You And I เพื่อนรักกันตลอดไป
-
เขียนโดย BTS22MRT
วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.43 น.
13 บท
0 วิจารณ์
15.51K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 13.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) การจากไปของตี๋
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5 การจากไปของตี๋ The death of Mr.Tee.
พงศ์หาโอกาสมาเยี่ยมตี๋ แต่ไม่รู้ว่าตี๋อยู่ห้องไหน บังเอิญไปเจอพ่อแม่ของตี๋กำลังคุยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเนื้องงอกของตี๋ พงศ์ที่กะจะถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ ชะงัก
รีบเข้ามาทักพ่อแม่ของตี๋บอกว่า "ผมเป็นเพื่อนของตี๋ เป็นคนที่พาตี๋ มาส่งโรงพยาบาลอ่ะครับ" พ่อแม่ของตี๋ จึงพาขึ้นไป
เมื่อเข้าไปในห้องก็พบกับสภาพที่เห็นมีหมวกไหมพรมสีดำคลุมอยู่ที่หัวของตี๋ มะเร็งทำให้ผมของตี๋ร่วงหมดแล้ว พงศ์ร้องไห้
ตี๋ปลอบว่า "ไม่เป็นไร" อ้างว่า "รักษาได้"
พ่อแม่ของตี๋ เห็นเช่นนั้น จึงถาม "นี่ใช่คนที่หนูคบอยู่ไหม"
ตี๋ ตอบ "ใช่ครับ"
ตรงกันข้ามกับพ่อแม่ของพงศ์ พ่อแม่ของตี๋ไม่ได้ถือสา แค่ฝากให้ช่วยดูแลหน่อย หลังจากพ่อแม่ของตี๋กลับไปแล้ว พงศ์ก็อยู่ต่อจนหมดเวลาเยี่ยมแล้วกลับบ้าน
กลับบ้านก็เจอแม่ตัวเองยืนเท้าเอวอยู่หน้าบ้าน พงศ์ไม่สนใจเพราะรู้ว่าแม่จะพูดอะไร แล้วขึ้นห้องไป พงศ์มาเยี่ยมไข้ตี๋ เรื่อยๆ ทุกๆวันหลังเลิกงาน ต้องตรงมาที่โรงพยาบาลก่อนเสมอ มันเหมือนเป็นช่วงชีวิตสุดท้ายของตี๋ ที่มีความสุขที่สุดในโลก
พงศ์ป้อนข้าวตี๋ "เอ้าๆ กินเลย อ้ำๆๆ"ตี๋มองหน้าพงศ์กินไปยิ้มไป พงศ์ป้อนน้ำต่อ "กินน้ำด้วยๆ"
ตี๋สบโอกาสตอนป้อนน้ำหอมแก้มพงศ์ พงศ์เขินทำน้ำหกใส่ตี๋
พงศ์ว่า "เล่นอะไรเนี่ยหกหมดแล้วนะ"
พูดพร้อมเอาผ้ามาเช็ดให้ ตี๋ไม่หยุดหอมแก้มอีกครั้ง
และขอร้องว่า "หอมแก้มเค้าบ้างสิ" พงศ์ทำท่าแบบกล้าๆกลัวๆ หอมแปบๆ ดูยังไม่ชื่นใจนัก
ตี๋ว่า "นานกว่านี้หน่อยสิ หอมอีกทีน้าๆๆๆ" พงศ์เขินแต่สุดท้ายก็ยอมหอมนานๆ ตี๋เลยหอมตอบกันไปกันมา ทั้งคู่หยอกล้อกัน หัวเราะกันคิกคัก
พงศ์ว่า "พี่รู้ไหมว่ามีลูกน้องใหม่ผมคนหนึ่ง ไอนี่มันเอ๋อๆอ๋าๆชะมัดเลย ไม่ค่อยคุยกับใคร แต่งตัวธรรมดาดูเหมือนไม่มีการศึกษาเลย แต่ผมดูประวัติแล้วมันเรียนเก่งมากเลยนะ ลูกน้องผมอีกคนมันไปล้อว่า ไอนี่ทำอะไรไม่เป็นหรอก พอทำงานจริงมันเป็นงานทุกเรื่องเลยว่า เก่งกว่าลูกน้องคนเก่าอีก ลูกน้องที่ไปล้อมันหน้าแตกยับเลย ฮ่าๆๆๆ เห็นแล้วก็ขำ ดูคนทำงานเป็นต้องดูที่ผลงานจริงๆ ฮ่าๆๆๆ"
ตี๋หัวเราะ "ฮ่าๆๆๆ ก็ใช่น่ะสิ พี่ก็ชอบคนทำงานเป็นนะ ฮ่าๆๆๆ"
พงศ์ว่า "แล้วมีอีกเรื่องหนึ่งพี่......." พงศ์หาเรื่องตลกมาคุยอีกเรื่อยๆ ทำให้ตี๋หวนไปนึกถึงแดงตอนวัยเด็ก ที่วิ่งเล่นด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ดูดาวด้วยกัน เหมือนเป็นภาพที่เหมือนกันอะไรปานนั้น
ตี๋เริ่มน้ำตาคลอเบ้า
พงศ์เห็นถามว่า "เป็นอะไรไปพี่ ไม่ต้องร้องไห้สิ เราคุยเรื่องตลกกันไม่ใช่หรอ"
ตี๋ว่า "ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรหรอกน่า คนอะไรวะเล่าเรื่องตลกให้คนร้องไห้ได้ด้วย" ตี๋ยิ้มออกทั้งน้ำตา พงศ์กรอกตาแบบไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำให้ตี๋ร้องไห้ได้
พ่อแม่ของพงศ์ รู้สึกรอไม่ได้แล้ว รีบวิ่งหาฤกษ์แต่งงาน เตรียมพิธีอย่างเงียบๆ โดยไม่ให้พงศ์รู้
วันหนึ่งเมื่อพงศ์ กลับบ้าน มีกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง เอากระสอบคุมหัวพงศ์ แล้วพาเข้าไปในห้องนอนของพงศ์ แล้วล็อคประตูแน่น แม่ของพงศ์จ่ายค่าที่ช่วยลักพาตัวมากักเอาไว้
พงศ์เปิดกระสอบออก ร้องไห้บอกว่า "แม่ใจร้ายที่สุดเลย ปล่อยผมไปเดี๋ยวนี้นะ" พร้อมเอามือทุบประตูไปด้วย แม่ก็ไม่รับฟังเพราะจุดประสงค์คือต้องการให้ลูกมีแฟนเป็นผู้หญิง พงศ์หมกอยู่ในห้องหลายวันเอาอาหารเข้ามาให้ แล้วก็ปิดประตูล็อคเหมือนเดิม
จนถึงวันฤกษ์หมั้น แม่จับลูกชายอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวหมั้น
ในขณะนั้นเองที่โรงพยาบาล ตี๋มีอาการชักกระตุก พยาบาลเห็นรีบเข้ามาช่วยเรียกหมอช่วยปั๊มหัวใจตี๋ ตี๋รู้ตัวดีว่าตัวเองจะต้องตาย
จึงตั้งสัจอธิษฐานในใจว่า "ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้ากระทำมาทั้งหมดในชาตินี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดร่วมชาติกับ แดงและพงศ์ อีกเถิด"
ขณะเดียวกันพงศ์ กำลังถูกบังคับให้เอาแหวนหมั้นสวมให้กับเจ้าสาวอยู่
แม่พงศ์ "อะแฮมๆ พงศ์ลูก สวมแหวนหมั้น ให้เจ้าสาวสิลูก" พร้อมกระซิบข้างหูว่า "พงศ์อย่าดื้อกับแม่นะ ผู้ใหญ่เยอะแยะเลยนั่นเห็นไหม สวมเดี๋ยวนี้" พงศ์ทำท่าเหมือนจะขัดขืน แต่ก็ตัดสินใจสวมแหวนหมั้นไปทั้งๆที่ไม่ได้เต็มใจ
เป็นขณะเดียวกับที่ตี๋ หายใจเฮือกสุดท้าย
ตี๋พูดในใจว่า "พงศ์พี่ลาก่อน..แดงกูขอให้เจอมึงอีก..."
แล้วตี๋ ก็สิ้นลมทั้งๆที่ตาค้างอยู่นั่นเอง แพทย์เห็นแล้วว่าช่วยไม่ทันเอามือลูบที่ตาของตี๋ ให้หลับไป
แล้วเรียกให้พยาบาลไปโทรหาพ่อแม่ของตี๋ "คุณพยาบาลช่วยไปแจ้งพ่อแม่ของคนไข้ทีว่า เขาเสียชีวิตแล้ว"
พยาบาล "ได้ค่ะๆ" พยาบาลรีบเดินไปโทรศัพท์ "สวัสดีค่ะ พ่อแม่ของคุณธีรวัฒน์ใช่ไหมคะ"
แม่ของตี๋รับสาย "ใช่ค่ะๆ"พยาบาลพูดแบบเบาๆว่า "ทำใจดีๆไว้นะคะคุณธีรวัฒน์ได้เสียชีวิตแล้วค่ะ"
แม่ของตี๋ "อะไรนะ ฮือๆๆๆ ไม่ ไม่จริง"
พ่อตี๋เห็นมารับสายแทน "อาตี๋เสียชีวิตแล้วหรอครับ"
พยาบาลว่า "ใช่ค่ะ จะมารับศพวันนี้เลยไหมคะ"
พ่อของตี๋ "ครับๆเดี๋ยวรีบไปครับ" แม่ตี๋เศร้าใจมาก ร้องไห้หนักมาก พ่อตี๋พยายามปลอบใจ
ในคืนนั้น เป็นคืนที่วุ่นวายมาก ต้องติดต่อคนจัดงานศพกัน จองวัดกันให้วุ่น แจ้งข่าวกับทุกคนที่รู้จัก เช่น เพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกัน และเพื่อนทหารเก่า เลยมีเพื่อนทหารรวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชามาช่วยงานเป็นจำนวนมาก ต่างกระจายข่าวไปในหมู่ทหารอีกด้วย พ่อแม่ของตี๋ซึ่งชรามากแล้วเห็นเช่นนั้น ต่างปลื้มใจเพราะตนก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรใหญ่โตขนาดนี้ มีการนำศพมานอนไว้บนเตียงเตรียมรดน้ำศพ มีพวงหรีดมากมายเริ่มมีมาประดับ แต่ละพวงหรีดเป็นระดับเศรษฐีทั้งนั้น และที่ขาดไม่ได้คือพวงหรีดพระราชทานจากพระองค์ท่านรวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ก็พระราชทานมาอีกด้วย
พิธีหมั้นของพงศ์จบลงด้วยดี แต่ที่ไม่ดีคืออารมณ์ของพงศ์ ที่ห่วงหาตี๋ ตลอด จนวันรุ่งขึ้นแอบออกมาหาตี๋ พบว่าเป็นห้องว่างแล้ว
จึงถามพยาบาล พยาบาลบอกว่า "เสียใจด้วยนะคะคุณตี๋เสียชีวิตแล้วค่ะ" พงศ์ ร้องให้หนักมาก พยายามถามว่า "ร่างของพี่ตี๋ อยู่ที่ไหนหรือครับ ช่วยบอกผมที ฮือๆๆๆ"
(ติดตามตอนต่อไป)
พงศ์หาโอกาสมาเยี่ยมตี๋ แต่ไม่รู้ว่าตี๋อยู่ห้องไหน บังเอิญไปเจอพ่อแม่ของตี๋กำลังคุยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเนื้องงอกของตี๋ พงศ์ที่กะจะถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ ชะงัก
รีบเข้ามาทักพ่อแม่ของตี๋บอกว่า "ผมเป็นเพื่อนของตี๋ เป็นคนที่พาตี๋ มาส่งโรงพยาบาลอ่ะครับ" พ่อแม่ของตี๋ จึงพาขึ้นไป
เมื่อเข้าไปในห้องก็พบกับสภาพที่เห็นมีหมวกไหมพรมสีดำคลุมอยู่ที่หัวของตี๋ มะเร็งทำให้ผมของตี๋ร่วงหมดแล้ว พงศ์ร้องไห้
ตี๋ปลอบว่า "ไม่เป็นไร" อ้างว่า "รักษาได้"
พ่อแม่ของตี๋ เห็นเช่นนั้น จึงถาม "นี่ใช่คนที่หนูคบอยู่ไหม"
ตี๋ ตอบ "ใช่ครับ"
ตรงกันข้ามกับพ่อแม่ของพงศ์ พ่อแม่ของตี๋ไม่ได้ถือสา แค่ฝากให้ช่วยดูแลหน่อย หลังจากพ่อแม่ของตี๋กลับไปแล้ว พงศ์ก็อยู่ต่อจนหมดเวลาเยี่ยมแล้วกลับบ้าน
กลับบ้านก็เจอแม่ตัวเองยืนเท้าเอวอยู่หน้าบ้าน พงศ์ไม่สนใจเพราะรู้ว่าแม่จะพูดอะไร แล้วขึ้นห้องไป พงศ์มาเยี่ยมไข้ตี๋ เรื่อยๆ ทุกๆวันหลังเลิกงาน ต้องตรงมาที่โรงพยาบาลก่อนเสมอ มันเหมือนเป็นช่วงชีวิตสุดท้ายของตี๋ ที่มีความสุขที่สุดในโลก
พงศ์ป้อนข้าวตี๋ "เอ้าๆ กินเลย อ้ำๆๆ"ตี๋มองหน้าพงศ์กินไปยิ้มไป พงศ์ป้อนน้ำต่อ "กินน้ำด้วยๆ"
ตี๋สบโอกาสตอนป้อนน้ำหอมแก้มพงศ์ พงศ์เขินทำน้ำหกใส่ตี๋
พงศ์ว่า "เล่นอะไรเนี่ยหกหมดแล้วนะ"
พูดพร้อมเอาผ้ามาเช็ดให้ ตี๋ไม่หยุดหอมแก้มอีกครั้ง
และขอร้องว่า "หอมแก้มเค้าบ้างสิ" พงศ์ทำท่าแบบกล้าๆกลัวๆ หอมแปบๆ ดูยังไม่ชื่นใจนัก
ตี๋ว่า "นานกว่านี้หน่อยสิ หอมอีกทีน้าๆๆๆ" พงศ์เขินแต่สุดท้ายก็ยอมหอมนานๆ ตี๋เลยหอมตอบกันไปกันมา ทั้งคู่หยอกล้อกัน หัวเราะกันคิกคัก
พงศ์ว่า "พี่รู้ไหมว่ามีลูกน้องใหม่ผมคนหนึ่ง ไอนี่มันเอ๋อๆอ๋าๆชะมัดเลย ไม่ค่อยคุยกับใคร แต่งตัวธรรมดาดูเหมือนไม่มีการศึกษาเลย แต่ผมดูประวัติแล้วมันเรียนเก่งมากเลยนะ ลูกน้องผมอีกคนมันไปล้อว่า ไอนี่ทำอะไรไม่เป็นหรอก พอทำงานจริงมันเป็นงานทุกเรื่องเลยว่า เก่งกว่าลูกน้องคนเก่าอีก ลูกน้องที่ไปล้อมันหน้าแตกยับเลย ฮ่าๆๆๆ เห็นแล้วก็ขำ ดูคนทำงานเป็นต้องดูที่ผลงานจริงๆ ฮ่าๆๆๆ"
ตี๋หัวเราะ "ฮ่าๆๆๆ ก็ใช่น่ะสิ พี่ก็ชอบคนทำงานเป็นนะ ฮ่าๆๆๆ"
พงศ์ว่า "แล้วมีอีกเรื่องหนึ่งพี่......." พงศ์หาเรื่องตลกมาคุยอีกเรื่อยๆ ทำให้ตี๋หวนไปนึกถึงแดงตอนวัยเด็ก ที่วิ่งเล่นด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ดูดาวด้วยกัน เหมือนเป็นภาพที่เหมือนกันอะไรปานนั้น
ตี๋เริ่มน้ำตาคลอเบ้า
พงศ์เห็นถามว่า "เป็นอะไรไปพี่ ไม่ต้องร้องไห้สิ เราคุยเรื่องตลกกันไม่ใช่หรอ"
ตี๋ว่า "ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรหรอกน่า คนอะไรวะเล่าเรื่องตลกให้คนร้องไห้ได้ด้วย" ตี๋ยิ้มออกทั้งน้ำตา พงศ์กรอกตาแบบไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำให้ตี๋ร้องไห้ได้
พ่อแม่ของพงศ์ รู้สึกรอไม่ได้แล้ว รีบวิ่งหาฤกษ์แต่งงาน เตรียมพิธีอย่างเงียบๆ โดยไม่ให้พงศ์รู้
วันหนึ่งเมื่อพงศ์ กลับบ้าน มีกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง เอากระสอบคุมหัวพงศ์ แล้วพาเข้าไปในห้องนอนของพงศ์ แล้วล็อคประตูแน่น แม่ของพงศ์จ่ายค่าที่ช่วยลักพาตัวมากักเอาไว้
พงศ์เปิดกระสอบออก ร้องไห้บอกว่า "แม่ใจร้ายที่สุดเลย ปล่อยผมไปเดี๋ยวนี้นะ" พร้อมเอามือทุบประตูไปด้วย แม่ก็ไม่รับฟังเพราะจุดประสงค์คือต้องการให้ลูกมีแฟนเป็นผู้หญิง พงศ์หมกอยู่ในห้องหลายวันเอาอาหารเข้ามาให้ แล้วก็ปิดประตูล็อคเหมือนเดิม
จนถึงวันฤกษ์หมั้น แม่จับลูกชายอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวหมั้น
ในขณะนั้นเองที่โรงพยาบาล ตี๋มีอาการชักกระตุก พยาบาลเห็นรีบเข้ามาช่วยเรียกหมอช่วยปั๊มหัวใจตี๋ ตี๋รู้ตัวดีว่าตัวเองจะต้องตาย
จึงตั้งสัจอธิษฐานในใจว่า "ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้ากระทำมาทั้งหมดในชาตินี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดร่วมชาติกับ แดงและพงศ์ อีกเถิด"
ขณะเดียวกันพงศ์ กำลังถูกบังคับให้เอาแหวนหมั้นสวมให้กับเจ้าสาวอยู่
แม่พงศ์ "อะแฮมๆ พงศ์ลูก สวมแหวนหมั้น ให้เจ้าสาวสิลูก" พร้อมกระซิบข้างหูว่า "พงศ์อย่าดื้อกับแม่นะ ผู้ใหญ่เยอะแยะเลยนั่นเห็นไหม สวมเดี๋ยวนี้" พงศ์ทำท่าเหมือนจะขัดขืน แต่ก็ตัดสินใจสวมแหวนหมั้นไปทั้งๆที่ไม่ได้เต็มใจ
เป็นขณะเดียวกับที่ตี๋ หายใจเฮือกสุดท้าย
ตี๋พูดในใจว่า "พงศ์พี่ลาก่อน..แดงกูขอให้เจอมึงอีก..."
แล้วตี๋ ก็สิ้นลมทั้งๆที่ตาค้างอยู่นั่นเอง แพทย์เห็นแล้วว่าช่วยไม่ทันเอามือลูบที่ตาของตี๋ ให้หลับไป
แล้วเรียกให้พยาบาลไปโทรหาพ่อแม่ของตี๋ "คุณพยาบาลช่วยไปแจ้งพ่อแม่ของคนไข้ทีว่า เขาเสียชีวิตแล้ว"
พยาบาล "ได้ค่ะๆ" พยาบาลรีบเดินไปโทรศัพท์ "สวัสดีค่ะ พ่อแม่ของคุณธีรวัฒน์ใช่ไหมคะ"
แม่ของตี๋รับสาย "ใช่ค่ะๆ"พยาบาลพูดแบบเบาๆว่า "ทำใจดีๆไว้นะคะคุณธีรวัฒน์ได้เสียชีวิตแล้วค่ะ"
แม่ของตี๋ "อะไรนะ ฮือๆๆๆ ไม่ ไม่จริง"
พ่อตี๋เห็นมารับสายแทน "อาตี๋เสียชีวิตแล้วหรอครับ"
พยาบาลว่า "ใช่ค่ะ จะมารับศพวันนี้เลยไหมคะ"
พ่อของตี๋ "ครับๆเดี๋ยวรีบไปครับ" แม่ตี๋เศร้าใจมาก ร้องไห้หนักมาก พ่อตี๋พยายามปลอบใจ
ในคืนนั้น เป็นคืนที่วุ่นวายมาก ต้องติดต่อคนจัดงานศพกัน จองวัดกันให้วุ่น แจ้งข่าวกับทุกคนที่รู้จัก เช่น เพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกัน และเพื่อนทหารเก่า เลยมีเพื่อนทหารรวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชามาช่วยงานเป็นจำนวนมาก ต่างกระจายข่าวไปในหมู่ทหารอีกด้วย พ่อแม่ของตี๋ซึ่งชรามากแล้วเห็นเช่นนั้น ต่างปลื้มใจเพราะตนก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรใหญ่โตขนาดนี้ มีการนำศพมานอนไว้บนเตียงเตรียมรดน้ำศพ มีพวงหรีดมากมายเริ่มมีมาประดับ แต่ละพวงหรีดเป็นระดับเศรษฐีทั้งนั้น และที่ขาดไม่ได้คือพวงหรีดพระราชทานจากพระองค์ท่านรวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ก็พระราชทานมาอีกด้วย
พิธีหมั้นของพงศ์จบลงด้วยดี แต่ที่ไม่ดีคืออารมณ์ของพงศ์ ที่ห่วงหาตี๋ ตลอด จนวันรุ่งขึ้นแอบออกมาหาตี๋ พบว่าเป็นห้องว่างแล้ว
จึงถามพยาบาล พยาบาลบอกว่า "เสียใจด้วยนะคะคุณตี๋เสียชีวิตแล้วค่ะ" พงศ์ ร้องให้หนักมาก พยายามถามว่า "ร่างของพี่ตี๋ อยู่ที่ไหนหรือครับ ช่วยบอกผมที ฮือๆๆๆ"
(ติดตามตอนต่อไป)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ