เถื่อนร้ายบัญชารัก
10.0
เขียนโดย Phaky
วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.
37 ตอน
0 วิจารณ์
38.83K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) มารยานี้ท่านได้แต่ใดมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากมีปากเสียงและจบลงด้วยบทรักร้อนๆกลางห้องทำงาน ตั้งแต่นั้นแพรชมพูก็ไม่สดใสเหมือนเคย หญิงสาวพูดน้อยจนเกือบไม่พูด ทำหน้าเดียวเหมือนคนยิ้มไม่เป็นและทำตัวห่างเหินเหมือนคนแปลกหน้า กลางวันอาศัยทำตัววุ่นๆเป็นพี่เลี้ยงของหนูน้อยเอมิเลียเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ฟรานซิสโก้ ตกกลางคืนก็ชิงนอนก่อนซ้ำยังหันหลังราวกับไม่ต้องการเห็นหน้า ท่าทีหมางเมินเช่นนั้นทำให้ฟรานซิสโก้ห่อเหี่ยวใจไม่น้อย ทั้งที่อยากแตะต้อง อยากดึงร่างบางเข้ามากอดมาหอมใจแทบขาด แต่ก็ทำได้เพียงนอนมองแผ่นหลังของหญิงสาวในความมืดเพราะรู้ตัวดีว่าได้ทำความผิดมหันต์เอาไว้ จะพูดเสียงดังยังไม่กล้า เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่าเขาจะกล้าหักหาญเอาแต่ใจเหมือนก่อนหน้านี้ให้แพรชมพูยิ่งโกรธเขา กลัวว่าหากยังคงทำตัวไม่ดีแล้วความโกรธมันจะกลายเป็นความเกลียด หากมีวันนั้นจริงเขาคงทนไม่ได้ ใครจะเกลียดเขา ช่างหัวมัน เขาไม่สน ขอแค่คนๆนั้นต้องไม่ใช่แพรชมพู!
ใช้เด็กเป็นเกราะกำบังได้แค่สามวันเท่านั้น สุดท้ายแพรชมพูก็ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริง พี่เลี้ยงของเอมิเลียหายจากอาการไข้หวัดแล้ว เอมิเลียจึงต้องกลับไปอยู่ในความดูแลของพี่เลี้ยงคนเดิม ส่วนพี่เลี้ยงสมัครเล่นอย่างแพรชมพูก็ต้องนั่งจมปุ๊กอยู่ในห้องทำงานของฟรานซิสโก้เช่นเคย ลำพังไม่มีเสียงหัวเราะกับร่างกลมๆของเอมิเลียคอยวิ่งเล่นก็พาให้รู้สึกหงอยเหงาจะแย่ แต่นี่คนสองคนที่อยู่ในห้องยังมีเรื่องหมางใจจนไม่ยอมพูดคุยกัน บรรยากาศในห้องทำงานของฟรานซิสโก้จึงหดหู่และอึดอัดจนพาให้หายใจลำบากทั้งคู่
“พิ้งค์ อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหมจ๊ะ”
จริงๆจะว่าฟรานซิสโก้ไม่ยอมพูดคุยคงไม่ใช่ ชายหนุ่มพยายามแล้วที่จะชวนคุยเพื่อหาโอกาสง้องอน แต่เป็นแพรชมพูต่างหากที่ปิดปากเงียบหรือนานๆจะยอมหลุดคำตอบรับสั้นๆออกมาให้ได้ยิน เหมือนอย่างเช่นตอนนี้ที่ฟรานซิสโก้เอ่ยถามด้วยอยากเอาใจหลังจากเทเรซ่ายกจานของว่างกับน้ำส้มคั้นสดจากคำสั่งของเจ้านายสุดหล่อมาวางไว้ให้
“อยากนั่งตรงนี้เงียบๆคนเดียวค่ะ ขอบคุณมากถ้าคุณจะกรุณา”
‘หรือแปลเป็นประโยคสั้นๆเข้าใจง่ายได้ว่า...อย่ายุ่ง!’ เจ็บฉิบหาย!
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ทะเลาะกัน ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่แพรชมพูตอบกลับมาเป็นประโยคยาวที่สุด และมันก็ทำให้คนฟังใจแป้วสุดๆเช่นกัน เพราะความหมายก็คือไม่ต้องการให้เขาเข้ามาวุ่นวาย อยากตามใจเมียทุกเรื่อง ไม่อยากทำอะไรให้ขัดใจแพรชมพูสักอย่าง แต่ปล่อยให้ความห่างเหินเข้ามาแทรกแซงความสัมพันธ์เช่นนี้นานๆเข้ามันจะดีหรือ ฟรานซิสโก้นั่งมองเมียรักด้วยสายตาลำบากใจพลางครุ่นคิด แพรชมพูเล่นปิดทุกช่องทางไม่ให้เขาได้ทำดีแก้ไขความผิด แล้วเมื่อไรเขาจะได้กอดได้หอมแก้มนุ่มของเมียรักสักที ได้แต่แอบมอง จะลงแดงตายอยู่แล้ว
“พิ้งค์จ๋า อุ้ย...”
มือหนายกปาดเหงื่อที่ซึมเปียกแถวไรผม ขายาวๆที่ตั้งท่าจะเดินไปยังโซฟาที่มีร่างเล็กน่ากอดของเมียรักนั่งอยู่ชะงักอยู่กับที่ไม่กล้าก้าวต่อ ก็ดวงตาเขียวขุ่นที่ตวัดมองมาทันทีที่เขาเอ่ยเรียกมันไม่ต่างจากป้ายประกาศห้ามเสนอหน้าเข้ามาในเขตหวงห้ามของหญิงสาวเลยสักนิด ฟรานซิสโก้ยิ้มเจื่อนหมดมาดเจ้าพ่อก่อนถามตัวเองว่าเอายังไงต่อดีวะ ถ้าอยากเอาใจเมียด้วยการตามใจ มันก็เท่ากับว่าเขาซื้อเวลาสบายใจชั่วครู่ชั่วยามเพื่อทำลายความสัมพันธ์ในระยะยาวน่ะสิ แต่ถ้าหากเขาขัดใจแพรชมพูตอนนี้แล้วดึงดันจะคุยกันให้รู้เรื่อง ต่อให้ต้องตีกันบ้างแต่มันน่าจะดีกว่าไหม อย่างน้อยก็ยังได้รู้ว่าไม่พอใจตรงไหนจะได้แก้ไขถูกจุด บอกตรงๆว่าเขาต้องการความสัมพันธ์ในระยะยาว ยาวนานไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เพราะฉะนั้น...
“พิ้งค์ครับ คุยกันหน่อยดีไหม โกรธผมเรื่องอะไร”
ไม่อยากยอมรับนักว่าตอนนี้เขากำลังถูกความกลัวครอบคลุมหัวใจ ไม่ชินกับความรู้สึกนี้เลย มันทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นผู้พ่ายแพ้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าเขากำลังหวาดกลัวโดยมีสาเหตุมาจากผู้หญิงตัวเล็กหน้าหวานคนนี้จริงๆ เพราะท่าทีเย็นชาเฉยเมยของเมียรักที่ยังทำเหมือนเขาไร้ตัวตนมันกำลังก่อความรู้สึกนี้ขึ้นมาไม่หยุด กลัวเมียไม่รัก กลัวความสัมพันธ์ร้าวฉาน และกลัวว่าจะได้รับสายตารังเกียจจากแพรชมพู ฟรานซิสโก้จึงยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อง้องอน ยอมแม้กระทั่งทิ้งร่างสูงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าแพรชมพูแล้วดึงมือบางมากุมไว้ตรงอกพร้อมทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมแบบที่ไม่เคยทำให้ใคร นาทีนี้หากถูกคัดรายชื่อเข้าสู่สมาคมคนกลัวเมีย ฟรานซิสโก้ก็พร้อมเดินยืดอกเข้าไปแต่โดยดี
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ อยากให้ทำอะไรคุณแค่บอกมา เพราะฉันมีหน้าที่ทำตามคำสั่งอยู่แล้ว”
หนังสือที่กำลังอ่านถูกพับแล้ววางไว้บนตัก แพรชมพูถอนหายใจเฮือกก่อนตอบออกมาน้ำเสียงเย็นชา มือบางที่ถูกเกาะกุมแน่นในอุ้งมือใหญ่พยายามดึงออกเพื่อเว้นระยะห่าง แต่มันไม่เป็นผลเมื่อครั้งนี้ฟรานซิสโก้ไม่คิดปล่อย ซ้ำชายหนุ่มยังขยับเข้ามาใกล้แล้วประทับจุมพิตหนักๆบนหลังมืออ่อนนุ่มก่อนเอ่ยคำขอโทษจากใจที่ส่งผลให้หัวใจดวงน้อยกระตุกรุนแรง
“พิ้งค์ ทูนหัว ไม่ประชดสิครับ เรื่องที่ผมใช้กำลัง พูดจากับพิ้งค์ไม่ดี ผมขอโทษ เราดีกันนะ ดีกันๆ”
เมื่อพยายามชักมือกลับแล้วแต่ไม่เป็นผล แพรชมพูจึงผินหน้าหนีไปอีกทาง ไม่ใช่รังเกียจแต่เพราะไม่อยากเห็นนิ้วก้อยสีแทนที่ยื่นมารอตรงหน้าอย่างที่รู้ดีว่าเขากำลังง้อ ไม่ชอบเลยที่ฟรานซิสโก้ทำตัวน่ารักเหมือนที่กำลังทำอยู่ เพราะมันทำให้เธอสับสน ดวงตากลมหลับตาลงเมื่อรู้สึกได้ว่าในหัวใจกำลังแบ่งออกเป็นสองฝ่าย มันกำลังโต้เถียงกันดุเดือด ฝ่ายหนึ่งบอกให้เธอทำตามความรู้สึก ให้อภัยแล้วหันหน้ากลับไปกอดเขาซะ เพราะอันที่จริงเธอหายโกรธและโหยหาอ้อมกอดอบอุ่นตั้งแต่ที่เห็นความพยายามในการง้อเธอเมื่อสามวันก่อนหลังเกิดเรื่องแล้ว
แต่อีกฝ่ายกลับยุแยงให้เธอใจแข็ง เสียงปีศาจกรอกหูย้ำเตือนไม่ให้เธอลืมว่าเธอเป็นได้แค่ทางผ่าน เธอต้องใจแข็งและใช้ความจริงข้อนี้สะกดจิตตัวเองให้จดจำว่าเขาคือคนเลวและเธอไม่ควรมอบหัวใจให้ ยิ่งตัดใจได้เร็วเท่าไรมันยิ่งปลอดภัยต่อหัวใจเธอมากเท่านั้น แต่หากเขายังขยันเอาใจอยู่แบบนี้ ความตั้งใจของเธอก็คงพังไม่เป็นท่า ลมหายใจเฮือกใหญ่ผ่านปลายจมูกเมื่อฝ่ายแรกกำลังจะวิ่งเข้าเส้นชัย
“ส่วนเรื่องลิซ่า อย่าถือสาเธอเลย ผมผิดเองแหละที่ไม่ทำอะไรให้เด็ดขาด”
‘ทั้งที่เราคือฝ่ายโดนกระทำแต่ฟรานกลับบอกไม่ให้เราโกรธ ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน!’
แต่ทว่าชื่อของอลิซาเบธที่เอ่ยพ้นริมฝีปากของฟรานซิสโก้ด้วยน้ำเสียงอบอุ่นก็เหมือนหอกด้ามยาวปลายแหลมคมที่พุ่งเข้ามาปักอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง ยิ่งชายหนุ่มออกตัวรับผิดแทนก็ไม่ต่างจากมือของเขากำลังจับด้ามหอกที่ยังปักค้างบิดหมุนคว้านให้รอยแผลมันกินพื้นที่กว้างเข้าไปอีก ไม่ต้องถามว่าเจ็บแค่ไหน รู้แค่ว่าหากกลั้นใจตายตอนนี้ได้เธอจะไม่รีรอสักวินาที
“ปล่อย”
มือบางที่ถูกกุมไว้สะบัดมือออกจากอุ้งมือใหญ่อย่างรุนแรง สุดท้ายความคิดที่ยุให้เธอตัดใจก็เป็นฝ่ายชนะพุ่งเข้าเส้นชัยในวินาทีสุดท้าย ไม่ใช่เพราะความใจแข็งของเธอ แต่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นเพราะฟรานซิสโก้นั่นแหละที่ทำให้เธอตาสว่าง เห็นอยู่ตำตา รู้อยู่เต็มใจ ได้ยินเต็มสองหูว่าเขาให้ความสำคัญกับอลิซาเบธมากกว่าเธอชัดเจนขนาดนี้ เธอหาเหตุผลโง่เง่ามาหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้จริงๆ
“พิ้งค์ จะไปไหน มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนครับ พิ้งค์ โอ๊ะ!”
“ฟราน! เจ็บมากไหม เฮ็นริค เข้ามานี่หน่อยค่ะ เฮ็นริค!”
อารามตกใจที่สองมือของตัวเองกลายเป็นผู้ร้ายทำให้ฟรานซิสโก้บาดเจ็บทำให้เผลอลืมตัว แพรชมพูรีบถลาเข้าไปประคองฟรานซิสโก้ที่ถูกเธอผลักจนล้มหงายหลังลงไปนอนที่พื้นขึ้นมา จับศีรษะของเขาที่กระแทกกับขาโซฟาด้านข้างจังๆขึ้นมาพาดบนตัก ปากก็ร้องเรียกให้บอดี้การ์ดหนุ่มที่ประจำอยู่หน้าห้องรีบเข้ามาให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน
“เกิดอะไรขึ้นครับ คุณฟรานเป็นอะไร”
“ฟรานล้มหัวกระแทกขาโต๊ะค่ะ เฮ็นริคช่วยเรียกรถพยาบาลให้ที ฉันจะพาฟรานไปหาหมอ”
“เอ่อ...”
บอดี้การ์ดควบตำแหน่งมือขวาคนสนิทเกิดอาการยืนเอ๋อไปไม่เป็นกับคำร้องขอหน้าตาตื่นของแพรชมพู ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นห่วงเจ้านายเหนือหัว แต่แผลสักรอยแมวข่วนก็ไม่มี เลือดสักหยดก็ไม่ปรากฏ จะมีก็แค่รอยแดงจางๆ จางถึงขนาดที่เฮ็นริคต้องเพ่งตามองแล้วมองอีกถึงสามารถหาพิกัดได้ว่าเมื่อครู่ผิวเนื้อส่วนไหนของฟรานซิสโก้ที่สัมผัสกับขาโต๊ะ ความเจ็บแค่นี้ถึงกับต้องเรียกรถพยาบาลเลยหรือ?
มือขวาหนุ่มหันหน้าไปมองฟรานซิสโก้คล้ายต้องการถามว่า...เอาไงดีครับ ไปเที่ยวโรงพยาบาลกันไหม?
“ไม่ต้องหรอกพิ้งค์ ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก” จะไปให้เสียเวลาอ้อนเมียทำไมเล่า!
ปากบอกว่าไม่เป็นไรให้แพรชมพูสบายใจ แต่ฟรานซิสโก้กลับหลับตาลงแล้วกัดริมฝีปากเหมือนกำลังขบกลั้นความเจ็บปวดรุนแรงตอนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ส่งผลให้คนที่กระวนกระวายเป็นทุนเดิมยิ่งร้อนรน
“แต่หัวคุณกระแทกนะคะ ไม่มีแผลแตกก็จริงแต่ฉันกลัวช้ำใน ไปให้หมอเช็คดีกว่าค่ะ”
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ แค่พิ้งค์ทายาแก้ฟกช้ำให้ก็พอ”
“คุณพิ้งค์ดูแลเจ้านายเถอะครับ เดี๋ยวผมไปหยิบยามาให้”
ผีเห็นผีมันก็ดีแบบนี้!
ฟรานซิสโก้แอบลอบยิ้มเจ้าเล่ห์กับเฮ็นริคโดยที่แพรชมพูไม่เห็น หรืออาจเพราะกำลังเป็นห่วงและตกใจมากจึงทำให้ทักษะการสังเกตของหญิงสาวลืมทำงาน แต่ทุกการกระทำและความคิดของเจ้านายเหนือหัวกลับอยู่ในสายตาของเฮ็นริคทุกอย่าง ผู้ชายด้วยกันมีหรือจะดูไม่ออกว่าฟรานซิสโก้กำลังใช้โอกาสนี้ออเซาะเมียรัก มือขวาคนสนิทจึงอาสาออกไปเอายาทาแก้ฟกช้ำในห้องพยาบาลด้านนอกมาให้ทันทีที่เห็นว่าร่างเล็กของแพรชมพูกำลังจะผละออกไป มุมปากของเฮ็นริคกดยิ้มขำเมื่อแอบหันกลับไปมองแล้วเห็นว่าที่นายหญิงกำลังง่วนอยู่กับการลูบๆถูๆสลับกับเป่าหน้าผากของเจ้านายสุดมารยา เชื่อเถอะว่านาทีนี้ต่อให้ฟรานซิสโก้ต้องเป็นฝ่ายจับศีรษะของตัวเองโขกพื้นให้เจ็บจนเลือดตกยางออกชายหนุ่มก็พร้อมพลีชีพ หากมันสามารถเรียกร้องความห่วงใยจากแพรชมพูได้เหมือนที่กำลังเป็นอยู่
‘มารยานี้ท่านได้แต่ใดมาหนอ?’
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
สาบานว่านี่คือพระเอกของฉัน ตายๆๆ หมดกันเจ้าพ่อฟรานที่แสนดุดันของเจ๊ แค่จะง้อเมียแค่นี้ถึงกับต้องใช้มารยาสาไถเข้าช่วย ลูกน้งลูกน้องแทนที่จะห้าม ดันเออออเอากับเค้าด้วย พระเจ้าช่วย!
ปล.แจ้งให้ทราบว่าจะอัพเนื้อหาถึงวันอาทิตย์ที่ 21 ต.ค.นี้เท่านั้นนะคะ เพราะครบโควต้าแล้ว หลังจากนั้นอาจจะมาโปรยปรายเนื้อหายั่วยวนกันเล็กน้อย ถ้าใครไม่อยากค้างก็สามารถสั่งนิยายแบบรูปเล่มได้ที่เพจตามที่แปะลิ้งค์ไว้หน้าหลัก ราคาเล่มละ 359 บาทส่งฟรีลงทะเบียน หนังสือที่สั่งพิมพ์รอบ 2 มาส่งแล้วและตอนนี้เหลือแค่ 16 เล่มเท่านั้นค่ะ อยากได้ต้องรีบ
หรือใครถนัดแบบ E-book ก็สามารถโหลดได้แล้วเช่นกัน ภัคลงขายไว้ที่ Meb / Ookbee และ Hytexts ราคา 249 บาทเท่านั้นค่ะ ไปโหลดกันเยอะๆน๊า พี่ฟรานรออยู่
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY5MzI2MSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6IjgzMzQxIjt9
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ