รู้ตัวอีกทีผมก็กลายเป็นสาวหูแมวสุดน่ารักแทนที่จะได
-
เขียนโดย Usamin
วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 00.47 น.
6 ตอน
2 วิจารณ์
9,588 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561 01.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) การเริ่มต้นบนโลกใบเดิม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสายตาที่กำลังพยายามลืมตาขึ้นของ เนมุ แม้จะเพียงเล็กน้อยเพื่อมองไปยังขอบเขตรอบๆตัว เสียงของทหารที่เคยช่วยเนมุไว้ยังคงดังกึกก้องอยู่ในหัว เสียงบางเบาก่อนที่ดาบจะทะลุร่างของทหารที่พยายามจะช่วยและชายสวมหน้ากากกำลังยืนจ้องมาที่ตัวของเนมุอย่างสนอกสนใจ ใบหน้าที่ดูดุดันและออร่าแห่งความมืดนั้นจะส่งมาจนถึงตัวเนมุอย่างช้าๆ และเหมือนชายคนนั้นจะกล่าวคำพูดบางอย่างออกมาเบาๆจนแทบจะไม่ได้ยิน
“ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอ”
เนมุ ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว เหงื่อไหลออกมาท่วมร่างกายของเธอในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใหญ่กว่าตัวเองเล็กน้อยนั้น เมื่อมองไปรอบๆ ทั้งห้องคือห้องสีครีม ถูกตกแต่งด้วยลายดอกไม้ วัสดุเหมือนเคยเห็นที่โลกแห่งความจริงได้อย่างง่ายดายและผ้าที่ถูกคลุมร่างกายนั้นก็เหมือนจะหาซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อแถวบ้านของเขา่นั่นเอง
“บ้าจริง นี่เราอยู่ที่ไหนกันเนี่ย? ปราสาทในโลกแฟนตาซีสุดเลิศหรูอลังการล่ะ? แล้วการต่อสู้ที่มีสิ่งของที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้เป็นเดิมพันล่ะ พวกนั้นหายไปไหนกัน?”
เมื่อเนมุมองลงมายังข้างตัว ก็เห็นเด็กหนุ่มผู้ชายคนหนึ่งกำลังเกาะข้างเตียงและนำมือของเขากุมมือของเนมุเอาไว้นั้นสภาพหลับอย่างสงบ เสียงกรนเบาๆที่ดูน่าเอามือมาลูบหัวเป็นอย่างมาก จนทำให้ หูของเนมุ กระดิกอย่างต่อเนื่องและหน้าก็แดงฝาด
“ตื่นแล้วสินะ คุณแมว”
เสียงจากหน้าประตูพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเนมุ ผู้หญิงคนนั้นมีเส้นผมสีชมพูที่สวยมาก เสื้อแต่งชุดเหมือนสาวใช้ แต่ในทางกลับกัน เหมือนพวกที่ทำงานในร้าน Maid café เสียมากกว่า จนทำให้เนมุอดยิ้มใส่ไม่ได้ตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกับว่ามันช่วยผ่อนเบาความสับสนทางจิตใจและเยียวยาให้กับ เนมุเป็นอย่างมาก
“ฉันชื่อ เพลเนีย เป็นลูกสาวของเจ้าของร้านอาหาร พาเนลพาเซเรีย แห่งนี้ แล้วทางคุณแมวล่ะ ไปเจออะไรมาถึงได้ตกลงมาจากฟ้าล่ะ หูนั่นของจริงอย่างนั้นเหรอ?”
“อย่าเรียกว่า คุณแมวนะ เราชื่อว่า เนมุ ทาเนล หูแมวมันก็ของจริงอยู่แล้ว ว่าแต่ที่นี่มันที่ไหน ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่”
[บ้าจริง ที่นี่มันไม่ใช่โลกแฟนตาซีนี่นา แบบนี้ก็คงกลับไปผจญภัยแบบเดิมไม่ได้แล้วสินะ เอาเป็นว่า เราพยายามให้ดีที่สุดเพื่อที่จะอยู่ที่นี่ให้ได้ก่อนต้องหาทางทำอะไรซักอย่างแล้วแฮะ แล้วคนที่แทบจะทำงานบ้านหรืออะไรไม่เป็นอย่างเราจะทำอย่างไรดีล่ะ]
“พี่ เพลเนีย เช้าแล้วเหรอครับ”
เด็กชาย เริ่มลืมตาตื่นขึ้นพรางบิดตัวไปมา ดวงตาของเขาเริ่มจ้องมาที่ เนมุ อย่างช้าๆ
“คุณแมวก็หายดีแล้วสินะครับพี่ อ้อจริงสิ ผมชื่อ เทเคะ นะครับ ผมจะไปเตรียมน้ำให้ หวังว่าเราคงได้คุยกันเยอะๆนะครับ ผมไปก่อนล่ะ พี่ เพลเนีย อย่าแกล้งคุณแมวนะ ”
"พี่ไม่แกล้งเขาหรอกน่า เทเคะ"
เทเคะเดินออกจากห้องไป
“เอาล่ะ ฉันก็คงไม่รบกวนคนที่พึ่งจะตื่นมาด้วยอากการบาดเจ็บหรอกนะ ถึงจะประหลาดใจเรื่องหูของเธอก็ตาม แต่ว่า เธอคงเล่าอะไรไม่ได้มากสินะ โลกนี้น่ะไม่มีคนมีหูแมวแบบเธอหรอก ยังไงก็ตามถ้าจะไปไหนก็ใส่หมวกไว้ด้วยก็แล้วกัน ฉันวางไว้ตรงข้างหัวเตียงแล้ว ฉันจะลองจัดหาชุดที่พอจะใส่ได้ให้ก่อน คงต้องใส่ชุดพนักงานร้านไปก่อนก็แล้วกันจนกว่าจะออกไปซื้อได้นะ เอาล่ะ ต้องทำงานแล้ว ถ้าจะมาหาก็จะรออยู่ตรงฝั่งร้านค้าก็แล้วกัน อยู่ตรงข้ามกับถนนนี่แหละจ้ะ”
เพลเนีย ชี้นิ้วไปยังร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของบ้านเธอผ่านหน้ากระจก เป็นร้านอาหารครอบครัวเล็กๆที่ดูอบอุ่น ทำด้วยอิฐสีแดง จัดแต่งในรูปแบบของ อิตาเลี่ยนสไตล์ กลิ่นของอาหารในร้านนั้นความหอมชวนทานของเค้กและกาแฟบางเบารอยเข้ามาที่จมูกของ เนมุ จนเกิดอาหารท้องร้องทันที
“เอาล่ะ ขอตัวนะ”
เพลเนียเดินออกจากห้อง ทิ้งให้เนมุอยู่คนเดียว ภายในห้อง
[บ้าจริง โลกความจริงอย่างนั้นหรอ พระเจ้าเล่นตลกอะไรกัน ฉันควรจะได้ผจญภัยในโลกแฟนตาซีสิ ไม่ใช่กลับมาอยู่ในโลกเดิมแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ฉันต้องพยายามกลับไปใช้ชีวิตและหาวิธีการกลับไปสู่โลกมิตินั้นให้ได้ไม่ว่าต้องทำอะไรก็ตาม ]
เนมุ เดินไปยังห้องน้ำของบ้าน บรรยากาศในห้องน้ำเป็นห้องน้ำกระเบื้องสีสดด้านนอกห้องเป็นห้องเปิดสำหรับแต่งตัวมีชุดพนักงาน ถูกแขวนไว้ มันเป็นชุดสีน้ำตาล มีโบว์น่ารักๆ ขนาดใหญ่ที่ด้านหลังแขนยาวและผ้ากันเปื้อนที่ดูตัดอย่างพิถีพิถันสวยงามอยู่ข้างๆ
[เดี๋ยวก่อน อาบน้ำเหรอ อย่างนี้ก็ต้องแก้ผ้าสิ เราอยู่ในร่างผู้หญิงอย่างนี้เราก็ต้องปิดตาสินะ แต่นี่มันก็ร่างกายของเราไม่ใช่หรอ ดังนั้นเราควรจะสำรวจให้ดีๆสิ ไม่ใช่ๆนะ คิดบ้าอะไรของเรากัน ลนลานไปหมดแล้วเนี่ย ถ้าเกิดว่าเราทำอะไรแปลกๆกับร่างกายนี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าแค่นิดหน่อยก็คงไม่เป็นอะไรมั้ง]
เนมุลองใช้มือคลำหน้าอกของตัวเอง จนเริ่มรู้สึกมีอาการแปลกๆ
[ร่างกายตัวเองแท้ๆ แต่รู้สึกไม่ดีเลยแฮะเอาเป็นว่า อาบน้ำก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยวางแผนต่อว่าจะทำยังไงดี จะกินนอนแบบเมื่อก่อนเลยก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในร่างเก่าแล้ว ก็คงต้องให้เป็นที่ยอมรับกับพวกพาเนลเสียก่อนล่ะนะ โลกเก่าอย่างนั้นเหรอ อย่างนี้ ก็แปลว่า คงมีร่างของเราที่นอนหลับอยู่ในบ้านน่ะสิ ถ้าไปสำรวจดูจะเจอต้นตออะไรบ้างสินะ]
เมื่ออาบน้ำเสร็จก็แต่งชุดที่ เพลเนียจัดเตรียมเอาไว้ให้ มันเข้ารูปของเนมุพอดี
“เพลเนีย ก็เก่งเหมือนกันแฮะ สามารถหาชุดที่เข้ากับเราได้ขนาดนี้ เอาล่ะ เดินลงไปหาพวกเพลเนียดีกว่าเขาคงไม่ได้ให้งานอะไรเราหนักเท่าไหร่หรอกนะ”
ข้าวเช้าถูกเตรียมพร้อม อาหารเช้าเป็นข้าวเปล่าและวัตถุดิบบางอย่างที่ถูกรวมเข้าไป ลักษณะคล้ายกับเป็นเกาลัดและเครื่องปรุงเล็กน้อยทำให้ข้าวหอมยิ่งขึ้น
“เพลเนีย เราต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องลำบากแบบนี้”
เพลเนียส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่หรอก ฉันคิดว่านะ ดีออกที่จะได้ทานอาหารพร้อมหน้ากันแบบนี้ แถมยังมีเพื่อนใหม่ร่วมทานอาหารด้วย การทานแบบนี้มันยิ่งทำให้อาหารอร่อยมากขึ้นใช่มั๊ยล่ะ”
คำพูดของเพลเนียทำให้ความรู้สึกในหัวใจของ เนมุ สะท้านอยู่ในใจอย่างแนบแน่น น้ำตาของเนมุเริ่มไหลมันเหมือนเติมเต็มสิ่งที่เขาได้ขาดไปในโลกนี้ก่อนที่เขาจะมาอยู่ในร่างนี้
“เราต้องทำงานอะไรบ้างเธอถึงจะยอมรับเราให้อยู่ที่นี่ได้ล่ะ เพลเนีย เรายังไม่มีที่ไปหรอก แล้วเราก็อยากที่จะตอบแทนพวกเพลเนียด้วยเช่นกัน”
“อืมงั้น ช่วยงานร้านเราดูไหมล่ะ อย่าง เนมุก็ไม่น่ายากเท่าไหร่หรอกนะ”
หลังทานอาหารเสร็จ เพลเนียพา เนมุไปยังร้านอาหารฝั่งตรงข้าม เพื่อสอนงานให้กับเนมุ หมวกไหมพรมลายหูแมวถูกสวมใส่ มันอบอุ่นและดูเข้ากับทรงหัวของเนมุเป็นอย่างมาก จนชายมัดผมท่าทางคุ้นหน้าคุ้นตาเดินเข้ามาทักทายเพลเนีย
“เป็นยังไงบ้าง เพลเนีย อ้าวคุณหนูแมว ตื่นแล้วอย่างนั้นรึ เมื่อคืนนี้วุ่นวายกันอย่างมากเลยนะ เอ้า คุณหนูแมวตกลงมาจากไหนกันล่ะ หรือว่าเธอเป็นมนุษย์ต่างดาวกัน”
“โกจี้ นายไม่ควรไปล้อเล่นกับ คุณ เนมุ เขานะ เขาคงจะเสียใจมากหากนายพูดอย่างนั้นออกมา เธอกำลังสับสนอยู่นะ ควรให้กำลังใจเธอสิ”
“แหมๆ ฉันก็แค่แซวเล่นไปอย่างนั้นแหละ ฉันไม่บอกใครหรอก เราสัญญากันแล้วนี่นา ว่าแต่จะให้คุณหนูแมวนั่นทำงานในร้านของเธอจริงๆแหรอ งานหนักใช่เล่นเลยนะ”
คำว่างานหนัก ทำให้ เนมุ ถึงกลับถอยหลังและหน้าซีดเล็กน้อย สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบการทำงานซักเท่าไหร่
"งานหนักอย่างนั้นรึ เราจะไหวเหรอ"
“เอาน่าๆ มันก็ไม่ได้หนักขนาดนั้นหรอก แค่เพราะว่า ทางร้านก็ค่อนข้างอยู่ในเรื่องการมีชื่อเสียงในละแวกนี้อยู่พอตัว ลูกค้าเลยเยอะเป็นพิเศษล่ะนะ แถมพนักงานก็ขาดคน และคุณเพลเนียยังเป็นพนักงานเรียกแขกประจำร้านเสียด้วยนี่สิ”
[บ้าจริง ทำไมเราถึงไม่เคยลองมานะ ถึงว่าชื่อร้านถึงเคยเห็นในโฆษณาบ่อยๆ ในช่องรายการวีดีโอทางอินเตอร์เน็ต แต่เราดันกดข้ามโฆษณาพวกนั้น คิดไม่ถึงเลยว่ามันสำคัญถึงขนาดนี้นะเนี่ย]
“มะ ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกน่า เราอาจจะทำได้ก็ได้”
เนมุพยายามที่จะทำท่าทีสุขุมเข้าไว้มากกว่าตื่นตระหนก แม้ว่าหูในหมวกไหมพรมจะสั่นไปมาแล้วก็ตาม
“เอาน่าถือซะว่าลองให้หนูแมวนั่นได้ลองดูซักหน่อยก็ไม่เสียหาย ฉัน ทำงานอยู่ร้านข้างๆกับบ้านพวกเธอแหละนะ นามของฉันคือ โกจี้ ยังไงล่ะ ผู้เป็นแฟนคลับของ คุณหนูเพลเนีย โดยถาวรตลอดกาล”
“เพลเนีย เธอควรคิดดีๆก่อนนะ”
เนมุ มองเพลเนียด้วยสายตาเวทนาและเอามือจับชายเสื้อของเพลเนีย
“โกจี้ ก็เป็นคนดีนะ ถึงเขาจะดูเร่าร้อนเกินไปในบางเวลาน่ะ”
เนมุเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับ เพลเนีย ความอบอุ่นในร้านและเสียงผู้คนโดยเฉพาะวัยรุ่นต่างพากันพูดคุยเรื่องต่างๆ จนวินาทีทีที่เนมุเหยียบเข้าร้านมา
“เธอๆ ดูนั่นสิ เด็กผู้หญิงคนนั้นน่ารักจังเลยนะ พนักงานใหม่รึเปล่า อยากเรียกเขาเข้ามารับออเดอร์จังเลยแหละ ดูเขาลนๆด้วยล่ะ”
.”เด็กใหม่รึเปล่าดูจากเสื้อก็คงทำงานที่นี่ล่ะนะ น่ารักจังเลย”
"แชะ!"
คนเกือบทั้งร้านแทบจะหันมาสนใจที่เนมุเป็นอย่างมากจนจากที่คุยกันเรื่องอื่นก็หันมาพูดคุยเรื่องของเนมุ
[บ้าจริง ตัวเราก็เพิ่งเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ครั้งแรก นี่มันน่าอายมากเลยนะ พวกเขาพูดอะไรถึงฉันกันแน่เนี่ย การแต่งตัวอย่างนั้นเหรอ ถ้าเกิดมาในร่างผู้ชายคงทำอะไรสะดวกกว่านี้แหละนะ]
เนมุ เดินไปยังบาร์ที่รับออเดอร์ของลูกค้า ในขณะที่เพลเนียกำลังอธิบายรายชื่อสินค้าต่างๆนั้นให้กับเนมุและสอนงานที่จำเป็นให้
“เอาล่ะ คร่าวๆก็ลองรับออเดอร์ลูกค้าดูก่อนก็แล้วกันจ๊ะ”
เนมุ เดินออกไปต้อนรับลูกค้าด้วยแก้มที่แดงฝาด และผิวสีขาวเปล่งปลั่งเต็มไปด้วยสีแดงก่ำของความอายจนแทบจะหลบหน้า
“ออเดอร์ที่สั่ง...ละ ลูกค้าจะรับ..อะไรดีคะ”
หญิงสาวคนหนึ่งเดินไปหา เพลเนียพร้อมจับมือของเพลเนีย
“เพลเนีย เด็กคนนั้นเท่าไหร่ ขอเอากลับไปถ่ายรูปที่บ้านได้ไหม จะน่ารักเกินไปแล้ว วันนี้ ฉันขอสั่งเมนูที่เยอะๆเลยนะ ฉันว่างทั้งวัน เดี๋ยวจะลาที่มหาวิทยาลัยเดี๋ยวนี้แหละ”
“ใจเย็นๆก่อนนะคะ สุบาชิ เด็กคนนั้นไม่ได้มีไว้ขายนะคะ”
เพลเนียเหงื่อตก และรับมือกับลูกค้าที่ถาโถมเข้ามาพูดเกี่ยวกับ เนมุ แทบไม่ไหวเลยทีเดียว
[เราเป็นที่นิยมขนาดนี้เลยเหรอ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนที่เราจะมาเป็นร่างหนูน้อยแมวนี่ แค่คุยกับใครซักคนก็แทบจะไม่เห็นหัวกันเลยนะ หรือเพราะร่างนี้อย่างนั้นสินะ แต่การจะทำให้เพลเนีย ต้องมาลำบากเพราะเรา ก็คงทำไม่ได้ เราต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว]
“เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณลูกค้า แต่การที่คุณไปรวมตัวกันตรงหน้า เคาเตอร์บาร์แบบนั้นมันจะทำให้คุณเพลเนียเขาลำบากนะคะ ดังนั้นแล้ว ได้โปรดช่วยกลับมานั่งที่ด้วยค่ะ”
เพียงแค่คำพูดของ เนมุเพียงไม่กี่ประโยค ออร่าของเนมุก็แผ่ขยายจนเหล่าลูกค้า เอามือขึ้นมากันใบหน้าไว้แล้วรีบกลับไปนั่งยังพื้นที่ที่จัดเตรียมสำหรับตัวเองโดยทันที
“เนมุ เนมุ ขอบใจนะที่ช่วยไว้ได้เยอะเลยล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็เพราะคุณเพลเนีย ช่วยเราไว้ตั้งเยอะไม่ใช่หรอคะ เราเองก็อยากจะตอบแทนคุณเพลเนียเช่นกันค่ะ”
เนมุยิ้มให้กับเพลเนียเล็กน้อยก่อนที่จะยกชาออกไปให้ลูกค้าที่อยู่ข้างนอก จนมีเสียงจากในระบบดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องภายในหัวของ เนมุ
[ระบบ:คุณได้รับทักษะ ตรวจสอบสิ่งผิดปกติ(ติดตัว),วินิจฉัย(ใช้งาน),ออร่าแห่งไอดอล(ใช้งาน)]
[เดี๋ยวนะ ไอ้ทักษะที่สามนี่มันอะไรกัน ความแฟนตาซีมันอยู่ตรงไหน หรือว่า มันคงหมายถึงทักษะของความเฉิดฉายกันแน่นะ ทักษะพื้นฐานของ การตรวจสอบสิ่งผิดปกติเราก็พอจะคลาดการณ์ได้อยู่หรอก กับทักษะ วินิจฉัยนั้นก็ไม่ใช่อะไรที่คาดเดาได้ยากหรอกนะ แต่อีกความสามารถนั้น คงเป็นทักษะที่เราต้องใช้ยามจำเป็นสินะ เอาเป็นว่า ทักษะพวกนี้คงต้องทดสอบหน่อยก็แล้วกัน]
เนมุเดินไปที่ด้านหลังของครัวที่ไม่มีคนแล้วมองในจานอาหารที่ตัวเองเพิ่งทำเสร็จ
“วินิจฉัย!”
[ระบบ: แซนวิช วัตถุดิบ ปลาทูน่า1กระป๋อง, มะเขือเทศ และ ขนมปัง]
“อ๋อ อย่างนี้เองสินะ ถ้าเกิดว่าเราใช้ก็คงบอกเกี่ยวกับสถานะสิ่งที่ปนอยู่ในวัตถุที่เราต้องการจะรู้ ก็ไม่ได้แย่นักหรอกแต่มันจะจำเป็นยังไงกันแน่นะ”
เนมุ มองออกไปยังเพลเนีย ที่กำลังทำงานอยู่ด้านนอกของร้าน
“เพลเนีย ยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยสิ ถ้าเราวินิจฉัยเฉพาะบุคคลล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ แต่มันอาจจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลก็ได้ งั้นเราจะไม่ใช้ทักษะนี้กับผู้มีพระคุณของเราดีกว่าเอาเป็นว่าถ้าเราสงสัยอะไรเราค่อยวินิจฉัยก็แล้วกัน”
“เนมุจ๊ะ มาช่วยด้านหน้าร้านหน่อยสิ ตอนนี้ออเดอร์ต้องการคนด่วนเลย”
เนมุ ออกมาต้อนรับลูกค้าที่หน้าร้านจนลูกค้าก็รู้สึกยิ้มให้กับพนักงานใหม่ที่น่ารักต่อ มีเพียงสาวแว่นคนนึงที่ดูแล้วเหมือนกับเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของ เพลเนีย ที่ทำท่าเหมือนจะมีความสุขจนน้ำตาไหล แล้วไปเขย่าตัวเพลเนียหลายครั้งว่า ไปหาสาวน่ารักๆ อย่างเนมุได้ที่ไหนอยู่หลายครั้ง บางครั้งก็ทำให้รู้สึกไม่ค่อยอยากเดินเข้าไปใกล้หลายครั้งเช่นกัน แต่งานโดยรวมที่ทำถึงแม้ว่ามันจะหนัก แต่ก็ทำให้เนมุเกิดรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
[สนุก อย่างนั้นเหรอเนี่ย บ้าจริงๆเลยแฮะ บางทีก็ไม่คิดเหมือนกันนะว่า อดีตคนขี้เกียจทำงานอย่างเราจะสามารถทำงานอย่างสนุกสนานได้ขนาดนี้ ถ้ามันไม่มีอะไรที่มันไม่ดีเกิดขึ้นก็คงดีสิ]
จนกระทั่ง เรื่องที่ไม่คิดว่าจะเกิดก็ดันมาเกิดจนได้
[ระบบ: ตรวจสอบสิ่งผิดปกติ-ค้นพบศัตรูระดับต่ำอยู่ในเขตพื้นที่]
[แย่แล้วสิ!! จะทำยังไงดี ศัตรูระดับต่ำอย่างนั้นเหรอแล้วอาวุธล่ะ อย่างนี้ก็เท่ากับเราเจอสถานการณ์บังคับสู้แบบทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ใช่รึไงกัน]
“วินิจฉัย ระบบการสวมใส่อาวุธ”
[การสวมใส่อาวุธ คืออาวุธที่มีอยู่ในคลัง ระบุชื่อของอาวุธแล้วตั้งมั่นว่า “สวมใส่” ก็จะสามารถใช้งานอาวุธที่ต้องการสวมใส่นั้นได้ทันที]
“เพลเนีย เรานึกได้ว่ามีธุระใกล้ๆเราขอตัวก่อนนะ”
เนมุ รีบวิ่งออกจากร้านอย่างรวดเร็วไปยังจุดที่ตรวจสอบพบว่ามีมอนสเตอร์ ระดับต่ำนั้นซึ่งเป็นเขตก่อสร้างเก่าที่ถูกทิ้งเอาไว้เพราะไม่มีนายทุนมาลงทุน
“Bow of charm สวมใส่!!”
ธนูคู่ใจพร้อมกับลูกดอกสวมใส่อยู่บนร่างของเนมุทันที แต่เสียงที่อยู่รอบๆกลับเป็นความมืด เสียงก้าวเท้าของเงาและเสียงขู่คำรามอย่างน่ากลัวเนื่องจากอยู่ในที่แคบเสียงของมอนสเตอร์ก็ดังก้องกังวาลไปทั่วทั้งเขตนั้น
"วินิจฉัยศัตรู!!"
[ระบบ: หมูป่าแห่งความมืด ปีศาจที่คอยจู่โจมศัตรูเวลาเผลอ พวกมันมีความรวดเร็วถึงจะไม่มาก แต่การโจมตีของมันค่อนข้างทำให้เกิดสภาวะมึนงงได้ชั่วคราว]
“โอเคเลยนะ ถ้าต้องเจอแบบนี้ในโลกความเป็นจริงก็พอจะยอมรับได้อยู่หรอก แต่บรรยากาศมันไม่ให้เลยนี่สิ สถานที่ที่ควรเต็มไปด้วยสิ่งลึกลับและเวทมนต์ นั้นน่ะมันคือความสมดุลของเกมส์ แต่มาเจออย่างนี้มันเหมือนเกมส์ วิทยาศาสตร์สยองขวัญเกินไป และนั่นมันทำให้เป็นข้อผิดพลาดยังไงล่ะ ไม่สบอารมณ์เอาซะเลย”
เนมุ ง้างธนูสุดแรงเล็งไปยังเงาที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของถังขยะ เสมือนหนึ่งในเกมส์ FPS (First person Shooting) ที่เคยเล่นเป็นประจำ ปลายทางมีรอยอาคมเหมือนกับเป็นเป้าสำหรับช่วยเล็ง เนมุผ่อนลมหายใจช้าๆ บรรยากาศโดยรอบกลับมีแรงลมอย่างหนักหน่วง
“รีบจบเรื่อง และกลับไปหาเพลเนียเลยดีกว่า”
เมื่อเนมุปล่อยสายรั้งธนู ลูกดอกพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเทียบกับกระสุนปืนพกก็ไม่ปาน แสงสีฟ้าพลันปรากฏพุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ระเบิดอย่างรุนแรง
บรึ้ม
แรงลมที่ประทะกับอากาศจนเกิดเสียงดังดุจดั่งระเบิดขึ้น
“หึ จบแล้วสินะ สุดยอดคนเก่งแห่งโลกเกมส์ที่เฝ้าเล่นเกมส์มานับไม่ถ้วนโดยตลอดอย่างเนมุคนนี้ จะมาแพ้มอนสเตอร์ระดับอ่อนๆแบบนี้ล่ะก็ บอกเลยก็แล้วกันไม่มีทาง”
[ระบบ: Damageที่กระทำต่อเป้าหมาย: 0]
“เอ๋…….เอ่อ ก็นะ อาจจะมีก็ได้”
.......
To be continue…
“ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอ”
เนมุ ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว เหงื่อไหลออกมาท่วมร่างกายของเธอในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใหญ่กว่าตัวเองเล็กน้อยนั้น เมื่อมองไปรอบๆ ทั้งห้องคือห้องสีครีม ถูกตกแต่งด้วยลายดอกไม้ วัสดุเหมือนเคยเห็นที่โลกแห่งความจริงได้อย่างง่ายดายและผ้าที่ถูกคลุมร่างกายนั้นก็เหมือนจะหาซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อแถวบ้านของเขา่นั่นเอง
“บ้าจริง นี่เราอยู่ที่ไหนกันเนี่ย? ปราสาทในโลกแฟนตาซีสุดเลิศหรูอลังการล่ะ? แล้วการต่อสู้ที่มีสิ่งของที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้เป็นเดิมพันล่ะ พวกนั้นหายไปไหนกัน?”
เมื่อเนมุมองลงมายังข้างตัว ก็เห็นเด็กหนุ่มผู้ชายคนหนึ่งกำลังเกาะข้างเตียงและนำมือของเขากุมมือของเนมุเอาไว้นั้นสภาพหลับอย่างสงบ เสียงกรนเบาๆที่ดูน่าเอามือมาลูบหัวเป็นอย่างมาก จนทำให้ หูของเนมุ กระดิกอย่างต่อเนื่องและหน้าก็แดงฝาด
“ตื่นแล้วสินะ คุณแมว”
เสียงจากหน้าประตูพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเนมุ ผู้หญิงคนนั้นมีเส้นผมสีชมพูที่สวยมาก เสื้อแต่งชุดเหมือนสาวใช้ แต่ในทางกลับกัน เหมือนพวกที่ทำงานในร้าน Maid café เสียมากกว่า จนทำให้เนมุอดยิ้มใส่ไม่ได้ตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกับว่ามันช่วยผ่อนเบาความสับสนทางจิตใจและเยียวยาให้กับ เนมุเป็นอย่างมาก
“ฉันชื่อ เพลเนีย เป็นลูกสาวของเจ้าของร้านอาหาร พาเนลพาเซเรีย แห่งนี้ แล้วทางคุณแมวล่ะ ไปเจออะไรมาถึงได้ตกลงมาจากฟ้าล่ะ หูนั่นของจริงอย่างนั้นเหรอ?”
“อย่าเรียกว่า คุณแมวนะ เราชื่อว่า เนมุ ทาเนล หูแมวมันก็ของจริงอยู่แล้ว ว่าแต่ที่นี่มันที่ไหน ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่”
[บ้าจริง ที่นี่มันไม่ใช่โลกแฟนตาซีนี่นา แบบนี้ก็คงกลับไปผจญภัยแบบเดิมไม่ได้แล้วสินะ เอาเป็นว่า เราพยายามให้ดีที่สุดเพื่อที่จะอยู่ที่นี่ให้ได้ก่อนต้องหาทางทำอะไรซักอย่างแล้วแฮะ แล้วคนที่แทบจะทำงานบ้านหรืออะไรไม่เป็นอย่างเราจะทำอย่างไรดีล่ะ]
“พี่ เพลเนีย เช้าแล้วเหรอครับ”
เด็กชาย เริ่มลืมตาตื่นขึ้นพรางบิดตัวไปมา ดวงตาของเขาเริ่มจ้องมาที่ เนมุ อย่างช้าๆ
“คุณแมวก็หายดีแล้วสินะครับพี่ อ้อจริงสิ ผมชื่อ เทเคะ นะครับ ผมจะไปเตรียมน้ำให้ หวังว่าเราคงได้คุยกันเยอะๆนะครับ ผมไปก่อนล่ะ พี่ เพลเนีย อย่าแกล้งคุณแมวนะ ”
"พี่ไม่แกล้งเขาหรอกน่า เทเคะ"
เทเคะเดินออกจากห้องไป
“เอาล่ะ ฉันก็คงไม่รบกวนคนที่พึ่งจะตื่นมาด้วยอากการบาดเจ็บหรอกนะ ถึงจะประหลาดใจเรื่องหูของเธอก็ตาม แต่ว่า เธอคงเล่าอะไรไม่ได้มากสินะ โลกนี้น่ะไม่มีคนมีหูแมวแบบเธอหรอก ยังไงก็ตามถ้าจะไปไหนก็ใส่หมวกไว้ด้วยก็แล้วกัน ฉันวางไว้ตรงข้างหัวเตียงแล้ว ฉันจะลองจัดหาชุดที่พอจะใส่ได้ให้ก่อน คงต้องใส่ชุดพนักงานร้านไปก่อนก็แล้วกันจนกว่าจะออกไปซื้อได้นะ เอาล่ะ ต้องทำงานแล้ว ถ้าจะมาหาก็จะรออยู่ตรงฝั่งร้านค้าก็แล้วกัน อยู่ตรงข้ามกับถนนนี่แหละจ้ะ”
เพลเนีย ชี้นิ้วไปยังร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของบ้านเธอผ่านหน้ากระจก เป็นร้านอาหารครอบครัวเล็กๆที่ดูอบอุ่น ทำด้วยอิฐสีแดง จัดแต่งในรูปแบบของ อิตาเลี่ยนสไตล์ กลิ่นของอาหารในร้านนั้นความหอมชวนทานของเค้กและกาแฟบางเบารอยเข้ามาที่จมูกของ เนมุ จนเกิดอาหารท้องร้องทันที
“เอาล่ะ ขอตัวนะ”
เพลเนียเดินออกจากห้อง ทิ้งให้เนมุอยู่คนเดียว ภายในห้อง
[บ้าจริง โลกความจริงอย่างนั้นหรอ พระเจ้าเล่นตลกอะไรกัน ฉันควรจะได้ผจญภัยในโลกแฟนตาซีสิ ไม่ใช่กลับมาอยู่ในโลกเดิมแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ฉันต้องพยายามกลับไปใช้ชีวิตและหาวิธีการกลับไปสู่โลกมิตินั้นให้ได้ไม่ว่าต้องทำอะไรก็ตาม ]
เนมุ เดินไปยังห้องน้ำของบ้าน บรรยากาศในห้องน้ำเป็นห้องน้ำกระเบื้องสีสดด้านนอกห้องเป็นห้องเปิดสำหรับแต่งตัวมีชุดพนักงาน ถูกแขวนไว้ มันเป็นชุดสีน้ำตาล มีโบว์น่ารักๆ ขนาดใหญ่ที่ด้านหลังแขนยาวและผ้ากันเปื้อนที่ดูตัดอย่างพิถีพิถันสวยงามอยู่ข้างๆ
[เดี๋ยวก่อน อาบน้ำเหรอ อย่างนี้ก็ต้องแก้ผ้าสิ เราอยู่ในร่างผู้หญิงอย่างนี้เราก็ต้องปิดตาสินะ แต่นี่มันก็ร่างกายของเราไม่ใช่หรอ ดังนั้นเราควรจะสำรวจให้ดีๆสิ ไม่ใช่ๆนะ คิดบ้าอะไรของเรากัน ลนลานไปหมดแล้วเนี่ย ถ้าเกิดว่าเราทำอะไรแปลกๆกับร่างกายนี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าแค่นิดหน่อยก็คงไม่เป็นอะไรมั้ง]
เนมุลองใช้มือคลำหน้าอกของตัวเอง จนเริ่มรู้สึกมีอาการแปลกๆ
[ร่างกายตัวเองแท้ๆ แต่รู้สึกไม่ดีเลยแฮะเอาเป็นว่า อาบน้ำก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยวางแผนต่อว่าจะทำยังไงดี จะกินนอนแบบเมื่อก่อนเลยก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในร่างเก่าแล้ว ก็คงต้องให้เป็นที่ยอมรับกับพวกพาเนลเสียก่อนล่ะนะ โลกเก่าอย่างนั้นเหรอ อย่างนี้ ก็แปลว่า คงมีร่างของเราที่นอนหลับอยู่ในบ้านน่ะสิ ถ้าไปสำรวจดูจะเจอต้นตออะไรบ้างสินะ]
เมื่ออาบน้ำเสร็จก็แต่งชุดที่ เพลเนียจัดเตรียมเอาไว้ให้ มันเข้ารูปของเนมุพอดี
“เพลเนีย ก็เก่งเหมือนกันแฮะ สามารถหาชุดที่เข้ากับเราได้ขนาดนี้ เอาล่ะ เดินลงไปหาพวกเพลเนียดีกว่าเขาคงไม่ได้ให้งานอะไรเราหนักเท่าไหร่หรอกนะ”
ข้าวเช้าถูกเตรียมพร้อม อาหารเช้าเป็นข้าวเปล่าและวัตถุดิบบางอย่างที่ถูกรวมเข้าไป ลักษณะคล้ายกับเป็นเกาลัดและเครื่องปรุงเล็กน้อยทำให้ข้าวหอมยิ่งขึ้น
“เพลเนีย เราต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องลำบากแบบนี้”
เพลเนียส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่หรอก ฉันคิดว่านะ ดีออกที่จะได้ทานอาหารพร้อมหน้ากันแบบนี้ แถมยังมีเพื่อนใหม่ร่วมทานอาหารด้วย การทานแบบนี้มันยิ่งทำให้อาหารอร่อยมากขึ้นใช่มั๊ยล่ะ”
คำพูดของเพลเนียทำให้ความรู้สึกในหัวใจของ เนมุ สะท้านอยู่ในใจอย่างแนบแน่น น้ำตาของเนมุเริ่มไหลมันเหมือนเติมเต็มสิ่งที่เขาได้ขาดไปในโลกนี้ก่อนที่เขาจะมาอยู่ในร่างนี้
“เราต้องทำงานอะไรบ้างเธอถึงจะยอมรับเราให้อยู่ที่นี่ได้ล่ะ เพลเนีย เรายังไม่มีที่ไปหรอก แล้วเราก็อยากที่จะตอบแทนพวกเพลเนียด้วยเช่นกัน”
“อืมงั้น ช่วยงานร้านเราดูไหมล่ะ อย่าง เนมุก็ไม่น่ายากเท่าไหร่หรอกนะ”
หลังทานอาหารเสร็จ เพลเนียพา เนมุไปยังร้านอาหารฝั่งตรงข้าม เพื่อสอนงานให้กับเนมุ หมวกไหมพรมลายหูแมวถูกสวมใส่ มันอบอุ่นและดูเข้ากับทรงหัวของเนมุเป็นอย่างมาก จนชายมัดผมท่าทางคุ้นหน้าคุ้นตาเดินเข้ามาทักทายเพลเนีย
“เป็นยังไงบ้าง เพลเนีย อ้าวคุณหนูแมว ตื่นแล้วอย่างนั้นรึ เมื่อคืนนี้วุ่นวายกันอย่างมากเลยนะ เอ้า คุณหนูแมวตกลงมาจากไหนกันล่ะ หรือว่าเธอเป็นมนุษย์ต่างดาวกัน”
“โกจี้ นายไม่ควรไปล้อเล่นกับ คุณ เนมุ เขานะ เขาคงจะเสียใจมากหากนายพูดอย่างนั้นออกมา เธอกำลังสับสนอยู่นะ ควรให้กำลังใจเธอสิ”
“แหมๆ ฉันก็แค่แซวเล่นไปอย่างนั้นแหละ ฉันไม่บอกใครหรอก เราสัญญากันแล้วนี่นา ว่าแต่จะให้คุณหนูแมวนั่นทำงานในร้านของเธอจริงๆแหรอ งานหนักใช่เล่นเลยนะ”
คำว่างานหนัก ทำให้ เนมุ ถึงกลับถอยหลังและหน้าซีดเล็กน้อย สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบการทำงานซักเท่าไหร่
"งานหนักอย่างนั้นรึ เราจะไหวเหรอ"
“เอาน่าๆ มันก็ไม่ได้หนักขนาดนั้นหรอก แค่เพราะว่า ทางร้านก็ค่อนข้างอยู่ในเรื่องการมีชื่อเสียงในละแวกนี้อยู่พอตัว ลูกค้าเลยเยอะเป็นพิเศษล่ะนะ แถมพนักงานก็ขาดคน และคุณเพลเนียยังเป็นพนักงานเรียกแขกประจำร้านเสียด้วยนี่สิ”
[บ้าจริง ทำไมเราถึงไม่เคยลองมานะ ถึงว่าชื่อร้านถึงเคยเห็นในโฆษณาบ่อยๆ ในช่องรายการวีดีโอทางอินเตอร์เน็ต แต่เราดันกดข้ามโฆษณาพวกนั้น คิดไม่ถึงเลยว่ามันสำคัญถึงขนาดนี้นะเนี่ย]
“มะ ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกน่า เราอาจจะทำได้ก็ได้”
เนมุพยายามที่จะทำท่าทีสุขุมเข้าไว้มากกว่าตื่นตระหนก แม้ว่าหูในหมวกไหมพรมจะสั่นไปมาแล้วก็ตาม
“เอาน่าถือซะว่าลองให้หนูแมวนั่นได้ลองดูซักหน่อยก็ไม่เสียหาย ฉัน ทำงานอยู่ร้านข้างๆกับบ้านพวกเธอแหละนะ นามของฉันคือ โกจี้ ยังไงล่ะ ผู้เป็นแฟนคลับของ คุณหนูเพลเนีย โดยถาวรตลอดกาล”
“เพลเนีย เธอควรคิดดีๆก่อนนะ”
เนมุ มองเพลเนียด้วยสายตาเวทนาและเอามือจับชายเสื้อของเพลเนีย
“โกจี้ ก็เป็นคนดีนะ ถึงเขาจะดูเร่าร้อนเกินไปในบางเวลาน่ะ”
เนมุเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับ เพลเนีย ความอบอุ่นในร้านและเสียงผู้คนโดยเฉพาะวัยรุ่นต่างพากันพูดคุยเรื่องต่างๆ จนวินาทีทีที่เนมุเหยียบเข้าร้านมา
“เธอๆ ดูนั่นสิ เด็กผู้หญิงคนนั้นน่ารักจังเลยนะ พนักงานใหม่รึเปล่า อยากเรียกเขาเข้ามารับออเดอร์จังเลยแหละ ดูเขาลนๆด้วยล่ะ”
.”เด็กใหม่รึเปล่าดูจากเสื้อก็คงทำงานที่นี่ล่ะนะ น่ารักจังเลย”
"แชะ!"
คนเกือบทั้งร้านแทบจะหันมาสนใจที่เนมุเป็นอย่างมากจนจากที่คุยกันเรื่องอื่นก็หันมาพูดคุยเรื่องของเนมุ
[บ้าจริง ตัวเราก็เพิ่งเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ครั้งแรก นี่มันน่าอายมากเลยนะ พวกเขาพูดอะไรถึงฉันกันแน่เนี่ย การแต่งตัวอย่างนั้นเหรอ ถ้าเกิดมาในร่างผู้ชายคงทำอะไรสะดวกกว่านี้แหละนะ]
เนมุ เดินไปยังบาร์ที่รับออเดอร์ของลูกค้า ในขณะที่เพลเนียกำลังอธิบายรายชื่อสินค้าต่างๆนั้นให้กับเนมุและสอนงานที่จำเป็นให้
“เอาล่ะ คร่าวๆก็ลองรับออเดอร์ลูกค้าดูก่อนก็แล้วกันจ๊ะ”
เนมุ เดินออกไปต้อนรับลูกค้าด้วยแก้มที่แดงฝาด และผิวสีขาวเปล่งปลั่งเต็มไปด้วยสีแดงก่ำของความอายจนแทบจะหลบหน้า
“ออเดอร์ที่สั่ง...ละ ลูกค้าจะรับ..อะไรดีคะ”
หญิงสาวคนหนึ่งเดินไปหา เพลเนียพร้อมจับมือของเพลเนีย
“เพลเนีย เด็กคนนั้นเท่าไหร่ ขอเอากลับไปถ่ายรูปที่บ้านได้ไหม จะน่ารักเกินไปแล้ว วันนี้ ฉันขอสั่งเมนูที่เยอะๆเลยนะ ฉันว่างทั้งวัน เดี๋ยวจะลาที่มหาวิทยาลัยเดี๋ยวนี้แหละ”
“ใจเย็นๆก่อนนะคะ สุบาชิ เด็กคนนั้นไม่ได้มีไว้ขายนะคะ”
เพลเนียเหงื่อตก และรับมือกับลูกค้าที่ถาโถมเข้ามาพูดเกี่ยวกับ เนมุ แทบไม่ไหวเลยทีเดียว
[เราเป็นที่นิยมขนาดนี้เลยเหรอ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนที่เราจะมาเป็นร่างหนูน้อยแมวนี่ แค่คุยกับใครซักคนก็แทบจะไม่เห็นหัวกันเลยนะ หรือเพราะร่างนี้อย่างนั้นสินะ แต่การจะทำให้เพลเนีย ต้องมาลำบากเพราะเรา ก็คงทำไม่ได้ เราต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว]
“เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณลูกค้า แต่การที่คุณไปรวมตัวกันตรงหน้า เคาเตอร์บาร์แบบนั้นมันจะทำให้คุณเพลเนียเขาลำบากนะคะ ดังนั้นแล้ว ได้โปรดช่วยกลับมานั่งที่ด้วยค่ะ”
เพียงแค่คำพูดของ เนมุเพียงไม่กี่ประโยค ออร่าของเนมุก็แผ่ขยายจนเหล่าลูกค้า เอามือขึ้นมากันใบหน้าไว้แล้วรีบกลับไปนั่งยังพื้นที่ที่จัดเตรียมสำหรับตัวเองโดยทันที
“เนมุ เนมุ ขอบใจนะที่ช่วยไว้ได้เยอะเลยล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็เพราะคุณเพลเนีย ช่วยเราไว้ตั้งเยอะไม่ใช่หรอคะ เราเองก็อยากจะตอบแทนคุณเพลเนียเช่นกันค่ะ”
เนมุยิ้มให้กับเพลเนียเล็กน้อยก่อนที่จะยกชาออกไปให้ลูกค้าที่อยู่ข้างนอก จนมีเสียงจากในระบบดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องภายในหัวของ เนมุ
[ระบบ:คุณได้รับทักษะ ตรวจสอบสิ่งผิดปกติ(ติดตัว),วินิจฉัย(ใช้งาน),ออร่าแห่งไอดอล(ใช้งาน)]
[เดี๋ยวนะ ไอ้ทักษะที่สามนี่มันอะไรกัน ความแฟนตาซีมันอยู่ตรงไหน หรือว่า มันคงหมายถึงทักษะของความเฉิดฉายกันแน่นะ ทักษะพื้นฐานของ การตรวจสอบสิ่งผิดปกติเราก็พอจะคลาดการณ์ได้อยู่หรอก กับทักษะ วินิจฉัยนั้นก็ไม่ใช่อะไรที่คาดเดาได้ยากหรอกนะ แต่อีกความสามารถนั้น คงเป็นทักษะที่เราต้องใช้ยามจำเป็นสินะ เอาเป็นว่า ทักษะพวกนี้คงต้องทดสอบหน่อยก็แล้วกัน]
เนมุเดินไปที่ด้านหลังของครัวที่ไม่มีคนแล้วมองในจานอาหารที่ตัวเองเพิ่งทำเสร็จ
“วินิจฉัย!”
[ระบบ: แซนวิช วัตถุดิบ ปลาทูน่า1กระป๋อง, มะเขือเทศ และ ขนมปัง]
“อ๋อ อย่างนี้เองสินะ ถ้าเกิดว่าเราใช้ก็คงบอกเกี่ยวกับสถานะสิ่งที่ปนอยู่ในวัตถุที่เราต้องการจะรู้ ก็ไม่ได้แย่นักหรอกแต่มันจะจำเป็นยังไงกันแน่นะ”
เนมุ มองออกไปยังเพลเนีย ที่กำลังทำงานอยู่ด้านนอกของร้าน
“เพลเนีย ยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยสิ ถ้าเราวินิจฉัยเฉพาะบุคคลล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ แต่มันอาจจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลก็ได้ งั้นเราจะไม่ใช้ทักษะนี้กับผู้มีพระคุณของเราดีกว่าเอาเป็นว่าถ้าเราสงสัยอะไรเราค่อยวินิจฉัยก็แล้วกัน”
“เนมุจ๊ะ มาช่วยด้านหน้าร้านหน่อยสิ ตอนนี้ออเดอร์ต้องการคนด่วนเลย”
เนมุ ออกมาต้อนรับลูกค้าที่หน้าร้านจนลูกค้าก็รู้สึกยิ้มให้กับพนักงานใหม่ที่น่ารักต่อ มีเพียงสาวแว่นคนนึงที่ดูแล้วเหมือนกับเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของ เพลเนีย ที่ทำท่าเหมือนจะมีความสุขจนน้ำตาไหล แล้วไปเขย่าตัวเพลเนียหลายครั้งว่า ไปหาสาวน่ารักๆ อย่างเนมุได้ที่ไหนอยู่หลายครั้ง บางครั้งก็ทำให้รู้สึกไม่ค่อยอยากเดินเข้าไปใกล้หลายครั้งเช่นกัน แต่งานโดยรวมที่ทำถึงแม้ว่ามันจะหนัก แต่ก็ทำให้เนมุเกิดรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
[สนุก อย่างนั้นเหรอเนี่ย บ้าจริงๆเลยแฮะ บางทีก็ไม่คิดเหมือนกันนะว่า อดีตคนขี้เกียจทำงานอย่างเราจะสามารถทำงานอย่างสนุกสนานได้ขนาดนี้ ถ้ามันไม่มีอะไรที่มันไม่ดีเกิดขึ้นก็คงดีสิ]
จนกระทั่ง เรื่องที่ไม่คิดว่าจะเกิดก็ดันมาเกิดจนได้
[ระบบ: ตรวจสอบสิ่งผิดปกติ-ค้นพบศัตรูระดับต่ำอยู่ในเขตพื้นที่]
[แย่แล้วสิ!! จะทำยังไงดี ศัตรูระดับต่ำอย่างนั้นเหรอแล้วอาวุธล่ะ อย่างนี้ก็เท่ากับเราเจอสถานการณ์บังคับสู้แบบทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ใช่รึไงกัน]
“วินิจฉัย ระบบการสวมใส่อาวุธ”
[การสวมใส่อาวุธ คืออาวุธที่มีอยู่ในคลัง ระบุชื่อของอาวุธแล้วตั้งมั่นว่า “สวมใส่” ก็จะสามารถใช้งานอาวุธที่ต้องการสวมใส่นั้นได้ทันที]
“เพลเนีย เรานึกได้ว่ามีธุระใกล้ๆเราขอตัวก่อนนะ”
เนมุ รีบวิ่งออกจากร้านอย่างรวดเร็วไปยังจุดที่ตรวจสอบพบว่ามีมอนสเตอร์ ระดับต่ำนั้นซึ่งเป็นเขตก่อสร้างเก่าที่ถูกทิ้งเอาไว้เพราะไม่มีนายทุนมาลงทุน
“Bow of charm สวมใส่!!”
ธนูคู่ใจพร้อมกับลูกดอกสวมใส่อยู่บนร่างของเนมุทันที แต่เสียงที่อยู่รอบๆกลับเป็นความมืด เสียงก้าวเท้าของเงาและเสียงขู่คำรามอย่างน่ากลัวเนื่องจากอยู่ในที่แคบเสียงของมอนสเตอร์ก็ดังก้องกังวาลไปทั่วทั้งเขตนั้น
"วินิจฉัยศัตรู!!"
[ระบบ: หมูป่าแห่งความมืด ปีศาจที่คอยจู่โจมศัตรูเวลาเผลอ พวกมันมีความรวดเร็วถึงจะไม่มาก แต่การโจมตีของมันค่อนข้างทำให้เกิดสภาวะมึนงงได้ชั่วคราว]
“โอเคเลยนะ ถ้าต้องเจอแบบนี้ในโลกความเป็นจริงก็พอจะยอมรับได้อยู่หรอก แต่บรรยากาศมันไม่ให้เลยนี่สิ สถานที่ที่ควรเต็มไปด้วยสิ่งลึกลับและเวทมนต์ นั้นน่ะมันคือความสมดุลของเกมส์ แต่มาเจออย่างนี้มันเหมือนเกมส์ วิทยาศาสตร์สยองขวัญเกินไป และนั่นมันทำให้เป็นข้อผิดพลาดยังไงล่ะ ไม่สบอารมณ์เอาซะเลย”
เนมุ ง้างธนูสุดแรงเล็งไปยังเงาที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของถังขยะ เสมือนหนึ่งในเกมส์ FPS (First person Shooting) ที่เคยเล่นเป็นประจำ ปลายทางมีรอยอาคมเหมือนกับเป็นเป้าสำหรับช่วยเล็ง เนมุผ่อนลมหายใจช้าๆ บรรยากาศโดยรอบกลับมีแรงลมอย่างหนักหน่วง
“รีบจบเรื่อง และกลับไปหาเพลเนียเลยดีกว่า”
เมื่อเนมุปล่อยสายรั้งธนู ลูกดอกพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเทียบกับกระสุนปืนพกก็ไม่ปาน แสงสีฟ้าพลันปรากฏพุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ระเบิดอย่างรุนแรง
บรึ้ม
แรงลมที่ประทะกับอากาศจนเกิดเสียงดังดุจดั่งระเบิดขึ้น
“หึ จบแล้วสินะ สุดยอดคนเก่งแห่งโลกเกมส์ที่เฝ้าเล่นเกมส์มานับไม่ถ้วนโดยตลอดอย่างเนมุคนนี้ จะมาแพ้มอนสเตอร์ระดับอ่อนๆแบบนี้ล่ะก็ บอกเลยก็แล้วกันไม่มีทาง”
[ระบบ: Damageที่กระทำต่อเป้าหมาย: 0]
“เอ๋…….เอ่อ ก็นะ อาจจะมีก็ได้”
.......
To be continue…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ