บันทึกป่วน วิญญาณนิสัยแย่
8.0
เขียนโดย Broskev
วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.31 น.
20 ตอน
0 วิจารณ์
21.85K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559 20.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) ธาตุหยางแตกซ่าน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแทบจะเหาะลงมาจากต้นไม้ ข้าฉุดลากเสียนจื่อลงมาด้วยในสภาพทุลักทุเล
“เจ้า ให้คนไปตามหมอมา เดี๋ยวนี้” แต่เสี้ยววินาทีนั้น ข้ากลับคิดอะไรได้ รีบดึงมันกลับ
“ไม่ ปล่อยไว้อย่างนั้น ข้าเตรียมของไว้แล้ว ตามมา"
อย่างไรตอนนี้ต้องหยุดน้ำที่ไหลนั่นก่อน
ผ่านพุ่มไม้กลับไปยังโคนต้นที่พึ่งโดดลงมา กระเป๋าย่ามใบหนึ่งวางกองอยู่ตรงนั้นมือหยิบขวดยาสองสามขวดออกมากะปริมาณและผสมในขวดเปล่าต่างหากอีกใบ เขย่าเล็กน้อย
เทลงในผ้าผืนเล็กอย่างใจเย็น
"นายน้อย นายท่านจะเป็นไรหรือไม่ "
เสียนจื่อที่ยืนกระสับกระส่ายไปมาในที่สุดก็ ไม่อาจทนไหวต้องถามขึ้น
"อย่าห่วง"
เมื่อจัดการปรุงยาเสร็จ ข้าก็ก้าวไปยังหน้าต่างห้องทำงาน
"ดูต้นทาง" กล่าว เบาๆก็โดดเข้าไปในห้อง ทิ้งเสียนจื่อไว้ตรงนั้น
ดีที่ท่านแม่มัวแต่แตกตื่นทำตัวไม่ถูก ข้าที่เข้าข้างหลังจึงสามารถโปะยาสลบให้ท่านได้ โดยไม่เหลือบ่ากว่าแรง
"นายน้อยทำอะไร!!!"
อุตส่าห์ ทิ้งมันไว้ข้างนอก มันกลับยังตามมาอีก
ดีที่มันยังรู้งาน ยื่นส่งเสื้อผ้าของท่านแม่มาให้ แต่ก็ยังไม่วายเหลือบมองคนที่กระตุกๆข้าง ๆเห็นอาการอกสั่น สติหายนั้นแล้ว หยอกเย้าเสียนจื่อสักหน่อยเป็นไร
"นายน้อยจะไม่ช่วยนายท่านหรือขอรับ"
"งั้น เจ้าก็ทำสิ เร็วๆด้วยล่ะ อาการท่านพ่อแย่มาก "
ทำเป็นยุ่งวุ่นวายกับการใส่ชุดให้ท่านแม่ ดึงปิ่นปักผมทองปลายแหลม ของท่านยัดใส่มือเด็กน้อย
มันมองปิ่นในมือด้วยความงุนงงสงสัย ทั้งหวาดกลัว ทั้งทำอะไรไม่ถูกมันกลัวเหลือเกิน หากนายท่านหยางจินเป็นอะไรไป มันก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบได้
ของในมือสว่างสะท้องแสงเทียน ยามนี้เป็นประกาย เสียดตา
พึ่งสังเกตว่ามือตัวเองกำลังสั่นเทาไม่หยุด
กุมมือแน่น บังคับ ให้หยุดนิ่ง
นายน้อยวางตัวนิ่งเฉยได้ มันก็ต้องทำให้ได้ มองของในมืออย่างตั้งใจอีกครั้ง
ปิ่นนี่จะช่วยนายท่านได้อย่างไร
ยิ่งมองใกล้ๆ ท่านหยางจินในตอนนี้ไม่มีมาดพ่อค้าเจ้าเลห์ ท่าทางภูมิฐาน อีกต่อไปตลอดตัวไม่สวมใส่เสื้อผ้า ตาเหลือกหน้าเหลือง สั่นกระตุกเป็นพักๆ
แท่งที่แข็งตั้งนั้นมีของเหลวขาวไหลออกมาไม่หยุด
เสียงเรียบๆของนายน้อยฉุดดึงมันออกจากพวัง
"เอาปิ่นไปลนไฟฆ่าเชื้อ เดี๋ยวนี้ ข้าพูดสองครั้งแล้วนะ"
วิ่งไปหาเทียนที่โต๊ะที่ใกล้ที่สุดทำตามอย่างว่าง่าย เสร็จก็รีบกลับมาทันที
ก่อนที่มันจะหยุดวิ่ง อีกคำสั่งก็ตามมา
"เอาปิ่นไปแทงไอ้แท่งนั่นให้มันหยุดไหล"
"ทะ แทง??!! "
แทงตรงนั้นของนายท่าน !!!
นายน้อยใช่วางแผนตอนพ่อตัวเองแต่แรกหรือไม่??
ทั้งยังให้มันเป็นคนลงมีด ด้วยปิ่นทองอันหนึ่งเนี่ยนะมองปลายแหลมของปิ่นในมือ รู้สึกเสียวหว่างขา มวลในท้องอย่างไรพิกล
โหดร้าย ดิบเถื่อนยิ่ง
"เร็วๆ ไม่งั้นท่านพ่อตายแน่"
"แต่ แต่จะให้ ทะ แทง แทงยังไง ด้านข้าง หน้า หลัง หรือว่าตรงๆ นายน้อย ท่านทำเถอะ"
"แทงๆไปเถอะ แรง ๆ ให้มันหยุด เดี๋ยว นี้!!!"
สบตาคาดคั้นสีฟ้าสวย สบตาเหลือกสีฟ้่าเข้ม มองของมองคน เหลียวซ้าย แลขวา
ไม่แน่หากไม่ทำนายท่านอาจตายจริงก็ได้
มันตัวสั่นงันงก ละล้าละลัง
เหลือบตามองหน้าร่างบนพื้น ตาเหลือกไม่ได้สติปานนี้ อย่างไร นายท่านต้องไม่รู้แน่ว่าเป็นฝีมือมัน
ตัดใจเงี้องแล้วแทงลงไปด้วยอำมหิต!!!
............................................................
เช้า วันนี้ก็เป็นวันที่สดใสอีกวัน
ข้าก็ยังทานอาหารเช้าด้วยความสดชื่นอีกวัน
เจียงเย่มองข้าที่แม้ยังคงรักษาหน้านิ่งเฉยด้วยความแปลกใจ ผิดกับคนด้านข้าง
เสียนจื่อ ที่หน้าซีดดวงตาดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด แม้สองคนนี้จะมีสีหน้าเฉยชาเหมือนกัน ออร่ากลับต่างกันลิบ
"วันนี้มีอะไรดีๆหรือ ฮัวเหลียน"
“อาเย่สนใจหรือ งั้นคราวหน้าข้าจะเอาเจ้าไปร่วมสนุกด้วย
มันเยี่ยมมาก เสียนจื่อยังติดใจ ได้เล่นกับมือเลยใช่หรือไม่”
เสียนจื่อกลอกตาขึ้นฟ้า “ขอรับ เยี่ยมมากจริงๆ”
เย่เย่ตาเป็นประกายกระตือรือร้น ราวลูกสุนักเห็นกระดูก ดีใจเหลือเกินที่จะได้มีส่วนร่วมในอะไรก็ตามมันอยู่บ้านไร้เรื่องราวกระทำ ไม่มีใครเล่น หรือคุยกับมัน น่าเบื่อนัก
“ข้าไปๆ ให้ทำอะไร ข้าก็ทำทั้งนั้น”
“ดี”
ไม่ทันขาดคำ บ่าวชายคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบมารายงานละล้ำละลัก
"นายน้อยๆแย่แล้วขอรับ เมื่อคืนอายี่ไปเจอนายท่านสลบบนพื้นห้องหนังสือ ข้างกับอนุหลัน
ความจริงได้เรียกหมอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ฮูหยินไม่ต้องการรบกวนนายน้อย
จึงให้มาเรียนว่า ตอนเช้านี้ท่าน ทั้งคู่ พึ่งฟื้น และไม่เป็นอะไรมากขอรับ"
เสียนจื่อฟังคำรายงานก็สะดุ้งเฮือก ยืนกระสับกระส่าย เม็ดเหงื่อผุดพราว
มันออกอาการจนคนรายงานสังเกตเห็น
"เสียนจื่อ วันนี้สีหน้าเจ้าดูไมดีเลย ไม่สบายอีกคนหรือ"
"เปล่า แค่นอนไม่หลับหนะ"
ชื่นชมสีหน้าท่าทางดุจคนมีชนักติดหลังของคนข้างตัว ข้านั่นรื่นรมนัก
"ถ้างั้นก่อนไปสำนักไป๋ จะไปเยี่ยมนายท่านก่อนดีหรือไม่" เจียงเย่เสนอ
อืมมมม ไปดูผลก็น่าจะดี
"งั้นไป" ข้าลุกเดินออกจากห้องระรื่นใจ
ผิดกับบ่าวชายคนสนิทคนดี ที่บัดนี้ เปลี่ยนหน้าจากซีดเซียวเป็นเขียวคล้ำก้าวตามอย่างหวาดๆ
ดังคาด สาเหตุอาการป่วยของท่านพ่อถูกอ้างเป็น
“ร่างกายอ่อนเพลียจากการโหมทำงานหนัก”
เล่นเอาข้ากับเสียนจื่อแทบหลุดหัวเราะออกมา
เพียงเห็นแก่หน้าท่านพ่อที่อยู่บนเตียง สีหน้าแววตาซีดเซียว แทบเห็นเส้นเลือด
เรียวแรงเหือดหาย จะเอ่ยปากสักคำดังสูบเอาพลังชีวิตไปสิ้น
ข้าก็ได้แต่เก็บปาก เอาลิ้นไปซ่อน
ส่วนท่านแม่กลับปฎิเสธการเข้าพบ ไม่ว่ากับใครทั้งนั้นโดยอ้างว่าต้องการพักผ่อน
เอาเถอะ ข้าออกจากบ้านพร้อมกับความคิดที่จะปรับปริมาณยาใหม่ในครั้งหน้า
ขณะที่เสียนจื่อออกจากบ้านพร้อมกับเอาใจช่วยให้อนุหลันตั้งครรห์เสียที
ไม่เช่นนั้น นายท่านของมัน... ถ้าคนไม่ตาย นกกระจอกของท่านตัวนั้นคงดับแน่แล้ว
“เจ้า ให้คนไปตามหมอมา เดี๋ยวนี้” แต่เสี้ยววินาทีนั้น ข้ากลับคิดอะไรได้ รีบดึงมันกลับ
“ไม่ ปล่อยไว้อย่างนั้น ข้าเตรียมของไว้แล้ว ตามมา"
อย่างไรตอนนี้ต้องหยุดน้ำที่ไหลนั่นก่อน
ผ่านพุ่มไม้กลับไปยังโคนต้นที่พึ่งโดดลงมา กระเป๋าย่ามใบหนึ่งวางกองอยู่ตรงนั้นมือหยิบขวดยาสองสามขวดออกมากะปริมาณและผสมในขวดเปล่าต่างหากอีกใบ เขย่าเล็กน้อย
เทลงในผ้าผืนเล็กอย่างใจเย็น
"นายน้อย นายท่านจะเป็นไรหรือไม่ "
เสียนจื่อที่ยืนกระสับกระส่ายไปมาในที่สุดก็ ไม่อาจทนไหวต้องถามขึ้น
"อย่าห่วง"
เมื่อจัดการปรุงยาเสร็จ ข้าก็ก้าวไปยังหน้าต่างห้องทำงาน
"ดูต้นทาง" กล่าว เบาๆก็โดดเข้าไปในห้อง ทิ้งเสียนจื่อไว้ตรงนั้น
ดีที่ท่านแม่มัวแต่แตกตื่นทำตัวไม่ถูก ข้าที่เข้าข้างหลังจึงสามารถโปะยาสลบให้ท่านได้ โดยไม่เหลือบ่ากว่าแรง
"นายน้อยทำอะไร!!!"
อุตส่าห์ ทิ้งมันไว้ข้างนอก มันกลับยังตามมาอีก
ดีที่มันยังรู้งาน ยื่นส่งเสื้อผ้าของท่านแม่มาให้ แต่ก็ยังไม่วายเหลือบมองคนที่กระตุกๆข้าง ๆเห็นอาการอกสั่น สติหายนั้นแล้ว หยอกเย้าเสียนจื่อสักหน่อยเป็นไร
"นายน้อยจะไม่ช่วยนายท่านหรือขอรับ"
"งั้น เจ้าก็ทำสิ เร็วๆด้วยล่ะ อาการท่านพ่อแย่มาก "
ทำเป็นยุ่งวุ่นวายกับการใส่ชุดให้ท่านแม่ ดึงปิ่นปักผมทองปลายแหลม ของท่านยัดใส่มือเด็กน้อย
มันมองปิ่นในมือด้วยความงุนงงสงสัย ทั้งหวาดกลัว ทั้งทำอะไรไม่ถูกมันกลัวเหลือเกิน หากนายท่านหยางจินเป็นอะไรไป มันก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบได้
ของในมือสว่างสะท้องแสงเทียน ยามนี้เป็นประกาย เสียดตา
พึ่งสังเกตว่ามือตัวเองกำลังสั่นเทาไม่หยุด
กุมมือแน่น บังคับ ให้หยุดนิ่ง
นายน้อยวางตัวนิ่งเฉยได้ มันก็ต้องทำให้ได้ มองของในมืออย่างตั้งใจอีกครั้ง
ปิ่นนี่จะช่วยนายท่านได้อย่างไร
ยิ่งมองใกล้ๆ ท่านหยางจินในตอนนี้ไม่มีมาดพ่อค้าเจ้าเลห์ ท่าทางภูมิฐาน อีกต่อไปตลอดตัวไม่สวมใส่เสื้อผ้า ตาเหลือกหน้าเหลือง สั่นกระตุกเป็นพักๆ
แท่งที่แข็งตั้งนั้นมีของเหลวขาวไหลออกมาไม่หยุด
เสียงเรียบๆของนายน้อยฉุดดึงมันออกจากพวัง
"เอาปิ่นไปลนไฟฆ่าเชื้อ เดี๋ยวนี้ ข้าพูดสองครั้งแล้วนะ"
วิ่งไปหาเทียนที่โต๊ะที่ใกล้ที่สุดทำตามอย่างว่าง่าย เสร็จก็รีบกลับมาทันที
ก่อนที่มันจะหยุดวิ่ง อีกคำสั่งก็ตามมา
"เอาปิ่นไปแทงไอ้แท่งนั่นให้มันหยุดไหล"
"ทะ แทง??!! "
แทงตรงนั้นของนายท่าน !!!
นายน้อยใช่วางแผนตอนพ่อตัวเองแต่แรกหรือไม่??
ทั้งยังให้มันเป็นคนลงมีด ด้วยปิ่นทองอันหนึ่งเนี่ยนะมองปลายแหลมของปิ่นในมือ รู้สึกเสียวหว่างขา มวลในท้องอย่างไรพิกล
โหดร้าย ดิบเถื่อนยิ่ง
"เร็วๆ ไม่งั้นท่านพ่อตายแน่"
"แต่ แต่จะให้ ทะ แทง แทงยังไง ด้านข้าง หน้า หลัง หรือว่าตรงๆ นายน้อย ท่านทำเถอะ"
"แทงๆไปเถอะ แรง ๆ ให้มันหยุด เดี๋ยว นี้!!!"
สบตาคาดคั้นสีฟ้าสวย สบตาเหลือกสีฟ้่าเข้ม มองของมองคน เหลียวซ้าย แลขวา
ไม่แน่หากไม่ทำนายท่านอาจตายจริงก็ได้
มันตัวสั่นงันงก ละล้าละลัง
เหลือบตามองหน้าร่างบนพื้น ตาเหลือกไม่ได้สติปานนี้ อย่างไร นายท่านต้องไม่รู้แน่ว่าเป็นฝีมือมัน
ตัดใจเงี้องแล้วแทงลงไปด้วยอำมหิต!!!
............................................................
เช้า วันนี้ก็เป็นวันที่สดใสอีกวัน
ข้าก็ยังทานอาหารเช้าด้วยความสดชื่นอีกวัน
เจียงเย่มองข้าที่แม้ยังคงรักษาหน้านิ่งเฉยด้วยความแปลกใจ ผิดกับคนด้านข้าง
เสียนจื่อ ที่หน้าซีดดวงตาดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด แม้สองคนนี้จะมีสีหน้าเฉยชาเหมือนกัน ออร่ากลับต่างกันลิบ
"วันนี้มีอะไรดีๆหรือ ฮัวเหลียน"
“อาเย่สนใจหรือ งั้นคราวหน้าข้าจะเอาเจ้าไปร่วมสนุกด้วย
มันเยี่ยมมาก เสียนจื่อยังติดใจ ได้เล่นกับมือเลยใช่หรือไม่”
เสียนจื่อกลอกตาขึ้นฟ้า “ขอรับ เยี่ยมมากจริงๆ”
เย่เย่ตาเป็นประกายกระตือรือร้น ราวลูกสุนักเห็นกระดูก ดีใจเหลือเกินที่จะได้มีส่วนร่วมในอะไรก็ตามมันอยู่บ้านไร้เรื่องราวกระทำ ไม่มีใครเล่น หรือคุยกับมัน น่าเบื่อนัก
“ข้าไปๆ ให้ทำอะไร ข้าก็ทำทั้งนั้น”
“ดี”
ไม่ทันขาดคำ บ่าวชายคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบมารายงานละล้ำละลัก
"นายน้อยๆแย่แล้วขอรับ เมื่อคืนอายี่ไปเจอนายท่านสลบบนพื้นห้องหนังสือ ข้างกับอนุหลัน
ความจริงได้เรียกหมอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ฮูหยินไม่ต้องการรบกวนนายน้อย
จึงให้มาเรียนว่า ตอนเช้านี้ท่าน ทั้งคู่ พึ่งฟื้น และไม่เป็นอะไรมากขอรับ"
เสียนจื่อฟังคำรายงานก็สะดุ้งเฮือก ยืนกระสับกระส่าย เม็ดเหงื่อผุดพราว
มันออกอาการจนคนรายงานสังเกตเห็น
"เสียนจื่อ วันนี้สีหน้าเจ้าดูไมดีเลย ไม่สบายอีกคนหรือ"
"เปล่า แค่นอนไม่หลับหนะ"
ชื่นชมสีหน้าท่าทางดุจคนมีชนักติดหลังของคนข้างตัว ข้านั่นรื่นรมนัก
"ถ้างั้นก่อนไปสำนักไป๋ จะไปเยี่ยมนายท่านก่อนดีหรือไม่" เจียงเย่เสนอ
อืมมมม ไปดูผลก็น่าจะดี
"งั้นไป" ข้าลุกเดินออกจากห้องระรื่นใจ
ผิดกับบ่าวชายคนสนิทคนดี ที่บัดนี้ เปลี่ยนหน้าจากซีดเซียวเป็นเขียวคล้ำก้าวตามอย่างหวาดๆ
ดังคาด สาเหตุอาการป่วยของท่านพ่อถูกอ้างเป็น
“ร่างกายอ่อนเพลียจากการโหมทำงานหนัก”
เล่นเอาข้ากับเสียนจื่อแทบหลุดหัวเราะออกมา
เพียงเห็นแก่หน้าท่านพ่อที่อยู่บนเตียง สีหน้าแววตาซีดเซียว แทบเห็นเส้นเลือด
เรียวแรงเหือดหาย จะเอ่ยปากสักคำดังสูบเอาพลังชีวิตไปสิ้น
ข้าก็ได้แต่เก็บปาก เอาลิ้นไปซ่อน
ส่วนท่านแม่กลับปฎิเสธการเข้าพบ ไม่ว่ากับใครทั้งนั้นโดยอ้างว่าต้องการพักผ่อน
เอาเถอะ ข้าออกจากบ้านพร้อมกับความคิดที่จะปรับปริมาณยาใหม่ในครั้งหน้า
ขณะที่เสียนจื่อออกจากบ้านพร้อมกับเอาใจช่วยให้อนุหลันตั้งครรห์เสียที
ไม่เช่นนั้น นายท่านของมัน... ถ้าคนไม่ตาย นกกระจอกของท่านตัวนั้นคงดับแน่แล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ