กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.45K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ที่ปรึกษาส่วนพระองค์ หลี่หยางซิ่ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเพ่ยอิงเข้ารับราชองค์การแต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ ซึ่งแน่นอนว่าในตอนแรก มีเหล่าขุนนางสงสัยในสติปัญญาความสามารถของเพ่ยอิง ที่แม้ว่าจะอยู่ในสถานะบุรุษแต่ด้วยความที่หน้าอ่อนและอายุเพียง 28ปี จึงมองว่าหนุ่มน้อยคนนี้ยังเด็กนัก จะมีความสามารถที่จะมาเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ให้กับฮ่องเต้ได้เท่ากับบรรดาขุนนางที่อยู่ในวังและรับใช้ฮ่องเต้มานานแล้วได้อย่างไร แต่เฟยหลงก็ได้จัดให้มีการทดสอบความรู้ความสามารถของที่ปรึกษาส่วนพระองค์ต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยมีทั้งการทดสอบโดยใช้ข้อสอบเดียวกันกับที่ออกให้กับจอหงวน รวมถึงตอบคำถามต่างๆ ซึ่งเพ่ยอิงก็ผ่านการทดสอบได้จนเป็นที่ยอมรับว่า เพ่ยอิงเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ รวมถึงการยืนยันความคิดการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของฮ่องเต้จึงไม่มีใครกล้าคัดค้านอีก โดยเพ่ยอิงมีชื่อใหม่ในฐานะบุรุษที่เฟยหลงตั้งให้ก่อนที่จะเข้าวังว่า หลี่หยางซิ่ว หลี่เป็นแซ่เดิมของเพ่ยอิง ส่วนชื่อหยางซิ่วนั้นมีความหมายว่า ชายผู้งดงามยอดเยี่ยมซึ่งเฟยหลงตั้งใจจะยกย่องชื่นชมเพ่ยอิงว่า เป็นหญิงที่งดงามยอดเยี่ยมสำหรับเขานั่นเอง
แต่ในตอนนี้เพ่ยอิงต้องรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เพราะเฟยหลงให้เธอเข้ามาอยู่ในตำหนักเดียวกันกับเขาโดยอ้างว่า เขาต้องการที่ปรึกษาส่วนพระองค์ไว้คอยถวายงานใกล้ชิดอยู่ในตำหนัก เพื่อจะได้ปรึกษาปัญหาเรื่องข้อราชการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่เพ่ยอิงทราบดีว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้างของคนเจ้าเล่ห์ที่เอาเรื่องงานมาบังหน้า และมิหนำซ้ำเขายังให้เธอนอนเตียงเดียวกับเขาอีกจนเธอต้องออกปากในขณะอยู่กันตามลำพัง "ฝ่าบาทเพคะมันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือเพคะให้หม่อมฉัน มาอยู่ในตำหนักเดียวกับพระองค์และยังให้หม่อมฉัน นอนร่วมแท่นบรรทมเดียวกับพระองค์อีก"
แม้จะรับรู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่พอใจมาก แต่เฟยหลงก็ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย และยังคงยืนยันใช้ข้ออ้างที่น่าโมโหมากในความคิดของเพ่ยอิง
"อ้าวทำไมเราจะนอนเตียงเดียวกันไม่ได้ล่ะหยางซิ่ว ในเมื่อข้ากับเจ้าก็เป็นบุรุษเช่นเดียวกันนี่นา" เฟยหลงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับเข้ามาโอบกอดและกระซิบข้างหูของเธอว่า "ในเมื่อเจ้ามาทำงานกับข้าในตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนพระองค์และยังเป็นชาย ไม่มีเหตุผลที่พวกเราจะนอนร่วมเตียงเดียวกันไม่ได้นี่นา จะต้องจัดตำหนักใหม่ให้วุ่นวายไปทำไม ข้าจะไ้ด้ปรึษางานราชการกับเจ้าได้สะดวก"
"นึกว่าหม่อมฉันไม่รู้หรือเพคะ ว่าพระองค์กำลังหาเรื่องฉวยโอกาสกับหม่อมฉันเอาเรื่องงานมาบังหน้า"
"เฮ้อ...ข้าก็ไม่ใช่บุรุษที่มีคุณธรรมราวกับผู้ทรงศิลเสียหน่อยนะ ในเมื่อมีโอกาสให้ฉวยข้ายินดีจะใช้มันให้เป็นประโยชน์แก่ตัวข้าอย่างถึงที่สุด วางใจเถอะข้าก็แค่อยากอยู่ใกล้ชิดกับเจ้า อาจมีหากำไรกอดเจ้าบ้างจูบเจ้าบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ข้าสัญญาจะไม่ล่วงเกินเจ้า ถ้าเจ้ายังไม่เต็มใจที่จะเป็นของข้า ข้าจะรอให้เจ้ายินยอมพร้อมใจกับข้าโดยไม่บังคับฝืนใจ เพียงแต่ก็อยากจะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับเจ้าตามประสา บุรุษที่อยากอยู่ใกล้หญิงในดวงใจบ้างก็เท่านั้น" กล่าวจบก็ขโมยหอมแก้มเพ่ยอิงหนึ่งที โดยมีสายตาของเพ่ยอิงส่งสายตาค้อนมาให้คนฉวยโอกาสจอมเจ้าเล่ห์ ดูเหมือนว่าเธอคงต้องเหนื่อยทั้งเรื่องงานและยังต้องเหนื่อยกับคนเจ้าเล่ห์อีก เธอเริ่มรู้สึกว่างานนี้ช่างเปลืองตัวจริงๆ
แต่ในตอนนี้เพ่ยอิงต้องรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เพราะเฟยหลงให้เธอเข้ามาอยู่ในตำหนักเดียวกันกับเขาโดยอ้างว่า เขาต้องการที่ปรึกษาส่วนพระองค์ไว้คอยถวายงานใกล้ชิดอยู่ในตำหนัก เพื่อจะได้ปรึกษาปัญหาเรื่องข้อราชการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่เพ่ยอิงทราบดีว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้างของคนเจ้าเล่ห์ที่เอาเรื่องงานมาบังหน้า และมิหนำซ้ำเขายังให้เธอนอนเตียงเดียวกับเขาอีกจนเธอต้องออกปากในขณะอยู่กันตามลำพัง "ฝ่าบาทเพคะมันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือเพคะให้หม่อมฉัน มาอยู่ในตำหนักเดียวกับพระองค์และยังให้หม่อมฉัน นอนร่วมแท่นบรรทมเดียวกับพระองค์อีก"
แม้จะรับรู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่พอใจมาก แต่เฟยหลงก็ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย และยังคงยืนยันใช้ข้ออ้างที่น่าโมโหมากในความคิดของเพ่ยอิง
"อ้าวทำไมเราจะนอนเตียงเดียวกันไม่ได้ล่ะหยางซิ่ว ในเมื่อข้ากับเจ้าก็เป็นบุรุษเช่นเดียวกันนี่นา" เฟยหลงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับเข้ามาโอบกอดและกระซิบข้างหูของเธอว่า "ในเมื่อเจ้ามาทำงานกับข้าในตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนพระองค์และยังเป็นชาย ไม่มีเหตุผลที่พวกเราจะนอนร่วมเตียงเดียวกันไม่ได้นี่นา จะต้องจัดตำหนักใหม่ให้วุ่นวายไปทำไม ข้าจะไ้ด้ปรึษางานราชการกับเจ้าได้สะดวก"
"นึกว่าหม่อมฉันไม่รู้หรือเพคะ ว่าพระองค์กำลังหาเรื่องฉวยโอกาสกับหม่อมฉันเอาเรื่องงานมาบังหน้า"
"เฮ้อ...ข้าก็ไม่ใช่บุรุษที่มีคุณธรรมราวกับผู้ทรงศิลเสียหน่อยนะ ในเมื่อมีโอกาสให้ฉวยข้ายินดีจะใช้มันให้เป็นประโยชน์แก่ตัวข้าอย่างถึงที่สุด วางใจเถอะข้าก็แค่อยากอยู่ใกล้ชิดกับเจ้า อาจมีหากำไรกอดเจ้าบ้างจูบเจ้าบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ข้าสัญญาจะไม่ล่วงเกินเจ้า ถ้าเจ้ายังไม่เต็มใจที่จะเป็นของข้า ข้าจะรอให้เจ้ายินยอมพร้อมใจกับข้าโดยไม่บังคับฝืนใจ เพียงแต่ก็อยากจะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับเจ้าตามประสา บุรุษที่อยากอยู่ใกล้หญิงในดวงใจบ้างก็เท่านั้น" กล่าวจบก็ขโมยหอมแก้มเพ่ยอิงหนึ่งที โดยมีสายตาของเพ่ยอิงส่งสายตาค้อนมาให้คนฉวยโอกาสจอมเจ้าเล่ห์ ดูเหมือนว่าเธอคงต้องเหนื่อยทั้งเรื่องงานและยังต้องเหนื่อยกับคนเจ้าเล่ห์อีก เธอเริ่มรู้สึกว่างานนี้ช่างเปลืองตัวจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ