บัลลังก์ฉิมพลี
8.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.
59 ตอน
1 วิจารณ์
57.78K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
54) ทำไมถึงแตกต่าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผ่านไปอีกหนึ่งวันกับบรรยากาศสไตล์บ้านไร่ทิวหุบเขา
อรทุมาอินเกษมอาสาพาปิ่นรักทัวร์รอบพื้นที่ของไร่สตรอว์เบอร์รีสีสันสดใส
ผู้บริหารหญิงยิ้มฟังการอธิบายจากเจ้าของผืนไร่
ถึงการดูแลเอาใจใส่ที่เกี่ยวกับพืชผลซึ่งแตกต่างจากงานประจำของเธอพอสมควร
อินเกษมชี้ตรงนั้นตรงนี้แนะนำให้หญิงคนเก่ง
ได้รับรู้ถึงชาวไร่ชาวสวนและการใช้ชีวิตของพวกเขา
โดยทำให้ปิ่นรักนั้นเผยรอยยิ้มพยักหน้ารับฟังอย่างสนใจ…
บรรยากาศของที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายสมองอย่างแท้จริง..
สวนย่อมรอบบ้านผิวหญ้าสะอาดๆมีหยดน้ำค้างเกาะติดนิดหน่อยให้ดูชุ่มชื้นสบายตา
ศาลาไม้เล็กสำหรับนั่งพักผ่อนเย็นใจเขียวชอุ่ม
จากใบไม้ที่ปกปิดเต็มทั่วหลังคาจั่วแหลม
ตรีทิพย์ยืนทักเปียเล่นๆอยู่กับม่านบาหลีที่เรียงรายยาวเหยียด
อยู่ภายในของศาลาที่เธอกำลังยืนอยู่อย่างเพลินๆ
สาวน้อยเสื้อยืดพอดีตัวคอกลมสีชมพูมีลายการ์ตูนตกแต่งเล็กน้อย
ร่วมด้วยกางเกงขายาวผ้านิ่มตัวใหม่ก้าวขาย่องเบา
เข้ามาด้วยรองเท้าแตะเบอร์สามสิบเจ็ด
อมยิ้มอยู่บนใบหน้าเธอพยายามเคลื่อนไหวให้เงียบเชียบที่สุด
“ แว้!! ”
สองมือของเพชรเกล้าเอื้อมแตะตัวตรีทิพย์อย่างรวดเร็ว
พร้อมส่งเสียงดังพอประมาณให้น่าสะดุ้ง
ใบหน้าสวยหันมองไปเจอกับหญิงสาวผมยาว
ที่ผมด้านถูกเปิดขึ้นและติดกิ๊บไว้โปร่งๆ ร่างสูงส่งยิ้มหวานๆให้
“ หืม..ไม่ตกใจเลย.. ” เสียงนิ่มทำผิดหวัง
“ อุ๊ยตกใจ! ตกใจจังเลย ตกใจจังเลย! ”
ตรีทิพย์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินเข้ากอดเจ้าหล่อน
พร้อมทั้งยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มหลายๆหน
“ หอมจังเลยๆ ”
สาวน้อยส่งยิ้มตาหยีจมูกแดงนิดหน่อย
เนื่องจากอากาศเย็นฉ่ำในตอนเช้า
“ วันนี้น่ารักจัง ”
ตรีทิพย์ยิ้มบอกและโน้มจมูกไปชื่นใจอีกหนึ่งฟอดแสนหลงใหล
“ ทำอะไรอยู่เหรอคะ ”
เพชรเกล้าหันมองรอบๆเอื้อมมือแตะม่านยาวๆที่คล้ายเส้นเชือก
“ เปล่าหรอกค่ะก็เล่นอะไรไปเพลินๆ ”
“ ขอพราวเล่นด้วยได้มั้ย ”
ร่างบางหันเดินไปจับๆมัดๆเจ้าม่านบาหลีห้อยโตงเตง
“ ได้สิคะ แต่ต้องเปลี่ยนเรื่องเล่นนะ ”
นางแบบสาวเข้ากอดด้านหลัง
“ อ้าว แล้วจะเล่นอะไรล่ะคะ ”
เพชรเกล้ายังคงมัดตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยอยู่กับบาหลีเส้นยาว
“ เล่นหอมกัน ”
ใบหน้าเรียวหันมายิ้มหัวเราะนิดๆเพราะตรีทิพย์เอาแต่วนเข้าเรื่องเดิม
ร่างสูงส่งสายตาเจ้าชู้ให้อีกคนเขินเล่นก่อนจะประคองให้สาวน้อยหันมา
ใบหน้าสวยโน้มเข้าไปหาทำคล้ายจะชื่นใจเหมือนเคย
แต่อยู่ๆกับมีสร้อยเส้นหนึ่งห้อยลงมาตรงหน้าของเพชรเกล้า
ดึงความสนใจให้เจ้าหล่อนต้องรีบหยิบดู
“ นี่มุกของพราวนี่คะ ”
เสียงนิ่มเอ่ยบอกเมื่อเธอจำได้กับอัญมณีที่เคยเสาะหาด้วยตัวเอง
“ คุณพ่อเอามาให้เมื่อวานนี้ค่ะ ” ตรีทิพย์ยิ้มบอก
เพชรเกล้ายิ้มกว้างด้วยความดีใจพร้อมกับพุ่งเข้ากอดคนรักทันที
ก่อนจะรีบผละออกมามองสร้อยเส้นเดิมอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น
“ แล้วของพี่เต้ล่ะคะ ”
ร่างสูงจึงโชว์สร้อยสวยๆอีกเส้นที่ได้ผ่านการเจียรนัย
และตกแต่งมาแล้วอย่างสวยงามให้สาวน้อยได้ดู
เพชรเกล้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความถูกใจ
“ ใส่เลยมั้ยคะ ”
ร่างบางยิ้มพยักหน้า..สองสาวผลัดกันใส่สร้อยให้กันและกันด้วยรอยยิ้ม
ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้และดึงสาวน้อยให้เข้ามายืนอยู่ระหว่างขา
สองมือสอดเข้าเอวบางมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอๆ
เพชรเกล้ายิ้มหวานยืนเกาะไหล่คนรักทั้งคู่กระหนุงกระหนิงกันไปตามประสา
ร่างเล็กยื่นมือเข้าไปจับๆบริเวณตัวจี้ที่ตรีทิพย์สวมใส่
คล้ายตกแต่งให้ไม่พลิกไปพลิกมาสายตาของเธอ
จึงสะดุดเข้ากับตัวหนังสือบางอย่าง
“ มี..เขียนอะไรไว้ด้วย ”
“ ชื่อเหรอ? ” ร่างบางพูดกับตัวเองและก้มดูใกล้ๆ
“ เพชรเกล้า ”
เสียงนิ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าตัวอักษรดังกล่าวสลักเป็นชื่อเธอ
“ เพชรเกล้าคือใคร ”
ตรีทิพย์อมยิ้มเมื่ออีกคนทำหน้าทำตาคล้ายหาเรื่องขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ แฟนใหม่เหรอ? ” สาวน้อยทำเสียงแข็ง
“ กิ๊กใหม่เหรอ?! ”
“ ไม่ใช่กิ๊ก.. ” นางแบบสาวตอบกลับ
“ แล้วใคร ”
ใบหน้าเรียวทำงอนจนน่าหมันเขี้ยวเสียนี่
ตรีทิพย์ขยับปากแบบไม่มีเสียงให้เห็นว่าเธอบอกว่า ‘ เมีย ’
เพชรเกล้าตีแขนคนรักทันทีแอบเขินพองามจิกสายตานั่นนี่
ก่อนจะลดลงมองต่ำแสนน่ารัก
ซุปตาร์สาวเอื้อมมือหยิกแก้มกัดฟันเพราะคนครงหน้าช่างน่าหมันเขี้ยวนัก!
ร่างบางก้มๆมองสร้อยคอของเธอเผยรอยยิ้มออกมา
พร้อมกับหยิบจี้ทรงสวยยกขึ้นเล็กน้อย
“ อันนี้ก็ต้องเป็นตรีทิพย์น่ะสิ ”
“ ค่ะ.. ”
ใบหน้าสวยส่งสายตาเจ้าชู้ทำเสียงหวานใส่
เพชรเกล้ายิ้มมุมปากแบบเขินๆหลบๆแววตานิดหน่อย
สาวน้อยพลิกจี้มุกดูด้านหลังจึงเห็นว่าใช่อย่างที่เธอบอก
“ ตรีทิพย์ของเค้า ”
ใบหน้าเรียวแอบยิ้มเขินให้คนมองชอบใจเล่น
ร่างสูงเห็นเช่นนั้นเธอจึงประคองดวงหน้าเรียวให้ขึ้นสบตา
มองดูสาวน้อยหน้าแดงดุจผลสตรอว์เบอร์รีของไร่แห่งนี้
“ เขินใหญ่เลย ”
เพชรเกล้าหลับตามีเสียงหัวเราะคิ๊กคั๊กอยู่ในลำคอ
เมื่ออีกคนชอบล้อให้เธอต้องหลุดยิ้มออกมา
ตรีทิพย์ชอบใจเข้าไปใหญ่ดึงร่างบางนั่งลงบนตัก
พร้อมกอดรัดประคองรูปหน้าพรมจูบหอมฟัด
แสนหยอกเย้ากัดฟันส่งเสียงหมันเขี้ยวให้ได้ยิน
ร่างบางถอยห่างออกมาจากตักของตรีทิพย์
เพื่อหลีกหลบกิริยาหยอกล้อของอีกคน
ซุปตาร์สาวยิ้มชอบใจยืนขึ้นตามไปรวบรัด
เรือนร่างเข้ามากอดเกี่ยวท่ามกลางเสียงหัวเราะของเธอทั้งคู่
“ พี่เต้.. ”
เสียงนิ่มเอ่ยขึ้นเบาๆเมื่อตรีทิพย์ยังตามรังแกเธอไม่หยุดหย่อน
ร่างสูงโน้มจมูกเข้าไปสูดกลิ่นตรงนั้นตรงนี้ไม่ยอมเลิก
เพชรเกล้าเอียงเอนหลบทางนั้นทางนี้อยู่ร่ำไป
จวบจนกระทั่งสาวน้อยหันไปเห็นบุคคลที่ได้ยืนมองเธอทั้งคู่อยู่
ใบหน้าเรียวหยุดมองสบตากับพายุร้ายคนเดิม
ตรีทิพย์เมื่อเห็นคนรักนิ่งไปเธอจึงหันมองตามสายตาของเพชรเกล้า..
ปริฉัตรปรากฏตัวในช่วงเวลาแห่งความสุขของเธออีกครั้ง...
หญิงผิวสีแทนชุดเดรสเข้ารูปสีเขียวเข้มแขนกุด
มัดผมรวบตึงริมฝีปากแดงฉาดขมวดคิ้วดำดวงตาแข็งกร้าว
“ มีความสุขกันเหลือเกินนะ!! ”
ปริฉัตรเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินจ้ำอ้าวเข้ามาทันที
ตรีทิพย์รีบขวางทาง หญิงพี่สาวยกไม้ยกมือและต่อว่าอยู่ที่ปากเสียงดัง
นางแบบสาวจับเนื้อจับตัวเพื่อห้ามปราม
ไม่ให้แรงร้ายกาจได้เข้าแตะต้องสาวน้อยของเธอ
“ อีหน้าด้าน! หน้าไม่อาย! แกยังกล้ามาเหยียบที่นี่อีกเหรอ!! ”
“ พี่ต้อมหยุด!! ”
เพชรเกล้ามองดูอาการอีกคนแล้วจึงรู้
ว่าคงผิดหวังที่เห็นเธอและตรีทิพย์ไม่ได้ผิดใจกัน
“ แกออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! ออกไป!! ออกไป!!! ”
“ หยุด!!! อย่ามาทำตัวแบบนี้นะ!! ”
ตรีทิพย์สลัดพี่สาวออกห่าง ปริฉัตรหายใจแรงมองหน้าน้องสาว
“ เต้! นี่ยังไม่เลิกยุ่งกับมันอีกเหรอ?! ลืมไปแล้วหรือไงว่าเรา...!! ”
“ อย่าพูด! ” ตรีทิพย์ยกมือขึ้นชี้นิ้วกำชับ
“ ทุกคนเขารู้ความจริงกันหมดแล้ว!! เพราะฉะนั้นหยุดพูดจาน่าเกลียดๆสักที!! ”
“ เต้...เต้ไม่คิดจะรักพี่บ้างเหรอ.. ”
ปริฉัตรเสียงอ่อนไหวเดินเข้าจับเนื้อตัวตรีทิพย์และรวบกอด
ร่างสูงงัดแงะฝ่ามือพี่สาวทันที นางแบบร่างสูง
แสดงสีหน้าที่รับไม่ได้กับกิริยาของอีกคนเป็นอย่างมาก
ตรีทิพย์ดึงมือปริฉัตรออกได้สำเร็จ
หญิงแต่งหน้าจัดเงยมองขวับหายใจรุนแรง
“ รักมันมากนักหรือไง! อีผู้หญิงคนนี้อ่ะห่ะ!!! ”
ร่างสูงขมวดคิ้วรำคาญใจเพราะสถานการณ์เริ่มวุ่นวายเสียแล้ว
สิ้นเสียงปริฉัตรเธอจึงผลักตรีทิพย์ให้หลีกทางทันที
น้องสาวไม่ทันตั้งตัวจึงเซร่างไปอย่างห้ามไม่ได้
การนี้เองปริฉัตรจึงพุ่งตรงเข้ามาหาหญิงสาวร่างบางอย่างรวดเร็ว!
เพชรเกล้าเห็นอยู่แล้วว่าคนร้ายมุ่งตรงมาที่เธอจึงตั้งใจไม่คิดหลบหลีก
เพราะวันนี้เธอขอร้ายลึกเข้าซักวัน ตรีทิพย์หันมองคนรัก
เพชรเกล้าส่งสายตาท้าทายเรียบๆปริฉัตรอารมณ์ร้อนเป็นไฟ
พร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นสุดแรง ซุปตาร์ร่างสูงรีบวิ่งเข้ามาดึงตัวพี่สาว
ให้ออกห่างจากสาวน้อยของเธอแต่เป็นเวลาเดียวกันกับที่
มือไวได้ฟาดลงไปที่ใบหน้าของผู้ที่ตั้งใจจะรอรับเสียแล้ว!
ใบหน้าของเพชรเกล้าหันไปด้านข้างเล็กน้อย..เธอไม่เจ็บเท่าไหร่นัก
เพราะแก้มนิ่มๆโดนแตะต้องเพียงปลายๆนิ้วเท่านั้น
ตรีทิพย์สะพรึงดวงตาด้วยความตกใจและด้วยความโมโห
เธอจึงเหวี่ยงร่างปริฉัตรออกไปไกลๆเสียเต็มแรงจนหญิงสาว
กระเด็นไปล้มลงหน้าผากฟาดโดนกับขอบไม้ของตัวศาลาทันที
“ พราว!! ”
ตรีทิพย์รีบวิ่งเข้ามาหาคนรักประคองเนื้อตัวไถ่ถามอย่างเป็นห่วง
ใบหน้าเรียวค่อยๆหันมาหา..
“ ฮือ..~ ”
สาวน้อยส่งเสียงอ่อนๆยื่นมือเข้ากอด
พร้อมกับซบอกอ้อนเสียเลย..หมดเรื่องหมดราว
ใบหน้าสวยเคร่งเครียดเพราะแสนห่วงใยกอดตอบคนรัก
ลูบเส้นผมเบาๆถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ปริฉัตรลุกขึ้นยืนเธอมีเลือดซึมบริเวณหางคิ้ว
แต่อารมณ์ยังไม่ลดละเลยสักนิด
ร่างบางเงยหน้าขึ้นมอง
“ เขาตบพราว... ”
เสียงเบาๆเอ่ยบอกตรีทิพย์หรี่ตาคิ้วตก
ย้ายมือมาลูบๆผิวแก้มด้วยความทะนุถนอม
“ สำออย!!! ”
ร่างสูงหันมองเมื่อเสียงดังๆสาดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
“ มันจะเป็นอะไร! ฉันนี่ที่เป็น!! ” ปริฉัตรเสียงสั่นด้วยความช้ำใจ
“ พี่เลือกที่จะเป็นแบบนี้เอง..! ”
ตรีทิพย์พูดเสียงแข็งก่อนจะพาตัวสาวน้อยของเธอออกไปจากตรงนั้น
ปริฉัตรหายใจเข้าออกแรงๆอย่างโกรธกริ้วเช็ดน้ำตา
ที่ดันไหลออกมาตอนนี้..ยังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้ใครทั้งนั้น!
หญิงสาวหันมองคู่รักที่เคียงคู่กลับเข้าไปยังในบ้านหลังใหญ่...
สองสาวเดินเข้ามาหยุดในส่วนกลางของบ้าน..
“ เจ็บมากมั้ยคะ ”
เสียงหวานถามขึ้นประคองใบหน้าสาวน้อย
“ เจ็บค่ะ ”
เพชรเกล้าตอบเบาๆเอื้อมจับฝ่ามือที่กอบกุมผิวแก้มเธอ
ตรีทิพย์ถอนหายใจขยับนิ้วโปร่งไปมาอยู่กับแก้มเนียน
“ มาทางนี้..เดินดีๆเดี๋ยวไปชนอะไรเข้า ”
ทอปัดเดินออกมาจากมุมหนึ่งพร้อมด้วยเด็กสาวใบตอง
ที่กำลังยกกล่องใหญ่ๆด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าหนักอื้อ
“ คุณต้าควรจะช่วยหนูถือนะคะ หนูตัวเปี๊ยกเดียวเองเนี่ยจะใช้อะไรนักหนาก็ไม่รุ ”
ใบตองกระชับสองแขนให้ถนัดๆกับสิ่งที่ถือเล็กน้อย
“ แล้วเธอล่ะจะบ่นอะไรนักหนา ช็อคโกแลตก็กินของฉันไปแล้วก็ต้องช่วยฉันทำงานสิ ”
ทอปัดหยุดเดินหันมาหายกมือข้างหนึ่งท้าวสะเอว
“ วุ๊! รู้งี้ไม่กินหรอก..! ” ใบตองบ่นให้ได้ยิน
ทอปัดจิกสายตามองคนตรงหน้า
“ หนักก็หนัก! ”
“ คิดว่าฉันจะยอมอย่างนั้นเลอะ!!! ”
ทอปัดและใบตองหันมองพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“ เสียงอะไร? ”
เด็กสาววางกล่องในมือลงกับพื้น
“ เสียงเหมือนคุณต้อมเลยค่ะ! ”
ทอปัดหันมองคนพูด.....ก่อนจะรีบวิ่งไปดูให้รู้แน่ชัด ใบตองรีบวิ่งตามไป..
ถัดมายังสถานที่ๆคาดว่ากำลังจะเกิดเหตุ..ตรีทิพย์หันมองตามเสียง
จึงเห็นว่าปริฉัตรตรงดิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วในมือถือขวดเปล่า
ของเครื่องดื่มขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ใบตองและทอปัด
มาทันเห็นเหตุการณ์ในตอนนี้เข้าพอดี
ร่างผิวสีแทนก้าวขาฉับๆเข้ามาหาสองหญิงสาว
พร้อมกับจงใจเขวี้ยงขวดในมือเข้าไปหาเพชรเกล้า
แต่ตรีทิพย์ไหวตัวทันจึงดึงตัวคนรักให้หลีกหลบไปอย่างฉิวเฉียด
“ เพล้ง!! ” เศษแก้วจากขวดแตกกระจาย
ทอปัด ใบตองตกใจเป็นอย่างมากรีบวิ่งเข้ามาในเหตุการณ์
“ มันจะมากไปแล้วนะ! พี่เป็นบ้าอะไร!! ” ทอปัดต่อว่าด้วยความโมโห
“ ฉันทำได้มากกว่านี้อีก!! ”
ปริฉัตรสวนกลับทันควันพร้อมกับปรี่จะเข้ามาหาเพชรเกล้า
ตรีทิพย์โอบกอดสาวน้อยเธอหันร่างตัวเองบังไว้
จ้องมองพี่สาวตาเขม็ง..วินาทีนี้เอง
ที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นจงอางหวงไข่!
ปริฉัตรไม่พอใจที่เห็นน้องสาวทำเช่นนี้
เธอหายใจแรงเอื้อมมือจะไขว่คว้าตัวเพชรเกล้าให้ได้
ทอปัดเข้ามาขวางหน้าผลักดันเนื้อตัวพี่สาวที่แสนจะเดือดพล่าน
“ ปล่อยฉัน!! อย่ามายุ่งกับฉัน! ”
เพชรเกล้ามองปริฉัตรแววตาเรียบเฉย
เพราะเธอกำลังเวทนากับกิริยาของผู้หญิงคนนี้..
“ พี่หยุดซะทีเถอะ!!! ” ทอปัดกีดขวางเนื้อตัว
“ มันแย่งของรักไปจากฉัน! ฉันจะฆ่ามัน!!! ”
ปริฉัตรตะโกนลั่นพร้อมกับผลักร่างของทอปัด
เซแพรดไปกับมุมที่ใบตองยืนอยู่จนเด็กสาว
เกือบจะช่วยประคองเอาไว้ไม่ทัน
มาลัยวิ่งเข้ามาจากหลังบ้านเมื่อได้ยินเสียงดังๆ
“ ก็เอาสิ! ถ้าพี่ฆ่าพราว..เต้ก็ฆ่าพี่ได้เหมือนกัน..! ”
ปริฉัตรสะอึกกับวาจาของน้องสาวแสนรักจนน้ำตาเอ่อคลอ
“ นี่เต้กล้าพูดกับพี่แบบนี้เลยเหรอ จะฆ่าพี่อย่างนั้นเหรอ!!! ”
“ ใช่.. ” ตรีทิพย์ตอบเสียงเย็น
ปริฉัตรกัดกรามด้วยความโกรธและริษยาเกลียดชัง!
“ ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ด้วย!! ทำไมต้องไปแบบนี้!!! พี่รักเต้นะ! พี่รักเต้ๆได้ยินมั้ย!! ว่าพี่รักเต้!!! ทำไมเต้ถึงไม่รักพี่บ้าง! ”
มาลัยเดินเข้ามาหาหลานสาวที่ยืนอยู่กับทอปัด
ถอนหายใจเงียบๆด้วยแววตาที่แอบสงสาร
“ พี่เต้รักคุณค่ะ เพราะคุณคือสาวของเขา ” เพชรเกล้าพูดขึ้นเสียงเรียบ
“ อย่ามายุ่ง!! ฉันไม่ได้ต้องการความรักแบบนั้น!! ” ปริฉัตรตวาดทันควัน
“ ถ้ามากกว่านี้เต้ก็ไม่มีให้พี่หรอก..! ” ตรีทิพย์เสียงแข็ง
“ พี่จะต้องการมากกว่านี้ไม่ได้หรอก! เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ พี่เป็นพี่นะจะมาคิดเกินเลยแบบนี้มันผิดมนุษย์ไม่มีใครเขาทำกัน!! ”
ใบตองหันมองทอปัดที่เป็นผู้พูดเธอจึงเริ่มเข้าใจ
ถึงความต้องการของหญิงอารมณ์ร้ายคนนี้
“ เพราะแกใช่มั้ย! อีนี่ใช่มั้ย!! ทำไมทุกคนต้องเยินยอแกกันหมด!! ”
ปริฉัตรเดินเข้าหาเพชรเกล้าอีกครั้งแต่ถูกตรีทิพย์กีดกันไว้
ใบตองรีบเดินเข้าไปผลักร่างของปริฉัตร
มาลัยตกใจที่เห็นหลานสาวทำเช่นนั้น
“ อย่ามาทำอะไรคุณพราวนะ! คุณกลับไปเถอะค่ะ ทุกคนที่นี่ไม่เหมาะกับคุณหรอก ไม่มีใครเป็นอย่างที่คุณอยากให้เป็นได้ ”
เด็กสาวกล่าวเสียงใส
ปริฉัตรหายใจแรงด้วยความโมโหที่ใบตองกล้าทำกับเธอแบบนี้
“ ปกป้องกันเหลือเกินนะ! มันเป็นแม่มึงเลอะ!!! ต่ำ! ”
หญิงร่างสูงหยาบคายเสียงดังพร้อมใช้มือ
ผลักศีรษะของใบตองอย่างเต็มแรงจนเด็กสาวเซกลับไปหาน้าของตัวเอง
ปริฉัตรทำท่าจะหาเรื่องต่อ ทุกคนจึงเตรียมที่จะช่วยเหลือ
“ อย่ามาทำอะไรน้องนะ! ”
มาลัยกอดหลานสาวหันบอกหญิงผิวสีแทนที่ตารุกวาวตลอดเวลา
เพชรเกล้าและตรีทิพย์แปลกใจที่ได้ยินได้ฟัง
แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องตั้งคำถาม
ใบหน้าดุไม่รู้สึกรู้สาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
ทอปัดเดินเข้าไปกระชากพี่สาวเธอออกห่าง
“ ที่มันเป็นแบบนี้ก็ว่าพี่นั่นแหละที่ทำให้มันเป็นแบบนี้! ”
ปริฉัตรเซนิดหน่อยจ้องหน้าน้องสาวคนกลาง
“ ทำไมพี่ถึงไม่เป็นพี่ที่ดี! ทำไมถึงใจแคบ!! รักแต่ตัวเองไม่คิดที่จะรักใคร! และพี่ยังจะหวังให้ใครเขามารัก!! ในเมื่อคนที่รักพี่..พี่ก็ปฏิเสธความรักความหวังดีของเขา! ความรักมันสูงส่งเกินกว่าที่คนอย่างพี่จะได้รับ!!! ”
“ เพี๊ยะ!! ”
ปริฉัตรกัดฟันแน่นพร้อมเงื้อมือฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของทอปัดทันที
ตรีทิพย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจและรีบวิ่งเข้ามาดันตัวคนทำ
ออกไปไกลๆทันที เพชรเกล้าเข้ามาประคองตัวทอปัดด้วยความเป็นห่วง
“ นี่พี่ทำอะไรของพี่เนี่ยห่ะ!!! ”
ร่างสูงตะคอกใส่เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ ครอบครัวฉันมันโง่! เห็นศัตรูดีไปซะทุกอย่าง!! พ่อก็ยังมักมากพัวพันกับอีปิ่นรักไม่เลิก!! ส่วนแม่ก็ขี้แพเสือกชิ่งตายไปซะก่อน..ไม่มีใครดีเลยซักคน!!! ”
“ เพี๊ยะ!!! ”
ตรีทิพย์ตบหน้าพี่สาวทันที.........ปริฉัตรหันมองด้วยความตกตะลึงถึงขีดสุด
ร่างสูงชี้หน้าจ้องตาเขม็ง..
“ อย่ามาว่าพ่อกับแม่นะ..! พี่ไม่มีสิทธิ์! ถ้าอยากจะโชว์บารมี..โน้น!! ไปที่อื่น!!! ”
“ คนหนึ่งมักมากอีกคนหนึ่งก็อ่อนแอถึงต้องแพ้เขาแงะ!! ไม่มีใครได้ดั่งใจไม่มีใครเหมือนฉันสักคน!!! ”
ปริฉัตรช้ำใจเป็นอย่างมากแต่ยังคงแสดงว่าเธอนั้นเข้มแข็งกว่าใคร
ตรีทิพย์ใช้มือที่ชี้หน้าผลักไหล่พี่สาวให้เซถอยหลังอีกครั้ง
อย่างโกรธกริ้วตั้งใจจะจัดการกับปริฉัตรเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“ ไหนเธอลองคิดในทางกลับกันบ้างสิ..ว่าทำไมเธอถึงไม่เหมือนใครเขา?! ”
ทุกคนหันมองไปทางประตูจึงพบกับเจ้าของน้ำเสียงนิ่งกระชับ..
อรทุมาเดินเข้ามาพร้อมกับปิ่นรัก หญิงผู้บริหารสีหน้าเรียบเฉย
จนปริฉัตรต้องเบ้ปากอย่างเกลียดชัง
“ พูดอะไร! ” ปริฉัตรเสียงดังใส่อาหญิงของตัวเอง
“ หน้าตา..ผิวพรรณ..นิสัย! ”
อรทุมามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของคนที่ขึ้นชื่อว่า
เป็นหลานสาวคนโตกระชากเสียงแข็งในปลายคำพูด
ทอปัดเดินเข้าไปยืนเคียงข้างตรีทิพย์สองพี่น้องชักสีหน้าแปลกใจ
มองอาหญิงของตัวเอง ปิ่นรักเข้ามาโอบเอวลูกสาวอันเป็นที่รัก
ส่งยิ้มบางๆลูบแขนเบาๆก่อนจะหันมองสถานการณ์ของครอบครัวนี้
“ ทำไม! นิสัยฉันมันเป็นยังไง!! ”
ปริฉัตรตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้เธอจะไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
“ มันชั่วไง! เธอมันไม่ควรที่จะได้มายืนอยู่ตรงนี้! เปลืองข้าวสุกที่เลี้ยงให้โตขึ้นมา!! ”
อรทุมาใช้มือดันหน้าผากปริฉัตรอย่างโมโห
หญิงสาวหายใจแรงตาแดงกร่ำเพราะอารมณ์ลุ่มร้อน
ก่อนจะเข้าไปผลักร่างของอรทุมาให้เซถอยหลังอย่างไม่เกรงใจ
“ อย่ามาทำนิสัยแบบนี้กับฉันนะ!! ”
อาหญิงจ้องตาเขม็งเริ่มหมดความอดทน
“ ทำไมฉันจะทำไม่ได้ในเมื่อฉันไม่เคยเคารพอะไรในตัวเธออยู่แล้ว!! เป็นอาประสาอะไรรักหลานไม่เท่ากัน! วันๆก็เอาแต่ประจบประแจงพ่อฉันจนเกินหน้า! สนิทสนมยืนกอดกันจนน่าหมันไส้ นี่ตกลงเป็นน้องแท้ๆหรือน้องเทียมฉันก็เริ่มไม่แน่ใจ!! ”
ปริฉัตรชักสีหน้าร้ายกาจ ตรีทิพย์และทอปัดอึ้งและตกใจ
กับคำพูดที่ไม่ควรจะเอ่ย รวมทั้งทุกคนในที่นั้นก็แทบจะทนฟังไม่ได้เช่นกัน
“ อีเด็กจังไรมาเกิด! วันนี้ฉันจะไม่ทนให้แกมาขึ้นเสียงกับฉันอีกต่อไป!!!! ”
อรทุมาโมโหมากเธอไม่จำเป็นจะต้องเมตตากับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
เพราะหากย้อนไปในภาพของวันวานปริฉัตรเคยพูดจาแบบนี้
กับเธอมาแล้วครั้งหนึ่งสมัยรินลดาจากไปไม่นาน
เหตุนี้จึงทำให้เธอเริ่มชังผู้หญิงคนนี้เรื่อยมา…
“ คุณอรคะ!! ใจเย็นๆเถอะนะคะ อย่าทำอะไรเขาเลย ”
มาลัยช่วยประคับประคองอารมณ์
ปิ่นรักลดสายตาลงถอนหายใจสงบนิ่ง
“ พอ!!! มาลัยไม่ต้องพูด!! ”
อรทุมาหันตวาดก่อนจะกลับไปจ้องหน้าปริฉัตรด้วยความฉุนเฉียว
“ วันนี้ฉันจะบอกให้มันรู้ว่ามันมาจากไหน..!อะไรคือแท้และแบบไหนที่เรียกว่าเทียม.. ”
ปริฉัตรสายตาลอกแลกสงสัยอยู่ลึกๆ
“ แต่ว่า.. ”
“ อีขี้ค่า!! อย่ามาเสือก!! ” ปริฉัตรเสียงลั่นขัดคำพูดของมาลัยทันที
“ มีอะไรก็พูดมา?! อยากจะน้ำเน่าอะไรก็เชิญ! ฉันไม่กลัวอยู่แล้ว!!! ”
อรทุมากระตุกรอยยิ้ม
“ อยากรู้เรื่องน้ำเน่าของแกนักใช่มั้ย.. ”
หญิงผิวสีแทนจิตใจรนรานหน้าตาต้องการที่จะรับรู้เดี๋ยวนี้ตอนนี้
“ แกมัน..? ”
“ อร!! ”
ทุกคนหันมองถึงคนที่พรวดพราดเข้ามา...อินเกษมหน้าตาเป็นกังวลและทุกข์ใจ
“ ไม่เอาน่ะ! ใจเย็นๆพี่ขอล่ะ ”
“ อรเย็นมามากพอแล้วนะพี่อิน!! ก็เพราะพี่นั่นแหละที่ดึงมันเข้ามา..และเห็นมั้ยว่ามันเป็นยังไง!มันเคยเคารพใครบ้างมั้ยทุกวันนี้มันแทบจะเหยียบหัวพี่อยู่แล้ว!! อรที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอามัน! มันยังคิดต่ำช้าถึงความสนิทของเราสองคนพี่น้อง!!! จิตใจมันอัปยศเกินกว่าที่เราจะต้องคอยปกป้องอีกต่อไป!!! หยิบก้อนกรวดพยายามขึ้นมาประดับเป็นเพชร..!แต่ถึงยังไงมันก็ยังเป็นก้อนกรวดอยู่วันยันค่ำ!!! ”
อรทุมาเสียงกระชับและดุไม่เบา
“ มึงก็พูดมาสิ!!! พูดมาเลย!! ”
“ เพี๊ยะ!!..เพี๊ยะ!!! ”
อรทุมากัดฟันแน่นที่ได้ยินวาจาเธอจึงฟาดฝ่ามือ
เข้าไปที่ใบหน้าของปริฉัตรและตามด้วยหลังมือติดๆกันอย่างเต็มแรง
จนหญิงตัวร้ายเซล้มลง อินเกษมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
เอื้อมมือจะประคองลูกสาว
แต่กับถูกสะบัดออกคล้ายไม่ต้องการความห่วงใย
อรทุมาตรงเข้าไปกระชากศีรษะของปริฉัตรให้เงยหน้าขึ้น
หญิงร่างสูงหายใจแรงจ้องตาอาหญิงตาเขม็ง!
ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่เริ่มจะเดือดเป็นน้ำร้อน
“ ยังไงต้อมก็เป็นหลานของอานะ!!!! อาทำขนาดนี้เลยเหรอ!!! ”
“ แกไม่ใช่หลานฉัน... ”
น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยขึ้นนำพาให้สองพี่น้องเผยริมฝีปากค้างด้วยความตกใจ!
อินเกษมหัวคิ้วชนกันลดสายตาลงเมื่อความจริง
ที่กักเก็บไว้มานานได้ถูกเปิดเผย ปิ่นรักมองหน้าหญิงสาวตัวร้าย
ที่อึ้งตะลึงเงียบไปเฉียบพลันอย่างหดหู่หัวใจ.........
อรทุมาอินเกษมอาสาพาปิ่นรักทัวร์รอบพื้นที่ของไร่สตรอว์เบอร์รีสีสันสดใส
ผู้บริหารหญิงยิ้มฟังการอธิบายจากเจ้าของผืนไร่
ถึงการดูแลเอาใจใส่ที่เกี่ยวกับพืชผลซึ่งแตกต่างจากงานประจำของเธอพอสมควร
อินเกษมชี้ตรงนั้นตรงนี้แนะนำให้หญิงคนเก่ง
ได้รับรู้ถึงชาวไร่ชาวสวนและการใช้ชีวิตของพวกเขา
โดยทำให้ปิ่นรักนั้นเผยรอยยิ้มพยักหน้ารับฟังอย่างสนใจ…
บรรยากาศของที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายสมองอย่างแท้จริง..
สวนย่อมรอบบ้านผิวหญ้าสะอาดๆมีหยดน้ำค้างเกาะติดนิดหน่อยให้ดูชุ่มชื้นสบายตา
ศาลาไม้เล็กสำหรับนั่งพักผ่อนเย็นใจเขียวชอุ่ม
จากใบไม้ที่ปกปิดเต็มทั่วหลังคาจั่วแหลม
ตรีทิพย์ยืนทักเปียเล่นๆอยู่กับม่านบาหลีที่เรียงรายยาวเหยียด
อยู่ภายในของศาลาที่เธอกำลังยืนอยู่อย่างเพลินๆ
สาวน้อยเสื้อยืดพอดีตัวคอกลมสีชมพูมีลายการ์ตูนตกแต่งเล็กน้อย
ร่วมด้วยกางเกงขายาวผ้านิ่มตัวใหม่ก้าวขาย่องเบา
เข้ามาด้วยรองเท้าแตะเบอร์สามสิบเจ็ด
อมยิ้มอยู่บนใบหน้าเธอพยายามเคลื่อนไหวให้เงียบเชียบที่สุด
“ แว้!! ”
สองมือของเพชรเกล้าเอื้อมแตะตัวตรีทิพย์อย่างรวดเร็ว
พร้อมส่งเสียงดังพอประมาณให้น่าสะดุ้ง
ใบหน้าสวยหันมองไปเจอกับหญิงสาวผมยาว
ที่ผมด้านถูกเปิดขึ้นและติดกิ๊บไว้โปร่งๆ ร่างสูงส่งยิ้มหวานๆให้
“ หืม..ไม่ตกใจเลย.. ” เสียงนิ่มทำผิดหวัง
“ อุ๊ยตกใจ! ตกใจจังเลย ตกใจจังเลย! ”
ตรีทิพย์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินเข้ากอดเจ้าหล่อน
พร้อมทั้งยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มหลายๆหน
“ หอมจังเลยๆ ”
สาวน้อยส่งยิ้มตาหยีจมูกแดงนิดหน่อย
เนื่องจากอากาศเย็นฉ่ำในตอนเช้า
“ วันนี้น่ารักจัง ”
ตรีทิพย์ยิ้มบอกและโน้มจมูกไปชื่นใจอีกหนึ่งฟอดแสนหลงใหล
“ ทำอะไรอยู่เหรอคะ ”
เพชรเกล้าหันมองรอบๆเอื้อมมือแตะม่านยาวๆที่คล้ายเส้นเชือก
“ เปล่าหรอกค่ะก็เล่นอะไรไปเพลินๆ ”
“ ขอพราวเล่นด้วยได้มั้ย ”
ร่างบางหันเดินไปจับๆมัดๆเจ้าม่านบาหลีห้อยโตงเตง
“ ได้สิคะ แต่ต้องเปลี่ยนเรื่องเล่นนะ ”
นางแบบสาวเข้ากอดด้านหลัง
“ อ้าว แล้วจะเล่นอะไรล่ะคะ ”
เพชรเกล้ายังคงมัดตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยอยู่กับบาหลีเส้นยาว
“ เล่นหอมกัน ”
ใบหน้าเรียวหันมายิ้มหัวเราะนิดๆเพราะตรีทิพย์เอาแต่วนเข้าเรื่องเดิม
ร่างสูงส่งสายตาเจ้าชู้ให้อีกคนเขินเล่นก่อนจะประคองให้สาวน้อยหันมา
ใบหน้าสวยโน้มเข้าไปหาทำคล้ายจะชื่นใจเหมือนเคย
แต่อยู่ๆกับมีสร้อยเส้นหนึ่งห้อยลงมาตรงหน้าของเพชรเกล้า
ดึงความสนใจให้เจ้าหล่อนต้องรีบหยิบดู
“ นี่มุกของพราวนี่คะ ”
เสียงนิ่มเอ่ยบอกเมื่อเธอจำได้กับอัญมณีที่เคยเสาะหาด้วยตัวเอง
“ คุณพ่อเอามาให้เมื่อวานนี้ค่ะ ” ตรีทิพย์ยิ้มบอก
เพชรเกล้ายิ้มกว้างด้วยความดีใจพร้อมกับพุ่งเข้ากอดคนรักทันที
ก่อนจะรีบผละออกมามองสร้อยเส้นเดิมอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น
“ แล้วของพี่เต้ล่ะคะ ”
ร่างสูงจึงโชว์สร้อยสวยๆอีกเส้นที่ได้ผ่านการเจียรนัย
และตกแต่งมาแล้วอย่างสวยงามให้สาวน้อยได้ดู
เพชรเกล้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความถูกใจ
“ ใส่เลยมั้ยคะ ”
ร่างบางยิ้มพยักหน้า..สองสาวผลัดกันใส่สร้อยให้กันและกันด้วยรอยยิ้ม
ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้และดึงสาวน้อยให้เข้ามายืนอยู่ระหว่างขา
สองมือสอดเข้าเอวบางมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอๆ
เพชรเกล้ายิ้มหวานยืนเกาะไหล่คนรักทั้งคู่กระหนุงกระหนิงกันไปตามประสา
ร่างเล็กยื่นมือเข้าไปจับๆบริเวณตัวจี้ที่ตรีทิพย์สวมใส่
คล้ายตกแต่งให้ไม่พลิกไปพลิกมาสายตาของเธอ
จึงสะดุดเข้ากับตัวหนังสือบางอย่าง
“ มี..เขียนอะไรไว้ด้วย ”
“ ชื่อเหรอ? ” ร่างบางพูดกับตัวเองและก้มดูใกล้ๆ
“ เพชรเกล้า ”
เสียงนิ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าตัวอักษรดังกล่าวสลักเป็นชื่อเธอ
“ เพชรเกล้าคือใคร ”
ตรีทิพย์อมยิ้มเมื่ออีกคนทำหน้าทำตาคล้ายหาเรื่องขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ แฟนใหม่เหรอ? ” สาวน้อยทำเสียงแข็ง
“ กิ๊กใหม่เหรอ?! ”
“ ไม่ใช่กิ๊ก.. ” นางแบบสาวตอบกลับ
“ แล้วใคร ”
ใบหน้าเรียวทำงอนจนน่าหมันเขี้ยวเสียนี่
ตรีทิพย์ขยับปากแบบไม่มีเสียงให้เห็นว่าเธอบอกว่า ‘ เมีย ’
เพชรเกล้าตีแขนคนรักทันทีแอบเขินพองามจิกสายตานั่นนี่
ก่อนจะลดลงมองต่ำแสนน่ารัก
ซุปตาร์สาวเอื้อมมือหยิกแก้มกัดฟันเพราะคนครงหน้าช่างน่าหมันเขี้ยวนัก!
ร่างบางก้มๆมองสร้อยคอของเธอเผยรอยยิ้มออกมา
พร้อมกับหยิบจี้ทรงสวยยกขึ้นเล็กน้อย
“ อันนี้ก็ต้องเป็นตรีทิพย์น่ะสิ ”
“ ค่ะ.. ”
ใบหน้าสวยส่งสายตาเจ้าชู้ทำเสียงหวานใส่
เพชรเกล้ายิ้มมุมปากแบบเขินๆหลบๆแววตานิดหน่อย
สาวน้อยพลิกจี้มุกดูด้านหลังจึงเห็นว่าใช่อย่างที่เธอบอก
“ ตรีทิพย์ของเค้า ”
ใบหน้าเรียวแอบยิ้มเขินให้คนมองชอบใจเล่น
ร่างสูงเห็นเช่นนั้นเธอจึงประคองดวงหน้าเรียวให้ขึ้นสบตา
มองดูสาวน้อยหน้าแดงดุจผลสตรอว์เบอร์รีของไร่แห่งนี้
“ เขินใหญ่เลย ”
เพชรเกล้าหลับตามีเสียงหัวเราะคิ๊กคั๊กอยู่ในลำคอ
เมื่ออีกคนชอบล้อให้เธอต้องหลุดยิ้มออกมา
ตรีทิพย์ชอบใจเข้าไปใหญ่ดึงร่างบางนั่งลงบนตัก
พร้อมกอดรัดประคองรูปหน้าพรมจูบหอมฟัด
แสนหยอกเย้ากัดฟันส่งเสียงหมันเขี้ยวให้ได้ยิน
ร่างบางถอยห่างออกมาจากตักของตรีทิพย์
เพื่อหลีกหลบกิริยาหยอกล้อของอีกคน
ซุปตาร์สาวยิ้มชอบใจยืนขึ้นตามไปรวบรัด
เรือนร่างเข้ามากอดเกี่ยวท่ามกลางเสียงหัวเราะของเธอทั้งคู่
“ พี่เต้.. ”
เสียงนิ่มเอ่ยขึ้นเบาๆเมื่อตรีทิพย์ยังตามรังแกเธอไม่หยุดหย่อน
ร่างสูงโน้มจมูกเข้าไปสูดกลิ่นตรงนั้นตรงนี้ไม่ยอมเลิก
เพชรเกล้าเอียงเอนหลบทางนั้นทางนี้อยู่ร่ำไป
จวบจนกระทั่งสาวน้อยหันไปเห็นบุคคลที่ได้ยืนมองเธอทั้งคู่อยู่
ใบหน้าเรียวหยุดมองสบตากับพายุร้ายคนเดิม
ตรีทิพย์เมื่อเห็นคนรักนิ่งไปเธอจึงหันมองตามสายตาของเพชรเกล้า..
ปริฉัตรปรากฏตัวในช่วงเวลาแห่งความสุขของเธออีกครั้ง...
หญิงผิวสีแทนชุดเดรสเข้ารูปสีเขียวเข้มแขนกุด
มัดผมรวบตึงริมฝีปากแดงฉาดขมวดคิ้วดำดวงตาแข็งกร้าว
“ มีความสุขกันเหลือเกินนะ!! ”
ปริฉัตรเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินจ้ำอ้าวเข้ามาทันที
ตรีทิพย์รีบขวางทาง หญิงพี่สาวยกไม้ยกมือและต่อว่าอยู่ที่ปากเสียงดัง
นางแบบสาวจับเนื้อจับตัวเพื่อห้ามปราม
ไม่ให้แรงร้ายกาจได้เข้าแตะต้องสาวน้อยของเธอ
“ อีหน้าด้าน! หน้าไม่อาย! แกยังกล้ามาเหยียบที่นี่อีกเหรอ!! ”
“ พี่ต้อมหยุด!! ”
เพชรเกล้ามองดูอาการอีกคนแล้วจึงรู้
ว่าคงผิดหวังที่เห็นเธอและตรีทิพย์ไม่ได้ผิดใจกัน
“ แกออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! ออกไป!! ออกไป!!! ”
“ หยุด!!! อย่ามาทำตัวแบบนี้นะ!! ”
ตรีทิพย์สลัดพี่สาวออกห่าง ปริฉัตรหายใจแรงมองหน้าน้องสาว
“ เต้! นี่ยังไม่เลิกยุ่งกับมันอีกเหรอ?! ลืมไปแล้วหรือไงว่าเรา...!! ”
“ อย่าพูด! ” ตรีทิพย์ยกมือขึ้นชี้นิ้วกำชับ
“ ทุกคนเขารู้ความจริงกันหมดแล้ว!! เพราะฉะนั้นหยุดพูดจาน่าเกลียดๆสักที!! ”
“ เต้...เต้ไม่คิดจะรักพี่บ้างเหรอ.. ”
ปริฉัตรเสียงอ่อนไหวเดินเข้าจับเนื้อตัวตรีทิพย์และรวบกอด
ร่างสูงงัดแงะฝ่ามือพี่สาวทันที นางแบบร่างสูง
แสดงสีหน้าที่รับไม่ได้กับกิริยาของอีกคนเป็นอย่างมาก
ตรีทิพย์ดึงมือปริฉัตรออกได้สำเร็จ
หญิงแต่งหน้าจัดเงยมองขวับหายใจรุนแรง
“ รักมันมากนักหรือไง! อีผู้หญิงคนนี้อ่ะห่ะ!!! ”
ร่างสูงขมวดคิ้วรำคาญใจเพราะสถานการณ์เริ่มวุ่นวายเสียแล้ว
สิ้นเสียงปริฉัตรเธอจึงผลักตรีทิพย์ให้หลีกทางทันที
น้องสาวไม่ทันตั้งตัวจึงเซร่างไปอย่างห้ามไม่ได้
การนี้เองปริฉัตรจึงพุ่งตรงเข้ามาหาหญิงสาวร่างบางอย่างรวดเร็ว!
เพชรเกล้าเห็นอยู่แล้วว่าคนร้ายมุ่งตรงมาที่เธอจึงตั้งใจไม่คิดหลบหลีก
เพราะวันนี้เธอขอร้ายลึกเข้าซักวัน ตรีทิพย์หันมองคนรัก
เพชรเกล้าส่งสายตาท้าทายเรียบๆปริฉัตรอารมณ์ร้อนเป็นไฟ
พร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นสุดแรง ซุปตาร์ร่างสูงรีบวิ่งเข้ามาดึงตัวพี่สาว
ให้ออกห่างจากสาวน้อยของเธอแต่เป็นเวลาเดียวกันกับที่
มือไวได้ฟาดลงไปที่ใบหน้าของผู้ที่ตั้งใจจะรอรับเสียแล้ว!
ใบหน้าของเพชรเกล้าหันไปด้านข้างเล็กน้อย..เธอไม่เจ็บเท่าไหร่นัก
เพราะแก้มนิ่มๆโดนแตะต้องเพียงปลายๆนิ้วเท่านั้น
ตรีทิพย์สะพรึงดวงตาด้วยความตกใจและด้วยความโมโห
เธอจึงเหวี่ยงร่างปริฉัตรออกไปไกลๆเสียเต็มแรงจนหญิงสาว
กระเด็นไปล้มลงหน้าผากฟาดโดนกับขอบไม้ของตัวศาลาทันที
“ พราว!! ”
ตรีทิพย์รีบวิ่งเข้ามาหาคนรักประคองเนื้อตัวไถ่ถามอย่างเป็นห่วง
ใบหน้าเรียวค่อยๆหันมาหา..
“ ฮือ..~ ”
สาวน้อยส่งเสียงอ่อนๆยื่นมือเข้ากอด
พร้อมกับซบอกอ้อนเสียเลย..หมดเรื่องหมดราว
ใบหน้าสวยเคร่งเครียดเพราะแสนห่วงใยกอดตอบคนรัก
ลูบเส้นผมเบาๆถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ปริฉัตรลุกขึ้นยืนเธอมีเลือดซึมบริเวณหางคิ้ว
แต่อารมณ์ยังไม่ลดละเลยสักนิด
ร่างบางเงยหน้าขึ้นมอง
“ เขาตบพราว... ”
เสียงเบาๆเอ่ยบอกตรีทิพย์หรี่ตาคิ้วตก
ย้ายมือมาลูบๆผิวแก้มด้วยความทะนุถนอม
“ สำออย!!! ”
ร่างสูงหันมองเมื่อเสียงดังๆสาดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
“ มันจะเป็นอะไร! ฉันนี่ที่เป็น!! ” ปริฉัตรเสียงสั่นด้วยความช้ำใจ
“ พี่เลือกที่จะเป็นแบบนี้เอง..! ”
ตรีทิพย์พูดเสียงแข็งก่อนจะพาตัวสาวน้อยของเธอออกไปจากตรงนั้น
ปริฉัตรหายใจเข้าออกแรงๆอย่างโกรธกริ้วเช็ดน้ำตา
ที่ดันไหลออกมาตอนนี้..ยังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้ใครทั้งนั้น!
หญิงสาวหันมองคู่รักที่เคียงคู่กลับเข้าไปยังในบ้านหลังใหญ่...
สองสาวเดินเข้ามาหยุดในส่วนกลางของบ้าน..
“ เจ็บมากมั้ยคะ ”
เสียงหวานถามขึ้นประคองใบหน้าสาวน้อย
“ เจ็บค่ะ ”
เพชรเกล้าตอบเบาๆเอื้อมจับฝ่ามือที่กอบกุมผิวแก้มเธอ
ตรีทิพย์ถอนหายใจขยับนิ้วโปร่งไปมาอยู่กับแก้มเนียน
“ มาทางนี้..เดินดีๆเดี๋ยวไปชนอะไรเข้า ”
ทอปัดเดินออกมาจากมุมหนึ่งพร้อมด้วยเด็กสาวใบตอง
ที่กำลังยกกล่องใหญ่ๆด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าหนักอื้อ
“ คุณต้าควรจะช่วยหนูถือนะคะ หนูตัวเปี๊ยกเดียวเองเนี่ยจะใช้อะไรนักหนาก็ไม่รุ ”
ใบตองกระชับสองแขนให้ถนัดๆกับสิ่งที่ถือเล็กน้อย
“ แล้วเธอล่ะจะบ่นอะไรนักหนา ช็อคโกแลตก็กินของฉันไปแล้วก็ต้องช่วยฉันทำงานสิ ”
ทอปัดหยุดเดินหันมาหายกมือข้างหนึ่งท้าวสะเอว
“ วุ๊! รู้งี้ไม่กินหรอก..! ” ใบตองบ่นให้ได้ยิน
ทอปัดจิกสายตามองคนตรงหน้า
“ หนักก็หนัก! ”
“ คิดว่าฉันจะยอมอย่างนั้นเลอะ!!! ”
ทอปัดและใบตองหันมองพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“ เสียงอะไร? ”
เด็กสาววางกล่องในมือลงกับพื้น
“ เสียงเหมือนคุณต้อมเลยค่ะ! ”
ทอปัดหันมองคนพูด.....ก่อนจะรีบวิ่งไปดูให้รู้แน่ชัด ใบตองรีบวิ่งตามไป..
ถัดมายังสถานที่ๆคาดว่ากำลังจะเกิดเหตุ..ตรีทิพย์หันมองตามเสียง
จึงเห็นว่าปริฉัตรตรงดิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วในมือถือขวดเปล่า
ของเครื่องดื่มขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ใบตองและทอปัด
มาทันเห็นเหตุการณ์ในตอนนี้เข้าพอดี
ร่างผิวสีแทนก้าวขาฉับๆเข้ามาหาสองหญิงสาว
พร้อมกับจงใจเขวี้ยงขวดในมือเข้าไปหาเพชรเกล้า
แต่ตรีทิพย์ไหวตัวทันจึงดึงตัวคนรักให้หลีกหลบไปอย่างฉิวเฉียด
“ เพล้ง!! ” เศษแก้วจากขวดแตกกระจาย
ทอปัด ใบตองตกใจเป็นอย่างมากรีบวิ่งเข้ามาในเหตุการณ์
“ มันจะมากไปแล้วนะ! พี่เป็นบ้าอะไร!! ” ทอปัดต่อว่าด้วยความโมโห
“ ฉันทำได้มากกว่านี้อีก!! ”
ปริฉัตรสวนกลับทันควันพร้อมกับปรี่จะเข้ามาหาเพชรเกล้า
ตรีทิพย์โอบกอดสาวน้อยเธอหันร่างตัวเองบังไว้
จ้องมองพี่สาวตาเขม็ง..วินาทีนี้เอง
ที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นจงอางหวงไข่!
ปริฉัตรไม่พอใจที่เห็นน้องสาวทำเช่นนี้
เธอหายใจแรงเอื้อมมือจะไขว่คว้าตัวเพชรเกล้าให้ได้
ทอปัดเข้ามาขวางหน้าผลักดันเนื้อตัวพี่สาวที่แสนจะเดือดพล่าน
“ ปล่อยฉัน!! อย่ามายุ่งกับฉัน! ”
เพชรเกล้ามองปริฉัตรแววตาเรียบเฉย
เพราะเธอกำลังเวทนากับกิริยาของผู้หญิงคนนี้..
“ พี่หยุดซะทีเถอะ!!! ” ทอปัดกีดขวางเนื้อตัว
“ มันแย่งของรักไปจากฉัน! ฉันจะฆ่ามัน!!! ”
ปริฉัตรตะโกนลั่นพร้อมกับผลักร่างของทอปัด
เซแพรดไปกับมุมที่ใบตองยืนอยู่จนเด็กสาว
เกือบจะช่วยประคองเอาไว้ไม่ทัน
มาลัยวิ่งเข้ามาจากหลังบ้านเมื่อได้ยินเสียงดังๆ
“ ก็เอาสิ! ถ้าพี่ฆ่าพราว..เต้ก็ฆ่าพี่ได้เหมือนกัน..! ”
ปริฉัตรสะอึกกับวาจาของน้องสาวแสนรักจนน้ำตาเอ่อคลอ
“ นี่เต้กล้าพูดกับพี่แบบนี้เลยเหรอ จะฆ่าพี่อย่างนั้นเหรอ!!! ”
“ ใช่.. ” ตรีทิพย์ตอบเสียงเย็น
ปริฉัตรกัดกรามด้วยความโกรธและริษยาเกลียดชัง!
“ ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ด้วย!! ทำไมต้องไปแบบนี้!!! พี่รักเต้นะ! พี่รักเต้ๆได้ยินมั้ย!! ว่าพี่รักเต้!!! ทำไมเต้ถึงไม่รักพี่บ้าง! ”
มาลัยเดินเข้ามาหาหลานสาวที่ยืนอยู่กับทอปัด
ถอนหายใจเงียบๆด้วยแววตาที่แอบสงสาร
“ พี่เต้รักคุณค่ะ เพราะคุณคือสาวของเขา ” เพชรเกล้าพูดขึ้นเสียงเรียบ
“ อย่ามายุ่ง!! ฉันไม่ได้ต้องการความรักแบบนั้น!! ” ปริฉัตรตวาดทันควัน
“ ถ้ามากกว่านี้เต้ก็ไม่มีให้พี่หรอก..! ” ตรีทิพย์เสียงแข็ง
“ พี่จะต้องการมากกว่านี้ไม่ได้หรอก! เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ พี่เป็นพี่นะจะมาคิดเกินเลยแบบนี้มันผิดมนุษย์ไม่มีใครเขาทำกัน!! ”
ใบตองหันมองทอปัดที่เป็นผู้พูดเธอจึงเริ่มเข้าใจ
ถึงความต้องการของหญิงอารมณ์ร้ายคนนี้
“ เพราะแกใช่มั้ย! อีนี่ใช่มั้ย!! ทำไมทุกคนต้องเยินยอแกกันหมด!! ”
ปริฉัตรเดินเข้าหาเพชรเกล้าอีกครั้งแต่ถูกตรีทิพย์กีดกันไว้
ใบตองรีบเดินเข้าไปผลักร่างของปริฉัตร
มาลัยตกใจที่เห็นหลานสาวทำเช่นนั้น
“ อย่ามาทำอะไรคุณพราวนะ! คุณกลับไปเถอะค่ะ ทุกคนที่นี่ไม่เหมาะกับคุณหรอก ไม่มีใครเป็นอย่างที่คุณอยากให้เป็นได้ ”
เด็กสาวกล่าวเสียงใส
ปริฉัตรหายใจแรงด้วยความโมโหที่ใบตองกล้าทำกับเธอแบบนี้
“ ปกป้องกันเหลือเกินนะ! มันเป็นแม่มึงเลอะ!!! ต่ำ! ”
หญิงร่างสูงหยาบคายเสียงดังพร้อมใช้มือ
ผลักศีรษะของใบตองอย่างเต็มแรงจนเด็กสาวเซกลับไปหาน้าของตัวเอง
ปริฉัตรทำท่าจะหาเรื่องต่อ ทุกคนจึงเตรียมที่จะช่วยเหลือ
“ อย่ามาทำอะไรน้องนะ! ”
มาลัยกอดหลานสาวหันบอกหญิงผิวสีแทนที่ตารุกวาวตลอดเวลา
เพชรเกล้าและตรีทิพย์แปลกใจที่ได้ยินได้ฟัง
แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องตั้งคำถาม
ใบหน้าดุไม่รู้สึกรู้สาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
ทอปัดเดินเข้าไปกระชากพี่สาวเธอออกห่าง
“ ที่มันเป็นแบบนี้ก็ว่าพี่นั่นแหละที่ทำให้มันเป็นแบบนี้! ”
ปริฉัตรเซนิดหน่อยจ้องหน้าน้องสาวคนกลาง
“ ทำไมพี่ถึงไม่เป็นพี่ที่ดี! ทำไมถึงใจแคบ!! รักแต่ตัวเองไม่คิดที่จะรักใคร! และพี่ยังจะหวังให้ใครเขามารัก!! ในเมื่อคนที่รักพี่..พี่ก็ปฏิเสธความรักความหวังดีของเขา! ความรักมันสูงส่งเกินกว่าที่คนอย่างพี่จะได้รับ!!! ”
“ เพี๊ยะ!! ”
ปริฉัตรกัดฟันแน่นพร้อมเงื้อมือฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของทอปัดทันที
ตรีทิพย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจและรีบวิ่งเข้ามาดันตัวคนทำ
ออกไปไกลๆทันที เพชรเกล้าเข้ามาประคองตัวทอปัดด้วยความเป็นห่วง
“ นี่พี่ทำอะไรของพี่เนี่ยห่ะ!!! ”
ร่างสูงตะคอกใส่เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ ครอบครัวฉันมันโง่! เห็นศัตรูดีไปซะทุกอย่าง!! พ่อก็ยังมักมากพัวพันกับอีปิ่นรักไม่เลิก!! ส่วนแม่ก็ขี้แพเสือกชิ่งตายไปซะก่อน..ไม่มีใครดีเลยซักคน!!! ”
“ เพี๊ยะ!!! ”
ตรีทิพย์ตบหน้าพี่สาวทันที.........ปริฉัตรหันมองด้วยความตกตะลึงถึงขีดสุด
ร่างสูงชี้หน้าจ้องตาเขม็ง..
“ อย่ามาว่าพ่อกับแม่นะ..! พี่ไม่มีสิทธิ์! ถ้าอยากจะโชว์บารมี..โน้น!! ไปที่อื่น!!! ”
“ คนหนึ่งมักมากอีกคนหนึ่งก็อ่อนแอถึงต้องแพ้เขาแงะ!! ไม่มีใครได้ดั่งใจไม่มีใครเหมือนฉันสักคน!!! ”
ปริฉัตรช้ำใจเป็นอย่างมากแต่ยังคงแสดงว่าเธอนั้นเข้มแข็งกว่าใคร
ตรีทิพย์ใช้มือที่ชี้หน้าผลักไหล่พี่สาวให้เซถอยหลังอีกครั้ง
อย่างโกรธกริ้วตั้งใจจะจัดการกับปริฉัตรเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“ ไหนเธอลองคิดในทางกลับกันบ้างสิ..ว่าทำไมเธอถึงไม่เหมือนใครเขา?! ”
ทุกคนหันมองไปทางประตูจึงพบกับเจ้าของน้ำเสียงนิ่งกระชับ..
อรทุมาเดินเข้ามาพร้อมกับปิ่นรัก หญิงผู้บริหารสีหน้าเรียบเฉย
จนปริฉัตรต้องเบ้ปากอย่างเกลียดชัง
“ พูดอะไร! ” ปริฉัตรเสียงดังใส่อาหญิงของตัวเอง
“ หน้าตา..ผิวพรรณ..นิสัย! ”
อรทุมามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของคนที่ขึ้นชื่อว่า
เป็นหลานสาวคนโตกระชากเสียงแข็งในปลายคำพูด
ทอปัดเดินเข้าไปยืนเคียงข้างตรีทิพย์สองพี่น้องชักสีหน้าแปลกใจ
มองอาหญิงของตัวเอง ปิ่นรักเข้ามาโอบเอวลูกสาวอันเป็นที่รัก
ส่งยิ้มบางๆลูบแขนเบาๆก่อนจะหันมองสถานการณ์ของครอบครัวนี้
“ ทำไม! นิสัยฉันมันเป็นยังไง!! ”
ปริฉัตรตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้เธอจะไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
“ มันชั่วไง! เธอมันไม่ควรที่จะได้มายืนอยู่ตรงนี้! เปลืองข้าวสุกที่เลี้ยงให้โตขึ้นมา!! ”
อรทุมาใช้มือดันหน้าผากปริฉัตรอย่างโมโห
หญิงสาวหายใจแรงตาแดงกร่ำเพราะอารมณ์ลุ่มร้อน
ก่อนจะเข้าไปผลักร่างของอรทุมาให้เซถอยหลังอย่างไม่เกรงใจ
“ อย่ามาทำนิสัยแบบนี้กับฉันนะ!! ”
อาหญิงจ้องตาเขม็งเริ่มหมดความอดทน
“ ทำไมฉันจะทำไม่ได้ในเมื่อฉันไม่เคยเคารพอะไรในตัวเธออยู่แล้ว!! เป็นอาประสาอะไรรักหลานไม่เท่ากัน! วันๆก็เอาแต่ประจบประแจงพ่อฉันจนเกินหน้า! สนิทสนมยืนกอดกันจนน่าหมันไส้ นี่ตกลงเป็นน้องแท้ๆหรือน้องเทียมฉันก็เริ่มไม่แน่ใจ!! ”
ปริฉัตรชักสีหน้าร้ายกาจ ตรีทิพย์และทอปัดอึ้งและตกใจ
กับคำพูดที่ไม่ควรจะเอ่ย รวมทั้งทุกคนในที่นั้นก็แทบจะทนฟังไม่ได้เช่นกัน
“ อีเด็กจังไรมาเกิด! วันนี้ฉันจะไม่ทนให้แกมาขึ้นเสียงกับฉันอีกต่อไป!!!! ”
อรทุมาโมโหมากเธอไม่จำเป็นจะต้องเมตตากับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
เพราะหากย้อนไปในภาพของวันวานปริฉัตรเคยพูดจาแบบนี้
กับเธอมาแล้วครั้งหนึ่งสมัยรินลดาจากไปไม่นาน
เหตุนี้จึงทำให้เธอเริ่มชังผู้หญิงคนนี้เรื่อยมา…
“ คุณอรคะ!! ใจเย็นๆเถอะนะคะ อย่าทำอะไรเขาเลย ”
มาลัยช่วยประคับประคองอารมณ์
ปิ่นรักลดสายตาลงถอนหายใจสงบนิ่ง
“ พอ!!! มาลัยไม่ต้องพูด!! ”
อรทุมาหันตวาดก่อนจะกลับไปจ้องหน้าปริฉัตรด้วยความฉุนเฉียว
“ วันนี้ฉันจะบอกให้มันรู้ว่ามันมาจากไหน..!อะไรคือแท้และแบบไหนที่เรียกว่าเทียม.. ”
ปริฉัตรสายตาลอกแลกสงสัยอยู่ลึกๆ
“ แต่ว่า.. ”
“ อีขี้ค่า!! อย่ามาเสือก!! ” ปริฉัตรเสียงลั่นขัดคำพูดของมาลัยทันที
“ มีอะไรก็พูดมา?! อยากจะน้ำเน่าอะไรก็เชิญ! ฉันไม่กลัวอยู่แล้ว!!! ”
อรทุมากระตุกรอยยิ้ม
“ อยากรู้เรื่องน้ำเน่าของแกนักใช่มั้ย.. ”
หญิงผิวสีแทนจิตใจรนรานหน้าตาต้องการที่จะรับรู้เดี๋ยวนี้ตอนนี้
“ แกมัน..? ”
“ อร!! ”
ทุกคนหันมองถึงคนที่พรวดพราดเข้ามา...อินเกษมหน้าตาเป็นกังวลและทุกข์ใจ
“ ไม่เอาน่ะ! ใจเย็นๆพี่ขอล่ะ ”
“ อรเย็นมามากพอแล้วนะพี่อิน!! ก็เพราะพี่นั่นแหละที่ดึงมันเข้ามา..และเห็นมั้ยว่ามันเป็นยังไง!มันเคยเคารพใครบ้างมั้ยทุกวันนี้มันแทบจะเหยียบหัวพี่อยู่แล้ว!! อรที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอามัน! มันยังคิดต่ำช้าถึงความสนิทของเราสองคนพี่น้อง!!! จิตใจมันอัปยศเกินกว่าที่เราจะต้องคอยปกป้องอีกต่อไป!!! หยิบก้อนกรวดพยายามขึ้นมาประดับเป็นเพชร..!แต่ถึงยังไงมันก็ยังเป็นก้อนกรวดอยู่วันยันค่ำ!!! ”
อรทุมาเสียงกระชับและดุไม่เบา
“ มึงก็พูดมาสิ!!! พูดมาเลย!! ”
“ เพี๊ยะ!!..เพี๊ยะ!!! ”
อรทุมากัดฟันแน่นที่ได้ยินวาจาเธอจึงฟาดฝ่ามือ
เข้าไปที่ใบหน้าของปริฉัตรและตามด้วยหลังมือติดๆกันอย่างเต็มแรง
จนหญิงตัวร้ายเซล้มลง อินเกษมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
เอื้อมมือจะประคองลูกสาว
แต่กับถูกสะบัดออกคล้ายไม่ต้องการความห่วงใย
อรทุมาตรงเข้าไปกระชากศีรษะของปริฉัตรให้เงยหน้าขึ้น
หญิงร่างสูงหายใจแรงจ้องตาอาหญิงตาเขม็ง!
ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่เริ่มจะเดือดเป็นน้ำร้อน
“ ยังไงต้อมก็เป็นหลานของอานะ!!!! อาทำขนาดนี้เลยเหรอ!!! ”
“ แกไม่ใช่หลานฉัน... ”
น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยขึ้นนำพาให้สองพี่น้องเผยริมฝีปากค้างด้วยความตกใจ!
อินเกษมหัวคิ้วชนกันลดสายตาลงเมื่อความจริง
ที่กักเก็บไว้มานานได้ถูกเปิดเผย ปิ่นรักมองหน้าหญิงสาวตัวร้าย
ที่อึ้งตะลึงเงียบไปเฉียบพลันอย่างหดหู่หัวใจ.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ