It's Up To You School โรงเรียนแบบนี้ก็มีด้วย

8.0

เขียนโดย Bluesalvia

วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.01 น.

  7 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,554 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 22.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) กำเนิด ตำนานกีต้าร์ฮีโร่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               “พวกนายมัวแต่ยิ้มอะไรกัน ยังเหลืออีกอย่างหนึ่งไม่ใช่หรอ”

     เสียงอาเธอร์ทักมา เมื่อไม่เห็นใครพูดอะไร

               “นางพญามด กรีนเซลรู้”

               “เอาอีกแล้วนะ ยัยตัวเล็ก คงไม่พาไปรังพญามด ตัวยักษ์ มีพิษร้ายแรงอีกใช่ไหม”

     ไบรอันพูดประชด

               “ใช่ ไบรอันก็รู้จักเหรอ นางพญามดน่ะ ตัวใหญ่ยักษ์เหมือนกัน แต่ไม่ได้กินเนื้อเหมือนแมงมุมแม่ม้ายดำนี่หรอกน้า แล้วก็ไม่ได้พ่นพิษแบบนี้ด้วย” เสียงเล็กเอ่ยมาแบบใสซื่อ

               “อีกแล้ว สัตว์ยักษ์อีกแล้ว พวกนาย ให้ตายฉันก็ไมไปเด็ดขาด ดูอย่างวันนี้สิ ฉันเกือบโดนกิน อาเธอร์เกือบตาย พิษบ้าพิษบออะไรก็ช่างเถอะ ไม่เอาแล้ว”

               “แต่ว่าน้า...กรีนเซลมีวิธีให้ไปเอาแบบไม่ต้องเจ็บตัวด้วยละ”

               “หือ อะไรยัยตัวเล็ก รู้อะไรดีๆรีบพูดออกมาอย่ามัวแต่อมพนำ”

               “งั้นก็ทำตัวดีๆกับกรีนเซลไว้ละไบรอัน แล้วกรีนเซลจะบอกให้”กรีนเซลพูดพลางขยิบตาเล็กๆนั่น

     แผนคือ นางพญามดน่ะ พิษมันจะอยู่ตรงหลังของมัน เราสามารถไปเอามาได้โดยไม่ต้องฆ่ามัน แค่ย่องไปขโมยมา แค่นี้ก็เรียบร้อย

     นั่นเป็นคำพูดของยัยตัวเล็กนั่น แต่ที่เป็นปัญหาคือ หล่อนไม่ได้ดูเลย ว่าในนี้ มีหนึ่งนักฆ่า หนึ่งนักดนตรี กับอีกหนึ่งเจ้าชายนักรบ ใครมันจะไปตีนเบามือเบาย่องขึ้นไปบนหลังของนางพญามดได้กันเล่า

               “แล้วก็น้า...ที่สำคัญอย่าได้ส่งเสียงดังเอะอะไปละ เพราะรังของนางพญามดน่ะ เต็มไปด้วยลูกๆไข่ของนางพญามดเต็มไปหมดเลยละ ถ้ามีเสียงเพียงเล็กน้อย ไข่ทุกใบในรังนั่นก็จะแตกเปรี้ยะ ลูกมดพากันเดินยั้วเยี้ยะเต็มรังแน่ ถึงแม้มันจะไม่กินเนื้อก็เถอะนะ แต่มันกัดเจ็บน่าดูเลยละ แถมมีพิษด้วย” เสียงเล็กเอ่ยมาแบบเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไร

               “พวกแกให้ฉันรออยุ่ข้างนอกเถอะนะ พวกแกก็รู้ฉันมันมือไว ปากไว เดี๋ยวเผลอไปจับอะไรเข้าอีก ไม่แย่เหรอ เน๊อะ”

     เจ้าคนกลัวตายเริ่มหาข้ออ้าง แต่ไม่มีใครสนใจฟังอีกแล้ว

               “งั้นเราต้องลอบเข้าไปตอนนางพญามดหลับ ตอนไหนละกรีนเซล”พีทหันมาถาม

               “ก็ตอนกลางคืนแหละน้า แล้วใครจะย่องเข้าไปเอาล่ะ”

               “ฉันเอง ทักษะว่องไวดุจสายลม ลืมแล้วหรอ”

     พีทตอบมายิ้มๆ เจ้านี่ไม่เคยกลัวตายเลยสักนิด เห็นทุกเรื่องเป็นเรื่องน่าสนุกไปหมด

 

     เวลา 00.00 น. ณ ปากรังนางพญามด (ยักษ์)

               “พวกนายรออยู่ข้างนอกนี่ก็แล้วกัน ฉันเข้าไปคนเดียวจะสะดวกกว่า” พีทเสนอ

               “ไม่ได้หรอก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะไม่มีใครรับรู้ หลายหัวดีกว่าหัวเดียวนะ”เจ้าชายอาเธอร์ที่ตอนนี้กลับมาแข็งแรงแล้ว แย้งขึ้นมา

               “เฮ้อ วุ่นวายจริงๆ เข้าก็เข้าแต่อย่าขวางทางของฉันก็แล้วกัน ”

     คำพูดหมิ่นๆ ของคนมั่นใจในความว่องไวของตัวเองแย้งออกมา เหมือนเกิดกระแสไฟฟ้าเปรี้ยะๆขึ้นที่ตาของพีทและอาเธอร์

               “นี่ๆ รีบเข้าไปเถอะ ฉันเกร็งจนฉี่จะราดแล้วเนี้ยรีบทำให้มันเสร็จๆไปสักทีได้ไหม”

     คนที่รักตัวกลัวตาย แต่สุดท้ายก็ตามมาเอ่ยขึ้น สงครามทางสายตาจึงหยุดอยู่แค่นั้น

     ภายในถ้ำของนางพญามด ขนาดรังกว้างขวางมาก บ่งบอกถึงขนาดตัวนางพญา เริ่มจากปากทางเข้าก็มีไข่ขนาดมหึมาขนาดเกือบเท่าตัวไบรอัน กระจัดกระจาย เมื่อลึกเข้าไปก็เริ่มมีไข่มากขึ้นเรื่อยๆ มากมายจนนับไม่ถ้วน ดูละลานตาไปหมด

     พวกเขาทั้งสามกับอีกหนึ่งตัวเล็กที่อยู่บนบ่า ค่อยๆย่องเข้าไปลึกเรื่อยๆ แม้แต่เสียงหายใจยังต้องทำให้เบาที่สุด ก็ยัยตัวเล็กดันขู่ไว้ว่า แม้แต่เสียงเข็มตก ยังอาจทำให้ไข่พวกนี้แตกแล้วฟักตัวออกมาได้

     พวกเราเดินลัดเล๊าะเลี้ยวไปตามช่องว่างระหว่างไข่ จนไปเจอโพลง สูงขนาดไม่เกินห้าเมตรอยู่โพลงหนึ่ง หันมองกรีนเซลก็เห็นชี้โบ๊ชี้เบ๊ ทุกคนเข้าใจตรงกันว่านางพญามดต้องอยู่ในนั้นแน่นอน      พีทจึงส่งกรีนเซลมาให้ไบรอัน แล้วฟึบ ฟึบ ฟึบ แค่ไม่กี่ก้าวพีทก็ขึ้นไปอยู่บนหลังของนางพญามดตัวยักษ์ ที่หลับอยู่

     ไบรอันจ้องมองนางพญามดที่หลับไหลอยู่นั้น อย่างพินิจ ก็เห็นว่าส่วนหัวของนางพญามดนั้น ดูเหมือนมนุษย์มาก ไม่ว่าจะเป็นดวงตา จมูก ปาก ใบหน้า เพียงแต่ลำตัว กลับดูเหมือนแมงมีแปดขา ข้างลำตัวมีปีกแข็ง และบริเวณกลางหลังมีลูกสีแดงๆคาดว่านั่นคือที่กรีนเซลบอกว่าคือพิษของมัน      เมื่อจ้องมองนานๆก็เหมือนตกอยู่ภายใต้ห้วงมายา ไบรอันค่อยๆก้าวขาเข้าไปใกล้ เพราะอยากเห็นดวงหน้านั่นชัดๆ เมื่อกรีนเซลรู้สึกถึงความผิดปกติก็กระโดดลงจากบ่าของไบรอัน เข้าไปเกาะขาเจ้าชายอาเธอร์เป็นครั้งแรก

               “ไม่ได้การแล้วล่ะ เจ้าชายอาเธอร์ กรีนเซลว่า ไบรอันคงติดกับภาพมายานั่นแล้วล่ะ”      กรีนเซลพูดพลางกระตุกๆขากางเกงเจ้าชายอาเธอร์ ส่วนตัวอาเธอร์ได้แต่กัดริมฝีปากจนเลือดแทบออก พีทเร่งมือเร็วเข้า อาเธอร์คิดในใจ

               “เจ้าบ้านั่น ก่อเรื่องอีกแล้ว”

     พีทพึมพำเมื่อเห็นไบรอันค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ตัวนางพญามด กรีนเซลก็อุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาแล้วนะว่าอย่ามองดวงหน้านางพญาเวลาหลับไหล คนจิดอ่อนอาจจะติดกับภาพมายาที่นางพญามดสร้างให้เหมือนกับใบหน้ามนุษย์ผู้หญิง ไอเวลาที่สำคัญๆดันมัวแต่โวยวายเรื่องไม่เป็นเรื่อง ห้ามทำอะไรก็ทำตลอดสิน่า เจ้าบ้านี่

     พร้อมกันที่พีทได้พิษของนางพญามดมาก็กระโดดตุบลงจากหลังนางพญามด อาเธอร์รีบกระชากตัวเจ้าคนชอบก่อเรื่อง ก่อนที่มือเจ้านั่นจะไปสัมผัสกับดวงหน้าของนางพญามด

     แต่เขาช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ดวงตาที่พริ้มหลับของนางพญาเบิกโพลง เมื่อรู้สึกถึงมือเล็กๆสัมผัสเข้าที่ดวงหน้า

     เสียงวี๊ดดด...สูงดังลั่น จากตัวนางพญามด มันดังเสียจนพวกเขาต้องยกมือขึ้นมาปิดหู แน่นอนว่าไข่รอบๆเริ่มร้าว และแตกโพล๊ะ โพล๊ะๆๆๆ เป็นร้อย เป็นพัน จนอาจจะเป็นหมื่นฟอง

     นี่แหละสถานการณ์ที่กรีนเซลเตือนนักเตือนหนาว่าอย่าให้เกิดขึ้น นี่มันนรกชัดๆ ไบรอันอุทานเมื่อรู้สึกตัว

               “ดาบเปลวอัคคี”อาเธอร์เรียกดาบออกมาอย่างรวดเร็ว

               “กรงเล็บพิฆาต” พีทเรียกกรงเล็บออกมาเช่นกัน

               “เคียวมาร” เสียงเล็กๆของกรีนเซล เรียกเคียวขนาดใหญ่มาไว้ในมือ แม้แต่ยัยตัวเล็กนี่ก็กำลังตั้งท่าต่อสู้

     ทั้งสามหันหลังชนกันล้อมไบรอันไว้ตรงกลาง

     เริ่มจากยัยตัวเล็กกรีนเซล ใช้เคียวอันใหญ่กว่าตัวตั้งไม่รู้กี่เท่า เหวี่ยงไปมา ถูกลูกมดที่พึ่งฟักออกมาจากไข่แต่ตัวใหญ่กว่าตัวกรีนเซลหลายสิบเท่า พละกำลังมหาศาล สามารถ กำจัดศัตรูได้สบายๆ แต่ลูกมดก็มีจำนวนมากมายมหาศาลเช่นกัน แม้จะล้มลงไปกี่ตัว อีกหลายตัวที่เหลือก็พากันวิ่งฮือเข้ามาอีก

     ส่วนทางด้านพีทกำลังใช้กรงเล็บ แทงฟัน สะบัด บรรดาลูกมดที่ตัวเกือบเท่าตัวพีทเอง ความว่องไวนั้นดูเหมือนจะได้เปรียบไม่ว่าศัตรูจะบุกมาทางไหน พีทก็ไวกว่าหลบได้ทันอย่างหวัดหวิด แล้วแทงสวนไปทุกที แต่ลูกมดที่มีจำนวนมากกว่าก็พากันกรูเข้าไปรุมทำร้ายเขาเหมือนกันไม่ต่างอะไรจากกรีนเซล

     เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่ไบรอันเผลอมองดูเพื่อนทั้งสองคนต่อสู้ ตัวเขาเองหารู้ไม่ว่าคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่สุดคือตัวเอง เพราะมัวแต่สนใจอยู่กับฝูงลูกมดที่มีอยู่มากมายนั้น ทำให้เขาลืมตัวนางพญามดไปสนิท หันมาอีกที สองขาหน้าขนาดมหึมา ก็เกือบจะถึงตัวเขาอยู่แล้ว

     เคร้งง !!

     เสียงดาบของอาเธอร์ปะทะกับขาหน้านางพญามด ยันไว้ไม่ให้ถึงตัวไบรอัน

     แล้วศึกระหว่างมนุษย์กับนางพญามดยักษ์ก็เริ่มขึ้น

     อีกแล้วหรอ ? นี่ตัวเขาดีแต่ก่อเรื่องแล้วต้องให้เพื่อนมาคอยปกป้องอีกแล้วหรอเนี้ย เขาไม่ได้มีอะไรดีเลย ต่อสู้ก็ไม่ได้ ปกป้องใครก็ไม่เป็น แม้แต่ยัยตัวเล็กยังต้องมาต่อสู้เพื่อปกป้องเขา

     ตุ๊บ!--อั่ก! เสียงเจ้าชายอาเธอร์ที่กระเด็นออกมากระแทกพื้น กับเสียงกระอักเลือดเพราะแรงกระแทก

     ไม่ไหว....ศัตรูแกร่งเกินไป เยอะเกินไป แล้วไม่กี่วินาที อีกเสียงของเพื่อนสนิทก็ลั่นมา

     อ๊ากกก !

     ไบรอันรีบหันไปมองตามเสียง ภาพที่เขาเห็นคือพีทโดนลูกมดกัด

     แม้จะว่องไวเพียงใด แต่ปริมาณมหาศาลนั่น แม้แต่พีทก็คงทานไม่ไหว คงจบที่นี่แล้วสินะ พวกเรา..

               “พวกนาย... ฉันขอโทษนะที่เอาแต่ก่อเรื่อง ฉันนี่มัน ฉันนี่มันไม่เอาไหนจริงๆ”

     ไบรอันตะโกนออกไป ด้วยความคับแค้น น้ำใสๆเริ่มรินไหลออกมาจากดวงตา

               “หึ..คนงี่เง่า แค่นี้ก็ร้องไห้ อ่อนแอชะมัด”เสียงหมิ่นๆออกมาจากปากเจ้าชายอาเธอร์                “นั่นสิ แค่นี้ก็ท้อแท้แล้วเหรอ ไม่สมกับเป็นนายเลยนะนักดนตรีพเนจร” พีทพูดมาล้อๆ ทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่แผล

               “กรีนเซลยังไหวน้า” ยัยตัวเล็ก ส่งเสียงมาทั้งที่หายใจหอบแฮ่ก แฮ่ก

     เจ้าพวกบ้านี่ จะตายกันอยู่รอมร่อ ยังจะมีหน้ามาปลอบใจเขา...

     แล้วตอนนั้นเองคำพูดของมาสเตอร์กราแฮม ก็ดังขึ้นมาในหัว

               “ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดเถอะไบรอัน เป็นในสิ่งที่นายเป็น แล้วนายจะรู้ว่าตัวนายน่ะ ก็สามารถเป็นฮีโร่ได้”

     เสียงมาสเตอร์กราแฮมยังดังก้องอยู่ในหัวเขาราวกับมีคนมาเปิดเทปกรอให้ฟังซ้ำๆ

     ฮีโร่งั้นเหรอ? นั่นสินะ ฉันคิดอะไรออกแล้ว

               “กีต้าร์ฮีโร่”ไบรอันเรียกกีต้าร์ตัวเล็ก คู่ใจมาไว้ในมือ เขาเพิ่งถือวิสาสะตั้งชื่อให้มันเพราะคำพูดนั้นของมาสเตอร์แท้ๆ (ที่คิดออกแล้วคือชื่อของกีต้าร์นี่เอง - -*)

               “บทเพลงหลับใหลนิทรา”

     ไบรอันเริ่มบรรเลงดนตรีเวทย์

     เขาไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหม แต่นี่แหละเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ บทเพลงเริ่มดังขึ้น ดนตรีนุ่มๆของบทเพลง กำลังขับกล่อมให้ลูกมดรอบๆให้หลับใหล

               “เฮ้ พวกนายน่ะ ตั้งสติดีๆไว้ ดนตรีเวทย์ของฉันน่ะมีผลกับทุกคน แม้แต่พวกนายที่เป็นมิตรก็เถอะนะ”

     ไบรอันร้องเตือนเมื่อเห็นเพื่อนๆของเขาทำท่าจะหลับไปตามเสียงเพลงที่ขับกล่อม

     เมื่อได้ยินดังนั้น พีทกับอาเธอร์ พร้อมใจใช้คมอาวุธของตัวเองเฉือนเข้าไปที่เนื้อ เพื่อให้ความเจ็บปวด ดึงความสนใจไม่ให้ตัวเองหลับ เพราะดนตรีเวทย์นั่น

     ส่วนยัยตัวเล็กกรีนเซลน่ะเหรอ พีทรีบคว้ามาไว้บนบ่า เพราะเจ้าตัวเล็กหลับน้ำลายยืดไปเรียบร้อยแล้ว

     ตอนนี้ทุกพื้นที่ ทุกอณูในรังนางพญามดแห่งนี้ ถูกขับกล่อมไปด้วยเสียงดนตรีเวทย์หลับไหลนิทราของไบรอัน แม้แต่ตัวนางพญามดยักษ์ ก็ตกอยู่ในห้วงนิทราเช่นเดียวกัน ศึกทุกอย่างสงบลง                “ไปเถอะรีบเผ่นเร็วไบรอัน ตอนนี้พวกมันหลับกันหมดแล้ว”

     เสียงพีทร้องเตือนมาให้รีบหนี

               “ไม่ได้ ...”

               “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็แค่วิ่ง หรือนายกลัวจนก้าวขาไม่ออกอีกแล้ว”

               “ไอเจ้าบ้า พูดกับคนที่ช่วยชีวิตนายแบบนี้เหรอ ไอนักฆ่าไม่รู้จักบุญคุณคน”

               “งั้นแล้วทำไมไม่ได้?”

               “ขีดจำกัดของฉันคือ เวลาเล่นดนตรีเวทย์จะขยับไม่ได้ ถ้าขยับดนตรีจะหยุด และถ้าฉันหยุด พวกมดก็จะตื่นขึ้นมาอีก” ไบรอันพูดยิ้มๆ

               “พวกนายรีบหนีไปเถอะ ฉันจะถ่วงเวลาไว้ให้พวกนายเอง” ไบรอันเอ่ยต่อ

     นี่สินะหน้าที่ของนักดนตรี ดึงดูดความสนใจ... ใช่แล้วล่ะ จริงอย่างมาสเตอร์กราแฮมว่า ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด เป็นในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ว่าใครก็เป็นฮีโร่ได้ วันนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว

               “ดีแต่ก่อเรื่องจริงๆสินะนาย ” เสียงเจ้าชายอาเธอร์แทรกขึ้นมา มาดเย่อหยิ่ง แถมคำพูดดูหมิ่นนั่น มันชวนให้โมโหตลอด

               “ในเมื่อหนีไม่ได้ก็ไม่ต้องหนี แค่จัดการพวกมันให้หมดก็สิ้นเรื่องใช่ไหม?”

               “แล้วก็จำไว้เลยนะ ว่านายเป็นหนี้ชีวิตฉัน สองครั้งแล้ว ต่อไปนี้มีแต่ฉันเท่านั้นที่จะเอาชีวิตนายไปได้”อาเธอร์หันมามองไบรอันด้วยแววตาจริงจัง

               “ดาบเปลวอัคคี เปลวไฟแผดเผา”

     เมื่อเจ้าชายอาเธอร์วาดดาบลง ก็เกิดเปลวไฟลุกไหม้ เปลือกไข่ที่แตกกระจัดกระจาย เป็นเชื่อไฟอย่างดี

     แล้วอาเธอร์ก็ฉุดกระชากลากตัวไบรอันวิ่งออกจากรังของนางพญามด ส่วนพีทก็วิ่งตามออกมาติดๆ เมื่อตัวไบรอันขยับออกมาดนตรีเวทย์ก็สิ้นฤทธิ์

     ตัวลูกมดและนางพญามดที่เพิ่งตื่นจากห้วงนิทรากำลังถูกแผดเผา ส่งเสียงร้องวี๊ดดๆๆๆ ประสานกันโหยหวยอย่างทรมาน อยู่ด้านหลังคนทั้งสามที่กำลังวิ่งหนีตายแข่งกับเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ โหมกระหน่ำ อยู่เบื้องหลัง

               “จะถึงแล้วน้า ไฟอ่ะเกือบจะถึงแล้ว” เสียงเล็กๆของกรีนเซลร้องเตือนเมื่อพึ่งตื่นจากฝัน ก็พบกับนรกเพลิงที่กำลังลุกไหม้จี้หลังมาติดๆ

 

     แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เสียงหอบของเด็กหนุ่มทั้งสามดังประสานกัน

     เมื่อกี้มันเหมือนพวกเขาเพิ่งวิ่งขึ้นมาจากขุมนรกแข่งกับเวลา ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย

               “รอด รอด สำเร็จพวกเรารอดแล้ว” คนจอมก่อเรื่องกระโดดกอดคอเพื่อนทั้งสอง

     เจ้าชายอาเธอร์เงียบเป็นคำตอบอยู่แล้ว แต่พีทไหงไม่ด่าอะไรเลย

     สักพักพีทก็ฟุบล้มลงไปกองกับพื้น

               “เฮ้ยย มันโดนลูกมดกัดนี่” ไบรอันรีบเอากระดาษออกมาคลี่อ่านอีกครั้ง 2. พิษนางพญามด ทางแก้ ผลอ่อนของต้นเรดเรดฟรุ๊ตรูปร่างเหมือนสตอเบอรี่ (เรดเฮิร์บ) แล้วก็จับเรดเฮิร์บกรอกปากเพื่อนสนิท

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา