บัลลังก์ฉิมพลี

8.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.

  59 ตอน
  1 วิจารณ์
  57.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) พี่หรือพราว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ภายในห้องครัวที่กำลังคลุ้งไปด้วยกลิ่นควันหอมๆ

จากเมนูอาหารบ้านๆนั่นก็คือกระเพราหมูสับ ร่างบางหยิบจับเครื่องปรุง

โรยปรับรสชาติให้เข้มข้นอย่างคล่องแคล่วและเพลิดเพลิน

โดยไม่ได้รู้สึกถึงสายตาที่กำลังจ้องมองเธอมาจากด้านหลัง

 


ปริฉัตรกำมือแน่นกัดฟันจนเส้นเลือดบริเวณขมับปูดขยับไปมา

พิจารณามองเรือนร่างตรงหน้าไม่กระพริบพอยิ่งไม่เห็นข้อด้อย

ให้ได้ติเตียนของคนตรงหน้ามันจึงทำให้ความริษยาเริ่มทำงานไปโดยไม่รู้ตัว

 


ฟองน้ำบางเบาจมลงสู่ผิวน้ำที่ใช้แช่ชำระล้างพืชกินได้ใบสีเขียวจนกลมกลืนกันไป…

 

ปริฉัตรหยิบชามทรงกลมที่มีใบกระเพราลอยอยู่อย่างอัดแน่น

เพราะความแคบของภาชนะและนำมาวางลงเสียงดังๆ

บริเวณที่ใกล้กับขวดซอสน้ำปลาปรุงรสต่างๆ ใบหน้าเรียวจึงหันไปเจอกับ

หญิงตาดุที่สีหน้าบ่งบอกว่าไม่มาดีอย่างแน่นอน

 

" เธอน่ะเหรอ เพชรเกล้า! "


คำพูดเรียบๆที่น้ำเสียงช่างไม่น่าฟัง


" ค่ะ.. " ร่างบางตอบกลับเบาๆ

" เธอคือลูกของปิ่นรัก! "

" ใช่ค่ะ " เพชรเกล้าเจรจาเสียงนิ่ม


“ ปิ่นรักไม่คิดจะหวงลูกสาวบ้างหรือไง!
ถึงได้ปล่อยให้เธอมาอยู่ที่นี่กับคนที่เขาเกลียดเธอมากที่สุดในชีวิต! ”

 

ร่างบางถอนหายใจเบาๆโชคดีที่เธอรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว

อีกทั้งคำพูดราวๆนี้เธอก็เคยฟังมาแล้วเช่นกัน

จึงไม่ค่อยทำให้จิตใจร้อนรนตามผู้พูดไปด้วยเท่าไหร่นัก

 

“ ทุกคนที่นี่ดีกับฉันมากค่ะ จึงไม่มีอะไรที่คุณแม่ต้องเป็นห่วง ”


เพชรเกล้าไม่ปริปากให้ปริฉัตรรู้ว่าแม่ของเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธออยู่กับตรีทิพย์ที่นี่

ปริฉัตรเบ้ปากที่เห็นหญิงตรงหน้าพูดจามีมารยาทกับเธอด้วยน้ำเสียงปกติ


“ แน่ใจเหรอ! ว่าเขาดีกับเธอจริงๆ ”


“ ฉันขี้เกียจสาธยายให้เปลืองน้ำลาย! รู้เอาไว้ว่าฉันเกลียดเธอและแม่ของเธอที่สุด!!
ปิ่นรักทำให้ทุกอย่างในชีวิตฉันไม่สำคัญในสายตาของพ่อฉัน
เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่าตัวเองจะได้อยู่อย่างสงบสุข! ”

 

เพชรเกล้านิ่วหน้าคิดเงียบๆ..ฟังคำที่กล่าวออกจากปากปริฉัตรเมื่อครู่

บ่งบอกให้เธอได้รับรู้ว่าหญิงผู้นี้กำลังทวงคืนสิ่งที่โกรธแค้นให้กับตัวเอง

ที่ต่างจากตรีทิพย์รายนั้นจะพูดเสมอว่าต้องการแก้แค้นให้กับแม่ของเธอ

เพื่อแลกกับความสะใจที่ไม่ค่อยจะจริงจังอะไรเท่าไหร่นัก

 

“ ส่วนเต้...เขาเองก็มีความแค้นที่ไม่ได้น้อยไปกว่าฉัน!
น้องของฉันเชื่อฟังฉันมากกว่าใครไม่มีทางที่เขาจะหลงงมงายในตัวเธอจริงๆ ไม่มีทาง! ”


หญิงร่างสูงยิ้มร้ายเย่อหยิ่ง


เพชรเกล้าลดสายตาลงเธอไม่รู้ว่าควรพูดสิ่งใด

จึงปล่อยให้ปริฉัตรพูดพร่ำไปเรื่อยๆ..เริ่มรู้สึกถึงอาการหวงน้องสาวจากคนต้องหน้า


“ เธอคงจะสุขสบายมีความสุขกันมากสินะสองแม่ลูก!
แล้วแม่ของเธอล่ะยังชอบแย่งผัวชาวบ้านอยู่อีกหรือเปล่า!! ”


“ คุณแม่ไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอกค่ะ ”


สิ่งนี้เองที่ทำให้เพชรเกล้าต้องโต้ตอบเล็กๆน้อยๆ


“ หึ! งั้นเหรอ! อ๋อเดี๋ยวนี้มีหน้ามีตามีแต่คนนับถือ
แทบจะคลานกราบไหว้..ผิดจากเมื่อก่อนที่เที่ยวร่อนไปร่อนมา
เข้าออกบ้านฉันเป็นว่าเล่นจนได้พ่อฉันเป็นผัวอีกคน!! ”


“ เรื่องทุกอย่างก็ผ่านมานานมากแล้วนะคะ
ฉันว่าคุณไม่ควรจะรื้อฟื้นให้ทุกฝ่ายต้องเสียหาย ” ร่างบางเอ่ยบอก


“ พูดแบบนี้แสดงว่ารู้เรื่องหมดแล้ว เต้คงบอกเธอสินะ
ที่ไม่อยากให้รื้อฟื้นเพราะกลัวว่าแม่ของเธอจะอับอายเพราะเรื่องคาวๆของตัวเองน่ะสิ!!! ”


เพชรเกล้าผ่อนลมหายใจเบาๆเธอแน่ใจว่าควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

ปริฉัตรยิ้มเยาะเห็นดวงตาของเพชรเกล้าจ้องมองเธอไม่กระพริบ

 

“ โกรธล่ะสิ! ดี!! แบบนี้ฉันชอบเพราะฉันอยากให้เธอโกรธ
แล้วก็เกลียดฉันเหมือนอย่างที่ฉันเกลียดเธอ! เพชรเกล้า!! ”


“ ค่ะ ฉันโกรธ ”


ใบหน้าเรียวเอ่ยบอกเรียบๆ

ก่อนจะหันไปคลุกเคล้ากับอาหารของเธอต่อ

“ นี่แกกวนประสาทฉันเหรอห่ะ!!! ”


ปริฉัตรไม่พอใจที่อีกฝ่ายตอบกลับบางเบา


“ ฉันก็แค่ตอบรับเพื่อให้คุณสบายใจจะได้สมใจคุณ ”


เสียงนิ่มเอ่ยบอกเรียบๆอีกครั้ง

 

“ เหรอ..อีนี่!!! ”


“ พี่ต้อม!! ”

 

ปริฉัตรโมโหหนักในการสู้รบริมฝีปากแบบนิ่งเฉยของเพชรเกล้า

ยกมือขึ้นอย่างใจร้อนแต่ตรีทิพย์ได้เดินเข้ามาในห้องครัวพอดี

จึงร้องห้ามไว้พี่สาวตัวการหันมองเพียงนิดและไม่สนใจ

แต่เปลี่ยนไปคว้าข้อมือของร่างบางแทน..ออกแรงบีบแน่นๆ

 

“ ทำใจเย็นไปเถอะ!! แล้วแกจะรู้สึก! ”


ปริฉัตรจ้องเขม็งพูดออกมาเสียงแข็งก่อนจะสะบัดสิ่งที่จับทิ้ง

ซุปตาร์ร่างสูงรีบวิ่งเข้ามาหาสาวน้อยของเธอด้วยความเป็นห่วง

 

“ เต้!! ออกไปคุยกับพี่ข้างนอก! ”

 

เมื่อเห็นตรีทิพย์จับประคองดูข้อมือของเพชรเกล้าด้วยความทะนุถนอม

ช่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่เธออยากจะสื่อให้เพชรเกล้าได้รู้

ว่าน้องสาวเธอไม่ได้จริงจังอะไรด้วยจึงทำให้ปริฉัตร

ไม่พอใจกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก


“ คุยตอนนี้ก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ พี่ต้อมไปสงบสติอารมณ์ก่อนดีกว่า ”


ตรีทิพย์หันบอก


“ ออกไปคุยกับพี่ข้างนอก เดี๋ยวนี้!!! ”

“ เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ
ถ้าพี่ยังใจร้อนอยู่แบบนี้เดี๋ยวเราก็ทะเลาะกันเปล่าๆ ”


นางแบบสาวถอนหายใจเบาๆ


“ เดี๋ยวนี้กล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ!! ฉันเป็นพี่แกนะ!!! ”


ปริฉัตรตาโตโมโหเสียงดัง


“ เต้ก็เป็นน้องเหมือนกันนะคะ! ใจคอพี่จะไม่ฟังคำเต้บ้างหรือไง! ”


เพชรเกล้าจับแขนตรีทิพย์เบาๆเพื่อเตือนสติให้คนรักเย็นลง


ตรีทิพย์กับเป็นฝ่ายเถียงบ้างจนทำให้ปริฉัตรคิดไม่ถึง

เพราะน้องสาวไม่เคยแสดงกิริยาแบบนี้กับเธอเลยสักครั้ง

หญิงหน้าดุกัดฟันโมโหเอาเรื่องและตัดสินใจเดินออกไปด้านนอกอย่างเงียบๆ

ทำเอาคนมองงงนิดๆที่อยู่ๆก็นิ่งเฉยไปเสียอย่างนั้น


ร่างสูงถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันมองสาวน้อยที่กำลังรีไฟจากเตาแก๊ส

“ เจ็บ.. ”


ใบหน้าเรียวหันมาสบตานางแบบสาว..ตรีทิพย์จะรู้มั้ยนะ

ว่าสิ่งนี้คือการออดอ้อนเล็กๆน้อยๆแบบเนียนๆจากเธอ..

 

ซุปตาร์สาวเม้มริมปากเปลี่ยนสีหน้าอมยิ้มกรุ้มกริ่ม

เอื้อมเกี่ยวเอวบางให้เข้ามาชิดตัวเธอ


“ เจ็บเหรอคะ..ไหนดูสิ ”


เสียงหวานทำออเซาะคล้อยตามก้มมองข้อมือเพียงนิด

ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปประทับรอยจูบบนริมฝีปากบางเบา

 

“ ฮื่อ! ” สาวน้อยรีบเบี่ยงหนี

“ บอกว่าให้รอที่ห้องแล้วลงมาทำไม ” แววตาเจ้าชู้ยิ้มบอก


“ ก็พราวหิวนี่คะ ”


เพชรเกล้าหันทำอาหารในขั้นตอนสุดท้าย

นั้นก็คือการใส่ใบกระเพราแต่ตรีทิพย์โอดโอยก่อกวนเธอจากด้านหลัง

จนทำให้ไม่ค่อยสะดวกในการหยิบจับเสียเท่าไหร่นัก

 

“ พี่ก็หิวเหมือนกันพราวกลับขึ้นไปบนห้องเลย ”


ผู้กอดเอวทำดึงตัวจะพาไป

 

“ ไม่ๆ อย่าแกล้งกันสิคะใจคอจะอยู่แต่ในห้องอย่างเดียวเลยหรือไง ”


ร่างบางยื้อตัวไม่ยอมถอยตามต่อว่าเสียงนิ่ม

พร้อมเอื้อมจะหยิบใบกระเพราในชามใกล้มือ


“ หูย!! ทำไมอ่ะทำไมๆๆ ”

 

เสียงหวานก่อกวนดึงมือที่เอื้อมกลับมา ใบหน้าเรียวหันมองเล็กน้อย

เธอจึงถูกจับรูปหน้าให้รับรอยจูบที่พุ่งเข้ามาแต่โดยดี

สองสาวไม่ได้ล่วงรู้เลยว่ามีสายตาของใครอีกคน

กำลังจ้องมองอยู่ด้วยความริษยาอย่างที่สุดจนแทบจะปรี่ตัวออกมา..!


กลีบปากสวยบดเคล้าคลึงเบาๆทั้งสองหลับพริ้ม

เคลิบเคลิ้มจนลืมเลือนอาหารที่อาจจะไหม้ในอีกไม่ช้า

ตรีทิพย์ค่อยๆจับมือสาวน้อยพร้อมกับพาเอื้อมไปที่ชามใบเดิม

เพื่อให้อีกคนได้หยิบพืชผักใบเขียว


เมื่อปลายนิ้วของเพชรเกล้าได้สัมผัสแตะผิวน้ำเธอ

จึงลงน้ำหนักเพื่อจะขยุ้มใบกระเพราขึ้นมา..


“ อื้อ?! ”


เสียงนิ่มอุทานอยู่ในลำคอพร้อมกับหันหนีริมฝีปากที่กำลังบดเบียดทันที


สร้างความพอใจให้กับปริฉัตรที่แอบมองอยู่มุมหนึ่ง

รอยยิ้มสะใจจึงปรากฏกระตุกมุมปากที่การลอบกัดในแรกเริ่มของเธอ

เป็นผลสำเร็จ เมื่อครู่ที่เธอถอยมาก็เพื่อจะรอดูสิ่งนี้

ที่สนุกว่าการยืนเถียงกับน้องสาวก็เท่านั้น

ก่อนจะให้หลังเดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ด้วยความสะใจ..

 

“ โอะ!! ”


ร่างบางยกมือข้างเดิมขึ้นมอง


“ พราว!! ”


ตรีทิพย์ตกใจเป็นอย่างมากเอื้อมประคองฝ่ามือนิ่มที่ปลายนิ้วมีเลือดซึม


“ ทำไมเป็นแบบนี้อ่ะ?! ”


ใบหน้าสวยร้อนรนหันมองถ้วยชามใบเดิม

และด้วยความไม่พอใจตรีทิพย์จึงปัดชามดังกล่าวให้ตกลงสู่พื้นทันที!!

 

“ เพล้ง!!! ”


เพชรเกล้าตกใจที่เห็นอีกคนทำเช่นนั้น


“ เข็มมุด! ”


ตรีทิพย์ขมวดคิ้วมองดูสิ่งกระจัดกระจาย

จึงเห็นเข็มมุดหลายเล่มปักแหลมๆอยู่กับฟองน้ำ

 

สาวน้อยย้อนคิดไปถึงเมื่อครั้งที่รู้ว่าปริฉัตรเข้ามาในห้องครัว

หล่อนทักทายเธอด้วยชามใบนี้..จึงทำให้เพชรเกล้ารู้ทันที

ว่านี่ต้องเป็นฝีมือของปริฉัตรแน่ๆ..ช่างร้ายกาจอะไรขนาดนี้

 

“ ของพวกนี้มาอยู่ในชามนี้ได้ยังไง ”


เสียงหวานพูดออกมาพิจารณาคิดสักครู่ก่อนจะหันมองหน้าเพชรเกล้า


“ ไม่รู้สิคะ.. ”


ร่างบางตอบเบาๆและหันดับเตาแก๊สพร้อมกับเดินไปล้างมือทำความสะอาดรอยแผลจี๊ดๆ

 


พลาสเตอร์ปิดแผลค่อยๆปิดทับรอยเลือดเล็กๆไปอย่างบางเบา

ด้วยฝีมือของตรีทิพย์..เพชรเกล้าชูนิ้วขึ้นมองสีหน้าปกติ

พลางหันมองไปรอบๆดูวิวทิวทัศน์อะไรไปเรื่อย

เพราะตอนนี้เธอทั้งสองกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ร่มรื่น

ใกล้กับพื้นแปลงสตรอว์เบอร์รีที่กว้างขวาง..

 

" ใครทำ.. "


ใบหน้าเรียวหันมองผู้ถามเพียงนิดและหันกลับมา


" ไม่รู้หรอกค่ะ " เสียงนิ่มตอบ

" แต่พี่คิดว่าพราวรู้ "


ซึ่งตรีทิพย์เองก็รู้เช่นกันเธอเดาได้ไม่ยากเพียงแต่อยากให้สาวน้อยพูดออกมา


" ช่างเถอะค่ะ แล้วพราวก็หายแล้วด้วย..นี่ " เพชรเกล้าชูนิ้วให้อีกคนดู


นางแบบร่างสูงถอนหายใจเบาๆ


" ไม่บอกก็ไม่เป็นไรงั้นมานี่ "


ตรีทิพย์ดึงตัวร่างบางให้เข้ามานั่งลงในระหว่างสองขาของเธอ

พร้อมทั้งกอดเนื้อตัวเอาไว้แน่น..หันขยี้จมูกกับผิวแก้มขาวหนึ่งฟอด


" ขอโทษนะคะที่ปล่อยให้น้องพราวต้องเจ็บตัว "


ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวาน


" หืม!!~ "


อยู่ๆตรีทิพย์ก็เกิดหมันเขี้ยวจึงขอชื้นใจแก้มนิ่มอีกซักครั้ง


" มองอะไรคะ "

" พราวว่าพราวควรกลับบ้าน " เพชรเกล้าพูดขึ้น

" อ้าว! ไหนเจ้าหญิงสัญญาแล้วไงว่าจะอยู่ต่ออีกสองอาทิตย์ไงคะ "


เสียงหวานโอดโอยทันที

 

" แต่ถ้าพราวอยู่ที่นี่ต่อคุณปริฉัตรจะไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
เดี๋ยวพี่เต้ก็ต้องทะเลาะกับเขาเพราะพราวอีก อีกอย่างนะคะ
คุณแม่ก็ถามพราวหลายครั้งแล้วด้วยว่าจะกลับเมื่อไหร่ "


" แต่พี่พอใจนี่..พอใจมากเลยด้วย
อาปิ่นไม่ว่าหรอกอีกแป๊บเดียวเอง " ตรีทิพย์หอมแก้มต่อย้ำๆซ้ำๆ


" แต่ว่า.. "

" น้า..นะ สัญญาแล้วนี่ห้ามคืนคำนะ อีกสองอาทิตย์พี่ก็ต้องทำงานแล้ว
เราต้องมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยลงแน่ๆเลย " ใบหน้าสวยซบลงกับหัวไหล่สาวน้อย


เพชรเกล้าหันมองรูปหน้าสวยแอบหวั่นใจ

กลัวตรีทิพย์จะเป็นเหมือนอย่างที่ปริฉัตรพูดไว้กับเธอ..

“ มองอะไรเหรอคะ..ฮึ!~ ”

 

ตรีทิพย์เงยหน้าขึ้นมาเห็นสาวน้อยกำลังมองเธออยู่จึงแกล้งกระเซ้าเย้าหยอก

จุ๊บริมฝีปากเล่นอย่างอารมณ์ดี..แต่ทว่าเจ้าหล่อนกับอยู่นิ่ง

ไม่หันหนีเหมือนครั้งก่อนๆเธอจึงยื่นใบหน้าเข้าไป

ประทับความนุ่มอีกครั้ง..หยุดมองใบหน้าเห็นอีกคนสบตาเธออย่างไม่หลีกเลี่ยง

จนน่าหมันเขี้ยวกลีบปากสวยจึงโน้มสัมผัสอีกหน..ยังคงนิ่งอยู่เหมือนรอกันเสียอย่างนั้น

 

ตรีทิพย์จึงจัดการแตะแต้มความละมุนละไมอ่อนนุ่มให้กับร่างบางทันที

ค่อยๆเคล้าคลึงเบาๆและระหว่างนั้นกับทำให้นางแบบสาว

ต้องกดปลายนิ้วลงบนเนื้อเอวของเพชรเกล้าอย่างอัตโนมัติ

เสียงหวานครางฮือฮาแว่วดังผ่านลำคอขาวผ่องด้วยความชอบใจ

เมื่อริมฝีปากบางเริ่มขยับเคลื่อนไหวตามเธอเป็นครั้งแรก

ร่างสูงค่อยๆเปิดโอกาสให้ปลายลิ้นเล็กได้เข้าไปสำรวจ

ความหอมหวานจากเธออย่างไม่เร่งรีบซึ่งสาวน้อย

กับอ่อนช้อยคล้อยตามไปอย่างว่าง่าย


แต่จู่ๆร่างบางกับถอยออกมาและหยุดมองคนตรงหน้าเฉยๆ

แต่ตรีทิพย์ยังคงขยับตามเข้าหาเพชรเกล้าจึงถอยหนีอีกครั้ง


“ พี่เต้จะเป็นแบบนี้ตลอดไปใช่มั้ยคะ ”

“ ค่ะ พี่จะเป็นแบบนี้ตลอดไป ”


ตรีทิพย์ยิ้มตอบตาหวานฉ่ำเอื้อมมือประคองผิวแก้มนิ่ม

“ ห้ามลืมสัญญานะคะ ”


สายตาของเพชรเกล้าทำเอาคนมองแทบอ่อนระทวย


“ ไม่ลืมค่ะ ไม่ลืม... ”


ร่างสูงทัดผมให้กับสาวน้อยเธอหลงอยู่กับคำพูด

ของเจ้าหญิงร่างบางจนกู่ไม่กลับ..เพชรเกล้าจงใจทำเช่นนี้

เพื่อให้เธอไปไหนไม่พ้นใช่ไหม..

 

ใบหน้าเรียวค่อยๆโน้มริมฝีปากเข้าไปหาความชุ่มฉ่ำ

ยังจุดเดิมอีกครั้งเมื่อผู้รอคอยช่างวิงวอนเรียกร้องจากเธอเหลือเกิน..

 


“ วันนี้ทำอะไรมากิน ”

“ แกงส้มน่ะสิ ของโปรดๆ ”

 

เสียงคนงานในไร่เดินคุยกันในช่วงพักกลางวันดังอยู่ไม่ไกลนัก

เพชรเกล้าจึงรีบถอยห่างและหันนั่งตามปกติทันที ด้านตรีทิพย์เอง

ก็พรวดเข้ากอดสาวน้อยเช่นเดิมซบใบหน้าลงกับแผ่นหลัง

ส่งเสียงขัดใจของการขัดจังหวะเบาๆเพราะทุกอย่างกำลัง

เข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้วเชียว!..ร่างบางถอนหายใจผ่อนคลายความรู้สึก

เม้มริมฝีปากหลับตาแน่นตอนนี้หน้าของเธอแดงกร่ำและร้อนฉ่ากว่าครั้งไหนๆ

ตรีทิพย์จะรู้ไหมว่าเธอต้องอดทนอดกลั้นดึงเอาความกล้าทุกอย่างออกมา

เพื่อสิ่งนี้ เพราะอยากให้ซุปตาร์คนสวยเป็นคนดีของเธอแบบนี้ตลอดไป

 

“ หิวหรือยังคะอาหารเช้ายังไม่ได้ทานเลยนิ ไปทานข้าวกันดีกว่ามั้ย ”


เสียงหวานถามขึ้นเธอได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงๆแล้วก็อดยิ้มไม่ได้


“ เอ่อ..ค่ะ หิวค่ะ ” ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นยืน

“ อืม..ไปเปลี่ยนกางเกงก่อน ”

“ ทำไมต้องเปลี่ยนด้วยล่ะคะ ”

“ ก็เพราะว่าพี่หวงขาขาวๆของพราว..ไม่อยากให้คนข้างนอกมอง ”


ตรีทิพย์ยืนตามและทอดสายตามองเรือนร่างเล็กที่ใส่กางเกงขาสั้นวันนี้


“ คนข้างนอก? ”

“ ใช่ค่ะ พี่จะพาพราวออกไปทานข้าวข้างนอก
ไปกินร้านตามข้างทาง อยากกินมั้ย ” ร่างสูงยักคิ้วถาม


“ อยากค่ะ!! ” ใบหน้าเรียวตื่นเต้นทันที


“ งั้นก็ไปเปลี่ยนกางเกงจะได้รีบไป ”

 

สาวน้อยทำปากปลิ้นก้มมองดูคิดว่าไม่เห็นจะเป็นไร

เพราะแค่กางเกงขาสั้นใครๆเขาก็ใส่กันทั้งนั้น

 

“ หรือจะให้อุ้ม ” ตรีทิพย์เดินเข้าหา


“ ไม่ๆ ” เพชรเกล้าถอยห่างอย่างรวดเร็ว


“ อุ้มนะ ”


“ ไม่อุ้ม!! ”


เสียงนิ่มร้องบอกพร้อมกับรีบวิ่งออกไปทันที

ใบหน้าสวยหันมองตามด้วยรอยยิ้มก่อนจะรีบเดินตามไป..

 

 

เพชรเกล้าวิ่งตรงกลับมาที่บ้านหลังใหญ่

รีบวิ่งเข้าไปยังด้านในด้วยความเร่งรีบ

ดวงหน้าเรียวก้มมองแต่ละชั้นของบันได


" โอะ! "


สองเท้าก้าวขึ้นไปได้เพียงสามสี่ขั้นก็ต้องหยุดลง

เพราะแรงสั่นสะเทือนของการประทะ


" นี่เธอกล้าเดินชนฉันเหรอห่ะ! "


ฝ่ายตรงข้ามส่งเสียงทันทีนั่นคือปริฉัตรนั่นเอง


" ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ "


ร่างบางเอ่ยบอกพร้อมเดินเลี่ยงผ่านคนตรงหน้าไป


หญิงหน้าดุรีบหันไปคว้าข้อมือเบาอีกทั้งยังกระชากให้เพชรเกล้าหันกลับมา


" ฉันไม่รับคำขอโทษ! แกตั้งใจจะเดินชนฉันใช่มั้ย!! "

 

 

ถัดมายังหลังบ้านร่มรื่น...


" อ้าวเต้ ไปไหนมาล่ะ "


ทอปัดถามขึ้นเมื่อมาเจอกับตรีทิพย์ที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านใน


" ไปที่ไร่มาค่ะ แล้ว...พี่ต้าล่ะจะไปไหนเหรอ " น้องสาวยิ้มถาม


" เปล๊า! แค่ออกมาผ่อนคลายสมองน่ะ รำคาญ..! "


ผู้จัดการคนเก่งยักไหล่เอ่ยบอก จึงทำให้ตรีทิพย์พอจะเข้าใจในเหตุผล


" พราวอ่ะ "

" พราวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ เต้จะพาน้องออกไปกินข้าวข้างนอก "


ร่างสูงนำสองมือล้วงกระเป๋ายิ้มหวานอารมณ์ดี

 

" อืมดีๆอย่าอยู่เล๊ยที่นี่ เอ้อ! อย่าลืมนะจ๊ะอีกสองอาทิตย์ฟินาเล่เหมือนเดิมนะ "


ทอปัดกล่าวรายละเอียดคร่าวๆเป็นการรู้กัน


" ไม่ลืมหรอกค่ะ นี่เต้ก็ว่าจะกลับกรุงเทพและล่ะอยากเข้าฟิตเนสด้วย "

" เหรอกลับเมื่อไหร่จะได้หนีไปด้วยคน " พี่สาวทำกระซิบกระซาบ

" ก็..อีกสองสามวันมั้ง เดี๋ยวดูอีกทีไม่แน่ก็อาจพรุ่งนี้มะรืนนี้เลย เพราะว่าที่บ้านพราวเขา.. "


" !!??@##*&฿%#@&*+*!!?? "


เสียงโวยวายของคนอารมณ์ร้อนเริ่มดังออกมา

ให้สองพี่น้องที่ยืนคุยกันอยู่ได้ยินจนต้องหันมองกันเป็นตาเดียว


" อะไรกันอ่ะ? " ทอปัดเอ่ย

" เสียงพี่ต้อม " ร่างสูงบอกเสร็จจึงรีบเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

 

 

" พูดมาสิ! สารภาพมาว่าเธอจงใจเดินชนฉันจริงๆ!! คิดจะแกล้งฉันใช่มั้ยห่ะ!!! "


ปริฉัตรคาดคั้นเพชรเกล้าไม่หยุดไม่หย่อน

มือข้างเดิมบีบกำข้อมือสาวน้อยจนเริ่มเป็นริ้วรอย

 

" พูดมาสิพูด!! อีนี่! เป็นใบ้หรือไง!!! "


" ฉันบอกคุณไปหลายครั้งแล้วนะคะ
ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจแล้วคุณยังต้องการอะไรอีก "


ใบหน้าเรียวขมวดคิ้วไม่เข้าใจคนตรงหน้าเลยจริงๆ


" ฉันไม่เชื่อ!! แกมันก็เหมือนแม่ของแกนั่นแหละ ตอแหล!!! "


" ปล่อยฉัน "

" ไม่ปล่อย!! อยากเจ็บตัวอีกใช่มั้ย
ถึงได้กล้าทำแบบนี้กับฉัน!! กราบขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!! "


" เกินไปค่ะ ฉันแค่เดินชนคุณนะคะแล้วฉันก็ขอโทษคุณไปแล้วด้วย
ร่างกายคุณก็ปกติดี ไม่ได้บุบสลายตรงไหนด้วยซ้ำ
ถ้าจะให้ฉันกราบคุณ..ฉันกราบสิ่งที่น่านับถือจะดีกว่าค่ะ.. "


เพชรเกล้ายอมรับว่าเธอไม่พอใจกับคำด่าทอที่แสนจะหยาบคาย

ของคนตรงหน้าแต่เธอขอเลือกที่พูดเพียงเท่านี้

เพราะไม่สามารถเจรจาใช้ภาษาเช่นเดียวกับปริฉัตรเป็น


" อีนี่!!! "


ปริฉัตรยกฝ่ามือขึ้นสูงด้วยความโมโหสุดขีด

สาวน้อยตกใจหลับตาพร้อมทั้งสะบัดข้อมือของตัวเองที่ถูกจับจนหลุดออก


“ พี่ต้อมทำอะไรน่ะ!! ”


ทอปัดตะโกนลั่นเมื่อเห็นพี่สาวกำลังจะใช้กำลังในการตัดสิน..

ปริฉัตรเสียหลักในการทรงตัวยืนนิดหน่อย

เมื่อได้ยินเสียงอื่นเข้ามาสอดแทรกเช่นนั้นเธอจึงตัดสินใจ

ทิ้งร่างตัวเองให้ตกลงจากบันไดสี่ขั้นทันที!

 

“ คลุก!คลุก!คลุก!คลุก! ”


" โอ๊ย!!! "


เพชรเกล้ามองตามเรือนร่างที่พยายามพาตัวเองให้กลิ้งลงไปด้านล่าง

ด้วยความตกตะลึงเธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำเรื่องแบบนี้


" พี่ต้อม! "


ทอปัดเห็นเช่นนั้นจึงรีบปรี่เข้ามาหาพี่สาวที่นอนอยู่กับพื้นอย่างรวดเร็ว


" เป็นยังไงบ้างค่ะ!! "


น้องคนกลางไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงประคองเนื้อตัว

 

ตรีทิพย์เดินมาหยุดอยู่บริเวณทางขึ้นบันไดมองดูพี่สาวคนโต


" เต้.. "


ปริฉัตรหันมาเห็นน้องสาวคนโปรดช่างโชคเข้าข้าง

ที่ตรีทิพย์มาเห็นเธอในสภาพนี้เข้าพอดี

 

ใบหน้าสวยหันกลับมาทางสาวน้อยของเธอ..


หญิงตัวการเคล็ดขัดยอกนิดหน่อยการนี้ยอมลงทุนเจ็บตัวมากๆ

รีบลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาหาตรีทิพย์น้องสาวเพื่อจะเรียกร้องความสนใจ

 

“ เพชรเกล้าผลักพี่ตกลงมา เต้ต้องจัดการเพราะพี่ไม่ยอม! ”


ตรีทิพย์หันขวับมองผู้พูดก่อนจะหันกลับมาหาเพชรเกล้าอีกครั้ง..

เห็นเจ้าหล่อนเม้มริมฝีปากสบตาตามปกติแถมนิ่งเฉยอีกเหมือนเคย

ทอปัดที่ยืนอยู่ใกล้กันมองดูอาการสีหน้าและแววตาก็ไม่กล้าที่จะเดาใจใคร

 

“ คราวนี้จะว่ายังไงยังจะปกป้องมันอีกอยู่มั้ย! ”


ปริฉัตรดึงแขนร่างสูง..นางแบบสาวยืนนิ่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

ช่างทำให้เธอลำบากใจเสียจริง..นี่ก็พี่สาวส่วนพราวคือคนที่เธอรัก รักมาก...


“ พี่ว่าน้องพราวไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่
พี่ต้อมสะดุดขาล้มลงมาเองหรือเปล่า ” ทอปัดแย้ง


ปริฉัตรถอนหายใจหันขวับมองทอปัดด้วยความฉุนเฉียว


“ นับวันแกนี่ยิ่งจะทำตัวเป็นญาติฝ่ายไหนของมันมากขึ้นทุกวัน!
ฉันเป็นพี่แก!! แกควรเชื่อฟังคำฉันถึงจะถูก! ”


“ ต้าก็แค่คิดว่ามันไม่เห็นจะมีความจำเป็นอะไรที่น้องพราวจะทำแบบนี้กับพี่นี่คะ ”

“ มีสิ! เพราะว่ามันเกลียดฉัน!
เลือกเอานะเต้ระหว่างพี่กับผู้หญิงคนนี้..เต้จะเลือกใคร ”


ทอปัดส่ายหัวรำคาญนัก นานวันพี่สาวชักเริ่มไร้สาระมากมายจริงๆ

เพชรเกล้าสบตาตรีทิพย์และมีความคิดที่อยู่ในใจ

เหมือนกับว่าคนรักนั้นเชื่อในสิ่งที่ปริฉัตรกล่าว

ร่างบางรู้สึกน้อยใจขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้นเพียงแค่ชั่วพริบตา

ตรีทิพย์ก็ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเธอเสียแล้ว


นางแบบสาวเดินขึ้นไปบนขั้นบันไดหนึ่งก้าวจ้องมองสีหน้า

และท่าทางก็พอจะเดาได้ว่าเจ้าหญิงของเธอกำลังคิดสิ่งใด

 

“ ขึ้นไปบนห้องก่อนปะ ”


เสียงหวานเอ่ยบอกเรียบๆ

ใบหน้าเรียวลดสายตาลงก่อนจะหันเดินออกไปจากตรงนั้น

 

“ เต้!! หมายความว่ายังไง นี่มันอะไร..! ”

“ พี่บอกให้เต้จัดการ เต้ก็ทำให้แล้วไง ”


ตรีทิพย์พูดขึ้นเน้นประโยคชัดๆทุกคำก่อนปริฉัตรจะเอ่ยเสร็จเสียอีก


“ เดี๋ยว! แต่พี่ไม่พอใจ!! เต้ต้องทำมากกว่านี้
แสดงออกมาให้พี่เห็นว่าแกเกลียดมันไม่พอใจมัน เดี๋ยวนี้!!! ”


หญิงสาวโวกเวกขวางทางไม่ยอมให้ตรีทิพย์เดินหนีไปเฉยๆ


“ พี่ต้อมพอเถอะน่า! ”


ทอปัดเห็นสีหน้าของตรีทิพย์เริ่มบ่งบอกว่ากำลังรำคาญเธอจึงช่วยพูดอีกแรง


“ อย่ายุ่ง! ” ปริฉัตรตวาดแว๊ด


ซุปตาร์สาวมุ่งหน้าที่จะเดินออกไปด้านนอก


“ เต้! อย่าเดินหนีพี่นะ!! บอกมาว่าจะเลิกกับมันเมื่อไหร่
พี่ทนเห็นเต้อี๋อ๋ออยู่กับมันคอยปกป้องมันไม่ไหวแล้วนะ!!! ”

“ ไม่มีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัวของเต้.. ”


ตรีทิพย์บอกเอ่ยบอกพร้อมทั้งเดินตรงออกมาจนถึงหน้าประตู

ยังไม่วายที่ปริฉัตรพี่สาวจอมบงการจะตามติดไม่ห่าง


“ ถ้าอย่างนั้นก็คิดซะ นี่คือคำสั่งของฉัน!!! ” พี่สาวจ้องตาเขม็ง

 

ตรีทิพย์หายใจแรงเก็บกดกั้นอารมณ์ของเธอที่เริ่มประทุขึ้น

ในเมื่อเธอกำลังมีความสุขกับความรัก อยู่ดีๆพี่สาวกับเจ้ากี้เจ้าการ

ใช้อำนาจบังคับใจกันเหมือนครั้งที่ผ่านมา มันจึงทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก

แต่ยังพยายามระงับกิริยาเอาไว้

 

ร่างสูงเดินหนีผ่านไปปริฉัตรกัดฟันแน่นเอื้อมดึงแขน

รั้งตัวไม่ยอมให้น้องสาวเลี่ยงหนีคำตอบจากเธอไปง่ายๆ

ด้วยความรำคาญใจตรีทิพย์จึงใช้แรงที่มีสะบัดแขนของเธอ

ออกจากการจับกุมจนทำให้ปริฉัตรเซถอยหลังไปเสียงกรี๊ดอุทานเบาๆ

หลุดออกจากปากจนใบหน้าสวยต้องหันมองตาม

ทอปัดรีบประคองหญิงตัวร้ายเอาไว้

 

“ เอ่อ..พี่ต้อมเต้ไม่ได้ตั้งใจ.. ”


เสียงหวานเอ่ยบอกตกใจนิดหน่อย


“ หืม!!!! ”


ปริฉัตรมีน้ำตาคลอยกฝ่ามือขึ้นด้วยความโมโห


“ เดี๋ยว!! อย่าค่ะอย่า!!! พี่ต้อม!!!! ”


ทอปัดร้องเสียงหลงรีบห้ามปรามอย่างทุลักทุเล


“ แกไม่รักพี่แล้วใช่มั้ยเต้!!! ”


“ พี่ต้อมพอๆ!! ”

 

ความชุลมุนนิดๆที่ปริฉัตรเป็นต้นเหตุเหมือนเคยดังก้องไปทั่วบ้าน..!

 


“ หยุดเดี๋ยวนี้! ”

 

สถานการณ์หยุดกึกทุกอย่างเงียบลงอย่างอัตโนมัติเสียเดี๋ยวนั้น

เมื่อมีเสียงดุๆเชียบคมและกระชับชัดเจนฟังดูแล้ว

ช่างเหมือนกับคุณครูฝ่ายปกครองยังไงอย่างงั้น..

ทั้งหมดหันมองตามเสียงพร้อมๆกัน

 

“ อาอร... ”


ตรีทิพย์พูดออกมาเบาๆเมื่อหันมาเห็นอรทุมาอาสาวแสนรัก

 


ภายในห้องนั่งเล่นพักผ่อนกายาและเหมาะสำหรับการสนทนาปราศรัย..


แก้วกระเบื้องใสแจ๋วปรากฏให้เห็นถึงผิวน้ำที่ลดระดับลง

จากการดื่มกินก่อนจะถูกวางลงบนจานรองอย่างเบามือ..

 

 

" เสียงดังอะไรกัน "


อาหญิงอรทุมาที่พึ่งกลับมาถึงที่นี่ขมวดคิ้วถาม

 

" เต้พาลูกของศัตรูเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
ต้อมต้องการให้ไล่มันออกไปจากที่นี่แต่เต้ก็นิ่งเฉยคอยแต่จะปกป้องมัน! "


ปริฉัตรเอ่ยบอกรวดเร็วพลางทำสายตาไม่พอใจ

ใส่ฝ่ายตรงข้ามนั่นคือตรีทิพย์ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวกันกับอรทุมา

 

" ศัตรูอะไร? " อรทุมาสีหน้าสงสัย


" ผู้หญิงที่ชื่อว่าเพชรเกล้า! "

" เพชรเกล้า..ใครกัน "


อาหญิงวัยกลางคนถามออกไป


" พราวค่ะ แฟนเต้ "


ตรีทิพย์พูดขึ้นด้วยความมั่นใจจึงทำให้ปริฉัตรตารุกวาวโมโหเช่นเคย

 

“ นี่เรามีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้แล้วเหรอ ”


อรทุมาหันถามหลานสาวด้านข้าง


“ ค่ะ ” ตรีทิพย์ยิ้มตอบ

“ อืม.. ” อรทุมาพยักหน้าส่งเสียงในลำคอ

 

" เต้จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ!! "


พี่สาวคนโตยืนขึ้นพูดเสียงดังดวงตารุก

เป็นประกายของความโกรธทำเอาเป็นเป้าสายตาของทุกคน

 

" ทำไมล่ะคะ เต้แค่บอกให้อาอรรู้ก็เท่านั้น "

" ก็เพราะว่าฉันเกลียดมัน! ฉันเกลียดมันได้ยินมั้ย!!! "

 

ทอปัดอุดหูรำคาญเสียงแว๊ดๆของพี่สาว

 

“ นั่นมันก็ส่วนของพี่ที่จะคิดแบบนั้นแต่สำหรับเต้ เต้ข้ามจุดนั้นมาแล้ว ”


ร่างสูงอธิบายเสียงเรียบ

 

" ไม่!! แกจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ฉันไม่มีวันยอม ”

 

“ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?! ” อรทุมาถามขึ้นด้วยความสงสัย

 

“ คืออย่างนี้ค่ะ พี่ต้อมต้องการจะแค้นอาปิ่นรัก ”


ทอปัดทนไม่ไหวจึงตัดสินใจบอกกับอาของเธอเสียตอนนี้

 

“ ต้า!!! ”


ปริฉัตรหันมองและออกคำสั่งด้วยสายตาเพื่อให้ทอปัดหยุดพูด

 

“ บอกอามาต้า อยู่ที่นี่ไม่ต้องไปกลัวใคร! ”


อรทุมาเสียงเข้มและเมื่อได้ยินถึงชื่อปิ่นรัก

เธอจึงเดาได้ไม่ยากว่าปริฉัตรคงจะจุ้นจ้านเรื่องเดิมๆอีกเช่นเคย

 

“ คือว่า... ”


“ ต้อมต้องการแก้แค้นเพชรเกล้า! ลูกสาวอีปิ่นรักเมียน้อยคุณพ่อไงคะ! "


ปริฉัตรแทรกพูดขึ้นเองเพื่อจะแสดงให้เห็นว่าเธอไม่กลัวใครทั้งนั้น

 

อาหญิงวัยกลางคนจึงบึ้งตึงขึ้นมา

 

“ แล้วเต้ก็ต้องทำตามอย่างที่พี่ต้องการ! ”


หญิงตาดุมุ่งประเด็นกลับมาหาตรีทิพย์อีกครั้ง


“ เต้ไม่ทำ.. ”

“ เต้!! ”


“ พอได้แล้ว! ” อรทุมาส่งเสียงขึ้น


“ แกจะทำตัวเหมือนอีต้าอีกคนนึงหรือไง! ”


“ ยัยต้อม!! ”


“ ทำไม! ” ปริฉัตรขึ้นเสียงใส่อาหญิง

 

อรทุมาโกรธมากที่หลานสาวแสดงกิริยาก้าวร้าวกับเธอเช่นนี้

หญิงวัยกลางคนลุกขึ้นพรวดพร้อมกับเดินเข้าผลักศีรษะ

ของปริฉัตรจนหงายเงิบร่างเซลงนั่งกับโซฟาเช่นเดิมทันที..!

ทอปัดหันมองตกใจอีกทั้งตรีทิพย์ยังกระพริบตาปริบๆ

ที่เห็นพี่สาวถูกสั่งสอนเข้าแล้ว


ปริฉัตรคล้ายคนพึ่งได้สติหายใจแรงแสดงสีหน้า

ของความกลัวออกมาให้เห็นเมื่อสบตาคนที่ยืนจ้องเธออยู่ตรงหน้า

 


“ ส่องดูสภาพตัวเองในกระจกซะบ้าง! กระซ่านอย่างกับคนบ้า!!
ก่อเรื่องเอาไว้ที่บ้านยังไม่พอฉันคิดเอาไว้แล้วไม่มีผิด
ว่าที่แกหายหัวไปจะต้องมาสร้างเรื่องอยู่ที่นี่!! ”


เสียงเข้มของอรทุมานำพาให้บรรยากาศเงียบกริบ


“ หยุดซะเลยนะ! ถ้าแกจะบ้าก็บ้าไปคนเดียว! อย่าดึงคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง!!
และถ้ายังไม่เลิกวุ่นวายเที่ยวรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆล่ะก็..ชีวิตแกจะไม่เหลืออะไรเลย..! ”

 

เสียงดุกล่าวบอกในคราวสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปทันที

รวมทั้งตรีทิพย์และทอปัดต่างก็พากันออกไปด้วยเช่นกัน

สองพี่น้องหันมองพี่สาวคนโตอีกครั้งที่นั่งเงียบสนิท

หากปริฉัตรหมดฤทธิ์จะเป็นเรื่องที่ดีมาก.........

 

 


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา