The Demola Phase 4 มหากาพย์มนุษย์เหนือโลก เฟส 4
8.5
เขียนโดย Geoner
วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 11.59 น.
27 ตอน
2 วิจารณ์
32.99K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 12.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
22) We are One and All
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบรรยากาศแห่งความตึงเครียดกำลังดำเนินไปเรื่อย การเผชิญหน้ากันและเรื่องราวในอดีตที่ค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ความจริงเริ่มปะติดปะต่อกันเป็นรูปร่าง
" นี่นาย...เป็นคนฆ่าพวกนักเรียนที่หายตัวไปงั้นเหรอ !! ? "
เรย์ถามทาคุยะที่ยืนอยู่ต่อหน้าน้องสาวของเขาทที่กลายเป็นตัวประหลาดไปแล้ว
" หึ ! ...ใช่ ! ฉันเป็นคนฆ่าพวกมันเอง ! ไอพวกเวรนี่มันสมควรตายอยู่แล้ว ! ไอพวกเหลือขอนะ ไม่ว่าจะมีเเรื่องอะไรก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว ! แล้วรู้อะไรรึเปล่า ? ...แม้แต่ครูอาจาารย์ก็ยังเป็นพวกเดียวกับไอพวกสวะนั้นนะ ! ฉันก้เลยส่งพวกมันไปอยู่ด้วยกันทั้งหมดเลย ! "
" ว่าไงนะ !? "
" ทาคุยะ!...ไอเจ้าบ้าเอ้ย !...อึ๊ก !! "
เฟย์เหลืออดกับความคิดและคำพูดของทาคุยะจนถึงขีดสุด เขาพยายามรวบรวมกำลังของตนเองเพื่อจะลุกขึ้นไปซัดทาคุยะด้วยความโกรธ แต่แผลที่ท้องก็ทำให้เขาเจ็บปวดและเสียมากจนเกินไป
" นี่ ! อย่าขยับตัวมากนักสิ เดี๋ยวแผลมันจะ... "
คานาอิรั้งตัวของเฟย์เอาไว้ พร้อมทั้งเตือนเฟย์ถึงสังขารของตัวเขาที่ถ้ายังจะดื้อรั้นไป เขาจะเจ็บตัวมากขึ้นไปอีก
" ฮึ่มม !!...แล้วเธอจะให้ฉัน...ดูพวกเขาตายงั้นเหรอ ? "
เฟย์พูดกับคานาอิด้วยใบหน้าที่บ่งบอกถึงความลำบากใจที่ตนเองไม่มีประโยชน์อะไรเลยในเรื่องนี้ คานาอิเองก็คิดไม่ตกเช่นกัน ตอนนี้คน ๆ เดียวที่เธอกำลังนึถึงคือ " เอก " คนที่เธอคิดว่าจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะหาทางติดต่อเอกวิธีใด
" นี่นายตาบอดรึไง ? "
จู่ ๆ คำพูด ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นมาจากเรย์ที่ยืนอยู่อีกฝากของสนามทำให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้หันมามองที่เธอ โดยเฉพาะทาคุยะที่ได้ยินคำพูดนั้นแล้วถึงกับประหลาดใจ
" เมื่อกี้นี้...เธอว่าไงนะ ? "
" ....ฉันถามนายว่า ' นายตาบอดรึไง ? ' "
" แล้วมันหมายความว่าไงมิทราบ ? ในเมื่อตาทั้งสองดวงของฉันกำลังมองเห็นเธอในสภาพเอน็จอนาถอยู่เลย.... "
" นายนี่มัน...ตาบอดจริงนั่นล่ะ.... "
" หา !? "
" นายคิดจริง ๆ นะเหรอ ว่านั่นมันเป็นน้องสาวของนาย "
" ...หุบปาก "
" ไอการที่นายคิดว่าฆ่าคนพวกนั้นแล้ว...มันจะทำให้น้องสาวของนายกลับมาได้จริง ๆ นะเหรอ "
" ฉันบอกให้...หุบปากไง.."
" นายมองไม่เห็นรึไง... นั่น มันไม่ใช่น้องสาวของนาย !!! "
" โถ่เอ้ย !!! หนวกหู หนวกหู ! เงียบไปเลย ! เธอนั่นแหละ มองไม่เห็นรึไง ?! ตรงหน้าฉันนี่ล่ะ น้องสาวของฉัน ! "
คำพูดของเรย์ยิ่งทำให้ทาคุยะโกรธมากขึ้นเรื่อยและในขณะเดียวกับที่ร่างปิศาจที่เขาเรียกว่าน้องสาวของเขา จู่ ๆ ก็เริ่มกรีดร้องโหยหวนเสียงดังกังวาน ก่อนที่มันจะเริ่มเคลื่นตัวมาทางเรย์เพื่อหมายจะทำร้ายเธอ
เฟย์ที่อยู่อีกฝากของสนามเมื่อเห็นดังนั้น สีหน้าของเขาก็ซีดเผือกในทันทีด้วยความกลัว ก่อนที่เขาพยายามจะเคลื่อนตัวเองไปหาเรย์ด้วยแรงที่มีอยู่
ในหัวของเขานั้นมีแต่ความคิดที่จะต้องช่วยเหลือเรย์ให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทว่าร่างการของเขาก็เจ็บหนักมากเช่นกัน ยิ่งเขาขยับตัวแรงมากเท่า ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าแผลของเขาค่อยฉีกกว้างมากกขขึ้นอย่างช้า ๆ มันก็มากขึ้นเท่านั้น
คานาอิได้แต่จ้องมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาที่หวาดกลัว และใบหน้าที่ดูไม่เหมือนกับตัวเธอคนเดิม
คานาอิที่ร่าเริง และเต็มเปี่ยมไปด้วยความกล้า ตอนนี้ถูกความกดดันจากสถานการณ์เลวร้ายเล่นงานจนแถบคุมสติ ตัวเองไม่อยู่ เธอเริ่มก้มหน้าก้มตาไม่แม้แต่จะกล้าเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อน ๆ ของตัวเองกำลังโดนฆ่า
" อึ๊กกก !!! "
เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นจนทำให้เธอตกใจครู่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียงร้องนั้น และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมามันก็ยิ่งทำให้เธอใใจสั่นขึ้นไปอีก
เมื่อเจ้าของเสียงนั้นคือเรย์ ที่กำลังถูกปิศาจตัวนั้นจับตัวไว้อยู่ โดยที่มันกำมือแน่นหมายจะทำให้ร่างของเรย์นั้นแหลกคามือของมัน
เรย์พยายามเอาตัวรอดทุกวิถีทาง ทั้งดิ้น ทั้งพยายามใช้มือของตัวเองทุุบไปที่มือของเจ้าปิศาจตัวนั้น แม้จะรู้ว่าไม่ได้ผล แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกด้วยวิธีใด
จนกระทั่งจู่ ๆ คานาอิที่อยู่ในสภาพกลัวสุดขีด จู่ ๆ เธอก็ก้าวขาของเธอออกมาอย่างช้า ๆ และสั่นด้วยความกลัว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงก้าวต่อเรื่อย ๆ ตรงที่เรย์ที่กำลังตกที่นั่งลำบาก
" ...เรย์...ซัง..."
คานาอิเรียกเรย์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้ง ๆ ที่ยังก้าวเดินต่อไปหาเธอเรื่อย ๆ
ทาคุยะหันมาจ้องมองคานาอิด้วยใบหน้าฉงน ก่อนที่เหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้และได้ถอนหายใจเฮือกสั้น ๆ ออกมาพร้อมทั้งยิ้มมุมปากขึ้นมา
" ...นี่เธอ...คงจะกลัวอยู่สินะ...กลัวที่จะต้องเสียเพื่อนไปนะ...ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอดีนะ มันก็เหมือนกับความรู้สึกของฉันที่มีให้กับเมโกะ...ไม่ต้องการใให้จากไป ไม่ต้องการให้ไปใหน อยากอยู่ด้วยกัน ฉันมีแค่เมโกะคนเดียว...เธอก็น่าจะเข้าใจฉันนี่ ! ในเมื่อตอนนี้ทั้งเธอทั้งฉันต่างก็มีความรู้สึกที่เหมือน ๆ กัน เพราะแบบนัั้น... "
ระหว่างที่ทาคุยะกับพูดอยู่นั้น เขาได้เดินถือมีดครัวเดินมาทางคานาอิที่กำลังเดินไปหาเรย์ที่ถูกจับตัวอยู่ ก่อนที่เขาจะใช้เถ้าถีบเธอให้ล้มลง ร่างของเธอนั้นเบาหวิวไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะตอบโต้ใด ทาคุยะเมื่อได้โอกาศก็ได้ยกมีดขึ้นพร้อมจะแทงลงไปทที่ตัวของคานาอิ เรย์ที่เห็นแบบนั้นก็ดิ้นแรงมากขึ้นด้ววยความกลัว เธอพยายามจะหาทางช่วยคานาอิแต่มันก็ไม่มีสิ่งใหนที่พอจะช่วยเธออได้เลยในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เธอนึกขึ้นได้คือ...
" คานาอิ !! รีบวิ่งหนีไปสิ !! เร็วเข้าสิ !!!!! "
เรย์พยายามกรีดร้องเรียกสติคานาอิให้วิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เหมือนกับว่าตอนนี้สติของเธอได้หลุดไปแล้ว มีดค่อยพุ่งลงตรงไปที่ร่างของคานาอิต่อหน้าต่อตาของเธอ
เปรี๊ยะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ในเสี้ยววินาทีที่มีดได้พุ่งตรงไปที่ร่างของคานาอิ จู่ ๆ มีดเล่มนั้นก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปก่อนที่จะร่างของเธอ
" นี่มัน...บ้าอะไรว่ะ..!! "
ไม่ทันที่ทาคุยะจะพูดจบ หมัดของคานาอิได้พุ่งเข้าใส่คางของเขาจนแตก และทำเอาร่างของเขาหงายกระเด็นไป ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกมากที่จู่ ๆ จากสาวร่างบางแรงน้อย กลายเป็นคนที่มีกำลังมากจนทสามารถซัดฉายฉกรรจ์ที่ร่างใหญ่กว่าให้ร่างกระเด็นได้
เจ้าปิศาจที่เห็นเหตุการก็ชะงักด้วยความตกใจ ก่อนที่มันจะสังเกตุเห็นร่างของคานาอิที่ค่อยลุกและเผยให้เห็นดวงตาข้างหนึ่งของเธอที่กลายเป็นสีขาวล้วน ก่อนที่มันจะเริ่มเปิดฉากโจมตีเธอ คานาอิก็ได้พุ่งเข้ามาหาตัวมันด้วยความเร็วและใช้ฝ่ามืออัดเข้าไปที่ท้องของมัน
แม้แรงที่คานาอิอัดมาจะไม่แรงพอที่จะให้ทำให้มันเกิดบาดแผล แต่จู่ ๆ มันก็มีความรู้สึกเหมือนคลื่นบางอย่างอัดกระแทกมาที่ตัวมันอย่างจัง จนทำให้มันเกิดอาการหวาดผวาชั่วคราวและมือของมันที่ได้กำตัวเรย์ไว้ก็คลายออก จนเรย์ล่วงมาที่พื้น เธอเกิดอาการฉงนอย่างมากต่อตัวคานาอิที่จู่ก็มีอะไรบางอย่างที่แปลกไปกับตัวเธอ
แต่ระหว่างที่เรย์กำลังพาตัวเองลุกขึ้นและพยายามไปช่วยคานาอิที่ยืนอยู่นิ่ง ไม่มีการกระทำอะไรเกิดขึ้นปิศาจตนนนั้นได้สติกลับมาพอดี และใช้แขนฟาดทั้งเรย์และคานาอิจนกระเด็นไปอีกฝากหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับจุดที่เฟย์
" ทั้งสองคน !!..ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ?! "
เฟย์พยายามเรียกทั้งคู่ที่อยู่ห่างตนเองไปไม่กี่เมตร ทั้งสองคนนั้นยังมีสติอยู่แต่ก็ต่างเจ็บปววดจากบาดแผลจนแถบจะลุกขึ้นไม่ใหว
เฟย์ได้หันไปที่ตัวปิศาจนั้นอีกครั้งก่อนที่จะพบว่ามันกำลังเดินไปหาชิฮิโระที่นอนสลบอยู่
" เวรแล้ว ! ...ชิฮิโระ !! ตื่นเร็วเข้า !! "
" จัดการเลย !! เมโกะ ! ทำให้ททุกอย่างมันจบซะสิ !"
" !!?? "
คำพูดของเฟย์ถูกขัดด้วยคำพูดของทาคุยะที่ลุกเดินมาหาตัวปิศาจนั้น นั้นทำให้เฟย์ถึงกับโกรธจัดถึงความบ้าของทาคุยะ
" รีบ ๆ จัดการเถอะ...เราาสองคนจะได้...!!?? "
ทุกคนในที่นั้นต่างก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็นเพราะสิ่งที่เกิดนั้นคือ
ทาคุยะถูกปิศาจตัวนั้นใช้สิ่งที่เหมือนกับหนามแหลมที่งอกมาจากมือของมันแทงจนทะลุตัวของเขา
" ทำไม...กันล่ะ...? "
ทาคุยะเกิดความสับสนขึึ้นมามากมายในใจและเกิดคำถามมากมายในหัว และความเสียใจที่เอ่อล้นออกมาอย่างไม่สิ้นสุด น้ำตาของเขาค่อย ๆ ไหลออกมาและหยดลงไปบนเลือดของตนเองที่ไหลออกมาจากแผลของเขาที่ออกมาเรื่อย ๆ ไม่หยุด
ผิดกับเจ้าปิศาจที่มีสายตาที่ดูเหมือนเหนื่อยหน่ายกับตัวทาคุยะแล้ว มันค่อย ๆ ง้างมืออีกข้างขึ้นมา ก่อนที่มือข้างนั้นของมันจะค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพเป็นหนามแหลมขนาดใหญ่อีกครั้งและทำการแทงทาคุยะอีกครั้ง...
ฉึก !!!
ทาคุยะถึงขั้นใจหายเมื่อมีบางอย่างตัดแขนปิศาจตัวดังกล่าวจนเลือดกระเซ็นไปทั่ว เจ้าปิศาจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และพยายามกรอกลูกตาไปมามองหาผู้กระทำ และภาพที่มันเห็นคือ
ชายหนุ่มผู้มีแขนที่เรืองแสงสีทองอยู่
" เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ เมโกะ...ไม่สิ.. ' เฟียร์ ' "
เอกหันมาพูดกับปิศาจตนดังกล่าวหลังจากที่เขาได้ตัดแขนของมันออกด้วยเกราะเรืองแสงที่แขนของเขา
ทุกคนที่นอนหมดสภาพอยู่ อารมณ์ความสิ้นหวังของพวกเขาค่อย ๆ มีความหวังขึ้นมาเมื่อได้เห็นคนที่เป็นที่พึ่งของพวกเขาปรากฏกายขึ้นมา
" ฟูโกะ เจ้าตัวนี้เป็นยังไงบ้าง ? "
เอกเริ่มสอบถามข้อมูลของเฟียร์จากฟูโกะ ซึ่งเธออยู่ในรถตู้ที่จอดก่อนทางเข้าของโรงเรียน
< เจ้าตัวนี้สภาพภายนอกและการวิเคราะห์เบื้องต้น ดูเหมือนจะไม่ต่างกับเฟียร์ทั่ว ๆ ไปเท่าไหร่ การโจมตีทางกายภาพทั่วไปก็น่าจะได้ผล >
" อืม ! เข้าใจแล้ว "
เอกเริ่มมีแสงเคลือบมาที่แขนอีกครั้ง และทำการวิ่งตรงไปที่เฟียร์ตัวดังกล่าว เฟียร์จึงได้กระโดดตัวไปที่เอกในทันทีตามด้วยปล่อยหนามออกมาจำนวนมากออกมาจากตัวของมัน ทิ่มแทงลงไปที่เอกในทันที แต่กลับกลายเป็นว่าหนามเหล่านั้นกลับแทงไม่เข้าตัวของเอก
" อ๊ะ !? เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเขาไม่เป็นอะไรเลย ? "
เฟย์ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอก
" นี่เขา...สามารถเคลือบเกราะนั้น...ได้ทั้งตัวเลยเหรอ..? "
เรย์ได้คาดเดาพลังของเอกที่เขาได้ใช้ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้เห็นเอกใช้มาก่อน
ร่างของเอกนั้นมีแสงสีทองทั่วทั้งร่างก่อนที่เขาจะทำให้เกราะลดมาเหลือแต่ที่แขนและกระโดดขึ้นไปกลางอากาศเพื่อกระชากหัวของเฟียร์ลงมากระแทกพื้นและทำการเคลือบเกราะไว้ที่แขนข้างเดียว และต่อยอัดเข้าไปที่ตัวของมันโดยตรงจนเกิดแรงอัดระเบิดขึ้นที่ตัวของมันจนกระเด็นเข้าไปในอาคารเรียน
เอกยืนมองไปที่รูโหว่ของอาคารที่เกิดจากการที่เฟียร์ตัวเมื่อครู่มันกระเด็นเข้าไป ระหว่างที่เขากำลังมองอยู่นั้นก็มีเสียงการติดต่อมาจากฟูโกะถึงเขา
< เอก !! ฉันว่ามีบางอย่างไม่ปกติ >
" หืม !? อะไรงั้นเหรอ ? "
< สัญญาณพลังของเฟียร์ตัวนั้นมีค่าต่างออกไป ! >
" ต่างออกไป...?! "
ระหว่างที่เอกพูดก็มีไฟพวยพุ่งออกมาจากรูกำแพงดังกล่าว เขากันมันได้ทัน แต่ทว่าเฟียร์ตัวนั้นได้ใช้จังหวะที่เอกเผลอมาโผล่ที่ด้านหลังของเขาและได้ปล่อยหนามออกมาจากตัวใส่เขาในระยะประชิด จนเอกโดนเขาอย่างจัง และมันก็ได้พ่นไฟใส่เขาซ้ำจนร่างของเขากระเด็นไปใกล
" เอก !! "
ทุกคนตะโกนเรียกชื่อเขาทว่าเอกนั้นไม่โต้ตอบกลับมา ร่างของเขามีเลือดที่ค่อย ๆ ใหลออกมาจากบาดแผลมากมาย
ฟูโกะที่อยู่ในรถตู้ได้ลงมาจากรถและวิ่งเข้ามาดูในโรงเรียน และเธอก็ถึงกับตกใจ ไม่ใช่ภาพของเฟียร์ที่อยู่ตรงหน้าแต่เป็นร่างของเอกที่นอนหมดสภาพอยู่
" อะไรกัน !? แม้แต่เอกก็... "
" นี่พวกเรา...จะตายกันจริง ๆ เหรอ ? "
" อย่ามาล้อกันเล่นนะ...ชีวิตพวกเราแขวนอยู่บนเส้นด้ายนะ !! "
ระหว่างที่พวกเขากำลังเริ่มสิ้นหวังอีกครั้ง ทุกคนก็ต้องตกใจกันอีกครั้ง เมื่อจู่ ๆ เอกกลับมาขยับอีกครั้งและค่อยลุกขึ้นมาอย่างทุลลักทุเล
" ...เมื่อกี้นี้...พวกนายพูดว่าอะไรงั้นเหรอ ? "
" ...พวกเรา ? "
" พวกนายจะยอมแพ้กันแล้วเหรอ...กะอีแค่ตัวน่าขยะแขยงเนี่ย...ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวสักหน่อย !! ...พวกเรานะแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะความกลัวของตัวเอง จำไม่ได้งั้นเหรอ !?...พวกเรานะไม่ได้...อยู่ตัวคนเดียว !! "
ระหว่างที่เอกกำลังพูดเขาได้ดึง Evoker ที่ห้อยอยู่กับคอเขาออกมา และชูขึ้น
" มาซามุเนะ !! "
ทันทีที่เอกพูดชื่ออะไรบางอย่างออกมาและได้บีบ Evoker ของเขาจนแตก เศษ Evoker เหล่านั้นได้มารวมตัวเป็นดาบคาตานะที่มีแสงสีทองเปล่งประกายออกมา และทำการเคลือบเกราะที่ขาของเขาก่อนจะออกแรงดีดตัวพุ่งไปที่ตัวเฟียร์ และทำการผ่าขาของมันออกมาจนมันล้มลงไป และร้องเสียงดัง
ขาของมันที่ขาดออกมามีหนามพุ่งออกมาตรงมาที่ทิศทางของเอก แต่เอกก็สามารถใช้มาซามุเนะตัดหนามนับสิบได้หมดด้วยความรวดเร็ว และพุ่งตรงไปที่มันทันทีโดยไม่รีรอ มันได้ทำการพ่นไฟออกมาจำนวนมากกว่าเดิม แต่เอกก็สามารถควงดาบป้องกันไฟได้และทำการฟันไปที่หัวของเฟียร์ในทันที
เอกหันไปดูเฟียร์ตัวดังกล่าว ก่อนจะพบว่าร่างของมันค่อย ๆ สลายไปในอากาศ โดยที่ทาคุยะที่นอนจมกองเลือดอยู่พยายามเอื้อมมือไปคว้าตัวของเฟียร์ที่กำลังค่อยหายไป จนกระทั่งร่างของมันได้หายไปจนหมด น้ำตาขของทาคุยะเอ่อล้นออกมาไม่หยุดด้วยความเสียใจ ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมามองเอกที่ยืนถือดาบอยู่
" ฆ่าฉันสิ...ฉันพยายามฆ่าเพื่อนของนาย...เพราะงั้น...ฆ่าฉันซะสิ ! "
" อย่ามามักง่ายเห็นแก่ตัวหน่อยเลย "
" !!?? "
" นายยังต้องไปรับโทษจากสิ่งที่นายเคยทำไว้ เรื่องคดีฆาตกรรมนักเรียนหญิงและอาจารย์เมื่อ 2 ปีก่อนที่นายเป็นคนลงมือ "
" ...ฆ่าฉันสิ...ฆ่าตูสิว่ะ...ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว จะปล่อยไว้ทำไมว่ะ !!?? "
" นายแน่ใจเหรอ ? "
" แก...หมายความ...ว่าไง? "
ระหว่างที่ทาคุยะกำลังพูดอยู่ เขาก้หมดสติจากอาการเสียเลือดมาก
ในหัวของเขานั้นมืดครึ้ม ไร้ซึ่งความคิดใด ๆ
ก่อนที่ภาพในหัวของเขาจะเป็นภาพน้องสาวของเขาที่ยืนออยู่ในที่ใดที่หนึ่งที่ดูว่างเปล่าและเป็นสีขาวโพลน
เธอหันมายิ้มให้กับทาคุยะก่อนที่เธอจะหันหน้าไปทางอื่นและเดินทิ้งห่างเขาไป...
" ลาก่อนนะ เมโกะ "
06.45 น.
โรงพยาบาลทัตสึมิ
เปลือกตาที่ค่อย ๆ เปิดออกด้วยความที่แสงแยงตา เขาพยายามมองว่าใครที่อยู่ข้าง ๆ เตียงของเขา
" มิโยริซัง...ซุซุยซัง "
" อ่า !! คุณหนูฟื้นแล้วเหรอครับ ผมดีใจจริง ๆ "
ซุซุยโผเข้ากอดทาคุยะด้วยความดีใจ ในขณะที่มิโยริยืนปิดปากด้วยความดีใจ
" มีคนพาคุณมาโรงพยาบาล เขาบอกว่ามีเหตุไฟฟ้าขัดข้องจนเกิดระเบิดที่โรงเรียนนะครับ แล้วรู้ด้วยว่าคุณหนูเขาไปโรงเรียนในช่วงนั้นพอดี... "
" ซุซุยซัง ?...มีอะไรงั้นเหรอครับ ? "
" คุณหนู...ทำเรื่องแบบนั้นจริง ๆ เหรอครับ ? "
" ...อืม "
" ...อย่างนั้นเหรอครับ..."
" ...จากนี้ไป...ผมอยากให้พวกคุณสองคน ไม่ต้องมีพันธะอะไรกับผมอีกจะได้มั้ย...ออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่จำเป็นต้องมาคอยช่วยเหลือฆาตกรอย่างผมหรอก.... "
" พูดอะไรแบบนั้นครับ !? "
" !? "
" ตระกูลของพวกเรา...สาบานว่าจะดูแลคนของตระกูลมิอิจิ...ไม่ว่าจะเป็นคนแบบใหน...และเรารู้ดีว่าคุณเป็นยังไง ! "
" .... "
" เพราะแบบนั้น...ต่อให้ใช้เวลาเป็น 10-20 ปี เราก็จะรอคุณครับ !! "
ซุซุยพูดกับทาคุยะทั้งน้ำตาของเขา โดนมิโยริเองก็เดินมาหาทาคุยะและได้ยิ้มให้กับเขาด้วยน้ำตาเช่นเดียวกัน
" ...พวกคุณ...ขอบคุณนะครับ ! "
ทาคุยะโอบกอดทั้งสองคนด้วยความตื้นตันและดีใจ เขาได้ครุ่นคิดในใจว่า
' นี่คือเหล่าคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เขาอย่างที่เอกพูดงั้นสินะ '
บ้านของฮัตโตริ
07.20
" นายยังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ มีเรื่องอะไรรึเปล่าเธอถึงเรียกฉันออกมา ? "
ฟูโกะพูดทักเอกที่นั่งอยู่ที่เค้าท์เตอร์ร้านด้วยสภาพผ้าพันแผลเต็มตัว โดยที่เขากำลังนั่งดื่มชาอยู่
" เอ่อ...คือว่าฉันมีเรื่องสำคัญจะปรึกษานะ "
" มีอะไร...งั้นเหรอ ? "
" ใกล้จะถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปไทยแล้ว...ฉันมีเรื่องสำคัญต้องบอก...กับเธอนะ "
ฟูโกะที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มมีอาการเขินอายขึ้นมาแปลก ๆ
" เธอ...มะ..มีอะไรจะบอกฉันงั้นเหรอ ? "
" ฉัน...ชอบเธอนะ..."
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ