SAENRAK แสนรัก [YAOI]

8.0

เขียนโดย DAIPS

วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.39 น.

  10 chapter
  1 วิจารณ์
  12.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 22.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) SAENRAK แสนรัก : CHAPTER.03

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

SEANRAK แสนรัก : CHAPTER.03
เรื่องโดย : ++DAIPS++
       RAPEE PART      
       “รอเดี๋ยวนะครับ” ผมจ้องมองแผ่นหลังเล็กของคนร่างบาง จับจ้องทุกๆการกระทำจนกระทั่งเขาเดินกลับมา
 
       “ไปกันเถอะครับ” ริมฝีปากบางสีอวบอิ่มคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับเอื้อนเอ่ยถ้อยคำสุภาพด้วยน้ำเสียงทุ้มหวาน ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างแผ่วเบาก่อนจะพยักหน้าตอบเขา
 
       “อื้ม! ไปกันเถอะ!” ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ทาบมือลงไปที่ไหล่ของแสนรักก่อนจะออกแรงดันเขาเบาๆเพื่อให้เดินนำผมไป แสนรักยิ้มบางๆก่อนจะเดินตามเพื่อนๆของผม ผมเองก็เดินตามหลังเขา
 
       อึก...
       ซู่...
 
       จู่ๆผมก็รู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบ อีกทั้งขนที่แขนยังพร้อมใจกันตั้งชูขึ้น ชั่วแวบหนึ่งที่ผมกำลังก้าวเดินออกจากห้องเรียนนั้น ผมสัมผัสได้ถึงสายตาของบางสิ่งบางอย่างที่จับจ้องมองผมด้วยความไม่พอใจ ผมหยุดเดินและลองหันกลับไป
       ผมไม่พบอะไรเลย...ไม่พบอะไรนอกจากเจ้าชายที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ
 
      อืม...คงคิดมากไปเองแหละ
 
       ผมเร่งฝีเท้าเดินตามให้มาหยุดขนาบเคียงกับแสนรัก ระหว่างที่เดินทางไปยังโรงอาหารนั้น ผมชวนแสนรักคุยไม่หยุด คุยนู่นคุยนี่ไปเรื่อยตามประสาคนช่างพูดช่างคุย ส่วนใหญ่จะเป็นผมเองเสียมากกว่าที่ถามเองตอบเอง แสนรักเขาเรียบร้อยและพูดน้อยมากๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดอะไร ตรงกันข้ามผมกลับมองว่าเขามีเสน่ห์
 
       แสนรักเป็นผู้ชายที่มีหุ่นค่อนข้างผอมเพรียวหากแต่มีร่างกายที่สูงโปร่ง เรือนผมสีน้ำตาลเข้มของเขาขับให้ใบหน้าและเรือนร่างดูสว่างอย่างเป็นธรรมชาติ จมูกโด่งเป็นสันรับกับโครงหน้าเรียวรูปไข่ คิ้วสวยผาดเฉียงทำมุมอย่างได้องศา ดวงตากลมโตถูกรายล้อมไปด้วยแพขนตายาว และที่ดึงดูดผมแบบสุดๆเลยคือ ริมฝีปากบางของเขา มันมีสีชมพูเรื่อทำให้ดูสุขภาพดี ผมชอบเวลาที่เขายิ้มนะ เขี้ยวเล็กๆทั้งสองข้างของแสนรักมันดูมีสเน่ห์มากๆเลยล่ะ
 
       “ทำไมนายไม่ค่อยพูดเลยล่ะแสนรัก” ผมถามเขาด้วยความสงสัย
 
       “อืม...คงเป็นเพราะผมเป็นคนพูดไม่เก่งและค่อนข้างขี้อายมั้งครับ” นี่นับเป็นประโยคแรกเลยนะที่เขาตอบผมกลับแบบยาวๆ
 
       “เดี๋ยวอยู่กับฉันไปนานๆนายก็จะพูดเก่งเองแหละแสนรัก เชื่อฉันดิ!” ผมพูดออกมาอย่างมั่นใจ “ฉันเก่งนะเรื่องทำให้คนพูดเนี่ย!” ผมพูดต่อและยิ้มกว้างๆอย่างภูมิใจ ทุบอกตัวเองดังปึกๆเป็นท่าทางประกอบจนแสนรักหลุดหัวเราะออกมา
 
      “งั้นรบกวนด้วยนะครับ” แสนรักยิ้มออกมาจนดวงตากลมโตเรียวรีเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ผมชะงักไปนิดเมื่อเผลอคิดไปว่า...เขาน่ารัก
 
       “แสนรัก” ผมเรียกเขา
 
       “ครับ?” เขาขานรับ
 
       “ฉันชอบเวลาที่นายยิ้มนะ นายยิ้มสวยมากๆเลย เคยมีใครบอกนายหรือเปล่า?” ผมพูดออกไปตามที่ใจนึกคิด หวังเพียงอย่างเดียวคือการที่จะได้เห็นคนร่างบางยิ้มกว้างมากกว่าเดิม เหมือนกับปฏิกิริยาของคนทั่วๆไปที่มักจะยิ้มรับและเอ่ยขอบคุณเมื่อมีคนชม
 
      หากแต่แสนรักไม่ได้เป็นอย่างนั้น...
 
       “…” ใบหน้าที่ถูกประดับด้วยรอยยิ้มพราวสเน่ห์ก่อนหน้านี้ค่อยๆเรือนหายไปต่อหน้าต่อตาผม สีหน้าและแววตาของแสนรักถูกแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด หัวใจผมกระตุกขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าเขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
 
      “นาย..เป็นอะไรหรือเปล่าแสนรัก?” ผมถามเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกแย่ขึ้นมาเลยอะ
 
       “ไม่มีอะไรหรอกครับ ไปกันเถอะ” แสนรักตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ผมมองออกว่าเขาฝืนใจแค่ไหน เขาพยายามปรับสีหน้าให้เป็นเหมือนดังเดิม ริมฝีปากบางยังคงคลี่ยิ้มอยู่หากแต่แววตานิ่งสงัด
 
       นี่ผม...พูดอะไรผิดไปอย่างงั้นหรอ?
 
       RAPEE PART END
 
       รพีหน้าเสียไปเลยเมื่อเห็นว่าผมไม่พูดอะไรต่อจากนั้นอีก ผมพยายามทำตัวให้ปกติแล้วนะ แต่แบบรอยยิ้มฝืนๆของผมมันไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย
       ผมรู้สึกดีที่เขาไม่ได้เซ้าซี้ถามว่าผมเป็นอะไรอีกครั้ง เพราะถ้าเขาถามอีกผมคงต้องร้องไห้ต่อหน้าเขาตรงนี้แน่ๆ  รพีไม่รู้หรอกว่าประโยคที่เขาพูดออกมาก่อนหน้านี้มันทิ่มแทงหัวใจของผมแค่ไหน “ฉันชอบเวลาที่นายยิ้มนะ นายยิ้มสวยมากๆเลย เคยมีใครบอกนายหรือเปล่า?”  จริงๆมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก มันผิดที่ความอ่อนแอของผมเอง ความอ่อนแอที่ยังคงตอกย้ำว่าผมไม่ไปไหน ยังคงอยู่ที่เดิม และยังคงคิดถึงน้องชายเหมือนเดิม
       ..
       ..
       ..
 
       “ผมชอบเวลาที่พี่ยิ้มนะ พี่ยิ้มสวยมากเลยล่ะ” สุดชอบพูดพร้อมกับใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างของเขาจิ้มลงบนแก้มผม
 
       “พูดจริงหรอ?” ผมถามเขาพลางจับข้อมือเล็กของน้องชาย อยากให้เขาหยุดจิ้มแก้มผมสักที มันเจ็บนะ
 
      “อื้ม! ยิ้มบ่อยๆเลยนะ” น้องชายยอมวางมือจากแก้มของผม เขาพยักหน้าตอบและส่งยิ้มสดใสมาให้ผม
 
      “ได้สิ” ผมพยักหน้ารับเบาๆและยิ้มตอบเขา
      “เยี่ยมไปเลย!” สุดชอบยิ้มกว้างกว่าเดิม มือเล็กๆทั้งสองข้างของเขาถูกยกขึ้นมาก่อนจะหุบนิ้วลงให้เหลือแต่เพียงนิ้วโป้ง “พี่ชายผมยิ้มสวยที่สุดในโลกเล้ย!”
 
       ทั้งผมและเขาเราทั้งสองต่างยิ้มและหัวเราะให้กันและกัน มันช่างเป็นเวลาที่แสนสุขและสดใสเหลือเกิน....
       ..
       ..
       ..
 
       “แสนรักกกกกกกกกก” เสียงของรพีดังเข้ามาในโสตประสาททำให้ห้วงภวังค์ที่ผมสร้างขึ้นทลายลงไปแทบจะทันที ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความงุนงง
 
       “อึก...ฮ่ะๆ เล่นอะไรครับเนี่ย!” ผมหลุดหัวเราะออกมาแทบจะทันทีเมื่อเห็นว่ารพีกำลัง...
 
       “โฮ๊ะๆ เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย เจ้าจะทำหน้าเศร้าอยู่อีกนานมั้ย? ไม่รีบกินข้าจะแย่งเจ้ากินแล้วนะเห้ยยยย โฮ๊ะ! โฮ้ะ! โฮ่ะ!” คนตรงหน้าผมตั้งหน้าตั้งตาดัดเสียงให้ทุ้มและดูมีอายุกว่าปกติ อีกทั้งเขายังซนมากๆ รพีนำเส้นสปาเก็ตตี้ที่อยู่ในจานของเขามาวางทาบลงระหว่างจมูกและปาก ซอสแดงเลอะเปรอะไปทั่วบริเวณนั้น ผมหัวเราะออกมาอย่างนึกเอ็นดู เขานี่ช่างเล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้
 
       “โว้ววว ยิ้มแล้วๆ” รพีพูดออกมาอย่างดีใจก่อนที่เขาจะหยิบเส้นสปาเก็ตตี้นั่นออก
 
       “สกปรกนะครับนั่น” ผมพูดพลางเอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่ที่อยู่ในกล่องส่งไปให้เขา
 
       “แต่นายก็ดูอารมณ์ดีขึ้น” รพีพูดพร้อมกับใช้กระดาษทิชชู่เช็ดหน้าตัวเอง
 
      “ขอบคุณนะ” ผมพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เขา รพียิ้มตอบและยักไหล่เบาๆ
 
       ผมก้มหน้าลงไปมองอาหารของตัวเองพลางถอนหายใจออกเบาๆ ต้องขอบคุณรพีที่เขาทำให้ผมยิ้มออกมาได้อีกครั้ง ผมรู้สึกดีขึ้นมากเลยล่ะ
 
      “ไอ้พีโว้ยยยย ไอ้เลววววว เอาไปไกลๆเลยไปปปปป” ผมเงยหน้าขึ้นมามองและหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ารพีเขานำเส้นสปาเก็ตตี้ที่เขาเล่นก่อนหน้านี้ไปแกว่งเล่นใกล้ๆหน้าเพื่อนคนอื่นๆ เสียงเพื่อนๆที่นั่งร่วมโต๊ะต่างพากันโวยวายเขา รพีไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านเลยแม้แต่นิด ตรงกันข้ามเขากลับยิ้มร่าอย่างชอบใจ และลงมือแกล้งคนอื่นๆต่อ
 
      เขาช่างสดใสจังเลยนะ...
       ..
       ..
       ..
       “ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างจ๊ะแสนรัก” อิงอรเอ่ยปากถามผมในขณะที่เราทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารกันที่โต๊ะ
 
       “ก็ดีนะครับ น้องๆเขานิสัยดี” ผมตอบกลับพลางตักผัดผักส่งไปให้อิงอร เธอยิ้มรับและตักมันเข้าปาก
 
       “ดีแล้วๆ” อิงอรพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะลงมือทานอาหาร
 
      ผมและอิงอรไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น พวกเราทั้งคู่ต่างให้ความสนใจกับการทานอาหารมากกว่า เราต่างคนต่างทานอาหารโดยไม่พูดอะไร เมื่อทานเสร็จผมก็เอ่ยคำขอบคุณและคำชมตามความเคยชิน อิงอรเธอยิ้มตอบก่อนจะรวบจานทั้งหมดไปทำความสะอาด ผมขอตัวขึ้นมายังชั้นบน เข้าห้องของตัวเอง จัดการอาบน้ำจนเสร็จเรียบร้อยก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องเขียน
 
       “ไม่ได้นั่งตรงนี้นานแค่ไหนแล้วนะ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะหยิบการบ้านของวันนี้ขึ้นมาทำ
       ..
       ..
       ..
       ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
 
       เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ผมละสายตาออกจากการบ้านที่กำลังทำอยู่ ถอดแว่นสายตาออกก่อนจะเดินไปเปิดประตู
 
       “…” ในตอนแรกผมคิดว่าคนที่มาเคาะประตูคงจะเป็นอิงอร เพราะเธอชอบนำของว่างมาให้ผมทานในเวลานี้เป็นประจำ หากแต่คนที่มาเคาะประตู...ไม่ใช่เธอ
 
       “สวัสดีครับพ่อ” ผมยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อ เขาพยักหน้ารับเบาๆ จับจ้องมองหน้าผมด้วยสายตาเรียบนิ่ง
 
       “เข้าไปได้มั้ย?” เขาเอ่ยปากถาม ผมมองเขาก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆและหลีกทางให้เขาเดินเข้ามา
 
       “ลูกทำอะไรอยู่งั้นหรอ?” พ่อเดินเข้ามาในห้องนอนของผมจากนั้นก็เดินตรงไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
 
       “การบ้านครับ” ผมตอบเขา
 
       “…” พ่อไม่พูดอะไรต่อจากนั้น ผมเองก็เช่นกัน เราทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบ จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง
 
       ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
    
       “แสนรัก แม่เข้าไปนะ” อิงอรพูดก่อนจะผลักประตูเข้ามา เธอชะงักไปนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าพ่อนอนอยู่ในห้องของผม “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะคุณ?”
 
      อิงอรพูดถามพ่อก่อนจะเดินมาหาผม เธอวางแก้วนมอุ่นๆไว้บนโต๊ะเครื่องเขียน ผมเอ่ยขอบคุณเธอ ในใจนึกสงสัยขึ้นมาว่าทำไมอิงอรถึงถามคำถามนั้นกับพ่อ เขาไม่ได้เจอกันก่อนจะขึ้นมาหาผมงั้นหรอ?
 
      “สักพักแล้ว” พ่อตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ผมหันไปมองเขานิดหน่อย เห็นว่าเขากำลังมองผมและอิงอรอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
 
      “ค่ะ...แสนรัก แม่ไปก่อนนะ อย่านอนดึกนักล่ะ” อิงอรพูดพร้อมกับลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องผมไป
 
      ปัง...
 
       อิงอรออกไปจากห้องนอนผมแล้วแต่ผู้เป็นพ่อยังคงนอนอยู่บนเตียงของผม
ความเงียบเข้าครอบคลุมเราทั้งสองคนอีกครั้ง ผมรู้สึกอึดอัดมากๆจนไม่มีสมาธิในการทำการบ้านต่อ
 
      “พ่อจะนอนเงียบๆแบบนี้จริงๆน่ะหรอ?” ผมพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
 
      “…” พ่อไม่ตอบและยังคงเงียบ ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเลิกสนใจเขาและพยายามตั้งสมาธิในการทำการบ้าน
 
       “พ่อไม่อยู่บ้านสามวันนะ” เวลาล่วงเลยผ่านไปสักพักใหญ่ๆเขาถึงได้เอ่ยปากพูด
 
       “ครับ” ผมตอบรับอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ในมือยังคงจับปากกาและลงมือแก้โจทย์สมการอย่างตั้งใจ พ่อเงียบไปอีกครั้ง ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจ ผมยังคงลงมือทำการบ้านอย่างขะมักเขม้น รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาวางมือทาบลงที่ไหล่ทั้งสองข้างของผม
 
       นี่เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
 
        เฮือก!
 
      เขาก้มหน้าลงมาจนริมฝีปากของเขาแทบจะชิดกับใบหูของผม เสียงกระซิบเรียบนิ่งที่แสนไร้อารมณ์ของผู้เป็นพ่อทำให้ตัวผมแข็งทื่อ มือเย็นเฉียบก่อนจะลามไปทั่วร่าง ขนลุกซู่เมื่อลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่าลดต้นคอ
 
      “อยากนอนกอด”
 
       ตอนนี้เขาทำให้ผมกลัวเขาจับใจเลยล่ะ
    
       D A I P S.
//กลับมาอัพแล้วค่า ตอนนี้ก็ยังคงความหลอนของคุณพ่อแสนรักนะคะ ฮา
ตอนนี้พิเศษขึ้นมาหน่อยคือตัวละครรพีมีบทบาทมากขึ้น อะไรคือการที่ให้พระเอกออกโรงนิดเดียวแต่ให้พระรองออกเยอะ เหอๆ อ่านมาถึงตอนนี้เราก็จะเห็นนิสัยหลายๆอย่างของแสนรักเพิ่มขึ้นนะคะ อย่างตอนหนึ่งถึงตอนสามเนี่ย จะเห็นว่าเขาดูเหมือนพวกนิ่งๆ เออ แต่ก็นิ่งจริงๆแหละ แสนรักเป็นพวกอ่อนไหวง่ายนะคะหากเป็นเรื่องน้องชาย เอาเป็นว่าอะไรที่เกี่ยวกับน้องชายนางพร้อมจะน้ำตาไหลจ้า
ฝากเม้น ไลค์และโหวตให้เค้าด้วยนะตัวเอง ฝากแฟนเพจเฟซบุ้คเค้าด้วย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนิยายของเขานะ รักที่ฉุดเย้ยยยยยย!!
      

Fiction Daizem

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา