ลมหวาน ป่าหนาว

9.2

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.

  42 ตอน
  8 วิจารณ์
  70.79K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) พาร์ทของป่าสัก แรกพบก็จบที่ใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     หลังจากทางหอพักมหาวิทยาลัยประกาศให้นิสิตที่ได้โควต้านักกีฬามหาวิทยาลัย  เข้าพักที่หอในก่อนเปิดภาคเรียน 1 อาทิตย์  แต่ผมติดธุระที่ต่างจังหวัดจึงได้ส่งทนายความของครอบครัวมาติดต่อแทน  ซึ่งผมจะเข้าพักได้ในวันนี้  ผมเก็บเสื้อผ้าและของใช้ไม่กี่อย่างเพราะว่าบ้านผมกับมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ไกลกันมากนักแค่คนละมุมเมืองเท่านั้นเอง  จึงไม่จำเป็นต้องเอาอะไรมามากมาย

     ผมเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของหอพักเพื่อที่จะได้เอาเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไปเก็บในห้อง  เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าผมพักที่ห้อง 308 จากนั้นผมก็ได้รับกุญแจมาจากเจ้าหน้าที่ ผมเดินตรงไปยังชั้นสามทันที พอถึงหน้าห้อง 308 ผมก็ได้ยินเสียงเพลงหมอลำเบาๆดังออกมาจากห้อง เพราะคนในห้องไม่ได้ปิดประตูแค่เปิดแง้มๆไว้  ซึ่งเจ้าตัวกำลังสาละวนอยู่กับการจัดห้องพักให้เข้าที่เข้าทางเป็นระเบียบ  ผมค่อยๆผลักประตูเข้าไปซึ่งผมเห็นว่าในห้องพัก  ก็ดูดี สะอาด  ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป  เหมาะที่จะอยู่กันสองคน มีห้องน้ำในตัว มีเตียงสองตัวตั้งอยู่คนละฝั่งมีโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือมีตู้เสื้อผ้า มีระเบียงด้านนอกห้อง ผมจ้องมองไปยังคนที่อยู่ข้างในห้องเข้าใส่กางเกงกีฬา สวมเสื้อกล้าม ขาเรียวยาว ช่างเหมาะเจาะกับกางเกงกีฬาวอลเลย์บอลเสียจริง  แขนยาวเรียวเล็กเข้ารูป ผิวสีน้ำผึ้ง ส่งผลให้ดูเซ็กซี่เอามากๆ มองจากด้านหลัง ผมนี้ไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่า  คนที่ยืนหันหลังอยู่ข้างหน้าผมจะเป็นผู้ชาย เพราะดูจากรูปร่างรูปทรงแล้ว นี้มันหุ่นนางแบบอินเตอร์ชัดๆเขาจะรู้ตัวไหมว่าแต่งตัวแบบนี้มันอ่อยกันชัดๆ  ผมเกิดความประหม่าขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ในชีวิตก็ได้เจอะเจอคนมากมายไม่ว่าจะสาวสวยน่ารัก  หุ่นดี ระดับดาวโรงเรียนผมก็สอยมาหมดแล้ว  แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะทำให้ผมใจเต้นแรงได้แบบนี้มาก่อนเลย  ร่างบางหุ่นเพรียวนั้นค่อยๆหันหน้ามาทางประตู เพื่อเก็บกวาดความสะอาดห้อง พร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะของเพลงหมอลำที่ออกจังหวะสนุกสนานเร้าใจ  จนไม่ได้สังเกตว่าผมแอบยืนดูทุกอิริยบถอันน่ารักน่าหลงใหลนั้นเสียแล้วววววววว  ผมได้เห็นเสี้ยวหน้าของเขา ใบหน้ารูปไข่ รับกับปากบางๆเข้ารูป ดวงตาเป็นประกาย ขนตางอน จมูกโด่งรับกับปลายคางได้ช่างเหมาะเจาะอะไรแบบนี้  ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้ามาแบบเต็มๆผมต้องรีบถอยออกมาตั้งหลักเสียใหม่  เพื่อคิดหาวิธีในการเข้าไปทักทายทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมห้องคนนี้  แต่ใจเจ้ากรรมของผม  กลับเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเกิดความประหม่าทันทีเหมือนหนุ่มน้อยเจอสาวสวยโดยบังเอิญ ทำไมวะ???ผมถึงเกิดความรู้สึกนี้กับผู้ชายตรงหน้า  นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่!!!!!!!!!!ผมตัดสินใจไม่เข้าห้องพักในตอนเช้า กะว่าจะเข้าไปอีกครั้งตอนเย็นหลังเลิกจากประชุมนักกีฬามหาวิทยาลัย

     แถวโรงยิมมหาวิทยาลัยในช่วงบ่าย ผมนั่งเล่นหลบแดดอยู่ใต้ร่มไม้เพื่อรอเวลานัดประชุมของพี่ๆสตาฟนักกีฬา  ทันใดนั้นสายตาผมก็ไปสะดุดกับร่างที่ทำให้หัวใจของผมเต้นรัวเมื่อตอนเช้าเข้าอย่างจัง  ดูท่าทางเขารีบร้อนมาเป็นอย่างมาก ท่าทางลักษณะเงอะๆงะขาดความมั่นใจแต่ก็มีความใสความแบ๋ว แต่มันช่างดูขัดกับสีผิวน้ำผึ้งและดวงตาที่แสนจะเซ็กซี่  มันเป็นเสน่ที่เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าน่ะ  ว่าอาการแบบนี้ทำให้คนอย่างผมหลงไหลเอามากๆ เสี้ยววินาทีนั้นผมคิดหาวิธีที่จะเข้าไปพูดคุยด้วย  แต่คนอย่างผมไม่เคยเข้าหาใครก่อนเลยให้ตายเถอะ  ที่ผ่านๆมามีแต่คนเข้ามาหาผมก่อนเสมอ

"เฮ้อ  คนเรานี้ก็แปลกมีแขนมีขาดีๆ  แต่ทำไมชอบมายืนเกะกะขวางทางชาวบ้านชาวเมืองเขาก็ไม่รู้"นี้คือประโยคแรกที่ผมทักทายคนขี้อ่อย  ก็มันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงนี้ครับบบบบ ก็ผมไม่เคยจีบใครมาก่อนเลย  ยิ่งจะให้มาจีบผู้ชายด้วยกัน ผมนี้ก็ไปไม่เป็นเลยยยยย  สิ้นเสียงทักทายจากผมไอ้คนขี้อ่อยก็หันมาสบตากับผมจังๆดวงตาของเขาสั่นระริกดูตื่นกลัวเอามากๆผมได้ทีก็สำรวจร่างกายที่แสนจะเซ็กซี่ของเขาทันทีก็ทำงัยได้อะครับ มันอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆผมก็หาเรื่องคุยหาเรื่องแซวกับเขาไปเรื่อยเพลินดีครับ  จนคนขี้อ่อยทนไม่ไหวรีบเดินหนีผมไป   จากนั้นผมก็เดินไปหาเพื่อนๆนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย  ซึ่งมีทั้งเด็กปีหนึ่งอย่างผมและรุ่นพี่ซึ่งจะว่าไปแล้วผมแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยเพราะทีบบาสเกตบอลทั้งหมดเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าเกือบทั้งหมด  ซึ่งเราก็เคยเล่นด้วยกันมาสนินสนมเข้าใจกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  บางท่านอาจจะงงๆว่าทำไมทีบบาสเกตบอลถึงมีแต่โรงเรียนเก่าผม ก็เพราะว่าที่โรงเรียนเก่าเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของภาคอีสานทั้งด้านวิชาการและด้านกีฬา  ที่นี้ก็ต้องคัดคนที่เก่งๆมีความสามารถรอบด้านมารวมกันไว้อยู่แล้ววววว  อันนี้ผมไม่ได้ชมโรงเรียนเก่านะครับผมพูดตามความเป็นจริง  ระหว่างที่คุยกับเพื่อนไปสายตาผมก็จ้องมองดูคนขี้อ่อยตลอด  ดูแล้วเพลินดีครับ บางครั้งผมก็อดใจไม่ไหวแอบยิ้มให้เจ้าตัวด้วย  แต่ก็อย่างว่าละครับเรานั่งไกลกัน เพราะฉะนั้นจุดโพกัสก็ยากซักหน่อย  เพราะเท่าที่สังเกตได้นักกีฬาบาสจะนั่งมุมสุดด้านขวามือของแสตนเชียร์ส่วนนักกีฬาวอลเลย์บอลจะนั่งท้ายอีกด้าน  ผมต้องหยุดสนใจคนขี้อ่อยไว้เพียงแค่นั้นเมื่อหัวหน้าสตาฟนักกีฬาให้สัญญาณเรียกประชุมด้วยเสียงนกหวีด

     หลังจากเลิกประชุมเสร็จ  ผมก็ต้องรีบกลับหอพักโดยเร็วเพราะจะได้ไม่ต้องเก้อเขินไอ้คนขี้อ่อย  จะได้มาเตรียมตัวไว้แต่เนินๆ555555555555555555555555

เวลาผ่านไปเกือบจะสามทุ่มไอ้คนขี้อ่อยก็กลับมาพร้อมเพื่อนของมัน  ท่าทางนี้ดูสนิทสนมกันมากมีหยอกล้อกันด้วย  เห็นแล้วมันเดือดครับ  อ้าววววผมเป็นอะไรไม่รู้ทำไมห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย  ไม่ว่าไอ้ขี้อ่อยมันจะคุยกับใครเป็นต้องหงุดหงิดทุกที  ขนาดรู้ว่าไอ้ตรีภพเป็นเพื่อนของมัน  ผมยังไม่ไว้ใจ  ที่ผมไม่ไว้ใจก็เพราะผมรู้จักไอ้ตรีภพนะสิครับมันเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกันกับผมเล่นกีฬาเจอกัน  ทักทายกันบ้างแต่ไม่สนิทเพราะเรามีเพื่อนกันละกลุ่มกันมันเล่นวอลเลย์บอลผมเล่นบาส แต่เรียนที่เดียวกัน สายวิทย์-คณิตเหมือนกัน แต่คนละห้อง ผมเด็กห้องคิงส์ ส่วนไอ้ตรีภพน่าจะห้อง9หรือ10 ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย  ไอ้ตรีภพมันก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งเจ้าชู้ชนิดหาตัวจับยากเลยก็ว่าได้  มันได้ทั้งหญิงและชาย  สาวๆนี้มันฟาดเรียบ  หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันผมก็เห็นมันควงมาไม่ซ้ำหน้าเลย  แล้วแบบนี้ไอ้ขี้อ่อยจะไม่หลงคารมมันหรือเปล่าน่ะ???นั่งมองพวกเขาอยู่บนระเบียงห้อง  พอเห็นว่าทั้งคู่เดินเข้ามาในตัวหอพัก  ผมก็รีบเข้าห้องปิดไฟทันที  เพื่อจะได้แกล้งไอ้คนขี้อ่อย  เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจของคนขี้อ่อย  ผมนี้นึกสนุกในใจอย่างมาก  ที่จะได้เห็นหน้าเหวอๆของมัน  แล้วเสียงเท้ามันก็เดินออกห้องไปแล้วก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง  สักพักมันก็เปิดไฟห้อง

"เอ้ยยยยใครมาเปิดไฟวะ"

ผมพูดออกไปพร้อมกับพลิกตัวนอนตะแคงเพื่อทำเป็นหลบแสงไฟที่แยงตาหันหน้าเข้ากำแพงห้องทันที

"เอ่อ..เอ่อ..นานพักห้องนี้หรือ???"  

เสียงไอ้คนขี้อ่อยถามผมกลับมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ  ได้ใจสิครับท่าทางมันติ๋มๆหงิมๆแบบนี้เข้าทางเสือร้ายอย่างผมอิอิอิอิ

"อ้าว   ถ้ากูไม่ได้พักห้องนี้  แล้วจะเผือกมานอนบนเตียงนี้ได้งัยวะ?พูดไม่รู้จักคิด" 

ได้ทีผมแล้ววววต้องเอาสักหน่อยยย

"อ้าวนายพูดแบบนี้ได้งัยวะ ก็ทางหอพักเขาให้นักศึกษาเข้าพักตั้งเป็นอาทิตย์แล้ว  นายไปอยู่ไหนมาละ  จู่ๆๆก็โผล่มาแบบนี้  จะไม่ให้เราตกใจได้ไง"

ฟังครับ ฟังไอ้ขี้อ่อยมันอธิบายให้ผมเข้าใจอิอิอิ  เสียงมันเริ่มดังขึ้นปนสั่นเล็กน้อย  จากนั้นผมก็ตัดสินใจพลิกตัวหันหน้ามาดูใบหน้ารูปไข่ดวงตาเซ็กซี่ของมัน  ผมจ้องมัน  ดูสิว่าจะทำตัวยังไงเมื่อรู้ว่าคนที่มันกำลังพูดด้วยตอนนี้  เป็นคนเดียวกับคนที่แกล้งมันเมื่อตอนบ่ายที่โรงยิม

"เอ้ยยยเชี่ยวแล้วววว" มันร้องตกใจมากครับ  พร้อมกับถอยร่างไปติดกำแพงอีกด้านของห้องพัก  ท่าทางมันเหมือนเจอผีหรือเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนในชีวิตเลย  ผมต้องทำหน้านิ่งๆตึงๆไว้ครับ กลัวหลุดขำออกไปแต่พอผมได้พูดกับมันอีกสักสองสามประโยค  ร่างกายผมก็มาหยุดตรงหน้าไอ้ขี้อ่อยเสียแล้วใช้มือทั้งสองข้างกันตัวมันไว้ไม่ให้หนี มันควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆครับ  ยิ่งเห็นท่าทางของมันแล้วยิ่งสนุกยิ่งอยากแกล้ง  แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆมันแล้วผมห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย นี้ผมออกอาการม่อ  ออกอาการหื่นกามมากใช่ไหม???? มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผมจูบปากไอ้คนขี้อ่อยไปแล้ววววผมจูบมันอย่างแผ่วเบา  พยายามไม่ให้มันตกใจ  ก่อนที่ผมจะใช้ลิ้นเปิดปากบางเข้ารูปของคนขี้อ่อยเพื่อครวญหาความหวานจากปากบางของมัน  โทรศัพท์เจ้ากรรมของผมก็ดังขึ้นเสียก่อน  ทำให้ผมต้องหยุด.........

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา