รอยอธิษฐาน

10.0

เขียนโดย อาบตะวัน

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 13.01 น.

  13 ตอน
  17 วิจารณ์
  16.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563 07.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ผีเฝ้าคุ้ม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                  ปาระมีไม่มีอาการเมาขี้ตาเลยแม้แต่น้อยเมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้น หล่อนแสร้งทำตัวขี้เกียจยืดยาดอยู่ในห้อง จนกระทั่งปกบุญ ป้องคุณ ออกไปโรงเรียนแล้ว และพ่อกับแม่ก็ออกไปข้างนอก เสียงพ่อพูดบอกเจ้าหน้าที่ในห้องแกลลอรี่ว่าพ่อจะกลับเข้าตอนบ่าย ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่หล่อนจะไปไหนก็ได้ในช่วงเช้าของวันนี้ ปาระมีออกจะหงุดหงิดหน่อย ๆ ที่เมื่อเช้าส่งข้อความไปถึงเพื่อนรักแล้วไม่มีสัญญาณใด ๆ ตอบกลับมา และถึงแม้ว่าจะไปตามถึงที่บ้านหล่อนก็ยังต้องผิดหวัง

“เมื่อคืนเจนนี่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน เพิ่งกลับมาตอนเช้ามืดนี้เอง ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลยจ้ะ”

คุณนายลำดวนแม่ของเจนนี่ชวนปาระมีทานข้าวเช้าด้วยกันแต่หญิงสาวปฏิเสธ หล่อนไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ ปาระมีอาจจะผิดหวังที่ขาดเพื่อนสนิทไปร่วม ‘ ผจญภัย’ ด้วยกันที่คุ้มหลังวัด แต่อย่างไรก็ตาม หล่อนก็ไม่อาจจะอดทนรอที่จะพิสูจน์ให้เห็นความจริงได้

“ประตูบานใหญ่ ไขได้ทุกวัน”

ประตูบานไหนกันนะ ในคุ้มวังพิทักษ์ ที่เจ้าลูกกุญแจโบราณดอกนี้จะไขเข้าไปได้ แล้วด้านหลังประตูบานนั้น มันจะมีอะไร

“กลับบ้านเรากันนะ ปาระมี”

คำพูดของบุคคลในภาพฝันถึงสองคนบอกหล่อน กลับบ้าน... หมายถึงอะไรกันแน่ เจ้าผีเด็กนั่นอาจจะเป็นศพอยู่ด้านหลังประตูบานเก่าบานนั้น หล่อนจะทนรับไหวหรือ หากจะต้องเผชิญกับสิ่งที่คิดไว้ แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีอำนาจเหนือความหวาดกลัวในใจ หนังสือตำนานเก่าบอกว่ายังไงนะ

‘...คุ้มวังพิทักษ์รกร้างทั้งที่มีเจ้าของคนใหม่ซื้อเปลี่ยนมือไปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522 แต่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่สามารถซ่อมแซมบูรณะตัวอาคารได้สำเร็จ เพราะนอกจากจะมีคนงานเสียชีวิตและบาดเจ็บทุกครั้งแล้ว เสียงแปลก ๆ ที่ดังมาจากทุกทิศทางในคุ้มก็ยังทำให้ผู้คนหวาดกลัวและไม่มีผู้ใดอยากจะเข้ารับงานซ่อมแซมคุ้มวังพิทักษ์อีก ...’

ปาระมีปั่นจักรยานไปถึงหน้าคุ้มวังพิทักษ์ หล่อนเลือกที่จะเข้าทางด้านหน้าคุ้มเพราะเห็นว่าทางเข้าไปในตัวคุ้มง่ายและดูค่อนข้างโล่งมากกว่าจะเข้าทางหลังวัด แม้ว่าประตูใหญ่ที่หน้าคุ้มถูกปิดล็อกแน่นหนาเป็นอย่างดี แต่รั้วไม้ที่เก่าผุพังจนใครต่อใครก็สามารถมุดเข้ามุดออกได้โดยง่ายนั่นก็ทำให้เป้าหมายของปาระมีบรรลุได้เร็วขึ้น

“โจรไม่กล้าเข้า แต่เราจะเข้าไป…”

หญิงสาวพึมพัมกับตัวเองขณะสูดหายใจลึก ๆ เรียกความกล้าหาญ

ปาระมีเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ทั้งที่เป็นเวลาสายแต่แดดที่จะควรจัดจ้ากลับมืดมัวลงอย่างหวาดหวั่น ฟ้าทางทิศเหนือมืดครึ้มส่อว่าจะมีฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล

“บรรยากาศได้ใจมาก ... กลางวันแสก ๆ แท้ ๆ ”

                  ลมเย็นโชยมาวูบหนึ่ง ปาระมีมองไปรอบ ๆ คุ้มเพื่อจะหาทางลัดเลาะผ่านป่ารกชัฏเหล่านี้ไปได้ ตัวคุ้มอยู่ห่างออกไปจากส่วนรั้วราว 200 เมตร แต่ป่าทึบนั้นกั้นบริเวณตัวคุ้มอยู่ราว ๆ 50 เมตรได้ หญิงสาวมองเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ที่หางตา เด็กหญิงผมจุกยืนอยู่ที่นั่น เด็กหญิงเป็นเพียงเงาบางใส ใบหน้าเรียวเล็กมีรอยยิ้มอย่างดีใจ เด็กหญิงกวักมือก่อนจะหมุนตัววิ่งนำหน้า ปาระมียืนนิ่งมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง เด็กน้อยไม่ได้ดูน่ากลัว แต่สิ่งที่ปาระมีมั่นใจอย่างยิ่งขณะนี้คือ เด็กที่เห็นนี่ ไม่ใช่คน! หากแต่เมื่อหล่อนมองข้ามเงาใสตรงหน้าผ่านเส้นทางรกร้างเพื่อไปยังคุ้มวังพิทักษ์ คุ้มร้างหลังใหญ่ที่ดูเหมือนมีไอหมอกมืดมัวครอบไว้ทั้งหลังนั่นต่างหาก ที่ดูน่ากลัวและมีพิษมีภัยกับหล่อนอย่างแน่ชัด หล่อนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัว มือเย็นเฉียบ แต่ความตั้งใจยังคงแน่วแน่ และไม่ว่าจะมีผีเด็กนำทางหรือไม่ก็ตาม อย่างไรหล่อนก็ต้องใช้กุญแจในมือไขความสงสัยให้กับตนเองอยู่แล้ว คิดได้ดังนั้นปาระมีจึงไม่รอช้ารีบก้าวตามเงาจาง ๆนั้นไป หล่อนกำลูกกุญแจไว้มั่น ไม่ละสายตาจากเงาของเด็กหญิง เจ้าผีเด็กดูคุ้นกับเส้นทางผ่านป่าไมยราพเข้าสู่ตัวคุ้มเป็นอย่างดี เงาจาง นั้นเลือนหายวับเมื่อร่างบางมาหยุดอยู่ที่ประตูไม้สีขาวเก่าคร่ำคร่าบานใหญ่ด้านหลังคุ้มนั่นเอง มันมองดูเหมือนประตูบานพับเก่า ๆ ทั่วไปแต่ไม่มีรูกุญแจให้สอด ปาระมีลังเลหล่อนไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อดึงประตูนั้นออก

“มันหล่นใส่เรามั้ยเนี่ย”

หญิงสาวพึมพำ เมื่อพิจารณาเห็นถึงความผุกร่อนของขอบประตูไม้ที่มีอายุร่วมร้อยปีมาแล้ว มือผอมยาวสั่นน้อย ๆ เมื่อเอื้อมไปจับขอบประตู เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากด้านหลัง ปาระมีรีบก้มตัวลงตามสัญชาตญาณ อะไรบางอย่างกระแทกบานประตูไม้สีขาวยุบจนเป็นหลุม ปาระมีหันไปมองยังที่มาของมัน ร่างหนึ่งในชุดพื้นเมืองโบราณขาดรุ่งริ่งยืนทะมึนอยู่ที่นั่น ดวงตาโกรธเกรี้ยวคู่นั้นแดงก่ำ

“อย่าเปิดประตู! ออกไป!”

นางไม่แม้แต่ขยับริมฝีปาก แต่เสียงนั่นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ปาระมีรู้สึกหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจ หล่อนรู้สึกเหมือนจะหมดแรง ร่างสั่นเทานั้นก้าวเข้ามาหาหล่อนช้า ๆ ในวินาทีที่ปาระมีหมดหนทางอยู่นั้น เงาจาง ๆร่างเล็กก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

“หยุดนะ! แสงคำ กลับไปทีที่ของเจ้าซะ อย่ามายุ่ง”

เด็กหญิงตะโกนก้อง วิญญาณแสงคำพุ่งเข้ามาประชิดเด็กหญิง ดวงตาของมันเบิกโพลงอย่างโกรธจัด

“มันจะเข้าไปในคุ้ม กูไม่ให้มันเข้า”

เสียงนั้นแหบแตกพร่า ริมฝีปากของมันเม้มเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อน เด็กหญิงเหลือบมองปาระมีเป็นเชิงให้สัญญาณ ก่อนจะหันไปจ้องวิญญาณร้าย

“มันบ่แม่นหน้าที่ของเจ้า นางมาช่วยเรา”

เด็กหญิงพูดเสียงเย็น แสงคำเหยียดตัวตรงกรีดเสียงร้องอย่างโหยหวน เด็กหญิงรีบพุ่งตัวเข้ากันไว้ ปล่อยให้ปาระมีลุกขึ้นง้างประตูไม้สีขาวเพื่อจะเข้าไปสู่ตัวคุ้ม หญิงสาวเปิดประตูได้สำเร็จก็รีบพุ่งตัวเข้าไปก่อนที่จะกระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง

“โอ๊ย!”

ปาระมียกมือขึ้นคลำศีรษะ หล่อนเงยหน้ามองเบื้องหน้าว่าตนเองชนเข้ากับอะไร

“ประตู...”

มันคือประตูเหล็กเก่า ๆ ที่ดูแข็งแรงมาก ปาระมีพยายามกระแทกประตูเพื่อให้เปิดออกแต่ก็ไม่สำเร็จ

“ใช้กุญแจซี่ เร็วเข้า”

เด็กหญิงตะโกน วิญญาณแสงคำดูกราดเกรี้ยวรุนแรง จนเด็กผมจุกเริ่มต้านไม่ไหว ปาระมีถอดลูกกุญแจออกจากคอ สอดมันที่รูกุญแจเกรอะสนิม มือสั่นเทาแทบจะปล่อยให้กุญแจดอกเก่าหลุดจากมือ

“เร็ว!!!”

เด็กหญิงเร่งเสียงแผ่ว เสียงกลอนประตูลั่นกริ๊ก ปาระมีแทบหยุดหายใจด้วยความตื่นเต้นและตื่นกลัว แสงคำหลุดจากพันธนาการของเด็กหญิงแล้ว หล่อนกำลังพุ่งมาหาหญิงสาว

“กรี๊ด...................”

ทันทีที่วิญญาณแสงคำเข้ามาในประตูนางกรีดร้องอย่างเจ็บปวด แล้วร่างของหญิงเสียสติก็หายวับไปในพริบตา ปาระมีมองภาพนั้นด้วยความแปลกใจและโล่งใจระคนกัน วิญญาณตัวน้อยที่นั่งหอบอยู่ด้านนอกยิ้มออกมาจาง ๆก่อนจะค่อย ๆเลือนหายไปด้วย

ปาระมีปาดเหงื่อ กระพริบตาถี่ ๆเรียกสติให้กลับคืนมา หล่อนพบว่าอีกด้านของประตูนั้น ไม่ใช่คุ้มร้างอีกต่อไป หญิงสาวพบทางเดินปูด้วยหินสีลาดยาวอยู่เบื้องหน้า สองข้างทางคือตัวอาคารที่โอ่อ่างดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เมื่อมองทอดไปทั่วบริเวณ ก็เห็นสนามหญ้าเขียวราวกับปูพรมอยู่แทนที่ป่าไมยราพระหว่างทางข้ามไปฝั่งวัดแก้วกนกนั้น มีผู้คนเดินขวักไขว่ ปาระมีประหลาดใจกับภาพที่ได้เห็น...หล่อนถอยหลังออกจากประตูเหล็กกลับมามองภาพด้านหลังของตัวเอง ป่ารกชัฏดูทึมทึบยังอยู่ตรงนั้น คุ้มเก่าคร่ำคร่า ประตู หน้าต่างหลายบานผุหลุดรุ่งริ่ง เป็นคุ้มอายุร่วมร้อยปีที่หล่อนคุ้นตา ปาระมีหันกลับไปมองด้านในของประตูเหล็กบานเดิม ความโอ่อ่าน่าพิสมัยของคุ้มไม้ทรงยุโรปก็ยังคงตั้งตระหง่านโดดเด่นสะดุดตาอยู่ตรงนั้น มีเสียงเด็ก ๆ ตะโกนโหวกเหวก เสียงอึกทึกครึกโครมเหมือนมีการก่อสร้างต่อเติมดังมาแว่ว ๆ ดูเป็นคุ้มที่มีชีวิตชีวา ราวกับอยู่กันคนละภพ... รึว่า.... นี่คือภพอดีต! หล่อนได้กลับมาที่นี่อีกครั้งแล้ว!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา