ลมหวาน ป่าหนาว
9.2
เขียนโดย เพียงแสงจันทร์
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.
42 ตอน
8 วิจารณ์
70.20K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) พาร์ทของป่าสัก แรกพบก็จบที่ใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากทางหอพักมหาวิทยาลัยประกาศให้นิสิตที่ได้โควต้านักกีฬามหาวิทยาลัย เข้าพักที่หอในก่อนเปิดภาคเรียน 1 อาทิตย์ แต่ผมติดธุระที่ต่างจังหวัดจึงได้ส่งทนายความของครอบครัวมาติดต่อแทน ซึ่งผมจะเข้าพักได้ในวันนี้ ผมเก็บเสื้อผ้าและของใช้ไม่กี่อย่างเพราะว่าบ้านผมกับมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ไกลกันมากนักแค่คนละมุมเมืองเท่านั้นเอง จึงไม่จำเป็นต้องเอาอะไรมามากมาย
ผมเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของหอพักเพื่อที่จะได้เอาเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไปเก็บในห้อง เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าผมพักที่ห้อง 308 จากนั้นผมก็ได้รับกุญแจมาจากเจ้าหน้าที่ ผมเดินตรงไปยังชั้นสามทันที พอถึงหน้าห้อง 308 ผมก็ได้ยินเสียงเพลงหมอลำเบาๆดังออกมาจากห้อง เพราะคนในห้องไม่ได้ปิดประตูแค่เปิดแง้มๆไว้ ซึ่งเจ้าตัวกำลังสาละวนอยู่กับการจัดห้องพักให้เข้าที่เข้าทางเป็นระเบียบ ผมค่อยๆผลักประตูเข้าไปซึ่งผมเห็นว่าในห้องพัก ก็ดูดี สะอาด ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะที่จะอยู่กันสองคน มีห้องน้ำในตัว มีเตียงสองตัวตั้งอยู่คนละฝั่งมีโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือมีตู้เสื้อผ้า มีระเบียงด้านนอกห้อง ผมจ้องมองไปยังคนที่อยู่ข้างในห้องเข้าใส่กางเกงกีฬา สวมเสื้อกล้าม ขาเรียวยาว ช่างเหมาะเจาะกับกางเกงกีฬาวอลเลย์บอลเสียจริง แขนยาวเรียวเล็กเข้ารูป ผิวสีน้ำผึ้ง ส่งผลให้ดูเซ็กซี่เอามากๆ มองจากด้านหลัง ผมนี้ไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่า คนที่ยืนหันหลังอยู่ข้างหน้าผมจะเป็นผู้ชาย เพราะดูจากรูปร่างรูปทรงแล้ว นี้มันหุ่นนางแบบอินเตอร์ชัดๆเขาจะรู้ตัวไหมว่าแต่งตัวแบบนี้มันอ่อยกันชัดๆ ผมเกิดความประหม่าขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ในชีวิตก็ได้เจอะเจอคนมากมายไม่ว่าจะสาวสวยน่ารัก หุ่นดี ระดับดาวโรงเรียนผมก็สอยมาหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะทำให้ผมใจเต้นแรงได้แบบนี้มาก่อนเลย ร่างบางหุ่นเพรียวนั้นค่อยๆหันหน้ามาทางประตู เพื่อเก็บกวาดความสะอาดห้อง พร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะของเพลงหมอลำที่ออกจังหวะสนุกสนานเร้าใจ จนไม่ได้สังเกตว่าผมแอบยืนดูทุกอิริยบถอันน่ารักน่าหลงใหลนั้นเสียแล้วววววววว ผมได้เห็นเสี้ยวหน้าของเขา ใบหน้ารูปไข่ รับกับปากบางๆเข้ารูป ดวงตาเป็นประกาย ขนตางอน จมูกโด่งรับกับปลายคางได้ช่างเหมาะเจาะอะไรแบบนี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้ามาแบบเต็มๆผมต้องรีบถอยออกมาตั้งหลักเสียใหม่ เพื่อคิดหาวิธีในการเข้าไปทักทายทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมห้องคนนี้ แต่ใจเจ้ากรรมของผม กลับเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเกิดความประหม่าทันทีเหมือนหนุ่มน้อยเจอสาวสวยโดยบังเอิญ ทำไมวะ???ผมถึงเกิดความรู้สึกนี้กับผู้ชายตรงหน้า นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่!!!!!!!!!!ผมตัดสินใจไม่เข้าห้องพักในตอนเช้า กะว่าจะเข้าไปอีกครั้งตอนเย็นหลังเลิกจากประชุมนักกีฬามหาวิทยาลัย
แถวโรงยิมมหาวิทยาลัยในช่วงบ่าย ผมนั่งเล่นหลบแดดอยู่ใต้ร่มไม้เพื่อรอเวลานัดประชุมของพี่ๆสตาฟนักกีฬา ทันใดนั้นสายตาผมก็ไปสะดุดกับร่างที่ทำให้หัวใจของผมเต้นรัวเมื่อตอนเช้าเข้าอย่างจัง ดูท่าทางเขารีบร้อนมาเป็นอย่างมาก ท่าทางลักษณะเงอะๆงะขาดความมั่นใจแต่ก็มีความใสความแบ๋ว แต่มันช่างดูขัดกับสีผิวน้ำผึ้งและดวงตาที่แสนจะเซ็กซี่ มันเป็นเสน่ที่เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าน่ะ ว่าอาการแบบนี้ทำให้คนอย่างผมหลงไหลเอามากๆ เสี้ยววินาทีนั้นผมคิดหาวิธีที่จะเข้าไปพูดคุยด้วย แต่คนอย่างผมไม่เคยเข้าหาใครก่อนเลยให้ตายเถอะ ที่ผ่านๆมามีแต่คนเข้ามาหาผมก่อนเสมอ
"เฮ้อ คนเรานี้ก็แปลกมีแขนมีขาดีๆ แต่ทำไมชอบมายืนเกะกะขวางทางชาวบ้านชาวเมืองเขาก็ไม่รู้"นี้คือประโยคแรกที่ผมทักทายคนขี้อ่อย ก็มันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงนี้ครับบบบบ ก็ผมไม่เคยจีบใครมาก่อนเลย ยิ่งจะให้มาจีบผู้ชายด้วยกัน ผมนี้ก็ไปไม่เป็นเลยยยยย สิ้นเสียงทักทายจากผมไอ้คนขี้อ่อยก็หันมาสบตากับผมจังๆดวงตาของเขาสั่นระริกดูตื่นกลัวเอามากๆผมได้ทีก็สำรวจร่างกายที่แสนจะเซ็กซี่ของเขาทันทีก็ทำงัยได้อะครับ มันอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆผมก็หาเรื่องคุยหาเรื่องแซวกับเขาไปเรื่อยเพลินดีครับ จนคนขี้อ่อยทนไม่ไหวรีบเดินหนีผมไป จากนั้นผมก็เดินไปหาเพื่อนๆนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งเด็กปีหนึ่งอย่างผมและรุ่นพี่ซึ่งจะว่าไปแล้วผมแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยเพราะทีบบาสเกตบอลทั้งหมดเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าเกือบทั้งหมด ซึ่งเราก็เคยเล่นด้วยกันมาสนินสนมเข้าใจกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บางท่านอาจจะงงๆว่าทำไมทีบบาสเกตบอลถึงมีแต่โรงเรียนเก่าผม ก็เพราะว่าที่โรงเรียนเก่าเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของภาคอีสานทั้งด้านวิชาการและด้านกีฬา ที่นี้ก็ต้องคัดคนที่เก่งๆมีความสามารถรอบด้านมารวมกันไว้อยู่แล้ววววว อันนี้ผมไม่ได้ชมโรงเรียนเก่านะครับผมพูดตามความเป็นจริง ระหว่างที่คุยกับเพื่อนไปสายตาผมก็จ้องมองดูคนขี้อ่อยตลอด ดูแล้วเพลินดีครับ บางครั้งผมก็อดใจไม่ไหวแอบยิ้มให้เจ้าตัวด้วย แต่ก็อย่างว่าละครับเรานั่งไกลกัน เพราะฉะนั้นจุดโพกัสก็ยากซักหน่อย เพราะเท่าที่สังเกตได้นักกีฬาบาสจะนั่งมุมสุดด้านขวามือของแสตนเชียร์ส่วนนักกีฬาวอลเลย์บอลจะนั่งท้ายอีกด้าน ผมต้องหยุดสนใจคนขี้อ่อยไว้เพียงแค่นั้นเมื่อหัวหน้าสตาฟนักกีฬาให้สัญญาณเรียกประชุมด้วยเสียงนกหวีด
หลังจากเลิกประชุมเสร็จ ผมก็ต้องรีบกลับหอพักโดยเร็วเพราะจะได้ไม่ต้องเก้อเขินไอ้คนขี้อ่อย จะได้มาเตรียมตัวไว้แต่เนินๆ555555555555555555555555
เวลาผ่านไปเกือบจะสามทุ่มไอ้คนขี้อ่อยก็กลับมาพร้อมเพื่อนของมัน ท่าทางนี้ดูสนิทสนมกันมากมีหยอกล้อกันด้วย เห็นแล้วมันเดือดครับ อ้าววววผมเป็นอะไรไม่รู้ทำไมห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย ไม่ว่าไอ้ขี้อ่อยมันจะคุยกับใครเป็นต้องหงุดหงิดทุกที ขนาดรู้ว่าไอ้ตรีภพเป็นเพื่อนของมัน ผมยังไม่ไว้ใจ ที่ผมไม่ไว้ใจก็เพราะผมรู้จักไอ้ตรีภพนะสิครับมันเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกันกับผมเล่นกีฬาเจอกัน ทักทายกันบ้างแต่ไม่สนิทเพราะเรามีเพื่อนกันละกลุ่มกันมันเล่นวอลเลย์บอลผมเล่นบาส แต่เรียนที่เดียวกัน สายวิทย์-คณิตเหมือนกัน แต่คนละห้อง ผมเด็กห้องคิงส์ ส่วนไอ้ตรีภพน่าจะห้อง9หรือ10 ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ไอ้ตรีภพมันก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งเจ้าชู้ชนิดหาตัวจับยากเลยก็ว่าได้ มันได้ทั้งหญิงและชาย สาวๆนี้มันฟาดเรียบ หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันผมก็เห็นมันควงมาไม่ซ้ำหน้าเลย แล้วแบบนี้ไอ้ขี้อ่อยจะไม่หลงคารมมันหรือเปล่าน่ะ???นั่งมองพวกเขาอยู่บนระเบียงห้อง พอเห็นว่าทั้งคู่เดินเข้ามาในตัวหอพัก ผมก็รีบเข้าห้องปิดไฟทันที เพื่อจะได้แกล้งไอ้คนขี้อ่อย เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจของคนขี้อ่อย ผมนี้นึกสนุกในใจอย่างมาก ที่จะได้เห็นหน้าเหวอๆของมัน แล้วเสียงเท้ามันก็เดินออกห้องไปแล้วก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง สักพักมันก็เปิดไฟห้อง
"เอ้ยยยยใครมาเปิดไฟวะ"
ผมพูดออกไปพร้อมกับพลิกตัวนอนตะแคงเพื่อทำเป็นหลบแสงไฟที่แยงตาหันหน้าเข้ากำแพงห้องทันที
"เอ่อ..เอ่อ..นานพักห้องนี้หรือ???"
เสียงไอ้คนขี้อ่อยถามผมกลับมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ได้ใจสิครับท่าทางมันติ๋มๆหงิมๆแบบนี้เข้าทางเสือร้ายอย่างผมอิอิอิอิ
"อ้าว ถ้ากูไม่ได้พักห้องนี้ แล้วจะเผือกมานอนบนเตียงนี้ได้งัยวะ?พูดไม่รู้จักคิด"
ได้ทีผมแล้ววววต้องเอาสักหน่อยยย
"อ้าวนายพูดแบบนี้ได้งัยวะ ก็ทางหอพักเขาให้นักศึกษาเข้าพักตั้งเป็นอาทิตย์แล้ว นายไปอยู่ไหนมาละ จู่ๆๆก็โผล่มาแบบนี้ จะไม่ให้เราตกใจได้ไง"
ฟังครับ ฟังไอ้ขี้อ่อยมันอธิบายให้ผมเข้าใจอิอิอิ เสียงมันเริ่มดังขึ้นปนสั่นเล็กน้อย จากนั้นผมก็ตัดสินใจพลิกตัวหันหน้ามาดูใบหน้ารูปไข่ดวงตาเซ็กซี่ของมัน ผมจ้องมัน ดูสิว่าจะทำตัวยังไงเมื่อรู้ว่าคนที่มันกำลังพูดด้วยตอนนี้ เป็นคนเดียวกับคนที่แกล้งมันเมื่อตอนบ่ายที่โรงยิม
"เอ้ยยยเชี่ยวแล้วววว" มันร้องตกใจมากครับ พร้อมกับถอยร่างไปติดกำแพงอีกด้านของห้องพัก ท่าทางมันเหมือนเจอผีหรือเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนในชีวิตเลย ผมต้องทำหน้านิ่งๆตึงๆไว้ครับ กลัวหลุดขำออกไปแต่พอผมได้พูดกับมันอีกสักสองสามประโยค ร่างกายผมก็มาหยุดตรงหน้าไอ้ขี้อ่อยเสียแล้วใช้มือทั้งสองข้างกันตัวมันไว้ไม่ให้หนี มันควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆครับ ยิ่งเห็นท่าทางของมันแล้วยิ่งสนุกยิ่งอยากแกล้ง แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆมันแล้วผมห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย นี้ผมออกอาการม่อ ออกอาการหื่นกามมากใช่ไหม???? มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผมจูบปากไอ้คนขี้อ่อยไปแล้ววววผมจูบมันอย่างแผ่วเบา พยายามไม่ให้มันตกใจ ก่อนที่ผมจะใช้ลิ้นเปิดปากบางเข้ารูปของคนขี้อ่อยเพื่อครวญหาความหวานจากปากบางของมัน โทรศัพท์เจ้ากรรมของผมก็ดังขึ้นเสียก่อน ทำให้ผมต้องหยุด.........
ผมเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของหอพักเพื่อที่จะได้เอาเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไปเก็บในห้อง เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าผมพักที่ห้อง 308 จากนั้นผมก็ได้รับกุญแจมาจากเจ้าหน้าที่ ผมเดินตรงไปยังชั้นสามทันที พอถึงหน้าห้อง 308 ผมก็ได้ยินเสียงเพลงหมอลำเบาๆดังออกมาจากห้อง เพราะคนในห้องไม่ได้ปิดประตูแค่เปิดแง้มๆไว้ ซึ่งเจ้าตัวกำลังสาละวนอยู่กับการจัดห้องพักให้เข้าที่เข้าทางเป็นระเบียบ ผมค่อยๆผลักประตูเข้าไปซึ่งผมเห็นว่าในห้องพัก ก็ดูดี สะอาด ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะที่จะอยู่กันสองคน มีห้องน้ำในตัว มีเตียงสองตัวตั้งอยู่คนละฝั่งมีโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือมีตู้เสื้อผ้า มีระเบียงด้านนอกห้อง ผมจ้องมองไปยังคนที่อยู่ข้างในห้องเข้าใส่กางเกงกีฬา สวมเสื้อกล้าม ขาเรียวยาว ช่างเหมาะเจาะกับกางเกงกีฬาวอลเลย์บอลเสียจริง แขนยาวเรียวเล็กเข้ารูป ผิวสีน้ำผึ้ง ส่งผลให้ดูเซ็กซี่เอามากๆ มองจากด้านหลัง ผมนี้ไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่า คนที่ยืนหันหลังอยู่ข้างหน้าผมจะเป็นผู้ชาย เพราะดูจากรูปร่างรูปทรงแล้ว นี้มันหุ่นนางแบบอินเตอร์ชัดๆเขาจะรู้ตัวไหมว่าแต่งตัวแบบนี้มันอ่อยกันชัดๆ ผมเกิดความประหม่าขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ในชีวิตก็ได้เจอะเจอคนมากมายไม่ว่าจะสาวสวยน่ารัก หุ่นดี ระดับดาวโรงเรียนผมก็สอยมาหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะทำให้ผมใจเต้นแรงได้แบบนี้มาก่อนเลย ร่างบางหุ่นเพรียวนั้นค่อยๆหันหน้ามาทางประตู เพื่อเก็บกวาดความสะอาดห้อง พร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะของเพลงหมอลำที่ออกจังหวะสนุกสนานเร้าใจ จนไม่ได้สังเกตว่าผมแอบยืนดูทุกอิริยบถอันน่ารักน่าหลงใหลนั้นเสียแล้วววววววว ผมได้เห็นเสี้ยวหน้าของเขา ใบหน้ารูปไข่ รับกับปากบางๆเข้ารูป ดวงตาเป็นประกาย ขนตางอน จมูกโด่งรับกับปลายคางได้ช่างเหมาะเจาะอะไรแบบนี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้ามาแบบเต็มๆผมต้องรีบถอยออกมาตั้งหลักเสียใหม่ เพื่อคิดหาวิธีในการเข้าไปทักทายทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมห้องคนนี้ แต่ใจเจ้ากรรมของผม กลับเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเกิดความประหม่าทันทีเหมือนหนุ่มน้อยเจอสาวสวยโดยบังเอิญ ทำไมวะ???ผมถึงเกิดความรู้สึกนี้กับผู้ชายตรงหน้า นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่!!!!!!!!!!ผมตัดสินใจไม่เข้าห้องพักในตอนเช้า กะว่าจะเข้าไปอีกครั้งตอนเย็นหลังเลิกจากประชุมนักกีฬามหาวิทยาลัย
แถวโรงยิมมหาวิทยาลัยในช่วงบ่าย ผมนั่งเล่นหลบแดดอยู่ใต้ร่มไม้เพื่อรอเวลานัดประชุมของพี่ๆสตาฟนักกีฬา ทันใดนั้นสายตาผมก็ไปสะดุดกับร่างที่ทำให้หัวใจของผมเต้นรัวเมื่อตอนเช้าเข้าอย่างจัง ดูท่าทางเขารีบร้อนมาเป็นอย่างมาก ท่าทางลักษณะเงอะๆงะขาดความมั่นใจแต่ก็มีความใสความแบ๋ว แต่มันช่างดูขัดกับสีผิวน้ำผึ้งและดวงตาที่แสนจะเซ็กซี่ มันเป็นเสน่ที่เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าน่ะ ว่าอาการแบบนี้ทำให้คนอย่างผมหลงไหลเอามากๆ เสี้ยววินาทีนั้นผมคิดหาวิธีที่จะเข้าไปพูดคุยด้วย แต่คนอย่างผมไม่เคยเข้าหาใครก่อนเลยให้ตายเถอะ ที่ผ่านๆมามีแต่คนเข้ามาหาผมก่อนเสมอ
"เฮ้อ คนเรานี้ก็แปลกมีแขนมีขาดีๆ แต่ทำไมชอบมายืนเกะกะขวางทางชาวบ้านชาวเมืองเขาก็ไม่รู้"นี้คือประโยคแรกที่ผมทักทายคนขี้อ่อย ก็มันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงนี้ครับบบบบ ก็ผมไม่เคยจีบใครมาก่อนเลย ยิ่งจะให้มาจีบผู้ชายด้วยกัน ผมนี้ก็ไปไม่เป็นเลยยยยย สิ้นเสียงทักทายจากผมไอ้คนขี้อ่อยก็หันมาสบตากับผมจังๆดวงตาของเขาสั่นระริกดูตื่นกลัวเอามากๆผมได้ทีก็สำรวจร่างกายที่แสนจะเซ็กซี่ของเขาทันทีก็ทำงัยได้อะครับ มันอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆผมก็หาเรื่องคุยหาเรื่องแซวกับเขาไปเรื่อยเพลินดีครับ จนคนขี้อ่อยทนไม่ไหวรีบเดินหนีผมไป จากนั้นผมก็เดินไปหาเพื่อนๆนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งเด็กปีหนึ่งอย่างผมและรุ่นพี่ซึ่งจะว่าไปแล้วผมแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยเพราะทีบบาสเกตบอลทั้งหมดเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าเกือบทั้งหมด ซึ่งเราก็เคยเล่นด้วยกันมาสนินสนมเข้าใจกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บางท่านอาจจะงงๆว่าทำไมทีบบาสเกตบอลถึงมีแต่โรงเรียนเก่าผม ก็เพราะว่าที่โรงเรียนเก่าเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของภาคอีสานทั้งด้านวิชาการและด้านกีฬา ที่นี้ก็ต้องคัดคนที่เก่งๆมีความสามารถรอบด้านมารวมกันไว้อยู่แล้ววววว อันนี้ผมไม่ได้ชมโรงเรียนเก่านะครับผมพูดตามความเป็นจริง ระหว่างที่คุยกับเพื่อนไปสายตาผมก็จ้องมองดูคนขี้อ่อยตลอด ดูแล้วเพลินดีครับ บางครั้งผมก็อดใจไม่ไหวแอบยิ้มให้เจ้าตัวด้วย แต่ก็อย่างว่าละครับเรานั่งไกลกัน เพราะฉะนั้นจุดโพกัสก็ยากซักหน่อย เพราะเท่าที่สังเกตได้นักกีฬาบาสจะนั่งมุมสุดด้านขวามือของแสตนเชียร์ส่วนนักกีฬาวอลเลย์บอลจะนั่งท้ายอีกด้าน ผมต้องหยุดสนใจคนขี้อ่อยไว้เพียงแค่นั้นเมื่อหัวหน้าสตาฟนักกีฬาให้สัญญาณเรียกประชุมด้วยเสียงนกหวีด
หลังจากเลิกประชุมเสร็จ ผมก็ต้องรีบกลับหอพักโดยเร็วเพราะจะได้ไม่ต้องเก้อเขินไอ้คนขี้อ่อย จะได้มาเตรียมตัวไว้แต่เนินๆ555555555555555555555555
เวลาผ่านไปเกือบจะสามทุ่มไอ้คนขี้อ่อยก็กลับมาพร้อมเพื่อนของมัน ท่าทางนี้ดูสนิทสนมกันมากมีหยอกล้อกันด้วย เห็นแล้วมันเดือดครับ อ้าววววผมเป็นอะไรไม่รู้ทำไมห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย ไม่ว่าไอ้ขี้อ่อยมันจะคุยกับใครเป็นต้องหงุดหงิดทุกที ขนาดรู้ว่าไอ้ตรีภพเป็นเพื่อนของมัน ผมยังไม่ไว้ใจ ที่ผมไม่ไว้ใจก็เพราะผมรู้จักไอ้ตรีภพนะสิครับมันเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกันกับผมเล่นกีฬาเจอกัน ทักทายกันบ้างแต่ไม่สนิทเพราะเรามีเพื่อนกันละกลุ่มกันมันเล่นวอลเลย์บอลผมเล่นบาส แต่เรียนที่เดียวกัน สายวิทย์-คณิตเหมือนกัน แต่คนละห้อง ผมเด็กห้องคิงส์ ส่วนไอ้ตรีภพน่าจะห้อง9หรือ10 ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ไอ้ตรีภพมันก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งเจ้าชู้ชนิดหาตัวจับยากเลยก็ว่าได้ มันได้ทั้งหญิงและชาย สาวๆนี้มันฟาดเรียบ หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันผมก็เห็นมันควงมาไม่ซ้ำหน้าเลย แล้วแบบนี้ไอ้ขี้อ่อยจะไม่หลงคารมมันหรือเปล่าน่ะ???นั่งมองพวกเขาอยู่บนระเบียงห้อง พอเห็นว่าทั้งคู่เดินเข้ามาในตัวหอพัก ผมก็รีบเข้าห้องปิดไฟทันที เพื่อจะได้แกล้งไอ้คนขี้อ่อย เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจของคนขี้อ่อย ผมนี้นึกสนุกในใจอย่างมาก ที่จะได้เห็นหน้าเหวอๆของมัน แล้วเสียงเท้ามันก็เดินออกห้องไปแล้วก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง สักพักมันก็เปิดไฟห้อง
"เอ้ยยยยใครมาเปิดไฟวะ"
ผมพูดออกไปพร้อมกับพลิกตัวนอนตะแคงเพื่อทำเป็นหลบแสงไฟที่แยงตาหันหน้าเข้ากำแพงห้องทันที
"เอ่อ..เอ่อ..นานพักห้องนี้หรือ???"
เสียงไอ้คนขี้อ่อยถามผมกลับมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ได้ใจสิครับท่าทางมันติ๋มๆหงิมๆแบบนี้เข้าทางเสือร้ายอย่างผมอิอิอิอิ
"อ้าว ถ้ากูไม่ได้พักห้องนี้ แล้วจะเผือกมานอนบนเตียงนี้ได้งัยวะ?พูดไม่รู้จักคิด"
ได้ทีผมแล้ววววต้องเอาสักหน่อยยย
"อ้าวนายพูดแบบนี้ได้งัยวะ ก็ทางหอพักเขาให้นักศึกษาเข้าพักตั้งเป็นอาทิตย์แล้ว นายไปอยู่ไหนมาละ จู่ๆๆก็โผล่มาแบบนี้ จะไม่ให้เราตกใจได้ไง"
ฟังครับ ฟังไอ้ขี้อ่อยมันอธิบายให้ผมเข้าใจอิอิอิ เสียงมันเริ่มดังขึ้นปนสั่นเล็กน้อย จากนั้นผมก็ตัดสินใจพลิกตัวหันหน้ามาดูใบหน้ารูปไข่ดวงตาเซ็กซี่ของมัน ผมจ้องมัน ดูสิว่าจะทำตัวยังไงเมื่อรู้ว่าคนที่มันกำลังพูดด้วยตอนนี้ เป็นคนเดียวกับคนที่แกล้งมันเมื่อตอนบ่ายที่โรงยิม
"เอ้ยยยเชี่ยวแล้วววว" มันร้องตกใจมากครับ พร้อมกับถอยร่างไปติดกำแพงอีกด้านของห้องพัก ท่าทางมันเหมือนเจอผีหรือเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนในชีวิตเลย ผมต้องทำหน้านิ่งๆตึงๆไว้ครับ กลัวหลุดขำออกไปแต่พอผมได้พูดกับมันอีกสักสองสามประโยค ร่างกายผมก็มาหยุดตรงหน้าไอ้ขี้อ่อยเสียแล้วใช้มือทั้งสองข้างกันตัวมันไว้ไม่ให้หนี มันควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆครับ ยิ่งเห็นท่าทางของมันแล้วยิ่งสนุกยิ่งอยากแกล้ง แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆมันแล้วผมห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย นี้ผมออกอาการม่อ ออกอาการหื่นกามมากใช่ไหม???? มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผมจูบปากไอ้คนขี้อ่อยไปแล้ววววผมจูบมันอย่างแผ่วเบา พยายามไม่ให้มันตกใจ ก่อนที่ผมจะใช้ลิ้นเปิดปากบางเข้ารูปของคนขี้อ่อยเพื่อครวญหาความหวานจากปากบางของมัน โทรศัพท์เจ้ากรรมของผมก็ดังขึ้นเสียก่อน ทำให้ผมต้องหยุด.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ