นางเอกที่รักกับเจ้าชายสายลม
5.8
เขียนโดย muromaji
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.16 น.
9 ตอน
0 วิจารณ์
11.25K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560 18.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เรื่องวุ่น ๆ ของการถ่ายทำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อทูลกระหม่อมเจ้าฟ้ารังสิมันต์กลับถึงวัง ก็สั่งการให้มรุตโอนเอกสารที่สำคัญไปยังพระราชวัง
ฟรอเทียร์ทันที
ณ.สนามบินทั้งผู้จัด ผู้กำกับ นักแสดง และทีมงานก็มาถึงเวลา 06.00 น. เพื่อเตรียมตัวขึ้น
เครื่องบิน แต่สิ่งที่ทุกคนสงสัยคือเมื่อไปถึงสนามบินกลับมาการแจ้าของพนักงานว่าเครื่องบินที่จะใช้
เดินทางเรต 30 นาที ทุกคนจึงต้องรอ เมื่อถึงเวลาทุกคนถึงรู้ว่าเครื่องบินลำนี้ถูกส่งมาจากออสเตรีย
เพื่อมารับกองละครนี้เป็นพิเศษ เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินออสเตรียสิ่งที่ทุกคนต่างปราบปลื่มคือ
มรุตได้บอกทุกคนว่านี่คือเจ้าหญิงเฮเลน ทุกคนจึงถวายคำนับ
"ขอต้อนรับสู่ออสเตรียนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนคิดเสียว่าที่นี่คือบ้านหลังที่ 2 ของทุกคนนะ
จ๊ะ"เมื่อเจ้าหญิงเฮเลนพูดจบ ทุกคนถึงกับยืนอึ้งที่เจ้าหญิงเฮเลนแห่งออสเตรียพูดภาษาไทยได้ชัด
มาก จนทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ต้องอธิบาย
"เจ้าหญิงเฮเลนเป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันที่พระแม่มารีเซ้นจอร์น ที่กรุงเทพฯ น่ะ
เลยพูดภาษาไทยได้ แต่ก็ไม่ได้มีแค่เจ้าหญิงเฮเลนอย่างเดียวนะ ยังมีเจ้าหญิงเจ้าชายอีก
หลายคนเลยเป็นว่ารุ่นนั้นเป็นรุ่นเจ้าฟ้า เพราะเราเรียนตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม
ปลาย"เมื่อทูลกระหม่อมฟ้าชายพูดจบทุกคนจึงเข้าใจว่าทำไมถึงให้มาถ่ายทำที่นี่ หลังจากนั้นเจ้าหญิงเฮเลนก็พา
ทุกคนมายังพระราชวังฟรอเทียร์ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำทุกคนที่มาถึงก็ตกตะลึงกับความสวยงดงามของ
พระราชวังฟรอเทียร์รวมถึงวนอุทยานที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ก่อนจะเชิญทุกคนเข้าไปยังภาย
ในที่จัดแบ่งให้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำและสถานที่พักอาศัยของทีมงานรวมถึงนักแสดงทั้งหมด จากนั้น
ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ มรุต และเจ้าหญิงเฮเลนก็เสด็จไปห้องทรงพระอักษรซึ่งเป็นห้องทำงาน
ส่วนผู้จัดก็เรียกทีมงานกับนักแสดงเพื่อเตรียมงานในการถ่ายทำในวันรุ่งขึ้น
"การถ่ายทำในวันพรุ่งนี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้านะขอให้ทุกคนเตรียมตัวให
้พร้อมทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตื่นบรรทมเวลานั้น"ผู้จัดละครกล่าวต่อก่อนที่ทีม
งานจะถามอะไรต่อ
"อย่าถามนะ เพราะฉันก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายทรงตื่นบรรทมเวลา
10 โมงเช้า หากถ้ามีวันไหนต้องถ่ายทำเช้ากว่านั้นก็ต้องทูลก่อนล่วงหน้า นี่เป็นคำสั่ง"
การพูดของผู้จัดละครนำพาให้ทีมงานและนักแสดงส่วนหนึ่งเกิดขอสงสัยว่าทำไมทูลกระหม่อม
ฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตื่นบรรทมช้าหรืออาจเป็นเพราะว่าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์เลยไม่ต้องทำอะไรมาก
ตื่นตอนไหนก็ได้ ขณะที่ทุกคนสงสัยอยู่นั้นทางด้านของทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็ทรงงาน
ในห้องทรงพระอักษร เนื่องจากการเปลียนที่ทำงานจึงทำให้การรับ-ส่งข้อมูลทำได้ลำบากยิ่งขึ้น
"ถามหน่อยสินึกยังไงถึงรับแสดงละคร ทั้งที่ตอนเรียนไม่ว่าจะมีกิจกรรมอะไรก็เอา
แต่อยู่หน้าเวทีตลอด"เจ้าหญิงเฮเลนเงยหน้าถ้าก่อนจะหันไปมองที่มรุตที่ทำท่ายิ้ม ๆ ก่อนจะ
ถวายคำนับแล้วเดินออกจากห้องไป เจ้าหญิงเฮเลนจึงหันไปมองเพื่อนสมัยเรียนอีกครั้งก่อนจะได้
คำตอบแค่ว่า
"เสด็จน้าคงเห็นฉันว่างมากเกินไปกระมัง"ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตอบคำถาม
ทั้ง ๆ ที่ยังคงดูเอกสารในมืออยู่
"หรือไม่ก็เสด็จน้ากลัวว่าจะไม่ได้อุ้มหลานก็เลยหาเรื่องจะจับคู่ให้ แต่ก็ต้องผิดแผน
เพราะรังสิกลับขอเลือกนักแสดงที่จะคู่ด้วย"คำพูดของเจ้าหญิงเฮเลนทำเอาทูลกระหม่อมฟ้า
ชายรังสิมันต์ต้องเงยหน้าดูก่อนจะยิ้มบาง ๆ เหมือนรู้ทันอยู่แล้วก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารต่อไป
อย่างเงียบ ๆ
วันรุ่งขึ้นของการถ่ายทำทีมงานและนักแสดงต่างพากันตื่นแต่เช้าเพราะบรรยากาศตอนเช้าของ
ที่นี่สวยกว่าที่คิด สายหมอกบาง ๆ กับอากาศที่เย็นสบายทำให้หลายคนที่นอนไม่ค่อยหลับกลับ
สดชื่นได้และหายเพลีย แต่ถึงจะเช้ายังไงทุกคนก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นมรุตทหารคนสนิทของ
ทูลกระหม่อมฟ้าชายวิ่งอยู่ในหมู่ทหารราชองครักษ์ภายในบริเวณพระราชวังก่อนที่จะมารวมแถวกัน
หน้าพระราชวังแล้วแยกย้ายกันไป
"พี่มรุตค่ะ พี่ตื่นเช้าแบบนี้ตลอดเลยหรือเปล่าค่ะ"มุกถามขึ้นขณะที่มรุตเดินจะเข้าไปใน
พระตำหนัก
"ขอรับ กระหม่อมตื่นตี 3 ทุกวันขอรับ"มรุตตอบในลักษณะยืนตัวตรงแบบนายทหาร ก่อน
จะก้มลงคำนับและเลี่ยงเดินออกไปยังห้องบรรทมของทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์
"ทุกคนค่ะอาหารพร้อมแล้วมาทานอาหารกันก่อนนะจะได้แยกย้ายไปเตรียมงาน
ต่อ"เสียงเรียกของแม่ครัวในกองถ่ายทำให้ทุดคนที่ยืนชมวิวทิวทัศน์อยู่นั้นต้องรีบเดินเพื่อจัดเซ็ต
งานเป็นครั้งสุดท้ายที่ถ่ายทำ
"นี่องค์ชายรังสิอยู่ไหนใครเห็นมั่ง"ป้าแจ๋วทีมเสื้อผ้าเดินมาถามทีมนักแสดงที่โต๊ะอาหาร
เนื่องจากทุกคนรับประทานอาหารเสร็จก็นั่งต่อบทกัน
"ไม่เห็นองค์ชายตั้งแต่เช้าแล้วนะค่ะป้า"มายด์พูดขนะมองไปรอบ ๆ
"นั่นสิมุกก็ไม่เห็นนี่ก็จะ 4 โมงเช้าแล้วคงยังไม่ตื่นบรรทมมั้งค่ะป้า"มุกตอบก่อนจะเงย
หน้าขึ้นจากบทที่ตนกำลังท่องอยู่
"นั่นล่ะสิเป็นถึงทูลกระหม่อมฟ้าชายนี่นะ จะทรงตื่นสายยังไงก็ได้ไม่เหมือนพวกเรา
ไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้ แต่พวกเราสิถ้าตื่นแบบนั้นมีหวังอดตาย"ป้าแจ๋วทีมเสื้อพูดก่อนจะ
ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อย ๆ
"ไม่นะแยมเห็นตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นเดินไปทางห้องทรงพระอักษรกับเจ้าหญิงเฮเลน
และคุณมรุตน่ะ" แยมพูดจบก็เดินไปต่อบทกับมารด์
"งั้นป้าเดินไปดูสักหน่อยมีชุดที่จะต้องใส่เข้าฉากด้วยสิ" ป้าแจ๋วก็เดินไปยังห้องทรงพระ
อักษรแต่เมื่อเดินไปถึงก็เห็นทหารรักษาพระองค์ยืนอยู่
"ขอโทษครับสถานที่แห่งนี้เข้าไม่ได้ คุณมีธุระอะไรครับ" ทหารคนหนึ่งถามอย่างสุภาพ
"ขอโทษค่ะ ขอดีมีชุดที่ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ต้องใส่แสดงเลยอยากจะเชิญ
เสด็จไปลองชุดค่ะคุณทหาร" ป้าแจ๋วกล่าวก่อนที่ทหารคนนั้นจะให้รอด้านนอกเพื่อเข้าไป
รายงาน สักพักทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็ออกมาพร้อมกับทหาร เพื่อจะเดินไปยังห้องแต่งตัว
ในการถ่ายทำดำเนินไปอย่างทุลักทุเล เนื่องมาจากถ่ายทำอยู่ดี ๆ ก็มีหิมะตกลงมาอย่างหนัก
จนต้องรีบเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเข้าที่ร่ม ซึ่งไม่เว้นแต่นักแสดงก็ช่วยกันเท่าที่ช่วยได้ หรือบางวัน
ก็เกิดฝนตกลงมาซะงั้น จึงทำให้ทุกคนมีความสนุกสนานมากกว่าจะมีความเครียด จนในที่สุดฝ่าย
ฉากก็มีข้อเสนอให้จัดฉาก 2 ชุด เพื่อเตรียมรับมือหากฉากเอาร์ดอร์ถ่ายไม่ได้จะได้มีการถ่ายฉาก
ในที่ร่มได้ แต่สิ่งหนึ่งที่นักแสดงต้องเจอคือขณะที่ถ่ายทำอยู่ฝนก็โปรยลงมาทำให้ต้องรีบเก็บของ
แล้วมาเปลี่ยนชุดเพื่อจะแสดงอีกฉากหนึ่งทำให้เกิดการผิดคิวกันหรือไม่ก็จำบทสลับกัน จนทุกคน
ต่างก็อดที่จะหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้
"วันนี้เหนื่อยมากต้องวิ่งเข้าวิ่งออกเพื่อเปลี่ยนชุดกัน" มุกขึ้นขณะรับประทานอาหารใน
ช่วงเย็น
"นั่นนะสิมายด์ก็เหมือนกัน แต่ก็ต้องยกเว้นพี่รังสิมันต์กับพี่ ๆ ที่แสดงเป็นนางกำนัน"
มายด์พูดขึ้นขณะที่ในมือก็ถือซ่อมที่ยังมีชิ้นหมูเสียบอยู่ ซึ่งคำพูดของมายด์เป็นที่คุ้นเคยกันไป
แล้วหลังจากที่ถ่ายทำกันไปพักใหญ่ ๆ มายด์ก็ตอดปากจากที่เคยเรียก "องค์ชายรังสิมันต์" เป็น
"พี่รังสิมันต์" เท่านั้น ซึ่งทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็ไม่ทรงว่าอะไรแต่กลับชอบด้วยซ้ำ
"ก็ช่วยไม่ได้นะก็ในบทเขียนว่าให้พี่แต่งชุดม่วงชุดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบนี่นา" ทูลกระ
หม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงยักไหล่
แต่สิ่งที่ทุกคนยังไม่เข้าใจคือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงมีน้ำพระทัยดีไม่เคยถือสากับ
เรื่องหยุมหยิมแต่ทำไมถึงทรงตื่นบรรทมสายนัก ยกเว้นบางวันที่มีการถ่ายทำในตอนเช้าก็ต้องแจ้ง
ก่อนล่วงหน้า แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะถามถึงเหตุผล
"พรุ่งนี้องค์ชายมีถ่ายทำตอนตี 5 นะพะยะค่ะ" ผู้กำกับกล่าวก่อนจะเดินไปนำบทถวาย
ซึ่งทูลกระหม่อมฟ้าชายทรงหยิบดู
"ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตี 4 สินะ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงกล่าว
ขึ้นมาก่อนจะวางบทลงแล้วหยิบแก้วกาแฟมาดื่ม
"นี่ก็ถ่ายทำกันมา 2 เดือนกว่า ๆ แล้วหลังจากถ่ายทำเสร็จเราไปเที่ยวกันดีกว่า"
ทูลกระหม่อมฟ้าชายทรงตรัสออกมาอย่างยิ้ม ๆ
ฟรอเทียร์ทันที
ณ.สนามบินทั้งผู้จัด ผู้กำกับ นักแสดง และทีมงานก็มาถึงเวลา 06.00 น. เพื่อเตรียมตัวขึ้น
เครื่องบิน แต่สิ่งที่ทุกคนสงสัยคือเมื่อไปถึงสนามบินกลับมาการแจ้าของพนักงานว่าเครื่องบินที่จะใช้
เดินทางเรต 30 นาที ทุกคนจึงต้องรอ เมื่อถึงเวลาทุกคนถึงรู้ว่าเครื่องบินลำนี้ถูกส่งมาจากออสเตรีย
เพื่อมารับกองละครนี้เป็นพิเศษ เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินออสเตรียสิ่งที่ทุกคนต่างปราบปลื่มคือ
มรุตได้บอกทุกคนว่านี่คือเจ้าหญิงเฮเลน ทุกคนจึงถวายคำนับ
"ขอต้อนรับสู่ออสเตรียนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนคิดเสียว่าที่นี่คือบ้านหลังที่ 2 ของทุกคนนะ
จ๊ะ"เมื่อเจ้าหญิงเฮเลนพูดจบ ทุกคนถึงกับยืนอึ้งที่เจ้าหญิงเฮเลนแห่งออสเตรียพูดภาษาไทยได้ชัด
มาก จนทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ต้องอธิบาย
"เจ้าหญิงเฮเลนเป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันที่พระแม่มารีเซ้นจอร์น ที่กรุงเทพฯ น่ะ
เลยพูดภาษาไทยได้ แต่ก็ไม่ได้มีแค่เจ้าหญิงเฮเลนอย่างเดียวนะ ยังมีเจ้าหญิงเจ้าชายอีก
หลายคนเลยเป็นว่ารุ่นนั้นเป็นรุ่นเจ้าฟ้า เพราะเราเรียนตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม
ปลาย"เมื่อทูลกระหม่อมฟ้าชายพูดจบทุกคนจึงเข้าใจว่าทำไมถึงให้มาถ่ายทำที่นี่ หลังจากนั้นเจ้าหญิงเฮเลนก็พา
ทุกคนมายังพระราชวังฟรอเทียร์ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำทุกคนที่มาถึงก็ตกตะลึงกับความสวยงดงามของ
พระราชวังฟรอเทียร์รวมถึงวนอุทยานที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ก่อนจะเชิญทุกคนเข้าไปยังภาย
ในที่จัดแบ่งให้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำและสถานที่พักอาศัยของทีมงานรวมถึงนักแสดงทั้งหมด จากนั้น
ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ มรุต และเจ้าหญิงเฮเลนก็เสด็จไปห้องทรงพระอักษรซึ่งเป็นห้องทำงาน
ส่วนผู้จัดก็เรียกทีมงานกับนักแสดงเพื่อเตรียมงานในการถ่ายทำในวันรุ่งขึ้น
"การถ่ายทำในวันพรุ่งนี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้านะขอให้ทุกคนเตรียมตัวให
้พร้อมทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตื่นบรรทมเวลานั้น"ผู้จัดละครกล่าวต่อก่อนที่ทีม
งานจะถามอะไรต่อ
"อย่าถามนะ เพราะฉันก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายทรงตื่นบรรทมเวลา
10 โมงเช้า หากถ้ามีวันไหนต้องถ่ายทำเช้ากว่านั้นก็ต้องทูลก่อนล่วงหน้า นี่เป็นคำสั่ง"
การพูดของผู้จัดละครนำพาให้ทีมงานและนักแสดงส่วนหนึ่งเกิดขอสงสัยว่าทำไมทูลกระหม่อม
ฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตื่นบรรทมช้าหรืออาจเป็นเพราะว่าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์เลยไม่ต้องทำอะไรมาก
ตื่นตอนไหนก็ได้ ขณะที่ทุกคนสงสัยอยู่นั้นทางด้านของทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็ทรงงาน
ในห้องทรงพระอักษร เนื่องจากการเปลียนที่ทำงานจึงทำให้การรับ-ส่งข้อมูลทำได้ลำบากยิ่งขึ้น
"ถามหน่อยสินึกยังไงถึงรับแสดงละคร ทั้งที่ตอนเรียนไม่ว่าจะมีกิจกรรมอะไรก็เอา
แต่อยู่หน้าเวทีตลอด"เจ้าหญิงเฮเลนเงยหน้าถ้าก่อนจะหันไปมองที่มรุตที่ทำท่ายิ้ม ๆ ก่อนจะ
ถวายคำนับแล้วเดินออกจากห้องไป เจ้าหญิงเฮเลนจึงหันไปมองเพื่อนสมัยเรียนอีกครั้งก่อนจะได้
คำตอบแค่ว่า
"เสด็จน้าคงเห็นฉันว่างมากเกินไปกระมัง"ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตอบคำถาม
ทั้ง ๆ ที่ยังคงดูเอกสารในมืออยู่
"หรือไม่ก็เสด็จน้ากลัวว่าจะไม่ได้อุ้มหลานก็เลยหาเรื่องจะจับคู่ให้ แต่ก็ต้องผิดแผน
เพราะรังสิกลับขอเลือกนักแสดงที่จะคู่ด้วย"คำพูดของเจ้าหญิงเฮเลนทำเอาทูลกระหม่อมฟ้า
ชายรังสิมันต์ต้องเงยหน้าดูก่อนจะยิ้มบาง ๆ เหมือนรู้ทันอยู่แล้วก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารต่อไป
อย่างเงียบ ๆ
วันรุ่งขึ้นของการถ่ายทำทีมงานและนักแสดงต่างพากันตื่นแต่เช้าเพราะบรรยากาศตอนเช้าของ
ที่นี่สวยกว่าที่คิด สายหมอกบาง ๆ กับอากาศที่เย็นสบายทำให้หลายคนที่นอนไม่ค่อยหลับกลับ
สดชื่นได้และหายเพลีย แต่ถึงจะเช้ายังไงทุกคนก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นมรุตทหารคนสนิทของ
ทูลกระหม่อมฟ้าชายวิ่งอยู่ในหมู่ทหารราชองครักษ์ภายในบริเวณพระราชวังก่อนที่จะมารวมแถวกัน
หน้าพระราชวังแล้วแยกย้ายกันไป
"พี่มรุตค่ะ พี่ตื่นเช้าแบบนี้ตลอดเลยหรือเปล่าค่ะ"มุกถามขึ้นขณะที่มรุตเดินจะเข้าไปใน
พระตำหนัก
"ขอรับ กระหม่อมตื่นตี 3 ทุกวันขอรับ"มรุตตอบในลักษณะยืนตัวตรงแบบนายทหาร ก่อน
จะก้มลงคำนับและเลี่ยงเดินออกไปยังห้องบรรทมของทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์
"ทุกคนค่ะอาหารพร้อมแล้วมาทานอาหารกันก่อนนะจะได้แยกย้ายไปเตรียมงาน
ต่อ"เสียงเรียกของแม่ครัวในกองถ่ายทำให้ทุดคนที่ยืนชมวิวทิวทัศน์อยู่นั้นต้องรีบเดินเพื่อจัดเซ็ต
งานเป็นครั้งสุดท้ายที่ถ่ายทำ
"นี่องค์ชายรังสิอยู่ไหนใครเห็นมั่ง"ป้าแจ๋วทีมเสื้อผ้าเดินมาถามทีมนักแสดงที่โต๊ะอาหาร
เนื่องจากทุกคนรับประทานอาหารเสร็จก็นั่งต่อบทกัน
"ไม่เห็นองค์ชายตั้งแต่เช้าแล้วนะค่ะป้า"มายด์พูดขนะมองไปรอบ ๆ
"นั่นสิมุกก็ไม่เห็นนี่ก็จะ 4 โมงเช้าแล้วคงยังไม่ตื่นบรรทมมั้งค่ะป้า"มุกตอบก่อนจะเงย
หน้าขึ้นจากบทที่ตนกำลังท่องอยู่
"นั่นล่ะสิเป็นถึงทูลกระหม่อมฟ้าชายนี่นะ จะทรงตื่นสายยังไงก็ได้ไม่เหมือนพวกเรา
ไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้ แต่พวกเราสิถ้าตื่นแบบนั้นมีหวังอดตาย"ป้าแจ๋วทีมเสื้อพูดก่อนจะ
ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อย ๆ
"ไม่นะแยมเห็นตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นเดินไปทางห้องทรงพระอักษรกับเจ้าหญิงเฮเลน
และคุณมรุตน่ะ" แยมพูดจบก็เดินไปต่อบทกับมารด์
"งั้นป้าเดินไปดูสักหน่อยมีชุดที่จะต้องใส่เข้าฉากด้วยสิ" ป้าแจ๋วก็เดินไปยังห้องทรงพระ
อักษรแต่เมื่อเดินไปถึงก็เห็นทหารรักษาพระองค์ยืนอยู่
"ขอโทษครับสถานที่แห่งนี้เข้าไม่ได้ คุณมีธุระอะไรครับ" ทหารคนหนึ่งถามอย่างสุภาพ
"ขอโทษค่ะ ขอดีมีชุดที่ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ต้องใส่แสดงเลยอยากจะเชิญ
เสด็จไปลองชุดค่ะคุณทหาร" ป้าแจ๋วกล่าวก่อนที่ทหารคนนั้นจะให้รอด้านนอกเพื่อเข้าไป
รายงาน สักพักทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็ออกมาพร้อมกับทหาร เพื่อจะเดินไปยังห้องแต่งตัว
ในการถ่ายทำดำเนินไปอย่างทุลักทุเล เนื่องมาจากถ่ายทำอยู่ดี ๆ ก็มีหิมะตกลงมาอย่างหนัก
จนต้องรีบเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเข้าที่ร่ม ซึ่งไม่เว้นแต่นักแสดงก็ช่วยกันเท่าที่ช่วยได้ หรือบางวัน
ก็เกิดฝนตกลงมาซะงั้น จึงทำให้ทุกคนมีความสนุกสนานมากกว่าจะมีความเครียด จนในที่สุดฝ่าย
ฉากก็มีข้อเสนอให้จัดฉาก 2 ชุด เพื่อเตรียมรับมือหากฉากเอาร์ดอร์ถ่ายไม่ได้จะได้มีการถ่ายฉาก
ในที่ร่มได้ แต่สิ่งหนึ่งที่นักแสดงต้องเจอคือขณะที่ถ่ายทำอยู่ฝนก็โปรยลงมาทำให้ต้องรีบเก็บของ
แล้วมาเปลี่ยนชุดเพื่อจะแสดงอีกฉากหนึ่งทำให้เกิดการผิดคิวกันหรือไม่ก็จำบทสลับกัน จนทุกคน
ต่างก็อดที่จะหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้
"วันนี้เหนื่อยมากต้องวิ่งเข้าวิ่งออกเพื่อเปลี่ยนชุดกัน" มุกขึ้นขณะรับประทานอาหารใน
ช่วงเย็น
"นั่นนะสิมายด์ก็เหมือนกัน แต่ก็ต้องยกเว้นพี่รังสิมันต์กับพี่ ๆ ที่แสดงเป็นนางกำนัน"
มายด์พูดขึ้นขณะที่ในมือก็ถือซ่อมที่ยังมีชิ้นหมูเสียบอยู่ ซึ่งคำพูดของมายด์เป็นที่คุ้นเคยกันไป
แล้วหลังจากที่ถ่ายทำกันไปพักใหญ่ ๆ มายด์ก็ตอดปากจากที่เคยเรียก "องค์ชายรังสิมันต์" เป็น
"พี่รังสิมันต์" เท่านั้น ซึ่งทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็ไม่ทรงว่าอะไรแต่กลับชอบด้วยซ้ำ
"ก็ช่วยไม่ได้นะก็ในบทเขียนว่าให้พี่แต่งชุดม่วงชุดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบนี่นา" ทูลกระ
หม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงยักไหล่
แต่สิ่งที่ทุกคนยังไม่เข้าใจคือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงมีน้ำพระทัยดีไม่เคยถือสากับ
เรื่องหยุมหยิมแต่ทำไมถึงทรงตื่นบรรทมสายนัก ยกเว้นบางวันที่มีการถ่ายทำในตอนเช้าก็ต้องแจ้ง
ก่อนล่วงหน้า แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะถามถึงเหตุผล
"พรุ่งนี้องค์ชายมีถ่ายทำตอนตี 5 นะพะยะค่ะ" ผู้กำกับกล่าวก่อนจะเดินไปนำบทถวาย
ซึ่งทูลกระหม่อมฟ้าชายทรงหยิบดู
"ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตี 4 สินะ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงกล่าว
ขึ้นมาก่อนจะวางบทลงแล้วหยิบแก้วกาแฟมาดื่ม
"นี่ก็ถ่ายทำกันมา 2 เดือนกว่า ๆ แล้วหลังจากถ่ายทำเสร็จเราไปเที่ยวกันดีกว่า"
ทูลกระหม่อมฟ้าชายทรงตรัสออกมาอย่างยิ้ม ๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ