ในเรือนเบี้ย
8.0
เขียนโดย ilithyia
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.43 น.
10 ตอน
0 วิจารณ์
11.97K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 21.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) วาดดาว(100%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ พิรัลเดินตามวาดดาวมาตามทางเดินของบ้าน ด้วยความอยากจะแกล้งก็เดินสาวเท้าให้ยาวหน่อยจนเหยียบส้นรองเท้าแตะของวาดดาวได้สองสามที จนเพื่อนบ้านสาวหันมาทำตาเขียวใส่ พิรัลเพี้ยนหนักเพราะจินตนาการเอาเองว่ามีแสงสีแดงวาวในตาเธอเหมือนตาแมวในความมืด
“นี่ยังใช้สะพานไฟแบบเก่าอยู่อีกเหรอ” พิรัลถามเมื่อวาดดาวพาเขาเดินมาตรงมุมเสาที่คิดว่าเป็นต้นเหตุ
“ก็ใช้อย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เห็นจะมีปัญหา”
“แต่ตอนนี้ที่บ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะแยะ พึ่งติดแอร์ไม่ใช่เหรอ สะพานไฟแค่นี่มันจะไปเอาอยู่ได้ไง” ไม่ต้องมองก็รู้ว่าตอนนี้วาดดาวหน้างอจนคางจะชิดอกได้อยู่แล้ว
“แล้วพอจะซ่อมได้ไหมลูก” แม่นวลนภาเดินมาหยุดอยู่ไม่ไกลเอ่ยถามขึ้น
“ก็พอซ่อมให้ใช้ได้ชั่วคราวไปก่อนครับ แต่วินว่าเราควรเดินสายไฟในบ้านใหม่ทั้งหมดแล้วก็ติดเบรกเกอร์ สายไฟเหลืองขนาดนี้ดีไม่ดีอายุพอๆกับวี แก่น่าดู” พูดจบพิรัลกับแม่นวลนภาก็หัวเราะเรื่องจิกกัดว่าวาดดาวแก่
“อย่ามาว่าฉันแก่นะวิน ฉันแก่เธอก็แก่ วินเกิดก่อนวีสองเดือนนะ”
“โอเค ไม่ว่าก็ได้ มีไฟฉายไหม แสงเทียนมันมองไม่ค่อยชัดเลย เอาไคควงให้ด้วย”
“ไม่มีหรอก” วาดดาวส่ายหน้า ก็บ้านนี้มีแต่ผู้หญิงอุปกรณ์ช่างแทบไม่เคยได้ใช้ ของเก่าๆของพ่อก็ขายร้านรับซื้อของเก่าไปหมด
พิรัลเดินกลับไปที่บ้านเพื่อเอาของที่ต้องใช้ เขาย้ายมาอยู่กับป้าตั้งแต่อายุห้าขวบเมื่อพ่อกับแม่ของเขาหย่ากัน พ่อแม่ของเขาต่างก็มีครอบครัวใหม่ ป้าวิมลแต่งงานแต่ไม่มีลูกจึงขอให้เขามาอยู่ด้วย ส่วนลุงพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว
ไฟทั่วบ้านสว่างอีกครั้งเมื่อพิรัลดึงสะพานไฟขึ้นหลังซ่อมเสร็จ
“เปลี่ยนระบบไฟใหม่ทั้งบ้านนี่ไม่รู้จะหมดกี่บาท ทั้งค่าสายไฟ ค่าอุปกรณ์ ค่าจ้างช่าง” เอาอีกแล้ว ผีหัวหน้าการเงินเข้าสิงอีกจนได้ พิรัลได้แต่บ่นในใจ
“เอาอย่างนี้นะ อุปกรณ์ทั้งหมดเราไปหาซื้อด้วยกัน จะได้ราคาถูกหน่อย เราพอรู้จักร้าน แล้วก็ไม่ต้องจ้างช่าง เดี๋ยวเราทำให้เอง” วาดดาวขมวดคิ้วมองหน้าพิรัล ไม่ไว้ใจเขาที่มาอาสาเปลี่ยนไฟที่บ้านให้ กลัวว่าจะติดหนี้บุญคุณเขาแล้วจะโดนทวงคืนเอาทีหลัง
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่ไว้ใจฝีมือวินเหรอ ถ้างานง่ายๆแค่นี้คิดว่าวินทำเองไม่ได้ วีก็ไปบอกบอสไล่วินออกเถอะ วินคงเป็นช่างที่บริษัทไม่ได้ละ” ถึงทีผู้ชายหน้าง้ำวาดดาวก็อดขำไม่ได้ ตัวหรือก็โต เธอยังไม่ได้ว่าอะไรก็งอนแล้ว
“วีไม่ได้บอกเลยว่าวินจะทำไม่ได้ วีแค่ไม่อย่าเป็นหนี้บุญคุณ”
“วินไม่ให้ติดหนี้บุญคุณหรอก วินไม่ได้ทำให้ฟรี” ยังไม่ทันได้ถามเรื่องค่าจ้างแม่ของเธอก็มาตามให้ไปกินข้าวที่พึ่งอุ่นใหม่เพราะทำเสร็จตั้งแต่ก่อนไฟดับจนกับข้าวเย็นหมด
“กับข้าวน่ากินมากเลยฮะ แต่วินพึ่งกินข้าวกับป้ามา ถ้าวินกินน้อยแม่ภาว่าวินนะครับ” พิรัลพูดหวังเอาใจ
“แม่ครับ เดี๋ยวเสาร์อาทิตย์นี้วินจะมาเปลี่ยนไฟในบ้านให้ใหม่หมดเลย” พิรัลหันไปบอกมารดาของวาดดาวขณะกำลังช่วยเก็บจานชามที่กินเสร็จ
“ผมว่าจะคิดค่าจ้าง เป็นข้าวเย็นสักอาทิตย์ละวัน” พิรัลหันไปเห็นวาดดาวทำตาโต เขารีบอธิบายต่อทันทีก่อนที่หญิงสาวจะทันได้ขัด
“พอดีป้าถือศีลแปดวันพระ จะกวนแกทำข้าวเย็นให้ผมกินคนเดียวก็เกรงใจ อีกอย่างนั่งกินข้าวคนเดียวมันก็เหงาด้วย ยายให้ผมมากินข้าวที่นี่ได้ไหมครับ” พิรัลหันไปขออนุญาตผู้อาวุโสสุด เพราะถ้ายายบอกว่าอนุญาตแล้ว วาดดาวก็คงปฏิเสธไม่ได้
“ได้สิลูก จะมากินทุกวันยายก็ไม่ว่าหรอก” พิรัลรีบไหว้ขอบคุณที่ยายนวลอนุญาต แค่นี้ก็ถือว่าเขาได้ไฟเขียวแล้ว
“แล้วนายจะมากินข้าวที่นี่ถึงเมื่อไหร่ มันต้องมีวันสิ้นสุดข้อตกลงสิ”
“ก็มาเรื่อยๆ จนกว่าวีจะมีแฟน เดี๋ยวแฟนวีจะเข้าใจผิด” พิรัลทำหน้าทะเล้น พอพูดกับวาดดาวเรื่องมีแฟนทีไรมันทำให้เธออารมณ์เสียได้ทุกทีสิ
“งั้นวินไม่ต้องมากินข้าวที่นี่ตลอดชีวิตเลยรึไง” วาดดาวตอบอย่างไม่พอใจ
“วี” ทั้งยายทั้งแม่พร้อมใจกันเรียกชื่อเธอ พยายามส่งสายตาบอกว่าเธอควรเต็มใจให้พิรัลเข้ามาที่บ้านได้ตลอด
“ทำไมล่ะ วีไม่คิดอยากหาใครมาดูแลบ้างเหรอ” วาดดาวไม่รู้ว่าตัวเธอหูอื้อหรือตาฝาด ทำไมพิรัลถึงพูดประโยคนั้นด้วยแววตาอ่อนโยน และนุ่มนวลในน้ำเสียง ไม่มีแววของความล้อเล่นหรือประชดประชันเหมือนทุกครั้ง ไม่หรอกวาดดาว เธอคงหูฝ้าตาฟางไปชั่วคราว พิรัลจะไปใส่ใจอะไร ว่าเธอจะมีแฟนหรือไม่ เขาไม่สนใจอยู่แล้ว
“นี่ยังใช้สะพานไฟแบบเก่าอยู่อีกเหรอ” พิรัลถามเมื่อวาดดาวพาเขาเดินมาตรงมุมเสาที่คิดว่าเป็นต้นเหตุ
“ก็ใช้อย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เห็นจะมีปัญหา”
“แต่ตอนนี้ที่บ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะแยะ พึ่งติดแอร์ไม่ใช่เหรอ สะพานไฟแค่นี่มันจะไปเอาอยู่ได้ไง” ไม่ต้องมองก็รู้ว่าตอนนี้วาดดาวหน้างอจนคางจะชิดอกได้อยู่แล้ว
“แล้วพอจะซ่อมได้ไหมลูก” แม่นวลนภาเดินมาหยุดอยู่ไม่ไกลเอ่ยถามขึ้น
“ก็พอซ่อมให้ใช้ได้ชั่วคราวไปก่อนครับ แต่วินว่าเราควรเดินสายไฟในบ้านใหม่ทั้งหมดแล้วก็ติดเบรกเกอร์ สายไฟเหลืองขนาดนี้ดีไม่ดีอายุพอๆกับวี แก่น่าดู” พูดจบพิรัลกับแม่นวลนภาก็หัวเราะเรื่องจิกกัดว่าวาดดาวแก่
“อย่ามาว่าฉันแก่นะวิน ฉันแก่เธอก็แก่ วินเกิดก่อนวีสองเดือนนะ”
“โอเค ไม่ว่าก็ได้ มีไฟฉายไหม แสงเทียนมันมองไม่ค่อยชัดเลย เอาไคควงให้ด้วย”
“ไม่มีหรอก” วาดดาวส่ายหน้า ก็บ้านนี้มีแต่ผู้หญิงอุปกรณ์ช่างแทบไม่เคยได้ใช้ ของเก่าๆของพ่อก็ขายร้านรับซื้อของเก่าไปหมด
พิรัลเดินกลับไปที่บ้านเพื่อเอาของที่ต้องใช้ เขาย้ายมาอยู่กับป้าตั้งแต่อายุห้าขวบเมื่อพ่อกับแม่ของเขาหย่ากัน พ่อแม่ของเขาต่างก็มีครอบครัวใหม่ ป้าวิมลแต่งงานแต่ไม่มีลูกจึงขอให้เขามาอยู่ด้วย ส่วนลุงพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว
ไฟทั่วบ้านสว่างอีกครั้งเมื่อพิรัลดึงสะพานไฟขึ้นหลังซ่อมเสร็จ
“เปลี่ยนระบบไฟใหม่ทั้งบ้านนี่ไม่รู้จะหมดกี่บาท ทั้งค่าสายไฟ ค่าอุปกรณ์ ค่าจ้างช่าง” เอาอีกแล้ว ผีหัวหน้าการเงินเข้าสิงอีกจนได้ พิรัลได้แต่บ่นในใจ
“เอาอย่างนี้นะ อุปกรณ์ทั้งหมดเราไปหาซื้อด้วยกัน จะได้ราคาถูกหน่อย เราพอรู้จักร้าน แล้วก็ไม่ต้องจ้างช่าง เดี๋ยวเราทำให้เอง” วาดดาวขมวดคิ้วมองหน้าพิรัล ไม่ไว้ใจเขาที่มาอาสาเปลี่ยนไฟที่บ้านให้ กลัวว่าจะติดหนี้บุญคุณเขาแล้วจะโดนทวงคืนเอาทีหลัง
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่ไว้ใจฝีมือวินเหรอ ถ้างานง่ายๆแค่นี้คิดว่าวินทำเองไม่ได้ วีก็ไปบอกบอสไล่วินออกเถอะ วินคงเป็นช่างที่บริษัทไม่ได้ละ” ถึงทีผู้ชายหน้าง้ำวาดดาวก็อดขำไม่ได้ ตัวหรือก็โต เธอยังไม่ได้ว่าอะไรก็งอนแล้ว
“วีไม่ได้บอกเลยว่าวินจะทำไม่ได้ วีแค่ไม่อย่าเป็นหนี้บุญคุณ”
“วินไม่ให้ติดหนี้บุญคุณหรอก วินไม่ได้ทำให้ฟรี” ยังไม่ทันได้ถามเรื่องค่าจ้างแม่ของเธอก็มาตามให้ไปกินข้าวที่พึ่งอุ่นใหม่เพราะทำเสร็จตั้งแต่ก่อนไฟดับจนกับข้าวเย็นหมด
“กับข้าวน่ากินมากเลยฮะ แต่วินพึ่งกินข้าวกับป้ามา ถ้าวินกินน้อยแม่ภาว่าวินนะครับ” พิรัลพูดหวังเอาใจ
“แม่ครับ เดี๋ยวเสาร์อาทิตย์นี้วินจะมาเปลี่ยนไฟในบ้านให้ใหม่หมดเลย” พิรัลหันไปบอกมารดาของวาดดาวขณะกำลังช่วยเก็บจานชามที่กินเสร็จ
“ผมว่าจะคิดค่าจ้าง เป็นข้าวเย็นสักอาทิตย์ละวัน” พิรัลหันไปเห็นวาดดาวทำตาโต เขารีบอธิบายต่อทันทีก่อนที่หญิงสาวจะทันได้ขัด
“พอดีป้าถือศีลแปดวันพระ จะกวนแกทำข้าวเย็นให้ผมกินคนเดียวก็เกรงใจ อีกอย่างนั่งกินข้าวคนเดียวมันก็เหงาด้วย ยายให้ผมมากินข้าวที่นี่ได้ไหมครับ” พิรัลหันไปขออนุญาตผู้อาวุโสสุด เพราะถ้ายายบอกว่าอนุญาตแล้ว วาดดาวก็คงปฏิเสธไม่ได้
“ได้สิลูก จะมากินทุกวันยายก็ไม่ว่าหรอก” พิรัลรีบไหว้ขอบคุณที่ยายนวลอนุญาต แค่นี้ก็ถือว่าเขาได้ไฟเขียวแล้ว
“แล้วนายจะมากินข้าวที่นี่ถึงเมื่อไหร่ มันต้องมีวันสิ้นสุดข้อตกลงสิ”
“ก็มาเรื่อยๆ จนกว่าวีจะมีแฟน เดี๋ยวแฟนวีจะเข้าใจผิด” พิรัลทำหน้าทะเล้น พอพูดกับวาดดาวเรื่องมีแฟนทีไรมันทำให้เธออารมณ์เสียได้ทุกทีสิ
“งั้นวินไม่ต้องมากินข้าวที่นี่ตลอดชีวิตเลยรึไง” วาดดาวตอบอย่างไม่พอใจ
“วี” ทั้งยายทั้งแม่พร้อมใจกันเรียกชื่อเธอ พยายามส่งสายตาบอกว่าเธอควรเต็มใจให้พิรัลเข้ามาที่บ้านได้ตลอด
“ทำไมล่ะ วีไม่คิดอยากหาใครมาดูแลบ้างเหรอ” วาดดาวไม่รู้ว่าตัวเธอหูอื้อหรือตาฝาด ทำไมพิรัลถึงพูดประโยคนั้นด้วยแววตาอ่อนโยน และนุ่มนวลในน้ำเสียง ไม่มีแววของความล้อเล่นหรือประชดประชันเหมือนทุกครั้ง ไม่หรอกวาดดาว เธอคงหูฝ้าตาฟางไปชั่วคราว พิรัลจะไปใส่ใจอะไร ว่าเธอจะมีแฟนหรือไม่ เขาไม่สนใจอยู่แล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ