It's Up To You School โรงเรียนแบบนี้ก็มีด้วย

8.0

เขียนโดย Bluesalvia

วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.01 น.

  7 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,573 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 22.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) วิชาเก็บต้นไม้ใบหญ้าเหรอ สำคัญตรงไหน?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               “ไหนดูหน่อยน้า เหลืออะไรต้องหาบ้าง” เสียงเล็กๆดังจากกรีนเซล ตอนนี้กำลังอยู่บนฝ่ามือของพีท ก้มหน้าก้มตาอ่านวัตถุดิบในกระดาษ

     รายการยาพิษ และสมุนไพรแก้

     1. เห็ดพิษ ทางแก้ ชิ้นส่วนของเห็ดพิษผสมน้ำยาสีเหลืองจากแม่น้ำในเบลลาทิกซ์ (เยลโล่เฮิร์บ)

     2. พิษนางพญามด ทางแก้ ผลอ่อนของต้นเรดเรดฟรุ๊ตรูปร่างเหมือนสตอเบอรี่ (เรดเฮิร์บ)

     3 พิษแมงป่องทะเลทราย ทางแก้ ดอกบลูซัลเวีย ดอกไม้รูปร่างเหมือนกระดิ่งเป็นสีฟ้า (บลูเฮิร์บ)

     4. พิษแมงมุมแม่ม้ายดำ ทางแก้ ใบเฟิร์นจากป่าเบลลาทิกซ์ (กรีนเฮิร์บ)

     5. พิษงูลายสายรุ้ง ทางแก้ ผงไข่มุกบดละเอียด (ไวท์เฮิร์บ)

 

               “ได้มาเกือบจะครบแล้วนี่ เหลือแค่พิษนางพญามด ดอกบลูซัลเวีย แล้วก็พิษแมงมุมแม่ม่ายดำ บอกแล้วกรีนเซลช่วยได้ ” เสียงเล็กของกรีนเซลเอ่ย

               “ทำเป็นพูดยัยตัวเล็ก ที่ได้มาส่วนมากฝีมือเจ้าชายอาเธอร์ แล้วก็บังเอิญเจอชาลล์กับฟาร์มีหรอก”

               “ดีจังนะกระเป๋าของฟาร์มีนั่นน่ะ เก็บของได้สารพัดเห็นเอานั่นเอานี่ออกมาเยอะแยะ แถมยังแบ่งเยลโล่เฮิร์บ กับไวท์เฮิร์บให้เราด้วย โชคดีจริงๆ หรือแม่น้ำสายโชคลาภจะไหลผ่านเบลลาทิกซ์” ไบรอันพูด

               “ต่อไปนี้แหละกรีนเซลจะแสดงฝีมือให้ดู เจ้าชายไม่รู้แล้วใช่ไหมละว่าของที่เหลือจะหาจากไหน งั้นก็ทำดีกับกรีนเซลให้มากๆละ แล้วกรีนเซลจะช่วยเอง” กรีนเซลทำท่าอย่างผู้กำชัย แต่น่ารัก

               “เก่งมากๆ แล้วไปไหนต่อดีละกรีนเซล”พีทถามคนแคระตัวเล็กในมือพลางลูบผมสีเขียวไปด้วย

               “อืมที่ง่ายที่สุดก็คงดอกบลูซัลเวียน้า อยู่แถวๆเชิงผาทางทิศใต้”

     กรีนเซลพูด ทำท่าชอบใจ เพิ่งรุ้ว่าคนแคระชอบให้ลูบผม ไบรอันแทบจะทนดูความสัมพันธ์แปลกๆของเพื่อนสนิทเขากับคนแคระนั่นไม่ไหว หึ๊ยยย..นักฆ่าแพ้ทางของน่ารักหรอ น่าขนลุกชะมัด

 

     นี่หรอง่ายที่สุดของมัน!!

     ไบรอันมองขึ้นไปบนหน้าผาสูงชัน มีชะง่อนเล็กๆอยู่สูงขึ้นไปบนหน้าผา ที่มองเห็นอยู่ไกลๆนั่น ต้นดอกบลูซัลเวีย แถมยังมีอยู่แค่ดอกเดียว

               “ใครจะขึ้นไปเอาได้เล่า ยัยตัวเล็ก สูงชันขนาดนั้น ทางขึ้นก็ไม่มี ฉันว่าเราตัดใจเหอะ เราลองหาแถวๆพื้นแถวนี้ดูไหมเผื่อจะเจอสักดอก” ไบรอันเสนอขึ้น

               “มีที่ไหนกันเล่า ดอกบลูซัลเวียน่ะ ขึ้นบนหินเท่านั้น แล้วต้องเป็นหินที่มีความสูง 900-1500 เมตรจากระดับน้ำทะเล และต้องมีความชื้นที่พอเหมาะ นายนี่ไม่รู้อะไรเลย” กรีนเซลเถียงมา

               “งั้นถึงเวลาเธอโชว์ความสามารถจริงๆแล้วล่ะยัยตัวเล็ก ปีนขึ้นไปเอาดอกมานะ เด็กดีๆ”ไบรอันลูบผมบ้าง เลียนแบบพีท

               “ได้ที่ไหนเล่าเจ้าโง่ คนแคระที่ไหนจะปีนหน้าผาได้” กรีนเซลสบถออกมาพร้อมตีมือเจ้าคนมือไว

               “งั้นเจ้าชายอาเธอร์ คงต้องพึ่งนายอีกแล้วล่ะ สู้ๆนะพะย่ะค่ะ”

               “งานนี้ ฉันไม่ไหว” สั้นๆออกมาจากปากอาเธอร์ ที่มองไปบนชะง่อนหินที่มีดอกบลูซัลเวีย พร้อมกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ

               “ส่วนนาย พีท ก็คงไม่ไหวเหมือนกันสินะ” ไบรอันหันมาทางเพื่อนสนิท

               “งานนี้ฉันจัดการเอง” พีทตอบกลับมาด้วยใบหน้ามั่นใจ

               “ห๊ะ ได้หรอ.. แต่นายอย่าเสี่ยงเลยดีกว่านะ ถ้านายตกลงมาเป็นอะไรไป ฉันคงไม่เหลือใคร นายก็รู้ฉันยิ่งไม่ค่อยมีใครคบอยู่ด้วย”

               “จิ๊บๆน่า ฝากกรีนเซลแปบเดี๋ยวมา” ฟึบ ฟึบ ฟึบ พริบตาเดียว ร่างของพีทก็ขึ้นไปอยู่บนชะง่อนหินนั้น แล้วตะโกนลงมา

               “เอาแค่ดอกมันใช่ไหม” แต่คนที่อยู่ข้างล่าง ไม่มีใครตอบ เพราะกำลังอ้าปากค้าง ไวชะมัด รวดเร็ว ว่องไว ปราดเปรียว เขาก็รู้ว่ามันเป็นทักษะของนักฆ่านะ แต่เห็นด้วยตาวันนี้มันก็ยังเหลือเชื่ออยู่ดี ตุบ! เสียงเท้าพีทกระทบพื้น

               “เอ้า ได้มาแล้วดอกบลูซัลเวีย ข้างบนนู้นลมแรงชะมัด แทบปลิวแนะ”พีทพูดแบบชิวๆ                “ฮ่ะ ฮ่ะ แจ๋วจริงๆแก ทักษะว่องไวดุจสายลม งี้ค่อยสมเป็นนักฆ่าหน่อย”

     ไบรอันกลบเกลื่อนทั้งที่เมื่อกี้กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ โชคดีชะมัดที่หมอนี่เป็นพวกเดียวกับเรา คนแบบนี้ขืนเป็นคู่ต่อสู้ด้วย แค่คิดก็สยองแล้ว

               “ต่อไปละกรีนเซล ไปไหนต่อ”พีทพูดพลางคว้ากรีนเซลมาไว้บนบ่า

               “แมงมุมแม่ม้ายดำ ดูท่าจะจัดการง่ายกว่านะ”อาเธอร์ตอบแทน

               “งือ งั่ม งั่ม เจ้าชายพูดถูกน้า แต่ว่า ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีล่ะ แมงมุมแม่ม้ายดำน่ะ เป็นสัตว์กินเนื้อด้วยแหละ ขืนพลาดโดนหม่ำชัวว์”

     กรีนเซลพูดไปด้วยเคี้ยวเศษขนมปังที่พีทยื่นให้

               “อะไรนะ แมงมุมกินเนื้อ ฉัน ฉันเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายครั้นเนื้อครั่นตัวแปลกๆน่ะพวกนาย เราไม่ไปดีกว่าม่ะ”คนขี้คลาดเสนอ

               “ไม่ได้!!” สามเสียงตอบมาแทบจะพร้อมกัน

               “ง่า ก็เก๊ากลัวววว” ไม่มีใครสนใจฟัง พากันเดินดุ่มๆไปตามทางที่กรีนเซลบอก

     สุดท้ายก็ตกกระไดพลอยโจรมากะเขาจนได้สินะเรา ทั้งๆที่มาสเตอร์ลิเลียนบอกงานนี้ไม่มีอะไรยากแท้ๆ ไหงมันต้องเสี่ยงชีวิตมาเอาพิษจากแมงมุมกินเนื้อด้วยละเนี้ย

               “นี่ๆ เจ้าชายอาเธอร์ ถ้ามีตัวอะไรแปลกๆโผล่ออกมา นายน่ะรีบเรียกดาบออกมาเลยนะ ถ่วงเวลาให้ฉันหนี “

               “ไม่ต้องบอกฉันก็ต้องทำงั้นอยู่แล้ว แต่นายจะหนีรอดหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึงละนะ”

               “เฮ้ เฮ้ ไหงพูดจาไม่เป็นมงคลงั้นล่ะเจ้าชาย รอดสิเฟ้ย ใครจะมายอมตายอยู่ในถ้ำมืดๆ ชื้นๆนี่กันเล่า” เจ้าชายพูดน้อยยิ้มรับคำต่อว่า จากเจ้าคนที่ปากไม่มีเป็นมงคลกว่าใครเพื่อน

               “นี่ๆยัยตัวเล็ก แล้วตัวมันเป็นยังไงอ่ะแมงมุมแม่ม้ายดำเนี้ย คงตัวเล็กๆขาเยอะๆ อะไรประมาณนี้ใช่ม่ะ แล้วมาหลอกว่ามันกินเนื้อ เพื่อให้พวกเรากลัวใช่ไหมล่ะ”

     ไบรอันถามขึ้น เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเท่าที่เคยเจอแมงมุมก็ขนาดเท่ากำปั้นเท่านั้นเอง

               “แมงมุมธรรมดาก็แบบนั้นละน้า แต่แมงมุมแม่ม้ายดำน่ะ ไม่เหมือนกัน เพราะกินเนื้อเป็นอาหาร ตัวมันถึงได้กลายพันธุ์ เป็นสัตว์ยักษ์ แถมดุร้าย เท่าที่กรีนเซลเคยเห็นน้า ลูกตามันก็คงเท่าหัวของนายนั่นละไบรอัน” เสียงเล็กๆพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

               “เฮ้ พวกนาย ฉันรู้สึกไม่สบายขึ้นมาจริงๆละนะ กลับเถอะ ยังไม่สายหรอกนะ”

               “พอเถอะไบรอัน นายพูดไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก ถ้าเรายังไม่ได้พิษของมัน เราจะไม่หันหลังกลับ”คำพูดเด็ดขาด ดังมากจากเจ้าชายอาเธอร์

               “แล้วก็นะ... ระวังติดกับดักใยแมงมุมด้วยละ ใยมันน่ะเหนียวมากเลยน้า ใช้มีดธรรมดาตัดยังไงก็คงไม่ขาดหรอก” เสียงเล็กๆเตือนขึ้นมาอีก

               “แล้ว....ทำไม เธอถึงไม่เตือนก่อนที่ฉันจะจับอะไรที่เป็นยางเหนียวๆสีขาวนี่ละ ยัยตัวเล็ก ฮืออ...Y^Y พวกนาย ฉันว่าฉันติดกับเข้าให้แล้วละ ดึงไม่ออกง่า ดึงไงก็ไม่ออก”

     เสียงร้องดังมาจาก เจ้าตัวแสบจอมก่อเรื่อง

     ทันใดนั้น ก็มีเสียง แก่ก แก่ก แก่ก แก่ก มาตามผนังถ้ำ

               “มันมาแล้ว แมงมุมแม่ม้ายดำ แล้วก็น้า ระวังอย่าโดนน้ำลายที่พ่นออกมาจากปากมันละ มันมีพิษแรงถึงขั้นตาบอดเลยน้า”เสียงเล็ก ยังเตือนมาแจ้วๆ

               “ยัยตัวเล็กกกก ถ้าฉันหลุดไปได้ ฉันจะโกนผมเธอทิ้งสะ เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมถึงได้เพิ่งมาบอก พวกนายรีบมาช่วยฉันสักที” ไบรอันเริ่มโวยวาย

     แล้วประโยคของมาสเตอร์กราแฮม ก็ลอยเข้ามาในหัว ทักษะเด่นของนักดนตรี ดึงดูดความสนใจ หรอ จริงด้วย เขามีมันอยู่เยอะเลยล่ะ

     แก่ก แก่ก เสียงเดินมาหยุดอยู่เหนือหัวของไบรอัน ราวกับจะนิ่งฟัง การเคลื่อนไหวของศัตรูที่ลุกล้ำเข้ามาในรังของมัน

               “กรีนเซล เธอบอกว่ามีดธรรมดาตัดไม่ขาดใช่ไหม แสดงว่ามีมีดที่ตัดมันขาดใช่ไหม? อะไรรีบบอกมา”

     พีทกระซิบให้ได้ยินเพียงสามคน เพราะคิดว่าหากมีเสียงอะไร เกิดขึ้นตอนนี้พวกเขาคงไม่รอด แน่นอนคนแรกที่จะโดนจู่โจมคือเจ้าคนที่รนหาที่เอามือไปสะกิดใยแมงมุมยักษ์นั่น

               “อืมจะว่ามีก็มีน้า กรีนเซลจำได้ว่า แมงมุมแม่ม้ายดำนี่ธาตุพิษ... ใช่แล้วละ ธาตุพิษแพ้ธาตุดิน ถ้าบังเอิญพวกนายจะมีอาวุธธาตุดินติดมาอ่ะน้า”

     ทุกวินาทีผ่านไปราวกับเนิ่นนานเป็นปีๆ เจ้าพวกนั้นกระซิบกระซาบอะไรกันตั้งนานสองนาน ไม่รีบเข้ามาช่วยเขาสักที ระหว่างที่ไบรอันปิดปากเงียบสนิทอยู่นั่น ก็มีใยสีขาวขุ่น ค่อยๆหย่อนลงมา หย่อนลงมาที่ตัวเขาแล้วตวัดฉับ พันร่างเขาแล้วค่อยๆสาวขึ้นไป ไบรอันอยากจะตะโกนออกไปให้สุดเสียง แต่ตอนนี้เขากลัวเกินกว่าจะตะโกนออกไป ปากอ้าได้แต่กลับไม่มีเสียงออกมา เงามัจจุราชรอเขาอยู่บนเพดานถ้ำนี้ คงไม่รอดแน่คราวนี้ ..

               “ผ่าปฐพี”

     เสียงเรียกดาบ ของเจ้าชายอาเธอร์ดังขึ้น

     เจ้าชายอาเธอร์ตวัดดาบใหญ่สีน้ำตาล ในมือฟันฉับเส้นใยแมงมุมเส้นใหญ่เหนียว ก็แทบจะขาดสะบั้นออกจากกัน

     ตอนนี้ด้วยน้ำหนักที่มีมากกว่าใยที่ยังประสานกันอยู่ ก็ทำให้ไบรอันหล่นตุบลงมา เจ้าคนที่ทำหน้าทะเล้นได้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้กลับซีดเซียว ไร้เรี่ยวแรง แม้แต่กำลังจะยืนขึ้น

               “พีท นายรีบพาไบรอันหลบออกไป ฉันจะจัดการเจ้านี่เอง” เจ้าชายอาเธอร์ ร้องเตือน ด้วยเสียงเฉียบขาด

     แล้วการต่อสู้ระหว่างเจ้าชายแห่งเมืองนักรบกับสัตว์ยักษ์แปดขาก็เริ่มขึ้น อาเธอร์เหวี่ยงดาบใหญ่ในมือของเขาราวกับว่ามันเบาแสนเบาเหมือนปุยนุ่น อาเธอร์ฟาดฟันขาของแมงมุมนั่นออกเป็นชิ้นๆ      ทุกครั้งที่สัตว์ร้ายต้องคมดาบ จะมีเสียงหวี๊ดๆ ราวกับเสียงโหยหวน ดังออกจากปากมัน ศึกครั้งนี้ดูเหมือนอาเธอร์จะได้เปรียบด้วยทักษะการต่อสู้ และกระบวนดาบที่ไร้ที่ติ

     แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ขนาดตัวของแมงมุมนั่น...ขนาดมันใหญ่เกินไป แล้ววินาทีดับจิตก็เกิดขึ้น เมื่อแมงมุมแม่ม้ายดำกำลังคลั่งด้วยความเจ็บปวด มันพ่นน้ำลายสีเขียวคล้ำออกมาเป็นทางยาว อาเธอร์ก็ไวไม่แพ้กันเอี้ยวตัวหลบ น้ำลายนั้น แต่ไม่พ้น น้ำลายพิษนั่นโดนเข้าที่สีข้างของเจ้าชาย ฤทธิ์ของมันกัดกล่อนเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ให้ละลาย แลเห็นเนื้อหนังของอาเธอร์ที่สุกแดงปลั่ง

     อาเธอร์กุมสีข้างนั้นไว้ แม้จะไม่ได้ยินเสียงร้องของคนเจ็บเล็ดลอดออกมา แต่ไบรอันก็รู้ดีว่ามันต้องเจ็บและทรมานมาก แต่ด้วยศักดิ์ศรีและความทระนงของนักรบ อาเธอร์กัดฟันและกล้ำกลืนความเจ็บปวดนั้นลงคอไป เขาใช้ดาบยันตัวเองให้ลุกขึ้นอีกครั้ง และยกดาบผ่าปฐพีด้วยสองมือที่สั่นเทาขึ้นมาไว้ด้านหน้า  ราวกับกำลังพยายามรวบรวมกำลังให้มากที่สุด

     เป็นจังหวะเดียวกับที่แมงมุมแม่ม้ายคลั่งจนสิ้นสติ พุ่งเข้าใส่อาเธอร์เหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อให้หายแค้น ฉับพลันปรากฏแสงสีน้ำตาลเคลือบอยู่บนดาบผ่าปฐพี ห่างแค่เอื้อม ใบหน้าที่น่าสยดสยองพองเกล้าของเจ้าสัตว์ประหลาดแมงมุมแม่ม้ายดำ อ้าปากแยกเขี้ยว หวังเขมือบเหยื่อของมัน

     แต่มันหารู้ไม่ว่า วันนี้มันกลับกลายเป็นเหยื่อเสียเอง เมื่ออาเธอร์ยกดาบแล้วเหวี่ยงฟาดลงไปกลางใบหน้าระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง

               “ผ่าปฐพี”

     ไม่เพียงแต่ร่างของแมงมุมยักษ์ที่ขาดเป็นสองท่อน แต่พื้นดินที่ถูกวิถีของดาบก็เป็นรอยถูกผ่าแยกเป็นแถบยาว อานุภาพการทำลายล้างแทบจะทำให้ถ้ำนั้นถล่มลงมา ไม่ทันขาดคำก็ปรากฏเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ก้อนหินตามพนังเริ่มตกลงมาจากก้อนเล็กๆไปจนถึงก้อนใหญ่ๆเท่าครก

               “กรีนเซลไปเก็บเอาพิษแมงมุมใส่ขวด ไบรอันอย่ามัวแต่ตกใจมาเร็วไปช่วยกันเอาอาเธอร์ออกมา ถ้ำจะถล่มแล้ว”

     เสียงพีทตะโกนลั่น ดึงสติไบรอันกลับคืนมา เขารีบวิ่งไปช่วยพยุงอาเธอร์ที่ตอนนี้หมดสติ ไปพร้อมๆกับแมงมุมแม่ม้ายดำยักษ์ที่ล้มลง

 

     แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก.. เสียงหายใจหอบของเด็กหนุ่มสองคนดังประสานกัน

               “รอดตายฉิวเฉียดเลยเว้ย” เสียงดังมาก่อนจากไบรอัน ที่ตอนนี้นั่งมองหินถล่มลงมาปิดปากถ้ำจนมิด

               “ไหนมาสเตอร์บอกว่าไม่ยากนักหรอก นี่มันยิ่งกว่ายากอีกนะ พวกเราเกือบตาย”ไบรอันโวยขึ้นมาอีก

               “นายไม่ตายหรอกไบรอัน แต่อาเธอร์ อาเธอร์กำลังจะตาย”

     เสียงสั่นๆดังมาจากพีท

     ขณะที่เจ้าชายอาเธอร์ที่นอนสลบอยู่กำลังหายใจขัดๆ ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ สถานการณ์คับขันอีกครั้ง

     รอดจากการเป็นเหยื่อแมงมุมแม่ม้ายดำ รอดจากหินถล่ม แต่อาเธอร์กำลังจะตายเพราะพิษจากน้ำลายแมงมุมแม่ม้ายดำ แม้ตัวตายแต่พิษสงของมันยังอยู่ ด้วยแรงอาฆาตมันคงอยากให้ตายตกไปตามกัน

               “ไม่ตายหรอก ลืมแล้วหรือ มียาพิษก็มีสมุนไพรแก้พิษน้า” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นมา

               “ใช่ ใช่แล้ว ยัยตัวเล็ก เธอนี่มันนางฟ้าตัวน้อยๆจริงๆ” ไบรอันตะโกนลิงโลดดีใจพร้อมเอากระดาษออกมาคลี่ดู

               “นี่ไงเจอแล้ว ข้อ4. พิษแมงมุมแม่ม้ายดำ ทางแก้ ใบเฟิร์นจากป่าเบลลาทิกซ์ (กรีนเฮิร์บ)” ไบรอันอ่านจบรีบค้นเอาขวดยาแก้สีเขียวออกมา กรอกใส่ปากเจ้าชายอาเธอร์

     ไม่นานใบหน้าที่แดงก่ำ สีหน้าที่เจ็บปวดทุรนทุรายก็ค่อยๆกลายเป็นปกติ เหลือบดูแผลตรงสีข้างที่สุกแดงจนไหม้เพราะพิษน้ำลาย ก็ค่อยๆจางหายไปปกติ

     แล้วอาเธอร์ก็ค่อยๆลืมตา มาดเจ้าชายแสนเย่อหยิ่งกลับมาอีกครั้ง กำแพงที่กำลังสร้างขึ้นเพื่อปกปิดด้านอ่อนแอของตนเอง

     พีทกับไบรอันได้แต่ยิ้ม ให้กับมาดเย่อหยิ่งนั่น นั้นสินะ วิชาพืชพรรณ หาสมุนไพร ปรุงยา และยาพิษ เป็นวิชาที่ทุกคนจะต้องรู้ไว้ ไม่เช่นนั้นวันนี้ เขาคงจะต้องเสียเพื่อนคนสำคัญไป ผมเข้าใจแล้วฮะ ว่าวิชานี้เกี่ยวข้องกับทุกคนจริงๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา