รักข้างใจ
7.7
เขียนโดย Annakan
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.07 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
8,400 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559 11.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ตัวแทนของแมคโคร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เผลอแปบเดียวเด็กทั้งสองก็จบชั้นประถมหนึ่งกันแล้ว แก้มและวีใช้เวลาปิดเทอมสัปดาห์แรกไปกับการวิ่งเล่นและขี่จักรยานอยู่หน้าบ้าน หลังจากวันที่ล้มได้แผลเป็นตรงหัวเข่ามาเป็นของฝากเมื่อแผลหายดีเมธีกับรวีกับช่วยกันสอนหนูแก้มขี่จักรยานและตอนนี้เธอก็ขี่ได้คล่องแคล่วไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
“เขาบอกผู้หญิงมีแผลเป็นจะไม่ได้แต่งงาน วีว่าจริงไหม” เด็กหญิงตัวน้อยสงสัยตามประสาเด็ก
“ไม่จริงหรอกใครเชื่อก็บ้าแล้ว” รวีตอบสีหน้าจริงจังเพราะเขาโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุทำให้แก้มเจ็บและมีแผลเป็นติดตัวไปตลอดชีวิต
“งั้นเราก็บ้าแน่ๆ ดูสิวีแผลมันใหญ่จัง” เด็กหญิงแก้มก้มมองแผลเป็นตัวเองแล้วถอนใจ
“วีขอโทษนะ” รวีทำตาแดงๆ
“วี ทำไมทำหน้าแบบนั้น” แก้มไม่เคยรู้ว่ารวีโทษตัวเองมาตลอดในเรื่องนี้
“ก็ถ้าวันนั้นวีถามแก้มก่อนแก้มก็จะไม่มีแผลเป็นแบบนี้เพราะวีเองที่ไม่รอบคอบ”
“ไม่ใช่ความผิดวีสักนิดเลยอย่าคิดแบบนั้นเราลืมเรื่องแผลบ้าๆ นี่กันดีกว่า วีสัญญากับเราแล้วนะว่าจะเป็นเพื่อนเราตลอดไปต่อให้เรามีแผลเพิ่มมากี่ที่วีก็ห้ามลืมคำสัญญานะ”
“วีสัญญา” รวียื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวไว้แล้วเด็กทั้งสองก็พากันกลับบ้านเพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว
“ถ้าวันนี้เด็กๆ กินข้าวหมดแม่มีอะไรพิเศษจะให้ด้วย” วิภาปรึกษากับพ่อแม่ของรวีเรียบร้อยแล้ว สุดสัปดาห์นี้สองครอบครัวจะพาเด็กๆ ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ
“หมดแล้วค่ะแม่ หมดแล้วครับแม่ภา” เด็กทั้งสองรีบกินให้เร็วที่สุดโดยไม่ให้ดูมูมมามเกินไป รวีเรียกวิภาว่าแม่ภาแล้วเพราะความสนิทสนมคุ้นเคยที่มากขึ้น เขามากินข้าวกับแก้มบ่อยๆ แก้มก็ไปเล่นที่บ้านเขาเกือบทุกวันเช่นกัน
“เด็กๆ อยากไปนอนเต็นท์กันไหม” วิภาทำตาเป็นประกายมองหน้าเด็กน้อยทั้งสองสลับกันไปมา
“อยากค่ะ อยากครับ” แก้มกับรวีตอบรับเสียงดังลั่นบ้าน
“ไปเมื่อไหร่คะ ไปกี่วันครับ ไปที่ไหนคะ ใครไปบ้างครับ” และอีกสารพัดคำถามที่ยิงมาเป็นชุด
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวแม่บอกให้ฟังแล้วสงสัยอะไรให้ถามนะ”
“ไปสุดสัปดาห์นี้จ้ะต้องรอพ่อธีกับพ่อปั้นก่อน เราจะไปนอนเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติพุเตยจังหวัดสุพรรณบุรีไปกันหมดทั้งสองบ้านเลย” วิภาจบข่าวดีด้วยรอยยิ้มกว้าง
“อยากไปจังเลยค่ะแม่ หนูเอาปุกปุยไปด้วยได้ไหมคะ” เด็กหญิงแก้มเอ่ยถามมารดา
“ได้สิลูก” วิภาตอบลูกสาวแล้วลูบหัวด้วยความเอ็นดู นี่เป็นการไปเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกของหนูแก้ม เธอดีใจที่ลูกตื่นเต้นและมีความสุขกับสิ่งที่พ่อแม่เลือกให้
“แล้วใครจะให้อาหารแมคโครล่ะวี” เด็กน้อยหันไปถามเพื่อน
“พ่อทำเครื่องอัตโนมัติไว้ไม่ต้องห่วง”
เด็กสองคนตั้งตารอสุดสัปดาห์ที่จะมาถึงด้วยใจจดจ่อ รวีไปช่วยพ่อกับแม่ค้นตู้เสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นด้วยความสนุกสนานเขาไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบนี้มาก่อนจึงตื่นเต้นสุดๆ
“เราจะได้ก่อกองไฟกันไหมครับพ่อ” เด็กชายถามบิดา
“ได้สิแล้วเราจะทำกับข้าวกันด้วยเตาถ่าน กลางคืนอากาศก็จะเย็นมากแบบไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศเลย” ปรีชาบอกลูกชาย
“สุดยอดเลยพ่อ” รวีอยากให้ถึงสุดสัปดาห์เร็วๆ เหลือเกิน
และวันที่รอคอยก็มาถึงสองบ้านช่วยกันขนของขึ้นรถกันแต่เช้า เด็กๆ สองคนก็ขมีขมันช่วยกันหยิบจับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความขันแข็ง
“เอาไว้เป็นตัวแทนแมคโครนะเผื่อวีคิดถึง” เด็กหญิงแก้มยื่นพวงกุญแจรูปปลาทองสีส้มให้เพื่อน วันก่อนเธอเห็นที่ตลาดเธอซื้อจากเงินค่าขนมของตัวเองไม่ได้ขอแม่
“ขอบใจนะแก้ม” รวีชอบเจ้าปลาน้อยเหลือเกินเขาจะเก็บรักษามันอย่างดีที่สุด
เดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติเอาตอนบ่ายกว่าเพราะแวะกินแวะเที่ยวกันมาตลอดทาง พวกผู้ใหญ่ก็นั่งคุยเล่นกันไปส่วนเด็กทั้งสองคนก็ไปขี่จักรยาน สองบ้านตกลงกันแล้วว่าจะอยู่แค่ตรงหน่วยที่หนึ่งไม่ขึ้นไปถึงบนสุดเพราะมีเด็กมาด้วยจึงไม่อยากจะเสี่ยงไปเกิดเจ็บป่วยเป็นไข้ขึ้นมาจะลำบาก จริงๆ ถ้ามาแค่บ้านรวีก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่หนูแก้มค่อนข้างจะบอบบาง
“เด็กๆ ไปอาบน้ำกันเดี๋ยวจะค่ำซะก่อน” ห้าโมงกว่าวิภาและพรพิมลก็พาหนูแก้มไปอาบน้ำ
“ยากจังเลยค่ะแม่” หนูแก้มทำหน้างอเพราะก่อกองไฟไม่สำเร็จสักที
“งั้นให้พ่อทำนะ หนูแก้มไปช่วยแม่หั่นผักดีไหม” เมธีเข้ามานั่งแทนที่แล้วลูกสาวก็เขยิบไปหามีดกับเขียงแทน
อาหารมือนั้นมีผัดเห็ดรวมมิตร ต้มจืดเต้าหู้วุ้นเส้นใส่หมูสับและก็ไข่เจียวแค่นี้ก็อิ่มจนพุงกางแล้ว เมื่อเก็บล้างจานชามเรียบร้อยก็นั่งย่อยอาหารด้วยการดูดาว
“ปุกปุยดูสิ ดาวเยอะกว่าที่ระเบียงห้องเราเป็นร้อยเท่าเลย” เด็กหญิงแก้มชวนเพื่อนหมีดูดาวที่เปล่งประกายระยิบระยับนับไม่ถ้วนอยู่บนฟ้า
“วีชอบไหม” เธอหันไปถามรวีที่นอนอยู่ข้างๆ
“ชอบสิ วีก็ไม่เคยเห็นดาวเยอะแบบนี้มาก่อนเลย”
“แมคโครไม่เคยเห็นใช่ไหมล่ะ ตื่นเต้นไหม” รวีหยิบพวงกุญแจออกมาจากกระเป๋าแล้วชูขึ้นไปจนสุดแขน
“แมคโครหนาวไหมมานอนกับปุกปุยได้นะ” เด็กหญิงแก้มวางตุ๊กตาหมีตรงกลางระหว่างเธอกับเพื่อนแล้วรวีก็วางพวงกุญแจอันเล็กบนพุงเจ้าหมีปุกปุย
“ดีจังเลยนะคะที่เด็กๆ ชอบ” วิภาหันไปยิ้มกับพรพิมล
“ตั้งแต่รู้จักกับหนูแก้ม ตาวีก็ลดความทโมนลงไปเยอะเลยตอนแรกมลกับปั้นกลัวลูกจะเกะกะเกเรเหลือเกินโชคดีจริงๆ ที่หนูแก้มมาช่วยไว้ทัน”
“อ้าว หลับซะแล้ว” หันไปอีกทีลูกสาวก็คอพับไปแล้ว
“เข้าเต็นท์กันดีกว่าครับน้ำค้างลงแล้ว” ปรีชาลุกขึ้นยืนแล้วหอบผ้าห่มเตรียมจะเข้านอน
“ผมช่วยถือปุกปุยให้ครับแม่ภา” รวีอุ้มตุ๊กตาหมีขึ้นมาแล้วเอาไปวางไว้ข้างๆ เพื่อน
“ฝันดีนะแก้ม” เด็กชายนั่งนิ่งมองใบหน้าที่หลับสนิทของเพื่อนแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำมันถึงรู้สึกดีอย่างประหลาด
“ฝันดีนะทุกคน ฝันดีครับ” ผู้ใหญ่บอกลากันแล้วก็แยกย้ายเข้าเต็นท์ของตัวเอง
ก่อนจะเคลิ้มหลับเด็กหญิงแก้มยิ้มละไมกับน้ำเสียงนุ่มๆ ของรวีที่บอกเธอว่าดาวกลุ่มต่างๆ รูปร่างเหมือนอะไร เธอจำได้ว่ามีดาวลูกไก่ ดาวหมีเล็ก ดาวเต่าแต่เธอก็ไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ตรงไหนแน่ๆ เธอแค่จำชื่อได้แต่มันก็ไม่สำคัญหรอกเพราะวีบอกอะไรเธอก็เชื่อทั้งนั้น
“เขาบอกผู้หญิงมีแผลเป็นจะไม่ได้แต่งงาน วีว่าจริงไหม” เด็กหญิงตัวน้อยสงสัยตามประสาเด็ก
“ไม่จริงหรอกใครเชื่อก็บ้าแล้ว” รวีตอบสีหน้าจริงจังเพราะเขาโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุทำให้แก้มเจ็บและมีแผลเป็นติดตัวไปตลอดชีวิต
“งั้นเราก็บ้าแน่ๆ ดูสิวีแผลมันใหญ่จัง” เด็กหญิงแก้มก้มมองแผลเป็นตัวเองแล้วถอนใจ
“วีขอโทษนะ” รวีทำตาแดงๆ
“วี ทำไมทำหน้าแบบนั้น” แก้มไม่เคยรู้ว่ารวีโทษตัวเองมาตลอดในเรื่องนี้
“ก็ถ้าวันนั้นวีถามแก้มก่อนแก้มก็จะไม่มีแผลเป็นแบบนี้เพราะวีเองที่ไม่รอบคอบ”
“ไม่ใช่ความผิดวีสักนิดเลยอย่าคิดแบบนั้นเราลืมเรื่องแผลบ้าๆ นี่กันดีกว่า วีสัญญากับเราแล้วนะว่าจะเป็นเพื่อนเราตลอดไปต่อให้เรามีแผลเพิ่มมากี่ที่วีก็ห้ามลืมคำสัญญานะ”
“วีสัญญา” รวียื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวไว้แล้วเด็กทั้งสองก็พากันกลับบ้านเพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว
“ถ้าวันนี้เด็กๆ กินข้าวหมดแม่มีอะไรพิเศษจะให้ด้วย” วิภาปรึกษากับพ่อแม่ของรวีเรียบร้อยแล้ว สุดสัปดาห์นี้สองครอบครัวจะพาเด็กๆ ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ
“หมดแล้วค่ะแม่ หมดแล้วครับแม่ภา” เด็กทั้งสองรีบกินให้เร็วที่สุดโดยไม่ให้ดูมูมมามเกินไป รวีเรียกวิภาว่าแม่ภาแล้วเพราะความสนิทสนมคุ้นเคยที่มากขึ้น เขามากินข้าวกับแก้มบ่อยๆ แก้มก็ไปเล่นที่บ้านเขาเกือบทุกวันเช่นกัน
“เด็กๆ อยากไปนอนเต็นท์กันไหม” วิภาทำตาเป็นประกายมองหน้าเด็กน้อยทั้งสองสลับกันไปมา
“อยากค่ะ อยากครับ” แก้มกับรวีตอบรับเสียงดังลั่นบ้าน
“ไปเมื่อไหร่คะ ไปกี่วันครับ ไปที่ไหนคะ ใครไปบ้างครับ” และอีกสารพัดคำถามที่ยิงมาเป็นชุด
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวแม่บอกให้ฟังแล้วสงสัยอะไรให้ถามนะ”
“ไปสุดสัปดาห์นี้จ้ะต้องรอพ่อธีกับพ่อปั้นก่อน เราจะไปนอนเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติพุเตยจังหวัดสุพรรณบุรีไปกันหมดทั้งสองบ้านเลย” วิภาจบข่าวดีด้วยรอยยิ้มกว้าง
“อยากไปจังเลยค่ะแม่ หนูเอาปุกปุยไปด้วยได้ไหมคะ” เด็กหญิงแก้มเอ่ยถามมารดา
“ได้สิลูก” วิภาตอบลูกสาวแล้วลูบหัวด้วยความเอ็นดู นี่เป็นการไปเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกของหนูแก้ม เธอดีใจที่ลูกตื่นเต้นและมีความสุขกับสิ่งที่พ่อแม่เลือกให้
“แล้วใครจะให้อาหารแมคโครล่ะวี” เด็กน้อยหันไปถามเพื่อน
“พ่อทำเครื่องอัตโนมัติไว้ไม่ต้องห่วง”
เด็กสองคนตั้งตารอสุดสัปดาห์ที่จะมาถึงด้วยใจจดจ่อ รวีไปช่วยพ่อกับแม่ค้นตู้เสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นด้วยความสนุกสนานเขาไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบนี้มาก่อนจึงตื่นเต้นสุดๆ
“เราจะได้ก่อกองไฟกันไหมครับพ่อ” เด็กชายถามบิดา
“ได้สิแล้วเราจะทำกับข้าวกันด้วยเตาถ่าน กลางคืนอากาศก็จะเย็นมากแบบไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศเลย” ปรีชาบอกลูกชาย
“สุดยอดเลยพ่อ” รวีอยากให้ถึงสุดสัปดาห์เร็วๆ เหลือเกิน
และวันที่รอคอยก็มาถึงสองบ้านช่วยกันขนของขึ้นรถกันแต่เช้า เด็กๆ สองคนก็ขมีขมันช่วยกันหยิบจับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความขันแข็ง
“เอาไว้เป็นตัวแทนแมคโครนะเผื่อวีคิดถึง” เด็กหญิงแก้มยื่นพวงกุญแจรูปปลาทองสีส้มให้เพื่อน วันก่อนเธอเห็นที่ตลาดเธอซื้อจากเงินค่าขนมของตัวเองไม่ได้ขอแม่
“ขอบใจนะแก้ม” รวีชอบเจ้าปลาน้อยเหลือเกินเขาจะเก็บรักษามันอย่างดีที่สุด
เดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติเอาตอนบ่ายกว่าเพราะแวะกินแวะเที่ยวกันมาตลอดทาง พวกผู้ใหญ่ก็นั่งคุยเล่นกันไปส่วนเด็กทั้งสองคนก็ไปขี่จักรยาน สองบ้านตกลงกันแล้วว่าจะอยู่แค่ตรงหน่วยที่หนึ่งไม่ขึ้นไปถึงบนสุดเพราะมีเด็กมาด้วยจึงไม่อยากจะเสี่ยงไปเกิดเจ็บป่วยเป็นไข้ขึ้นมาจะลำบาก จริงๆ ถ้ามาแค่บ้านรวีก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่หนูแก้มค่อนข้างจะบอบบาง
“เด็กๆ ไปอาบน้ำกันเดี๋ยวจะค่ำซะก่อน” ห้าโมงกว่าวิภาและพรพิมลก็พาหนูแก้มไปอาบน้ำ
“ยากจังเลยค่ะแม่” หนูแก้มทำหน้างอเพราะก่อกองไฟไม่สำเร็จสักที
“งั้นให้พ่อทำนะ หนูแก้มไปช่วยแม่หั่นผักดีไหม” เมธีเข้ามานั่งแทนที่แล้วลูกสาวก็เขยิบไปหามีดกับเขียงแทน
อาหารมือนั้นมีผัดเห็ดรวมมิตร ต้มจืดเต้าหู้วุ้นเส้นใส่หมูสับและก็ไข่เจียวแค่นี้ก็อิ่มจนพุงกางแล้ว เมื่อเก็บล้างจานชามเรียบร้อยก็นั่งย่อยอาหารด้วยการดูดาว
“ปุกปุยดูสิ ดาวเยอะกว่าที่ระเบียงห้องเราเป็นร้อยเท่าเลย” เด็กหญิงแก้มชวนเพื่อนหมีดูดาวที่เปล่งประกายระยิบระยับนับไม่ถ้วนอยู่บนฟ้า
“วีชอบไหม” เธอหันไปถามรวีที่นอนอยู่ข้างๆ
“ชอบสิ วีก็ไม่เคยเห็นดาวเยอะแบบนี้มาก่อนเลย”
“แมคโครไม่เคยเห็นใช่ไหมล่ะ ตื่นเต้นไหม” รวีหยิบพวงกุญแจออกมาจากกระเป๋าแล้วชูขึ้นไปจนสุดแขน
“แมคโครหนาวไหมมานอนกับปุกปุยได้นะ” เด็กหญิงแก้มวางตุ๊กตาหมีตรงกลางระหว่างเธอกับเพื่อนแล้วรวีก็วางพวงกุญแจอันเล็กบนพุงเจ้าหมีปุกปุย
“ดีจังเลยนะคะที่เด็กๆ ชอบ” วิภาหันไปยิ้มกับพรพิมล
“ตั้งแต่รู้จักกับหนูแก้ม ตาวีก็ลดความทโมนลงไปเยอะเลยตอนแรกมลกับปั้นกลัวลูกจะเกะกะเกเรเหลือเกินโชคดีจริงๆ ที่หนูแก้มมาช่วยไว้ทัน”
“อ้าว หลับซะแล้ว” หันไปอีกทีลูกสาวก็คอพับไปแล้ว
“เข้าเต็นท์กันดีกว่าครับน้ำค้างลงแล้ว” ปรีชาลุกขึ้นยืนแล้วหอบผ้าห่มเตรียมจะเข้านอน
“ผมช่วยถือปุกปุยให้ครับแม่ภา” รวีอุ้มตุ๊กตาหมีขึ้นมาแล้วเอาไปวางไว้ข้างๆ เพื่อน
“ฝันดีนะแก้ม” เด็กชายนั่งนิ่งมองใบหน้าที่หลับสนิทของเพื่อนแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำมันถึงรู้สึกดีอย่างประหลาด
“ฝันดีนะทุกคน ฝันดีครับ” ผู้ใหญ่บอกลากันแล้วก็แยกย้ายเข้าเต็นท์ของตัวเอง
ก่อนจะเคลิ้มหลับเด็กหญิงแก้มยิ้มละไมกับน้ำเสียงนุ่มๆ ของรวีที่บอกเธอว่าดาวกลุ่มต่างๆ รูปร่างเหมือนอะไร เธอจำได้ว่ามีดาวลูกไก่ ดาวหมีเล็ก ดาวเต่าแต่เธอก็ไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ตรงไหนแน่ๆ เธอแค่จำชื่อได้แต่มันก็ไม่สำคัญหรอกเพราะวีบอกอะไรเธอก็เชื่อทั้งนั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ