เถื่อนร้ายบัญชารัก

10.0

เขียนโดย Phaky

วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.

  37 ตอน
  0 วิจารณ์
  38.79K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

28) มารความสุข

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

“ฮ้าววววววว... ฟรานจ๋า พี่ง่วง”

 

คนถูกเสียงเล็กๆติดงัวเงียเรียกว่า ‘ฟรานจ๋า’ ถอนหายใจเฮือกก่อนปากกาในมือที่กำลังไล่เซ็นเอกสารจะถูกวางไว้บนโต๊ะ ดวงตาคมตวัดหางตามองตรงโซฟารับแขกที่ถูกยึดครองด้วยพลังอำนาจร้ายกาจของเด็กหญิงแก้มกลมพร้อมพี่เลี้ยงสาวแสนสวย พื้นที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป บัดนี้มันกลายเป็นที่วางกล่องของเล่นลังโต บ้านตุ๊กตาบาร์บี้ เต็นท์เจ้าหญิงหลังใหญ่พอที่จะเขาจะเข้าไปนอนกลิ้งได้ และที่วางเรียงรายอีกมายก็คือถุงขนมนมเนยอันเป็นเสบียงเสริมระหว่างวันของเด็กหญิงเอมิเลีย บรรยากาศในห้องทำงานที่เคยเงียบสงบเคร่งขรึมของฟรานซิสโก้ตอนนี้จึงไม่ต่างอะไรกับเนอร์สเซอรี่เลี้ยงเด็กอ่อนที่มีแต่เสียงหัวเราะและเสียงเล็กๆพูดชัดบ้างไม่ชัดบ้างคอยซักถาม แต่จะว่าจะโกรธใครได้ ในเมื่อฟรานซิสโก้เองที่เป็นคนสั่งให้แพรชมพูกับเอมิเลียนั่งเล่นกันในห้องทำงาน และจะกล้าบ่นว่าห้องรกได้อย่างไร ในเมื่อข้าวของสีชมพูหวานแหววทั้งหมดที่วางเกลื่อนก็เป็นชายหนุ่มเองทั้งนั้นที่สั่งซื้อมาให้เด็กหมูของเขา ฟรานซิสโก้กวาดซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าตอนพาเอมิเลียไปช็อปของเล่นจนเทเรซ่ายังพูดไม่ออก

 

“พี่เอลี่ อุ้มหน่อย” ต้องพูดว่า ‘อุ้มพี่เอลี่หน่อย’ ต่างหากยายลูกหมู

 

หนูน้อยที่กำลังขยี้หูขยี้ตาเพราะถูกความง่วงหลังทานอาหารกลางวันรุมเร้าอย่างหนักยกแขนอวบๆขึ้นในอากาศเป็นสัญญาณบอกใบ้ให้ฟรานซิสโก้ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าช่วยอุ้มแม่หนูไปนอนหน่อย

 

“วันๆกินแล้วก็นอน ตัวถึงได้หนักแบบนี้” ปากหรือก็บ่นเหมือนรำคาญแต่มือกลับช้อนร่างกลมขึ้นมาแนบอก

 

“พิ้งป้อนหนมเยอะนะ”

 

ใบหน้าจริงจังที่จีบปากจีบคอฟ้องฟรานซิสโก้ทำให้คนถูกกล่าวหาว่าป้อนขนมเยอะจนทำให้แม่หนูตัวหนักได้แต่ยิ้มขำที่อยู่ๆก็กลายเป็นคนผิดซะอย่างนั้น อยากเถียงนักว่าไม่ใช่เอมิเลียหรอกหรือที่ชอบเอาหน้ามาซุกไซ้ตัวเธอ มากอดมาอ้อน กะพริบตาปริบๆ เอามือตีพุงแล้วบ่นว่าพี่หิว จนเธอต้องใจอ่อนป้อนขนมที่ฟรานซิสโก้ขนซื้อมาเข้าปากแม่หนูทุกที

 

“กล้าโทษเมียฟรานเหรอ เดี๋ยวเหอะ”

 

“ฟรานจ๋า พี่จี๋”

 

เอมิเลียหัวเราะร่วนพลางย่นคอหนีไรเคราเขียวครึ้มที่ซุกไซ้จนแม่หนูรู้สึกจั๊กจี้ แพรชมพูนั่งมองความน่ารักของทั้งคู่ที่ดูคล้ายพ่อลูกกำลังเล่นกันด้วยรอยยิ้มสดใส ขำคนขี้เก๊กนักที่วันแรกออกตัวแรงว่าไม่ชอบเข้าใกล้เด็ก แล้วดูวันนี้สิเป็นอย่างไร เจอหมัดเด็ดของเอมิเลียที่เรียกฟรานจ๊ะ ฟรานจ๋า เข้าหน่อยล่ะอุ้มยายลูกหมูไม่ปล่อยเลย ตอนนี้แยกไม่ออกแล้วว่าระหว่างฟรานซิสโก้กับเอมิเลีย ใครติดใครกันแน่

 

“ทูนหัว นั่งรอผมอยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวผมพาเอลี่ไปนอนเอง”

 

“จะไหวเหรอคะ”

 

“สบายมากจ้ะ”

 

ฟรานซิสโก้ก้มหน้าลงจูบขมับของแพรชมพูให้คลายกังวลก่อนโอบอุ้มพลางใช้มือตบก้นกลมๆของเด็กหญิงเอมิเลียที่โงนเงนตาปรือปรอยในอ้อมแขนแข็งแรงเดินไปยังห้องนอนด้านหลัง แพรชมพูรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะสองวันมานี้เธอจะนอนเป็นเพื่อนเอมิเลียไม่เคยห่างกลัวว่าพอเธอไม่ไปด้วยแล้วเด็กหญิงจะงอแงส่งเสียงร้องรบกวนฟรานซิสโก้ แต่คิดอีกทีก็ยิ้มออก เรื่องที่เธอกลัวคงไม่เกิดขึ้นแล้วล่ะ นั่นก็เพราะบนเตียงนอนกว้างสีขาวสะอาดขนาดคิงไซซ์มีตุ๊กตาลูกหมูหน้าตาน่ารักตัวใหญ่วางเป็นเพื่อนใหม่ของแม่หนู คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าใครที่เป็นคนซื้อมา นั่นล่ะ! ฝีมือของคนที่ย้ำนักย้ำหนาว่าไม่รักเด็ก ขนาดปากบอกไม่รักๆยังขนซื้อของเล่นจนแทบเหมาร้าน...

 

‘แล้วถ้าเป็นลูกของเขาเองล่ะ ฟรานจะรักลูกขนาดไหนนะ’

 

แพรชมพูอมยิ้มกับความคิดซุกซนของตัวเอง สมองกำลังจินตนาการภาพคุณพ่อหนวดเคราเฟิ้มที่วิ่งไล่ตามจับลูกน้อยจอมซนอยู่ในสนามหญ้าข้างบ้าน ส่วนคุณแม่อย่างเธอก็นั่งถักเสื้อถักหมวกให้ลูกอยู่ตรงโต๊ะใกล้ๆนั่งฟังเสียงหัวเราะของสองพ่อลูกวิ่งเล่นด้วยกันอย่างมีความสุข

 

ความสุข? มีลูกกับฟรานซิสโก้? ฝันไปเถอะ!

 

แต่ความฝันก็คือความฝัน ในความเป็นจริงมันไม่มีทางใดเลยที่จะทำให้เธอตั้งท้อง เพราะทุกครั้งที่เธอกับฟรานซิสโก้คลอเคลียใกล้ชิด ไม่มีเลยสักครั้งที่เขาจะไม่สวมเครื่องป้องกัน นั่นเป็นเครื่องหมายยืนยันที่คอยย้ำเตือนว่าเขาไม่เคยคิดจริงจังกับเธอแน่นอน และที่ทำให้เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองพลาดพลั้งกับผู้หญิงทั่วไป คงเป็นเพราะมีคนจองสัมปทานในตำแหน่งแม่ของลูกเขาเหนียวแน่นอยู่แล้ว

 

ใครน่ะเหรอ? ก็ผู้หญิงที่เพิ่งหย่อนบั้นท้ายสวยๆลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเธอนี่ไง

 

“สวัสดีค่ะคุณพิ้งค์ ฉันมารบกวนเวลาสุนทรีของคุณหรือเปล่าคะ”

 

‘ใช่ค่ะ รบกวน มากด้วย รู้ตัวแล้วก็รีบไสศีรษะไปไกลๆด้วยค่ะ!’

 

“สวัสดีค่ะ คุณลิซ่ามาหาฟรานเหรอคะ รอสักครู่ เดี๋ยวฉันไปตามให้”

 

เพราะคำว่า ‘มารยาท’ คำบางคำและความจริงบางครั้งจึงไม่สมควรพูดออกอากาศ ยิ่งสถานที่ที่เธออยู่ตอนนี้ไม่ใช่ของเธอแต่เป็นอาณาจักรของฟรานซิสโก้ แพรชมพูจึงทำได้ดีที่สุดคือยิ้มอ่อนต้อนรับแขกคนสำคัญของชายหนุ่ม และเตรียมลุกขึ้นไปตามพี่เลี้ยงจำเป็นออกมาเจอหน้าแขกสาวคนสวยของเขา ส่วนเธอก็จะใช้ห้องนอนเป็นที่หลบภัย หลบหลีกการพบเห็นภาพสนิทสนมของทั้งสองที่มันกรีดหัวใจจนเลือดโซม

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ จริงๆที่มาวันนี้ ฉันตั้งใจมาหาคุณพิ้งค์โดยตรง”

 

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ”

 

คงเพราะอยู่ใกล้ฟรานซิสโก้มานานจนทำให้เธอซึมซับท่าทางของเขามาได้มากโข ใบหน้าของแพรชมพูจึงยังคงเรียบเฉยอยู่ได้ทั้งที่สบสายตาหวานหยาดเยิ้มแต่แอบแฝงอันตรายของอลิซาเบธ แต่ก็อย่างว่า...ใบหน้าโกหกใครก็ได้ ยกเว้นหัวใจที่มันไม่เคยโกหกเจ้าของ ใครเลยจะรู้ว่าภายในอกข้างซ้ายมันกำลังเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวเต้นกระหน่ำราวกลองเพลที่กำลังบรรเลงเพลงปลุกใจ หากเอามีดคว้านมันออกมาคงได้เห็นระดับการเต้นรุนแรงของมันอันเกิดจากลางสังหรณ์ด้านร้ายที่มาจากคำบอกเล่าเรียบๆของผู้หญิงตรงหน้า

 

“ระหว่างเรา นอกจากเรื่องของฟราน คงไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกันอีกมั้งคะ”

 

“นั่นสิคะ งั้นเชิญคุณลิซ่าพูดมาเลยค่ะ”

 

“นี่เป็น ‘บางส่วน’ ของผู้หญิงที่เคยมีข่าวกับฟราน”

 

“แล้ว?”

 

แพรชมพูเลือกที่จะใช้ดวงตาเรียบเฉยปรายตามองรูปภาพในซองเอกสารที่อลิซาเบธใจดีนำออกมาคลี่วางบนโต๊ะให้เธอเห็นชัดเจน บางภาพที่ตัดออกมาจากนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ก็จะมีคำอธิบายสถานที่นัดเดตหรือระยะเวลาคบหาให้เห็นความสนิทสนมของหนุ่มสาวที่เดินคลอเคลียกันไม่ห่าง

 

ถามว่าทำไมเธอยังนั่งนิ่งประหนึ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่เจ็บปวดหัวใจบ้างหรือ?

 

เจ็บสิ! มากด้วย เพียงแต่มันยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะมานั่งคร่ำครวญ ที่เธอแค่ปรายตามองแต่ไม่ยอมยื่นมือไปแตะต้องภาพเหล่านั้นก็เพราะเกรงว่าอลิซาเบธจะเห็นว่ามือของเธอมันสั่นระรัวเหมือนระดับการเต้นของหัวใจ จุดประสงค์ของการกระทำนี้ไม่ได้เกิดจากความหวังดีแน่นอน ความพอใจของอลิซาเบธคือการเห็นความเจ็บปวดของเธอ แต่เธอจะไม่ยอมให้หญิงสาวสมปรารถนาเด็ดขาด ความเข้มแข็งที่พอมีในสายเลือดจึงถูกเค้นมาใช้ให้มากที่สุด

 

“ดูคุณพิ้งค์ไม่ตกใจเลยนะคะที่รู้ว่าฟรานเจ้าชู้มาก!”

 

เก่งนี่! อลิซาเบธนั่งกอดอกพิงแผ่นหลังกับพนักโซฟาพลางทอดสายตาจับสังเกตท่าทางของสตรีตัวเล็กหน้าใสตรงหน้าแบบไม่ปิดบังสักนิด มองให้รู้เลยว่ามอง ยิ้มก็ให้รู้ไปเลยว่าต้องการเยาะเย้ย เธอดูออกว่าหลักฐานความเสเพลของฟรานซิสโก้ที่นำมาวันนี้มันกระทบกระเทือนความรู้สึกของแพรชมพูไม่น้อย แต่หญิงสาวก็ยังสามารถรักษาอาการได้เป็นอย่างดี หรือนี่จะเป็นเหตุผลที่แพรชมพูเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ได้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ฮอร์นสัน

 

“เป็นธรรมดาของผู้ชายนี่คะ”

 

การมาอิตาลีทำให้เธอได้รู้ฐานะที่แท้จริงของฟรานซิสโก้ ตอนถูกเขาบังคับขืนใจ เขาบอกชื่อสกุลให้รับรู้ก็จริง แต่เพราะการนึกถึงใบหน้าของเขามันคือการนึกถึงความอัปยศและเธอไม่ต้องการพบเจอเขาอีกไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า เธอจึงไม่เคยค้นหาว่าเขาเป็นใครมาจากไหน แต่พอได้เห็นคฤหาสน์หลังงาม ได้เห็นตึกใหญ่โตของฮอร์นสันกรุ๊ป เธอจึงใช้เวลาว่างสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตจนได้รู้ว่าเขาคือบุคคลที่มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ระดับโลก เป็นผู้ทรงอิทธิพลคนดังของวงการเพชรพลอยที่คลุกคลีอยู่กับไฮโซและนางแบบดัง จึงไม่แปลกที่เขาจะคบหากับคนสวยตามประสาชายที่ยังไม่แต่งงานและรวยโคตร และยิ่งรู้ข้อมูลก็ยิ่งทำให้เธอยิ่งมองเห็นว่าตัวเองต่ำต้อยขนาดไหนเมื่อยืนข้างเขา จึงไม่แปลกใจเลยที่ฟรานซิสโก้สวมเครื่องป้องกันทุกครั้งไม่เคยพลาดยามอยู่กับเธอ เพราะสตรีที่เหมาะสมจะยืนเคียงข้างช่วยส่งเสริมบารมีให้เขา ควรเป็นหญิงสาวที่อยู่ในระดับเดียวกัน ไม่ใช่ลูกตาสีตาสาไก่กาที่ชื่อแพรชมพู กรรณนิวัติ คนนี้

 

“แล้วคุณลิซ่าล่ะคะ ทำไมถึงทนมองเห็นฟรานเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าได้หน้าตาเฉย”

 

“เพราะของจริงกับดอกไม้ริมทาง...คุณค่ามันต่างกันไงล่ะคะ”

 

‘ต้องให้แจกแจงด้วยไหมว่าใครเป็นของจริง และใครเป็นดอกไม้ริมทาง!’

 

ปากของอลิซาเบธไม่ได้พูดคำนี้ แต่สายตาของหญิงสาวที่มองมาบอกอย่างนั้น ดวงตาที่พยายามเข้มแข็งไหววูบ มั่นใจว่าถูกค้อนทุบหัวยังไม่เจ็บขนาดนี้ คนถูกเปรียบเปรยให้ดูไร้คุณค่าแค่นหัวเราะในใจ จุกไปเลยใช่ไหมล่ะแพรชมพู เข้าใจจุดประสงค์การมาของอลิซาเบธในวันนี้ถ่องแท้แล้วสินะ หญิงสาวต้องการมาประกาศให้รู้ว่าหล่อนไม่ได้สนใจเลยว่าวันนี้ฟรานซิสโก้จะมีเธอหรือผู้หญิงคนไหนอยู่ข้างกาย อลิซาเบธอาจไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ในคำพูดนั้นก็หมายความว่าเธอและผู้หญิงที่เคยเป็นข่าวกับฟรานซิสโก้ก็ไม่ต่างไปจากดอกไม้ริมทางที่รอวันเด็ดทิ้ง คุณค่าสูงสุดก็แค่ของเล่นแก้เหงา ต่างกับไฮโซสาวอย่างหล่อนที่เปรียบประดุจเจ้าหญิงบนหอคอยสูงส่ง

 

“คิดจะเป็นคุณนายฮอร์นสัน ใจต้องนิ่งค่ะ”

 

ทิ้งท้ายไว้ให้แพรชมพูยิ่งช้ำใจหนัก จากนั้นอลิซาเบธจึงคว้ากระเป๋าขึ้นคล้องไหล่และหมุนตัวหันหลังออกไปยังประตูห้องทำงานด้วยรอยยิ้มสาสมใจเป็นที่สุด แต่ทางข้างนอกกลับไม่สะดวกเหมือนตอนเข้ามา เพราะตรงหน้าประตูตอนนี้มีเฮ็นริคยืนขวางเหมือนตั้งใจดักรอเธอ

 

“คุณอลิซาเบธมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ”

 

แน่นอนว่าคนมีความผิดติดตัวยังไงก็ต้องส่อพิรุธให้จับได้เมื่อถูกสายตาคมกริบรู้มากของมือขวาหน้าหล่อคนนี้จับจ้อง แต่แล้วยังไง เธอคืออลิซาเบธ เทรย์ซาร์ล ไฮโซสาวตระกูลมหาเศรษฐีคนดังของอิตาลี ใครจะกล้าทำอะไรเธอ ความหยิ่งยโสในชาติกำเนิดทำให้หญิงสาวเลือกที่จะปิดปากเงียบกริบแล้วยิ้มกวนโทสะส่งให้เฮ็นริค จากนั้นจึงผินใบหน้ามองไปทางแพรชมพูที่อยู่ด้านใน แววตาร้ายกาจบอกเฮ็นริคให้รู้ไปเลยว่าตราบใดที่เธอยังไม่ได้ในสิ่งที่หวัง เธอจะไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่

 

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

เอาโฉมหน้านางมารร้ายขายาวมาให้ดู นางสวยมากอ่ะเนอะ แล้วยายพิ้งค์ของเราจะเอาอะไรไปสู้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนางเอกถึงคิดมาก ส่วนอิฟรานก็มัวแต่หลงปีศาจน้อย ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าสองสาวเค้าเปิดศึกกันอยู่ เพลีย!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา