Call us The L.o.u.d.
9.8
เขียนโดย พาวจาพัจส์
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.44 น.
14 chapter 0
5 วิจารณ์
16.26K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2562 22.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) Friends
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ณ มุมที่มืดที่สุด ที่ซึ่งห่างไกลกาลเวลา...
ที่เส้นด้ายที่ถูกทอ สามารถเปลื่ยนแปลงได้อยู่เสมอ
แต่ก็ยังห่างไกลจากโชคซะตาที่ได้ถูกกำหนด
เชิงเทียน ได้แส่งแสงสว่าง ภายในห้องที่มืดมัว พร้อมด้วยกองไฟส่งแสงสว่างไสว
จากเตาผิง ที่ปรากฏให้เห็นชายผู้หนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำยาวดูน่าเกรงขาม
เพียงแต่รอยซีกขาดของผ้านั้น ทำให้มันดูไม่สวยงามนัก
เขาได้เดินเข้ามาบดบังแสงไฟจากเตาผิง แสงสะท้อนมาบนหน้าของเขา
เป็นใบหน้าของชายที่ดูสุขุม มีหนวดเคราประปราย
‘(ตึก... ) ’ เสียงฝีเท้าค่อยๆ ใกล้เข้ามา
“ มีอะไร ฉันนึกว่าเธอ- ” เขาหันมามอง แล้วพูดกับใครบางคน
ซองจดหมายจ่อมาที่หน้าของเขาเมื่อหันมองไป
“ เธอเริ่มจับทางได้แล้ว ” ด้วยแสงภายในห้องทำให้ไม่สามารถเห็นหน้าอีกฝ่ายได้
ชัดเจน แต่ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และเครื่องแต่งกายยุคกลางที่ดูรุงรัง
ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเป็นใครทันที
“ จดหมายเหรอ... ฉันเข้าใจ จากเธอคนนั้นอีกแล้วเหรอ... ” เขากำลังจะเปิดซอง
จดหมายออกมาอ่าน แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนอ่านก่อนเขาแล้ว
“ เธอกำลังมาที่นี่ ”
“ เธอไม่รู้รึไงว่าเรามี เหล่ากองทหารล้อมรอบเราอยู่ ” เขาพึมพำด้วยความกังวล
“ เราต้องไล่เธอ ”
“ เห๋? แต่นายท่านบอกว่า ‘การเสียมารยาทต่อผู้มาเยือนเป็นสิ่งที่ห้ามกระทำเป็นอัน
ขาด ”
“ ตอนนี้งานของพวกเราก็ล่นมือแล้ว ถ้าให้เธอเข้ามาป่วนพวกเราอีก คงจบไม่สวยแน่ ”
“ เราควรติดต่อนายท่านไหม?past”
“ ฉันว่าเราน่าจะรับมือด้วยเรื่องนี้ด้วยตัวเอง... ตอนนี้นายท่านไม่มีทั้งผู้นำทาง
องครักษ์ ท่านต้องรับมือทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ตอนนี้เราต้องรับมือกับเรื่องของเรา
ให้ดีที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ของที่นี่ ”
“ นั้นเป็น ความรับผิดชอบของเราเหรอ?”
“ ใช่ อาจเป็นแบบนั้น ”
‘ แหวะ ’ หลังจากที่เขาพูดจบ ก็เหมือนจะมีเสียง คล้ายคนกำลังอาเจียนออกมา
จากผู้ที่ เขาสนทนาด้วย
“ ตอนนี้ฉันยังกังวลอยู่ว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้ไหม ”
ณ มุมที่สว่างที่สุด ที่ซึ่งกาลเวลาได้ดำเนินไปไกล
ที่เส้นด้ายที่ถูกทอ สามารถเปลื่ยนแปลงได้
แต่ก็ยังมีบางโชคซะตาที่ได้ถูกกำหนด
Limbo เขาอยู่ในศูนย์อาหาร นั่งมองความมีชีวิตชีวาของที่นี่
กลุ่มมนุษย์และปีสาจนั่งร่วมโต๊ะกัน พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
รอยยิ้มที่ไม่มีเล่ห์เหลื่ยม
แต่ไม่ห่างจากสายตาของเขานัก ยังมีปีศาจบางตนถูกหยาม ที่นำมาซึ่งความเกียจชั่ง
กลุ่มมนุษย์ที่เดินผ่าน เหล่าปีศาจที่จองมองมาที่พวกเขา ได้แลกเปลื่ยนความเกียจชั่ง
limbo คิดว่านั้น อาจเป็นความเกียจชั่งครั้งแต่อดีต ที่ยังคงหลงเหลือ
หรือส่งต่อมายังรุ่นสู่รุ่น
แต่ความจริงที่ limbo ได้รับรู้นั้นคือ ไม่ว่านานแค่ไหน บางสิ่งก็คงอยู่ดั้งเดิม
‘หรือว่าข้าคิดผิดกันนะ?’
“ นี่พ่อหนุ่มน้อยนั่งคนเดียวเหรอ? ” limbo หันไปมองเสียงข้างตน
เด็กสาวเหรอ?
“ นี่ ฮานะ ดูสิเด็กคนนี้สิ น่ารักมากเลย ”
'มีอีกคนเหรอ?'
เหล่าหญิงสาวต่างพากันมายืน รุมล้อม ลิมโบไว้
“ ว้าว น่ารักจริงๆ ฉันขอหยิกแก้มเธอได้ไหม? ”
“ หา?” นี่คงเป็นเรื่องที่หาได้อยากที่ ลิมโบ ร้องเสียงหลงออกมา
มันคงไปแปลง เพราะในตอนนี้เขามีหน้าที่ดู หล่อเล้าต่างจากก่อนหน้านี้ ถ้ารวมกับ
ขนาดตัวและส่วนสูงของเขา มันก็คงไม่แปลงที่จะถูกมองว่าเป็นเด็ก นี่คงเป็นสถานการณ์
ที่แย่ที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เพียงแต่เมื่อก่อนเขายังมีเหล่า
อาครักษ์ คอยกีดกันคนเหล่านี้ให้ออกไป
‘ past ช่วยข้าด้วย.. ’
“ นี่พวกเธอช่วยออกมาจากเขาได้แล้ว ”
พวกเขามาแล้ว บากอส เอดัส และเชอา เดินเข้ามาขัด
“ เชอา เธอเองก็อยากหยิกแก้มของเขาเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ” เด็กสาวในกลุ่มที่
รุมล้อม ถาม เชอา
“ ไม่! พวกเธอไปกัน ได้แล้วพวกเราจะนั่งตรงนี้กัน ”
“ จ้า ( = o = ) ” แล้วเหล่าเด็กสาวที่รวมกันเป็นวงล้อม ก็แยกย้ายไปนะที่ของตน
“ ขอบคุณนะ ” ลิมโบ เอยขึ้นเป็นมารยาท
เชอา ที่กำลังยืนอยู่จองมาที่ลิมโบ
“ มีอะไรงั้นเหรอ? ”
‘ คงจะนุ่มหน้าดู ’ เธอมองแก้ม
“ เชโกะ เธอไม่นั่งเหรอ?” เอดัสถาม ในขณะที่ เอดัสกับ บากอส ได้นั่งเป็นที่เรียบร้อย
แล้ว
“!” เธอนั่งลง พน้อมวางถาดใส่อาหารลง มันเงาเหมือนกระจก ขณะที่เป็นสีดำทึบ
มีขอบสีทองรอบถาด ทุกคนมีถาดแบบเดียวกัน เพียงแต่สีสันบนถาดนั้นแตกต่างกันไปตาม
บุคคล ลิมโบ เห็นทั้งสามกินสิ่งที่ไม่เหมือนกัน เพราะที่นี้ได้เตรียมรองรับอาหารทั้งทาง
ฝั่งปีศาจ และมนุษย์ ร้านอาหาร หรือร้านทั่วไปช่างมากมาย แบบว่าคงไม่ต้องกังวลเรื่อง
อาหารการกินกันเลยทีเดียว
“ ‘ทั้งสาม?’พวกคุณเห็น อิจฉิ รึเปล่า? ”
“ ก็นั้นไงเขาเดินมาแล้ว ” เอดัส ชี้ไปทาง อจฉิ ที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขา
“ ขอโทษครับ ผมมาช้าไปหน่อย ”
“ นายไม่ต้องกังวลหรอก หนึ่งในพวกเรา ได้นำหน้าไปก่อนแล้ว ”
เอดัส หันไปมองด้านซ้ายของเขา บากอส กำลังเขมือบ เบอร์เกอร์ทั้งก่อน มันใหญ่กว่า
มือทั้งสองข้างของ ลิมโบ ที่เอามาประกบกันเสียอีก มือและปากของเขาเลอะซอสบาง
อย่าง ที่เยิ้มออกมาจากเบอร์เกอร์
“ ( ,o_0 , ) มีอะไรเหรอ? ”
“ มีซอส เลอะหน้านายอีกแล้ว ลิมโบคุง ขอบคุณนะที่นั่งจองที่ให้ถ้าไม่มีนายวันนี้
เราคง ไม่มีที่นั่งแน่ๆ ”
“(เฮือก)” เสียงของการกลืนบางสิ่งมาจาก บากอส
“ ไม่ ฉันต้องขอบคุณนายต่างหาก ”
“ ? ” ลิมโบ ไม่เข้าใจทำไมพวกเขาต้องขอบคุณ
“ ปกติแล้วสองคนนี้ ต้องคอยหน้าที่สลับกันจ้องโต๊ะไว้ ไม่ให้ใครมาแย่งโต๊ะว่างก่อน
พวกเรา แล้ววันนี้เป็นหน้าที่ของบากอสที่ต้องทำ ”
“ นี่พวกนายคิดว่ามันไม่ยุติธรรมไหม? ” เอดัส หันมาถาม ลิมโบ กับ อิจฉิ
“ อะไรไม่ยุติธรรมเหรอครับ?” อิจฉิ ถาม
“ ก็... ถึงทั้ง ฉันและบากอส สลับกันจองโต๊ะก็จริง แต่ เชโกะ ก็ไม่เคยมาจองโต๊ะ
เหมือนกับพวกเราเลย เธอรู้รึไงว่าฉันต้องลำบากขนาดไหน การที่ต้องมานั่งรอเธอไป
ซื้ออาหาร ตั้งนาน! โดยที่ฉันไม่ได้มีเวลามากินอาหารเช้าแบบเธอนะ ”
“ วันนี้ฉันก็ไม่ได้กิน ” บากอส ต่อประโยค
“ คุณไม่เคยกินอาหารเช้าเลยเหรอครับ ”
“ ใช่ก็ที่บ้านของฉันนะต้องคอยจัดการกับเรื่อง- ” เชอา ใช้มือของเธอสวนไปที่
แก้มทางด้านขวาของ เอดัส แล้วดูเหมือนมือของเธอเริ่มส่องแสงสีฟ้าออกมา
แล้วสีมันเริ่มเข้มเรื่อยๆ
“ หยุดบ่นได้แล้ว ”
“ ครับ เข้าใจแล้วครับ ฮ่ะ ฮ่ะ... อา... ” เอดัส ถูกสยบโดยสิ้นเชิง
เธอเอามือ ออกจากแก้มของเขาแล้วแสงสีฟ้าก็ค่อยๆ จางลง
“ ขอโทษทีนะ ถ้าไม่หยุดหมอนี้จะบ่นไม่หยุดเลย เลยต้องห้ามด้วยวิธีนี้ ”
“ ฮ่ะ ฮะ... ผมคิดว่าจะโดนลูกหลงแล้ว ” อิจฉิ ถึงกับเหวอ ไปเลย นั้นเป็นเวทย์มนต์
ชนิดหนึ่งที่เขารู้จัก แต่ไม่ใช่กับ ลิมโบ
“ แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำหน้าที่จองโต๊ะเลยล่ะครับ? ”
“ ทำไมน่ะเหรอ?.. ก็เพราะฉันเป็นผู้หญิง ”
“ เอะ?” อิจฉิ และลิมโบอุทานออกมาพร้อมกัน
อิจฉิ คิดถึงเหตุผล ถ้าปล่อยให้คุณ เชอา นั่งคอย จนกว่าคุณเอดัสมา แล้วคุณ เชอา
ค่อยออกไปต่อแถว ซื้ออาหาร คุณเชอา คงไม่ไว้จริงๆ
“ คุณ ลิมโบ มีวิธีที่พอจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไหมครับ ”
ลิมโบ ดูเหมือนกำลังหันสนใจอย่างอื่นอยู่
เอดัส เริ่มยิ้มกว้าง
“ ว่าแต่ว่านะ อิจฉิคุง นายชอบกินสลัดใช่รึเปล่า?”
“ ใช่ครับ เอะ? ทำไมคุณถึงรู้ได้ล่ะ ”
“ ก็ปกติฉันจะชอบมองไปที่ร้าน อาหารพวกอาหารเพื่อสุขภาพกับไขมันต่ำน่ะ
พอดีสลัดผักกำลังเป็นเมนูที่นิยมกันในหมู่สาวๆ แล้วทุกๆวันฉันเห็นนายชอบ ไปต่อแถวนั้น
บ่อยๆ โดยปกติแล้วไม่ค่อยมีผู้ชายที่เข้าไปอยู่ในแถวที่มีแต่สาวๆรุมล้อมหรอกนะ ”
“ (อึก) ” อิจฉิ แสดงอาการ
“ อืมจะว่าไป เพื่อนของฉันที่ ชอบกินสลัด ก็พูดว่า ‘นั้นมันไอ้โรคจิตที่คอยแอบตาม
ทาโกะจังนี่น่า’ ประมาณนี้เหละ ”
“ เอ๋?!!”
“ นายไม่รู้เหรอ ”
“ ผมก็เคยได้ยินมาบ้าง ” สีหน้าของ อิจฉิ เริ่มหดหู่อย่างเห็นได้ชัด
“ เพราะงั้นนายก็เลยนั่งคนเดียวสินะ ในช่วงพักเที่ยง ” บากอส ออกมาพูดปิดท้าย แล้ว
ทั้ง เอดัส เชอาก็ เออ ออ ตามเขา
“ เดียวสิไหง พวกคุณมาพูดคุยเรื่องของผมกันล่ะ!!”
“ ฮะๆ ไม่ต้อง ห่วง พวกเราคิดว่านายไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ตอนนี้เราก็รู้จักแล้ว
ก็เท่ากับเป็นเพื่อนกัน เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกพวกเราจะช่วยขจัดความใจผิดเหล่า
นั้นให้เอง ! ” คำพูดของ เอดัส ฟังดูเป็นเหมือนคำพูดที่พูดเอาตลกหรือไม่ได้จริงจังอะไร
แต่ด้วยท่าทางและใบหน้าที่เปื่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นนั้น
ทำให้เขาดูเป็นที่น่าเชื่อถืออย่างน่าแปลงใจ
“ แต่อิจฉิก็ยังดีกว่าพวกผู้ชายที่ชอบขี้โม้ แถมพอถูกใช้งานก็บ่น แล้วยังถูกสาวๆ
เกียจขี้หน้า ไม่กล้าเขาใกล้เพราะมันชอบสอดส่องสายตามาทาง ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ”
“ อ่ะ เอดัส นั้นมันนายนี่นา ” บากอสบอก เอดัส
“ เอ่ะไหงวนมาเรื่องของฉันได้เนี่ย!! ” เอดัส โวยว้ายเสียงดังสุดๆ
“ ฮ่ะๆ (ไม่ใช่ผมคนเดียวสินะ)” อิจฉิ พึมพำ
“ นี่อิจฉิ เจ้าช่วยอธิบายให้ข้าใจหน่อยว่าทางนั้นมันคืออะไร ”
อิจฉิ มองไปยังทางที่ ลิมโบ นั้นได้มองมาครู่หนึ่งแล้ว
“ช่วยหลีกทางให้หน่อยได้ไหม”
“สวัสดีจ่ะ มา-เรีย”
ที่เส้นด้ายที่ถูกทอ สามารถเปลื่ยนแปลงได้อยู่เสมอ
แต่ก็ยังห่างไกลจากโชคซะตาที่ได้ถูกกำหนด
เชิงเทียน ได้แส่งแสงสว่าง ภายในห้องที่มืดมัว พร้อมด้วยกองไฟส่งแสงสว่างไสว
จากเตาผิง ที่ปรากฏให้เห็นชายผู้หนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำยาวดูน่าเกรงขาม
เพียงแต่รอยซีกขาดของผ้านั้น ทำให้มันดูไม่สวยงามนัก
เขาได้เดินเข้ามาบดบังแสงไฟจากเตาผิง แสงสะท้อนมาบนหน้าของเขา
เป็นใบหน้าของชายที่ดูสุขุม มีหนวดเคราประปราย
‘(ตึก... ) ’ เสียงฝีเท้าค่อยๆ ใกล้เข้ามา
“ มีอะไร ฉันนึกว่าเธอ- ” เขาหันมามอง แล้วพูดกับใครบางคน
ซองจดหมายจ่อมาที่หน้าของเขาเมื่อหันมองไป
“ เธอเริ่มจับทางได้แล้ว ” ด้วยแสงภายในห้องทำให้ไม่สามารถเห็นหน้าอีกฝ่ายได้
ชัดเจน แต่ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และเครื่องแต่งกายยุคกลางที่ดูรุงรัง
ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเป็นใครทันที
“ จดหมายเหรอ... ฉันเข้าใจ จากเธอคนนั้นอีกแล้วเหรอ... ” เขากำลังจะเปิดซอง
จดหมายออกมาอ่าน แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนอ่านก่อนเขาแล้ว
“ เธอกำลังมาที่นี่ ”
“ เธอไม่รู้รึไงว่าเรามี เหล่ากองทหารล้อมรอบเราอยู่ ” เขาพึมพำด้วยความกังวล
“ เราต้องไล่เธอ ”
“ เห๋? แต่นายท่านบอกว่า ‘การเสียมารยาทต่อผู้มาเยือนเป็นสิ่งที่ห้ามกระทำเป็นอัน
ขาด ”
“ ตอนนี้งานของพวกเราก็ล่นมือแล้ว ถ้าให้เธอเข้ามาป่วนพวกเราอีก คงจบไม่สวยแน่ ”
“ เราควรติดต่อนายท่านไหม?past”
“ ฉันว่าเราน่าจะรับมือด้วยเรื่องนี้ด้วยตัวเอง... ตอนนี้นายท่านไม่มีทั้งผู้นำทาง
องครักษ์ ท่านต้องรับมือทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ตอนนี้เราต้องรับมือกับเรื่องของเรา
ให้ดีที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ของที่นี่ ”
“ นั้นเป็น ความรับผิดชอบของเราเหรอ?”
“ ใช่ อาจเป็นแบบนั้น ”
‘ แหวะ ’ หลังจากที่เขาพูดจบ ก็เหมือนจะมีเสียง คล้ายคนกำลังอาเจียนออกมา
จากผู้ที่ เขาสนทนาด้วย
“ ตอนนี้ฉันยังกังวลอยู่ว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้ไหม ”
ณ มุมที่สว่างที่สุด ที่ซึ่งกาลเวลาได้ดำเนินไปไกล
ที่เส้นด้ายที่ถูกทอ สามารถเปลื่ยนแปลงได้
แต่ก็ยังมีบางโชคซะตาที่ได้ถูกกำหนด
Limbo เขาอยู่ในศูนย์อาหาร นั่งมองความมีชีวิตชีวาของที่นี่
กลุ่มมนุษย์และปีสาจนั่งร่วมโต๊ะกัน พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
รอยยิ้มที่ไม่มีเล่ห์เหลื่ยม
แต่ไม่ห่างจากสายตาของเขานัก ยังมีปีศาจบางตนถูกหยาม ที่นำมาซึ่งความเกียจชั่ง
กลุ่มมนุษย์ที่เดินผ่าน เหล่าปีศาจที่จองมองมาที่พวกเขา ได้แลกเปลื่ยนความเกียจชั่ง
limbo คิดว่านั้น อาจเป็นความเกียจชั่งครั้งแต่อดีต ที่ยังคงหลงเหลือ
หรือส่งต่อมายังรุ่นสู่รุ่น
แต่ความจริงที่ limbo ได้รับรู้นั้นคือ ไม่ว่านานแค่ไหน บางสิ่งก็คงอยู่ดั้งเดิม
‘หรือว่าข้าคิดผิดกันนะ?’
“ นี่พ่อหนุ่มน้อยนั่งคนเดียวเหรอ? ” limbo หันไปมองเสียงข้างตน
เด็กสาวเหรอ?
“ นี่ ฮานะ ดูสิเด็กคนนี้สิ น่ารักมากเลย ”
'มีอีกคนเหรอ?'
เหล่าหญิงสาวต่างพากันมายืน รุมล้อม ลิมโบไว้
“ ว้าว น่ารักจริงๆ ฉันขอหยิกแก้มเธอได้ไหม? ”
“ หา?” นี่คงเป็นเรื่องที่หาได้อยากที่ ลิมโบ ร้องเสียงหลงออกมา
มันคงไปแปลง เพราะในตอนนี้เขามีหน้าที่ดู หล่อเล้าต่างจากก่อนหน้านี้ ถ้ารวมกับ
ขนาดตัวและส่วนสูงของเขา มันก็คงไม่แปลงที่จะถูกมองว่าเป็นเด็ก นี่คงเป็นสถานการณ์
ที่แย่ที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เพียงแต่เมื่อก่อนเขายังมีเหล่า
อาครักษ์ คอยกีดกันคนเหล่านี้ให้ออกไป
‘ past ช่วยข้าด้วย.. ’
“ นี่พวกเธอช่วยออกมาจากเขาได้แล้ว ”
พวกเขามาแล้ว บากอส เอดัส และเชอา เดินเข้ามาขัด
“ เชอา เธอเองก็อยากหยิกแก้มของเขาเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ” เด็กสาวในกลุ่มที่
รุมล้อม ถาม เชอา
“ ไม่! พวกเธอไปกัน ได้แล้วพวกเราจะนั่งตรงนี้กัน ”
“ จ้า ( = o = ) ” แล้วเหล่าเด็กสาวที่รวมกันเป็นวงล้อม ก็แยกย้ายไปนะที่ของตน
“ ขอบคุณนะ ” ลิมโบ เอยขึ้นเป็นมารยาท
เชอา ที่กำลังยืนอยู่จองมาที่ลิมโบ
“ มีอะไรงั้นเหรอ? ”
‘ คงจะนุ่มหน้าดู ’ เธอมองแก้ม
“ เชโกะ เธอไม่นั่งเหรอ?” เอดัสถาม ในขณะที่ เอดัสกับ บากอส ได้นั่งเป็นที่เรียบร้อย
แล้ว
“!” เธอนั่งลง พน้อมวางถาดใส่อาหารลง มันเงาเหมือนกระจก ขณะที่เป็นสีดำทึบ
มีขอบสีทองรอบถาด ทุกคนมีถาดแบบเดียวกัน เพียงแต่สีสันบนถาดนั้นแตกต่างกันไปตาม
บุคคล ลิมโบ เห็นทั้งสามกินสิ่งที่ไม่เหมือนกัน เพราะที่นี้ได้เตรียมรองรับอาหารทั้งทาง
ฝั่งปีศาจ และมนุษย์ ร้านอาหาร หรือร้านทั่วไปช่างมากมาย แบบว่าคงไม่ต้องกังวลเรื่อง
อาหารการกินกันเลยทีเดียว
“ ‘ทั้งสาม?’พวกคุณเห็น อิจฉิ รึเปล่า? ”
“ ก็นั้นไงเขาเดินมาแล้ว ” เอดัส ชี้ไปทาง อจฉิ ที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขา
“ ขอโทษครับ ผมมาช้าไปหน่อย ”
“ นายไม่ต้องกังวลหรอก หนึ่งในพวกเรา ได้นำหน้าไปก่อนแล้ว ”
เอดัส หันไปมองด้านซ้ายของเขา บากอส กำลังเขมือบ เบอร์เกอร์ทั้งก่อน มันใหญ่กว่า
มือทั้งสองข้างของ ลิมโบ ที่เอามาประกบกันเสียอีก มือและปากของเขาเลอะซอสบาง
อย่าง ที่เยิ้มออกมาจากเบอร์เกอร์
“ ( ,o_0 , ) มีอะไรเหรอ? ”
“ มีซอส เลอะหน้านายอีกแล้ว ลิมโบคุง ขอบคุณนะที่นั่งจองที่ให้ถ้าไม่มีนายวันนี้
เราคง ไม่มีที่นั่งแน่ๆ ”
“(เฮือก)” เสียงของการกลืนบางสิ่งมาจาก บากอส
“ ไม่ ฉันต้องขอบคุณนายต่างหาก ”
“ ? ” ลิมโบ ไม่เข้าใจทำไมพวกเขาต้องขอบคุณ
“ ปกติแล้วสองคนนี้ ต้องคอยหน้าที่สลับกันจ้องโต๊ะไว้ ไม่ให้ใครมาแย่งโต๊ะว่างก่อน
พวกเรา แล้ววันนี้เป็นหน้าที่ของบากอสที่ต้องทำ ”
“ นี่พวกนายคิดว่ามันไม่ยุติธรรมไหม? ” เอดัส หันมาถาม ลิมโบ กับ อิจฉิ
“ อะไรไม่ยุติธรรมเหรอครับ?” อิจฉิ ถาม
“ ก็... ถึงทั้ง ฉันและบากอส สลับกันจองโต๊ะก็จริง แต่ เชโกะ ก็ไม่เคยมาจองโต๊ะ
เหมือนกับพวกเราเลย เธอรู้รึไงว่าฉันต้องลำบากขนาดไหน การที่ต้องมานั่งรอเธอไป
ซื้ออาหาร ตั้งนาน! โดยที่ฉันไม่ได้มีเวลามากินอาหารเช้าแบบเธอนะ ”
“ วันนี้ฉันก็ไม่ได้กิน ” บากอส ต่อประโยค
“ คุณไม่เคยกินอาหารเช้าเลยเหรอครับ ”
“ ใช่ก็ที่บ้านของฉันนะต้องคอยจัดการกับเรื่อง- ” เชอา ใช้มือของเธอสวนไปที่
แก้มทางด้านขวาของ เอดัส แล้วดูเหมือนมือของเธอเริ่มส่องแสงสีฟ้าออกมา
แล้วสีมันเริ่มเข้มเรื่อยๆ
“ หยุดบ่นได้แล้ว ”
“ ครับ เข้าใจแล้วครับ ฮ่ะ ฮ่ะ... อา... ” เอดัส ถูกสยบโดยสิ้นเชิง
เธอเอามือ ออกจากแก้มของเขาแล้วแสงสีฟ้าก็ค่อยๆ จางลง
“ ขอโทษทีนะ ถ้าไม่หยุดหมอนี้จะบ่นไม่หยุดเลย เลยต้องห้ามด้วยวิธีนี้ ”
“ ฮ่ะ ฮะ... ผมคิดว่าจะโดนลูกหลงแล้ว ” อิจฉิ ถึงกับเหวอ ไปเลย นั้นเป็นเวทย์มนต์
ชนิดหนึ่งที่เขารู้จัก แต่ไม่ใช่กับ ลิมโบ
“ แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำหน้าที่จองโต๊ะเลยล่ะครับ? ”
“ ทำไมน่ะเหรอ?.. ก็เพราะฉันเป็นผู้หญิง ”
“ เอะ?” อิจฉิ และลิมโบอุทานออกมาพร้อมกัน
อิจฉิ คิดถึงเหตุผล ถ้าปล่อยให้คุณ เชอา นั่งคอย จนกว่าคุณเอดัสมา แล้วคุณ เชอา
ค่อยออกไปต่อแถว ซื้ออาหาร คุณเชอา คงไม่ไว้จริงๆ
“ คุณ ลิมโบ มีวิธีที่พอจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไหมครับ ”
ลิมโบ ดูเหมือนกำลังหันสนใจอย่างอื่นอยู่
เอดัส เริ่มยิ้มกว้าง
“ ว่าแต่ว่านะ อิจฉิคุง นายชอบกินสลัดใช่รึเปล่า?”
“ ใช่ครับ เอะ? ทำไมคุณถึงรู้ได้ล่ะ ”
“ ก็ปกติฉันจะชอบมองไปที่ร้าน อาหารพวกอาหารเพื่อสุขภาพกับไขมันต่ำน่ะ
พอดีสลัดผักกำลังเป็นเมนูที่นิยมกันในหมู่สาวๆ แล้วทุกๆวันฉันเห็นนายชอบ ไปต่อแถวนั้น
บ่อยๆ โดยปกติแล้วไม่ค่อยมีผู้ชายที่เข้าไปอยู่ในแถวที่มีแต่สาวๆรุมล้อมหรอกนะ ”
“ (อึก) ” อิจฉิ แสดงอาการ
“ อืมจะว่าไป เพื่อนของฉันที่ ชอบกินสลัด ก็พูดว่า ‘นั้นมันไอ้โรคจิตที่คอยแอบตาม
ทาโกะจังนี่น่า’ ประมาณนี้เหละ ”
“ เอ๋?!!”
“ นายไม่รู้เหรอ ”
“ ผมก็เคยได้ยินมาบ้าง ” สีหน้าของ อิจฉิ เริ่มหดหู่อย่างเห็นได้ชัด
“ เพราะงั้นนายก็เลยนั่งคนเดียวสินะ ในช่วงพักเที่ยง ” บากอส ออกมาพูดปิดท้าย แล้ว
ทั้ง เอดัส เชอาก็ เออ ออ ตามเขา
“ เดียวสิไหง พวกคุณมาพูดคุยเรื่องของผมกันล่ะ!!”
“ ฮะๆ ไม่ต้อง ห่วง พวกเราคิดว่านายไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ตอนนี้เราก็รู้จักแล้ว
ก็เท่ากับเป็นเพื่อนกัน เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกพวกเราจะช่วยขจัดความใจผิดเหล่า
นั้นให้เอง ! ” คำพูดของ เอดัส ฟังดูเป็นเหมือนคำพูดที่พูดเอาตลกหรือไม่ได้จริงจังอะไร
แต่ด้วยท่าทางและใบหน้าที่เปื่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นนั้น
ทำให้เขาดูเป็นที่น่าเชื่อถืออย่างน่าแปลงใจ
“ แต่อิจฉิก็ยังดีกว่าพวกผู้ชายที่ชอบขี้โม้ แถมพอถูกใช้งานก็บ่น แล้วยังถูกสาวๆ
เกียจขี้หน้า ไม่กล้าเขาใกล้เพราะมันชอบสอดส่องสายตามาทาง ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ”
“ อ่ะ เอดัส นั้นมันนายนี่นา ” บากอสบอก เอดัส
“ เอ่ะไหงวนมาเรื่องของฉันได้เนี่ย!! ” เอดัส โวยว้ายเสียงดังสุดๆ
“ ฮ่ะๆ (ไม่ใช่ผมคนเดียวสินะ)” อิจฉิ พึมพำ
“ นี่อิจฉิ เจ้าช่วยอธิบายให้ข้าใจหน่อยว่าทางนั้นมันคืออะไร ”
อิจฉิ มองไปยังทางที่ ลิมโบ นั้นได้มองมาครู่หนึ่งแล้ว
“ช่วยหลีกทางให้หน่อยได้ไหม”
“สวัสดีจ่ะ มา-เรีย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ