บัลลังก์ฉิมพลี
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เพราะอยากใกล้ชิด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความท้องฟ้ามืดลงค่ำคืนนี้บรรยากาศค่อนข้างดีพอสมควร
สายลมอ่อนๆพัดเย็นสบายทำให้ดูผ่อนคลายในทุกพื้นที่
แสงไฟพรึบพรับล้อมรอบคฤหาสน์สีขาวให้ความสว่างไสวยามค่ำคืน
เพชรเกล้าจัดการทำหน้าที่เป็นคนทำและปรุงแต่งรสชาติอาหารทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด
โดยมีหญิงรับใช้อีกหลายคนเป็นลูกมือคอยช่วยอยู่ไม่ห่างและเมื่อถึงเวลา
อาหารทั้งหมดก็ถูกนำมาจัดวางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะ
กลิ่นหอมหวนชวนน่ารับประทานลอยแตะแต้มสู่ปลายจมูกของแต่ละบุคคลที่ได้เดินทางมาถึง
บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของการพูดคุยอย่างสนุกสนาน
จากศิลปินดารามากหน้าหลายตาที่ถูกเชิญให้มาร่วมรับประทานอาหารกันในวันเกิดของเจ้านาย
อันเป็นที่รักและเคารพ ทุกคนได้ทำความรู้จักกับเพชรเกล้าอย่างเป็นทางการและร่วมพูดคุยกัน
อย่างตื่นเต้น
ด้วยรอยยิ้มและการวางตัวในความเป็นกันเองของเธอนั้นทำให้ใครหลายๆคนทั้งหญิงและชาย
ที่พร้อมใจกันอยากจะทำความรู้จักด้วยอยู่แล้วต่างชวนคุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้เรียกว่าไม่มีช่องเว้น
ให้ได้หยุดปากกันเลยทีเดียว
จึงทำให้ซุปเปอร์โมเดลคนเก่งอย่างตรีทิพย์เริ่มไม่พอใจขึ้นมาทุกทีแม้เธอจะสงสัยกับตัวเองว่า
เพราะอะไรทำไมเธอถึงรู้สึกร้อนรนมากขึ้นๆและมากขึ้น!!ที่เห็นคนนั้นคนนี้พากันเสียงอ่อน
เสียงหวานใส่เจ้าหญิงของเธอกันยกใหญ่แต่ความสงสัยในใจกับถูกตัดออกไป
เหลือเพียงอารมณ์บางอย่างที่อยากจะระเบิดออกไปเสียเดี๋ยวนี้
เมื่อรอยยิ้มที่เธอแอบหวงถูกโปรยออกไปทั่วให้กับผู้คนที่เอ่ยพูดคุยด้วยทุกคน
ทีกับเธอนั้นกับมองผ่านเลยไปทำเหมือนไม่เห็นกันเสียอย่างนั้นแหละ
ตรีทิพย์เริ่มกระวนกระวายใจสีหน้าบึ้งตึงจ้องมองเพียงเรียวหน้าสาวน้อย
ที่กำลังทำเหมือนไม่เห็นเธออยู่ในสายตา
“ เต้!..ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย เสียบรรยากาศหมด! ”
ทอปัดเองนั้นก็กำลังพูดคุยปะปนกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย
เพราะทุกคนก็ล้วนแต่เป็นคนที่เธอรู้จักด้วยทั้งสิ้น
เมื่อหันมาเห็นใบหน้าอันมาสบอารมณ์ของน้องสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
แถมจ้องมองเพชรเกล้าตาเขม็งจึงรีบกระซิบบอกเบาๆทันที
ตรีทิพย์เหล่มองพี่สาวนิดหน่อยก่อนจะเหลือบมองสาวน้อยเช่นเดิมไม่วางตา
เพชรเกล้าที่รู้อยู่แล้วว่ามีสายตาของตรีทิพย์คอยสอดส่องเพ็งมองมาที่เธออยู่ตลอด
แต่ก็ทำไม่สนใจเพราะเมื่อตอนจะเริ่มรับประทานอาหารเธอได้มองไปยังฝั่งตรงข้าม
ที่มีนางแบบสาวนั่งอยู่แต่เจ้าตัวกับเบือนสายตาไปทางอื่นเหมือนเคย
สาวน้อยจึงคิดว่าเธอควรจะอยู่ในส่วนของเธอโดยไม่ต้องไปใส่ใจกับคนๆนี้จะดีกว่า
“ อาหารอร่อยมากเลยนะครับอาปิ่น ” ศิลปินดาราชายคนหนึ่งเอ่ยบอก
“ เป็นฝีมือของพราวน่ะจ้ะ เขาเก่งเรื่องทำอาหาร ” ปิ่นรักตอบกลับก่อนจะหันมองลูกสาวของเธอด้วยรอยยิ้ม
“ คุณพราวเก่งจังเลยนะคะ อิจฉาอาปิ่นจังเลยค่ะได้ทานอาหารอร่อยๆแบบนี้ทุกวัน ”
นางแบบสาวคนหนึ่ง มีชื่อว่าโชติรส พูดขึ้นเสียงหวานพลางส่งรอยยิ้มให้กับเพชรเกล้าเบาๆ
ตรีทิพย์แอบเบ้ปากเล็กน้อยเพราะเธอไม่ค่อยชอบนางแบบรุ่นน้องอย่างโชติรสเสียเท่าไหร่
เนื่องจากผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างที่จะขี้ประจบประแจงผู้ใหญ่หลายๆคน
เพื่ออยากจะมีชื่อเสียงในทางลัดมิหนำซ้ำยังมีรสนิยมหญิงก็ได้ชายก็ไม่เกี่ยงอีกต่างหาก
และยังชอบเสนอตัวเพื่อเรียกเงินให้กับผู้ใจบุญที่อยากจะเชยชมเลี้ยงดูหล่อน
แต่โชคดีที่เธอไม่ได้หลวมตัวไปคลุกคลีด้วย
“ ยิ้มอยู่ได้..เดี๋ยวเถอะ! ” ร่างสูงพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อเห็นเพชรเกล้ายิ้มให้กับโชติรส
เมื่อเวลาผ่านไปเพชรเกล้าจึงขอตัวออกไปจากโต๊ะอาหาร
เพราะเธอไม่อยากนั่งเป็นจุดสนใจให้กับตรีทิพย์อยู่เช่นนั้น
ร่างบางจึงออกมายืนที่ริมระเบียงเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนไปด้วยความเพลินตา
และในขณะนั้นเสียงเรียกเข้าจากเครื่องมือสื่อสารของเธอก็ดังขึ้น
ดวงหน้าเรียวก้มมองโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือเพียงครู่ริมฝีปากฉีกยิ้มเบาๆ
ก่อนจะแตะเลื่อนสไลด์รับสายทันที..
“ ค่ะ..พี่ชิน ” เพชรเกล้าทักทายถึงปลายสายอย่างคุ้นเคย
“ ใกล้ถึงเวลาแล้วนะคะ พี่ชินยังมาไม่ถึงอีกเหรอ? ”
“ ค่ะ ขับรถดีๆนะคะ ”
เพชรเกล้าบอกกล่าวส่งท้ายอีกครั้งก่อนจะกดวางสายไป
แต่เมื่ออากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆเธอจึงหมุนตัวกลับเพื่อที่จะเดินเข้าไปยังด้านใน…
สองเท้าของสาวน้อยหยุดกึกทันทีเมื่อหันไปเจอร่างของตรีทิพย์ยืนอยู่ตรงหน้า
ร่างบางสบตาตรีทิพย์แค่เพียงชั่วครู่ก่อนจะเบี่ยงไปอีกทางอย่างไม่สนใจ
พร้อมกับรีบเดินเลี่ยงออกไปเสียเดี๋ยวนั้นแต่ทว่ามีหรือที่นางแบบซุปตาร์
จะยอมปล่อยให้เจ้าหญิงแสนสวยของเธอเดินหนีไปได้ง่ายๆ
เวลานั้นเองตรีทิพย์จึงหันไปคว้าแขนสาวน้อยไว้ทันที
“ ทำไมถึงไม่บอกพี่ ว่าพราวเป็นลูกของปิ่นรัก... ”
ตรีทิพย์กดน้ำสียงต่ำ เพชรเกล้าชักสีหน้าสงสัยทันทีเมื่อได้ยินคนตรงหน้าเรียกขานถึงแม่เธอสั้นๆ
“ พราวคิดว่าพี่เต้รู้อยู่แล้ว ” ร่างบางตอบกลับไปเพราะเธอคิดเช่นนั้นจริงๆ
“ ไม่รู้! ”
“ แต่ก็รู้แล้วนิคะ ”
“ จะไปไหน..! ” ตรีทิพย์ดึงแขนนุ่มนิ่มนั่นไว้เมื่อเห็นว่าจะเดินหนี
“ ปล่อย ” เพชรเกล้าสะบัดแขนตัวเองออกและก้าวขาจะเดินต่อ
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ