กามเทพเถื่อน
-
8) ตอนที่ 8
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ได้ผล ชายหนุ่มหยุดหัวเราะทันทีแถมทำเสียงเครียด
“อ้าว พูดอย่างนี้ไม่สวยน่ะน้องชาย เอ๊ย น้องสาว ไม่กลัวฉันจะรายงานเจ้านายของเธอหรือไง พฤติกรรมแบบนี้อาจตกงานได้ง่ายๆน่ะ”
คราวนี้หญิงสาวเป็นฝ่ายยิ้มเย้ย ลอยหน้าบอกเขา
“เสียใจด้วยที่เจ้านายของฉันไม่มี เพราะฉันนี่แหละคืออริยาเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้”
“อะไรน่ะ”
อุทานเสียงดังแล้วทำตาปริบๆอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ต้องมาทำหูหนวก นายได้ยินไม่ผิดหรอก แล้วคราวนี้ก็หัดพูดกับสุภาพสตรีผู้เป็นเจ้าของกิจการแบบสุภาพๆซะมั่ง”
หล่อนยักคิ้วเย้ยเขาอยู่ยิกๆทำเอาชายหนุ่มทั้งขำทั้งหมั่นไส้
แก้ลงค้อมศีรษะคารวะ
“ขอรับคุณผู้หญิง”
“ดีมาก เชิญพักผ่อนได้ตามสบาย”
ว่าด้วยมาดของเจ้าหญิงพูดกับบ่าวแล้วหญิงสาวก็หันตัวกลับ ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเรียกไว้
“เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ นั่นจะไปไหนนะ”
“กลับไง อยู่ทำไม”
อริยาเหลียวหน้ากลับมาตอบกวนๆ
“แล้วไม่คิดจะหาอะไรมาให้ทานหน่อยหรือไง”
“ ไม่ใช่หน้าที่ ใครอยากกินอะไรก็หาเอาเองสิ”
“โอ้โฮ ที่นี่เขาต้อนรับดีสมคำบอกเล่าจริงๆเลย”
หญิงสาวเบ้ปากให้แล้ววิ่งไปจากที่นั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำประณาม แต่เมื่อกลับมาทำงานต่อหญิงสาวก็ไม่ค่อยมีสมาธินัก เพราะคำกล่าวหาของเขาคอยรบกวน
บ้าจริง เขาเป็นใครน่ะ ทำไมถึงมามีอิทธิพลต่อหัวใจใสใสของอริยานักทั้งที่เจอกันแค่ไม่พอข้ามวันเท่านั้น... หญิงสาวนึกอย่างหงุดหงิดใจ
แล้วก็ทนนั่งทำงานต่อไปไม่ได้ เมื่อยังไม่เห็นมีวี่แววว่านายนั้นจะออกมาหาอะไรกินเสียที
“กลัวจะมาเป็นลมตายคารีสอร์ตของฉันหรอกนะ”
หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนลุกเดินออกไปยังอาคารที่เปิดเป็นร้านอาหารไว้บริการแขกที่มาพักซึ่งอยู่ติดกับส่วนที่ทำงานนี่เอง
เวลาบ่ายคล้อยใกล้ค่ำทำให้มีแขกมานั่งทานอาหารกันอยู่มากพอสมควร แต่ดูแล้วก็ไม่มีผู้ชายคนนั้น ร่างโปร่งประเปรียวจึงเดินเลยเข้าไปในครัวที่มีป้าแฉ่งแม่ครัวของเธอเป็นผู้รับหน้าที่ดูแลทุกอย่างอยู่ในนั้น และเมื่อหญิงวัยห้าสิบเศษที่ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉงหันมาเห็นเข้า
“อ้าวหนูนิ่ม มีอะไรมาถึงนี่ หรือว่าหิวแล้ว”
ใบหน้าของป้ามันย่อง แสดงว่ากำลังยุ่งอยู่มากๆ แต่ยังมีรอยยิ้มตามประสาคนอารมณ์ดี สองมือประคองชามใส่อาหารที่กำลังร้อนกรุ่น
“ยังหรอกจ๊ะป้า คือ เอ่อ...”
ท่าทางที่เหมือนยังหาทางไปไม่ถูกของหญิงสาวทำให้ป้าแฉ่งส่งชามอาหารเข้ามาในมือ
“ งั้นถ้าว่างก็ช่วยหน่อยนะจ๊ะ ป้าคนเดียวหัวหมุนไปหมดแล้ว น้ำอ้อยมันออกไปซื้อของที่ตลาดในหมู่บ้านยังไม่กลับ เจ้านพก็ขับเรือพาแขกออกไปตกปลา”
“ได้เลยจ๊ะ ว่าแต่ชามนี้โต๊ะไหนจ๊ะป้า”
“โต๊ะสี่นั้นจ๊ะ ที่มีพ่อแม่กับลูกอีกสองคน”
อริยาทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารอย่างคล่องแคล้ว มันเป็นเรื่องปกติเสียแล้วที่หญิงสาวจะต้องทำหน้าที่ร่วมกับลูกน้องได้ทุกอย่าง เพราะทั้งรีสอร์ตมีลูกจ้างกันอยู่แค่สามคน เวลาที่แขกเข้ามากๆทุกคนจึงต้องรับผิดชอบแทนกันได้หมดทุกหน้าที่ หญิงสาวไม่กล้ารับลูกจ้างเพิ่มเพราะภาวะที่แขกจะเข้ามาพร้อมกันมากๆไม่ได้มีบ่อยนัก แต่มีบ่อยๆที่ทั้งเดือนไม่มีแขกเข้าเลย แล้วหญิงสาวก็แทบจะต้องไปหากู้ยืมเงินจากที่อื่นเพื่อมาจ่ายเงินเดือนลูกน้อง
อริยาสาละวนช่วยงานป้าแฉ่งอยู่จนเย็นค่ำ ลูกค้าเริ่มบางตาและน้ำอ้อยกลับมาจากจ่ายของสดหญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าเหตุผลที่ตนเข้ามาในนี้เพราะอะไร
“อ้าว พูดอย่างนี้ไม่สวยน่ะน้องชาย เอ๊ย น้องสาว ไม่กลัวฉันจะรายงานเจ้านายของเธอหรือไง พฤติกรรมแบบนี้อาจตกงานได้ง่ายๆน่ะ”
คราวนี้หญิงสาวเป็นฝ่ายยิ้มเย้ย ลอยหน้าบอกเขา
“เสียใจด้วยที่เจ้านายของฉันไม่มี เพราะฉันนี่แหละคืออริยาเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้”
“อะไรน่ะ”
อุทานเสียงดังแล้วทำตาปริบๆอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ต้องมาทำหูหนวก นายได้ยินไม่ผิดหรอก แล้วคราวนี้ก็หัดพูดกับสุภาพสตรีผู้เป็นเจ้าของกิจการแบบสุภาพๆซะมั่ง”
หล่อนยักคิ้วเย้ยเขาอยู่ยิกๆทำเอาชายหนุ่มทั้งขำทั้งหมั่นไส้
แก้ลงค้อมศีรษะคารวะ
“ขอรับคุณผู้หญิง”
“ดีมาก เชิญพักผ่อนได้ตามสบาย”
ว่าด้วยมาดของเจ้าหญิงพูดกับบ่าวแล้วหญิงสาวก็หันตัวกลับ ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเรียกไว้
“เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ นั่นจะไปไหนนะ”
“กลับไง อยู่ทำไม”
อริยาเหลียวหน้ากลับมาตอบกวนๆ
“แล้วไม่คิดจะหาอะไรมาให้ทานหน่อยหรือไง”
“ ไม่ใช่หน้าที่ ใครอยากกินอะไรก็หาเอาเองสิ”
“โอ้โฮ ที่นี่เขาต้อนรับดีสมคำบอกเล่าจริงๆเลย”
หญิงสาวเบ้ปากให้แล้ววิ่งไปจากที่นั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำประณาม แต่เมื่อกลับมาทำงานต่อหญิงสาวก็ไม่ค่อยมีสมาธินัก เพราะคำกล่าวหาของเขาคอยรบกวน
บ้าจริง เขาเป็นใครน่ะ ทำไมถึงมามีอิทธิพลต่อหัวใจใสใสของอริยานักทั้งที่เจอกันแค่ไม่พอข้ามวันเท่านั้น... หญิงสาวนึกอย่างหงุดหงิดใจ
แล้วก็ทนนั่งทำงานต่อไปไม่ได้ เมื่อยังไม่เห็นมีวี่แววว่านายนั้นจะออกมาหาอะไรกินเสียที
“กลัวจะมาเป็นลมตายคารีสอร์ตของฉันหรอกนะ”
หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนลุกเดินออกไปยังอาคารที่เปิดเป็นร้านอาหารไว้บริการแขกที่มาพักซึ่งอยู่ติดกับส่วนที่ทำงานนี่เอง
เวลาบ่ายคล้อยใกล้ค่ำทำให้มีแขกมานั่งทานอาหารกันอยู่มากพอสมควร แต่ดูแล้วก็ไม่มีผู้ชายคนนั้น ร่างโปร่งประเปรียวจึงเดินเลยเข้าไปในครัวที่มีป้าแฉ่งแม่ครัวของเธอเป็นผู้รับหน้าที่ดูแลทุกอย่างอยู่ในนั้น และเมื่อหญิงวัยห้าสิบเศษที่ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉงหันมาเห็นเข้า
“อ้าวหนูนิ่ม มีอะไรมาถึงนี่ หรือว่าหิวแล้ว”
ใบหน้าของป้ามันย่อง แสดงว่ากำลังยุ่งอยู่มากๆ แต่ยังมีรอยยิ้มตามประสาคนอารมณ์ดี สองมือประคองชามใส่อาหารที่กำลังร้อนกรุ่น
“ยังหรอกจ๊ะป้า คือ เอ่อ...”
ท่าทางที่เหมือนยังหาทางไปไม่ถูกของหญิงสาวทำให้ป้าแฉ่งส่งชามอาหารเข้ามาในมือ
“ งั้นถ้าว่างก็ช่วยหน่อยนะจ๊ะ ป้าคนเดียวหัวหมุนไปหมดแล้ว น้ำอ้อยมันออกไปซื้อของที่ตลาดในหมู่บ้านยังไม่กลับ เจ้านพก็ขับเรือพาแขกออกไปตกปลา”
“ได้เลยจ๊ะ ว่าแต่ชามนี้โต๊ะไหนจ๊ะป้า”
“โต๊ะสี่นั้นจ๊ะ ที่มีพ่อแม่กับลูกอีกสองคน”
อริยาทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารอย่างคล่องแคล้ว มันเป็นเรื่องปกติเสียแล้วที่หญิงสาวจะต้องทำหน้าที่ร่วมกับลูกน้องได้ทุกอย่าง เพราะทั้งรีสอร์ตมีลูกจ้างกันอยู่แค่สามคน เวลาที่แขกเข้ามากๆทุกคนจึงต้องรับผิดชอบแทนกันได้หมดทุกหน้าที่ หญิงสาวไม่กล้ารับลูกจ้างเพิ่มเพราะภาวะที่แขกจะเข้ามาพร้อมกันมากๆไม่ได้มีบ่อยนัก แต่มีบ่อยๆที่ทั้งเดือนไม่มีแขกเข้าเลย แล้วหญิงสาวก็แทบจะต้องไปหากู้ยืมเงินจากที่อื่นเพื่อมาจ่ายเงินเดือนลูกน้อง
อริยาสาละวนช่วยงานป้าแฉ่งอยู่จนเย็นค่ำ ลูกค้าเริ่มบางตาและน้ำอ้อยกลับมาจากจ่ายของสดหญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าเหตุผลที่ตนเข้ามาในนี้เพราะอะไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ