ไอ้คุณผี... ที่รัก!!!! [Y]

6.7

เขียนโดย nitta

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.03 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,762 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559 18.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ไอ้คุณผี 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

ไอ้คุณผี 1
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ตำหนักขาว ตระกูล นฤคบดินทร์
 
 
 
 
 
“พี่เกริก พี่รู้ใช่ไหมเรื่องหลาน ” เกริกไกร หรือที่รู้จักกันในนาม หมอไสย หรือ หมอผีสายขาว เป็นนายใหญ่ประจำตระกูล และแก้วกัลยา ผู้เป็นน้องสาวก็เป็นมารดาของหลานชายที่หล่อนเอ่ยถามนั้นเอง
 
“แก้ว เรายื่นมือไปยุ่งเรื่องนี่มากไม่ได้นะ ” นายใหญ่ของบ้านมองน้องสาวที่ร้อนรนด้วยสายตาเรียบเฉย แต่ในใจเล่าใครจะไปรู้ว่าในสายตานี้มันซ่อนอะไรไว้
 
“พ่อ อาแก้ว สวัสดีครับ ” แก้วกัลยาและเกริกไกรหันไปสนใจบุคคลผู้มาใหม่
 
“ จ้ะ ตาเกล้า ” ผู้เป็นอารับคำพร้อมยิ้มน้อยๆให้ แต่คนเป็นหลานก็ไม่ลืมยิ้มรับและก็ได้สังเกตเห็นใบหน้าซีดๆของผู้เป็นอา ก็ขมวดคิ้ว มันคงมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เค้าจะพูดบ้างละ
 
“มีอะไรรึเจ้าเกล้า ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม
 
 
 
หากนายใหญ่ของบ้าน เป็นหมอไสย ที่มีความสามารถในการมองเห็นและปัดเปาสิ่งชั่วร้ายและปกป้องสิ่งที่ดีงาม เกล้าก็มีสิ่งที่ติดตัวมาเช่นกัน นั่นก็คือการมองเห็นและสวดส่งวิญญาณ หรือเปิดทางให้แก่วิญญาณที่หลงผิดไปสู่เส้นทางที่วิญญาณเหล่านั้นควรจะไป
 
“เมื่อคืน มีเงาดำปกคลุมทั่วห้องไอ้น้ำ ”  ใช่ว่าใครในตระกูลนี่จะไม่รู้ถึงความผิดปกติในรั้วบ้าน แต่มันอยุ่ ที่แค่อันตรายต่อใครรึเปล่าเท่านั้น ที่จะเอามาปรึกษากัน
 
“อือ อันนี้พ่อรู้ อาแก้ก็กังวลใจ เจ้าน้ำก็คงหวั่นๆเหมือนกัน ” ใบหน้าที่เรียบเฉยของนายใหญ่ของบ้านไม่แสดงออกใดๆ นอกจากความสงบและเรียบเฉย
 
“แล้ว เราจะทำยังไงครับพ่อ ”   เกล้าเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ และมองผู้เป็นอาที่หน้าซีดเผือก อย่างเป็นห่วง
 
“แค่รอให้ถึงเวลาเท่านั้น ”
 
 
 
 
 
“เมื่อไหร่มันจะตาย ” เสียงเข้ม บวกสายตาอำมหิตจ้องมองไปที่ร่างสูงที่ปรากฏในน้ำที่ดำมืดในขันน้ำมนต์สีเงิน
 
“เค้ายังไม่ถึงที่ตาย ” ทาสรับใช้เงาดำมืดเอ่ยตอบ
 
“กุรู้แล้ว !!!  แต่ถ้ามันไม่ตาย กูก็เอาสิ่งที่กูอยากได้มาไม่ได้ ” เสียงตะหวาดดังก้อง พร้อมแรงสั่นไหวของพื้นไม้ขัดเงา แสดงถึงความเกรี้ยวโกรธ
 
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องแว่วตามเสียงลมกรรโชก
 
“มึงไปเอาวิญญาณมันมาให้กูซะ ถ้าเอามาไม่ได้ กูจะทรมานมึง ” เสียงลมสงบพร้อมด้วยร่างเงามืดเลือนหายไป ทิ้งไว้แต่ความชิงชังในสายตาของคนที่รอวันแก้แค้นให้สาสม
 
 
 
 
 
น้ำมนต์
 
 
 
ความมืดมิดกำลังโรยตัวลงมาทาบปิดเส้นขอบฟ้า ความมืดกำลังคืบคลาน นี่ก็คืนที่สามแล้วที่น้ำมนต์ไม่ยอมหลับตา ตั้งแต่ฝันในครานั้นก็ไม่อาจข่มตาฝืนความกลัวนอนหลับพักผ่อนได้ แต่ในวันนี้ร่างกายกลับต้องการประท้วง ตาคู่สวยเริ่มปิดลงช้าๆ อย่างห้ามไม่อยู่
 
มืด เงียบ และหนาวเหน็บ
 
ขาแต่ละข้างก้าวออกไปอย่างเชื่องชา มันทั้งหนาวและเงียบซะจนคนที่ก้าวเดินเกิดหวั่นใจ
 
วูบ !!
 
พรึ่บ !!  
 
เงาดำพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว จู่ๆก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น ข้างหน้าที่น้ำมนต์เจอ คือบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง
 
 
 
“อ่ะ ” เงาดำที่ไม่รู้ที่มาลอยผ่านไป แล้วพยายามเข้าไปในตัวบ้าน แต่ถูกแสงที่มองไม่เห็นผลักให้กระเด็นออกมา
 
‘คิดเหรอว่าจะขว้างกูได้ ยังไง กูต้องได้วิญญาณมันกลับไปด้วย ’ เงาดำยังพยายามพุ่งเข้าไป ในตัวบ้านให้ได้ น้ำมนต์พยายามจะก้าวเดินแต่เดินไม่ได้ ตัวมันไม่ขยับไปไหน
 
“มึงอย่าแส่ ไอ้เด็กนรก ยังไม่ถึงคราวมึง ” เสียงน่ากลัวส่งผ่านมาจากที่ไหนสักที่ แต่เสียงนั้นมันช่างชวนให้ขนลุกจากความน่ากลัวมันซะจริง
 
“อะ ” พอน้ำมนต์จะเปล่งเสียงถาม แต่เสียงในลำคอก็กลับไม่มีเสียงเปล่งออกมา
 
 
 
“มึงจงเข้าไป แล้วพาวิญญาณมันออกมา มันไม่ตายกูก็ให้แค่มันหายใจรอวันตายก็เท่านั้น ” น้ำเสียงเข้ม เต็มไปด้วยความอาฆาตมาดร้าย สั่งเจ้าตัวเงาสีดำมืดซึ่งตอนนี้ มันทะลายกำแพงแสงเข้าไปได้แล้ว
 
แกร็ก ครืด ครืด
 
อึก
 
“จะ เจ็บ ” สายโซ่มันกระซากแรงขึ้น เหมือนมันจะดึงให้น้ำมนต์ ขยับเข้าไปใกล้มัน
 
“อึก ” ครืด แกร็ก แกร็ก น้ำมนต์ที่ขยับไม่ได้มาชั่วครู่ ก็กลับมาขยับตัวได้เพราะความเจ็บจากแรงกระชากเจ็บเหมือนว่าจะโดนกระชากหัวใจ  
 
น้ำมนต์เดินเร็วเข้าไปในบ้านหลังข้างหน้า ระหว่างเดินเข้าไปเสียงกระชากโซ่ก็ดังก้องขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้าไปเรื่อย น้ำมนต์รู้สึกว่าสายโซ่มันสั้นลง เพราะสายโซ่เงินนั้นมันยกระดับขึ้น สูงขึ้นเรื่อยๆ และความเจ็บที่หน้าอกมันก็ค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมาหยุดหน้าประตูห้องๆหนึ่ง
 
 
 
กึก แกร็กกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตึง
 
 
 
สายโซ่ที่กระชากอย่างปรงทำให้ร่างของน้ำมนต์โดนกระชากเข้าไปในห้องและหยุดที่หน้าเตียงไซส์ใหญ่หลังหนึ่ง
 
“มะ ไม่ ” สายตาของน้ำมนต์ในตอนนี้ กำลังจดจ้องอยู่ที่ร่างหนึ่งที่หลับสนิท บนร่างนั้นมีเงาสีดำเงาหนึ่งคร่อมอยู่ และสิ่งที่ร่างเงานั้นกำลังทำคือกระชากสายใยสีขาวที่เป็นสายใยคนเป็นของร่างคนที่นอนนิ่งสงบ
 
“ตามมาช่วยกันจนได้ แต่กูไม่ให้มึงช่วยมัน ” ยังไม่ทันที่น้ำมนต์จะทำอะไร เงาที่ดำมืดก็กระโจนมาทางน้ำมนต์ทันที
 
“อ่ะ อึก ” น้ำมนต์ยกมือขึ้นปัดป้อง แต่ร่างเงาดำก็พยายามตรงมาดึงสายโซ่ที่หน้าอกซ้ายออก
 
“มันไม่โชคดีตลอดหรอก เพราะมีมึงกูเลยฆ่ามันไม่ได้ ” ร่างเงาว่าด้วยน้ำเสียงที่คนฟังยังรู้สึกสยอง น้ำเสียงที่ฟังดูเลือดเย็น
 
 
 
“อะ อึก ไม่ยอมแน่ ยังไงก็ไม่ยอมให้ดึงสายโซ่นี้ได้หรอก ” สิ้นคำ สายโซ่ก็เปล่งแสงสีแดงสว่างวาบออกมา
 
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! เงาสีดำกระเด็นออกไป แต่มันยังคงจะตรงปรี่ไปหาร่างที่หลับใหลอยู่บนเตียงไร้สติ
 
น้ำมนต์รีบไปตามกระชากร่างเงานั้นออก ทำให้ร่างนั้นกรีดร้องออกมาด้วยความทรมาน แล้วสลายหายไป ทิ้งแต่เสียงของความเจ็บปวดแว่วลอยตามเสียงลม
 
 
 
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทะ ทำไมสายโซ่อีกฝั่งหนึ่งมาเชื่อมกับหน้าอกคนคนนี้ละ
 
” ความเจ็บที่หน้าอกซ้ายมันหายไปแล้ว ที่น้ำมนต์รับรู้ตอนนี้คือ เสียงเต้นของหัวใจร่างสูงที่นอนสงบอยู่บนเตียงโดยที่หันหน้าไปอีกทาง
 
“ฮะ เฮ้ย แย่แล้ว ”สายใยสีขาวฉีกขาด แต่ยังโชคดีที่ไม่ขาดออกจากกัน
 
“แต่แปลก ถ้าผีตนนั้นจะเอาชีวิตเค้าจริงๆ ทำไมไม่ดึงเส้นใยสีแดงละ ” ถ้าดึงเส้นตาย คนคนนั้นก็จะตาย แต่ถ้าอยากดึง แต่ดึงไม่ได้ละ? ไม่ถึงที่ตายสินะ น้ำมนต์เอามือแตะไปที่สายใยที่ขาวเบาๆ มันกำลังถักตัวกันใหม่แต่ไม่ประสาน
 
“สายใยหายไปบางส่วน ”
 
 
 
“กะ กลับไป ” สิ้นเสียง ร่างของน้ำมนต์เหมือนถูกกระชากให้ไกลออกห่างจากร่างบนเตียง และสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายอันใหญ่หน้าบ้าน
 
“เศรษฐกานต์ ”
 
เฮือกก !!!
 
“ไอ้น้ำ ”
 
“เจ้าน้ำมนต์ ”
 
“น้ำมนต์ลูก ”  ทุกคนมีสีหน้าแววกังวล แต่ก็คลายลงเมื่อเห็นตาคู่สวยค่อยๆเปิดขึ้น
 
 
“ทำไมทุกคนมาอยู่ที่นี่ ”  น้ำมนต์ทำหน้า งง งวย แต่ใจที่เต้นแรงก็ยังไม่คลายลง ความรู้สึกอบอุ่นยังตราตรึงอยู่ที่อกข้างซ้าย
 
“เจ้ามนต์ลุงขอคุยด้วยหน่อย เกล้าออกไปก่อนนะลูก เดี๋ยวพ่อขอคุยกับอาแก้วด้วย ” นายใหญ่ของบ้านเอ่ยกับลูกชายด้วยเสียงนุ่ม ก่อนพยักหน้าให้ลูกชาย
 
“ครับพ่อ ” เกล้ารับคำแล้วเดินออกจากห้องปล่อยให้คนทั้งสมได้คุยกัน
 
 
 
“เจ้าน้ำมนต์  ถึงเวลาแล้วนะ ” เสียงนุ่มที่ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้ยิน เอ่ยกับหลานชายคนเดียวของตน
 
“ถึงลูกจะหนีสุดท้ายลูกก็ต้องไปอยู่ดี ” มารดาเอ่ยขึ้นบ้าง
 
“ผมช่วยเค้าได้คนเดียวสินะ ” ผู้เป็นลุงกับมารดาไม่ตอบเลือกที่จะเงียบ เพราะเรื่องบางเรื่องไม่ยุ่งดีกว่าปล่อยให้เรียนรู้กันเอาเอง
 
“น้ำจะทำ มีเวลานานแค่ไหนให้ทำใจครับ ” อย่างน้อยขอแค่เตรียมตัวบ้าง
 
“ไม่มีเวลาแล้ว น้ำก็รู้ใช่ไหมลูก ” ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้น
 
“มีเวลาแค่วันนี้ เจ้าน้ำ ” ผู้เป็นลุงเอ่ยปาก น้ำรู้ ทำไมจะไม่รู้ วันนี้ยังช้าไปด้วยซ้ำ ถ้าน้ำไป แต่น้ำก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะไปช่วยร่างสูงคนนั้นได้ยังไง แค่รู้ว่าต้องไปแค่นั้นจริงๆ     
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
คือ อย่าไปเน้น หรืออิงเรื่องจริงมากนะ คนเขียนมโนล้วนๆ ไม่มีจริงหรอกบางคำศัพท์ที่ใช้ (อีนิมันมั่วนะ ท่านผู้อ่าน ) ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ แจะ นิยายชายรักชายนะ ไม่ชอบก็ปิดเลยจ้าไม่ว่ากัน แล้วเจอกันตอนใหม่ (ซึ่งไม่รุ้จะมาตอนไหน แฮะๆ )
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา