บัลลังก์ฉิมพลี
8.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.
59 ตอน
1 วิจารณ์
57.75K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
57) ลูกศร..คิวปิด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เส้นเลือดใหญ่บริเวณขมับถูกเกร็งเปล่งจนขึ้นปูด
แทบจะทะลุออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอดใบหน้าสวย
แหงนเงยปลายจมูกโด่งขึ้นเป็นสันริมฝีปากเผยอสั่นเทา
พ่นลมหายใจเข้าออกคล้ายเจียนจะขาดใจเต็มทน
เมื่อบทรักที่ลืมนับว่าครั้งที่เท่าไหร่
เดินทางมาถึงจุดหมายที่แสนสุขสมอีกครั้ง..
สาวน้อยบีบขยำเนื้อผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่
ร่างกายของเธอหอบกระเส่าไม่แพ้บุคคลด้านบน
ที่ค่อนข้างจะหลงระเริงใจห้ามเท่าไหร่ปฏิเสธแค่ไหนก็ไม่ยอมฟัง...
เช้าวันใหม่ของสถานที่เดิม..รีสอร์ทสุดหรูที่ผสมสานกลิ่นอายในแนวชนบท
เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงแม่ฮ่องสอนเป็นที่เรียบร้อย
จึงแยกย้ายกันเข้าห้องพักของตัวเองทันทีด้วยเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
และคาดว่าในยามรุ่งสางของวันใหม่ก็คงจะกำลังหลับใหล
เพลินใจไปกับอากาศที่แสนจะเหมาะสม..
คงมีเพียงตรีทิพย์ที่ตื่นก่อนใครและดูจะคึกเป็นม้าศึก
ไม่สนใจสิ่งอื่นสิ่งใดนอกจากเรือนร่างผุดผ่องตรงหน้าขณะนี้
ร่างสูงดึงศีรษะกลับลงมาก้มมองสาวน้อยใต้ร่าง
ที่ช่างขาวเนียนระยิบระยับไปทุกส่วนสัด
ริมฝีปากสวยกระตุกยิ้มเท้าสองมือลงกับพื้นฟูกของเตียงกว้าง
และค่อยๆก้มลงไปหาหน้าอกเนืองแน่น ตรีทิพย์ขยับรูปปากดูดดุดเนื้อขาวๆ
ที่เปรียบดั่งซาเปาไซส์พิเศษเชิญชวนให้ต้องลิ้มลองได้ไม่หยุดหย่อน
เพชรเกล้าห่อตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงไอความร้อนแผ่ซ่านอยู่กับเนินเนื้อ
ร่างบางนำมือเข้ามาพัวพันอย่างไม่ค่อยมีแรงนัก
เพื่อจะหยุดยั้งตรีทิพย์ให้เบรกเกมรักลงไว้เพียงเท่านี้
แต่ซุปตาร์สาวกับจับสองมือของเธอแยกออกคล้ายไม่อยากให้รบกวน
พร้อมกับลากแผ่นลิ้นละเลงไปรอบๆทรวงเต้าอย่างทั่วถึง
ตรีทิพย์งึมงำอยู่ในลำคอแสนพอใจคลอเคลียเข้ามาหาแผงไหล่
วนเข้าซุกไซ้ซอกคออย่างนุ่มนวล สองมือบีบเคล้นคู่อกไปเบาๆ
ริมฝีปากสวยกดเม้มขึ้นมาหาผิวแก้ม
และรีบวนเข้ามาจุมพิตกลีบปากบางด้วยความหิวโหยไม่เลิก
คลุกเคล้าเบี่ยงซ้ายเบนขวาอย่างชำนาญชาญคล่อง
ก่อนจะถูกเจ้าหล่อนใช้มือดันให้ออกห่างนิดหน่อย
มือซ้ายของเพชรเกล้าแตะอยู่ที่ริมฝีปากของตรีทิพย์
เพื่อหยุดความเอาแต่ใจของคนตรงหน้า
ร่างบางมองดูคนรักเห็นดวงตาหยาดเยิ้มหวานฉ่ำอย่างกับคนที่กำลังมึนเมา
“ พี่เต้... ”
ตรีทิพย์ฉีกยิ้มหวาน
“ พอ.. ” เสียงนิ่มเอ่ยบอกบางเบา
ร่างสูงส่งสายตาเจ้าชู้ย้ายมือมาจับมือนิ่มของสาวน้อย
“ พราวจ๋า... ”
ตรีทิพย์พูดเสียงหวานทำออเซาะให้สาวน้อยได้เขินอายเล่น
มองจ้องสบตาก่อนจะค่อยๆจุมพิตฝ่ามือนิ่มๆที่เธอจับต้อง
เพชรเกล้าปากสั่นให้เห็นเมื่อมองดูการกระทำที่ช่างสยิวในหัวจิตหัวใจ
ไอร้อนที่ลากไล้ไปตามเรียวนิ้วของเธอกำลังพาให้เคลิ้มใจไปอย่างบอกไม่ถูก
ใบหน้าสวยชำเลืองสายตายั่วเย้าสาวน้อยน่ารัก
เคลื่อนริมฝีปากไปจรดปลายนิ้วพร้อมกับตรงเข้าไปหากลีบปากเล็ก
บรรเลงรสจูบให้อีกหนดื่มด่ำกับรสหวานปานน้ำผึ้งอยู่สักพัก
แล้วจึงวนกลับลงมาซอกคอหอมกรุ่นอีกครั้ง
เพชรเกล้าหายใจเข้าออกแรงๆเกิดมาเธอไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อย
กับอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆในขณะที่ร่างบางปันใจ
ไปอยู่กับความคิดกับต้องสะดุ้งขึ้นพร้อมกับเอียงคอไปทางขวา
คล้ายเอนหลบเมื่อคมฟันเริ่มขบกัดเนื้อนิ่มของเธอจนเสียวแปล๊บ
“ ฮือ..! ”
สาวน้อยอุทานเบาๆแต่ตรีทิพย์กับจับปลายคาง
และบังคับให้ดวงหน้าของเพชรเกล้าหันไปในทางตรงกันข้าม
ร่างสูงดูดดุนแผ่นลิ้นอีกทั้งยังขบกัดเนื้อคอขาวๆ
ด้วยความหมันเขี้ยวเสียจนผู้ถูกกระทำขนลุกซู่ซ่า
ร่างบางเม้มริมฝีปากหลับตาพริ้มเพราะช่างเป็นความเจ็บที่เสียวซ่านสุดๆ
ตรีทิพย์หายใจเข้าออกหนักหน่วงกดริมฝีปากเน้นๆส่งท้าย
ก่อนจะถอยออกมามองหน้าคนรักกัดฟันแน่นใบหน้าแดงกร่ำ
“ หมันเขี้ยว! ”
“ ฮือ....~ ”
ร่างสูงเอื้อมมือข้างหนึ่งประคองแก้มขาว
“ หยุดก็ได้ แต่อยู่แบบนี้ก่อนนะ ”
บอกเสร็จใบหน้าสวยก็ซุกลงจุมพิตตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อย
“ แต่พราวอยากไปเที่ยวแล้ว ”
“ ฮืม..เดี๋ยวก่อนสิ.. ”
ร่างสูงแนบใบหน้าซบอกยังไม่วายที่มือไม้จะขวักไขว่ไปทั่ว
“ อยากอาบน้ำแล้วด้วย.. ” เสียงนิ่มบางเบาคล้ายเหน็ดเหนื่อย
ตรีทิพย์จึงชันตัวเองลุกขึ้นส่งยิ้มหวาน
พร้อมกับดึงสาวน้อยตามมือมาด้วย ใบหน้าเรียวดูอ่อนเพลียนิดหน่อย
เส้นผมปกปิดแก้มใสแสนน่ารัก ร่างบางยกสองมือกำบังหน้าอก
และหดขาเข้ามาพับเพียบเพราะเธอรู้สึกโล่งเกินไป
ก่อนจะเอื้อมไปหยิบผ้าห่มเข้ามาใกล้ๆเมื่อซุปตาร์คนสวย
ยิ้มมองส่วนสัดช่างชอบบังคับให้เธอเขินอายเสียจริง
“ ไม่ต้องปิดจะมอง ”
ร่างสูงขยับผืนผ้ากลับไปที่เก่าสายตาเจ้าเล่ห์
“ ฮื่อ! ”
เพชรเกล้าแก้มแดงขึ้นมาเธอหันลงจากเตียง
พร้อมกับวิ่งตรงไปทางห้องน้ำทันที ใบหน้าสวยหันมองตามคลี่ยิ้มอ่อนๆ
ก่อนจะรีบตามไปอย่างรวดเร็ว.....สาวน้อยดึงผ้าขนหนูที่ทางห้องพัก
จัดเตรียมไว้ให้บริเวณชั้นวางและนำมาพาดตัว
ปกปิดเรือนร่างแบบลวกๆ เร่งรีบตรงเข้าไปในส่วนของห้องอาบน้ำ
และเมื่อเธอจะหันมาดึงประตูให้ปิดลง?
แต่กับถูกมือขาวๆพุ่งเข้ามาจับฝ่ามือของเธออย่างกะทันหัน
ใบหน้าเรียวเงยมองร่างสูงๆของซุปตาร์สาวจึงเห็นรอยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์ส่งตรงมาให้
“ ฮือ.. ” เสียงนิ่มทักท้วงเบาๆ
ตรีทิพย์ค่อยๆสอดเรียวนิ้วเข้าประสานและเอื้อมมืออีกข้าง
เกี่ยวเอวเพชรเกล้าพร้อมกับดึงให้เข้ามาแนบชิด
ใบหน้าสวยชักสีหน้าในมาดนางแบบบนแคทวอร์ค
ที่ไม่มีรอยยิ้มแต่ดูหน้าค้นหาและจับตามองเห็นเจ้าหล่อน
เปรียบดั่งลูกกวางตัวน้อยๆที่ส่งสายตาร้องขออิสระ
“ ปล่อยเค้า...” ริมฝีปากบางเอ่ยบอกงุ๊งงิ๊ง
ร่างสูงสูดลมหายใจจับจ้องเพียงคนตรงหน้ากัดกรามแน่น
สลับกับหัวใจที่เต้นแข่งกับห้วงหายใจแรงๆในตอนนี้
ตรีทิพย์โน้มใบหน้าลงไปหาผิวแก้มที่อยู่ใกล้กับสันดั้งโด่งๆ
เพชรเกล้าตัวสั่นขึ้นมาเพราะอีกคนดู ( หื่น ) ให้เห็นกันอีกครั้ง
ตรีทิพย์สัมผัสได้ถึงอาการเกร็งตัวของร่างในมือเช่นนี้แล้ว
ยิ่งเป็นการปลุกระดมความต้องการของเธอได้ดีเหลือเกิน..
นางแบบสาวส่งริมฝีปากเข้าไปกดจุมพิตยังกลีบปากบางอย่างเร่าร้อน
พร้อมกับดันเรือนร่างขาวผ่องเข้าไปชนกับผนังเริ่มบทรักจนเกิดขึ้นไปอีกยาวไกล...
สายๆในเวลาต่อมา.....
“ ก๊อกๆๆๆ ”
น้ำเปล่าใสสะอาดที่กำลังถูกเทลงใส่แก้วหยุดลง..ทอปัดหันมองไปที่ประตู
“ ใครกัน เคาะไม่กลัวเจ็บมือเอาเสียเลย ”
“ ก๊อกๆๆๆๆ ”
ผู้จัดการสาวถอนหายใจเบาๆวางแก้วน้ำลงพร้อมกับเดินไปที่ต้นเสียง
“ ก๊อกๆๆๆๆๆ ”
“ มาแล้วค่า..! ”
หญิงสาวพูดขึ้นก่อนจะเอื้อมดันประตูให้เลื่อนออกตามสไตล์ห้องพักญี่ปุ่น
ใบตองพุ่งพรวดเข้ามาทันที
“ หึ่ย!! ”
“ ขอยืมยาสระผมหน่อยค่ะ!!! ”
เด็กสาวที่มีผ้าขนหนูห่อกายเพียงเท่านั้นอีกทั้งผมเพ่าก็เปียกปอน
และมีฟองขาวๆเลอะเทอะอยู่นิดหน่อยวิ่งตรงเข้าไปในห้องน้ำทันที
“ นี่ทำไมเธอแต่งตัวแบบนี้เนี่ย?! ” ร่างสูงรีบเดินตามไป
“ ก็หนูกำลังจะอาบน้ำสระผม แต่ว่ามันหมดบีบมาได้นิดเดียวเอง...แล้วนี่ยาสระผมอยู่ไหนคะเนี่ย?!! ”
เสียงก้องห้องน้ำไปหมดเมื่อใบตองก้มๆเงยๆหาของที่ว่าอย่างรนราน
“ แล้วเธอสภาพนี้ออกมาจากห้องไม่อายคนอื่นเขาหรือไง! ”
ทอปัดขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า
“ ไม่มีใครเห็นหนูหรอกค่ะ ไหนล่ะยาสระผม? ”
ใบตองหันมาหา ทอปัดเห็นแล้วช่างเหมือนลูกหมาตกน้ำเสียจริง
หญิงสาวฉีกปากเป็นเส้นตรงพร้อมถอนหายใจออกมา
“ ก็แถวๆนั้นแหละ แล้วนี่ทำไมไม่ยืมน้าเธอล่ะ พรวดพราดออกมาแบบนี้เดี๋ยวใครเขาก็คิดว่าคนบ้าหรอก ”
“ น้าลัยไม่มียาสระผม ”
ใบตองยืนขึ้นหันมองตรงนั้นตรงนี้
ก่อนจะเอื้อมไปหยิบของที่กำลังตามหามาถือไว้และหันหน้ามาหาทอปัดอีกครั้ง
“ คุณต้าควรจะมีระเบียบมากกว่านี้นะคะหนูจัดของใช้เอาไว้ให้แล้วคุณต้าจะใช้อะไรก็หยิบไปและเอามาวางไว้ที่เดิมสิ วางคนละทิศละทางแบบนี้พอจะใช้ทีก็หาไปเถอะ! ”
ทอปัดอ้าปากค้างที่จู่ๆเด็กนี่ก็ดันมาต่อว่าเธอซะงั้น
แถมยังหน้าตาเฉยเดินเข้าไปอาบน้ำเสียดื้อๆ..นี่ตกลงเธอยังเป็นเจ้านายอยู่ใช่มั้ย??...
ประตูบานสวยของห้องพักเลื่อนเปิดออกเบาๆ
เพชรเกล้าจูงมือตรีทิพย์เดินออกมาจากห้องหันซ้ายหันขวา
และหันไปยิ้มให้กับคนรักหนึ่งทีประหนึ่งว่าทางโล่ง
ก่อนจะรีบก้าวขาเดินเร็วๆและเร่งรีบพอสมควร
“ จะไปไหนเหรอจ๊ะ ”
ปิ่นรักเดินออกมาขวางทางพอดี มารดายิ้มถาม ตรีทิพย์ลอบยิ้มเช่นกัน
ร่างบางนึกเสียดายที่ออกมาเจอกับแม่ของเธอเข้าพอดีอย่างกับรู้ทันยังไงอย่างนั้น
“ คือ...พราว..จะออกไปข้างนอกค่ะ ”
“ อืม..ตอนนี้ฝนตกนะจ๊ะลูกกลับเข้าไปรอในห้องก่อนดีกว่านะ ” ปิ่นรักเสียงนุ่มนวล
“ แต่ว่า ” สีหน้าของเพชรเกล้าบ่งบอกว่าไม่อยากรอเท่าไหร่
“ ออกไปตอนนี้ไม่ได้ อยู่ตรงนี้นานๆก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่สบายนะจ๊ะ ปะ..เข้าห้องไปก่อน ”
“ คุณแม่... ”
“ พราว.. ” ปิ่นรักส่งสายตากำชับลูกสาว
“ ค่ะ.. ”
เพชรเกล้าลดสายตาเสียงอ่อนลงทันที
“ งั้นเรากลับเข้าไปในห้องกันก่อนดีกว่านะคะ ฝนหายตกแล้วค่อยไปกันนะ ”
ตรีทิพย์เอ่ยบอกเพชรเกล้าหันมองหน้าบูด
ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องพักเช่นเดิม ร่างสูงยิ้มมอง
และหันส่งยิ้มให้กับปิ่นรักอีกคน ด้วยความเอาแต่ใจ
ในการท่องเที่ยวของสาวน้อยอย่างที่รู้ๆกันว่าหากเธออยากเที่ยวขึ้นมา
ไม่ว่ายังไงก็จะไปให้ได้เสียเดี๋ยวนั้นการนี้เองเมื่อตรีทิพย์ห้ามแล้วไม่ฟัง
จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งคนที่เพชรเกล้ายอมฟังจึงจะสามารถหยุดยั้งเจ้าหล่อนลงได้...
และเมื่อตรีทิพย์กลับเข้ามาในห้องเธอจึงส่งยิ้มให้กับสาวน้อยร่างบาง
ที่พึ่งหันตัวมาหลังจากยืนเกาะอยู่กับกระจกบานใหญ่
เพื่อจ้องมองบรรยากาศฝนพรำด้านนอก ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟาอย่างสบายๆ
เพชรเกล้าหน้าบูดไม่หายเดินเข้ามาหามองคนตรงหน้าสักครู่
ก่อนจะย่อตัวลงนั่งบนตักคนรักพร้อมกับถาถมเข้ากอดเอนหน้าซบไหล่
“ ฮือ...~ ”
“ ทำไมล่ะคะฮึ.. ”
ใบหน้าสวยหันถามพร้อมกดจมูกลงกับแก้มหอม
“ คุณแม่เป็นห่วงน้องพราวนะคะ ”
“ ก็พราวอยากไปเที่ยวแล้วนิ ”
“ อยากเที่ยวเหลือเกิน ”
ตรีทิพย์กระชับอ้อมกอดหมันเขี้ยวเสียจริง
“ ทำไมเวลาที่พราวจะออกไปเที่ยว ฝนต้องตกทุกที ”
ใบหน้าเรียวเงยขึ้นพูดกับคนรัก
“ แล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันก่อนดีคะ ”
“ พี่ต้องพาพราวไปด้วยเหรอ ” ใบหน้าสวยทำคิด ทำลังเลให้เห็น
“ ฮือ..พี่เต้ ” ร่างบางเขย่าตัวเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มหวานๆ
“ พี่เต้รักพราวเป่า ”
ตรีทิพย์ยิ้มตามทันทีพร้อมกับดันตัวสาวน้อย
ให้โน้มลงมาหาเพื่อชื่นใจพวงแก้มด้วยความหมันเขี้ยว
“ รักสิคะ ”
เพชรเกล้าเอนซบคนรักอีกครั้ง
สองมือหยิบจับจุกจิกอะไรเล่นไปเรื่อยระหว่างรอเวลาให้ฝนหยุดโปรยปราย
เธอทั้งสองจึงสวีทหวานอยู่ด้วยกันอย่างเพลิดเพลินใจ...
เวลาต่อมา เมื่อสายฝนยุติลงทุกคนจึงพร้อมใจ
กันออกมาจากห้องพักด้วยเสื้อผ้าหน้าผมที่เพียบพร้อม
ต้อนรับกับความเย็นตามฤดูที่ผสมสาน ปิ่นรักอรทุมาและอินเกษม
ยืนคุยกันอยู่บริเวณหน้าที่พักด้วยสีหน้าที่สดใส
มาลัยสวมเสื้อกันหนาวหยิบจับให้เข้าที่เข้าทางควบคู่มากับหลานสาวของเธอ
ทอปัดเดินคุยด้วยรอยยิ้มมาพร้อมๆกับเพชรเกล้าและตรีทิพย์
ที่เดินตามอยู่ไม่ห่าง ทุกคนพร้อมเพรียงที่จะออกท่องเที่ยวกันเป็นที่เรียบร้อย
“ พร้อมกันแล้วถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีมั้ยคะ ” อรทุมายิ้มพูด
“ อืม..คงต้องให้ปิ่นพาทัวร์นะได้ข่าวว่ามาบ่อย ” อินเกษมหันมองเพื่อนหญิง
“ ไหนคุณเล่าให้ฉันฟังว่ามาที่นี่บ่อยเหมือนกันนี่คะ? ”
“ ผมมาบ่อยไม่เท่าคุณหรอกน่า ”
“ แต่ลูกสาวของคุณก็เคยมานะคะ ใจคอจะมองข้ามไปเลยเหรอ ”
ปิ่นรักเบนสายตาไปหาตรีทิพย์
นางแบบสาวยิ้มเก้อเขินก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“ เชิญอาปิ่นเลยดีกว่าค่ะ ”
เพชรเกล้าแอบหัวเราะให้กับความถ่อมตัวเพราะเกร็งๆของคนรัก
เมื่อแม่เธอชงถึงประเด็นครั้งก่อน
ทอปัดยิ้มหัวเราะตามไปด้วยก่อนจะเอ๊ะใจถึงบางสิ่งที่ยุ๊กยิ๊กๆ
อยู่กับชายเสื้อของเธอทางด้านหลัง
หญิงสาวหันมองเห็นเด็กใบกำลังหยิบๆจับๆ
ลวดลายของเนื้อผ้ามองดูด้วยความสงสัย
“ ชู่! ”
ทอปัดส่งเสียง เด็กสาวเงยมองปล่อยมือและยิ้มฟันขาว
“ สวัสดีครับอาปิ่น สวัสดีครับๆ ”
“ อ้าวชิน! มาได้ยังไงจ๊ะเนี่ย ”
ปิ่นรักหันมองถึงผู้ที่เข้ามาทักทาย เป็นชินกรนั่นเองชายหนุ่ม
ทำความเคารพผู้ใหญ่ทุกคน
เพชรเกล้าส่งยิ้มให้กับพี่ชายสุดหล่อด้วยสีหน้าที่รู้สึกบังเอิญ
“ ผมพาคุณแม่มาทำธุระที่นี่น่ะครับ ”
“ สวัสดีครับน้องพราว คุณเต้ ”
ชินกรเอ่ยบอกก่อนจะหันไปทักทาย
กับคู่รักยืนเคียงด้วยรอยยิ้ม ซุปตาร์สาวคลี่ยิ้มบางๆ
“ พี่ชิน พักที่นี่เหรอคะ ” เสียงนิ่มถามขึ้น
“ ครับ นี่ก็กำลังจะกลับพอดี ” ชายหนุ่มยิ้มบอกอย่างทั่วถึง
“ แล้วริสาไม่มาด้วยเหรอชิน ” ปิ่นรักเอ่ยถาม
ชินกรค่อยๆหุบรอยยิ้มของเขา
เพราะคำถามนี้มักจะเกิดขึ้นเสมอเมื่อเขาพบเจอคนรู้จัก
“ ริสาเขาขอถอนหมั้นกับพี่แล้วล่ะ.. ”
“ ทำไมล่ะคะ..! พราวเห็นพี่สองคนปกติกันดีไม่ใช่เหรอ ”
เพชรเกล้าตกใจเล็กน้อยที่ชินกรบอกเช่นนี้
เมื่อเขาและเธอได้แยกออกมาพูดคุยกันสองคน
ชายหนุ่มค่อยๆหันกลับมาด้วยสีหน้าและแววตาที่ยังโศกเศร้า
“ ริสาเขา..บอกว่า เขาไม่อยากแต่งงาน ที่ผ่านมาเขาไม่มีความสุข เขาเห็นพี่เป็นแค่เพื่อนคนนึงเท่านั้น... ”
“ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ พราวเห็นพี่ริสาเขาอยากหมั้นกับพี่ชินจะตายไป ” เพชรเกล้าพูดเสียงนิ่ม
“ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ พอพี่รักเขาๆกับมีความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกับพี่ ” ชินกรหน้าไม่สดชื่นนัก
“ แล้วตอนนี้พี่เขาอยู่ที่ไหนล่ะคะ ”
“ เขากำลังจะไปเมืองนอก ”
“ ทำไมพี่ชินไม่ง้อเขาล่ะคะ ”
“ พี่ง้อแล้วพราว พี่ถามเขาทุกอย่างว่าพี่ทำอะไรผิด... ”
“ เขาบอก..ว่าเขาไม่ได้รักพี่ และเขาก็มีคนที่รักอยู่แล้ว พี่เลยต้องถอยออกมาพี่เคารพในการตัดสินใจของเขานะ ”
เพชรเกล้าลดสายตาลงถอนหายใจเบาๆ
“ แต่พี่ก็ดีใจนะที่เขาบอกพี่ตามตรง ไม่โกหกกัน เราจากกันด้วยดีเลยยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ”
ชินกรเผยรอยยิ้มในลักษณะอกหักออกมา
“ พี่ชินโอเคนะคะ ” ร่างบางสายตาเป็นห่วงพี่ชาย
“ พี่โอเคจ้ะ แต่คง...ไม่มีความรักไปอีกนาน ”
เพชรเกล้าส่งยิ้มให้กำลังใจ
“ อืม งั้นพี่ไม่กวนล่ะ พี่กลับก่อนนะ โชคดีนะครับน้องพราว ขอให้น้องพราวมีความสุขนะ ” ชายหนุ่มยิ้มบอก
“ ขอบคุณนะคะพี่ชิน ”
“ บ๊ายบายครับ ”
“ บ๊ายบายค่ะ ”
ชินกรยิ้มให้ก่อนจะหันเดินออกไป เพชรเกล้ามองตามหลังพี่ชายที่แสนดี
ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าชีวิตของแต่ละคนช่างแตกต่างกัน
คู่นี้สมหวังแต่อีกคู่กับต้องพลัดพรากคู่นี้จีบกันแต่อีกกี่คู่กับต้องบอกเลิก
หากไม่ใช่เนื้อคู่ก็ต้องห่างหายกันไปแต่หากยังฝืนยังรั้งไว้จึงเป็นเหตุให้ต้อง..ตายจากกัน
“ พราว ”
ร่างบางหันมอง
“ ไปกันหรือยังคะ ” ตรีทิพย์ส่งยิ้ม
“ ค่ะ ”
สาวน้อยจึงเดินเข้าไปหาเรียวแขนที่ยื่นเข้ามาโอบเอวเธอ
และเดินเคียงข้างกันไป...ใบหน้าเรียวหันมองตรีทิพย์..
โลกนี้บันดาลให้มีความรักเธออยากให้คิวปิดแผลงศรอีกครั้ง
เพื่อที่ความรักจะได้กลับมาเติมเต็มอีกครั้ง.........
แทบจะทะลุออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอดใบหน้าสวย
แหงนเงยปลายจมูกโด่งขึ้นเป็นสันริมฝีปากเผยอสั่นเทา
พ่นลมหายใจเข้าออกคล้ายเจียนจะขาดใจเต็มทน
เมื่อบทรักที่ลืมนับว่าครั้งที่เท่าไหร่
เดินทางมาถึงจุดหมายที่แสนสุขสมอีกครั้ง..
สาวน้อยบีบขยำเนื้อผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่
ร่างกายของเธอหอบกระเส่าไม่แพ้บุคคลด้านบน
ที่ค่อนข้างจะหลงระเริงใจห้ามเท่าไหร่ปฏิเสธแค่ไหนก็ไม่ยอมฟัง...
เช้าวันใหม่ของสถานที่เดิม..รีสอร์ทสุดหรูที่ผสมสานกลิ่นอายในแนวชนบท
เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงแม่ฮ่องสอนเป็นที่เรียบร้อย
จึงแยกย้ายกันเข้าห้องพักของตัวเองทันทีด้วยเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
และคาดว่าในยามรุ่งสางของวันใหม่ก็คงจะกำลังหลับใหล
เพลินใจไปกับอากาศที่แสนจะเหมาะสม..
คงมีเพียงตรีทิพย์ที่ตื่นก่อนใครและดูจะคึกเป็นม้าศึก
ไม่สนใจสิ่งอื่นสิ่งใดนอกจากเรือนร่างผุดผ่องตรงหน้าขณะนี้
ร่างสูงดึงศีรษะกลับลงมาก้มมองสาวน้อยใต้ร่าง
ที่ช่างขาวเนียนระยิบระยับไปทุกส่วนสัด
ริมฝีปากสวยกระตุกยิ้มเท้าสองมือลงกับพื้นฟูกของเตียงกว้าง
และค่อยๆก้มลงไปหาหน้าอกเนืองแน่น ตรีทิพย์ขยับรูปปากดูดดุดเนื้อขาวๆ
ที่เปรียบดั่งซาเปาไซส์พิเศษเชิญชวนให้ต้องลิ้มลองได้ไม่หยุดหย่อน
เพชรเกล้าห่อตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงไอความร้อนแผ่ซ่านอยู่กับเนินเนื้อ
ร่างบางนำมือเข้ามาพัวพันอย่างไม่ค่อยมีแรงนัก
เพื่อจะหยุดยั้งตรีทิพย์ให้เบรกเกมรักลงไว้เพียงเท่านี้
แต่ซุปตาร์สาวกับจับสองมือของเธอแยกออกคล้ายไม่อยากให้รบกวน
พร้อมกับลากแผ่นลิ้นละเลงไปรอบๆทรวงเต้าอย่างทั่วถึง
ตรีทิพย์งึมงำอยู่ในลำคอแสนพอใจคลอเคลียเข้ามาหาแผงไหล่
วนเข้าซุกไซ้ซอกคออย่างนุ่มนวล สองมือบีบเคล้นคู่อกไปเบาๆ
ริมฝีปากสวยกดเม้มขึ้นมาหาผิวแก้ม
และรีบวนเข้ามาจุมพิตกลีบปากบางด้วยความหิวโหยไม่เลิก
คลุกเคล้าเบี่ยงซ้ายเบนขวาอย่างชำนาญชาญคล่อง
ก่อนจะถูกเจ้าหล่อนใช้มือดันให้ออกห่างนิดหน่อย
มือซ้ายของเพชรเกล้าแตะอยู่ที่ริมฝีปากของตรีทิพย์
เพื่อหยุดความเอาแต่ใจของคนตรงหน้า
ร่างบางมองดูคนรักเห็นดวงตาหยาดเยิ้มหวานฉ่ำอย่างกับคนที่กำลังมึนเมา
“ พี่เต้... ”
ตรีทิพย์ฉีกยิ้มหวาน
“ พอ.. ” เสียงนิ่มเอ่ยบอกบางเบา
ร่างสูงส่งสายตาเจ้าชู้ย้ายมือมาจับมือนิ่มของสาวน้อย
“ พราวจ๋า... ”
ตรีทิพย์พูดเสียงหวานทำออเซาะให้สาวน้อยได้เขินอายเล่น
มองจ้องสบตาก่อนจะค่อยๆจุมพิตฝ่ามือนิ่มๆที่เธอจับต้อง
เพชรเกล้าปากสั่นให้เห็นเมื่อมองดูการกระทำที่ช่างสยิวในหัวจิตหัวใจ
ไอร้อนที่ลากไล้ไปตามเรียวนิ้วของเธอกำลังพาให้เคลิ้มใจไปอย่างบอกไม่ถูก
ใบหน้าสวยชำเลืองสายตายั่วเย้าสาวน้อยน่ารัก
เคลื่อนริมฝีปากไปจรดปลายนิ้วพร้อมกับตรงเข้าไปหากลีบปากเล็ก
บรรเลงรสจูบให้อีกหนดื่มด่ำกับรสหวานปานน้ำผึ้งอยู่สักพัก
แล้วจึงวนกลับลงมาซอกคอหอมกรุ่นอีกครั้ง
เพชรเกล้าหายใจเข้าออกแรงๆเกิดมาเธอไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อย
กับอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆในขณะที่ร่างบางปันใจ
ไปอยู่กับความคิดกับต้องสะดุ้งขึ้นพร้อมกับเอียงคอไปทางขวา
คล้ายเอนหลบเมื่อคมฟันเริ่มขบกัดเนื้อนิ่มของเธอจนเสียวแปล๊บ
“ ฮือ..! ”
สาวน้อยอุทานเบาๆแต่ตรีทิพย์กับจับปลายคาง
และบังคับให้ดวงหน้าของเพชรเกล้าหันไปในทางตรงกันข้าม
ร่างสูงดูดดุนแผ่นลิ้นอีกทั้งยังขบกัดเนื้อคอขาวๆ
ด้วยความหมันเขี้ยวเสียจนผู้ถูกกระทำขนลุกซู่ซ่า
ร่างบางเม้มริมฝีปากหลับตาพริ้มเพราะช่างเป็นความเจ็บที่เสียวซ่านสุดๆ
ตรีทิพย์หายใจเข้าออกหนักหน่วงกดริมฝีปากเน้นๆส่งท้าย
ก่อนจะถอยออกมามองหน้าคนรักกัดฟันแน่นใบหน้าแดงกร่ำ
“ หมันเขี้ยว! ”
“ ฮือ....~ ”
ร่างสูงเอื้อมมือข้างหนึ่งประคองแก้มขาว
“ หยุดก็ได้ แต่อยู่แบบนี้ก่อนนะ ”
บอกเสร็จใบหน้าสวยก็ซุกลงจุมพิตตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อย
“ แต่พราวอยากไปเที่ยวแล้ว ”
“ ฮืม..เดี๋ยวก่อนสิ.. ”
ร่างสูงแนบใบหน้าซบอกยังไม่วายที่มือไม้จะขวักไขว่ไปทั่ว
“ อยากอาบน้ำแล้วด้วย.. ” เสียงนิ่มบางเบาคล้ายเหน็ดเหนื่อย
ตรีทิพย์จึงชันตัวเองลุกขึ้นส่งยิ้มหวาน
พร้อมกับดึงสาวน้อยตามมือมาด้วย ใบหน้าเรียวดูอ่อนเพลียนิดหน่อย
เส้นผมปกปิดแก้มใสแสนน่ารัก ร่างบางยกสองมือกำบังหน้าอก
และหดขาเข้ามาพับเพียบเพราะเธอรู้สึกโล่งเกินไป
ก่อนจะเอื้อมไปหยิบผ้าห่มเข้ามาใกล้ๆเมื่อซุปตาร์คนสวย
ยิ้มมองส่วนสัดช่างชอบบังคับให้เธอเขินอายเสียจริง
“ ไม่ต้องปิดจะมอง ”
ร่างสูงขยับผืนผ้ากลับไปที่เก่าสายตาเจ้าเล่ห์
“ ฮื่อ! ”
เพชรเกล้าแก้มแดงขึ้นมาเธอหันลงจากเตียง
พร้อมกับวิ่งตรงไปทางห้องน้ำทันที ใบหน้าสวยหันมองตามคลี่ยิ้มอ่อนๆ
ก่อนจะรีบตามไปอย่างรวดเร็ว.....สาวน้อยดึงผ้าขนหนูที่ทางห้องพัก
จัดเตรียมไว้ให้บริเวณชั้นวางและนำมาพาดตัว
ปกปิดเรือนร่างแบบลวกๆ เร่งรีบตรงเข้าไปในส่วนของห้องอาบน้ำ
และเมื่อเธอจะหันมาดึงประตูให้ปิดลง?
แต่กับถูกมือขาวๆพุ่งเข้ามาจับฝ่ามือของเธออย่างกะทันหัน
ใบหน้าเรียวเงยมองร่างสูงๆของซุปตาร์สาวจึงเห็นรอยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์ส่งตรงมาให้
“ ฮือ.. ” เสียงนิ่มทักท้วงเบาๆ
ตรีทิพย์ค่อยๆสอดเรียวนิ้วเข้าประสานและเอื้อมมืออีกข้าง
เกี่ยวเอวเพชรเกล้าพร้อมกับดึงให้เข้ามาแนบชิด
ใบหน้าสวยชักสีหน้าในมาดนางแบบบนแคทวอร์ค
ที่ไม่มีรอยยิ้มแต่ดูหน้าค้นหาและจับตามองเห็นเจ้าหล่อน
เปรียบดั่งลูกกวางตัวน้อยๆที่ส่งสายตาร้องขออิสระ
“ ปล่อยเค้า...” ริมฝีปากบางเอ่ยบอกงุ๊งงิ๊ง
ร่างสูงสูดลมหายใจจับจ้องเพียงคนตรงหน้ากัดกรามแน่น
สลับกับหัวใจที่เต้นแข่งกับห้วงหายใจแรงๆในตอนนี้
ตรีทิพย์โน้มใบหน้าลงไปหาผิวแก้มที่อยู่ใกล้กับสันดั้งโด่งๆ
เพชรเกล้าตัวสั่นขึ้นมาเพราะอีกคนดู ( หื่น ) ให้เห็นกันอีกครั้ง
ตรีทิพย์สัมผัสได้ถึงอาการเกร็งตัวของร่างในมือเช่นนี้แล้ว
ยิ่งเป็นการปลุกระดมความต้องการของเธอได้ดีเหลือเกิน..
นางแบบสาวส่งริมฝีปากเข้าไปกดจุมพิตยังกลีบปากบางอย่างเร่าร้อน
พร้อมกับดันเรือนร่างขาวผ่องเข้าไปชนกับผนังเริ่มบทรักจนเกิดขึ้นไปอีกยาวไกล...
สายๆในเวลาต่อมา.....
“ ก๊อกๆๆๆ ”
น้ำเปล่าใสสะอาดที่กำลังถูกเทลงใส่แก้วหยุดลง..ทอปัดหันมองไปที่ประตู
“ ใครกัน เคาะไม่กลัวเจ็บมือเอาเสียเลย ”
“ ก๊อกๆๆๆๆ ”
ผู้จัดการสาวถอนหายใจเบาๆวางแก้วน้ำลงพร้อมกับเดินไปที่ต้นเสียง
“ ก๊อกๆๆๆๆๆ ”
“ มาแล้วค่า..! ”
หญิงสาวพูดขึ้นก่อนจะเอื้อมดันประตูให้เลื่อนออกตามสไตล์ห้องพักญี่ปุ่น
ใบตองพุ่งพรวดเข้ามาทันที
“ หึ่ย!! ”
“ ขอยืมยาสระผมหน่อยค่ะ!!! ”
เด็กสาวที่มีผ้าขนหนูห่อกายเพียงเท่านั้นอีกทั้งผมเพ่าก็เปียกปอน
และมีฟองขาวๆเลอะเทอะอยู่นิดหน่อยวิ่งตรงเข้าไปในห้องน้ำทันที
“ นี่ทำไมเธอแต่งตัวแบบนี้เนี่ย?! ” ร่างสูงรีบเดินตามไป
“ ก็หนูกำลังจะอาบน้ำสระผม แต่ว่ามันหมดบีบมาได้นิดเดียวเอง...แล้วนี่ยาสระผมอยู่ไหนคะเนี่ย?!! ”
เสียงก้องห้องน้ำไปหมดเมื่อใบตองก้มๆเงยๆหาของที่ว่าอย่างรนราน
“ แล้วเธอสภาพนี้ออกมาจากห้องไม่อายคนอื่นเขาหรือไง! ”
ทอปัดขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า
“ ไม่มีใครเห็นหนูหรอกค่ะ ไหนล่ะยาสระผม? ”
ใบตองหันมาหา ทอปัดเห็นแล้วช่างเหมือนลูกหมาตกน้ำเสียจริง
หญิงสาวฉีกปากเป็นเส้นตรงพร้อมถอนหายใจออกมา
“ ก็แถวๆนั้นแหละ แล้วนี่ทำไมไม่ยืมน้าเธอล่ะ พรวดพราดออกมาแบบนี้เดี๋ยวใครเขาก็คิดว่าคนบ้าหรอก ”
“ น้าลัยไม่มียาสระผม ”
ใบตองยืนขึ้นหันมองตรงนั้นตรงนี้
ก่อนจะเอื้อมไปหยิบของที่กำลังตามหามาถือไว้และหันหน้ามาหาทอปัดอีกครั้ง
“ คุณต้าควรจะมีระเบียบมากกว่านี้นะคะหนูจัดของใช้เอาไว้ให้แล้วคุณต้าจะใช้อะไรก็หยิบไปและเอามาวางไว้ที่เดิมสิ วางคนละทิศละทางแบบนี้พอจะใช้ทีก็หาไปเถอะ! ”
ทอปัดอ้าปากค้างที่จู่ๆเด็กนี่ก็ดันมาต่อว่าเธอซะงั้น
แถมยังหน้าตาเฉยเดินเข้าไปอาบน้ำเสียดื้อๆ..นี่ตกลงเธอยังเป็นเจ้านายอยู่ใช่มั้ย??...
ประตูบานสวยของห้องพักเลื่อนเปิดออกเบาๆ
เพชรเกล้าจูงมือตรีทิพย์เดินออกมาจากห้องหันซ้ายหันขวา
และหันไปยิ้มให้กับคนรักหนึ่งทีประหนึ่งว่าทางโล่ง
ก่อนจะรีบก้าวขาเดินเร็วๆและเร่งรีบพอสมควร
“ จะไปไหนเหรอจ๊ะ ”
ปิ่นรักเดินออกมาขวางทางพอดี มารดายิ้มถาม ตรีทิพย์ลอบยิ้มเช่นกัน
ร่างบางนึกเสียดายที่ออกมาเจอกับแม่ของเธอเข้าพอดีอย่างกับรู้ทันยังไงอย่างนั้น
“ คือ...พราว..จะออกไปข้างนอกค่ะ ”
“ อืม..ตอนนี้ฝนตกนะจ๊ะลูกกลับเข้าไปรอในห้องก่อนดีกว่านะ ” ปิ่นรักเสียงนุ่มนวล
“ แต่ว่า ” สีหน้าของเพชรเกล้าบ่งบอกว่าไม่อยากรอเท่าไหร่
“ ออกไปตอนนี้ไม่ได้ อยู่ตรงนี้นานๆก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่สบายนะจ๊ะ ปะ..เข้าห้องไปก่อน ”
“ คุณแม่... ”
“ พราว.. ” ปิ่นรักส่งสายตากำชับลูกสาว
“ ค่ะ.. ”
เพชรเกล้าลดสายตาเสียงอ่อนลงทันที
“ งั้นเรากลับเข้าไปในห้องกันก่อนดีกว่านะคะ ฝนหายตกแล้วค่อยไปกันนะ ”
ตรีทิพย์เอ่ยบอกเพชรเกล้าหันมองหน้าบูด
ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องพักเช่นเดิม ร่างสูงยิ้มมอง
และหันส่งยิ้มให้กับปิ่นรักอีกคน ด้วยความเอาแต่ใจ
ในการท่องเที่ยวของสาวน้อยอย่างที่รู้ๆกันว่าหากเธออยากเที่ยวขึ้นมา
ไม่ว่ายังไงก็จะไปให้ได้เสียเดี๋ยวนั้นการนี้เองเมื่อตรีทิพย์ห้ามแล้วไม่ฟัง
จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งคนที่เพชรเกล้ายอมฟังจึงจะสามารถหยุดยั้งเจ้าหล่อนลงได้...
และเมื่อตรีทิพย์กลับเข้ามาในห้องเธอจึงส่งยิ้มให้กับสาวน้อยร่างบาง
ที่พึ่งหันตัวมาหลังจากยืนเกาะอยู่กับกระจกบานใหญ่
เพื่อจ้องมองบรรยากาศฝนพรำด้านนอก ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟาอย่างสบายๆ
เพชรเกล้าหน้าบูดไม่หายเดินเข้ามาหามองคนตรงหน้าสักครู่
ก่อนจะย่อตัวลงนั่งบนตักคนรักพร้อมกับถาถมเข้ากอดเอนหน้าซบไหล่
“ ฮือ...~ ”
“ ทำไมล่ะคะฮึ.. ”
ใบหน้าสวยหันถามพร้อมกดจมูกลงกับแก้มหอม
“ คุณแม่เป็นห่วงน้องพราวนะคะ ”
“ ก็พราวอยากไปเที่ยวแล้วนิ ”
“ อยากเที่ยวเหลือเกิน ”
ตรีทิพย์กระชับอ้อมกอดหมันเขี้ยวเสียจริง
“ ทำไมเวลาที่พราวจะออกไปเที่ยว ฝนต้องตกทุกที ”
ใบหน้าเรียวเงยขึ้นพูดกับคนรัก
“ แล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันก่อนดีคะ ”
“ พี่ต้องพาพราวไปด้วยเหรอ ” ใบหน้าสวยทำคิด ทำลังเลให้เห็น
“ ฮือ..พี่เต้ ” ร่างบางเขย่าตัวเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มหวานๆ
“ พี่เต้รักพราวเป่า ”
ตรีทิพย์ยิ้มตามทันทีพร้อมกับดันตัวสาวน้อย
ให้โน้มลงมาหาเพื่อชื่นใจพวงแก้มด้วยความหมันเขี้ยว
“ รักสิคะ ”
เพชรเกล้าเอนซบคนรักอีกครั้ง
สองมือหยิบจับจุกจิกอะไรเล่นไปเรื่อยระหว่างรอเวลาให้ฝนหยุดโปรยปราย
เธอทั้งสองจึงสวีทหวานอยู่ด้วยกันอย่างเพลิดเพลินใจ...
เวลาต่อมา เมื่อสายฝนยุติลงทุกคนจึงพร้อมใจ
กันออกมาจากห้องพักด้วยเสื้อผ้าหน้าผมที่เพียบพร้อม
ต้อนรับกับความเย็นตามฤดูที่ผสมสาน ปิ่นรักอรทุมาและอินเกษม
ยืนคุยกันอยู่บริเวณหน้าที่พักด้วยสีหน้าที่สดใส
มาลัยสวมเสื้อกันหนาวหยิบจับให้เข้าที่เข้าทางควบคู่มากับหลานสาวของเธอ
ทอปัดเดินคุยด้วยรอยยิ้มมาพร้อมๆกับเพชรเกล้าและตรีทิพย์
ที่เดินตามอยู่ไม่ห่าง ทุกคนพร้อมเพรียงที่จะออกท่องเที่ยวกันเป็นที่เรียบร้อย
“ พร้อมกันแล้วถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีมั้ยคะ ” อรทุมายิ้มพูด
“ อืม..คงต้องให้ปิ่นพาทัวร์นะได้ข่าวว่ามาบ่อย ” อินเกษมหันมองเพื่อนหญิง
“ ไหนคุณเล่าให้ฉันฟังว่ามาที่นี่บ่อยเหมือนกันนี่คะ? ”
“ ผมมาบ่อยไม่เท่าคุณหรอกน่า ”
“ แต่ลูกสาวของคุณก็เคยมานะคะ ใจคอจะมองข้ามไปเลยเหรอ ”
ปิ่นรักเบนสายตาไปหาตรีทิพย์
นางแบบสาวยิ้มเก้อเขินก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“ เชิญอาปิ่นเลยดีกว่าค่ะ ”
เพชรเกล้าแอบหัวเราะให้กับความถ่อมตัวเพราะเกร็งๆของคนรัก
เมื่อแม่เธอชงถึงประเด็นครั้งก่อน
ทอปัดยิ้มหัวเราะตามไปด้วยก่อนจะเอ๊ะใจถึงบางสิ่งที่ยุ๊กยิ๊กๆ
อยู่กับชายเสื้อของเธอทางด้านหลัง
หญิงสาวหันมองเห็นเด็กใบกำลังหยิบๆจับๆ
ลวดลายของเนื้อผ้ามองดูด้วยความสงสัย
“ ชู่! ”
ทอปัดส่งเสียง เด็กสาวเงยมองปล่อยมือและยิ้มฟันขาว
“ สวัสดีครับอาปิ่น สวัสดีครับๆ ”
“ อ้าวชิน! มาได้ยังไงจ๊ะเนี่ย ”
ปิ่นรักหันมองถึงผู้ที่เข้ามาทักทาย เป็นชินกรนั่นเองชายหนุ่ม
ทำความเคารพผู้ใหญ่ทุกคน
เพชรเกล้าส่งยิ้มให้กับพี่ชายสุดหล่อด้วยสีหน้าที่รู้สึกบังเอิญ
“ ผมพาคุณแม่มาทำธุระที่นี่น่ะครับ ”
“ สวัสดีครับน้องพราว คุณเต้ ”
ชินกรเอ่ยบอกก่อนจะหันไปทักทาย
กับคู่รักยืนเคียงด้วยรอยยิ้ม ซุปตาร์สาวคลี่ยิ้มบางๆ
“ พี่ชิน พักที่นี่เหรอคะ ” เสียงนิ่มถามขึ้น
“ ครับ นี่ก็กำลังจะกลับพอดี ” ชายหนุ่มยิ้มบอกอย่างทั่วถึง
“ แล้วริสาไม่มาด้วยเหรอชิน ” ปิ่นรักเอ่ยถาม
ชินกรค่อยๆหุบรอยยิ้มของเขา
เพราะคำถามนี้มักจะเกิดขึ้นเสมอเมื่อเขาพบเจอคนรู้จัก
“ ริสาเขาขอถอนหมั้นกับพี่แล้วล่ะ.. ”
“ ทำไมล่ะคะ..! พราวเห็นพี่สองคนปกติกันดีไม่ใช่เหรอ ”
เพชรเกล้าตกใจเล็กน้อยที่ชินกรบอกเช่นนี้
เมื่อเขาและเธอได้แยกออกมาพูดคุยกันสองคน
ชายหนุ่มค่อยๆหันกลับมาด้วยสีหน้าและแววตาที่ยังโศกเศร้า
“ ริสาเขา..บอกว่า เขาไม่อยากแต่งงาน ที่ผ่านมาเขาไม่มีความสุข เขาเห็นพี่เป็นแค่เพื่อนคนนึงเท่านั้น... ”
“ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ พราวเห็นพี่ริสาเขาอยากหมั้นกับพี่ชินจะตายไป ” เพชรเกล้าพูดเสียงนิ่ม
“ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ พอพี่รักเขาๆกับมีความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกับพี่ ” ชินกรหน้าไม่สดชื่นนัก
“ แล้วตอนนี้พี่เขาอยู่ที่ไหนล่ะคะ ”
“ เขากำลังจะไปเมืองนอก ”
“ ทำไมพี่ชินไม่ง้อเขาล่ะคะ ”
“ พี่ง้อแล้วพราว พี่ถามเขาทุกอย่างว่าพี่ทำอะไรผิด... ”
“ เขาบอก..ว่าเขาไม่ได้รักพี่ และเขาก็มีคนที่รักอยู่แล้ว พี่เลยต้องถอยออกมาพี่เคารพในการตัดสินใจของเขานะ ”
เพชรเกล้าลดสายตาลงถอนหายใจเบาๆ
“ แต่พี่ก็ดีใจนะที่เขาบอกพี่ตามตรง ไม่โกหกกัน เราจากกันด้วยดีเลยยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ”
ชินกรเผยรอยยิ้มในลักษณะอกหักออกมา
“ พี่ชินโอเคนะคะ ” ร่างบางสายตาเป็นห่วงพี่ชาย
“ พี่โอเคจ้ะ แต่คง...ไม่มีความรักไปอีกนาน ”
เพชรเกล้าส่งยิ้มให้กำลังใจ
“ อืม งั้นพี่ไม่กวนล่ะ พี่กลับก่อนนะ โชคดีนะครับน้องพราว ขอให้น้องพราวมีความสุขนะ ” ชายหนุ่มยิ้มบอก
“ ขอบคุณนะคะพี่ชิน ”
“ บ๊ายบายครับ ”
“ บ๊ายบายค่ะ ”
ชินกรยิ้มให้ก่อนจะหันเดินออกไป เพชรเกล้ามองตามหลังพี่ชายที่แสนดี
ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าชีวิตของแต่ละคนช่างแตกต่างกัน
คู่นี้สมหวังแต่อีกคู่กับต้องพลัดพรากคู่นี้จีบกันแต่อีกกี่คู่กับต้องบอกเลิก
หากไม่ใช่เนื้อคู่ก็ต้องห่างหายกันไปแต่หากยังฝืนยังรั้งไว้จึงเป็นเหตุให้ต้อง..ตายจากกัน
“ พราว ”
ร่างบางหันมอง
“ ไปกันหรือยังคะ ” ตรีทิพย์ส่งยิ้ม
“ ค่ะ ”
สาวน้อยจึงเดินเข้าไปหาเรียวแขนที่ยื่นเข้ามาโอบเอวเธอ
และเดินเคียงข้างกันไป...ใบหน้าเรียวหันมองตรีทิพย์..
โลกนี้บันดาลให้มีความรักเธออยากให้คิวปิดแผลงศรอีกครั้ง
เพื่อที่ความรักจะได้กลับมาเติมเต็มอีกครั้ง.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ