บัลลังก์ฉิมพลี
8.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.
59 ตอน
1 วิจารณ์
57.75K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
34) เป็นเรื่อง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ" ก๊อกๆ "
ร่างบางหันมองทันทีเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก่อนที่จะเปิดออกพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆของเด็กสาวใบตอง
ก้าวขาเดินเข้ามาในมือถือถาดที่มีจานอาหารวางอยู่..
ใบหน้าเรียวผิดหวังเล็กๆที่ไม่ใช่ตรีทิพย์ของเธอ
" ข้าวผัดรวมมิตรค่ะคุณพราว "
ใบตองนำอาหารมาเสริฟลงยังโต๊ะสำหรับนั่งเล่น
" มาลัยทำเหรอ " เพชรเกล้าเดินเข้ามาหา
" เปล่าค่ะ นี่เป็นข้าวผัดจากร้านป้าแจงค่ะ อยู่ท้ายตลาดโน้น คุณเต้เป็นคนไปซื้อมาเองเลยนะคะแล้วก็ให้หนูเอาขึ้นมาให้นี่แหละค่ะ "
ร่างบางยืนคิด..สถานการณ์พลิกผันจนเธออดไปกินข้าวข้างทางสินะ
“ แล้ว..ข้างล่าง? ”
" กลับสู่ภาวะปกติแล้วค่ะ ความจริงหนูก็แอบดูอยู่ด้วยนะคะกะว่าถ้าคุณพราวเสียท่าหนูก็จะออกมาถีบคุณต้อมเลย! คนอะไร..นิสัยไม่ดีจริงๆ "
เด็กสาวสะบัดสะบิ้งจนเพชรเกล้าฉีกยิ้มบางๆแอบขำเล็กน้อย
" ดีจังที่เขายอมหยุดแล้ว.. "
" หืม ไม่หยุดก็แย่น่ะสิคะ เจอคุณอรจัดการจนไม่กล้าเถียงต่อเลยล่ะ "
“ คุณอร? ”
ร่างบางชักสีหน้าสงสัยถึงชื่อเดิมที่ใบตองเคยพูดถึง
“ อ๋อหนูลืมบอกไป พอดีว่าคุณอรกลับมาจากภูเก็ตแล้วน่ะค่ะ มาทันเวลาเลยระงับศึกของคุณต้อมเอาไว้ได้ ไม่อย่างงั้นคงยังไม่จบง่ายๆแน่ ”
เพชรเกล้ายืนฟังคำบอกเล่าจากเด็กสาวถอนหายใจเบาๆถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้น..
อรทุมาเดินลงจากบันไดท่ามกลางความคิดที่ซับซ้อน
เต็มหัวสมองเธอไปหมดยิ่งเมื่อนึกถึงปริฉัตรก็มักจะทำให้เธอ
ต้องถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายพลางเหลือบสายตาไปทางด้านหนึ่ง
จึงมองผ่านเข้าไปยังภายในครัวพอดี..สองคิ้วขมวดเข้าหากันนิดหน่อย
เพ่งสายตาจ้องมองจึงเห็นหญิงสาวร่างบางที่ไม่คุ้นตา
“ เพชรเกล้า... ”
อรทุมาเดาเท่านั้นว่าคงจะเป็นเช่นนั้นเพราะภายในบ้านหลังนี้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว
หญิงวัยกลางคนจึงก้าวขาลงจากขั้นบันไดที่เหลือ
พร้อมกับเดินมุ่งไปยังห้องครัวอย่างไม่เร่งรีบ
เพชรเกล้าเก็บกวาดเช็ดถูบริเวณศูนย์กลางของการทำอาหาร
ทุกจุดอย่างคล่องแคล่วและประณีต เครื่องปรุงรส
ถูกวางเรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยรวมทั้งจานชาม
ก็ล้างเช็ดเก็บเรี่ยมเชี่ยมจนไม่เหลือคราบขุ่นให้ดูหมองมัว..
อรทุมาเดินเข้ามาหยุดยืนมองอยู่สักครู่เห็นหญิงรูปร่างดี
ผิวขาวตัวเล็กผุดผ่องกำลังเพลินใจอยู่กับสิ่งที่ทำ
เธอจึงยังไม่ได้เอ่ยเอื้อนสิ่งใดให้ขัดจังหวะ
จนกระทั่งร่างบางหมุนตัวกลับมายังตู้เก็บสิ่งของ
เครื่องใช้ที่จำเป็นเพื่อนำอุปกรณ์ต่างๆมาเก็บ
เธอจึงเหลือบมาเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนมองเธออยู่
อรทุมาจึงได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของหญิงสาวตรง
หน้าที่สามารถทำให้เธอจ้องมองด้วยความเอ็นดู
ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยเหมือนครั้งปิ่นรักตอนสาวๆไม่มีผิด
เพชรเกล้าอ้ำอึ้งเล็กๆก่อนรีบยกมือทำความเคารพผู้ใหญ่ตรงหน้า
“ สวัสดีค่ะ ” สาวน้อยเอ่ยเสียงนิ่ม
“ สวัสดีจ้ะ ” อรทุมารับไหว้เบาๆ
“ อ้าวอาอร..พราว ”
ทอปัดผ่านมาพอดีจึงแวะเข้ามาหาหันมองทั้งคู่ที่ได้เจอกันแล้ว
“ อ๋อเดี๋ยวต้าแนะนำเนอะ พราวจ๊ะนี่..อาอรจ้ะอาของพี่ อาคะนี่พราวค่ะหรือเพชรเกล้าลูกสาวอาปิ่นรักค่ะ ”
“ สวัสดีอีกครั้งค่ะ ”
เพชรเกล้าแสดงกิริยาที่นอบน้อม..อรทุมาพยักหน้ายิ้มเบาๆ
“ สวยเหมือนแม่นะเรา ”
ร่างบางอมยิ้ม..
“ คุณแม่สบายดีนะ ” อรทุมาไถ่ถาม
“ สบายดีค่ะ ” เพชรเกล้ายิ้มตอบ
“ อืม..อาไม่ได้เจอกับแม่เรามานานแล้วล่ะ นานมาก.. ”
อรทุมากล่าวเสียงเรียบ
เพชรเกล้าเองก็ไม่รู้จะพูดสิ่งใดทุกคนที่นี่
ค่อนข้างดีกับเธอไปเสียหมดจนเธอไม่อยากจะเชื่อ
ว่าแม่ของตัวเองเป็นต้นเหตุของความเสียหายให้กับครอบครัวตรีทิพย์จริงๆ
“ อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้างเที่ยวเล่นเพลินเลยสิ ”
“ ค่ะ ที่นี่สวยมากสตรอว์เบอร์รีก็อร่อยมากด้วย ”
รอยยิ้มของผู้ใหญ่หน้าตาดุๆอย่างอรทุมาทำให้เพชรเกล้าหายเกร็งมากยิ่งขึ้น
“ เอาหล่ะตามสบายนะ เดี๋ยวอาไปที่ไร่ก่อน ”
อรทุมาหันบอกเพชรเกล้าและทอปัดพร้อมๆกัน
“ อาทราบเรื่องของวันลพแล้วใช่มั้ยคะ ”
“ เต้บอกอาแล้ว ”
หลานสาวพยักหน้าเบาๆอรทุมาจึงให้หลังออกจากห้องครัวไป..
“ อาอรใจดีใช่มั้ยคะพี่ต้า ”
ร่างบางเดินเข้ามาใกล้หญิงเสื้อชมพู
“ จ้ะ อาอรใจดีมากๆ ” ทอปัดยิ้มบอก
“ แล้วนี่น้องพราวมาทำอะไรอยู่ในครัวเหรอคะ ”
“ อ๋อ พราวกำลังทำความสะอาดห้องครัวอยู่น่ะค่ะ ”
“ ตายแล้ว! นี่ใครกล้าใช้น้องพราวกันคะเนี่ยแล้วมาลัยกับใบตองล่ะ ”
ทอปัดส่งเสียงไม่พอใจนิดๆ
“ เปล่าค่ะเปล่า ไม่มีใครใช้พราวหรอกค่ะ พราวอยากทำเองอยู่ว่างๆ ”
“ แล้วเต้ล่ะคะอยู่ไหนธรรมดาเห็นตัวติดน้องพราวตลอด? ”
“ พี่เต้..ไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ พราวเบื่อๆก็เลย...ลงมาหาอะไรทำ.. ”
เพชรเกล้าฝืนยิ้มเพราะตรีทิพย์หายไปนานแล้วจึงทำให้เธอรู้สึกเหงาๆ..
ท้องฟ้ามืดลงท่ามกลางสายตาของเพชรเกล้า
ที่กำลังยืนอยู่ริมระเบียงของบ้าน..พลางก้มมองภาพถ่ายสวยๆ
จากกล้องในมือที่เธอได้เธอใช้ถ่ายไว้เมื่อครั้งไปเที่ยวที่ผ่านมา
ใบหน้าเรียวหันมองไปรอบๆจวบจนตอนนี้
ตรีทิพย์ก็ยังไม่มาหาเธอเสียที..หรืออีกคนจะเชื่อ
ว่าเธอผลักปริฉัตรตกจากบันไดจริงๆ สาวน้อยหน้ามุ่ยคิดไปต่างๆนาๆ
หันร่างกลับมาพิงหลังไว้กับราวกั้นระเบียงถอนหายใจเบาๆ
" หายไปไหนของเขานะ "
เสียงนิ่มบ่นพึมพำกับตัวเองนิ่วหน้าขมวดคิ้วเริ่มหงุดหงิดนิดหน่อย
ร่างบางจึงก้มดูรูปไปเรื่อยๆเพื่อแก้เบื่อ อีกทั้งยังเดินเล่นไปตามชานระเบียง
ที่มีอยู่รอบบ้านอย่างไม่รีบร้อน ยิ้มบ้างเป็นบางครั้ง
เมื่อเลื่อนมาเจอกับภาพถ่ายที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ..
" เต้คิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะคะ.. "
เพชรเกล้าเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเธอได้ยินเสียงตรีทิพย์
ริมฝีปากคลี่ยิ้มเบาๆรีบก้าวขาเดินไปที่ต้นเสียงทันที
และเมื่อตรงเข้าไปหาสองเท้าก็ต้องหยุดชะงัก
พร้อมกับรีบถอยห่างออกมาเมื่อเห็นตรีทิพย์
กำลังยืนสนทนาอยู่กับปริฉัตร..หากเธอพรวดพราดเข้าไปคงไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่
" งั้นพี่ก็จะไม่เสียเวลาพูดอีก บอกกับพี่มาว่าเต้ไม่ได้จริงจัง มันก็แค่ของใหม่เต้จะทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อเต้เบื่อ!..ใช่มั้ย? "
เสียงของปริฉัตรไม่ได้ดังนักแต่ก็สามารถทำให้เพชรเกล้าได้ยินชัดเจนพอสมควร
" พี่ต้องการให้เต้พูดนักใช่มั้ย.. "
ร่างบางเริ่มสนใจถึงสิ่งที่สองพี่น้องกำลังคุยกัน
" ใช่! บอกพี่มาสิว่าเต้แค่เล่นๆ..กับเพชรเกล้า... "
สาวน้อยยืนนิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นสองมือบีบกำกล้องถ่ายรูปแน่น
ใจหวิวๆบอกไม่ถูกสายตาตอนนี้จับจ้องไปที่แผ่นหลังคนรักเท่านั้น
ดวงตาเอ่อคลอเพราะความกลัวในสิ่งที่จะได้ยินต่อจากนี้
" ค่ะ..เต้แค่เล่นๆ... "
เสียงหวานกล่าวออกไปเรียบๆจนทำให้คนที่ยืนฟังอยู่ในมุมมืดมีน้ำใสๆ
หยดแตะลงกับใบหน้าเนียนท่ามกลางความเงียบ..
เพชรเกล้าใจสั่นเนื้อตัวแทบจะอ่อนยวบลงเสียเดี๋ยวนั้น
และค่อยๆหันเดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่อย่างเชื่องช้าด้วยความผิดหวัง..
อรทุมาเดินออกมาจากมุมหนึ่งใบหน้าหันมองตามแผ่นหลัง
ของผู้ที่พึ่งเดินออกไปและหันกลับมายังสองพี่น้องอีกครั้ง
" พี่คิดแล้วว่าเต้ต้องตอบได้ตรงใจพี่ เต้ยังเหมือนเดิมยังเกลียดพวกมันเหมือนเดิม "
ปริฉัตรยิ้มร่าเอื้อมจับสองมือน้องสาว
" เต้แค่เล่นๆ " ตรีทิพย์ย้ำอีกครั้งสบตาคนตรงหน้า
พี่สาวพยักหน้ายิ้มตื่นเต้นดีใจ
" กับความแค้น.. "
ปริฉัตรค่อยๆหุบริมฝีปาก
" ส่วนกับพราวเต้จริงจัง..เต้มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา "
ร่างสูงพูดช้าๆชัดๆจึงยิ่งเป็นอะไรที่ทำให้ปริฉัตร
ต้องผิดคาดและอึ้งตึงเป็นอย่างมาก!!
ด้านเพชรเกล้าที่ตอนนี้ได้ทิ้งร่างนอนลงกับเตียงกว้าง
ด้วยความอ่อนแรงใบหน้าแดงกร่ำมีน้ำตาไหลหยดเป็นทาง
ประจานความอ่อนแอของเธอที่เกิดจากความเสียใจ..
ร่างกายสะอึกสะอื้นพอควรหันไปทางใดเธอก็ไม่มีใครให้ช่วยปลอบโยน
" ตริ๊ง! "
ใบหน้าเรียวเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
ที่ส่งเสียงขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช้าๆ
เธอกับดีใจขึ้นมาบ้างรีบเช็ดคราบน้ำตาและกดรับสายทันที
" ค่ะพี่ชิน " เสียงนิ่มบังคับไม่ให้สั่นเครือ
[i]' สวัสดีครับน้องพราว พี่รบกวนหรือเปล่าครับ ' [/i]
" ไม่เลยค่ะ พี่ชินมีอะไรหรือเปล่าคะ " สาวน้อยยังเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่นิดหน่อย
[i]' พี่มีเรื่องจะถามน้องพราวครับ ' [/i]
" เรื่องอะไรเหรอคะ? "
[i]' พอดีพี่มีงานด่วนที่โรงพยาบาลน่ะครับ ต้องรีบกลับกรุงเทพพรุ่งนี้พี่ก็เลยจะถามน้องพราวว่าจะกลับพร้อมพี่เลยมั้ยตอนนี้พี่อยู่โคราชแล้วนะ ' [/i]
เพชรเกล้านิ่งคิดเงียบไปสักครู่..เธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปเพราะฉะนั้น...
" ค่ะ พราวจะกลับกับพี่ชิน "
“ หมายความว่ายังไง! เต้พูดอะไร!! ” ปริฉัตรแย้งขึ้นเสียงเข้ม
“ หมายความตามที่พี่ได้ยิน ”
“ แต่พี่ไม่ยอม! พี่ไม่มีวันยอมให้เต้ไปรักกับมัน!! ”
" พี่อย่ามาบังคับเต้เรื่องพราว! เพราะความรักของเต้ เต้เลือกแล้ว.. "
สิ้นน้ำเสียงนางแบบสาวจึงเดินจากไปทันทีทิ้งให้คนตกตะลึง
ยืนเจ็บแค้นกำมือแน่นด้วยความโกรธและริษยา!...
อรทุมาถอนหายใจเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว
แต่ตรีทิพย์คงจะต้องมีเรื่องเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นแน่..
ตรีทิพย์กลับเข้ามาหาสาวน้อยของเธอ ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
สายตาก็ตรวจจับไปรอบๆห้องจนเห็นเจ้าหล่อน
นอนหันหลังอยู่บนเตียง ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มนิดๆ
เห็นทีท่าดูแล้วเพชรเกล้าคงจะหลับสนิท ถึงไม่กระดุกกระดิกตัวหันมามองเธอเลย..
เช่นนั้นร่างสูงจึงรีบตรงเข้าไปหาเบาๆเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน
ตรีทิพย์เคลื่อนตัวขึ้นมาบนเตียงและก้มมองหน้าคนนอนสักครู่
“ หลับปุ๋ยเลยนะ ”
เสียงหวานพูดออกมาเบาๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มนิ่มหนึ่งฟอดใหญ่
“ พี่เต้หายไปทั้งวันไม่คิดจะชะเง้อคอรอเลยเหรอ ”
“ เจ้าหญิงน้อย.. ”
ริมฝีปากสวยอมยิ้มเกลี่ยเส้นผมที่ปิดบังใบหน้าเนียนนุ่ม
พร้อมกับโน้มจมูกลงไปชื่นใจอีกครั้ง
ก่อนจะปลีกตัวไปยังห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี
เพชรเกล้าค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความซึมเศร้า
เธอรู้สึกเสียใจและผิดหวังกับตรีทิพย์มากจริงๆ
เวลา 05:15 นาที ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทพร้อมๆกับอากาศ
ในเวลาใกล้รุ่งก็เย็นฉ่ำจนแทบหูอื้อ
“ คุณพราวจะไปจริงๆเหรอคะ ”
ใบตองถามอีกครั้งเมื่อตอนนี้ เธอได้พาเพชรเกล้าออกมาที่ถนนหนทางเดิม
ที่เธอเคยแนะนำในการหลบหนีเมื่อครั้งก่อน..
อีกทั้งชินกรก็ได้เดินทางมารับเรียบร้อยแล้วด้วย
“ ฉันควรไปได้แล้วล่ะ.. ”
เพชรเกล้าเอื้อมมือลูบศีรษะเด็กน้อยที่มีน้ำตาคลอนิดหน่อย
“ เป็นเด็กดีนะใบตอง อะไรที่เราทนได้ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำกับใครเขา..รู้มั้ย เธอจะได้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ”
“ หนูอยากให้คุณพราวอยู่ที่นี่ด้วยจังเลยค่ะ คุณพราวจะได้คอยสอนหนูแบบนี้ไปเรื่อยๆ ”
ชินกรอมยิ้มยืนมองทั้งคู่อยู่ตรงประตูทางด้านคนขับ
“ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ฉันมีบ้านที่ต้องกลับไปแล้วก็มีแม่ที่ต้องเป็นห่วงด้วย ” เพชรเกล้ายิ้มบางๆ
“ หนูอยากมีแม่ให้เป็นห่วงบ้างจังค่ะ ” ใบตองทำหน้าซึม
“ เธอมีมาลัยที่ต้องเป็นห่วงนะใบตอง เขารักเธอไม่ต่างจากแม่แท้ๆของเธอหรอกนะ ”
ร่างบางเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกระดาษใบหนึ่ง
ที่เธอจดรายละเอียดเอาไว้มาส่งให้กับเด็กสาว
“ นี่เป็นที่อยู่แล้วก็เบอร์โทรศัพท์ของฉัน ถ้าเธอมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือจากฉันก็โทรหาฉันได้ตลอด ”
“ ขอบคุณค่ะ... ” ใบตองรับกระดาษดังกล่าวมาถือไว้ไร้ความร่าเริง
“ ฉันไปนะ ”
เด็กสาวพยักหน้างึกๆ
“ โชคดีนะคะคุณคนสวย ”
เพชรเกล้าส่งยิ้มให้อีกครั้ง..ก่อนจะหันเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่
ชินกรเปิดประตูเดินขึ้นมานั่งบนรถทั้งคู่หันมอง
เด็กสาวใบตองที่วิ่งกลับเข้าไปในไร่อย่างรวดเร็ว
“ ดูน้องเขาจะปลื้มพราวมากๆเลยนะครับ ” ชายหนุ่มยิ้มถาม
“ เธอไม่มีเพื่อนน่ะค่ะ ไม่มีพี่น้อง เหมือนพราว.. ”
เสียงนิ่มพูดเบาๆสายตายังคงมองตามแผ่นหลังเด็กน้อย
รวมทั้งไร่สตรอว์เบอร์รีที่เธอชื่นชม
อันเป็นอาณาจักรที่เสมือนขังเธอไว้ได้เกือบเดือน
“ งั้นเราไปกันเลยนะครับ ” เสียงแตกชายเอ่ยขึ้น
“ ค่ะ.. ”
ร่างบางตอบเบาๆพร้อมพิงหลังลงกับเบาะ
หันหน้าออกมองด้านนอก จนชินกรแอบเห็นสีหน้า
และแววตาของความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นจากอะไรบางอย่าง
ซึ่งเขาเองก็ไม่กล่าที่จะเอ่ยปากถามออกไป..
อรุณเบิกฟ้าในยามเช้าที่เต็มไปด้วยความสดใสของธรรมชาติ..
ร่างสูงเริ่มขยับเนื้อตัวค่อยๆลืมตาขึ้นจากการหลับใหล
ดวงตากระพริบช้าๆสามสี่ครั้งอย่างงัวเงียก่อนจะพลิกตัวหันไปกอด....?
สายตาของตรีทิพย์ผิดคาดเล็กน้อยเนื่องจาก
ข้างกายว่างเปล่าไม่มีสาวน้อยของเธอนอนอยู่
" ตื่นแล้วเหรอ..? "
เสียงหวานพึมพำเบาๆก่อนจะพยุงตัวเองลุกออกจากเตียง
ด้วยความเบลอๆที่ยังไม่ตื่นร้อยเปอร์เซ็นต์
สองน้าหลานทอปัดและอรทุมากำลังนั่งรับประทาน
อาหารเช้าร่วมกันพร้อมๆกับสนทนาปราศรัยอะไรไปตามเรื่อง
" รู้สึกว่าจะมีสองสีนะคะอา อืม..อ้าวเต้ ไปไหนมา มากินข้าวกันเร็ว "
ทอปัดร่ายคำพูดนั่นนี่อยู่กับน้าสาว
ก่อนที่จะหันไปเห็นตรีทิพย์ที่พึ่งเดินกลับเข้ามาในบ้าน
" เห็นพราวมั้ย "
ร่างสูงเดินเข้ามาถึงโต๊ะอาหารขมวดคิ้วถามมาลัยที่ยืนอยู่มุมหนึ่ง
" ไม่เห็นเลยค่ะคุณเต้ " แม่บ้านตอบเรียบๆ
ตรีทิพย์ได้ยินเช่นนั้นเธอจึงนั่งลงกับเก้าอี้พร้อมทั้งถอนหายใจออกมา
“ น้องพราวไปไหนเหรอ ” ทอปัดหันถาม
“ ไม่รู้ ตื่นมาก็ไม่เจอเต้เดินหาซะทั่วแล้วเนี่ย ” ร่างสูงเริ่มหงุดหงิด
อรทุมาเงยมองหน้าหลานสาวคนกลาง
“ อาจจะไปเดินเล่นในไร่ก็ได้นะ ” พี่สาวเอ่ยบอก
“ ไม่มีไม่เจอไปดูมาแล้ว ”
“ อือ...แล้วน้องพราวจะไปไหน อ่ะ! ใบตอง!..มานี่ๆ ”
เป็นเวลาเดียวกับที่ใบตองเดินผ่านมาพอดีทอปัดจึงเรียกตัวให้เข้ามาหา
“ ค่ะคุณต้า ”
“ เห็นคุณคนสวยของเธอหรือเปล่า? ไม่รู้ไปเดินเล่นอยู่ที่ไหน ” ทอปัดยิ้มถาม
“ คงไม่ได้ไปเดินเล่นที่ไหนหรอกค่ะ ”
อาการเซื่องซึมของใบตองนำพาให้ทุกคนพากันงงๆและจับจ้อง
“ เธอรู้เหรอว่าพราวอยู่ไหน ” ตรีทิพย์เอ่ยขึ้น
“ คุณพราวกลับไปแล้วค่ะ ”
ใบหน้าสวยแสดงสีหน้าของความตกใจแปลกใจ
ตื่นตระหนกและอีกหลากหลายอารมณ์!!!
“ อะไรนะ..? ”
“ กลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่?! ” ทอปัดส่งเสียงด้วยความสงสัย
“ เมื่อตอนเช้ามืดค่ะ ” ใบตองตอบเรียบๆ
“ กลับไปกับใคร! ” นางแบบสาวใจสั่น
“ หนูไม่รู้จักค่ะ ได้ยินคุณพราวเรียกว่าพี่ชิน ”
“ คุณชินกร! ” ทอปัดขมวดคิ้ว
ตรีทิพย์ใจเต้นระรัวเมื่อรู้ว่าเพชรเกล้ากลับไปกับชินกร..
ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้สาวน้อยตั้งใจจะหนีเธอไปอย่างนั้นเหรอ
เพราะอะไรกันหรือไม่พอใจที่เธอหายหน้าไปครึ่งค่อนวันเมื่อวานนี้???
“ ทำไมพราวหนีเต้ไป ”
ตรีทิพย์หลุดพูดความคิดในใจออกมา
" หรือว่าอยากเจอกับไอ้ชินมันนักถึงได้นัดให้มันมารับ..นี่พราวติดต่อกับมันอยู่ตลอด!! "
" นี่ๆ อย่าพึ่งตีโพยตีพาย คิดดูให้ดีก่อนมั้ยว่าตัวเองน่ะไปทำอะไรผิดไว้หรือเปล่า?! "
ทอปัดเบรกอารมณ์ร้อนของน้องสาว
" เต้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เต้จะไปทำอะไรล่ะ! "
" ฉันจะไปรู้เลอะ! "
สองพี่น้องไถ่ถามกันไปมาจนเริ่มหงุดหงิดด้วยกันทั้งคู่
" อารู้... "
อรทุมาเอ่ยขึ้นเบาๆหลังจากที่เงียบอยู่นาน
ทุกคนหันมองกันเป็นตาเดียวยังต้นเสียง
อาหญิงจึงเริ่มเล่ารายละเอียดทุกอย่างจนกระจ่าง
เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องทำให้เกิดเรื่องขึ้นแน่...
“ อาไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแต่บังเอิญเดินผ่านไปแถวนั้นส่วนพราวน่ะเขาเข้ามาได้ยินทีหลังยืนฟังอยู่สักครู่แล้วก็ออกไปเลยไม่ทันได้ยินว่าเต้พูดอะไรต่อ ” อรทุมาเอ่ยบอกเสียงเรียบ
ตรีทิพย์นิ่งคิดสักครู่ก่อนจะหลับตากุบขมับ
กัดฟันด้วยความรู้สึกที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก
“ เพราะเต้นี่เองจะเว้นช่วงเพื่อทีหลังเวลาพูดก็พูดให้มันติดๆกันสิ! ”
“ เต้จะกลับกรุงเทพนะ.. ”
………
ร่างบางหันมองทันทีเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก่อนที่จะเปิดออกพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆของเด็กสาวใบตอง
ก้าวขาเดินเข้ามาในมือถือถาดที่มีจานอาหารวางอยู่..
ใบหน้าเรียวผิดหวังเล็กๆที่ไม่ใช่ตรีทิพย์ของเธอ
" ข้าวผัดรวมมิตรค่ะคุณพราว "
ใบตองนำอาหารมาเสริฟลงยังโต๊ะสำหรับนั่งเล่น
" มาลัยทำเหรอ " เพชรเกล้าเดินเข้ามาหา
" เปล่าค่ะ นี่เป็นข้าวผัดจากร้านป้าแจงค่ะ อยู่ท้ายตลาดโน้น คุณเต้เป็นคนไปซื้อมาเองเลยนะคะแล้วก็ให้หนูเอาขึ้นมาให้นี่แหละค่ะ "
ร่างบางยืนคิด..สถานการณ์พลิกผันจนเธออดไปกินข้าวข้างทางสินะ
“ แล้ว..ข้างล่าง? ”
" กลับสู่ภาวะปกติแล้วค่ะ ความจริงหนูก็แอบดูอยู่ด้วยนะคะกะว่าถ้าคุณพราวเสียท่าหนูก็จะออกมาถีบคุณต้อมเลย! คนอะไร..นิสัยไม่ดีจริงๆ "
เด็กสาวสะบัดสะบิ้งจนเพชรเกล้าฉีกยิ้มบางๆแอบขำเล็กน้อย
" ดีจังที่เขายอมหยุดแล้ว.. "
" หืม ไม่หยุดก็แย่น่ะสิคะ เจอคุณอรจัดการจนไม่กล้าเถียงต่อเลยล่ะ "
“ คุณอร? ”
ร่างบางชักสีหน้าสงสัยถึงชื่อเดิมที่ใบตองเคยพูดถึง
“ อ๋อหนูลืมบอกไป พอดีว่าคุณอรกลับมาจากภูเก็ตแล้วน่ะค่ะ มาทันเวลาเลยระงับศึกของคุณต้อมเอาไว้ได้ ไม่อย่างงั้นคงยังไม่จบง่ายๆแน่ ”
เพชรเกล้ายืนฟังคำบอกเล่าจากเด็กสาวถอนหายใจเบาๆถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้น..
อรทุมาเดินลงจากบันไดท่ามกลางความคิดที่ซับซ้อน
เต็มหัวสมองเธอไปหมดยิ่งเมื่อนึกถึงปริฉัตรก็มักจะทำให้เธอ
ต้องถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายพลางเหลือบสายตาไปทางด้านหนึ่ง
จึงมองผ่านเข้าไปยังภายในครัวพอดี..สองคิ้วขมวดเข้าหากันนิดหน่อย
เพ่งสายตาจ้องมองจึงเห็นหญิงสาวร่างบางที่ไม่คุ้นตา
“ เพชรเกล้า... ”
อรทุมาเดาเท่านั้นว่าคงจะเป็นเช่นนั้นเพราะภายในบ้านหลังนี้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว
หญิงวัยกลางคนจึงก้าวขาลงจากขั้นบันไดที่เหลือ
พร้อมกับเดินมุ่งไปยังห้องครัวอย่างไม่เร่งรีบ
เพชรเกล้าเก็บกวาดเช็ดถูบริเวณศูนย์กลางของการทำอาหาร
ทุกจุดอย่างคล่องแคล่วและประณีต เครื่องปรุงรส
ถูกวางเรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยรวมทั้งจานชาม
ก็ล้างเช็ดเก็บเรี่ยมเชี่ยมจนไม่เหลือคราบขุ่นให้ดูหมองมัว..
อรทุมาเดินเข้ามาหยุดยืนมองอยู่สักครู่เห็นหญิงรูปร่างดี
ผิวขาวตัวเล็กผุดผ่องกำลังเพลินใจอยู่กับสิ่งที่ทำ
เธอจึงยังไม่ได้เอ่ยเอื้อนสิ่งใดให้ขัดจังหวะ
จนกระทั่งร่างบางหมุนตัวกลับมายังตู้เก็บสิ่งของ
เครื่องใช้ที่จำเป็นเพื่อนำอุปกรณ์ต่างๆมาเก็บ
เธอจึงเหลือบมาเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนมองเธออยู่
อรทุมาจึงได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของหญิงสาวตรง
หน้าที่สามารถทำให้เธอจ้องมองด้วยความเอ็นดู
ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยเหมือนครั้งปิ่นรักตอนสาวๆไม่มีผิด
เพชรเกล้าอ้ำอึ้งเล็กๆก่อนรีบยกมือทำความเคารพผู้ใหญ่ตรงหน้า
“ สวัสดีค่ะ ” สาวน้อยเอ่ยเสียงนิ่ม
“ สวัสดีจ้ะ ” อรทุมารับไหว้เบาๆ
“ อ้าวอาอร..พราว ”
ทอปัดผ่านมาพอดีจึงแวะเข้ามาหาหันมองทั้งคู่ที่ได้เจอกันแล้ว
“ อ๋อเดี๋ยวต้าแนะนำเนอะ พราวจ๊ะนี่..อาอรจ้ะอาของพี่ อาคะนี่พราวค่ะหรือเพชรเกล้าลูกสาวอาปิ่นรักค่ะ ”
“ สวัสดีอีกครั้งค่ะ ”
เพชรเกล้าแสดงกิริยาที่นอบน้อม..อรทุมาพยักหน้ายิ้มเบาๆ
“ สวยเหมือนแม่นะเรา ”
ร่างบางอมยิ้ม..
“ คุณแม่สบายดีนะ ” อรทุมาไถ่ถาม
“ สบายดีค่ะ ” เพชรเกล้ายิ้มตอบ
“ อืม..อาไม่ได้เจอกับแม่เรามานานแล้วล่ะ นานมาก.. ”
อรทุมากล่าวเสียงเรียบ
เพชรเกล้าเองก็ไม่รู้จะพูดสิ่งใดทุกคนที่นี่
ค่อนข้างดีกับเธอไปเสียหมดจนเธอไม่อยากจะเชื่อ
ว่าแม่ของตัวเองเป็นต้นเหตุของความเสียหายให้กับครอบครัวตรีทิพย์จริงๆ
“ อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้างเที่ยวเล่นเพลินเลยสิ ”
“ ค่ะ ที่นี่สวยมากสตรอว์เบอร์รีก็อร่อยมากด้วย ”
รอยยิ้มของผู้ใหญ่หน้าตาดุๆอย่างอรทุมาทำให้เพชรเกล้าหายเกร็งมากยิ่งขึ้น
“ เอาหล่ะตามสบายนะ เดี๋ยวอาไปที่ไร่ก่อน ”
อรทุมาหันบอกเพชรเกล้าและทอปัดพร้อมๆกัน
“ อาทราบเรื่องของวันลพแล้วใช่มั้ยคะ ”
“ เต้บอกอาแล้ว ”
หลานสาวพยักหน้าเบาๆอรทุมาจึงให้หลังออกจากห้องครัวไป..
“ อาอรใจดีใช่มั้ยคะพี่ต้า ”
ร่างบางเดินเข้ามาใกล้หญิงเสื้อชมพู
“ จ้ะ อาอรใจดีมากๆ ” ทอปัดยิ้มบอก
“ แล้วนี่น้องพราวมาทำอะไรอยู่ในครัวเหรอคะ ”
“ อ๋อ พราวกำลังทำความสะอาดห้องครัวอยู่น่ะค่ะ ”
“ ตายแล้ว! นี่ใครกล้าใช้น้องพราวกันคะเนี่ยแล้วมาลัยกับใบตองล่ะ ”
ทอปัดส่งเสียงไม่พอใจนิดๆ
“ เปล่าค่ะเปล่า ไม่มีใครใช้พราวหรอกค่ะ พราวอยากทำเองอยู่ว่างๆ ”
“ แล้วเต้ล่ะคะอยู่ไหนธรรมดาเห็นตัวติดน้องพราวตลอด? ”
“ พี่เต้..ไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ พราวเบื่อๆก็เลย...ลงมาหาอะไรทำ.. ”
เพชรเกล้าฝืนยิ้มเพราะตรีทิพย์หายไปนานแล้วจึงทำให้เธอรู้สึกเหงาๆ..
ท้องฟ้ามืดลงท่ามกลางสายตาของเพชรเกล้า
ที่กำลังยืนอยู่ริมระเบียงของบ้าน..พลางก้มมองภาพถ่ายสวยๆ
จากกล้องในมือที่เธอได้เธอใช้ถ่ายไว้เมื่อครั้งไปเที่ยวที่ผ่านมา
ใบหน้าเรียวหันมองไปรอบๆจวบจนตอนนี้
ตรีทิพย์ก็ยังไม่มาหาเธอเสียที..หรืออีกคนจะเชื่อ
ว่าเธอผลักปริฉัตรตกจากบันไดจริงๆ สาวน้อยหน้ามุ่ยคิดไปต่างๆนาๆ
หันร่างกลับมาพิงหลังไว้กับราวกั้นระเบียงถอนหายใจเบาๆ
" หายไปไหนของเขานะ "
เสียงนิ่มบ่นพึมพำกับตัวเองนิ่วหน้าขมวดคิ้วเริ่มหงุดหงิดนิดหน่อย
ร่างบางจึงก้มดูรูปไปเรื่อยๆเพื่อแก้เบื่อ อีกทั้งยังเดินเล่นไปตามชานระเบียง
ที่มีอยู่รอบบ้านอย่างไม่รีบร้อน ยิ้มบ้างเป็นบางครั้ง
เมื่อเลื่อนมาเจอกับภาพถ่ายที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ..
" เต้คิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะคะ.. "
เพชรเกล้าเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเธอได้ยินเสียงตรีทิพย์
ริมฝีปากคลี่ยิ้มเบาๆรีบก้าวขาเดินไปที่ต้นเสียงทันที
และเมื่อตรงเข้าไปหาสองเท้าก็ต้องหยุดชะงัก
พร้อมกับรีบถอยห่างออกมาเมื่อเห็นตรีทิพย์
กำลังยืนสนทนาอยู่กับปริฉัตร..หากเธอพรวดพราดเข้าไปคงไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่
" งั้นพี่ก็จะไม่เสียเวลาพูดอีก บอกกับพี่มาว่าเต้ไม่ได้จริงจัง มันก็แค่ของใหม่เต้จะทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อเต้เบื่อ!..ใช่มั้ย? "
เสียงของปริฉัตรไม่ได้ดังนักแต่ก็สามารถทำให้เพชรเกล้าได้ยินชัดเจนพอสมควร
" พี่ต้องการให้เต้พูดนักใช่มั้ย.. "
ร่างบางเริ่มสนใจถึงสิ่งที่สองพี่น้องกำลังคุยกัน
" ใช่! บอกพี่มาสิว่าเต้แค่เล่นๆ..กับเพชรเกล้า... "
สาวน้อยยืนนิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นสองมือบีบกำกล้องถ่ายรูปแน่น
ใจหวิวๆบอกไม่ถูกสายตาตอนนี้จับจ้องไปที่แผ่นหลังคนรักเท่านั้น
ดวงตาเอ่อคลอเพราะความกลัวในสิ่งที่จะได้ยินต่อจากนี้
" ค่ะ..เต้แค่เล่นๆ... "
เสียงหวานกล่าวออกไปเรียบๆจนทำให้คนที่ยืนฟังอยู่ในมุมมืดมีน้ำใสๆ
หยดแตะลงกับใบหน้าเนียนท่ามกลางความเงียบ..
เพชรเกล้าใจสั่นเนื้อตัวแทบจะอ่อนยวบลงเสียเดี๋ยวนั้น
และค่อยๆหันเดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่อย่างเชื่องช้าด้วยความผิดหวัง..
อรทุมาเดินออกมาจากมุมหนึ่งใบหน้าหันมองตามแผ่นหลัง
ของผู้ที่พึ่งเดินออกไปและหันกลับมายังสองพี่น้องอีกครั้ง
" พี่คิดแล้วว่าเต้ต้องตอบได้ตรงใจพี่ เต้ยังเหมือนเดิมยังเกลียดพวกมันเหมือนเดิม "
ปริฉัตรยิ้มร่าเอื้อมจับสองมือน้องสาว
" เต้แค่เล่นๆ " ตรีทิพย์ย้ำอีกครั้งสบตาคนตรงหน้า
พี่สาวพยักหน้ายิ้มตื่นเต้นดีใจ
" กับความแค้น.. "
ปริฉัตรค่อยๆหุบริมฝีปาก
" ส่วนกับพราวเต้จริงจัง..เต้มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา "
ร่างสูงพูดช้าๆชัดๆจึงยิ่งเป็นอะไรที่ทำให้ปริฉัตร
ต้องผิดคาดและอึ้งตึงเป็นอย่างมาก!!
ด้านเพชรเกล้าที่ตอนนี้ได้ทิ้งร่างนอนลงกับเตียงกว้าง
ด้วยความอ่อนแรงใบหน้าแดงกร่ำมีน้ำตาไหลหยดเป็นทาง
ประจานความอ่อนแอของเธอที่เกิดจากความเสียใจ..
ร่างกายสะอึกสะอื้นพอควรหันไปทางใดเธอก็ไม่มีใครให้ช่วยปลอบโยน
" ตริ๊ง! "
ใบหน้าเรียวเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
ที่ส่งเสียงขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช้าๆ
เธอกับดีใจขึ้นมาบ้างรีบเช็ดคราบน้ำตาและกดรับสายทันที
" ค่ะพี่ชิน " เสียงนิ่มบังคับไม่ให้สั่นเครือ
[i]' สวัสดีครับน้องพราว พี่รบกวนหรือเปล่าครับ ' [/i]
" ไม่เลยค่ะ พี่ชินมีอะไรหรือเปล่าคะ " สาวน้อยยังเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่นิดหน่อย
[i]' พี่มีเรื่องจะถามน้องพราวครับ ' [/i]
" เรื่องอะไรเหรอคะ? "
[i]' พอดีพี่มีงานด่วนที่โรงพยาบาลน่ะครับ ต้องรีบกลับกรุงเทพพรุ่งนี้พี่ก็เลยจะถามน้องพราวว่าจะกลับพร้อมพี่เลยมั้ยตอนนี้พี่อยู่โคราชแล้วนะ ' [/i]
เพชรเกล้านิ่งคิดเงียบไปสักครู่..เธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปเพราะฉะนั้น...
" ค่ะ พราวจะกลับกับพี่ชิน "
“ หมายความว่ายังไง! เต้พูดอะไร!! ” ปริฉัตรแย้งขึ้นเสียงเข้ม
“ หมายความตามที่พี่ได้ยิน ”
“ แต่พี่ไม่ยอม! พี่ไม่มีวันยอมให้เต้ไปรักกับมัน!! ”
" พี่อย่ามาบังคับเต้เรื่องพราว! เพราะความรักของเต้ เต้เลือกแล้ว.. "
สิ้นน้ำเสียงนางแบบสาวจึงเดินจากไปทันทีทิ้งให้คนตกตะลึง
ยืนเจ็บแค้นกำมือแน่นด้วยความโกรธและริษยา!...
อรทุมาถอนหายใจเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว
แต่ตรีทิพย์คงจะต้องมีเรื่องเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นแน่..
ตรีทิพย์กลับเข้ามาหาสาวน้อยของเธอ ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
สายตาก็ตรวจจับไปรอบๆห้องจนเห็นเจ้าหล่อน
นอนหันหลังอยู่บนเตียง ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มนิดๆ
เห็นทีท่าดูแล้วเพชรเกล้าคงจะหลับสนิท ถึงไม่กระดุกกระดิกตัวหันมามองเธอเลย..
เช่นนั้นร่างสูงจึงรีบตรงเข้าไปหาเบาๆเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน
ตรีทิพย์เคลื่อนตัวขึ้นมาบนเตียงและก้มมองหน้าคนนอนสักครู่
“ หลับปุ๋ยเลยนะ ”
เสียงหวานพูดออกมาเบาๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มนิ่มหนึ่งฟอดใหญ่
“ พี่เต้หายไปทั้งวันไม่คิดจะชะเง้อคอรอเลยเหรอ ”
“ เจ้าหญิงน้อย.. ”
ริมฝีปากสวยอมยิ้มเกลี่ยเส้นผมที่ปิดบังใบหน้าเนียนนุ่ม
พร้อมกับโน้มจมูกลงไปชื่นใจอีกครั้ง
ก่อนจะปลีกตัวไปยังห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี
เพชรเกล้าค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความซึมเศร้า
เธอรู้สึกเสียใจและผิดหวังกับตรีทิพย์มากจริงๆ
เวลา 05:15 นาที ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทพร้อมๆกับอากาศ
ในเวลาใกล้รุ่งก็เย็นฉ่ำจนแทบหูอื้อ
“ คุณพราวจะไปจริงๆเหรอคะ ”
ใบตองถามอีกครั้งเมื่อตอนนี้ เธอได้พาเพชรเกล้าออกมาที่ถนนหนทางเดิม
ที่เธอเคยแนะนำในการหลบหนีเมื่อครั้งก่อน..
อีกทั้งชินกรก็ได้เดินทางมารับเรียบร้อยแล้วด้วย
“ ฉันควรไปได้แล้วล่ะ.. ”
เพชรเกล้าเอื้อมมือลูบศีรษะเด็กน้อยที่มีน้ำตาคลอนิดหน่อย
“ เป็นเด็กดีนะใบตอง อะไรที่เราทนได้ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำกับใครเขา..รู้มั้ย เธอจะได้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ”
“ หนูอยากให้คุณพราวอยู่ที่นี่ด้วยจังเลยค่ะ คุณพราวจะได้คอยสอนหนูแบบนี้ไปเรื่อยๆ ”
ชินกรอมยิ้มยืนมองทั้งคู่อยู่ตรงประตูทางด้านคนขับ
“ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ฉันมีบ้านที่ต้องกลับไปแล้วก็มีแม่ที่ต้องเป็นห่วงด้วย ” เพชรเกล้ายิ้มบางๆ
“ หนูอยากมีแม่ให้เป็นห่วงบ้างจังค่ะ ” ใบตองทำหน้าซึม
“ เธอมีมาลัยที่ต้องเป็นห่วงนะใบตอง เขารักเธอไม่ต่างจากแม่แท้ๆของเธอหรอกนะ ”
ร่างบางเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกระดาษใบหนึ่ง
ที่เธอจดรายละเอียดเอาไว้มาส่งให้กับเด็กสาว
“ นี่เป็นที่อยู่แล้วก็เบอร์โทรศัพท์ของฉัน ถ้าเธอมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือจากฉันก็โทรหาฉันได้ตลอด ”
“ ขอบคุณค่ะ... ” ใบตองรับกระดาษดังกล่าวมาถือไว้ไร้ความร่าเริง
“ ฉันไปนะ ”
เด็กสาวพยักหน้างึกๆ
“ โชคดีนะคะคุณคนสวย ”
เพชรเกล้าส่งยิ้มให้อีกครั้ง..ก่อนจะหันเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่
ชินกรเปิดประตูเดินขึ้นมานั่งบนรถทั้งคู่หันมอง
เด็กสาวใบตองที่วิ่งกลับเข้าไปในไร่อย่างรวดเร็ว
“ ดูน้องเขาจะปลื้มพราวมากๆเลยนะครับ ” ชายหนุ่มยิ้มถาม
“ เธอไม่มีเพื่อนน่ะค่ะ ไม่มีพี่น้อง เหมือนพราว.. ”
เสียงนิ่มพูดเบาๆสายตายังคงมองตามแผ่นหลังเด็กน้อย
รวมทั้งไร่สตรอว์เบอร์รีที่เธอชื่นชม
อันเป็นอาณาจักรที่เสมือนขังเธอไว้ได้เกือบเดือน
“ งั้นเราไปกันเลยนะครับ ” เสียงแตกชายเอ่ยขึ้น
“ ค่ะ.. ”
ร่างบางตอบเบาๆพร้อมพิงหลังลงกับเบาะ
หันหน้าออกมองด้านนอก จนชินกรแอบเห็นสีหน้า
และแววตาของความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นจากอะไรบางอย่าง
ซึ่งเขาเองก็ไม่กล่าที่จะเอ่ยปากถามออกไป..
อรุณเบิกฟ้าในยามเช้าที่เต็มไปด้วยความสดใสของธรรมชาติ..
ร่างสูงเริ่มขยับเนื้อตัวค่อยๆลืมตาขึ้นจากการหลับใหล
ดวงตากระพริบช้าๆสามสี่ครั้งอย่างงัวเงียก่อนจะพลิกตัวหันไปกอด....?
สายตาของตรีทิพย์ผิดคาดเล็กน้อยเนื่องจาก
ข้างกายว่างเปล่าไม่มีสาวน้อยของเธอนอนอยู่
" ตื่นแล้วเหรอ..? "
เสียงหวานพึมพำเบาๆก่อนจะพยุงตัวเองลุกออกจากเตียง
ด้วยความเบลอๆที่ยังไม่ตื่นร้อยเปอร์เซ็นต์
สองน้าหลานทอปัดและอรทุมากำลังนั่งรับประทาน
อาหารเช้าร่วมกันพร้อมๆกับสนทนาปราศรัยอะไรไปตามเรื่อง
" รู้สึกว่าจะมีสองสีนะคะอา อืม..อ้าวเต้ ไปไหนมา มากินข้าวกันเร็ว "
ทอปัดร่ายคำพูดนั่นนี่อยู่กับน้าสาว
ก่อนที่จะหันไปเห็นตรีทิพย์ที่พึ่งเดินกลับเข้ามาในบ้าน
" เห็นพราวมั้ย "
ร่างสูงเดินเข้ามาถึงโต๊ะอาหารขมวดคิ้วถามมาลัยที่ยืนอยู่มุมหนึ่ง
" ไม่เห็นเลยค่ะคุณเต้ " แม่บ้านตอบเรียบๆ
ตรีทิพย์ได้ยินเช่นนั้นเธอจึงนั่งลงกับเก้าอี้พร้อมทั้งถอนหายใจออกมา
“ น้องพราวไปไหนเหรอ ” ทอปัดหันถาม
“ ไม่รู้ ตื่นมาก็ไม่เจอเต้เดินหาซะทั่วแล้วเนี่ย ” ร่างสูงเริ่มหงุดหงิด
อรทุมาเงยมองหน้าหลานสาวคนกลาง
“ อาจจะไปเดินเล่นในไร่ก็ได้นะ ” พี่สาวเอ่ยบอก
“ ไม่มีไม่เจอไปดูมาแล้ว ”
“ อือ...แล้วน้องพราวจะไปไหน อ่ะ! ใบตอง!..มานี่ๆ ”
เป็นเวลาเดียวกับที่ใบตองเดินผ่านมาพอดีทอปัดจึงเรียกตัวให้เข้ามาหา
“ ค่ะคุณต้า ”
“ เห็นคุณคนสวยของเธอหรือเปล่า? ไม่รู้ไปเดินเล่นอยู่ที่ไหน ” ทอปัดยิ้มถาม
“ คงไม่ได้ไปเดินเล่นที่ไหนหรอกค่ะ ”
อาการเซื่องซึมของใบตองนำพาให้ทุกคนพากันงงๆและจับจ้อง
“ เธอรู้เหรอว่าพราวอยู่ไหน ” ตรีทิพย์เอ่ยขึ้น
“ คุณพราวกลับไปแล้วค่ะ ”
ใบหน้าสวยแสดงสีหน้าของความตกใจแปลกใจ
ตื่นตระหนกและอีกหลากหลายอารมณ์!!!
“ อะไรนะ..? ”
“ กลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่?! ” ทอปัดส่งเสียงด้วยความสงสัย
“ เมื่อตอนเช้ามืดค่ะ ” ใบตองตอบเรียบๆ
“ กลับไปกับใคร! ” นางแบบสาวใจสั่น
“ หนูไม่รู้จักค่ะ ได้ยินคุณพราวเรียกว่าพี่ชิน ”
“ คุณชินกร! ” ทอปัดขมวดคิ้ว
ตรีทิพย์ใจเต้นระรัวเมื่อรู้ว่าเพชรเกล้ากลับไปกับชินกร..
ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้สาวน้อยตั้งใจจะหนีเธอไปอย่างนั้นเหรอ
เพราะอะไรกันหรือไม่พอใจที่เธอหายหน้าไปครึ่งค่อนวันเมื่อวานนี้???
“ ทำไมพราวหนีเต้ไป ”
ตรีทิพย์หลุดพูดความคิดในใจออกมา
" หรือว่าอยากเจอกับไอ้ชินมันนักถึงได้นัดให้มันมารับ..นี่พราวติดต่อกับมันอยู่ตลอด!! "
" นี่ๆ อย่าพึ่งตีโพยตีพาย คิดดูให้ดีก่อนมั้ยว่าตัวเองน่ะไปทำอะไรผิดไว้หรือเปล่า?! "
ทอปัดเบรกอารมณ์ร้อนของน้องสาว
" เต้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เต้จะไปทำอะไรล่ะ! "
" ฉันจะไปรู้เลอะ! "
สองพี่น้องไถ่ถามกันไปมาจนเริ่มหงุดหงิดด้วยกันทั้งคู่
" อารู้... "
อรทุมาเอ่ยขึ้นเบาๆหลังจากที่เงียบอยู่นาน
ทุกคนหันมองกันเป็นตาเดียวยังต้นเสียง
อาหญิงจึงเริ่มเล่ารายละเอียดทุกอย่างจนกระจ่าง
เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องทำให้เกิดเรื่องขึ้นแน่...
“ อาไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแต่บังเอิญเดินผ่านไปแถวนั้นส่วนพราวน่ะเขาเข้ามาได้ยินทีหลังยืนฟังอยู่สักครู่แล้วก็ออกไปเลยไม่ทันได้ยินว่าเต้พูดอะไรต่อ ” อรทุมาเอ่ยบอกเสียงเรียบ
ตรีทิพย์นิ่งคิดสักครู่ก่อนจะหลับตากุบขมับ
กัดฟันด้วยความรู้สึกที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก
“ เพราะเต้นี่เองจะเว้นช่วงเพื่อทีหลังเวลาพูดก็พูดให้มันติดๆกันสิ! ”
“ เต้จะกลับกรุงเทพนะ.. ”
………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ