เถื่อนร้ายบัญชารัก
10.0
เขียนโดย Phaky
วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.
37 ตอน
0 วิจารณ์
38.85K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
27) ความคิดเปลี่ยน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ‘คิดถึงเมียฉิบหาย!’
กว่าการประชุมแสนวุ่นวายจะได้ข้อสรุปเวลาก็ล่วงเข้าสู่ช่วงบ่ายแก่ หลังจากส่งมอบงานให้ฝ่ายผลิตแก้ไขเครื่องประดับตามที่ได้ทดลองให้นางแบบลองสวมเข้ากับเสื้อผ้าชุดจริงที่จะใช้แสดงในงานแฟชั่นโชว์แล้วมองเห็นจุดเด่นจุดด้อยยามนางแบบเยื้องย่างเรียบร้อย ฟรานซิสโก้ก็รีบปิดประชุมแล้วก้าวยาวๆกลับมายังห้องทำงานที่วันนี้เขาคิดถึงมันมากเป็นพิเศษ ห้องมันก็เหมือนเดิมแต่ที่มันพิเศษก็เพราะมีร่างเล็กแต่กอดนุ่มที่สุดในโลกนั่งรอเขาอยู่ที่นั่น ไม่รู้ป่านนี้จะยังอยู่ดีมีสุขหรือถูกเด็กโอ่งเขมือบลงท้องป่องๆไปแล้ว แอบกังวลเล็กน้อยว่าแพรชมพูจะงอนที่เมื่อเที่ยงเขาไม่ได้มากินข้าวด้วย ก็เพราะมีรายละเอียดของงานที่ต้องแก้ไขกันหลายจุด เขากับทีมงานพร้อมทั้งอลิซาเบธก็เลยต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา พอถึงเวลาอาหารกลางวัน เขาก็ให้เลขาฯสั่งอาหารมาจากภัตตาคารเจ้าประจำแล้วให้ทีมงานทานกันในห้องประชุม รวมทั้งเขาด้วยที่ต้องทานมือหนึ่งจับดินสอมือหนึ่ง แม้อยากจะแว่บกลับมากอดมาหอมแม่เมียตัวน้อยอีกห้องที่อยู่ห่างกันไม่กี่ก้าวก็ต้องห้ามใจ
‘ขออนุญาตใช้ห้องนอนนะคะ’
ถ้าไม่มีกระดาษโน้ตแผ่นน้อยที่ขีดเขียนด้วยลายมือน่ารักวางไว้บนโต๊ะทำงาน เชื่อมั่นว่าตอนนี้ฟรานซิสโก้คงเรียกระดมพลบอดี้การ์ดเข้ามาซักถามให้รู้ความว่าแพรชมพูหายไปไหน ยอมรับว่าพอเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแล้วไม่เห็นใบหน้าหวานแฉล้มของคนตัวบางรออยู่ที่โซฟารับแขก หัวใจของคนคิดถึงมันห่อเหี่ยวพิกล ยืนเท้าสะเอวหมุนซ้ายหมุนขวามองหาแพรชมพูกับเอมิเลียไม่เห็นแม้แต่เงาฟรานซิสโก้ก็เริ่มลนลาน ตั้งท่าจะกดโทรศัพท์เรียกเฮ็นริคเข้ามาอยู่แล้วเชียว เคราะห์ดีที่หางตาคมกริบมองเห็นลูกตุ้มโมเมนตัมโลหะที่เคยวางอยู่มุมโต๊ะอยู่ผิดที่ผิดทาง ชายหนุ่มจึงขยับเข้ามามองและทันเห็นว่ามันกำลังทาบทับกระดาษแผ่นน้อยที่ช่วยชี้เป้าให้เขาคลายกังวลว่าแพรชมพูกับเด็กหญิงเอมิเลียอยู่ที่ไหน ลืมนึกไปเลยว่าเด็กเล็กต้องนอนกลางวันนี่หว่า
‘สลบเหมือดแพ็กคู่’
รอยยิ้มอบอุ่นพร้อมดวงตาคมฉายความอ่อนโยนเกิดขึ้นไม่รู้ตัวทันทีที่มือหนาค่อยๆผลักประตูห้องนอนเข้าไป ร่างสูงชะงักอยู่กับที่ สองมือยกขึ้นแตะที่อกด้านซ้ายอัตโนมัติเพราะรู้สึกเหมือนหัวใจมันจะละลายเป็นรอบที่สองเมื่อสองตาเห็นภาพผู้หญิงต่างวัยสองคนนอนตะแคงตัวหันหน้าเข้าหากันอยู่บนเตียงนอน เรียวแขนเล็กของแพรชมพูกอดร่างกลมชิดอกอิ่ม ในขณะเดียวกันท่อนแขนอวบที่มีขนาดใกล้เคียงกับแขนของแพรชมพูก็กอดรัดร่างเมียเขาไม่ปล่อย แถมขาแน่นๆอวบๆของหมูน้อยเอมิเลียยังก่ายเกยอยู่กับต้นขาของพี่เลี้ยงสาวอีกด้วย เกิดความรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาติดหมัดเมื่อคิดว่าสองคนนี่คงจะเล่นกันเพลินจนเพลียล่ะสิเนี่ยถึงได้หลับสนิทกันทั้งคนเลี้ยงและคนถูกเลี้ยงแบบนี้ และความเอ็นดูนั้นก็ส่งผลให้ฟรานซิสโก้หยิบโทรศัพท์มือถือส่วนตัวในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาบันทึกภาพอบอุ่นใจบนเตียงนอน
‘มองไปมองมาก็เหมือนแม่กับ...ลูก!’
สมองที่กำลังจินตนาการถึงความซุกซนของเด็กหญิงเอมิเลียกับพี่เลี้ยงสาวที่คงวุ่นวายกับการวิ่งไล่จับลูกหมูให้นั่งนิ่งอยู่กับที่หยุดชะงักเมื่อเห็นเรียวแขนของแพรชมพูกระชับร่างกลมป้อมที่ขยับพลิกตัวออกห่างตามประสาเด็กนอนดิ้นเข้ามาชิดอกเหมือนเดิมทั้งที่ยังหลับตาทั้งคู่ เหมือนมันเป็นปฏิกิริยาการปกป้องที่เกิดขึ้นอัตโนมัติของคนเป็นแม่ และมันก็มีแรงดึงดูดประหลาดมวลมหาศาลที่ดึงขาเขาให้ก้าวเดินเข้าไปทรุดนั่งบนเตียงนอนไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสความเนียนเรียบของผิวแก้มอ่อนใสจากเด็กหญิงที่เขาค่อนขอดว่าเหมือนลูกหมูไปแล้ว
‘จะเป็นยังไงวะถ้าหากคนอย่างฟรานซิสโก้ ฮอร์นสัน มีลูก’
มองเห็นด้วยสองตา สัมผัสเกิดขึ้นที่ปลายมือ แต่ความรู้สึกกลับสะท้อนไปยังหัวใจ อยู่ๆก็เกิดคำถามนี้ขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว มันเป็นคำถามที่เขาเคยถามตัวเองแต่นั่นก็เกิดจากถูกคนรอบข้างสอบถามเรื่องชีวิตคู่ แตกต่างกับครั้งนี้ที่คำถามมันมาจากจิตใต้สำนึกส่วนตัวล้วนๆ หากเป็นเมื่อก่อนคำตอบคงมีเพียงสิ่งเดียวคือ...เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางใดเลยที่จะทำให้ผู้ชายที่เหมือนร่างกายปราศจากต่อมความรู้สึกอยากมีสิ่งมีชีวิตน้อยๆแผดเสียงร้องไห้โยเยน่ารำคาญเข้ามาเป็นภาระในชีวิต
แต่ถ้าถามตอนนี้...
ใบหน้าหล่อเหลาก้มมองท่อนแขนเรียวเล็กที่โอบกอดเด็กน้อยไว้เต็มอ้อมแขนบนเตียง เตียงนอนหลังใหญ่ที่เคยมีเขาคนเดียวครอบครอง แน่นอนว่าเมื่อมีอีกสองชีวิตเข้ามาแบ่งปันพื้นที่ย่อมแคบลง แต่คนที่เคยรักสันโดษ คุ้นชินกับการใช้ชีวิตลำพังกลับไม่รู้สึกเดือดร้อนอย่างที่ควรจะเป็น หนำซ้ำฟรานซิสโก้ยังทำในสิ่งที่แม้แต่ตัวชายหนุ่มเองยังไม่คาดคิดด้วยการค่อยๆทิ้งตัวลงนอนตะแคงชันศอกกับที่นอนใช้ฝ่ามือรองรับศีรษะเคียงข้างร่างกลมป้อม ก่อนวาดแขนอีกข้างเอื้อมไปกอดเอวเล็กของพี่เลี้ยงแสนสวย ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบาป้องกันการรบกวนคนหลับ กลายเป็นว่าตอนนี้เอมิเลียที่นอนหลับปุ๋ยถูกโอบกอดจากแพรชมพูกับฟรานซิสโก้คนละข้าง มุมปากได้รูปหยักยิ้มกับตัวเองว่าช่างเหมือนพ่อแม่กำลังกล่อมลูกน้อยเข้านอนไม่มีผิด ระหว่างที่นอนมองสองสาวเพลินๆ อยู่ๆเด็กหญิงเอมิเลียก็ผละจากการกอดแพรชมพูพลิกตัวตะแคงมากอดร่างหนาของฟรานซิสโก้แทน ความไม่คุ้นชินทำให้ชายหนุ่มนอนตัวแข็งเกร็งอยู่พักใหญ่ก่อนค่อยๆผ่อนลมหายใจปล่อยตัวปกติ และจากสัมผัสไร้เดียงสานั้น ทำให้ฟรานซิสโก้ค้นพบความจริงข้อหนึ่งว่า...การมีเด็กในชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป
“อือ... ฟราน”
“ทูนหัว ผมทำให้คุณตื่นเหรอครับ”
ฟรานซิสโก้เลื่อนสายตาจากการจับจ้องแก้มกลมป่องคล้ายพร้อมจะปริแตกได้ทุกเมื่อของเอมิเลียขึ้นมองแพรชมพูที่ส่งเสียงครางออกมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆหยีตางัวเงียขึ้นมองเหมือนไม่แน่ใจว่าเขาที่นอนโชว์ใบหน้าหล่อระดับพระเอกอยู่ข้างๆคือตัวจริง ฟรานซิสโก้จึงทำตัวเป็นคนใจดีช่วยยืนยันตัวตนด้วยการก้มหน้าลงจรดปลายจมูกคมลงหอมแก้มสีแดงปลั่งหนักๆ ตามมาด้วยมือใหญ่ที่ช่วยจับเส้นผมปรกใบหน้าขึ้นทัดหลังใบหูให้อย่างอ่อนโยน
“ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ”
“เสร็จแล้วจ้ะ พอประชุมเสร็จปุ๊บ ผมก็ดิ่งมาหาพิ้งค์ทันที คิดถึง อยากกอดใจจะขาด”
แค่พูดอย่างเดียวคงกลัวว่าแพรชมพูจะไม่เชื่อกระมัง ฟรานซิสโก้จึงแสดงให้เห็นความรู้สึกของเขาด้วยการกระชับร่างเล็กเข้ามากอดชิด แต่ครั้นจะกอดจนร่างบางจมอกเหมือนที่ชอบทำประจำคงไม่ได้เพราะระหว่างกลางยังมีหมูน้อยขี้เซานอนขวางกั้น ฟรานซิสโก้จึงเป็นฝ่ายกตัวขึ้นสูงเพื่อประกบริมฝีปากจุมพิตเรียวปากสีเรื่อถ่ายทอดทุกความรู้สึกโหยหาในช่วงเวลาที่ต้องห่างกันให้แพรชมพูรับรู้ นานเป็นครู่กว่าที่ฟรานซิสโก้จะยอมปล่อย แต่เป็นการปล่อยที่ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ แต่เป็นเพราะอาการสำลักด้วยหายใจไม่ทันกับปลายลิ้นร้อนระอุที่กวาดต้อนทุกหยาดหยดความหวานจากเรียวปากสีเรื่อนั่นต่างหาก
‘นั่นมัน...!’
ดวงตากลมไหววูบ เรียวปากอิ่มเม้มสนิทเมื่อมองเห็นความผิดปกติบางอย่าง คงจะดีกว่านี้มากหากผละริมฝีปากออกห่างแล้วจะเจอแต่ดวงตาคมกริบแต่ประกายในดวงตากลับอ่อนหวานของฟรานซิสโก้ที่มองเธอ แต่มันคงเป็นไปได้ยากเต็มที เพราะเจ้ารอยลิปสติกสีไวน์แดงตรงปกคอเสื้อเชิ๊ตสีขาวของฟรานซิสโก้เด่นหราเห็นชัดในระยะร้อยเมตรราวกับเจ้าของตั้งอกตั้งใจประทับมันไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของในยามที่เจ้าตัวไม่อยู่ใกล้ แม้ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามประทับไว้แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของสีลิปสติกสีสดนี้คือใคร คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกกระมังที่วันนี้อลิซาเบธ เทรย์ซาร์ลก็ทาลิปติกสีไวน์แดงเช่นกัน
‘นอกจากปกเสื้อ แล้ว...’
ดวงตาหม่นเศร้ากวาดมองเครื่องหน้าของท่านประธานคนเก่ง พลางคิดว่าอยากผ่าสมองออกมาแล้วใช้ไม้เรียวตีทำโทษในความไม่รักดีของมันนัก แค่นี้ยังเจ็บไม่มากพอหรือไร ทำไมมันต้องคิดต่อไปอีกเล่าว่านอกจากตรงปกคอเสื้อแล้วยังมีจุดไหนในร่างกายของฟรานซิสโก้อีกไหมที่ถูกเรียวปากของอลิซาเบธสัมผัส ในเมื่อสองตาไม่เห็น เจ้าสมองโง่เง่าก็จงหยุดคิดเสียทีสิ ทำไมต้องอยากรู้ว่าใบหน้าของทั้งคู่แนบชิดกันขนาดไหน ทำไมต้องอยากรู้ด้วยว่าริมฝีปากที่ตะโบมจูบเธอเอาเป็นเอาตายนั่นแลกจูบดูดดื่มกับเจ้าของห้องเสื้อก่อนมาหาเธอหรือไม่ แล้วทำไมต้องอยากรู้ด้วยเล่าว่าอ้อมกอดของฟรานซิสโก้มีโอกาสได้มอบความอบอุ่นให้อลิซาเบธหรือเปล่า...
ทำไมเธอต้องอยากรู้ในสิ่งที่เธอไม่มีสิทธิ์ครอบครอง เจียมตัวด้วยสิ!
แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ สมองของเธอจินตนาการภาพคลอเคลียของทั้งสองอย่างคนฟุ้งซ่าน และยากกว่าอะไรทั้งปวงคือการห้ามไม่ให้ความคิดส่งผ่านทางดวงตา การมองสบตากับฟรานซิสโก้ในเวลานี้จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย เพราะนอกจากมันจะทำให้เธอยิ่งอ่อนแอจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ การสบตากับเขาอาจทำให้ชายหนุ่มรับรู้ความคิดชั่วร้ายที่สมองมันคอยแต่จะสั่งการ แพรชมพูจึงเลือกจะหลับตาลงแล้วใช้ร่างเล็กของหนูน้อยเอมิเลียเป็นที่ซุกซ่อนใบหน้าหม่นเศร้าแสร้งทำว่าเธอง่วงงุน
“โอ๋ๆ ผมไม่กวนแล้ว หลับตานะครับคนดี”
เห็นแพรชมพูซุกซบใบหน้ากับแผ่นหลังของเจ้าหมูน้อย ฟรานซิสโก้จึงเข้าใจไปว่าหญิงสาวง่วงนอนจัด ชายหนุ่มจึงเลิกก่อกวนแล้วขับกล่อมคนนอนน้อยให้หลับสบายขึ้นด้วยการเกาแผ่นหลังบางเบาๆ
“หม่ำๆ”
ปลายนิ้วชี้สีแทนแอบจิ้มพุงกลมๆด้วยความมันเขี้ยว ไม่ต้องสืบแล้วว่าทำไมเอมิเลียถึงตัวกลมเป็นลูกโป่งอัดแก๊สระยะสุดท้ายขนาดนี้ ก็ขนาดหลับไม่รู้เรื่องยังละเมอทำปากเคี้ยวจุบจับๆไม่ได้หยุด เดาเอาสิว่าตอนตื่นแม่หนูจะโกยขนมเข้าปากจากสายตาออดอ้อนได้มากมายขนาดไหน ฟรานซิสโก้โคลงศีรษะด้วยความขบขันเมื่อท่อนแขนแน่นๆของแม่หนูยกก่ายเกยตัวเขา นี่ถ้าเอมิเลียเป็นลูกสาวของเขาล่ะก็ สัญญาเลยว่าเด็กหญิงต้องโดนคุณพ่อสายเบิร์นจับเข้าคอร์สวิ่งสักวันละสองกิโลเมตรทำการลดน้ำหนักเร่งด่วนแน่นอน ที่ต้องใจร้ายกับลูกเพราะเกรงว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยแล้วแขนล่ำๆของลูกสาวพ่อฟรานจะใหญ่กว่าขาตะเกียบของคุณแม่พิ้งค์คนสวย
‘ลูกสาวพ่อฟรานกับแม่พิ้งค์?’ ทำไมชอบคำนี้จังวะ!
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
เป็นไงล่ะอิฟราน คำก็ปีศาจ สองคำก็ลูกหมู ว่าลูกพี่ต่างๆนาๆแต่ไหงกลับนอนกอดแน่นเชียว แถมยังเอาพี่ไปมโนเป็นลูกสาวตัวเองอี๊ก ฮ่าๆๆ เตือนไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าใจไม่ถึงอย่าสบตาลูกพี่เอลี่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ