Arachne VII ( บท สายเลือดปลอมที่ 7 )

7.3

เขียนโดย ชิโร่

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 18.52 น.

  12 ตอน
  2 วิจารณ์
  13.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) บทที่สิบ มิตร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
      
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ท่านเอมิเลีย.....
 
     ณ หอพักหญิงในช่วงเย็นของวันนั้น ลิลลี่ มาเยี่มเอมิเลียถึงในห้องนอน ส่วนเอมิเลียได้แต่คลุมโปงนอนอยู่อย่างนั้น ดูจากน้ำเสียงแล้วคงจะร้องไห้จนตาแดงแล้วล่ะ มันคงไม่แปลกที่เธอจะนึกถึงเรื่องตอนที่ไปท้าดวลกับแบล็คแล้วแพ้อย่างหมดรูป สร้างความอับอายต่อหน้าประชาชี แถมชื่อเสียงตระกูลคงหม่นหมองแน่แท้
 
     ''ท่านเอมิเลีย พรุ่งนี้ต้องไปเรียนด้วยนะคะ ไม่มีใครว่าทานหรอกค่ะ''
     ''ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา ! !''
     ''ตะ... แต่ว่า ท่านพ่อของท่านรับสั่งมาแล้วนะคะ ''
     ''เธอเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อเหรอ ! ยัยคนทรยศ แง๊ ~ ฮืออออ ฮือออ T^T''
 
ภายใต้ผ้าห่ม คงร้องไห้น้ำมูกโป่งไปแล้ว เหมือนเด็กไม่มีผิด
 
ทางด้านแบล็ค
 
 
Arachne VII ( เบอเซิร์ก ขั้นสุดท้าย....)
 
 
     แบล็คพูดประโยคนั้นออกมา ก่อนที่ร่างกายของเขาจะเคลือบไปด้วยเกราะสีดำสนิททั่วทั้งร่างกาย มันเหมือนกับอัญมณีสีดำอมม่วงไปทั่วทั้งร่างกาย ชุดเกราะอัศวินสีดำที่ไร้ซึ่งเผยผิวกาย และมีดวงตาสีแดงฉานประกายออกมา มือขวาของแบล็คนั้นมีขวานเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง
 
     ความรวดเร็วดั่งสายลม เพียงพริบตาเดียวการเคลื่อนที่นั้นก็ไปอยู่ตรงหน้าของเอ็ดเวริ์ด แบล็คเอียงแขนพร้อมกับใช้ขวานอันหนักหน่วงของตัวเองสะบัดใส่บั้นคอของเอ็ดเวริ์ดหวังจะฆ่าเพียงภายในการโจมตีครั้งเดียว... เพียงแต่ช่วงเวลานั้นถึงเอ็ดเวิร์ดจะตกใจ แต่เขาก็มีสติพอจะหลบขวานเล่มนั้น
 
ทว่า.....
 
ฉึบบบบบ !!!
 
     แขนหนึ่งข้างของเขานั้นขาดสะบั้น ต่อให้มองการโจมตีของแบล็คทัน แต่กลับขยับร่างกายไม่ทัน เวลาช่วงนั้นยังเกิดไม่ถึง 1 วินาทีเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่คีราโน่กำลังเอ่ยปากว่า ''เดี๋ยวก่อน'' ทางด้านเมดูซ่าก็รีบเอาตัวเขาปกป้องเอ็ดเวริ์ดในจังหวะนั้นด้วย เธอร่ายเวทย์อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างกำแพงหินขนาดใหญ่มาป้องกัน ก่อนที่อีกเสี้ยววินาทีต่อมา แบล็คจะใช้ขวานฟันกำแพงหินจนแตกสะบั้น พร้อมกับพุ่งเข้าไปถีบเมดูซ่ากลางหน้าอก อวัยวะข้างในถึงกับสั่นสะเทือน ปากกระอักเลือดสีแดงออกมามหาศาล เธอปลิวกระเด็นอย่างรุนแรงไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนต้นไม้นั้นหักทันที ก่อนจะพุ่งเข้าไปปิดฉากเอ็ดเวิร์ดอีกครั้ง
 
ทว่า....
 
     ''เดี๋ยวก่อน แบล็ค !!''
ทั้งหมดคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียง 1 วินาที คีราโน่เอ่ยปากได้สำเร็จ
 
ทางด้านเอ็ดเวริ์ดเหมือนจะเริ่มร่ายเวทย์อะไรบางอย่าง ก่อนที่แบล็คจะ...
 
Silent ( จงเงียบงัน ..... ? ) 
 
เจอเวทย์นี้เข้าไป เอ็ดเวริ์ดไม่สามารถเอ่ยปากร่ายเวทย์อะไรได้
เหตุการณ์นี้เหมือนกับเอมิเลียไม่มีผิด....
 
     ก่อนที่อีกไม่กี่วินาทีต่อมา แบล็คเข้าไปจู่โจมเอ็ดเวริ์ดอีกครั้งโดยพุ่งเข้าไปบีบคออย่างรวดเร็ว แล้วจับทุ่มลงดินอย่างรุนแรง พื้นดินบริเวณนั้นถึงกับแตกระเอียดออกมา
 
     ''อยู่นิ่งๆซะ ไอสวะ !''
สายตาที่เย็นชาราวกับสัตว์ป่า
 
ป๊ากกกกก...... คีราโน่เดินเข้ามาใกล้ๆแบล็คพร้อมกับเอาดาบเคาะไปที่ชุดเกราะของแบล็คบริเวณหัว
 
     ''นี่บ้าไปแล้วรึไง ยังไม่ได้พูดเจรจาอะไรกันซักอย่าง ก็จะฆ่าอีกฝ่ายแล้ว''
     ''เปล่า คือแบบ ไอ้พวกนี้ดูยังไงก็ไม่น่าไว้ใจนี่นา ฆ่าทิ้งซะตรงนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอ ?''
 
ตอนนั้นเองแบล็คก็คลายเบอเซิร์ก ทำให้ชุดเกราะสีดำของตัวเองคลายลงอย่างช้าๆ
เอ็ดเวิร์ดถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ทางด้านเมดูซ่าก็เริ่มจะลุกขึ้นยืนได้แล้ว
 
     ''อ....อ่า ให้ตายสิ จะรับผิดชอบแขนของฉันยังไงเนี่ย''
     ''โทษทีนะลุง''
     ''แล้ว... สงบสติได้รึยังละ ?''
     ''ว่าแต่ มีธุระอะไร จนป่านนี้แล้วคงไม่ต้องปิดบังอะไรแล้วสินะ''
     ''ก็นั่นน่ะสิ ฉันรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่านายคืออารัคเน่ที่ 7 ''
 
ทางด้านเมดูซ่าก็ลุกขึ้นเดิน พลางใช้แขนพยุงกับต้นไม้
ดูท่าจะเจ็บเอาการเลยทีเดียว ปากของเธอยังมีคราบเลือดติดอยู่
 
     ''ไม่นึกว่าจะใช้เบอเซิร์กได้ถึงขั้นสุดท้าย คนแรกในโลกหรือเปล่านี่''
     ''ก็คงจะเป็นคนแรกในโลกนั่นแหละ โทษทีนะ ที่อารัคเน่สอนฉันเสมอว่าควรขย่ำศัตรูเอาไว้ก่อนน่ะ''
     ''ไม่ไหวๆ ตัวอันตรายชัดๆ นายน่ะ''
 
เมดูซ่ายิ้มออกมาหน่อยๆ
ก่อนที่คีราโน่จะถามเมดูซ่า
 
     ''ตกลงเธอต้องการอะไรจากพวกเรา เมดูซ่า ?''
     ''งั้นขอสรุปสั้นๆเลยแล้วกัน ฉันต้องการดวงตาของฉันคืน''
     ''แล้วมันอยู่ไหน ?''
     ''ในวังของราชาอพานเต้''
     ''เธอต้องการได้ดวงตาคืน แล้วเจ้าตาลุงนี่ล่ะ ?''
     ''เขาชื่อ เอ็ดเวิร์ดน่ะ เรียกให้ถูกจะดีกว่านะ''
     ''งั้น เอ็ดเวริ์ด แกต้องการอะไร''
     ''หัวของราชาอพานเต้น่ะ''
     ''ต้องการฆ่าราชางั้นเหรอ... ไม่ได้อยากถามถึงเหตุผลหรอกนะ แต่ทำไม ?''
     ''มีปมในใจนิดหน่อย ว่าแต่จะยอมร่วมมือด้วยไหม ?''
     ''งั้นขอถามเรื่องผลประโยชน์หน่อยแล้วกัน ตาลุง''
     ''ฉันเป็นอดีตพาราดิน ตอนนี้ฉันมีอำนาจตรวจสอบอารัคเน่ที่ 7''
     ''สรุปคือ พวกเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนนี้ได้อย่างไร้กังวลสินะ''
     ''ด้วยอำนาจของฉัน ฉันสามารถรายงานเท็จไปยังเบื้องบนได้ ว่าที่นี่ไม่มีอารัคเน่ที่ 7 อาศัยอยู่''
     ''ข้อเสนอน่าสนใจ ดูท่าจะไม่ได้โกหกด้วยสินะ''
     ''ถ้าฉันจะเก็บพวกเธอล่ะก็ ฉันคงเอาเรื่องนี้ไปรายงานตั้งแต่วันที่พวกเธอเข้ามาเรียนแล้ว''
     ''ผลประโยชน์ของพวกเรามีแค่นี้เหรอ แลกกับการสังหารราชาเนี่ยนะ ?''
     ''เดิมทีพวกพาราดินก็เกะกะสำหรับพวกเธออยู่แล้วนี่ สำหรับการคืนชีพอารัคเน่ที่ 6 ล่ะก็นะ''
     ''ไหนบอกว่าจะสังหารราชา แล้วพาราดินเกี่ยวอะไรด้วย ?''
     ''ถึงพาราดินจะไม่ครบ 6 คน แต่พาราดินส่วนหนึ่งก็เฝ้าอารัคขาราชาอยู่ตลอดนะ''
     ''งั้นขอรับข้อตกลงแล้วกัน''
 
ทางแบล็คที่เงียบอยู่ตั้งนาน
ก็เอ่ยปากหาคีราโน่
 
     ''เดี๋ยว คีราโน่ เธอไม่รับข้อเสนอง่ายไปหน่อยเหรอ ?''
     ''แล้วนายจะทำยังไง แบล็ค ?''
     ''เอ่อ เรื่องนั้น.... ''
     ''ถ้านายฆ่าตาลุงนี่ หรือถ้าตาลุงคนนี้หายสาปสูญไปเมื่อไหร่ พวกทหารคงรู้ตัวแน่ และจะแห่กันมาตรวจสอบโรงเรียนนี้ ว่าที่นี่มีอารัคเน่ที่ 7 อยู่จริงไหม แน่นอนว่าพวกมันก็คงตามตัวเราหรือระบุหน้าตาได้ไม่ยาก คราวนี้แหละ เราได้มุดหัวอยู่ในโลกนี้ยากแน่ หรือถ้านายไม่ฆ่าตาลุงนี่หรือไม่ยอมรับขอเสนอของมัน มันก็จะเอาเรื่องนี้ไปรายงานกับทหาร ทีนี้พวกพาราดิน 6 ตัวกับวาลคีรี่จอมยุ่งยากมาไล่ฆ่านายแน่''
 
     ''งั้นเอาแมงมุมยัดปากก็หมดเรื่องแล้วไง ''
     ''ความคิดฉลาดดีนะแบล็ค แต่นายคิดว่าแมงมุมของนายจะฆ่าพาราดินคนนี้ได้เหรอ ไม่สิ ต่อให้เอาแมงมุมยัดปาก ตาลุงนี่คงเตรียมใจตายและเอาเรื่องของเราไปรายงานอยู่แล้ว เข้าใจรึยัง พวกเราแพ้ตาลุงนี่ตั้งแต่มาเรียนที่นี่แล้ว ที่ยังรับข้อเสนอนี่นับว่าเป็นบุญกะลาหัวมากกว่า ไม่ใช่ว่าเราต้อนตาลุงนี่จนจนมุมหรอกนะ''
 

หากนายฆ่าตาลุงนี่ พวกเราก็จะแพ้
หากนายปล่อยตาลุงนี่ไป พวกเราก็แพ้
หากตาลุงนี่หายสาปสูญ พวกเราก็แพ้อยู่ดี
หากนายไม่รับข้อเสนอของตาลุงนี่ พวกเราก็แพ้
ถ้างั้นก็มีทางเดียว พวกเราต้องจงใจรับข้อเสนอนี้
 
     ''ไอ้ตาลุงนี่ เจ้าเล่ห์ชะมัด !''
     ''ใจเย็นก่อนสิเจ้าหนุ่ม ฉันก็เสนอผลประโยชน์ให้แล้วไง ไม่เชื่อใจกันรึไง ?''
     ''เหอะ.... ก็ได้ ยังไงในโลกนี้ก็ไม่มีใครแกร่งกว่าฉันอีกแล้ว จะทำอะไรก็ได้''
     ''ฮ่ะๆ มั่นใจซะจริงนะ แต่ก็ขอบคุณที่รับข้อเสนอ''
 
     หลังจากรับข้อเสนอกันไปแล้ว พวกเขาทั้งสองก็แยกจากกัน แบล็คและคีราโน่ก็เดินกลับหอพักของตัวเอง ส่วนทางด้านเมดูซ่าก็พยุงตัวของเอ็ดเวริ์ดขึ้นมา พร้อมกับฉีกเสื้อผ้าของตัวเองไปห้ามเลือดแขนขวาของเอ็ดเวริ์ด ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกจากป่านี้ไปด้วยกัน
 
แต่ในระหว่างนั้น
 
     ''บ้าบิ่นไปแล้ว ฉันเตือนแล้วแท้ๆ ว่าถ้าเจอหน้าไอ้เด็กบ้านั่นอาจจะถึงตายก็ได้ เป็นไงล่ะ สนุกดีเลยซิ แขนหายไปตั้งข้างหนึ่งฟรีๆ แย่ไปกว่านั้น นายไม่คิดจะต่อสู้เลยด้วยซ้ำ ดูสิ อวัยวะข้างในฉันเละไปหมดแล้ว ก็เพราะนาย ต้องใช้เวลาอีกซักกี่วันถึงจะฟื้นฟูละเนี่ย ให้ตายสิ ให้ตายสิ ให้ตายสิ !''
 
     ''ฉันก็เป็นแค่อดีตพาราดินนี่... อีกอย่าง ต่อให้สู้ ก็สู้เด็กคนนั้นไม่ไหวหรอก เธอน่าจะสำผัสได้นะ ว่าเด็กคนนั้นแท้จริงแล้วจิตใจของเขามันมืดมนมากเลย ถึงภายนอกจะดูเป็นเด็กที่เกรียนตัวแสบก็ตาม ฉันมั่นใจได้เลยว่า ไม่มีใครสู้เขาได้แล้วในยุคนี้... ฮ่ะๆ นี่ไม่ได้อวยนะ''
 
     ''หุบปากของแกไปได้แล้ว เอ็ดเวริ์ด''
     ''นี่กลายเป็นยัยแก่ขี้บ่นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ปกตินิสัยเธอไม่ใช่แบบนี้นี่''
     ''ช่างฉันเถอะน่า แค่เห็นไอ้เด็กบ้านั่นก็นึกถึงพี่สาวตัวแสบขึ้นมา จะหงุดหงิดก็ไม่แปลก''
     ''อ้อ นั่นสิ ลืมไปเลยว่าเธอเป็นน้องสาวของอารัคเน่''
     ''ว่าแต่ว่า ยัยคีราโน่มันพูดถึงวาลคีรี่ หมายความว่ายังไง ?''
     ''นักรบแห่งแสงน่ะ เธอก็น่าจะเคยต่อสู้ด้วย แล้วมาถามฉันทำไม ?''
     ''อ้อ นายยังเกิดไม่ทันสินะ เมื่อราวๆ 150 ปีก่อน วาลคีรี่ถูกเทียแมทถล่มจนหมดไปแล้ว ก็เลยสงสัยว่ายัยพวกนั้นทำไมถึงยังมาโผล่ในยุคสมัยนี้''
     ''นั่นสินะ ยัยพวกนั้นพึ่งจะมารับใช้ราชาอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่ปีนี่เอง พวกนั้นเคยให้ความช่วยเหลือในการกำจัดอารัคเน่พี่สาวของเธอด้วยนะ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถึงจะไม่เป็นทางการก็เถอะ แต่.. ว่าก็ว่านะ ปกติฉันเรียนประวัติศาสตร์ไม่เห็นบอกเรื่องนี้เลย แถมเขียนเอาไว้ว่าวาลคีรี่ถูกเธอฆ่าตายจนหมดไปแล้ว''
     ''ตลกจริงนะ ประวัติศาสตร์ในชั้นเรียนของมนุษย์ จะบิดเบือนไปเท่าไหร่ก็ได้ แต่.... อืม ฉันเนี่ยนะฆ่าวาลคีรี่ แค่สู้ตัวต่อตัวฉันยังไม่ไหวเลย อยากรู้จริงใครมันเขียนประวัติศาสตร์น่าโง่นี่ขึ้นมา ฉันล่ะปวดกะบาลจริงๆ''
 

 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา