กุหลาบเพชร

ปานตะวันได้เข้ามาในค่ายทหารโดยเฟยหนานแนะนำตัวกับทหารอื่นว่าเธอเป็นเด็กหนุ่มที่เป็นเด็กกำพร้า ที่อยากเป็นทหารรับใช้ชาติโดยที่เฟยหนาน          ไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของเธอมากนักแต่พวกทหารในค่ายก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก เนื่องจากการเป็นทหารก็แค่เข้าฝึกร่วมกับทหารชายคนอื่นๆที่วัดกันด้วยความสามารถทางการต่อสู้ การรบ และความแข็งแกร่งเท่านั้นซึ่งอดีตทหารหญิงยุคปัจจุบันอย่างปานตะวันก็ สามารถสอบผ่านได้อย่างสบายเพราะแต่เดิมเธอก็มีความสามารถในด้านการต่อสู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วและสามเดือนมานี้เธอก็ฝึกทักษะของทหารยุคโบราณเพิ่มเข้ามา ทั้งการใช้ ทวน หอกและทักษะการใช้ดาบรวมถึงการยิงธนู ทำให้เธอมีความสามารถมากกว่าทหารใหม่คนอื่นๆ จนเป็นที่ยอมรับชื่นชมของทุกคน และด้วยบุคลิกที่มีความห่ามห้าวคล้ายผู้ชายอยู่แล้ว จึงทำทหารคนอื่นเชื่อได้ว่าเธอเป็นบุรุษจริงๆโดยไม่มีใครสงสัย ดังนั้นการเข้าเป็นทหารของปานตะวัน จึงถือว่าง่ายกว่าการเข้าวังรับตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของเพ่ยอิงอยู่มาก เพราะต้องใช้สติปัญญาความสามารถทดสอบต่อหน้าเหล่าขุนนางอยู่พอสมควรกว่าจะได้รับการยอมรับ 

ปานตะวันมีชื่อใหม่ในฐานะบุรุษที่เฟยหนานตั้งให้ว่าจิวเลี่ยง     คำว่าจิวแปลว่าโชคชะตาคำว่าเลี่ยงแปลว่าความสว่างไสว เพราะปานตะวันในชื่อภาษาไทยที่เฟยหนานได้รับการอธิบายจากเธอว่า     หมายถึงดวงอาทิตย์หรือดวงตะวันเฟยหนานจึงตั้งชื่อเธอว่าจิวเลี่ยง เพราะสำหรับเขาถือว่าเป็นโชคชะตาที่ทำให้เขาได้เจอกับเธอที่เป็นความสว่างไสวในเมื่อดวงอาทิตย์หรือดวงตะวันมันคือสิ่งที่ให้ความสว่างสไสวแก่โลก เธอก็คือความสว่างไสวของเขาเช่นกัน เฟยหนานไม่อยากให้เธอไปนอนปะปนกับบรรดาทหารชายคนอื่นๆ จึงให้เธอมานอนอยู่ในที่พักเดียวกันกับเขาโดยอ้างว่าจะให้เธอ คอยรับใช้ใกล้ชิดเพื่อเรียนรู้เรื่องยุทธวิธีการรบจากเขา ซึ่งปานตะวันก็ไม่ได้มีท่าทีคัดค้านหรือเขินอายแต่อย่างใด       เนื่องจากเธอเคยเป็นหัวหน้าฝึกทหารชายในค่ายทหารยุคปัจจุบันอยู่แล้วดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกอายหรือตะขิดตะขวงใจใดๆ เพราะสำหรับเธอก็เหมือนกับให้เธอไปนอน     กับผู้บังคับบัญชาที่เธอไม่ได้คิดเรื่องชู้สาวใดๆ ทั้งที่ในความเป็นจริงเฟยหนานก็เจ้าเล่ห์พอๆกับเฟยหลงผู้เป็นพี่ชายนั่นแหละ เพราะที่เสนอให้นอนร่วมกับเขาเพราะเขาไม่ต้องการให้หญิงในดวงใจของตัวเองไปนอนอยู่ร่วมกับชายอื่น และเขาก็อยากจะให้เธอมาอยู่ใกล้ชิดกับเขาด้วย สรุปแล้วไม่ได้เกี่ยวกับเหตุผลทางการทหารแต่เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น แต่เนื่องจากปานตะวันเป็นพวกห่ามห้าวและไม่คิดเล็กคิดน้อยจึงไม่ได้คิดอะไร แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เฟยหนานจะฉวยโอกาสเอาเปรียบเธอ เพราะทุกครั้งเฟยหนานจะถูกเธอ ตอบโต้กลับด้วยหมัดเท้าเข่าศอกสารพัดจน  เฟยหนานจึงได้แต่คอยหาโอกาส    สร้างความประทับใจให้เธอได้ชื่นชมในโอกาสต่อๆไปแทน