รินรดีซ่อนรัก
8.7
เขียนโดย Annakan
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 09.36 น.
8 ตอน
0 วิจารณ์
9,612 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 09.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ตอน 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 5
“ป๊า” รินรดีโผเข้าไปกอดคนรักเต็มแรงการรอคอยที่แสนทรมานสามคืนสิ้นสุดลงสักที เธอทั้งจูบทั้งหอมแถมรัดตัวเขาจนแน่น
“คิดถึงป๊าขนาดนั้น” ภาคินัยถามเด็กสาวที่ยังไม่เลิกระดมจูบเขาไปทั่วหน้า
“ค่ะ หนูเหงา” รินรดีจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขาและภาคินัยรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่เคยโกหก เธอไม่มีจริตและใสซื่อจนบางครั้งเขาก็อดสงสารไม่ได้กับความซื่อสัตย์ภักดีของเธอ ถ้าเป็นเด็กใจแตกคนอื่นป่านนี้พาผู้ชายมานอนจนนับคนไม่ถ้วนแล้วแต่รินรดีไม่เคยทำให้เขาแคลงใจสักนิด ทุกสายที่โทรเข้ามาเธอจะกดรับด้วยความเร็วจนน่าตกใจเหมือนเธอกำมือถือไว้ตลอดเวลา
“ป๊าขอโทษนะคะ” ภาคินัยจูบหน้าผาก จูบแก้ม จูบไปทุกส่วนบนใบหน้าของเธอ
“ป๊าไปทำงานนี่คะหนูขอโทษถ้าทำให้ป๊าไม่สบายใจ”
“ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นป๊าไม่ได้ไม่พอใจหนูนะคะ ป๊าแค่รู้สึกไม่ดีที่ทิ้งให้หนูต้องเหงาขนาดนี้” ภาคินัยปาดน้ำตาเม็ดเล็กๆ ที่ซึมออกมาทางหางตา
“หนูจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้ค่ะป๊าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“งั้นพรุ่งนี้ป๊าขอไถ่โทษด้วยการพาหนูไปกินมื้อเที่ยงแล้วก็มื้อเย็นได้ไหมคะ”
“จริงหรอคะ ป๊าจะพาหนูไปกินข้าวสองมื้อเลยหรอคะ” รินรดียิ้มกว้างด้วยความดีใจเพราะเธอต้องกินข้าวคนเดียวแทบจะทุกวัน
“จริงสิคะ หนูอยากไปไหนบอกป๊ามาได้เลย”
“กลางวันไปกินสเต๊กร้านที่ป๊าชอบค่ะส่วนตอนเย็นหนูให้ป๊าเลือก”
“โอเคครับหนูน้อยของป๊า โปรแกรมไถ่โทษวันพรุ่งนี้ก็เรียบร้อยแล้วมาถึงโปรแกรมคืนนี้บ้าง” ภาคินัยส่งสายตาวิบวับไปให้คนตัวเล็กที่หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
“ป๊าไม่เหนื่อยหรอคะ” รินรดีถามเพื่อกลบความเขินอายจะกี่ครั้งที่ร่วมรักกันเธอก็ยังเขินอยู่ดี
“เหนื่อยมากถึงต้องให้หนูเติมพลังนี่ไงคะ”
“หนูจะทำให้ป๊าหายเหนื่อยเองค่ะ” รินรดีปลดกระดุมเสื้อของคนรักออกทีละเม็ด ภาคินัยช่วยเหวี่ยงมันออกไปให้พ้นตัวเด็กสาวกำลังใช้มือเล็กๆ ลูบไล้ไปตามแผงอกแน่นๆ
“หนูรักป๊านะคะ” เธอเอ่ยแล้วจูบไปที่หัวนมสีเข้มของเขา ขนแขนของภาคินัยตั้งชันขึ้นมาพร้อมๆ กับอาวุธแท่งโตที่กลางลำตัว
“ป๊าก็รักหนูค่ะ” ภาคินัยถอดกางเกงไปกองไว้ที่พื้นแล้วปลดปล่อยเจ้าลูกชายตาเดียวออกมา ชายหนุ่มยกเรียวขาของเด็กสาวขึ้นมาข้างนึงแล้วย่อตัวเสียบแท่งเนื้ออุ่นๆ เข้าไปจนสุดลำ
“อืมมม ป๊าขา” รินรดีหลับตาพริ้มให้กับสัมผัสที่เธอโหยหามาหลายวัน
“หนูน้อย ป๊าเสียวที่สุดเลย”
“นะ หนูก็เสียวค่ะป๊า อ๊า” ภายในห้องมีแต่เสียงครวญครางปานจะขาดใจ คนนึงก็ซอยคนนึงก็สวนกลับด้วยจังหวะที่เข้ากันได้พอดีเป๊ะ
“โอ๊วว ขอป๊าจูบหลังหน่อย” รินรดีหันหน้าเข้าหากำแพงแล้วเอามือทาบไว้ ริมฝีปากรุ่มร้อนของเขาจูบพรมไปทั่วแผ่นหลังของเธอ
“อู๊วว ป๊าขา ป๊า” รินรดีร้องเสียงหลงเพราะโดนทะลวงช่องรักอย่างหนักหน่วง ภาคินัยเองก็คิดถึงเมียลับไม่แพ้กันจึงทั้งบดทั้งอัดสะโพกใส่คนตัวเล็กแบบลืมตาย
“โอ๊วววว” ชายหนุ่มกระหน่ำซอยเอวจนน้ำรักข้นๆ พุ่งกระฉูดออกมา ภาคินัยไถ่โทษให้หนูน้อยของเขาห้ารอบด้วยกันและคงจะมีรอบที่หกถ้าเธอไม่หมดแรงหลับไปซะก่อน
“หิวรึยังคะหนูน้อยของป๊า” ภาคินัยมาถึงร้านสเต๊กตอนเที่ยงกว่าๆ
“หิวแต่ไม่มากค่ะ” รินรดีตอบแล้วรีบส่งเมนูให้เพราะเธอรู้ว่าเขามีเวลาไม่มากนัก ป๊ามากินข้าวกับเธอแค่ชั่วโมงกว่าเท่านั้นแต่มันก็มากมายเกินพอแล้วสำหรับเธอเพราะถ้าเทียบกับทุกมื้อที่กินคนเดียวมันเหงามากๆ เลย
“เย็นนี้วันเกิดเพื่อนป๊าหนูไปกับป๊านะคะ ป๊าจะได้มีตัวช่วยไม่ต้องกลับดึก”
“หมายความว่าคืนนี้ป๊าก็จะมานอนกับหนูหรอคะ” รินรดีถามด้วยความดีใจ
“ใช่แล้วค่ะหนูน้อยแต่งตัวสวยๆ นะคะแล้วไปเจอกันที่ร้าน”
ภาคินัยกลับไปบริษัทเพื่อเข้าประชุมช่วงบ่ายส่วนรินรดีก็เลยไปฟิตเนสเพราะตอนนี้เธอเสพติดการออกกำลังกายซะแล้ววันไหนไม่ได้มาเสียเหงื่อที่นี่มันรู้สึกเหมือนขาดๆ อะไรไปสักอย่าง
“ลืมถามป๊าว่าอยากให้ใส่ชุดตัวไหน” เธอพึมพำเอาตอนเย็นย่ำระหว่างที่หาชุดให้ตัวเองใส่
“อืม ชุดนี้แล้วกันไม่โป๊เกินแต่ก็ไม่เรียบร้อยไป” เธอเลือกชุดแซกสายเดี่ยวสีม่วงใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงสีนู๊ดเพราะจะได้ไม่เด่นเกินชุด
“ถึงแล้วค่ะป๊า” รินรดีโทรไปหาเพราะเขาบอกเมื่อตอนกลางวันว่าให้โทรได้
“กลับบ้านดีกว่าค่ะ” ภาคินัยเดินออกมารับหนูน้อยแล้วก็ออกอาการหวงก้างขึ้นมาทันที
“อ้าว ทำไมล่ะคะป๊า”
“ก็หนูน้อยของป๊าสวยเกินไปไอ้พวกนั้นมองตาค้างแน่ๆ”
“หนูสวยหรอคะ”
“สวยที่สุดเลยค่ะคนดีหนูห้ามไปหว่านเสน่ห์ให้ใครนะไม่งั้นป๊าขาดใจตายแน่ๆ”
“หนูรักป๊าคนเดียวหนูจะทำแบบนั้นทำไมคะ” รินรดีถามเชิงตัดพ้อ
“โอ๋ๆ ป๊าขอโทษนะคะไม่โกรธป๊านะ”
“ไม่โกรธค่ะเราเข้าไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวเพื่อนๆ ป๊าจะรอนาน” ภาคินัยโอบเอวคนรักอย่างแนบแน่นเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นชัดๆ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของเขา
“สวัสดีค่ะ” รินรดียกมือไหว้ชายหนุ่มทุกคนพร้อมกันทีเดียว
“เอาเมียมาเยาะเย้ยหรือไงไอ้ก้อง” รามัญถาม
“เมียสวยก็ต้องเอามาอวดบ้าง” ภาคินัยตอบแล้วหอมแก้มคนข้างกาย รินรดีพยายามปัดป้องแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรและยิ่งดึกป๊าก็ยิ่งรุ่มร่ามมากขึ้นเรื่อยๆ
“กูเคยให้เมียทำให้จนเสร็จเพราะขี้เกียจทำเอง” หนุ่มๆ พูดคุยเรื่องเพศกันอย่างออกรส
“ถ้าเรื่องมือล่ะก็เมียกูก็เก่งไม่แพ้ใคร” ภาคินัยจับมือเล็กๆ ของรินรดีมาจูบและหญิงสาวก็อับอายเหลือเกินที่เขาเอาเรื่องบนเตียงมาพูดคุยอย่างสนุกสนานในวงเหล้า
“คุณรินรับเครื่องดื่มเพิ่มไหมครับ” ธนูลักษณ์สังเกตเห็นความอึดอัดจากใบหน้าของเธอจึงพยายามหาเรื่องอื่นมาเบี่ยงเบนหัวข้อการสนทนา
“ก็ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“เมื่อคืนจัดไปหลายยกเลยคิดถึงเมียมาก ไปประชุมตั้งหลายวัน” ภาคินัยยังคงพูดคุยเรื่องบทรักบนเตียงอย่างสนุกปากเขาไม่สนใจเลยว่ารินรดีจะอับอายขนาดไหน
มีเพียงธนุลักษณ์เพียงคนเดียวที่รับรู้ว่าหญิงสาวคนนี้กำลังอึดอัดและใกล้จะร้องไห้เต็มทีเขาพยายามหาเรื่องอื่นมาเปลี่ยนบทการสนทนาแต่ไอ้ภาคินัยก็พาวกกลับมาเรื่องเดิมตลอดและตอนนี้เขาเริ่มจะหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันไม่ได้แค่พูดเรื่องลามก มันกำลังควักๆ ล้วงๆ ให้เธออับอายมากขึ้นไปอีก อยากรู้นักถ้าพาเมียแต่งมามันจะกล้าทำอุบาทว์แบบนี้ไหม
“เวลาเมียพวกมึงเสร็จร้องดังไหมว่ะ” ภาสกรถามพร้อมหัวเราะร่วน
“ป๊า พอได้รึยังคะ” เป็นครั้งแรกที่รินรดีขึ้นเสียงกับภาคินัยและเขาก็เพิ่งได้สติว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงจากตู้กระจกหรือขายตัวเป็นงานประจำเพราะทุกครั้งเวลามานั่งดื่มกับเพื่อนผู้ชายก็จะมีผู้หญิงแบบนั้นมาด้วยเสมอ
“ป๊าขอโทษนะคะเรากลับบ้านกันดีกว่า” รินรดีอยากจะวิ่งออกไปด้วยซ้ำแต่ก็ต้องเดินช้าๆ ตามเขาออกไป การมาดินเนอร์มื้อเย็นไม่ได้ดีแบบที่เธอคิดไว้สักนิด
“ป๊าขอโทษ” ภาคินัยรู้ตัวว่าทำให้หนูน้อยเสียใจเขาบอกขอโทษไปตั้งหลายครั้งแต่เธอก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรเลย
“ป๊าอยู่กับเพื่อนผู้ชายเลยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกหนูป๊าเสียใจจริงๆ หนูน้อยยกโทษให้ป๊าเถอะนะ”
“ป๊าใจร้ายกับหนูมากป๊าทำเหมือนหนูไม่มีค่าหรือจริงๆ หนูไม่เคยมีอยู่แล้ว” รินรดีพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ หนูน้อยมีค่ากับป๊ามากไม่งั้นป๊าจะรักจะหวงขนาดนี้หรือแต่ป๊าแค่คะนองปากตามประสาผู้ชายไปหน่อย ป๊าขอโทษป๊าเสียใจจริงๆ”
“ค่ะ” เรื่องมันก็เกิดไปแล้วความรู้สึกมันก็เสียไปแล้วเธอจึงตอบไปสั้นๆ แค่นั้นแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลยจนกลับถึงห้อง
“หนูขา อย่าทำกับป๊าแบบนี้” ภาคินัยฉุดแขนคนตัวเล็กให้หันหน้ามามองกัน
“ถ้าคราวหน้าจะพาหนูไปให้เพื่อนนั่งขำเป็นตัวตลกหรือเอาไว้ล้วงโชว์ก็บอกล่วงหน้านะคะหนูจะได้ใส่ชุดที่มันล้วงง่ายกว่านี้”
“หนูน้อยป๊าขอโทษป๊าสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก ยกโทษให้ป๊าเถอะนะป๊าขอร้องอย่าหมางเมินกับป๊าแบบนี้ป๊าเสียใจป๊าไม่ชอบเลย”
“ค่ะ” รินรดีตอบแล้วสะบัดแขนเดินเข้าห้องน้ำไปเลย เธอต้องการเวลาเป็นส่วนตัวและสงบจิตสงบใจ
“หนูขา ดีกันนะ” ภาคินัยกอดคนตัวเล็กจากด้านหลังเธอขึ้นมานอนบนเตียงแถมหันหลังให้อีกต่างหาก
“ป๊าขอไถ่โทษความโง่เง่าไร้สติของตัวเองด้วยการพาหนูไปเที่ยวทะเลได้ไหมคะ หนูไปกับป๊านะคะได้โปรดเถอะ”
“อย่าทิ้งป๊าไปแบบนี้” ภาคินัยเริ่มใจเสียขึ้นเรื่อยๆ เพราะหนูน้อยไม่เคยโกรธเขาเลยสักครั้ง
“จริงหรอคะ” ที่เธอเงียบไปเพราะไม่เชื่อว่าเขาจะพูดเรื่องจริงเขาจะพาเธอไปทะเลจริงๆ หรอ
“จริงสิคะไปสามวันเลย”
“สามวัน” รินรดีทวนคำ
“ใช่ค่ะ ไปสามวันมีแค่เราสองคนป๊าจะอยู่กับหนูทั้งวันทั้งคืนเลย”
“ห้ามผิดคำพูดนะ” รินรดีหันมาหาแล้วทำสีหน้าเอาเรื่อง
“ไม่มีผิดคำพูดไม่มีคืนคำพรุ่งนี้ป๊าจะพาหนูไปทะเลค่ะ” ภาคินัยโล่งอกมากที่ง้อหนูน้อยสำเร็จในที่สุด
“ป๊า” รินรดีโผเข้าไปกอดคนรักเต็มแรงการรอคอยที่แสนทรมานสามคืนสิ้นสุดลงสักที เธอทั้งจูบทั้งหอมแถมรัดตัวเขาจนแน่น
“คิดถึงป๊าขนาดนั้น” ภาคินัยถามเด็กสาวที่ยังไม่เลิกระดมจูบเขาไปทั่วหน้า
“ค่ะ หนูเหงา” รินรดีจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขาและภาคินัยรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่เคยโกหก เธอไม่มีจริตและใสซื่อจนบางครั้งเขาก็อดสงสารไม่ได้กับความซื่อสัตย์ภักดีของเธอ ถ้าเป็นเด็กใจแตกคนอื่นป่านนี้พาผู้ชายมานอนจนนับคนไม่ถ้วนแล้วแต่รินรดีไม่เคยทำให้เขาแคลงใจสักนิด ทุกสายที่โทรเข้ามาเธอจะกดรับด้วยความเร็วจนน่าตกใจเหมือนเธอกำมือถือไว้ตลอดเวลา
“ป๊าขอโทษนะคะ” ภาคินัยจูบหน้าผาก จูบแก้ม จูบไปทุกส่วนบนใบหน้าของเธอ
“ป๊าไปทำงานนี่คะหนูขอโทษถ้าทำให้ป๊าไม่สบายใจ”
“ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นป๊าไม่ได้ไม่พอใจหนูนะคะ ป๊าแค่รู้สึกไม่ดีที่ทิ้งให้หนูต้องเหงาขนาดนี้” ภาคินัยปาดน้ำตาเม็ดเล็กๆ ที่ซึมออกมาทางหางตา
“หนูจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้ค่ะป๊าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“งั้นพรุ่งนี้ป๊าขอไถ่โทษด้วยการพาหนูไปกินมื้อเที่ยงแล้วก็มื้อเย็นได้ไหมคะ”
“จริงหรอคะ ป๊าจะพาหนูไปกินข้าวสองมื้อเลยหรอคะ” รินรดียิ้มกว้างด้วยความดีใจเพราะเธอต้องกินข้าวคนเดียวแทบจะทุกวัน
“จริงสิคะ หนูอยากไปไหนบอกป๊ามาได้เลย”
“กลางวันไปกินสเต๊กร้านที่ป๊าชอบค่ะส่วนตอนเย็นหนูให้ป๊าเลือก”
“โอเคครับหนูน้อยของป๊า โปรแกรมไถ่โทษวันพรุ่งนี้ก็เรียบร้อยแล้วมาถึงโปรแกรมคืนนี้บ้าง” ภาคินัยส่งสายตาวิบวับไปให้คนตัวเล็กที่หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
“ป๊าไม่เหนื่อยหรอคะ” รินรดีถามเพื่อกลบความเขินอายจะกี่ครั้งที่ร่วมรักกันเธอก็ยังเขินอยู่ดี
“เหนื่อยมากถึงต้องให้หนูเติมพลังนี่ไงคะ”
“หนูจะทำให้ป๊าหายเหนื่อยเองค่ะ” รินรดีปลดกระดุมเสื้อของคนรักออกทีละเม็ด ภาคินัยช่วยเหวี่ยงมันออกไปให้พ้นตัวเด็กสาวกำลังใช้มือเล็กๆ ลูบไล้ไปตามแผงอกแน่นๆ
“หนูรักป๊านะคะ” เธอเอ่ยแล้วจูบไปที่หัวนมสีเข้มของเขา ขนแขนของภาคินัยตั้งชันขึ้นมาพร้อมๆ กับอาวุธแท่งโตที่กลางลำตัว
“ป๊าก็รักหนูค่ะ” ภาคินัยถอดกางเกงไปกองไว้ที่พื้นแล้วปลดปล่อยเจ้าลูกชายตาเดียวออกมา ชายหนุ่มยกเรียวขาของเด็กสาวขึ้นมาข้างนึงแล้วย่อตัวเสียบแท่งเนื้ออุ่นๆ เข้าไปจนสุดลำ
“อืมมม ป๊าขา” รินรดีหลับตาพริ้มให้กับสัมผัสที่เธอโหยหามาหลายวัน
“หนูน้อย ป๊าเสียวที่สุดเลย”
“นะ หนูก็เสียวค่ะป๊า อ๊า” ภายในห้องมีแต่เสียงครวญครางปานจะขาดใจ คนนึงก็ซอยคนนึงก็สวนกลับด้วยจังหวะที่เข้ากันได้พอดีเป๊ะ
“โอ๊วว ขอป๊าจูบหลังหน่อย” รินรดีหันหน้าเข้าหากำแพงแล้วเอามือทาบไว้ ริมฝีปากรุ่มร้อนของเขาจูบพรมไปทั่วแผ่นหลังของเธอ
“อู๊วว ป๊าขา ป๊า” รินรดีร้องเสียงหลงเพราะโดนทะลวงช่องรักอย่างหนักหน่วง ภาคินัยเองก็คิดถึงเมียลับไม่แพ้กันจึงทั้งบดทั้งอัดสะโพกใส่คนตัวเล็กแบบลืมตาย
“โอ๊วววว” ชายหนุ่มกระหน่ำซอยเอวจนน้ำรักข้นๆ พุ่งกระฉูดออกมา ภาคินัยไถ่โทษให้หนูน้อยของเขาห้ารอบด้วยกันและคงจะมีรอบที่หกถ้าเธอไม่หมดแรงหลับไปซะก่อน
“หิวรึยังคะหนูน้อยของป๊า” ภาคินัยมาถึงร้านสเต๊กตอนเที่ยงกว่าๆ
“หิวแต่ไม่มากค่ะ” รินรดีตอบแล้วรีบส่งเมนูให้เพราะเธอรู้ว่าเขามีเวลาไม่มากนัก ป๊ามากินข้าวกับเธอแค่ชั่วโมงกว่าเท่านั้นแต่มันก็มากมายเกินพอแล้วสำหรับเธอเพราะถ้าเทียบกับทุกมื้อที่กินคนเดียวมันเหงามากๆ เลย
“เย็นนี้วันเกิดเพื่อนป๊าหนูไปกับป๊านะคะ ป๊าจะได้มีตัวช่วยไม่ต้องกลับดึก”
“หมายความว่าคืนนี้ป๊าก็จะมานอนกับหนูหรอคะ” รินรดีถามด้วยความดีใจ
“ใช่แล้วค่ะหนูน้อยแต่งตัวสวยๆ นะคะแล้วไปเจอกันที่ร้าน”
ภาคินัยกลับไปบริษัทเพื่อเข้าประชุมช่วงบ่ายส่วนรินรดีก็เลยไปฟิตเนสเพราะตอนนี้เธอเสพติดการออกกำลังกายซะแล้ววันไหนไม่ได้มาเสียเหงื่อที่นี่มันรู้สึกเหมือนขาดๆ อะไรไปสักอย่าง
“ลืมถามป๊าว่าอยากให้ใส่ชุดตัวไหน” เธอพึมพำเอาตอนเย็นย่ำระหว่างที่หาชุดให้ตัวเองใส่
“อืม ชุดนี้แล้วกันไม่โป๊เกินแต่ก็ไม่เรียบร้อยไป” เธอเลือกชุดแซกสายเดี่ยวสีม่วงใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงสีนู๊ดเพราะจะได้ไม่เด่นเกินชุด
“ถึงแล้วค่ะป๊า” รินรดีโทรไปหาเพราะเขาบอกเมื่อตอนกลางวันว่าให้โทรได้
“กลับบ้านดีกว่าค่ะ” ภาคินัยเดินออกมารับหนูน้อยแล้วก็ออกอาการหวงก้างขึ้นมาทันที
“อ้าว ทำไมล่ะคะป๊า”
“ก็หนูน้อยของป๊าสวยเกินไปไอ้พวกนั้นมองตาค้างแน่ๆ”
“หนูสวยหรอคะ”
“สวยที่สุดเลยค่ะคนดีหนูห้ามไปหว่านเสน่ห์ให้ใครนะไม่งั้นป๊าขาดใจตายแน่ๆ”
“หนูรักป๊าคนเดียวหนูจะทำแบบนั้นทำไมคะ” รินรดีถามเชิงตัดพ้อ
“โอ๋ๆ ป๊าขอโทษนะคะไม่โกรธป๊านะ”
“ไม่โกรธค่ะเราเข้าไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวเพื่อนๆ ป๊าจะรอนาน” ภาคินัยโอบเอวคนรักอย่างแนบแน่นเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นชัดๆ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของเขา
“สวัสดีค่ะ” รินรดียกมือไหว้ชายหนุ่มทุกคนพร้อมกันทีเดียว
“เอาเมียมาเยาะเย้ยหรือไงไอ้ก้อง” รามัญถาม
“เมียสวยก็ต้องเอามาอวดบ้าง” ภาคินัยตอบแล้วหอมแก้มคนข้างกาย รินรดีพยายามปัดป้องแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรและยิ่งดึกป๊าก็ยิ่งรุ่มร่ามมากขึ้นเรื่อยๆ
“กูเคยให้เมียทำให้จนเสร็จเพราะขี้เกียจทำเอง” หนุ่มๆ พูดคุยเรื่องเพศกันอย่างออกรส
“ถ้าเรื่องมือล่ะก็เมียกูก็เก่งไม่แพ้ใคร” ภาคินัยจับมือเล็กๆ ของรินรดีมาจูบและหญิงสาวก็อับอายเหลือเกินที่เขาเอาเรื่องบนเตียงมาพูดคุยอย่างสนุกสนานในวงเหล้า
“คุณรินรับเครื่องดื่มเพิ่มไหมครับ” ธนูลักษณ์สังเกตเห็นความอึดอัดจากใบหน้าของเธอจึงพยายามหาเรื่องอื่นมาเบี่ยงเบนหัวข้อการสนทนา
“ก็ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“เมื่อคืนจัดไปหลายยกเลยคิดถึงเมียมาก ไปประชุมตั้งหลายวัน” ภาคินัยยังคงพูดคุยเรื่องบทรักบนเตียงอย่างสนุกปากเขาไม่สนใจเลยว่ารินรดีจะอับอายขนาดไหน
มีเพียงธนุลักษณ์เพียงคนเดียวที่รับรู้ว่าหญิงสาวคนนี้กำลังอึดอัดและใกล้จะร้องไห้เต็มทีเขาพยายามหาเรื่องอื่นมาเปลี่ยนบทการสนทนาแต่ไอ้ภาคินัยก็พาวกกลับมาเรื่องเดิมตลอดและตอนนี้เขาเริ่มจะหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันไม่ได้แค่พูดเรื่องลามก มันกำลังควักๆ ล้วงๆ ให้เธออับอายมากขึ้นไปอีก อยากรู้นักถ้าพาเมียแต่งมามันจะกล้าทำอุบาทว์แบบนี้ไหม
“เวลาเมียพวกมึงเสร็จร้องดังไหมว่ะ” ภาสกรถามพร้อมหัวเราะร่วน
“ป๊า พอได้รึยังคะ” เป็นครั้งแรกที่รินรดีขึ้นเสียงกับภาคินัยและเขาก็เพิ่งได้สติว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงจากตู้กระจกหรือขายตัวเป็นงานประจำเพราะทุกครั้งเวลามานั่งดื่มกับเพื่อนผู้ชายก็จะมีผู้หญิงแบบนั้นมาด้วยเสมอ
“ป๊าขอโทษนะคะเรากลับบ้านกันดีกว่า” รินรดีอยากจะวิ่งออกไปด้วยซ้ำแต่ก็ต้องเดินช้าๆ ตามเขาออกไป การมาดินเนอร์มื้อเย็นไม่ได้ดีแบบที่เธอคิดไว้สักนิด
“ป๊าขอโทษ” ภาคินัยรู้ตัวว่าทำให้หนูน้อยเสียใจเขาบอกขอโทษไปตั้งหลายครั้งแต่เธอก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรเลย
“ป๊าอยู่กับเพื่อนผู้ชายเลยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกหนูป๊าเสียใจจริงๆ หนูน้อยยกโทษให้ป๊าเถอะนะ”
“ป๊าใจร้ายกับหนูมากป๊าทำเหมือนหนูไม่มีค่าหรือจริงๆ หนูไม่เคยมีอยู่แล้ว” รินรดีพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ หนูน้อยมีค่ากับป๊ามากไม่งั้นป๊าจะรักจะหวงขนาดนี้หรือแต่ป๊าแค่คะนองปากตามประสาผู้ชายไปหน่อย ป๊าขอโทษป๊าเสียใจจริงๆ”
“ค่ะ” เรื่องมันก็เกิดไปแล้วความรู้สึกมันก็เสียไปแล้วเธอจึงตอบไปสั้นๆ แค่นั้นแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลยจนกลับถึงห้อง
“หนูขา อย่าทำกับป๊าแบบนี้” ภาคินัยฉุดแขนคนตัวเล็กให้หันหน้ามามองกัน
“ถ้าคราวหน้าจะพาหนูไปให้เพื่อนนั่งขำเป็นตัวตลกหรือเอาไว้ล้วงโชว์ก็บอกล่วงหน้านะคะหนูจะได้ใส่ชุดที่มันล้วงง่ายกว่านี้”
“หนูน้อยป๊าขอโทษป๊าสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก ยกโทษให้ป๊าเถอะนะป๊าขอร้องอย่าหมางเมินกับป๊าแบบนี้ป๊าเสียใจป๊าไม่ชอบเลย”
“ค่ะ” รินรดีตอบแล้วสะบัดแขนเดินเข้าห้องน้ำไปเลย เธอต้องการเวลาเป็นส่วนตัวและสงบจิตสงบใจ
“หนูขา ดีกันนะ” ภาคินัยกอดคนตัวเล็กจากด้านหลังเธอขึ้นมานอนบนเตียงแถมหันหลังให้อีกต่างหาก
“ป๊าขอไถ่โทษความโง่เง่าไร้สติของตัวเองด้วยการพาหนูไปเที่ยวทะเลได้ไหมคะ หนูไปกับป๊านะคะได้โปรดเถอะ”
“อย่าทิ้งป๊าไปแบบนี้” ภาคินัยเริ่มใจเสียขึ้นเรื่อยๆ เพราะหนูน้อยไม่เคยโกรธเขาเลยสักครั้ง
“จริงหรอคะ” ที่เธอเงียบไปเพราะไม่เชื่อว่าเขาจะพูดเรื่องจริงเขาจะพาเธอไปทะเลจริงๆ หรอ
“จริงสิคะไปสามวันเลย”
“สามวัน” รินรดีทวนคำ
“ใช่ค่ะ ไปสามวันมีแค่เราสองคนป๊าจะอยู่กับหนูทั้งวันทั้งคืนเลย”
“ห้ามผิดคำพูดนะ” รินรดีหันมาหาแล้วทำสีหน้าเอาเรื่อง
“ไม่มีผิดคำพูดไม่มีคืนคำพรุ่งนี้ป๊าจะพาหนูไปทะเลค่ะ” ภาคินัยโล่งอกมากที่ง้อหนูน้อยสำเร็จในที่สุด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ