The Demola Phase 4 มหากาพย์มนุษย์เหนือโลก เฟส 4
8.5
เขียนโดย Geoner
วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 11.59 น.
27 ตอน
2 วิจารณ์
32.97K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 12.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) คนที่คอยอยู่ข้าง ๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ นับตั้งวันแห่งการสูญเสียครั้งนั้น ก็ล่วงเวลามากว่า 4 วันแล้ว ตอนนี้กลุ่มที่คอยออกล่าเฟียร์ทุก ๆ ตี 3 ไม่มีทีท่าจะกลับมาเจอกันเลย...
ณ เมืองทัตสึมิ เริ่มมีหิมะปกคลุมทั่วทั้งเมือง ไม่ว่าจะที่ใหนต่างก็เริ่มฉลองวันคริสต์มาสกันแล้ว ทุก ๆ ร้านค้าต่างประดับประดาร้านด้วยของตกแต่ง มีผู้คนออกมาใช้เวลากับครอบครัว หรือ บางคนก็ออกมาใช้เวลากับคนรัก
ฟูโกะเดินเรียบริมแม่น้ำของเมืองท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นโดยที่เธอได้ถุงผ้าที่ข้างในมีวัตถุดิบสำหรับทำอาหารอยู่
เธอเดินตรงเข้าไปในร้านซูชิที่เธอคุ้นเคย
" ขออณุญาตินะคะฮัตโตริซัง "
เธอกล่าวทักทายเจ้าบ้านอย่างเป็นกันเอง
" อ้า ! ฟูโกะเองเหรอ เชิญเลย ๆ "
ฮัตโตริที่อยู่ตรงเคาท์เตอร์ร้านหันหน้ามาทักทาย
" ฉันเอาของสำหรับทำซุปมาเพิ่มนะคะ "
" โอ้ ขอบใจมาก ๆ เลยนะ "
ฟูโกะยื่นของให้ฮัตโตริ เขารู้สึกขอบคุณเธอมาก
" ว่าแต่ ช่วงนี้ไม่มีคนมาเลยนะคะ "
ฟูโกะพูดขึ้นเพราะเธอสังเกตว่าไม่ค่อยมีลูกค้ามาเลย
" มันเป็นแบบนี้มา 20 กว่าปีแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ฉันชินแล้ว ที่ฉันเปิดก็เพราะมันเบื่อ ๆ ด้วยละ แล้วเธอล่ะว่าไง อยากทานซักหน่อยมั๊ยละ ? "
" เอ่อ..ถ้ามันเป็นการช่วยอุดหนุนก็ได้คะ "
ฟูโกะตอบฮัตโตริไปด้วยความเขินปนเกรงใจหน่อย
" โถ่ แค่นี้เอง ฉันไม่ถือหรอก ฉันให้ทานฟรีเลย "
ฮัตโตริกล่าวไปพลางแล่เนื้อปลาด้วยความชำนาญอย่างรวดเร็ว
" เอ๋ ! จะดีเหรอคะ ฮัตโตริซัง ? "
" เอาน่า ๆ... นี่ เสร็จแล้ว ทานได้เลยนะ "
ฮัตโตริยื่นจานซูชิมาวางที่โต๊ะด้านหน้าฟูโกะ
เธอมองที่ซูชิ ก่อนจะมองไปที่หน้าของฮัตโตริด้วยใบหน้าที่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากชายสูงอายุคนนี้
" ฮัตโตริซัง...เป็นคนที่ใจดีจังเลยนะคะ "
เธอพูดชมฮัตโตริด้วยรอยยิ้มอ่อน ทำให้เขาถึงกับขมวดขิ้วพลางยิ้มไปด้วย
" อะไรละนั่น ที่ฉันทำนี่ก็เพราะว่าพวกเธอกำลังช่วยพวกเราอยู่เหมือนกันนะ โดยเฉพาะพ่อหนุ่มที่นอนอยู่รักษาตัวในห้องชั้นสองตอนนี้ก็ด้วย ฉันยิ่งต้องช่วยเขานั่นแหละ "
ฮัตโตริได้พูดถึงเหตุผลของเขา ว่าที่เขาคอยช่วย เพราะพวกฟูโกะและคนอื่น ๆ ได้ออกกำจัดเฟียร์ที่ออกมาทำร้ายคนทุก ๆ ตีสาม โดยเฉพาะเอกที่ล่าสุดก็ได้รับบาดแผลที่สาหัสจากการทำหน้าที่นั้นจนต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านของฮัตโตริที่มีการรักษาที่รวดเร็วและเป็นวิธีเฉพาะสำหรับคนที่ใช้พลังพิเศษ
" แต่ว่าตอนนี้...พวกเรา..ไม่ได้ปกป้องผู้คนอยู่นี่คะ "
ฟูโกะกล่าวขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าหมอง ฮัตโตริก็รับรู้ถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ก็ไม่วายที่จะรู้สึกเศร้าไปด้วย ตอนนี้บรรยากาศในร้านซูชินั้นอึมครึมท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น...
แต่ระหว่างบรรยากาศการสนทนาอันแสนจะคลุมเครือ จู่ ๆ ก็มีร่างของชายคนหนึ่งเดินเข้าในร้านด้วยสภาพที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล
" เอก !! เธอมาที่ได้ยังไง ? ไม่ใช่ว่าพักอยู่หรอกเหรอ ? ...."
ฟูโกะวิ่งไปหาเอกและถามคำถามสารพัดมากด้วยความเป็นห่วง
" เธอพอจะ...ช่วยหาที่อยู่ของคานาอิให้ฉันหน่อยได้มั้ย.. "
" !!??? "
เวลา 11.43 น.
" ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ "
เฟย์โค้งคำนับขอบคุณผู้ใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นญาติของเขามาเยี่ยม เฟย์ในชุดดำและใบหน้าที่เศร้าหมอง มองดูรถของญาติตัวเอง ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปช้า ก่อนที่รถคันนี้จะค่อยใกลสายตาเขาไปเรื่อย ๆ
" สุดท้าย...ก็เหลือฉันคนเดียวสินะ "
เฟย์พูดพึมพัมกับตัวเอง ก่อนที่เขาจะสังเกตุเห็นใครบางคนยืนอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามเขา เขาค่อย ๆ หันหน้ามามอง ก่อนจะพบว่าเป็นเรย์ที่ยืนอยู่
" เธอเองเหรอ ?.. "
" ...ทำไมล่ะ ? "
" หืม !? "
" ทำไมนายไม่กลับมาล่ะ ? "
เรย์ถามเฟย์ถึงเหตุผลที่ไม่ยอมกลับมารวมตัวกันอีกนับตั้งแต่วันนั้น
" อย่ามายุ่งน่า !! "
" ว่าไงนะ ?! "
" ฉันบอกว่าอย่ามายุ่งไง อย่างเธอมันไม่เข้าใจหรอก ! ตั้งแต่วันนั้น วันที่ฉันเสียแม่ไป พ่อก็คิดว่าฉันมันไอเฮงซวยตัวหนึ่งที่แค่แม่ตัวเองยังปกป้องไม่ได้ แต่มาวันหนึ่งจู่ ๆ ท่านก็กลับมาดีกับฉัน ใช่ ! มันคือช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุด แล้วไง !? สุดท้ายแม้แต่พ่อฉันก็ปกป้องไว้ไม่ได้เหมือนกัน !!... "
เฟย์ตะโกนใส่เรย์ทั้งน้ำตา ความเศร้าในใจเขาพรั่งพรูออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เฟย์มาดแบดบอยและขี้เล่นที่เรย์รู้จักตอนนี้กลายเป็นเพียงชายหนุ่มที่ถูกความเศร้าโศกจากการเสียพ่อไปจนแถบขาดสติ
" มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย... "
" ไม่ใช่งั้นเหรอ !? คนไม่มีพ่ออย่างเธอมันจะไปเข้าใจอะไร !! "
เรย์วิ่งเข้าไปต่อยที่หน้าของเฟย์จนเขาล้มลงด้วยโธสะ และเธอก็ตรงไปนั่งค่อมตัวเฟย์ไว้และซัดเข้าไปที่หน้าของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
" เลิกบ้าสักทีจะได้มั๊ย !!....ถึงพ่อฉันจะตายไป ฉันก็ไม่มามัวเสียใจทุกวันหรอกนะ !! ใช่ ! ฉันเสียใจ...แต่ฉันก็เข้าใจถึงเรื่องบางเรื่องที่ทำให้ฉุกคิดได้...ไม่ว่าจะทั้งฉัน...หรือใครก็ตาม ต่างก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเสมอไป...ยังมีคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เราเสมอ ไม่วันนี้ก็วันพรุ่ง แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้...มันจะต้องเริ่มจากตัวนายเอง !! จำที่พ่อนายพูดไม่ได้รึไง ? ว่านายต้องยืนหยัดด้วยตัวนายเอง !! "
น้ำตาของเรย์หยดลงไปบนหน้าที่มีแต่รอยฟกช้ำของเฟย์ จนกระทั่งเฟย์เอาหน้าไปซบที่อกของเฟย์พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย
" ฉันคอยมองดูนายมาตลอด ไม่ว่าอะไรก็ตาม ทั้งในยามที่ฉันเศร้าก็เป็นนายเสมอที่ยื่นมือมาช่วยฉัน ถ้าครั้งใหนชิจังมาช่วยฉันไม่ได้...ก็เป็นนายเสมอ "
ในระหว่างที่เรย์กำลังพูด จู่ ๆ ก็มีหิมะเริ่มโปรยปรายจากท้องฟ้า พร้อมกับลมเย็นพัดอ่อน ๆ
เฟย์ค่อย ๆ ยอกแขนทั้งสองข้างมาโอบกอดเรย์ไว้
เรย์ค่อย ๆ เงยหน้ามองไปที่หน้าของเฟย์
" หึ..นี่ฉันมามัวทำบ้าอะไรให้ทุกคนเป็นห่วงกันเนี่ย "
ใบหน้าของเฟย์เริ่มมีรอยยิ้มเข้ามาแทนที่แล้ว
" เรย์ "
" หืม ? "
" ...ขอบคุณนะ ที่ยังคอยอยู่ข้างฉัน และทุกคนที่ยังเป็นห่วงฉัน.. "
" ตาบ้า ! ของแบบนี้ไปบอกทุกคนเองสิ "
" ฮ่า ๆ "
เฟย์หัวเราะอ่อนในขณะที่เรย์ยังนั่งทับเขาอยู่
" ...ฉัน..รักเธอนะ "
"..อะ..อืม..ฉันก็รักนาย... "
เวลา 13.21 น.
บ้านของเรย์
" เอ่อ..คุณน้าคะ แกงเริ่มเดือดแล้วทำไงต่อเหรอคะ ? "
ชิฮิโระที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารอยู่หันไปถามแม่ของเรย์ว่าขั้นตอนต่อไปต้องทำอย่างไรบ้าง
" เอ้า นี่จ้ะ ใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้แล้วลงไปแบบนี้...อย่างนั้นละ แล้วก็รอสัก 5 นาทีให้ได้ที่ก่อนนะ "
แม่ของเรย์พูดพลางสาธิตชิฮิโระไปพลาง
ผ่านไปได้สักพักอาหารที่ชิฮิโระทำโดยมีแม่ของเรย์คอยสอนก็เสร็จ ทั้งสองคนเดินมานั่งที่โต๊ะเพื่อพูดคุยกัน
" ขอบคุณชิฮิโระจังมาก ๆ เลยนะที่อุตส่าห์มาช่วยทำอาหารรอเรย์กลับมา "
" ไม่เป็นไรหรอกคะ อะไรที่ฉันพอจะทำเพื่อเธอกับคุณน้าได้ฉันก็อยากทำคะ ! "
" ...เธอจะว่ามั้ย ? ถ้าฉันมาชวนทานข้าวเย็นด้วยกัน เพราะเอกก็ไม่อยู่ เรย์คงเหงาแย่ถ้าไม่มีคนมานั่งทานเป็นเพื่อน "
" เอ่อ..จะดีเหรอคะคุณน้า .. ? "
ชิฮิโระถามเธอด้วยความเกรงใจ
" ได้ข่าวว่าเธออาศัยอยู่คนเดียวนี่ คงเหงาแย่ "
ทันทีที่แม่ของเรย์พูดถึงทางบ้านของชิฮิโระ เธอก็มีสีหน้าที่เศร้าขึ้นในทันที
" ..นี่ฉันเผลอพูดอะไรไม่คิดอีกแล้วเหรอเนี่ย ? ต้องขอโทษด้วยนะชิฮิโระจัง "
" อ๊ะ ! คุณน้าไม่ต้องขอโทษหรอกคะ มันไม่ใช่ความผิดของคุณน้าหรอก....ครอบครัวของหนูมันไม่ดีเอง หนูเองก็ได้รับการช่วยเหลือมาจากคนรักของคุณน้า เพราะถ้าไม่งั้น ก็อาจจะไม่มีโอกาศมาช่วยคุณน้าทำอาหารตรงนี้หรอกคะ...หนูในตอนนี้นะ... "
ชิฮิโระยังไม่ทันพูดเสร็จอยู่ ๆ แม่ของเรย์ก็ลุกเดินขึ้นมากอดชิฮิโระ เธอรู้สึกตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก
" ตอนนี้เธอก็ไม่เป็นอะไรนี่...ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะต้องกลัวอีกแล้ว...ตั้งแต่วันนี้...ให้ฉัน เป็นแม่ของเธอได้รึเปล่า.. "
ชิฮิโระที่ได้ยินคำพูดนั้น น้ำตาของเธอใหลออกมาด้วยความตื้นตันใจ
" ค่ะ...คุณแม่ "
เวลา 20.11 น.
ห้องพักของคานาอิ
คานาอินอนบนเตียงพลางมองไปนอกหน้าต่าง ท่ามกลางหิมะที่กำลังตกหนัก เธอกำลังครุ่นคิดถึงใครบางคนอยู่
' ทำไมกันนะ ฉันก็แค่อยากช่วย ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ '
ระหว่างที่เธอกำลังนอนอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอลุกขึ้นไปเปิดประตู ถึงกับทำให้เธอประหลาดใจกับคนที่โผล่มา
" เอก !! "
" ฉันมีเรื่อง...อยากจะคุยกับเธอ "
" งะ..งั้นเข้ามาก่อนสิ "
คานาอิเปิดประตูให้เอกเดินเข้าไป เธอสังเกตุเห็นว่าเอกยังมีผ้าพันแผลตามจุดต่าง ๆ อยู่มาก
" เธอโอเคหรือเปล่า ? "
" ฉันโอเค..ฉันแค่มีเรื่องที่จะต้องมาบอกกับเธอด้วยตัวเอง "
" เอ๋ !? เรื่องอะไรเหรอ ?? จะเปลี่ยนจากหมั้นเป็นแต่งกันเลยงั้นเหรอ ?? "
คานาอิถามเอกด้วยความตื่นเต้น
" ต่อจากนี่ไป ห้ามมายุงกับพวกฉันอีก "
" !? "
จู่บรรยากาศในห้องก็เริ่มผันแปร คานาอิที่ใบหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้มกับเริ่มเป็นใบหน้าที่ตกใจจนช็อกหยุดทุกกิริยาที่เธอทำอยู่
" ที่ผ่านมาฉัน...โกรธมาก ที่ตลอดเวลาทุกคนเอาแต่พูดถึงเรื่องของฉันกับเธอ มันทำให้ฉันหงุดหงิด..ฉันมันก็แค่ไออ้วนหน้าห่วยตัวนึงที่ระเห็ดมาอยู่ที่นี้ ทำไมต้องฉันละ ? คิดจะแกล้งกันรึไง ? คิดว่ามันคงสนุกมากละสิที่มาล้อเล่นกับฉัน "
เอกพูดกับคานาอิด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวจนทำให้เธอเริ่มวิตกกังวล
" เธอไม่เคยเหงาเลยว่างั้นสิ "
" ว่าไงนะ ? "
" ฉันนะไม่เข้าใจ...ว่าเพื่อนนะ..มันดียังไง...คนรักทำให้รู้สึกยังไง ตลอดเวลาที่ฉันเติบโตมาก็แถบจะไม่รู้สึกอะไรแบบนี้กับใครเลย ราวกับทุกอย่างที่ฉันเจอมันคือสิ่ง ๆ หนึ่งที่แสนจะธรรมดาและไม่ซื่อตรง...แต่กับเธอ ฉันกลับรู้สึก... "
ในระหว่างที่คานาอิกำลังพูดเธอค่อย ๆ เคลื่อนตัวมาหาเอกที่นั่งอยู่ แต่ปกติแทนที่เอกจะชอบผลักเธอไปห่าง ๆ เขากลับนิ่งเฉยและมองที่หน้าของคานาอิ
" เธอก็สำผัสถึงมันได้ใช่มั๊ยล่ะ ? ตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน แม้ปากเธอจะบอกอีกอย่าง แต่ลึก ๆ ทั้งเธอและฉันเราต่างก็ซื่อตรงซึ่งกันและกัน "
เธอเอามือมาวางบนอกของเอก เอกสำผัสถึงความนุ่มและอบอุ่นจากมือเล็ก ๆ ของเธอ
" วันนี้วันคริสต์มาส ถ้าฉันขอพรได้...ฉันอยากขอให้เธอ...อะ..อยู่กับฉันต่อไป..อย่าทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวอีก... "
คานาอิได้พูดทุกความรู้สึกออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มใหลรินออกมา
เอกที่คอยทำหน้านิ่งตลอด ตอนนี้หน้าเริ่มแดงฉ่า เขากลับเขินอายที่จะแสดงความรู้สึกตรง ๆ นี้กับเธอ
" กะ..ก็ได้..ไม่จำเป็นต้องขอพรหรอก "
คานาอิที่ตอนนี้ใบหน้าเศร้าเต็มไปด้วยน้ำตาตอนนี้สลัดคราบกลับเข้าสู่โหมดสดใสอีกครั้ง
" เย้ ~~~ ในที่สุดพ่อหนุมขรึมก็รับรักฉันแล้ว "
" นี่ !!! "
คานาอิพุ่งเข้ากระโดดใส่เอกจนเขาล้มลงด้วยความอาย เขาได้แต่หันหน้าหนี
" สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ ! "
คานาอิพูดกับเอกด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้มดังเดิม
" อืม สุขสันต์วันคริสต์มาส... "
ณ เมืองทัตสึมิ เริ่มมีหิมะปกคลุมทั่วทั้งเมือง ไม่ว่าจะที่ใหนต่างก็เริ่มฉลองวันคริสต์มาสกันแล้ว ทุก ๆ ร้านค้าต่างประดับประดาร้านด้วยของตกแต่ง มีผู้คนออกมาใช้เวลากับครอบครัว หรือ บางคนก็ออกมาใช้เวลากับคนรัก
ฟูโกะเดินเรียบริมแม่น้ำของเมืองท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นโดยที่เธอได้ถุงผ้าที่ข้างในมีวัตถุดิบสำหรับทำอาหารอยู่
เธอเดินตรงเข้าไปในร้านซูชิที่เธอคุ้นเคย
" ขออณุญาตินะคะฮัตโตริซัง "
เธอกล่าวทักทายเจ้าบ้านอย่างเป็นกันเอง
" อ้า ! ฟูโกะเองเหรอ เชิญเลย ๆ "
ฮัตโตริที่อยู่ตรงเคาท์เตอร์ร้านหันหน้ามาทักทาย
" ฉันเอาของสำหรับทำซุปมาเพิ่มนะคะ "
" โอ้ ขอบใจมาก ๆ เลยนะ "
ฟูโกะยื่นของให้ฮัตโตริ เขารู้สึกขอบคุณเธอมาก
" ว่าแต่ ช่วงนี้ไม่มีคนมาเลยนะคะ "
ฟูโกะพูดขึ้นเพราะเธอสังเกตว่าไม่ค่อยมีลูกค้ามาเลย
" มันเป็นแบบนี้มา 20 กว่าปีแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ฉันชินแล้ว ที่ฉันเปิดก็เพราะมันเบื่อ ๆ ด้วยละ แล้วเธอล่ะว่าไง อยากทานซักหน่อยมั๊ยละ ? "
" เอ่อ..ถ้ามันเป็นการช่วยอุดหนุนก็ได้คะ "
ฟูโกะตอบฮัตโตริไปด้วยความเขินปนเกรงใจหน่อย
" โถ่ แค่นี้เอง ฉันไม่ถือหรอก ฉันให้ทานฟรีเลย "
ฮัตโตริกล่าวไปพลางแล่เนื้อปลาด้วยความชำนาญอย่างรวดเร็ว
" เอ๋ ! จะดีเหรอคะ ฮัตโตริซัง ? "
" เอาน่า ๆ... นี่ เสร็จแล้ว ทานได้เลยนะ "
ฮัตโตริยื่นจานซูชิมาวางที่โต๊ะด้านหน้าฟูโกะ
เธอมองที่ซูชิ ก่อนจะมองไปที่หน้าของฮัตโตริด้วยใบหน้าที่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากชายสูงอายุคนนี้
" ฮัตโตริซัง...เป็นคนที่ใจดีจังเลยนะคะ "
เธอพูดชมฮัตโตริด้วยรอยยิ้มอ่อน ทำให้เขาถึงกับขมวดขิ้วพลางยิ้มไปด้วย
" อะไรละนั่น ที่ฉันทำนี่ก็เพราะว่าพวกเธอกำลังช่วยพวกเราอยู่เหมือนกันนะ โดยเฉพาะพ่อหนุ่มที่นอนอยู่รักษาตัวในห้องชั้นสองตอนนี้ก็ด้วย ฉันยิ่งต้องช่วยเขานั่นแหละ "
ฮัตโตริได้พูดถึงเหตุผลของเขา ว่าที่เขาคอยช่วย เพราะพวกฟูโกะและคนอื่น ๆ ได้ออกกำจัดเฟียร์ที่ออกมาทำร้ายคนทุก ๆ ตีสาม โดยเฉพาะเอกที่ล่าสุดก็ได้รับบาดแผลที่สาหัสจากการทำหน้าที่นั้นจนต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านของฮัตโตริที่มีการรักษาที่รวดเร็วและเป็นวิธีเฉพาะสำหรับคนที่ใช้พลังพิเศษ
" แต่ว่าตอนนี้...พวกเรา..ไม่ได้ปกป้องผู้คนอยู่นี่คะ "
ฟูโกะกล่าวขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าหมอง ฮัตโตริก็รับรู้ถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ก็ไม่วายที่จะรู้สึกเศร้าไปด้วย ตอนนี้บรรยากาศในร้านซูชินั้นอึมครึมท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น...
แต่ระหว่างบรรยากาศการสนทนาอันแสนจะคลุมเครือ จู่ ๆ ก็มีร่างของชายคนหนึ่งเดินเข้าในร้านด้วยสภาพที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล
" เอก !! เธอมาที่ได้ยังไง ? ไม่ใช่ว่าพักอยู่หรอกเหรอ ? ...."
ฟูโกะวิ่งไปหาเอกและถามคำถามสารพัดมากด้วยความเป็นห่วง
" เธอพอจะ...ช่วยหาที่อยู่ของคานาอิให้ฉันหน่อยได้มั้ย.. "
" !!??? "
เวลา 11.43 น.
" ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ "
เฟย์โค้งคำนับขอบคุณผู้ใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นญาติของเขามาเยี่ยม เฟย์ในชุดดำและใบหน้าที่เศร้าหมอง มองดูรถของญาติตัวเอง ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปช้า ก่อนที่รถคันนี้จะค่อยใกลสายตาเขาไปเรื่อย ๆ
" สุดท้าย...ก็เหลือฉันคนเดียวสินะ "
เฟย์พูดพึมพัมกับตัวเอง ก่อนที่เขาจะสังเกตุเห็นใครบางคนยืนอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามเขา เขาค่อย ๆ หันหน้ามามอง ก่อนจะพบว่าเป็นเรย์ที่ยืนอยู่
" เธอเองเหรอ ?.. "
" ...ทำไมล่ะ ? "
" หืม !? "
" ทำไมนายไม่กลับมาล่ะ ? "
เรย์ถามเฟย์ถึงเหตุผลที่ไม่ยอมกลับมารวมตัวกันอีกนับตั้งแต่วันนั้น
" อย่ามายุ่งน่า !! "
" ว่าไงนะ ?! "
" ฉันบอกว่าอย่ามายุ่งไง อย่างเธอมันไม่เข้าใจหรอก ! ตั้งแต่วันนั้น วันที่ฉันเสียแม่ไป พ่อก็คิดว่าฉันมันไอเฮงซวยตัวหนึ่งที่แค่แม่ตัวเองยังปกป้องไม่ได้ แต่มาวันหนึ่งจู่ ๆ ท่านก็กลับมาดีกับฉัน ใช่ ! มันคือช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุด แล้วไง !? สุดท้ายแม้แต่พ่อฉันก็ปกป้องไว้ไม่ได้เหมือนกัน !!... "
เฟย์ตะโกนใส่เรย์ทั้งน้ำตา ความเศร้าในใจเขาพรั่งพรูออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เฟย์มาดแบดบอยและขี้เล่นที่เรย์รู้จักตอนนี้กลายเป็นเพียงชายหนุ่มที่ถูกความเศร้าโศกจากการเสียพ่อไปจนแถบขาดสติ
" มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย... "
" ไม่ใช่งั้นเหรอ !? คนไม่มีพ่ออย่างเธอมันจะไปเข้าใจอะไร !! "
เรย์วิ่งเข้าไปต่อยที่หน้าของเฟย์จนเขาล้มลงด้วยโธสะ และเธอก็ตรงไปนั่งค่อมตัวเฟย์ไว้และซัดเข้าไปที่หน้าของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
" เลิกบ้าสักทีจะได้มั๊ย !!....ถึงพ่อฉันจะตายไป ฉันก็ไม่มามัวเสียใจทุกวันหรอกนะ !! ใช่ ! ฉันเสียใจ...แต่ฉันก็เข้าใจถึงเรื่องบางเรื่องที่ทำให้ฉุกคิดได้...ไม่ว่าจะทั้งฉัน...หรือใครก็ตาม ต่างก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเสมอไป...ยังมีคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เราเสมอ ไม่วันนี้ก็วันพรุ่ง แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้...มันจะต้องเริ่มจากตัวนายเอง !! จำที่พ่อนายพูดไม่ได้รึไง ? ว่านายต้องยืนหยัดด้วยตัวนายเอง !! "
น้ำตาของเรย์หยดลงไปบนหน้าที่มีแต่รอยฟกช้ำของเฟย์ จนกระทั่งเฟย์เอาหน้าไปซบที่อกของเฟย์พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย
" ฉันคอยมองดูนายมาตลอด ไม่ว่าอะไรก็ตาม ทั้งในยามที่ฉันเศร้าก็เป็นนายเสมอที่ยื่นมือมาช่วยฉัน ถ้าครั้งใหนชิจังมาช่วยฉันไม่ได้...ก็เป็นนายเสมอ "
ในระหว่างที่เรย์กำลังพูด จู่ ๆ ก็มีหิมะเริ่มโปรยปรายจากท้องฟ้า พร้อมกับลมเย็นพัดอ่อน ๆ
เฟย์ค่อย ๆ ยอกแขนทั้งสองข้างมาโอบกอดเรย์ไว้
เรย์ค่อย ๆ เงยหน้ามองไปที่หน้าของเฟย์
" หึ..นี่ฉันมามัวทำบ้าอะไรให้ทุกคนเป็นห่วงกันเนี่ย "
ใบหน้าของเฟย์เริ่มมีรอยยิ้มเข้ามาแทนที่แล้ว
" เรย์ "
" หืม ? "
" ...ขอบคุณนะ ที่ยังคอยอยู่ข้างฉัน และทุกคนที่ยังเป็นห่วงฉัน.. "
" ตาบ้า ! ของแบบนี้ไปบอกทุกคนเองสิ "
" ฮ่า ๆ "
เฟย์หัวเราะอ่อนในขณะที่เรย์ยังนั่งทับเขาอยู่
" ...ฉัน..รักเธอนะ "
"..อะ..อืม..ฉันก็รักนาย... "
เวลา 13.21 น.
บ้านของเรย์
" เอ่อ..คุณน้าคะ แกงเริ่มเดือดแล้วทำไงต่อเหรอคะ ? "
ชิฮิโระที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารอยู่หันไปถามแม่ของเรย์ว่าขั้นตอนต่อไปต้องทำอย่างไรบ้าง
" เอ้า นี่จ้ะ ใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้แล้วลงไปแบบนี้...อย่างนั้นละ แล้วก็รอสัก 5 นาทีให้ได้ที่ก่อนนะ "
แม่ของเรย์พูดพลางสาธิตชิฮิโระไปพลาง
ผ่านไปได้สักพักอาหารที่ชิฮิโระทำโดยมีแม่ของเรย์คอยสอนก็เสร็จ ทั้งสองคนเดินมานั่งที่โต๊ะเพื่อพูดคุยกัน
" ขอบคุณชิฮิโระจังมาก ๆ เลยนะที่อุตส่าห์มาช่วยทำอาหารรอเรย์กลับมา "
" ไม่เป็นไรหรอกคะ อะไรที่ฉันพอจะทำเพื่อเธอกับคุณน้าได้ฉันก็อยากทำคะ ! "
" ...เธอจะว่ามั้ย ? ถ้าฉันมาชวนทานข้าวเย็นด้วยกัน เพราะเอกก็ไม่อยู่ เรย์คงเหงาแย่ถ้าไม่มีคนมานั่งทานเป็นเพื่อน "
" เอ่อ..จะดีเหรอคะคุณน้า .. ? "
ชิฮิโระถามเธอด้วยความเกรงใจ
" ได้ข่าวว่าเธออาศัยอยู่คนเดียวนี่ คงเหงาแย่ "
ทันทีที่แม่ของเรย์พูดถึงทางบ้านของชิฮิโระ เธอก็มีสีหน้าที่เศร้าขึ้นในทันที
" ..นี่ฉันเผลอพูดอะไรไม่คิดอีกแล้วเหรอเนี่ย ? ต้องขอโทษด้วยนะชิฮิโระจัง "
" อ๊ะ ! คุณน้าไม่ต้องขอโทษหรอกคะ มันไม่ใช่ความผิดของคุณน้าหรอก....ครอบครัวของหนูมันไม่ดีเอง หนูเองก็ได้รับการช่วยเหลือมาจากคนรักของคุณน้า เพราะถ้าไม่งั้น ก็อาจจะไม่มีโอกาศมาช่วยคุณน้าทำอาหารตรงนี้หรอกคะ...หนูในตอนนี้นะ... "
ชิฮิโระยังไม่ทันพูดเสร็จอยู่ ๆ แม่ของเรย์ก็ลุกเดินขึ้นมากอดชิฮิโระ เธอรู้สึกตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก
" ตอนนี้เธอก็ไม่เป็นอะไรนี่...ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะต้องกลัวอีกแล้ว...ตั้งแต่วันนี้...ให้ฉัน เป็นแม่ของเธอได้รึเปล่า.. "
ชิฮิโระที่ได้ยินคำพูดนั้น น้ำตาของเธอใหลออกมาด้วยความตื้นตันใจ
" ค่ะ...คุณแม่ "
เวลา 20.11 น.
ห้องพักของคานาอิ
คานาอินอนบนเตียงพลางมองไปนอกหน้าต่าง ท่ามกลางหิมะที่กำลังตกหนัก เธอกำลังครุ่นคิดถึงใครบางคนอยู่
' ทำไมกันนะ ฉันก็แค่อยากช่วย ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ '
ระหว่างที่เธอกำลังนอนอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอลุกขึ้นไปเปิดประตู ถึงกับทำให้เธอประหลาดใจกับคนที่โผล่มา
" เอก !! "
" ฉันมีเรื่อง...อยากจะคุยกับเธอ "
" งะ..งั้นเข้ามาก่อนสิ "
คานาอิเปิดประตูให้เอกเดินเข้าไป เธอสังเกตุเห็นว่าเอกยังมีผ้าพันแผลตามจุดต่าง ๆ อยู่มาก
" เธอโอเคหรือเปล่า ? "
" ฉันโอเค..ฉันแค่มีเรื่องที่จะต้องมาบอกกับเธอด้วยตัวเอง "
" เอ๋ !? เรื่องอะไรเหรอ ?? จะเปลี่ยนจากหมั้นเป็นแต่งกันเลยงั้นเหรอ ?? "
คานาอิถามเอกด้วยความตื่นเต้น
" ต่อจากนี่ไป ห้ามมายุงกับพวกฉันอีก "
" !? "
จู่บรรยากาศในห้องก็เริ่มผันแปร คานาอิที่ใบหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้มกับเริ่มเป็นใบหน้าที่ตกใจจนช็อกหยุดทุกกิริยาที่เธอทำอยู่
" ที่ผ่านมาฉัน...โกรธมาก ที่ตลอดเวลาทุกคนเอาแต่พูดถึงเรื่องของฉันกับเธอ มันทำให้ฉันหงุดหงิด..ฉันมันก็แค่ไออ้วนหน้าห่วยตัวนึงที่ระเห็ดมาอยู่ที่นี้ ทำไมต้องฉันละ ? คิดจะแกล้งกันรึไง ? คิดว่ามันคงสนุกมากละสิที่มาล้อเล่นกับฉัน "
เอกพูดกับคานาอิด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวจนทำให้เธอเริ่มวิตกกังวล
" เธอไม่เคยเหงาเลยว่างั้นสิ "
" ว่าไงนะ ? "
" ฉันนะไม่เข้าใจ...ว่าเพื่อนนะ..มันดียังไง...คนรักทำให้รู้สึกยังไง ตลอดเวลาที่ฉันเติบโตมาก็แถบจะไม่รู้สึกอะไรแบบนี้กับใครเลย ราวกับทุกอย่างที่ฉันเจอมันคือสิ่ง ๆ หนึ่งที่แสนจะธรรมดาและไม่ซื่อตรง...แต่กับเธอ ฉันกลับรู้สึก... "
ในระหว่างที่คานาอิกำลังพูดเธอค่อย ๆ เคลื่อนตัวมาหาเอกที่นั่งอยู่ แต่ปกติแทนที่เอกจะชอบผลักเธอไปห่าง ๆ เขากลับนิ่งเฉยและมองที่หน้าของคานาอิ
" เธอก็สำผัสถึงมันได้ใช่มั๊ยล่ะ ? ตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน แม้ปากเธอจะบอกอีกอย่าง แต่ลึก ๆ ทั้งเธอและฉันเราต่างก็ซื่อตรงซึ่งกันและกัน "
เธอเอามือมาวางบนอกของเอก เอกสำผัสถึงความนุ่มและอบอุ่นจากมือเล็ก ๆ ของเธอ
" วันนี้วันคริสต์มาส ถ้าฉันขอพรได้...ฉันอยากขอให้เธอ...อะ..อยู่กับฉันต่อไป..อย่าทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวอีก... "
คานาอิได้พูดทุกความรู้สึกออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มใหลรินออกมา
เอกที่คอยทำหน้านิ่งตลอด ตอนนี้หน้าเริ่มแดงฉ่า เขากลับเขินอายที่จะแสดงความรู้สึกตรง ๆ นี้กับเธอ
" กะ..ก็ได้..ไม่จำเป็นต้องขอพรหรอก "
คานาอิที่ตอนนี้ใบหน้าเศร้าเต็มไปด้วยน้ำตาตอนนี้สลัดคราบกลับเข้าสู่โหมดสดใสอีกครั้ง
" เย้ ~~~ ในที่สุดพ่อหนุมขรึมก็รับรักฉันแล้ว "
" นี่ !!! "
คานาอิพุ่งเข้ากระโดดใส่เอกจนเขาล้มลงด้วยความอาย เขาได้แต่หันหน้าหนี
" สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ ! "
คานาอิพูดกับเอกด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้มดังเดิม
" อืม สุขสันต์วันคริสต์มาส... "
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ