Call us The L.o.u.d.
เขียนโดย พาวจาพัจส์
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.44 น.
แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2562 22.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) Friends
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ มุมที่มืดที่สุด ที่ซึ่งห่างไกลกาลเวลา...
ที่เส้นด้ายที่ถูกทอ สามารถเปลื่ยนแปลงได้อยู่เสมอ
แต่ก็ยังห่างไกลจากโชคซะตาที่ได้ถูกกำหนด
เชิงเทียน ได้แส่งแสงสว่าง ภายในห้องที่มืดมัว พร้อมด้วยกองไฟส่งแสงสว่างไสว
จากเตาผิง ที่ปรากฏให้เห็นชายผู้หนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำยาวดูน่าเกรงขาม
เพียงแต่รอยซีกขาดของผ้านั้น ทำให้มันดูไม่สวยงามนัก
เขาได้เดินเข้ามาบดบังแสงไฟจากเตาผิง แสงสะท้อนมาบนหน้าของเขา
เป็นใบหน้าของชายที่ดูสุขุม มีหนวดเคราประปราย
‘(ตึก... ) ’ เสียงฝีเท้าค่อยๆ ใกล้เข้ามา
“ มีอะไร ฉันนึกว่าเธอ- ” เขาหันมามอง แล้วพูดกับใครบางคน
ซองจดหมายจ่อมาที่หน้าของเขาเมื่อหันมองไป
“ เธอเริ่มจับทางได้แล้ว ” ด้วยแสงภายในห้องทำให้ไม่สามารถเห็นหน้าอีกฝ่ายได้
ชัดเจน แต่ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และเครื่องแต่งกายยุคกลางที่ดูรุงรัง
ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเป็นใครทันที
“ จดหมายเหรอ... ฉันเข้าใจ จากเธอคนนั้นอีกแล้วเหรอ... ” เขากำลังจะเปิดซอง
จดหมายออกมาอ่าน แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนอ่านก่อนเขาแล้ว
“ เธอกำลังมาที่นี่ ”
“ เธอไม่รู้รึไงว่าเรามี เหล่ากองทหารล้อมรอบเราอยู่ ” เขาพึมพำด้วยความกังวล
“ เราต้องไล่เธอ ”
“ เห๋? แต่นายท่านบอกว่า ‘การเสียมารยาทต่อผู้มาเยือนเป็นสิ่งที่ห้ามกระทำเป็นอัน
ขาด ”
“ ตอนนี้งานของพวกเราก็ล่นมือแล้ว ถ้าให้เธอเข้ามาป่วนพวกเราอีก คงจบไม่สวยแน่ ”
“ เราควรติดต่อนายท่านไหม?past”
“ ฉันว่าเราน่าจะรับมือด้วยเรื่องนี้ด้วยตัวเอง... ตอนนี้นายท่านไม่มีทั้งผู้นำทาง
องครักษ์ ท่านต้องรับมือทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ตอนนี้เราต้องรับมือกับเรื่องของเรา
ให้ดีที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ของที่นี่ ”
“ นั้นเป็น ความรับผิดชอบของเราเหรอ?”
“ ใช่ อาจเป็นแบบนั้น ”
‘ แหวะ ’ หลังจากที่เขาพูดจบ ก็เหมือนจะมีเสียง คล้ายคนกำลังอาเจียนออกมา
จากผู้ที่ เขาสนทนาด้วย
“ ตอนนี้ฉันยังกังวลอยู่ว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้ไหม ”
ณ มุมที่สว่างที่สุด ที่ซึ่งกาลเวลาได้ดำเนินไปไกล
ที่เส้นด้ายที่ถูกทอ สามารถเปลื่ยนแปลงได้
แต่ก็ยังมีบางโชคซะตาที่ได้ถูกกำหนด
Limbo เขาอยู่ในศูนย์อาหาร นั่งมองความมีชีวิตชีวาของที่นี่
กลุ่มมนุษย์และปีสาจนั่งร่วมโต๊ะกัน พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
รอยยิ้มที่ไม่มีเล่ห์เหลื่ยม
แต่ไม่ห่างจากสายตาของเขานัก ยังมีปีศาจบางตนถูกหยาม ที่นำมาซึ่งความเกียจชั่ง
กลุ่มมนุษย์ที่เดินผ่าน เหล่าปีศาจที่จองมองมาที่พวกเขา ได้แลกเปลื่ยนความเกียจชั่ง
limbo คิดว่านั้น อาจเป็นความเกียจชั่งครั้งแต่อดีต ที่ยังคงหลงเหลือ
หรือส่งต่อมายังรุ่นสู่รุ่น
แต่ความจริงที่ limbo ได้รับรู้นั้นคือ ไม่ว่านานแค่ไหน บางสิ่งก็คงอยู่ดั้งเดิม
‘หรือว่าข้าคิดผิดกันนะ?’
“ นี่พ่อหนุ่มน้อยนั่งคนเดียวเหรอ? ” limbo หันไปมองเสียงข้างตน
เด็กสาวเหรอ?
“ นี่ ฮานะ ดูสิเด็กคนนี้สิ น่ารักมากเลย ”
'มีอีกคนเหรอ?'
เหล่าหญิงสาวต่างพากันมายืน รุมล้อม ลิมโบไว้
“ ว้าว น่ารักจริงๆ ฉันขอหยิกแก้มเธอได้ไหม? ”
“ หา?” นี่คงเป็นเรื่องที่หาได้อยากที่ ลิมโบ ร้องเสียงหลงออกมา
มันคงไปแปลง เพราะในตอนนี้เขามีหน้าที่ดู หล่อเล้าต่างจากก่อนหน้านี้ ถ้ารวมกับ
ขนาดตัวและส่วนสูงของเขา มันก็คงไม่แปลงที่จะถูกมองว่าเป็นเด็ก นี่คงเป็นสถานการณ์
ที่แย่ที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เพียงแต่เมื่อก่อนเขายังมีเหล่า
อาครักษ์ คอยกีดกันคนเหล่านี้ให้ออกไป
‘ past ช่วยข้าด้วย.. ’
“ นี่พวกเธอช่วยออกมาจากเขาได้แล้ว ”
พวกเขามาแล้ว บากอส เอดัส และเชอา เดินเข้ามาขัด
“ เชอา เธอเองก็อยากหยิกแก้มของเขาเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ” เด็กสาวในกลุ่มที่
รุมล้อม ถาม เชอา
“ ไม่! พวกเธอไปกัน ได้แล้วพวกเราจะนั่งตรงนี้กัน ”
“ จ้า ( = o = ) ” แล้วเหล่าเด็กสาวที่รวมกันเป็นวงล้อม ก็แยกย้ายไปนะที่ของตน
“ ขอบคุณนะ ” ลิมโบ เอยขึ้นเป็นมารยาท
เชอา ที่กำลังยืนอยู่จองมาที่ลิมโบ
“ มีอะไรงั้นเหรอ? ”
‘ คงจะนุ่มหน้าดู ’ เธอมองแก้ม
“ เชโกะ เธอไม่นั่งเหรอ?” เอดัสถาม ในขณะที่ เอดัสกับ บากอส ได้นั่งเป็นที่เรียบร้อย
แล้ว
“!” เธอนั่งลง พน้อมวางถาดใส่อาหารลง มันเงาเหมือนกระจก ขณะที่เป็นสีดำทึบ
มีขอบสีทองรอบถาด ทุกคนมีถาดแบบเดียวกัน เพียงแต่สีสันบนถาดนั้นแตกต่างกันไปตาม
บุคคล ลิมโบ เห็นทั้งสามกินสิ่งที่ไม่เหมือนกัน เพราะที่นี้ได้เตรียมรองรับอาหารทั้งทาง
ฝั่งปีศาจ และมนุษย์ ร้านอาหาร หรือร้านทั่วไปช่างมากมาย แบบว่าคงไม่ต้องกังวลเรื่อง
อาหารการกินกันเลยทีเดียว
“ ‘ทั้งสาม?’พวกคุณเห็น อิจฉิ รึเปล่า? ”
“ ก็นั้นไงเขาเดินมาแล้ว ” เอดัส ชี้ไปทาง อจฉิ ที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขา
“ ขอโทษครับ ผมมาช้าไปหน่อย ”
“ นายไม่ต้องกังวลหรอก หนึ่งในพวกเรา ได้นำหน้าไปก่อนแล้ว ”
เอดัส หันไปมองด้านซ้ายของเขา บากอส กำลังเขมือบ เบอร์เกอร์ทั้งก่อน มันใหญ่กว่า
มือทั้งสองข้างของ ลิมโบ ที่เอามาประกบกันเสียอีก มือและปากของเขาเลอะซอสบาง
อย่าง ที่เยิ้มออกมาจากเบอร์เกอร์
“ ( ,o_0 , ) มีอะไรเหรอ? ”
“ มีซอส เลอะหน้านายอีกแล้ว ลิมโบคุง ขอบคุณนะที่นั่งจองที่ให้ถ้าไม่มีนายวันนี้
เราคง ไม่มีที่นั่งแน่ๆ ”
“(เฮือก)” เสียงของการกลืนบางสิ่งมาจาก บากอส
“ ไม่ ฉันต้องขอบคุณนายต่างหาก ”
“ ? ” ลิมโบ ไม่เข้าใจทำไมพวกเขาต้องขอบคุณ
“ ปกติแล้วสองคนนี้ ต้องคอยหน้าที่สลับกันจ้องโต๊ะไว้ ไม่ให้ใครมาแย่งโต๊ะว่างก่อน
พวกเรา แล้ววันนี้เป็นหน้าที่ของบากอสที่ต้องทำ ”
“ นี่พวกนายคิดว่ามันไม่ยุติธรรมไหม? ” เอดัส หันมาถาม ลิมโบ กับ อิจฉิ
“ อะไรไม่ยุติธรรมเหรอครับ?” อิจฉิ ถาม
“ ก็... ถึงทั้ง ฉันและบากอส สลับกันจองโต๊ะก็จริง แต่ เชโกะ ก็ไม่เคยมาจองโต๊ะ
เหมือนกับพวกเราเลย เธอรู้รึไงว่าฉันต้องลำบากขนาดไหน การที่ต้องมานั่งรอเธอไป
ซื้ออาหาร ตั้งนาน! โดยที่ฉันไม่ได้มีเวลามากินอาหารเช้าแบบเธอนะ ”
“ วันนี้ฉันก็ไม่ได้กิน ” บากอส ต่อประโยค
“ คุณไม่เคยกินอาหารเช้าเลยเหรอครับ ”
“ ใช่ก็ที่บ้านของฉันนะต้องคอยจัดการกับเรื่อง- ” เชอา ใช้มือของเธอสวนไปที่
แก้มทางด้านขวาของ เอดัส แล้วดูเหมือนมือของเธอเริ่มส่องแสงสีฟ้าออกมา
แล้วสีมันเริ่มเข้มเรื่อยๆ
“ หยุดบ่นได้แล้ว ”
“ ครับ เข้าใจแล้วครับ ฮ่ะ ฮ่ะ... อา... ” เอดัส ถูกสยบโดยสิ้นเชิง
เธอเอามือ ออกจากแก้มของเขาแล้วแสงสีฟ้าก็ค่อยๆ จางลง
“ ขอโทษทีนะ ถ้าไม่หยุดหมอนี้จะบ่นไม่หยุดเลย เลยต้องห้ามด้วยวิธีนี้ ”
“ ฮ่ะ ฮะ... ผมคิดว่าจะโดนลูกหลงแล้ว ” อิจฉิ ถึงกับเหวอ ไปเลย นั้นเป็นเวทย์มนต์
ชนิดหนึ่งที่เขารู้จัก แต่ไม่ใช่กับ ลิมโบ
“ แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำหน้าที่จองโต๊ะเลยล่ะครับ? ”
“ ทำไมน่ะเหรอ?.. ก็เพราะฉันเป็นผู้หญิง ”
“ เอะ?” อิจฉิ และลิมโบอุทานออกมาพร้อมกัน
อิจฉิ คิดถึงเหตุผล ถ้าปล่อยให้คุณ เชอา นั่งคอย จนกว่าคุณเอดัสมา แล้วคุณ เชอา
ค่อยออกไปต่อแถว ซื้ออาหาร คุณเชอา คงไม่ไว้จริงๆ
“ คุณ ลิมโบ มีวิธีที่พอจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไหมครับ ”
ลิมโบ ดูเหมือนกำลังหันสนใจอย่างอื่นอยู่
เอดัส เริ่มยิ้มกว้าง
“ ว่าแต่ว่านะ อิจฉิคุง นายชอบกินสลัดใช่รึเปล่า?”
“ ใช่ครับ เอะ? ทำไมคุณถึงรู้ได้ล่ะ ”
“ ก็ปกติฉันจะชอบมองไปที่ร้าน อาหารพวกอาหารเพื่อสุขภาพกับไขมันต่ำน่ะ
พอดีสลัดผักกำลังเป็นเมนูที่นิยมกันในหมู่สาวๆ แล้วทุกๆวันฉันเห็นนายชอบ ไปต่อแถวนั้น
บ่อยๆ โดยปกติแล้วไม่ค่อยมีผู้ชายที่เข้าไปอยู่ในแถวที่มีแต่สาวๆรุมล้อมหรอกนะ ”
“ (อึก) ” อิจฉิ แสดงอาการ
“ อืมจะว่าไป เพื่อนของฉันที่ ชอบกินสลัด ก็พูดว่า ‘นั้นมันไอ้โรคจิตที่คอยแอบตาม
ทาโกะจังนี่น่า’ ประมาณนี้เหละ ”
“ เอ๋?!!”
“ นายไม่รู้เหรอ ”
“ ผมก็เคยได้ยินมาบ้าง ” สีหน้าของ อิจฉิ เริ่มหดหู่อย่างเห็นได้ชัด
“ เพราะงั้นนายก็เลยนั่งคนเดียวสินะ ในช่วงพักเที่ยง ” บากอส ออกมาพูดปิดท้าย แล้ว
ทั้ง เอดัส เชอาก็ เออ ออ ตามเขา
“ เดียวสิไหง พวกคุณมาพูดคุยเรื่องของผมกันล่ะ!!”
“ ฮะๆ ไม่ต้อง ห่วง พวกเราคิดว่านายไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ตอนนี้เราก็รู้จักแล้ว
ก็เท่ากับเป็นเพื่อนกัน เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกพวกเราจะช่วยขจัดความใจผิดเหล่า
นั้นให้เอง ! ” คำพูดของ เอดัส ฟังดูเป็นเหมือนคำพูดที่พูดเอาตลกหรือไม่ได้จริงจังอะไร
แต่ด้วยท่าทางและใบหน้าที่เปื่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นนั้น
ทำให้เขาดูเป็นที่น่าเชื่อถืออย่างน่าแปลงใจ
“ แต่อิจฉิก็ยังดีกว่าพวกผู้ชายที่ชอบขี้โม้ แถมพอถูกใช้งานก็บ่น แล้วยังถูกสาวๆ
เกียจขี้หน้า ไม่กล้าเขาใกล้เพราะมันชอบสอดส่องสายตามาทาง ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ”
“ อ่ะ เอดัส นั้นมันนายนี่นา ” บากอสบอก เอดัส
“ เอ่ะไหงวนมาเรื่องของฉันได้เนี่ย!! ” เอดัส โวยว้ายเสียงดังสุดๆ
“ ฮ่ะๆ (ไม่ใช่ผมคนเดียวสินะ)” อิจฉิ พึมพำ
“ นี่อิจฉิ เจ้าช่วยอธิบายให้ข้าใจหน่อยว่าทางนั้นมันคืออะไร ”
อิจฉิ มองไปยังทางที่ ลิมโบ นั้นได้มองมาครู่หนึ่งแล้ว
“ช่วยหลีกทางให้หน่อยได้ไหม”
“สวัสดีจ่ะ มา-เรีย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ