ฺBecause of Destiny
9.0
เขียนโดย Amdahlia
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.05 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
9,873 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 19.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) รื้อฟื้นความทรงจำกันหน่อย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ฉันมองเข้าไปในตาเขา และดูเหมือนเขาคงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับฉันหลงเหลืออยู่แล้ว มันน่าเศร้านะที่เรายังจำเรื่องเกี่ยวกับเขาได้ทุกเรื่อง แต่เขาก็คงไม่มีอะไรเกี่ยวกับฉันเลย ก็ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขาหนิเขาจะมาใส่ใจอะไรกับฉันหละ...
" Um... How are you? "
(อืม...คุณเป็นไงบ้าง)
เขาเอ่ยปากถามฉัน คงเป็นมารยาทปกติแหละที่คนทั่วไปเขาทำกัน แล้วทำไมเราต้องมาคิดอะไรพวกนี้ด้วยเนี่ยไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
" Good and How about you? "
(ก็ดีค่ะ แล้วคุณหละเป็นยังไง)
" Fine Where are you going? "
(สบายดีครับ แล้วนี้คุณจะไปไหนอ่ะ)
" I'll go the nearest market "
(จะไปตลาดที่ใกล้ที่สุดอ่ะ)
" Really? Me too "
(จริงหรอ ผมก็จะไปเหมือนกัน)
" Um...Why don't you stay at home? "
(ทำไมคุณไม่นอนบ้านหละ ทำไมมาพักที่โรงแรม)
" I already sold my home cause I'll move to US on January. "
(ผมขายบ้านไปแล้วอ่ะ ผมต้องย้ายไปUSเดือนมกราคม)
" For work? "
(ไปทำงานเหรอคะ)
" Yes because of this.I came here. "
(ครับ เพระงี้ผมเลยมาที่นี้หนะ)
เราสองคนเดินไปคุยไป ตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมา 6 ปี เควิ้นเป็นเพื่อนเก่าฉันตั้งแต่มัธยม
ตอนนั้นฉันมาที่ประเทศนี้บ่อยมากเลย ฉันเจอเขาที่เกาะๆหนึ่งที่ประเทศนี้แหละ เราสองคนสนิทกันมากเลยฉันอยู่ที่นั้นประมาณ 1 ปีอารมณ์ประมาณนักเรียนแลกเปลี่ยนเลย ตอนนั้นฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเข้าไปที่นั้นครั้งแรก ฉันไม่กล้าคุยกับใครเลยฉันก็ไม่ได้เป็นคนขี้อายอะไรนะ แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทยฉันก็คงมีเพื่อนตั้งแต่นาทีแรกที่เข้าไปแล้วหละ แต่ถ้าเป็นที่นี้ฉันไม่รู้ว่าคนที่นี้เขาเป็นคนยังไง ปกติเขาทำอะไรกัน ฉันควรจะเริ่มพูดยังไง เพราะวัฒนธรรมของเขากับเรามันต่างกันโคตร เพราะงี้กูเกิลก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกอย่างนะ ภาษาอังกฤษของฉันตอนนั้นมันก็แย่มากเลยแหละ (จะเอาอะไรกับภาษาอังกฤษเด็กมัธยมอย่างฉัน) ตอนนั้นฉันนั่งอยู่คนเดียวอยู่ๆก็มีผู้ชายที่ใจดี อบอุ่น เฟรนลี่ เดินเข้ามาทักฉัน เขาเข้ามาชวนฉันคุยสอนภาษามาเลให้ฉัน ทำให้วันแรกในการมาโรงเรียนของฉันมันไม่ได้แย่เลย ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเขาดูแลฉันทุกอย่างจนฉันหาเพื่อนผู้หญิงที่เข้ากับฉันได้ ฉันเลยไม่ค่อยได้คุยกับเขาแล้วเราก็ค่อยๆห่างกันไป แต่ว่าฉันรู้สึกตลอดว่าเขาคอยแอบมองดูฉัน ตอนแรกฉันนึกว่าเขากลายเป็นไอพวกโรคจิตคอยแอบดูผู้หญิง แต่เปล่าเลยเขาดีกับฉันมาเลยจริงๆ...
[ภาษาไทย]
" อยากกินนี้ไหมมันหายากมากเลยนะ นานทีผมก็เพิ่งได้กินเหมือนกัน "
เขาหยิบขนมหน้าตาแปลกๆมาให้ฉัน ฉันเดามันน่าจะเป็นขนมของคนที่นี้
" มันน่าตาแปลกๆแฮะ "
" ชิมก่อน รสชาติมันไม่แปลกหรอก "
ฉันกัด 1 คำ รสชาติมันหวานๆเค็มๆแปลกๆแต่ก็อร่อยดี
" อืม55555 เรารู้สึกว่าฉันชอบขนมไทยมากกว่านะ "
" จริงหรอ ขนมไทยเป็นยังไงอ่ะอยากกินบ้างอ่ะ "
" ก็มาหาสิจะพาไปกิน พาไปเที่ยว "
เราคุยกันไปเดินหาของกินไป ตามประสานักท่องเที่ยว
" เควิ้น "
" หืม "
" ทำไมตอนนั้นอยู่ๆนายก็เปลี่ยนไปหละ อยู่ๆนายก็หายไปไม่ติดต่อกลับมาหาเราเลย เราถามนายไปในแชท นายก็ไม่ตอบ เกิดอะไรขึ้นหรอ "
เขาก้มหน้าลงแล้วก็เงียบไปไม่ตอบคำถามฉัน บรรยากาศตอนนั้นฉันกับเขา เรา2คนก็ต่างเงียบกันไปทั้งคู่ ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลยเปลี่ยนเรื่องคุย มันอาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
" เห้ยย... ว่าแต่ที่ไปทำงานที่ US อ่ะไปทำงานไรหรอ "
" เป็นงานเกี่ยวกับโปรแกรมไรเงี้ยอ่ะ แล้วเธออ่ะทำงานไรอยู่ "
" ยังหาอยู่อ่ะ แต่ก็ดูแลกิจการที่บ้านไปด้วย "
" ถ้าเป็นเราๆไม่หาแล้วงาน ทำงานที่บ้านดีกว่าสบายจะตาย "
" ขี้เกียจหละสิไม่ว่า5555 "
เควิ้นยิ้มกว้างแล้วหัวเราะออกมา ฉันเคยเห็นภาพนี้เมื่อนานมาแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นมันอีกครั้ง....
" คิดถึงตอนเรียนด้วยกันเนอะ "
อยู่ๆเควิ้นก็พูดขึ้นมา ประโยคนั้นโคตรทำให้อึ้งเลย ใจเต้นแรงหน้าแดงทุกทีใช่เธอหรือนี้...ถุ้ย
" อะ..อืมคิดถึงเหมือนกัน "
" คิดถึงโรงเรียน คิดถึงครู คิดถึงบรรยากาศตอนเรียน คิดถึงนักเรียนแลกเปลี่ยน "
เชี้ย!!!!!! มันจึกมันจึก มามุกไหนเนี้ยกินยาไม่เขย่าขวดแน่เลย
" นักเรียนแลกเปลี่ยนคนไหนกันยะ "
" อืมมมม...ก็คนที่เดินอยู่ข้างเราเนี่ย "
" อ้อหรออ55555 "
" หน้าเธอแดงอ่ะ เป็นไรป่าว5555 "
" 555555555555 ไม่มีอะไร้ "
โอ้ยพ่อคุณเอ้ย จะทำให้ใจเต้นแรงไปไหนเนี้ย ไม่เคยเดินตลาดกับใครแล้วเขินขนาดนี้เลย...
ฉันกับเขาเดินไปจนสุดซอย ไปเจอร้านขายทุเรียน แล้วก็มีโต๊ะให้นั่งกินตรงนั้นเสร็จสับ แล้วซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่ฉันเกลียดที่สุด อันที่จริงมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอกนะ รสชาติก็ดีด้วยซ้ำไปแต่กลิ่นหนะสิ โอ้ยไม่ได้จะกระแดะไม่อะไรนะแต่ได้กลิ่นที่นี้ ปวดหัวโคตรเลยจริงๆ เป็นคนไม่กินทุเรียนนะคะบอกแค่นี้เลย
" เห้ยซองดูนั้นดิ ร้านทุเรียนน่ากินเนอะ "
" เราไม่กินทุเรียน "
นางเควิ้นอึ้งไปอีกหนึ่งระดับไม่รู้จะอึ้งอะไรขนาดนั้น คนไม่กินก็มีอยู่ถมไปก็แค่ฉันเป็น1ในนั้น...
" อ่อใช่เราจำได้ตอนมัธยมเธอเกลียดมันมาก แต่อร่อยนะ "
" ใช่อร่อย แต่แค่ได้กลิ่นเราก็จะอ้วกแล้ว "
" แต่เราอยากกินอ่ะ พาไปหน่อยนะ "
เควิ้นก้มตัวลงมามองที่ฉัน แล้วกระซิบข้างหูฉัน
" พาไปกินแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปเที่ยว "
จะให้ฉันตอบว่าอะไรหละ ฉันควรตอบว่าอะไรดีตอนนี้ฉันสับสนมาก ฉันจะไม่อยากไปอยู่ในดงทุเรียน ไม่ฉันจะไม่ไป ไม่เด็ดขาด.....
ณ ร้านทุเรียน
" เอาตูมาจนได้ "
" ห้ะว่าไรนะ "
" ป่าว...กินไปเหอะ "
เควิ้นหยิบทุเรียนมา 1 พลูแล้วก็ยื่นมาที่ฉัน (ยื่นให้ผิดคนรึป่าวยะ)
" อ่ะ..ให้ชิม "
" ไม่เอาอ่ะ "
" จะกินไม่กิน "
" ไม่ "
เควิ้นยื่นหน้ามาหาฉัน แล้วเขาก็ถามฉันซ้ำๆ แล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาเรื่อยๆ ดูเหมือนมันจะโรแมนติกนะ แต่กลิ่นอ่ะคือเพิ่งกินทุเรียนมาป้ะ แล้วยื่นหน้ามากลิ่นนี้ตีเข้าหน้าฉันเต็มเปาเลย ให้ตายเถอะ
" หยุดๆ จะยื่นหน้ามาทำไมมันใกล้ไปละๆ "
อยู่เขาก็เอาทุเรียนพลูนั้นยัดเข้าปากฉันโดยไม่ทันตั้งตัว นี้คือการรื้อฟื้นความทรงจำของเขา
เป็นหนึ่งความทรงจำที่ คงไม่ลบเลือนแน่นอน...:)
" Um... How are you? "
(อืม...คุณเป็นไงบ้าง)
เขาเอ่ยปากถามฉัน คงเป็นมารยาทปกติแหละที่คนทั่วไปเขาทำกัน แล้วทำไมเราต้องมาคิดอะไรพวกนี้ด้วยเนี่ยไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
" Good and How about you? "
(ก็ดีค่ะ แล้วคุณหละเป็นยังไง)
" Fine Where are you going? "
(สบายดีครับ แล้วนี้คุณจะไปไหนอ่ะ)
" I'll go the nearest market "
(จะไปตลาดที่ใกล้ที่สุดอ่ะ)
" Really? Me too "
(จริงหรอ ผมก็จะไปเหมือนกัน)
" Um...Why don't you stay at home? "
(ทำไมคุณไม่นอนบ้านหละ ทำไมมาพักที่โรงแรม)
" I already sold my home cause I'll move to US on January. "
(ผมขายบ้านไปแล้วอ่ะ ผมต้องย้ายไปUSเดือนมกราคม)
" For work? "
(ไปทำงานเหรอคะ)
" Yes because of this.I came here. "
(ครับ เพระงี้ผมเลยมาที่นี้หนะ)
เราสองคนเดินไปคุยไป ตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมา 6 ปี เควิ้นเป็นเพื่อนเก่าฉันตั้งแต่มัธยม
ตอนนั้นฉันมาที่ประเทศนี้บ่อยมากเลย ฉันเจอเขาที่เกาะๆหนึ่งที่ประเทศนี้แหละ เราสองคนสนิทกันมากเลยฉันอยู่ที่นั้นประมาณ 1 ปีอารมณ์ประมาณนักเรียนแลกเปลี่ยนเลย ตอนนั้นฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเข้าไปที่นั้นครั้งแรก ฉันไม่กล้าคุยกับใครเลยฉันก็ไม่ได้เป็นคนขี้อายอะไรนะ แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทยฉันก็คงมีเพื่อนตั้งแต่นาทีแรกที่เข้าไปแล้วหละ แต่ถ้าเป็นที่นี้ฉันไม่รู้ว่าคนที่นี้เขาเป็นคนยังไง ปกติเขาทำอะไรกัน ฉันควรจะเริ่มพูดยังไง เพราะวัฒนธรรมของเขากับเรามันต่างกันโคตร เพราะงี้กูเกิลก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกอย่างนะ ภาษาอังกฤษของฉันตอนนั้นมันก็แย่มากเลยแหละ (จะเอาอะไรกับภาษาอังกฤษเด็กมัธยมอย่างฉัน) ตอนนั้นฉันนั่งอยู่คนเดียวอยู่ๆก็มีผู้ชายที่ใจดี อบอุ่น เฟรนลี่ เดินเข้ามาทักฉัน เขาเข้ามาชวนฉันคุยสอนภาษามาเลให้ฉัน ทำให้วันแรกในการมาโรงเรียนของฉันมันไม่ได้แย่เลย ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเขาดูแลฉันทุกอย่างจนฉันหาเพื่อนผู้หญิงที่เข้ากับฉันได้ ฉันเลยไม่ค่อยได้คุยกับเขาแล้วเราก็ค่อยๆห่างกันไป แต่ว่าฉันรู้สึกตลอดว่าเขาคอยแอบมองดูฉัน ตอนแรกฉันนึกว่าเขากลายเป็นไอพวกโรคจิตคอยแอบดูผู้หญิง แต่เปล่าเลยเขาดีกับฉันมาเลยจริงๆ...
[ภาษาไทย]
" อยากกินนี้ไหมมันหายากมากเลยนะ นานทีผมก็เพิ่งได้กินเหมือนกัน "
เขาหยิบขนมหน้าตาแปลกๆมาให้ฉัน ฉันเดามันน่าจะเป็นขนมของคนที่นี้
" มันน่าตาแปลกๆแฮะ "
" ชิมก่อน รสชาติมันไม่แปลกหรอก "
ฉันกัด 1 คำ รสชาติมันหวานๆเค็มๆแปลกๆแต่ก็อร่อยดี
" อืม55555 เรารู้สึกว่าฉันชอบขนมไทยมากกว่านะ "
" จริงหรอ ขนมไทยเป็นยังไงอ่ะอยากกินบ้างอ่ะ "
" ก็มาหาสิจะพาไปกิน พาไปเที่ยว "
เราคุยกันไปเดินหาของกินไป ตามประสานักท่องเที่ยว
" เควิ้น "
" หืม "
" ทำไมตอนนั้นอยู่ๆนายก็เปลี่ยนไปหละ อยู่ๆนายก็หายไปไม่ติดต่อกลับมาหาเราเลย เราถามนายไปในแชท นายก็ไม่ตอบ เกิดอะไรขึ้นหรอ "
เขาก้มหน้าลงแล้วก็เงียบไปไม่ตอบคำถามฉัน บรรยากาศตอนนั้นฉันกับเขา เรา2คนก็ต่างเงียบกันไปทั้งคู่ ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลยเปลี่ยนเรื่องคุย มันอาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
" เห้ยย... ว่าแต่ที่ไปทำงานที่ US อ่ะไปทำงานไรหรอ "
" เป็นงานเกี่ยวกับโปรแกรมไรเงี้ยอ่ะ แล้วเธออ่ะทำงานไรอยู่ "
" ยังหาอยู่อ่ะ แต่ก็ดูแลกิจการที่บ้านไปด้วย "
" ถ้าเป็นเราๆไม่หาแล้วงาน ทำงานที่บ้านดีกว่าสบายจะตาย "
" ขี้เกียจหละสิไม่ว่า5555 "
เควิ้นยิ้มกว้างแล้วหัวเราะออกมา ฉันเคยเห็นภาพนี้เมื่อนานมาแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นมันอีกครั้ง....
" คิดถึงตอนเรียนด้วยกันเนอะ "
อยู่ๆเควิ้นก็พูดขึ้นมา ประโยคนั้นโคตรทำให้อึ้งเลย ใจเต้นแรงหน้าแดงทุกทีใช่เธอหรือนี้...ถุ้ย
" อะ..อืมคิดถึงเหมือนกัน "
" คิดถึงโรงเรียน คิดถึงครู คิดถึงบรรยากาศตอนเรียน คิดถึงนักเรียนแลกเปลี่ยน "
เชี้ย!!!!!! มันจึกมันจึก มามุกไหนเนี้ยกินยาไม่เขย่าขวดแน่เลย
" นักเรียนแลกเปลี่ยนคนไหนกันยะ "
" อืมมมม...ก็คนที่เดินอยู่ข้างเราเนี่ย "
" อ้อหรออ55555 "
" หน้าเธอแดงอ่ะ เป็นไรป่าว5555 "
" 555555555555 ไม่มีอะไร้ "
โอ้ยพ่อคุณเอ้ย จะทำให้ใจเต้นแรงไปไหนเนี้ย ไม่เคยเดินตลาดกับใครแล้วเขินขนาดนี้เลย...
ฉันกับเขาเดินไปจนสุดซอย ไปเจอร้านขายทุเรียน แล้วก็มีโต๊ะให้นั่งกินตรงนั้นเสร็จสับ แล้วซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่ฉันเกลียดที่สุด อันที่จริงมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอกนะ รสชาติก็ดีด้วยซ้ำไปแต่กลิ่นหนะสิ โอ้ยไม่ได้จะกระแดะไม่อะไรนะแต่ได้กลิ่นที่นี้ ปวดหัวโคตรเลยจริงๆ เป็นคนไม่กินทุเรียนนะคะบอกแค่นี้เลย
" เห้ยซองดูนั้นดิ ร้านทุเรียนน่ากินเนอะ "
" เราไม่กินทุเรียน "
นางเควิ้นอึ้งไปอีกหนึ่งระดับไม่รู้จะอึ้งอะไรขนาดนั้น คนไม่กินก็มีอยู่ถมไปก็แค่ฉันเป็น1ในนั้น...
" อ่อใช่เราจำได้ตอนมัธยมเธอเกลียดมันมาก แต่อร่อยนะ "
" ใช่อร่อย แต่แค่ได้กลิ่นเราก็จะอ้วกแล้ว "
" แต่เราอยากกินอ่ะ พาไปหน่อยนะ "
เควิ้นก้มตัวลงมามองที่ฉัน แล้วกระซิบข้างหูฉัน
" พาไปกินแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปเที่ยว "
จะให้ฉันตอบว่าอะไรหละ ฉันควรตอบว่าอะไรดีตอนนี้ฉันสับสนมาก ฉันจะไม่อยากไปอยู่ในดงทุเรียน ไม่ฉันจะไม่ไป ไม่เด็ดขาด.....
ณ ร้านทุเรียน
" เอาตูมาจนได้ "
" ห้ะว่าไรนะ "
" ป่าว...กินไปเหอะ "
เควิ้นหยิบทุเรียนมา 1 พลูแล้วก็ยื่นมาที่ฉัน (ยื่นให้ผิดคนรึป่าวยะ)
" อ่ะ..ให้ชิม "
" ไม่เอาอ่ะ "
" จะกินไม่กิน "
" ไม่ "
เควิ้นยื่นหน้ามาหาฉัน แล้วเขาก็ถามฉันซ้ำๆ แล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาเรื่อยๆ ดูเหมือนมันจะโรแมนติกนะ แต่กลิ่นอ่ะคือเพิ่งกินทุเรียนมาป้ะ แล้วยื่นหน้ามากลิ่นนี้ตีเข้าหน้าฉันเต็มเปาเลย ให้ตายเถอะ
" หยุดๆ จะยื่นหน้ามาทำไมมันใกล้ไปละๆ "
อยู่เขาก็เอาทุเรียนพลูนั้นยัดเข้าปากฉันโดยไม่ทันตั้งตัว นี้คือการรื้อฟื้นความทรงจำของเขา
เป็นหนึ่งความทรงจำที่ คงไม่ลบเลือนแน่นอน...:)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ