Devil heartless ปีศาจร้าย หัวใจทศกัณฐ์
6.2
เขียนโดย kukkig
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.55 น.
8 ตอน
0 วิจารณ์
10.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560 13.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ปีศาจร้ายออกโรง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็เรียนจบแล้ว แต่ว่าความรักของเราสองคนยังไม่จบนะ ฉันกับพี่ไทเทรักกันมากจนถึงขั้นที่ฉันจะฝากชีวิตไว้กับคนนี้คนที่รักฉัน และฉันก็รักเขาจนหมดหัวใจ และวันที่ฝันร้ายมันก็มาถึง.............................................................................................
“ไม่ เกลไม่แต่งกับคนนั้นเด็ดขาด คุณพ่ออย่ามาบังคับเกลนะคะ”
“แกต้องแต่ง ถ้าแกไม่แต่งบริษัทเราต้อ...” พ่อหยุดพูดทันที ที่แม่ยกมือห้าม
“เกล ลูกขึ้นไปบนห้องก่อนไป ส่วนคุณรออยู่นี่ฉันจะขึ้นไปพูดกับลูกเอง”
บ้า บ้า บ้า อยู่ดีๆคุณพ่อที่แสนจะมีเหตุผลของฉันไปไหนอยู่ดีๆก็มาบังคับให้ฉันแต่งงานทั้งๆที่รู้ว่าฉันรักอยู่กับพี่ไทเท
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญคะ” หลังจากแม่เปิดประตูเข้ามา ฉันก็หันไปคว้าเจ้าสุขใจมากอดไว้
“เกล แม่รู้นะว่าลูกไม่อยากแต่งงานคือ..”
“คืออะไรคะแม่ พูดมาคะเกลไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพากันมาบังคับเกล”
“บริษัทเรากำลังล้มละลาย เกลเท่านั้นที่จะช่วยบริษัท ช่วยพ่อ ช่วยแม่ ช่วยบ้านของเราได้นะลูก”
“อะไรๆก็อ้างบริษัท อ้างพ่อป่วยอย่างนั้นป่วยอย่างนี้อย่างกับละครช่องต่างๆที่น้ำเน่าขายลูกสาวกิน”
“เกล ลูกพูดอะไรออกมาเอาล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกจะเปลี่ยนใจเองแม่ขอตัวหล่ะน่ะ” คุณแม่ลุกออกไปแทบจะไม่มองหน้าฉันพร้อมเสียงสะอื้นเบาๆ นี่ฉันพูดแรงใส่ท่านเกินไปหรือเปล่า ควรจะออกไปขอโทษท่านดีไหม
แต่ครืด ครืด (เสียงโทรศัพท์)พี่ไทเท
เฮ้อฉันจะรับแล้วพูดเรื่องที่โดนบังคับแต่งงานดีไหมนะ ถ้าพี่เขารู้จะเสียใจเหมือนฉันไหมนะ
ถ้าไม่รับเขาต้องคิดว่าฉันงอนแน่ รับก็รับ“สวัสดีคะ พี่ไท”
“พี่รักเกลนะ” ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด
อ้าวโทรมาบอกแค่เนี่ยลองโทรกลับไปดีกว่า
“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งคะ”
โอ้ย วันนี้มันเป็นวันอะไรของฉันเนี่ย
เช้าวันรุ่งขึ้น“แม่เรียกเกลมาแต่เช้ามีเรื่องไรคะ”
เอาตรงๆนะจุดนี้ฉันแทบไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น
“เดี๋ยวลูกก็รู้ เรียกสองคนนั้นเข้ามาได้ล่ะ”
“คะคุณผู้หญิง” หลังจากนั้นก็มีสองชายหญิงเดินเข้ามาซึ่งฉันก็ไม่ค่อยสนใจมากซักเท่าไหร่หรอกจนกระทั่ง มีเสียงที่คุ้นหูมาก
ฉันเงยหน้ามองขึ้นเพื่อที่จะได้ดูหน้าตา
เสียงผู้ชายคนนั้นและวินาทีนั้นฉันยืนขึ้นพร้อมกับสงสัยว่ามาทำไม
“พี่ไทเทมาทำอะไรคะ” ฉันพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเพราะภาพที่ฉันเห็นคือภาพที่พี่ไทเทนั่งลงพร้อมกับจับมือพี่เนม พยายามคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองคิด
พยายามที่จะไม่เข้าใจ เพราะกลัวเหลือเกินกับคำตอบที่จะได้ยิน
หลังจากนั้นพ่อและแม่พี่ไทเทก็เดินตามหลังมาติดๆ“สวัสดีจ้าหนูเกล”
แม่พี่ไทเทกล่าวทักทายฉัน ฉันจึงยกมือไหว้ตอบแต่ไม่พูดอะไรมากเพราะกลัวเสียงจะสั่นไปมากกว่านั้น“เอาล่ะ มากันครบแล้ว จะเอาฤกษ์วันก็บอกผมได้นะ ส่วนแขกก็เชิญคนรู้จักและญาติพี่น้องเรื่องสินสอดก็พูดมาเลย”
“เดี๋ยวนะคะฤกษ์และ เชิญแขกอีกทั้งจะยังเรื่องสินสอดนี่มันเรื่องอะไรกันคะ เกลไม่เข้าใจ”
ดวงตาของฉันเริ่มร้อนผ่าวเหมือนน้ำในตามันฟ้องว่าพร้อมที่จะไหล เสียงของฉันเริ่มจะไม่เสียงเล็ดลอดเพื่อที่จะถามคำถามต่อไป
“พี่สาวของเรากับไทเทกำลังจะแต่งงานกันจ้าลูก” แม่ผู้ที่เงียบมาตลอดทางเป็นคนตอบฉัน “อะไรนะคะจะแต่งงานกัน ทำไมคะ เกลถามว่าทำไม” น้ำตาของฉันเริ่มไหลลงช้าๆ
“ทำไมไม่มีใครตอบเกลคะ พูดสิคะว่าทำไมต้องแต่งงานกัน ” ทุกคนเงียบไม่มีใครตอบตอนนี้น้ำตาของฉันเริ่มไหลลงมาเรื่อยๆ หัวใจของฉันมันเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“เงียบทำไมคะ แต่งกันทำไม ทำไมเกลไม่รู้ ทุกคนก็รู้ว่าเกลกับพี่ไทรักกันแต่ทำไมทุกคนทำกับเกลแบบนี้คะ ” ตอนนี้ทุกคนหลบสายตาฉันหมด ไม่มีใครตอบฉันจนกระทั่ง
“พี่ท้อง คำตอบชัดไหมเกล”
วินาทีที่ได้ยินเสียงพี่สาวที่ฉันรัก ที่ฉันเคารพเหมือนแม่คนที่สอง ยิ่งทำให้ใจมันแตกสลาย ฉันแทบจะยืนไม่ไหว เสียงสะอื้นพร้อมคำขอโทษพรรณาๆต่างที่ออกจากปากพี่สาวที่ฉันรัก ฉันแทบไม่อยากฟังมันพังหมดแล้วความรู้สึกของฉัน
พี่ไทเทที่นั่งนิ่งมานานก็เอ่ยคำพูดที่แสนจะโหดร้ายออกมา
“พอเนมไม่ใช่ความผิดเธอ พี่ขอโทษเกลมันเป็นความผิดพี่เอง พี่ขอโทษ”
“พอออ!!!! เกลไม่อยากฟัง ทุกคนทำร้ายจิตใจของเกล เกลเกลียดทุกคน”
ฉันรีบวิ่งออกมาจากที่ที่ทำร้ายจิตใจฉัน ฉันไม่รู้ว่าล้มไปกี่ครั้ง
รองเท้าฉันได้สวมใส่ไหมตอนออกมาจากบ้าน
ฉันวิ่งมาไกลมากเหลือเกิน มันไกลจริงๆ
เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงท้องฟ้าเริ่มคำรามแต่ทำไมมันไม่น่ากลัวเท่ากับคนหลอกลวงน่ะ
ฉันวิ่งมาที่สนานเด็กเล่นฉันมานั่งตรงชิงช้าอันเก่าๆที่ไกล้ทรุดโทรมทุกที และความทรงจำในวัยเด็กของฉันมันกลับผุดขึ้นมาในสมอง
“พี่เนมๆคะชิงช้าอันนี้มันของเกล พี่ห้ามมาแย่งที่ของเกลนะ”
“อื้ออะไรที่เป็นของเกล พี่ไม่แย่งหรอกยัยเด็กดื้อ”
“สัญญานะ”
“สัญญาสิ”
ซ่า ซ่า (เสียงฝน)
ฉันรีบเดินเพื่อที่จะไปหาที่หลบฝนแต่..
ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด!!!ตุ๊บ
ทำไมหัวของฉันมันปวดอย่างนี้นะ
แขนและขาของฉันก็ด้วย มันเจ็บ มันปวด
แต่ทำไมมันเจ็บไม่เท่ากับใจของฉันนะ “น้องเกล น้องเกลได้ยินพี่ไหม”
เสียงนี้อบอุ่นจัง เขาเรียกชื่อฉัน เขาต้องรู้จักฉันแน่ๆเลยฉันพยายามลืมตาขึ้น
และภาพที่ฉันเห็นคือผู้ชายคนนั้น คนที่ฉันเก็บเขาไว้จนลึกสุดใจคนที่พยายามลืม..
“พี่ออสการ์” ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเบาเรียกเขาเอาไว้
ก่อนที่ฉันจะหลับไหลไปนานแสนนานหวังว่าเขาจะได้ยินเสียงเรียกจากฉันนะ
ยามใดที่มีปัญหา ทำไมต้องเป็นเขาที่เข้ามาช่วยเหลือตลอดนะ
“ไม่ เกลไม่แต่งกับคนนั้นเด็ดขาด คุณพ่ออย่ามาบังคับเกลนะคะ”
“แกต้องแต่ง ถ้าแกไม่แต่งบริษัทเราต้อ...” พ่อหยุดพูดทันที ที่แม่ยกมือห้าม
“เกล ลูกขึ้นไปบนห้องก่อนไป ส่วนคุณรออยู่นี่ฉันจะขึ้นไปพูดกับลูกเอง”
บ้า บ้า บ้า อยู่ดีๆคุณพ่อที่แสนจะมีเหตุผลของฉันไปไหนอยู่ดีๆก็มาบังคับให้ฉันแต่งงานทั้งๆที่รู้ว่าฉันรักอยู่กับพี่ไทเท
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญคะ” หลังจากแม่เปิดประตูเข้ามา ฉันก็หันไปคว้าเจ้าสุขใจมากอดไว้
“เกล แม่รู้นะว่าลูกไม่อยากแต่งงานคือ..”
“คืออะไรคะแม่ พูดมาคะเกลไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพากันมาบังคับเกล”
“บริษัทเรากำลังล้มละลาย เกลเท่านั้นที่จะช่วยบริษัท ช่วยพ่อ ช่วยแม่ ช่วยบ้านของเราได้นะลูก”
“อะไรๆก็อ้างบริษัท อ้างพ่อป่วยอย่างนั้นป่วยอย่างนี้อย่างกับละครช่องต่างๆที่น้ำเน่าขายลูกสาวกิน”
“เกล ลูกพูดอะไรออกมาเอาล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกจะเปลี่ยนใจเองแม่ขอตัวหล่ะน่ะ” คุณแม่ลุกออกไปแทบจะไม่มองหน้าฉันพร้อมเสียงสะอื้นเบาๆ นี่ฉันพูดแรงใส่ท่านเกินไปหรือเปล่า ควรจะออกไปขอโทษท่านดีไหม
แต่ครืด ครืด (เสียงโทรศัพท์)พี่ไทเท
เฮ้อฉันจะรับแล้วพูดเรื่องที่โดนบังคับแต่งงานดีไหมนะ ถ้าพี่เขารู้จะเสียใจเหมือนฉันไหมนะ
ถ้าไม่รับเขาต้องคิดว่าฉันงอนแน่ รับก็รับ“สวัสดีคะ พี่ไท”
“พี่รักเกลนะ” ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด
อ้าวโทรมาบอกแค่เนี่ยลองโทรกลับไปดีกว่า
“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งคะ”
โอ้ย วันนี้มันเป็นวันอะไรของฉันเนี่ย
เช้าวันรุ่งขึ้น“แม่เรียกเกลมาแต่เช้ามีเรื่องไรคะ”
เอาตรงๆนะจุดนี้ฉันแทบไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น
“เดี๋ยวลูกก็รู้ เรียกสองคนนั้นเข้ามาได้ล่ะ”
“คะคุณผู้หญิง” หลังจากนั้นก็มีสองชายหญิงเดินเข้ามาซึ่งฉันก็ไม่ค่อยสนใจมากซักเท่าไหร่หรอกจนกระทั่ง มีเสียงที่คุ้นหูมาก
ฉันเงยหน้ามองขึ้นเพื่อที่จะได้ดูหน้าตา
เสียงผู้ชายคนนั้นและวินาทีนั้นฉันยืนขึ้นพร้อมกับสงสัยว่ามาทำไม
“พี่ไทเทมาทำอะไรคะ” ฉันพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเพราะภาพที่ฉันเห็นคือภาพที่พี่ไทเทนั่งลงพร้อมกับจับมือพี่เนม พยายามคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองคิด
พยายามที่จะไม่เข้าใจ เพราะกลัวเหลือเกินกับคำตอบที่จะได้ยิน
หลังจากนั้นพ่อและแม่พี่ไทเทก็เดินตามหลังมาติดๆ“สวัสดีจ้าหนูเกล”
แม่พี่ไทเทกล่าวทักทายฉัน ฉันจึงยกมือไหว้ตอบแต่ไม่พูดอะไรมากเพราะกลัวเสียงจะสั่นไปมากกว่านั้น“เอาล่ะ มากันครบแล้ว จะเอาฤกษ์วันก็บอกผมได้นะ ส่วนแขกก็เชิญคนรู้จักและญาติพี่น้องเรื่องสินสอดก็พูดมาเลย”
“เดี๋ยวนะคะฤกษ์และ เชิญแขกอีกทั้งจะยังเรื่องสินสอดนี่มันเรื่องอะไรกันคะ เกลไม่เข้าใจ”
ดวงตาของฉันเริ่มร้อนผ่าวเหมือนน้ำในตามันฟ้องว่าพร้อมที่จะไหล เสียงของฉันเริ่มจะไม่เสียงเล็ดลอดเพื่อที่จะถามคำถามต่อไป
“พี่สาวของเรากับไทเทกำลังจะแต่งงานกันจ้าลูก” แม่ผู้ที่เงียบมาตลอดทางเป็นคนตอบฉัน “อะไรนะคะจะแต่งงานกัน ทำไมคะ เกลถามว่าทำไม” น้ำตาของฉันเริ่มไหลลงช้าๆ
“ทำไมไม่มีใครตอบเกลคะ พูดสิคะว่าทำไมต้องแต่งงานกัน ” ทุกคนเงียบไม่มีใครตอบตอนนี้น้ำตาของฉันเริ่มไหลลงมาเรื่อยๆ หัวใจของฉันมันเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“เงียบทำไมคะ แต่งกันทำไม ทำไมเกลไม่รู้ ทุกคนก็รู้ว่าเกลกับพี่ไทรักกันแต่ทำไมทุกคนทำกับเกลแบบนี้คะ ” ตอนนี้ทุกคนหลบสายตาฉันหมด ไม่มีใครตอบฉันจนกระทั่ง
“พี่ท้อง คำตอบชัดไหมเกล”
วินาทีที่ได้ยินเสียงพี่สาวที่ฉันรัก ที่ฉันเคารพเหมือนแม่คนที่สอง ยิ่งทำให้ใจมันแตกสลาย ฉันแทบจะยืนไม่ไหว เสียงสะอื้นพร้อมคำขอโทษพรรณาๆต่างที่ออกจากปากพี่สาวที่ฉันรัก ฉันแทบไม่อยากฟังมันพังหมดแล้วความรู้สึกของฉัน
พี่ไทเทที่นั่งนิ่งมานานก็เอ่ยคำพูดที่แสนจะโหดร้ายออกมา
“พอเนมไม่ใช่ความผิดเธอ พี่ขอโทษเกลมันเป็นความผิดพี่เอง พี่ขอโทษ”
“พอออ!!!! เกลไม่อยากฟัง ทุกคนทำร้ายจิตใจของเกล เกลเกลียดทุกคน”
ฉันรีบวิ่งออกมาจากที่ที่ทำร้ายจิตใจฉัน ฉันไม่รู้ว่าล้มไปกี่ครั้ง
รองเท้าฉันได้สวมใส่ไหมตอนออกมาจากบ้าน
ฉันวิ่งมาไกลมากเหลือเกิน มันไกลจริงๆ
เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงท้องฟ้าเริ่มคำรามแต่ทำไมมันไม่น่ากลัวเท่ากับคนหลอกลวงน่ะ
ฉันวิ่งมาที่สนานเด็กเล่นฉันมานั่งตรงชิงช้าอันเก่าๆที่ไกล้ทรุดโทรมทุกที และความทรงจำในวัยเด็กของฉันมันกลับผุดขึ้นมาในสมอง
“พี่เนมๆคะชิงช้าอันนี้มันของเกล พี่ห้ามมาแย่งที่ของเกลนะ”
“อื้ออะไรที่เป็นของเกล พี่ไม่แย่งหรอกยัยเด็กดื้อ”
“สัญญานะ”
“สัญญาสิ”
ซ่า ซ่า (เสียงฝน)
ฉันรีบเดินเพื่อที่จะไปหาที่หลบฝนแต่..
ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด!!!ตุ๊บ
ทำไมหัวของฉันมันปวดอย่างนี้นะ
แขนและขาของฉันก็ด้วย มันเจ็บ มันปวด
แต่ทำไมมันเจ็บไม่เท่ากับใจของฉันนะ “น้องเกล น้องเกลได้ยินพี่ไหม”
เสียงนี้อบอุ่นจัง เขาเรียกชื่อฉัน เขาต้องรู้จักฉันแน่ๆเลยฉันพยายามลืมตาขึ้น
และภาพที่ฉันเห็นคือผู้ชายคนนั้น คนที่ฉันเก็บเขาไว้จนลึกสุดใจคนที่พยายามลืม..
“พี่ออสการ์” ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเบาเรียกเขาเอาไว้
ก่อนที่ฉันจะหลับไหลไปนานแสนนานหวังว่าเขาจะได้ยินเสียงเรียกจากฉันนะ
ยามใดที่มีปัญหา ทำไมต้องเป็นเขาที่เข้ามาช่วยเหลือตลอดนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ