Love...The Criminal : รักร้ายของยัยนักฆ่า(18+)

8.8

เขียนโดย Kyoso12

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 21.56 น.

  12 chapter
  3 วิจารณ์
  12.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2560 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) เดินทางสู่เกาะสวรรค์ของสองเรา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
(1 อาทิตย์ต่อมา)
 
               ในตอนนี้ทั้งฉันและลุคกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินชั้น Frist Class สุดหรูเพื่อเดินทางไปยังเกาะฮาวาย แค่นึกภาพตอนที่ฉันกับเค้ากำลังบรรเลงเพลงรักกันแค่นี้ก็ทำให้ฉันรู้หน้าแดงจนจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ แต่ก็เอาเถอะยังไงซะฉันก็ต้องรีบใช้วันพักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนที่จะกลับไปเริ่มแผนการที่ฉันได้เตรียมเอาไว้
 
“ไม่คิดว่าคุณจะลาหยุดงานได้เลยนะเนี่ย”
 
“ก็ฉันทำงานไม่ได้พักเลยนี่จะได้พักสักหน่อยก็ไม่เห็นแปลก”
 
“ดีแล้ว ถ้าไม่เกรงใจว่าตอนนี้เราอยู่บนเครื่องบินนะป่านนี้แล้วเราคงจะจัดหนักกันไปแล้วมั้ง”
 
“แหม อย่าบอกนะว่ามีอารมณ์อีกแล้ว”
 
“แค่ผมสบตากับคุณก็มีอารมณ์ได้แล้ว ยังจะต้องถามอะไรอีกละ”
 
   ลุคดึงมือของฉันไปกุมเอาไว้พร้อมกับสบตาฉันเล็กน้อย ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยช่วยให้ใบหน้าหล่อๆของเค้ามีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าเป็นสาวคนอื่นละก็คงจะฟินจนตัวลอยกันไปแล้วละ
 
   และฉันกำลังคิดว่าที่เค้าบอกรู้สึกว่ามีอารมณ์อาจจะเป็นเพราะชุดของฉันด้วยรึเปล่า เพราะในวันนี้ฉันอยู่ในชุดแขนยาวสีขาวตัวใหญ่ที่บางซะจนมองเห็นบิกินี่สีฟ้าน้ำทะเลที่อยู่ข้างใน
 
“แหม ไม่ทราบว่าชุดฉันด้วยรึเปล่าที่ทำให้คุณรู้สึกมีอารมณ์”
 
“นั่นก็มีส่วน...” ว่าแล้วลุคก็ค่อยเอื้อมตัวมาจูบฉันก่อนที่จะกลับไปนั่งแบบปกติของเค้าตามเดิม
 
   แหม...น่ารักจังเลยฉันว่าถ้าอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดชีวิตฉันก็โอเคนะแบบว่า ไม่ต้องทำอะไรมาก เราต่างก็คิดเห็นตรงกันแล้วถ้าไม่ติดเรื่องว่าเราอยู่ใกล้กันแล้วมีอารมณ์กันบ่อยๆก็คงจะคิดว่าเป็นเนื้อคู่กันไปแล้ว
 
“เฮ้อ ดีใจนะที่เราได้ออกมาหาเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้”
 
“เห็นด้วย แล้วคุณบอกแม็ทไปว่ายังไงละ”
 
“ฉันบอกเค้าไปว่าไปทัวร์ต่างประเทศของบริษัท ก็เท่านั้นเองและดูเหมือนว่าเค้าจะดีใจมากด้วย”
 
“มีเวลาไปควงสาวๆคนอื่นเพิ่มขึ้นไงจะดีใจก็ไม่เห็นแปลก”
 
“แล้ว....การที่คุณมาอยู่กับฉันละ” ฉันหันไปสบตากับลุคที่กำลังส่งสายตาหวานๆมาทางฉัน บ้าจริงใบหน้าหล่อๆของเค้าดูมีเสน่ห์จริงๆ ฉันเดาว่าถ้าอยู่เค้าบ่อยๆแล้วตกลงแต่งงานมีลูกด้วยกันฉันจะไม่แปลกใจเลย
 
“จะว่ายังไงดีละ เราดูเหมือนคู่รักที่รักและผมรู้สึกดีมากที่ได้มีคุณมาอยู่ที่นี่...ตรงนี้”
 
“จะให้ฉันลองแสดงแบบนั้นดูมั้ยละ” ฉันขยิบตาใส่ลุคพร้อมกับยิ้มอ่อนเล็กน้อย
 
“ก็ลองดูสิ” หลังจากที่ลุคพูดจบฉันก็ลุกขึ้นขึ้นจากเก้าอี้ของฉันไปนั่งลงบนตกของลุคพร้อมกับใช้มือทั้ง2ข้างกอดคอของเค้าเอาไว้
 
“แบบนี้เป็นไงบ้างละ”
 
“เฮ้อ ทำจริงหรอเนี่ย”
 
“ก็ทำจริงสิ....” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาข้างๆหูของเค้า
 
“อย่ายั่วผมให้มากนักสิคนสวย...”
 
      ว่าแล้วลุคก็บรรจงจูบฉันอย่างนิ่มนวล ชวนให้ฉันรู้สึกเคลิ้มมาก พระเจ้าช่วย! นี่เรากำลังสวีทกันบนเครื่องบินท่ามกลางสายตาของแอร์โฮสเตสและผู้โดยสารคนอื่นๆเชียวนะ!!! ลุคผละริมฝีออกจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นหอมเข้าที่แก้มซ้ายแก้มขวาของฉัน เล่นเอารู้สึกจั๊กจี้เป็นบ้าเลย!!!!
 
“ให้ตายสิลุคฉันจั๊กจี้นะ!!!!”
 
“แหม ก็คุณน่ารักจนผมอดใจไว้ไม่ไหวเลยนี่นา!” ลุคหอมไปที่ต้นคอของฉันอีกฟอดใหญ่เล่นเอาสายตาของผู้โดยสารคนอื่นๆต้องหันกันมามองเราเป็นตาเดียวเลยละ แหม แบบนี้ฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะ!
 
“เอ่อ....ขอประทานโทษนะคะ เครื่องบินใกล้จะลงแล้ว กรุณาช่วยกลับไปนั่งตามเดิมแล้วก็รัดเข็มขัดด้วยนะคะ” แอร์สาวเข้ามาบอกฉันด้วยท่าทางที่ยิ้มแย้มแจ่มใสแต่แววตาแฝงไปด้วยอารมณ์โกรธแบบสุดๆ
 
“อุ๊ย! ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าเราตื่นเต้นกันมากเลยคะ ก็เลยอาจจะรบกวนสักนิดนึงนะคะ เอาเป็นขอบคุณที่มาเตือนนะคะ” ฉันหันไปฉีกยิ้มใส่แอร์สาวที่กำลังยิ้มอย่าง(ไม่)เป็นมิตร
 
“ด้วยความยินดีคะ”
 
“ที่รักฉันต้องไปนั่งที่เดิมแล้วนะ” ฉันทำเสียงอ่อดอ้อนใส่ลุค
 
“ครับที่รักเดี๋ยวเรานั่งจับมือกันไว้นะ” ลุคจุ๊บฉันหนึ่งทีก่อนที่ฉันจะกลับไปนั่งเก้าอี้ของฉันตามเดิมจากนั้นแอร์สาวคนนี้ก็เดินจากไปเพื่อทำหน้าที่ของเธอต่อ เล่นเอาฉันกรอกตาขึ้นบนอยู่หลายรอบก่อนที่จะถอนหายใจ
 
“พูดเลี้ยนๆแบบนี้ก็เป็นด้วยหรอคนแบบคุณเนี่ย”
 
“เป็นสิ ทำไมหรอ”
 
“ไม่น่าเชื่อ....เห็นคุณหน้าตาขรึมๆไงเลยไม่นึกว่าจะทำได้ก็เลยรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย”
 
“เฮ้อ....รู้มั้ยว่าผมมีอะไรให้คุณรู้สึกแปลกใจอีกเยอะ”
 
      ลุคหันมาทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ฉันพร้อมกับดึงมือของฉันขึ้นมาจุมพิตเบาๆ เพื่อให้ฉันเห็นว่าเค้าสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง ลมหายใจร้อนๆของเค้ากระทบกับหลังมือของฉัน นั่นทำให้ฉันรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าที่แดงระเรื้อราวกับเด็กสาวที่กำลังมีความรัก นี่มันไม่ใช่ตัวฉันเลยนะ!!!
 
“อย่าทำแบบนี้สิ ถ้าเกิดฉันหลงคุณขึ้นมาจะทำยังไงละ”
 
“อื้ม....ก็คงจะต้องให้คุณลาออกจากงานมาเป็นภรรยาของผมไง”
 
“ปากหวานอีกแล้วนะ พอได้แล้ว!! ค่อยไปคุยกันต่อที่โรงแรมนะ”
 
“ได้...”
      พวกเราหันมายิ้มให้กันเล็กน้อยจากนั้นก็รอเวลาให้เครื่องบินจอดลงไปให้เรียบร้อยดีเสียก่อนที่เราจะจัดการยกกระเป๋าสัมภาระลงจากเครื่อง โหลดกระเป๋าใบใหญ่ให้เสร็จจากนั้นก็มุ่งตรงไปโบกแท็กซี่ที่รอพวกเราอยู่หน้าสนามบิน
    แล้วก็ในระหว่างทางพวกแกล้งทำเป็นคู่รักหวานแหววจนน้ำตาลเรียกพี่เลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นแกล้งแอบหอมแก้ม หรือแม้แต่ทำน้ำเสียงอ่อดอ้อน ที่รัก ที่รักขา อะไรเงี้ยเล่นเอาฉันคลื่นไส้อยู่เหมือนกันส่วนลุคเองก็กระอั่กกระอ่วนพอๆกัน
    เราทำแบบนั้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงยังโรงแรมที่พักของเรา ซึ่งเป็นโรงแรมสไตล์ฮาวายแบบแท้ๆเลย ซึ่งเป็นโรงแรมที่ลุคจองเอาไว้ให้สำหรับการพักผ่อนในครั้งนี้
 
“สวยจังเลย....นี่หรอโรงแรมที่คุณจองเอาไว้”
 
“ใช่ ที่นี่แหละผมเห็นว่าโรงแรมสวยดีก็เลยจองเอาไว้” ลุคพูดขึ้นขณะที่กำลังขนกระเป๋าสัมภาระลงมาจากแท็กซี่
 
“โรแมนติกจังเลย ทำไมผู้ชายดีดีแบบนี้ถึงไม่มีแฟนได้ไงของดีแท้ๆเลยนะ”
 
“เฮ้อ...ลองมาเป็นบอดี้การ์ดแบบผมสิเดี๋ยวจะเข้าใจเอง” ลุคเดินมาทางฉันพร้อมกับส่งกระเป๋ามาทางฉัน
 
“ไม่เอาอ่ะ น่าเบื่อจะตายไป”
 
“ว่าแต่คุณพกกระเป๋ามาทำไมตั้ง 4 ใบเนี่ย”
 
“เอ้า!! ก็ฉันเป็นผู้หญิงนี่นาจะพกหลายใบก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
 
“แต่มันลำบากผม....”
 
“เอ้า!!! ก็ถูกแล้วนี่ถ้าคิดจะเป็นสามีฉันก็ต้องแบบนี้แหละ! ขนๆไปให้เด็กขนกระเป๋าแล้วไปเช็คอินกัน” ฉันพูดจาด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทจากนั้นจึงดีดหนึ่งครั้งเพื่อเป็นสัญญาณให้ลุคเดินตามฉันมา
 
“ได้ๆ....”
    ลุคทำหน้าเบื่อเล็กน้อยก่อนที่จะยอมเดินตามฉันมาแต่โดยดี ลุคและฉันส่งกระเป๋าให้เด็กขนกระเป๋าที่รอพวกเราอยู่ในล็อบบี้เรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงเดินไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์
 
   ลุคใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวของฉันเบาๆเพื่อให้เราดูเหมือนเป็นคู่รักยิ่งขึ้น ฉันจึงค่อยๆขยับตัวเข้าไปเบือดๆลุคอีกเล็กน้อย เล่นเอาพนักงานของที่นี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความหมั่นไส้ ฉันรู้ว่าคู่เรามันน่าอิจฉามากเพราะทั้งฉันและลุคเราต่างก็หน้าตาดีทั้งคู่จะเรียกว่าคู่หล่อสวยก็ได้นะ
 
“ห้องที่จองเอาไว้เป็นห้องสวีทนะคะ”
 
“ใช่ครับ”
 
“นี่เป็นคีย์การ์ดของห้องนะคะ ยังไงถ้าต้องการอะไรให้โทรแจ้งได้ ตลอด 24 ชม.เลยนะคะ” พนักงานสาวยื่นคีย์การ์ดที่มีหมายเลขห้องมาให้ลุคด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อยคงจะเขินหน้าตาของลุคละมั้ง นี่เธอฉันยังอยู่ตรงนี้นะ
 
“ขอบคุณครับ”
 
“ที่รักรีบไปกันเถอะ” ฉันคล้องแขนของลุคพร้อมกับทำเสียงอ่อดอ้อนเบาๆ เพื่อเป็นการขัดจังหวะยัยพนักงานบริการนั่น
 
“รู้แล้วครับคนสวยของผม” ลุคหยิบกุญแจห้องจากนั้นก็เดินตรงไปที่ลิฟต์เพื่อจะขึ้นไปยังห้องของเรา
 
กริ๊ง!!!!!!!!
 
   แม่เจ้า!!! นี่วันหยุดของฉันนะใครโทรมาอะไรตอนนี้เนี่ย!!! ฉันกรอกจาขึ้นบนพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาดูเมื่อรู้ว่าปลายสายของฉันก็คือลูซี่ เพื่อนซี้คนเดิมของฉันนั่นเอง!!! ซึ่งลุคที่อยู่ข้างๆฉันก็ได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะกดมือถือเพื่อรับสาย
 
“ฮัลโหล”
 
[เฮ้ยแก!!!!!! มีเรื่องด่วนละ!!!]
 
“เรื่องด่วนอะไรละ นี่มันวันหยุดพักผ่อนฉันนะ!!!!”
 
[ก็รู้แล้วไง!!! คืออย่างนี้นะ คือบอสสั่งให้ฉันมาบอกเธอว่าไม่ต้องทำงานให้บอสแล้วนะ]
 
“นี่บอสปลดฉันออกงั้นหรอ!”
 
[ถูกต้อง!!! บอสสั่งให้ฉันโอนเงินงวดสุดท้ายไปให้แกและจากนั้นแกคงจะรู้ดีนะว่ากฏของเรา...]
 
“คนโดนปลดออกจะถูกตามเก็บ....”
 
[ใช่แล้ว! ถูกต้อง!!! แต่ตอนนี้เธอมีบอดี้การ์ดคุ้มครองนี่ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรเนอะ!!]
 
“มีบอดี้การ์ดคุ้มครองงั้นหรอ....” ฉันได้แต่กัดฟันแน่นพร้อมกับกำมือถือแน่นจนมือถือของฉันแทบจะร้าวได้อยู่แล้ว
 
[เอาเป็นว่าขอให้โชคดีกับการโดนตามล่านะจ๊ะ!!!! ค่าหัวของเธอตอนนี้เป็น 150ล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อยแล้วละ...]
 
เมื่อจบประโยคของลูซี่ฉันก็จัดการกดวางสายทันที....เอาละฉันต้องใจเย็นก่อนอื่นฉันต้องรีบขึ้นไปยังห้องนอนของฉันเดี๋ยวนี้!!!!
 
“ไวโอเล็ต.......”
 
“เราต้องรีบขึ้นห้องเดี๋ยวนี้....”
 
“โอเค....”
 
    ลุครีบเข้ามาโอบตัวฉันเอาไว้จากนั้นจึงรีบพาฉันเข้าไปยังข้างในลิฟต์ ตัวของฉันสั่นเทาไปด้วยความกลัวแต่ถ้าไม่เพราะมีลุคอยู่ข้างๆฉันก็คงจะสติแตกมากกว่านี้
   ยัยลูซี่คอยดูนะฉันจะกลับไปเก็บหล่อนเป็นคนแรกเลยคอยดูสิ!!! เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกฉันจึงมุ่งตรงไปยังห้องพักของเรา เปิดประตูเข้าไปเช็คทุกอย่าง ทุกซอกทุกมุมเพื่อดูว่ามีเครื่องดักฟังหรือกล้องตัวจิ๋วหรือเปล่า
 
“เกิดอะไรขึ้น....” ลุคพูดขึ้นหลังจากที่ตามเข้ามาในห้องและปิดประตูเรียบร้อยแล้ว
 
“นั่งก่อนสิเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง” ฉันนั่งลงบนเตียงพร้อมกับกุมขมับเล็กน้อย โดยที่มีลุคมานั่งลงที่ข้างๆตัวฉัน
 
“เล่ามา....”
 
“คือฉัน....โดนพวกมันปลดออก”
 
“โดนปลดงั้นหรอแล้วทำไมคุณถึงต้องเครียดขนาดนั้นด้วยละ”
 
“มันไม่ใช่แค่ปลดออกนี่สิ กฏของกลุ่มฉันก็คือใครก็ตามที่โดนปลดออกจะต้องถูกเก็บและด้วยฝีมือของฉันก็เลยมีค่าหัวติดมาด้วย มันน่าตลกดีใช่มั้ยละ”
 
“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อ ให้ผมพาคุณหนีมั้ย”
 
“ไม่ๆ ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกแค่.....เก็บกวาดพวกนักฆ่าคนอื่นๆให้ครบก่อนจากนั้นค่อยหนีแต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็จะหาเราจนเจอให้ได้...”
 
“เฮ้อ งานช้างซะแล้ว!” ลุคบ่นขึ้นพร้อมกับล้มตัวนอนบน ฉันค่อยๆลุกขึ้นคลานไปนั่งคล่อมบนตัวของลุคที่กำลังนอนราบอยู่บนเตียง
 
“ทำไงได้ละ หรือจะเอาอย่างนี้ดีละพวกเราวางแผนกันจัดการองค์กรและคนที่เป็นต้นตอของเรื่องนี้กัน”
 
“อื้ม...ถ้าฝีมือของพวกเรา 2 คนก็น่าจะจัดการได้อยู่”
 
“ใช่ เรา 2 คนเก่งอยู่แล้วเพียงเราต้องหาอุปกรณืแล้วก็วางแผนนิดหน่อยเท่านั้นเอง หรือไม่ก็อาจจะหากำลังเสริมเพิ่ม”
 
“ไม่ต้องหรอก....แค่เรา 2 คนก็พอ” ลุคกดหลังของฉันเพื่อให้ฉันก้มลงไปใกล้ชิดกับเค้ามากขึ้นจนตอนนี้ลมร้อนของลมหายใจของเราทั้ง 2 คนกระทบกันแล้ว
 
“เฮ้....นี่นายไม่ใช่แฟนของฉันนะทำไมถึงได้ยอมช่วยขนาดนี้ละ”
 
“อื้ม จะว่ายังไงดี...ผมขาดคุณไม่ได้มั้ง”
 
“ถามจริงความรู้สึกของคุณเวลาอยู่ใกล้ฉันตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง”
 
“ก็ไม่รู้สิ....บางทีก็รู้สึกแปลก บางทีก็รู้สึกว่าคุณน่ารัก น่ารักทุกครั้งไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามและมันยิ่งทำให้รู้จักคุณมากขึ้น ไวโอเล็ตถึงคุณจะเป็นนักฆ่าแต่ข้างในหัวใจของคุณกลับทำให้ผมรู้สึกกันข้าม”
 
“นี่คุณกำลังจะบอกว่าหลงรักฉันงั้นหรอ”
 
“ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วคุณละ”
 
“ไม่รู้สิ ฉันยอมรับนะว่าแอบเขินเวลาคุณทำนู่นทำนี่ให้และก็แอบมีหัวใจเต้นแรงนิดหน่อย”
 
“แบบนี้ไงคุณถึงได้น่ารักไง” ลุคค่อยใช้มือของเค้าเกลี่ยเส้นผมของฉันอย่างเบามือที่สุด
 
“เราตกลงว่าไงละ”
 
“ผมจะช่วยให้คุณได้เป็นอิสระและชีวิตของคุณต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดูแลเอง แต่งงานกับผมได้มั้ย”
 
     ลุคหยิบแหวนเพชรที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาขอฉันแต่งงานในสภาพนอนแบบนี้เนี่ยนะ!!!!!!! พระเจ้า!!!!! ดิฉันนึกไม่ถึงเลยคะ!!!!!!! ข้ามขั้นกันแบบนี้เลยหรอ!!! และตอนนี้สีหน้าของฉันเองก็ช็อคมาก ช็อคจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
 
“ลุค....ขอแต่งงานกันแบบนี้เลยหรอ!”
 
“แล้วตกลงจะแต่งมั้ยละ”
 
“คือ....” ฉันพูดไม่ออกเลยตอนนี้ฉันหน้าแดงจนไม่รู้จะพูดยังไงฉันได้แต่ก้มหน้าซบไปที่อกของลุค ทั้งเขินและก็ดีใจไปพร้อมๆกัน
 
“หืม...เป็นอะไรไปไวโอเล็ต” ลุคใช้มือข้างที่ถือแหวน เชยคางของฉันขึ้นเพื่อให้มองหน้าเค้า
 
“ตาบ้า!! แฟนก็ยังไม่ได้เป็นมาขอแต่งงานแบบนี้ได้ไงนิสัยเสีย!!!”
 
“เฮ้อ อายุขนาดนี้แล้วถ้าไม่รีบขอเดี๋ยวจะมาคว้าเอาไปนะ ตกลงว่าไงจะแต่งงานกับผมมั้ย”
 
“เสร็จจากงานนี้ก่อนแล้วค่อยขอฉันแต่งงานอีกรอบได้มั้ย ตอนนี้ฉันว่ามันยังไม่ได้ช่วงเวลาที่โอเคสักเท่าไหร่นะ”
 
“ถ้างั้นก็ได้ งั้นผมจะเอาแหวนวงนี้ไปไว้ไหนดีละ”
 
“อืม......เอาไว้เป็นจี้ห้อยคอก่อนได้มั้ยละ”
 
“ได้ครับ...”
 
    ลุคยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะจูบฉันอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง แต่จูบครั้งนี้มันต่างออกไปจากครั้งก่อนๆเพราะมันออกมาจากความรู้สึก ความรู้สึกของเรา.....จากอารมณ์เปลี่ยนความรักที่ไม่ว่าใครก็คงจะไม่เคยเจอเหมือนกับเรา..........

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา