บัลลังก์ฉิมพลี
8.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.
59 ตอน
1 วิจารณ์
57.77K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ยิ่งเธอห่างก็ยิ่งหวง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อกิจกรรมทุกอย่างผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแขกผู้มาร่วมอวยพรทั้งหลาย
ก็ต่างมอบของขวัญของตนเองให้กับปิ่นรักก่อนจะทยอยลากลับ..
เหลือเพียงตรีทิพย์และทอปัดเท่านั้นที่ยังคงนั่งพูดคุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้
อยู่กับเจ้าของวันเกิด ณ ริมระเบียงของบ้านสีขาวซึ่งเป็นจุดชมวิว
ให้มองไปยังบึ้งกว้างดาราดาดอยู่ตรงหน้านั่นเอง
ทั้งหมดร่วมจิบเครื่องดื่มกันเล็กๆน้อยๆเจรจาปราศรัยกันไปตามเรื่อง
ซุปเปอร์โมเดลสาวอารมณ์ดียิ้มตอบ รับฟังพูดคุยกับคนที่เธอมอบตำแหน่งให้เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง
อย่างสนุกสนานและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจนทำให้ทอปัดแอบสงสัยนิดหน่อย
ว่าน้องสาวของเธอเมาแอลกอฮอล์หรือเปล่าถึงได้เริงร่าผิดปกติ
แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ตรีทิพย์วางตัวได้โอเคไม่แข็งทื่อเหมือนเมื่อตอนเย็น
ที่นางแบบร่างสูงอารมณ์ดีกว่าปกตินั้นก็อาจจะเป็นเพราะว่า
เธอได้พูดคุยกับปิ่นรักไปเพลินๆพร้อมๆกับได้นั่งมองหน้าสวยๆ
ของสาวน้อยผิวสีน้ำนมอย่างเพชรเกล้าไปด้วย
ร่างบางรู้สึกใจเต้นแรงอย่างไรบอกไม่ถูกเมื่ออีกคนนั้นคอยมองมาที่เธออยู่ตลอดเวลา
หากเธอเผลอมองกลับไปบ้างก็จะเจอกับสายตาที่ดูแล้วช่างฉวยโอกาสในทางอ้อมเสียจริงๆ
เพชรเกล้าจึงต้องคอยก้มหน้าหลบตาหรือเบี่ยงหนีไปทางอื่นสายตาแบบนี้
มันทำให้เธอหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ลุ้นระทึกที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
“ อาปิ่นดูมีความสุขมากเลยนะคะ ”
ทอปัดพูดขึ้นเมื่อสีหน้าของปิ่นรักดูสดใสกว่าวันเกิดในทุกๆปีที่ผ่านมา
และยังแอบเห็นแม่ลูกคุยกันกระหนุงกระหนิงช่างรักใคร่ดูอบอุ่นกันมากเสียจริงๆ
“ สังเกตได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอจ๊ะ ” ปิ่นรักพูดขึ้นพร้อมกับหันมองหน้าลูกสาวของเธอด้วยรอยยิ้ม
เพชรเกล้านั่งห่างออกมาจากโต๊ะนิดหน่อยเนื่องจากเธอไม่ค่อยชอบกลิ่นแอลกอฮอล์เสียเท่าไหร่
แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงหนีไม่พ้นสายตาอันเจ้าเล่ห์ของตรีทิพย์อยู่ดี สาวน้อยร่วมพูดคุยด้วยบ้าง
เมื่อทอปัดหรือแม่ของเธอตั้งคำถามมาให้เพื่อแสดงความคิดเห็นหรืออะไรก็ตาม
เธอก็สามารถตอบได้อย่างฉะฉานที่เต็มไปด้วยความรู้ทำให้นางแบบสาวยิ่งชอบใจเข้าไปใหญ่
ที่เห็นเพชรเกล้าเป็นคนฉลาดมีไหวพริบหากเธอจะหลอกล่ออะไร
ก็คงจะต้องวางแผนมาเป็นอย่างดีเสียแล้วหล่ะ
“ อาคะ แฟชั่นที่ผ่านมาต้ามีรูปมาอัปเดทให้ดูด้วยนะ ”
ทอปัดที่นั่งอยู่ไม่ไกลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปที่ว่านั่นสไลด์โชว์อย่างคล่องแคล่ว
แบ่งปันเรื่องราวให้ปิ่นรักรับชมอย่างคุ้นเคย
เธอรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้คลุกคลีอยู่กับเจ้านายใหญ่คนนี้
เพราะคิดเสียว่าเหมือนกับได้พูดคุยอยู่กับแม่ของเธอนั่นเอง
“ ถ้าอย่างนั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ ” ร่างบางได้โอกาสจึงคิดจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้
“ เดี๋ยวก่อนสิพราว ลูกง่วงแล้วหรอจ๊ะ ”
เพชรเกล้าหันมองอีกครั้งเมื่อถูกมารดาของเธอแตะที่เรียวแขนเบาๆ
“ คุณแม่มีอะไรเหรอคะ? ”
“ แม่อยากฟังเสียงเปียโนของพราว ลูกเล่นให้แม่ฟังเพลินๆสักเพลงได้มั้ยจ๊ะ ”
“ น้องพราวเล่นเปียโนเป็นด้วยเหรอคะ ” ทอปัดถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น
เพชรเกล้ายิ้มหวานแทนคำตอบ
“ นะลูก คืนนี้แม่จะได้นอนหลับสบาย ” ปิ่นรักยิ้มบอกต่อลูกสาว
ร่างบางยืนขึ้นช้าๆเมื่อแม่ร้องขอเธอก็คงต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้
ถึงแม้จะอยากไปให้พ้นสายตาของใครบางคนเต็มที
“ อาหวงลูกสาวมั้ยคะ ”
ร่างสูงในทรงไขว่ห้างพูดขึ้นเรียบๆ ใบหน้าเรียวหันมองทันควันไปพร้อมๆกับทอปัด
ที่ต้องกระแอมเสียงเบาๆชักสีหน้ารู้ทันถึงจุดประสงค์ของน้องสาว
“ หวงสิจ๊ะ หวงมากที่สุดเลยล่ะ ” ปิ่นรักหัวเราะปะปนส่งยิ้มให้ลูกสาวของเธอเบาๆ
ตรีทิพย์กระตุกยิ้มจ้องมองทรวดทรงองค์เอวของสาวน้อยคนสวย
เสียจนทำให้เจ้าของร่างเริ่มเขินอายอีกครั้ง หากแม่ของเธอไม่บอกว่าอยากให้นั่งอยู่ด้วยแล้วนั้น
เธอคงจะหนีสายตาของตรีทิพย์ไปนานแล้วสาวน้อยจึงรีบเดินตรงไปหาเปียโนตัวสีขาว
ที่ตั้งอยู่ใกล้กับบันไดทางขึ้นชั้นสองของบ้าน ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่แม่ของเธอนั่งอยู่เท่าไหร่นัก
ตรีทิพย์เม้มริมฝีปากอมยิ้มเบาๆทอดสายตามองตามเรือนร่างเปล่งปลั่งที่ดูแล้วช่างมีน้ำมีนวลเสียจริง..
หากสาวน้อยคนนี้ได้นอนอยู่ใต้ร่างของเธอคงจะดีไม่น้อย นางแบบสาวแอบคิดลึกกับตัวเองอยู่เงียบๆ
และแบ่งปันสายตายั่วยวนไปให้กับเพชรเกล้าที่พึ่งเดินไปนั่งลงยังจุดหมาย
นั่นก็คือหน้าเครื่องดนตรีตัวสวยจนตอนนี้ผู้ถูกฉกฉวยโอกาสทางการเพ่งเล็ง
ใจสั่นหวั่นไหวแถมยังมีเหงื่อซึมบริเวณหน้าผากอีกด้วย
ทอปัดเหลือบมองน้องสาวก็ทำให้เริ่มสงสัยถึงพฤติกรรมแปลกๆ
ดูอารมณ์ดียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มให้เพชรเกล้าอยู่หลายครั้งทำเหมือนกับคุ้นเคยกันแล้ว
ทั้งที่เธอยังไม่เห็นตรีทิพย์จะเจรจาพูดคุยกับเพชรเกล้าอีกเลย
นับตั้งแต่ปิ่นรักแนะนำให้ทำความรู้จักกันในตอนนั้น
ร่างบางรวบรวมสติให้อยู่กับที่
“ ตั้งสติไว้พราวตั้งสติไว้ ”
เพชรเกล้าเอ่ยบอกกับตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสปีริต
จากนั้นสาวน้อยจึงค่อยๆวางเรียวนิ้วลงกับคีย์บอร์ด
ก่อนจะเริ่มบรรเลงให้เป็นบทเพลงที่แม่ของเธอโปรดปราณ..และตามมาด้วยความไพเราะ
เสียงเพลงผ่อนคลายเบาๆทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นขึ้นมาได้ไม่น้อย
ปิ่นรักยิ้มพอใจกับเสียงนุ่มนวลจากลูกสาวของเธอ
ก่อนจะหันไปที่หน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูสิ่งที่น่าสนใจ
ทอปัดเองก็อดที่จะยิ้มมองกิริยาของเพชรเกล้าไม่ได้
เธอเคยเห็นแต่ในละครที่บรรดาลูกคุณหนูต่างๆ
มักจะชอบมีความสามารถหลายด้านเช่นเล่นเปียโนเป็นต้น พึ่งได้เห็นของจริงก็วันนี้เอง
ตรีทิพย์เพลิดเพลินอยู่ในใจยิ้มจ้องมองผู้สร้างเสียงเพลงด้วยสองมือ
ที่ทำงานปรับแต่งตัวโน๊ตให้เป็นความไพเราะได้อย่างคล่องแคล่ว
ใบหน้าเรียวผุดผ่องดูมีความสุขไปกับเสียงดนตรีด้วยฝีมือของเธอเอง
นางแบบร่างสูงเหล่มองปิ่นรักและทอปัดทั้งสองยังคงสนอกสนใจอยู่กับรูปในมือถือ
เช่นนั้นตรีทิพย์จึงได้โอกาสลุกขึ้น
เดินตรงไปหาผู้เล่นเปียโนด้วยรอยยิ้ม.........จนมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
ใบหน้าสวยเหลือบมองปิ่นรักอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าทางสะดวก
โชคเข้าข้างเธอเสียจริงที่เปียโนตั้งห่างออกมาทางด้านหลังของโต๊ะสังสรรค์เมื่อครู่
“ ขอกดบ้างได้มั้ย... ”
ลบเนื้อหาบางส่วน
ก็ต่างมอบของขวัญของตนเองให้กับปิ่นรักก่อนจะทยอยลากลับ..
เหลือเพียงตรีทิพย์และทอปัดเท่านั้นที่ยังคงนั่งพูดคุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้
อยู่กับเจ้าของวันเกิด ณ ริมระเบียงของบ้านสีขาวซึ่งเป็นจุดชมวิว
ให้มองไปยังบึ้งกว้างดาราดาดอยู่ตรงหน้านั่นเอง
ทั้งหมดร่วมจิบเครื่องดื่มกันเล็กๆน้อยๆเจรจาปราศรัยกันไปตามเรื่อง
ซุปเปอร์โมเดลสาวอารมณ์ดียิ้มตอบ รับฟังพูดคุยกับคนที่เธอมอบตำแหน่งให้เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง
อย่างสนุกสนานและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจนทำให้ทอปัดแอบสงสัยนิดหน่อย
ว่าน้องสาวของเธอเมาแอลกอฮอล์หรือเปล่าถึงได้เริงร่าผิดปกติ
แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ตรีทิพย์วางตัวได้โอเคไม่แข็งทื่อเหมือนเมื่อตอนเย็น
ที่นางแบบร่างสูงอารมณ์ดีกว่าปกตินั้นก็อาจจะเป็นเพราะว่า
เธอได้พูดคุยกับปิ่นรักไปเพลินๆพร้อมๆกับได้นั่งมองหน้าสวยๆ
ของสาวน้อยผิวสีน้ำนมอย่างเพชรเกล้าไปด้วย
ร่างบางรู้สึกใจเต้นแรงอย่างไรบอกไม่ถูกเมื่ออีกคนนั้นคอยมองมาที่เธออยู่ตลอดเวลา
หากเธอเผลอมองกลับไปบ้างก็จะเจอกับสายตาที่ดูแล้วช่างฉวยโอกาสในทางอ้อมเสียจริงๆ
เพชรเกล้าจึงต้องคอยก้มหน้าหลบตาหรือเบี่ยงหนีไปทางอื่นสายตาแบบนี้
มันทำให้เธอหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ลุ้นระทึกที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
“ อาปิ่นดูมีความสุขมากเลยนะคะ ”
ทอปัดพูดขึ้นเมื่อสีหน้าของปิ่นรักดูสดใสกว่าวันเกิดในทุกๆปีที่ผ่านมา
และยังแอบเห็นแม่ลูกคุยกันกระหนุงกระหนิงช่างรักใคร่ดูอบอุ่นกันมากเสียจริงๆ
“ สังเกตได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอจ๊ะ ” ปิ่นรักพูดขึ้นพร้อมกับหันมองหน้าลูกสาวของเธอด้วยรอยยิ้ม
เพชรเกล้านั่งห่างออกมาจากโต๊ะนิดหน่อยเนื่องจากเธอไม่ค่อยชอบกลิ่นแอลกอฮอล์เสียเท่าไหร่
แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงหนีไม่พ้นสายตาอันเจ้าเล่ห์ของตรีทิพย์อยู่ดี สาวน้อยร่วมพูดคุยด้วยบ้าง
เมื่อทอปัดหรือแม่ของเธอตั้งคำถามมาให้เพื่อแสดงความคิดเห็นหรืออะไรก็ตาม
เธอก็สามารถตอบได้อย่างฉะฉานที่เต็มไปด้วยความรู้ทำให้นางแบบสาวยิ่งชอบใจเข้าไปใหญ่
ที่เห็นเพชรเกล้าเป็นคนฉลาดมีไหวพริบหากเธอจะหลอกล่ออะไร
ก็คงจะต้องวางแผนมาเป็นอย่างดีเสียแล้วหล่ะ
“ อาคะ แฟชั่นที่ผ่านมาต้ามีรูปมาอัปเดทให้ดูด้วยนะ ”
ทอปัดที่นั่งอยู่ไม่ไกลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปที่ว่านั่นสไลด์โชว์อย่างคล่องแคล่ว
แบ่งปันเรื่องราวให้ปิ่นรักรับชมอย่างคุ้นเคย
เธอรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้คลุกคลีอยู่กับเจ้านายใหญ่คนนี้
เพราะคิดเสียว่าเหมือนกับได้พูดคุยอยู่กับแม่ของเธอนั่นเอง
“ ถ้าอย่างนั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ ” ร่างบางได้โอกาสจึงคิดจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้
“ เดี๋ยวก่อนสิพราว ลูกง่วงแล้วหรอจ๊ะ ”
เพชรเกล้าหันมองอีกครั้งเมื่อถูกมารดาของเธอแตะที่เรียวแขนเบาๆ
“ คุณแม่มีอะไรเหรอคะ? ”
“ แม่อยากฟังเสียงเปียโนของพราว ลูกเล่นให้แม่ฟังเพลินๆสักเพลงได้มั้ยจ๊ะ ”
“ น้องพราวเล่นเปียโนเป็นด้วยเหรอคะ ” ทอปัดถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น
เพชรเกล้ายิ้มหวานแทนคำตอบ
“ นะลูก คืนนี้แม่จะได้นอนหลับสบาย ” ปิ่นรักยิ้มบอกต่อลูกสาว
ร่างบางยืนขึ้นช้าๆเมื่อแม่ร้องขอเธอก็คงต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้
ถึงแม้จะอยากไปให้พ้นสายตาของใครบางคนเต็มที
“ อาหวงลูกสาวมั้ยคะ ”
ร่างสูงในทรงไขว่ห้างพูดขึ้นเรียบๆ ใบหน้าเรียวหันมองทันควันไปพร้อมๆกับทอปัด
ที่ต้องกระแอมเสียงเบาๆชักสีหน้ารู้ทันถึงจุดประสงค์ของน้องสาว
“ หวงสิจ๊ะ หวงมากที่สุดเลยล่ะ ” ปิ่นรักหัวเราะปะปนส่งยิ้มให้ลูกสาวของเธอเบาๆ
ตรีทิพย์กระตุกยิ้มจ้องมองทรวดทรงองค์เอวของสาวน้อยคนสวย
เสียจนทำให้เจ้าของร่างเริ่มเขินอายอีกครั้ง หากแม่ของเธอไม่บอกว่าอยากให้นั่งอยู่ด้วยแล้วนั้น
เธอคงจะหนีสายตาของตรีทิพย์ไปนานแล้วสาวน้อยจึงรีบเดินตรงไปหาเปียโนตัวสีขาว
ที่ตั้งอยู่ใกล้กับบันไดทางขึ้นชั้นสองของบ้าน ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่แม่ของเธอนั่งอยู่เท่าไหร่นัก
ตรีทิพย์เม้มริมฝีปากอมยิ้มเบาๆทอดสายตามองตามเรือนร่างเปล่งปลั่งที่ดูแล้วช่างมีน้ำมีนวลเสียจริง..
หากสาวน้อยคนนี้ได้นอนอยู่ใต้ร่างของเธอคงจะดีไม่น้อย นางแบบสาวแอบคิดลึกกับตัวเองอยู่เงียบๆ
และแบ่งปันสายตายั่วยวนไปให้กับเพชรเกล้าที่พึ่งเดินไปนั่งลงยังจุดหมาย
นั่นก็คือหน้าเครื่องดนตรีตัวสวยจนตอนนี้ผู้ถูกฉกฉวยโอกาสทางการเพ่งเล็ง
ใจสั่นหวั่นไหวแถมยังมีเหงื่อซึมบริเวณหน้าผากอีกด้วย
ทอปัดเหลือบมองน้องสาวก็ทำให้เริ่มสงสัยถึงพฤติกรรมแปลกๆ
ดูอารมณ์ดียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มให้เพชรเกล้าอยู่หลายครั้งทำเหมือนกับคุ้นเคยกันแล้ว
ทั้งที่เธอยังไม่เห็นตรีทิพย์จะเจรจาพูดคุยกับเพชรเกล้าอีกเลย
นับตั้งแต่ปิ่นรักแนะนำให้ทำความรู้จักกันในตอนนั้น
ร่างบางรวบรวมสติให้อยู่กับที่
“ ตั้งสติไว้พราวตั้งสติไว้ ”
เพชรเกล้าเอ่ยบอกกับตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสปีริต
จากนั้นสาวน้อยจึงค่อยๆวางเรียวนิ้วลงกับคีย์บอร์ด
ก่อนจะเริ่มบรรเลงให้เป็นบทเพลงที่แม่ของเธอโปรดปราณ..และตามมาด้วยความไพเราะ
เสียงเพลงผ่อนคลายเบาๆทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นขึ้นมาได้ไม่น้อย
ปิ่นรักยิ้มพอใจกับเสียงนุ่มนวลจากลูกสาวของเธอ
ก่อนจะหันไปที่หน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูสิ่งที่น่าสนใจ
ทอปัดเองก็อดที่จะยิ้มมองกิริยาของเพชรเกล้าไม่ได้
เธอเคยเห็นแต่ในละครที่บรรดาลูกคุณหนูต่างๆ
มักจะชอบมีความสามารถหลายด้านเช่นเล่นเปียโนเป็นต้น พึ่งได้เห็นของจริงก็วันนี้เอง
ตรีทิพย์เพลิดเพลินอยู่ในใจยิ้มจ้องมองผู้สร้างเสียงเพลงด้วยสองมือ
ที่ทำงานปรับแต่งตัวโน๊ตให้เป็นความไพเราะได้อย่างคล่องแคล่ว
ใบหน้าเรียวผุดผ่องดูมีความสุขไปกับเสียงดนตรีด้วยฝีมือของเธอเอง
นางแบบร่างสูงเหล่มองปิ่นรักและทอปัดทั้งสองยังคงสนอกสนใจอยู่กับรูปในมือถือ
เช่นนั้นตรีทิพย์จึงได้โอกาสลุกขึ้น
เดินตรงไปหาผู้เล่นเปียโนด้วยรอยยิ้ม.........จนมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
ใบหน้าสวยเหลือบมองปิ่นรักอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าทางสะดวก
โชคเข้าข้างเธอเสียจริงที่เปียโนตั้งห่างออกมาทางด้านหลังของโต๊ะสังสรรค์เมื่อครู่
“ ขอกดบ้างได้มั้ย... ”
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ