้องหลบมานี่ ไม่รู้ป่านนี้ไปหรือยัง ’’ เขาว่า
“ อะไรกัน จบเรื่องกับแม่พลอยหุงได้คราวนี้เป็นแม่ฝนกรดอีกแล้ว ทิวา เจ๊ขอล่ะ ช่วงนี้เธอมีข่าวกับสาวๆไม่เว้นแต่ละวัน ระวังตัวหน่อยสิ เจ๊ตามแก้ให้ไม่ไหวหรอกนะ แล้วนี่ไปทำอะไรน้องสาวเจ๊จนเป็นลมเป็นแล้งไป ’’
“ เจ๊เป็นลูกคนเดียวไม่ใช่หรือ มีน้องสาวโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ’’ เขาไม่ตอบคำถามแต่ป้อนคำถามเสียเอง
“ ไม่ใช่น้องแท้ๆหรอก เค้าชื่อบุหลัน เรารู้จักกันที่โน่น เพิ่งจะได้งานทำก็เลยมาอาศัยอยู่ที่นี่ไปก่อน ห้องของเค้าเองยังตกแต่งไม่เสร็จ ’’ ทศพลเล่าคร่าวๆพร้อมจับพิรุธทิวากร แต่เมื่อไม่เห็นความผิดปกติก็เล่าต่อว่า
“ เจ๊มีน้องที่สนิทมากๆอยู่สองคน คือบุหลันกับอีกคนชื่ออรอุมา นี่ทิวาถือว่าเห็นแก่เจ๊ อย่าคิดจะล้อเล่นหรือทำอะไรแผลงๆกับสองคนนี้เด็ดขาด ’’
“ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมไม่ยุ่งกับน้องสาวเจ๊หรอก กะโปโลจะตายไป ’’ ทิวากรพูดยิ้มๆแต่ก่อนที่ทศพลจะแอบโล่งใจ เขาก็แกล้งพูดต่อว่า
“ ไม่ยุ่งหรอก น้องสาวอีกคนน่ะ ’’ พูดจบก็หัวเราะหึๆ ทศพลคิดว่าตัวเองฟังไม่ผิดก็รีบกันท่าว่า
“ ถึงบุหลันก็ยุ่งด้วยไม่ได้ เขามีคนจองแล้ว ’’
ทิวากรไม่ว่าอะไรแต่ทำหน้าไม่เชื่อ ซึ่งทศพลก็ไม่อยากเซ้าซี้ เพียงแต่สะกิดใจในท่าทีของชายหนุ่มตั้งแต่ตอนที่ตนจะอุ้มบุหลันไปที่เตียง แต่ทิวากรก็ตรงเข้าไปอุ้มเสียเองแล้วยังสำรวจตรวจตราดูว่ามีอะไรผิดปกติตรงไหนหรือไม่ เมื่อเห็นว่าเธอแค่หมดสติเท่านั้นจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมานั่งรอที่ห้องรับแขก ซึ่งนั่นไม่ใช่นิสัยของทิวากร ชายหนุ่มไม่ชอบให้มีบุคคลอื่นที่ตนไม่รู้จักเข้ามายุ่มย่าม แม้นั่นจะเป็นห้องของทศพลก็ตาม ดังนั้นการที่มีหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนเข้ามาอยู่ในห้อง ยิ่งมาเป็นลมลงต่อหน้าด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางที่เขาจะมานั่งรอแบบนี้ และทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องผิดปกติวิสัยของชายหนุ่มจนทศพลอดสงสัยไม่ได้
ในขณะกำลังสงสัยในท่าทีนั้นโทรศัพท์มือถือของบุหลันก็ดังขึ้น ทศพลควานหาโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายของหล่อน เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็พูดเสียงแจ่มใสจนทิวากรเหลือบมอง
“ คุณศรันย์เองหรือคะ ต้องขอโทษด้วยค่ะยายบุหลันหลับไปแล้ว คงจะเหนื่อยเดินทางแล้วยังต้องขนของอีก คุณศรันย์มีธุระอะไรรึเปล่าคะ หรือจะให้ไปปลุกบุหลันมาคุย’’ ทิวากรเงี่ยหูฟังแต่เมื่อทศพลเหลือบตามามอง เขากลับทำท่าเหมือนไม่สนใจ
“ ไม่ต้องห่วงค่ะ คอนโดนี้อยู่ติดรถไฟฟ้าเดิน 5 นาทีก็ถึง แล้วก็เห็นว่าจะเดินทางไปกลับด้วยรถไฟฟ้าค่ะ ไม่อยากซื้อรถให้เป็นภาระ แต่ถ้าคุณศรันย์จะมารับไปทำงานพรุ่งนี้เช้าก็จะบอกให้นะคะ ’’
ทิวากรรู้สึกหมั่นไส้ในความกระตือรือร้นจนออกนอกหน้าของผู้จัดการส่วนตัว เขากระแอมเบาๆเพื่อดึงความสนใจของทศพลกลับมาที่ตัวเอง ทศพลเห็นท่าทางก็รู้ว่าคงจะตั้งท่ารวนอะไรสักอย่างแน่ๆ จึงบอกลาศรันย์ทางโทรศัพท์แล้วหันมาถามชายหนุ่ม
“ ว่าไงจ๊ะทิวา จะกลับแล้วหรือ เอารถมาเองรึเปล่า ยังไงขับกลับดีๆนะ ’’ ทศพลแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้บอกลาเขาซะเลย
“ ผมจะกลับแล้ว พรุ่งนี้ถ้างานเสร็จเร็วจะไปปาร์ตี้ที่เพื่อนชวนไว้เมื่อวันก่อน บอกให้รู้ไว้เท่านั้นล่ะครับ ไปล่ะ ’’ เขาไม่รอฟังคำตอบลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากห้อง แต่ทศพลกลับเรียกเอาไว้แล้วแบมือ
“ รับทราบค่า แต่ตอนนี้เจ๊ขอคีย์การ์ดห้องคืนก่อนนะ แค่ช่วงที่บุหลันมาพักอยู่ด้วยเท่านั้น เดี๋ยวห้องเค้าเสร็จแล้วจะคืนให้นะจ๊ะ ’’
ทิวากรเบะปากใส่ซึ่งทศพลก็ทำเป็นมองไม่เห็น รับคีย์การ์ดที่เขายื่นให้แบบไม่เต็มใจมาเก็บไว้พร้อมโบกมือลา
เมื่อชายหนุ่มกลับไปแล้วทศพลก็เดินกลับไปที่ห้องของบุหลัน พอดีกับที่หญิงสาวรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาแล้วพยายามลุกขึ้นนั่ง แม้จะรู้สึกดีขึ้นแต่ก็ยังมีอาการมึนหัวอยู่เล็กน้อย บุหลันกวาดสายตาไปรอบห้องเมื่อแน่ใจว่าไม่มีบุคคลที่สามแน่นอนก็ถามทศพลว่า
“ เจ๊หายไปไหนมาคะ แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมมาอยู่ที่นี่แล้วตอนนี้เค้ายังอยู่รึเปล่าคะ ’’ บุหลันถามพร้อมกับมองไปรอบๆอย่างไม่ไว้ใจ
“ แหมตื่นมาก็ถามเป็นชุดเลยนะ คืออย่างนี้ฉันออกไปหาแอนดรูว์ก่อนที่เธอจะมาถึงไม่นาน พอดีเขามาทำงานที่นี่ก็เลยนัดกันออกไปเจอ แหม ไม่ได้เจอกันตั้งนานคิดถึงจริงๆ’’ ทศพลพูดถึงแฟนเก่าชาวอเมริกันของเขาที่แยกกันไปตั้งแต่เรียนจบ
“ ตกลงผู้ชายคนนั้นเป็นใครคะ ’’
“ เขาชื่อ ทิวากร เป็นดาราที่ฉันเป็นผู้จัดการให้ไง คนที่เล่าให้ฟังบ่อยๆน่ะ เขามาหลบนักข่าวที่ห้องแล้วเธอก็เข้ามาพอดีเลยจ๊ะเอ๋กัน แต่ไม่ต้องห่วงนะเพราะเอาคีย์การ์ดคืนมาแล้ว ตอนนี้มีแค่เธอกับฉันที่เข้าห้องนี้ได้ ’’
ทศพลเลือกที่จะบิดเบือนความจริงนิดๆหน่อยๆ แต่ไม่ทันได้สังเกตุสีหน้าของหญิงสาวว่าเธอตกตะลึงในความบังเอิญครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน
“ ทิวาเป็นลูกชายคุณสว่างกับคุณพรพรรณี แต่คุณแม่เสียไปนานแล้ว คุณพ่อก็แต่งงานใหม่กับแม่ม่ายลูกติดชื่อคุณณัฐนันท์ ตอนนั้นฉันไปร่วมงานแต่งกับที่บ้านเลยได้เจอทิวา ดูรูปร่างหน้าตาแล้วเห็นว่าน่าจะปั้นได้ ก็เลยชวนมาแล้วเขาก็ทำได้ดีเสียด้วย เล่นหนังเรื่องแรกก็ได้รับรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมเลย อนาคตยังไปได้อีกไกลแน่ๆ ’’ ทศพลพูดถึงชายหนุ่มอย่างปลาบปลื้มใจ เพราะความสำเร็จของเขาก็คือบทพิสูจน์ถึงความสามารถของตัวเองในฐานะผู้จัดการด้วย
ในขณะที่กำลังสาธยายถึงที่มาที่ไปของทิวากร เขาไม่ได้สังเกตุสีหน้าของบุหลันแม้แต่น้อย หญิงสาวมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อรับรู้ว่าชายหนุ่มที่เธอไม่อยากจะพบเจอกันอีกเลยจะเป็นดาราในสังกัดของทศพล และอีกข้อเท็จจริงหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือบริษัทที่หล่อนจะเข้าไปรายงานตัวในวันพรุ่งนี้ก็คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของณัฐนันท์ แม่เลี้ยงของทิวากรนั่นเอง และเมื่อเธอบอกเรื่องนี้กับทศพล เขาก็เอามือทาบอกทำท่าทางเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โต
“ อะไรกันเธอได้งานที่บริษัทของคุณณัฐนันท์หรือนี่ ทำไมโลกมันกลมแบบนี้ล่ะ ’’
บุหลันสังเกตุอาการของทศพลแล้วรู้สึกแปลกๆจึงถามว่ามีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ ซึ่งทศพลก็ปฏิเสธว่า
“ ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก เพียงแค่ทิวาเค้าไม่ถูกกับแม่เลี้ยงแล้วก็ลูกติด งานแต่งเกือบจะล่มเพราะพ่อพระเอกนี่แผลงฤทธิ์เอา ’’
ทศพลเล่าย้อนไปถึงวันที่ได้เจอกับทิวากรในงานแต่งของพ่อเขา วันนั้นทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งถึงเวลาที่บ่าวสาวจะขึ้นไปกล่าวขอบคุณแขกที่มาในงาน ซึ่งโดยรวมแล้วน่าจะเป็นพันคน ในขณะที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังขึ้นไปบนเวที จู่ๆไฟก็ดับลงทั้งห้องจัดงาน แล้วก็ปรากฎว่ามีสาวๆโคโยตี้นุ่งน้อยห่มน้อยออกมาเต้นบนเวที ในขณะที่บ่าวสาวตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนั้น ทิวากรก็จัดการเปิดไฟสว่างแล้วขึ้นไปยืนบนเวที ฉวยไมโครโฟนจากพิธีกรขึ้นพูด
“ ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ผมในฐานะลูกชายของเจ้าบ่าวขอเป็นตัวแทนครอบครัวมอบของขวัญวันแต่งงานให้กับทั้งคู่ ขอให้รักกันยั่งยืนนะครับ ’’
เมื่อกล่าวจบ บรรดาสาวๆเหล่านั้นก็พากันกรูเข้าไปแยกเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวแล้วเต้นยักย้ายส่ายสะโพกอยู่ตรงหน้าบ่าวสาวที่ยังไม่หายจากอาการตกตะลึง บรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายพากันตกใจที่งานเลี้ยงหรูหรากลับปั่นป่วนไปในชั่วพริบตา ส่วนเจ้าตัวคนป่วนงานกลับแอบหลบออกไปเสียดื้อๆ ไม่ยอมอยู่รับรู้ความอับอายของพ่อกับแม่เลี้ยงเสียด้วยซ้ำ
คิดมาถึงตรงนี้แล้วทศพลก็อดขำในความเฮี้ยวของชายหนุ่มไม่ได้ และทั้งๆที่ทิวากรถูกผู้เป็นพ่อโกรธเกรี้ยวแถมยังคาดโทษเอาไว้มากมายแต่เขาก็ไม่ยี่หระและไม่เอ่ยคำขอโทษใดๆกับแม่เลี้ยง ชายหนุ่มย้ายต้วเองออกมาจากบ้านใหญ่หลังนั้นแล้วไปอยู่คอนโดที่เป็นสมบัติส่วนตัวของแม่เขาเอง และใช้ชีวิตแยกออกจากพ่อกับครอบครัวใหม่อย่างสิ้นเชิง การงานที่วางแผนว่าจะให้มาช่วยเป็นอันยกเลิก
“ จริงๆแล้วทิวาเป็นคนน่าสงสารนะ ถึงจะเกิดมาบนกองเงินกองทองแต่พอแม่ตาย ครอบครัวก็แตกกระจาย พ่อไปทาง ลูกไปทางไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยวอีก เขาเลยพยศบ้างบางครั้งแต่ลึกๆแล้วเขาเป็นคนอ่อนไหวทีเดียว ’’ ทศพลพูดเบาๆ
บุหลันรับฟังเรื่องของเขาแล้วก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองแถมยังชอบแกล้งคนอื่น แต่ที่ยังไม่เข้าใจคือทำไมโลกต้องกลมขนาดนี้ ทำไมต้องมาเจอกันอีก แล้วสายตาของเขาที่มองก็สื่อความหมายอะไรบางอย่างที่เธอยังไม่เข้าใจแต่ก็ทำให้รู้สึกหนาวๆร้อนๆอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากรับประทานอาหารเย็นจากเสบียงแช่แข็งของทศพลแล้ว ต่างฝ่ายต่างผลัดกันเล่าเรื่องของตัวเอง มาถึงตอนที่บุหลันเล่าถึงเรื่องที่ทิวากรไปมีเรื่องกับฝรั่งที่ร้านอาหารตอนที่ทศพลไม่อยู่ อีกฝ่ายฟังแล้วถึงกับอ้าปากค้าง
“ อะไรเนี่ย ตกลงคนไทยที่มีเรื่องตอนนั้นคือทิวาเองหรือ ’’
“ ใช่ค่ะ ตัวคนเดียวกล้ากับฝรั่งตั้ง 3-4 คน แล้ววิ่งหนีไปคนเดียวไม่ว่า บ้าที่สุดเลย ’’ น้ำเสียงตอนท้ายออกจะมีอารมณ์โกรธส่วนตัวแทรกอยู่ด้วย
“ เดี๋ยวๆบุหลัน นี่ไปโกรธอะไรทิวามาก่อนรึเปล่าจ๊ะแม่คุณ ’’ ทศพลจับสังเกตุอยู่นานทั้งทิวากรกับบุหลัน ดูแล้วรู้สึกสะกิดใจในท่าทีของทั้งสอง
“ ปล่าวค่ะไม่มีอะไรหรอก แค่คิดว่าเขาโชคดีที่รอดไปได้เท่านั้นค่ะ ว่าแต่พรุ่งนี้เจ๊ต้องไปทำงานหรือเปล่าคะ ’’
บุหลันไม่อยากให้ทศพลสงสัยอะไรไปมากกว่านี้จึงเปลี่ยนเรื่องคุย ซึ่งทศพลก็บอกว่าทิวากรมีงานถ่ายแบบแต่เช้าส่วนตอนเย็นต้องไปงานเปิดศูนย์ประชุมสินค้าแห่งใหม่ กว่างานจะเลิกก็ดึกดื่น เขากำชับให้บุหลันดูแลตัวเองดีๆและให้โชคดีในการเริ่มงานวันแรก แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอนทศพลก็บอกบุหลันว่า
“ พรุ่งนี้ 7 โมงเช้าคุณศรันย์จะมารับหล่อนไปทำงานนะ ’’
ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็ปิดประตูห้องนอนตัวเองโดยไม่รอว่าอีกฝ่ายจะว่าอย่างไร ทิ้งให้บุหลันยืนอึ้งอยู่คนเดียวก่อนจะบ่นกับตัวเองเบาๆว่า
“ เอาอีกแล้ว พ้นจากยัยอรก็มาเจอเจ๊อีกหรือเนี่ย ’’ หญิงสาวส่ายหน้าที่โดนมัดมือชกโดยไม่รู้ตัว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ