แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ

8.7

เขียนโดย ลันตนา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.

  33 บท
  10 วิจารณ์
  36.31K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

28) ความรู้สึกที่หลากหลาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นจากจินตนาการผู้เขียน เพื่อทำความฝันของ นัก(อยาก)เขียน
ให้สำเร็จ ด้วยการลงมือเขียน เขียนแล้วอยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ นักอ่าน
เพื่อสร้างความสนุก ความบันเทิงให้กับนักอ่านที่น่ารักทุกคน
ทั้งนี้...มิได้มีเจตนาพาดพิงผู้ใดโดยมิได้ตั้งใจ ตัวละครมิได้มีตัวตนอยู่จริง ๆ
และบุคคลในภาพก็มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานเขียนชิ้นนี้
หากชื่อตัวละครชื่อพ้องกับชื่อผู้ใด ทางผู้เขียนก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
 
ขอขอบพระคุณในการติดตาม ^^

 
บทที่ 28 ความรู้สึกที่หลากหลาย
          ก๊อกๆๆ
          เสียงเคาะประตูเรียกให้ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดสำภาระต่างๆลงกระเป๋าเป้ใบโตต้องหยุดชั่วขณะ ขาเพรียวยาวเดินมาหยุดที่ประตูมือหนาบิดลูกบิดอะลูมิเนียมให้คลายออก เมื่อประตูเปิดออกก็เผยภาพผู้มาเยือน มุมปากของชายหนุ่มกดยิ้มกว้างเพราะความดีใจปนเปความงุนงงและคิดถึง ผู้มาเยือนยิ้มหวานให้เจ้าของห้อง
          ‘หรือว่าเราฝัน’ เขาคิดในในก่อนจะพิสูจน์ความจริงด้วยการหยิกแขนตัวเอง ความเจ็บคือคำตอบที่เขาได้รับและพิสูจน์ความจริงครั้งสุดท้ายชายหนุ่มโผเข้ากอดร่างบางตรงหน้าครู่หนึ่งแล้วเขาจึงปล่อยให้เธอ
          “มาได้ยังไงแล้วนายอาร์มยอมให้มาแล้วเหรอ” หญิงสาวยิ้มให้และพยักหน้าน้อยๆ กว่าพี่ชายจะอนุญาตก็ผ่านมาสองวันหลังจากวันที่เธอคิดแอบจะไปหาก้องภพ ส่วนพีรพัฒน์อยากแกล้งต่อแต่ก็อดสงสารและเห็นใจไม่ได้จึงยอม ไอรินทร์มองผ่านเข้าไปภายในห้องของของเขาพบว่าเสื้อผ้าข้าวของถูกรื้ออกมาวางไว้บนเตียงและมีกระเป๋าเป้ใบโตวางอยู่ในบริเวณนั้นด้วย
           “กำลังทำอะไรอยู่คะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ เป็นคำถามที่เขาไม่อยากตอบเพราะรู้ดีว่าเธอต้องสะเทือนใจแต่อย่างไรมันคือวามจริง
           “พรุ่งนี้พี่ต้องไปแล้วนะ” หญิงสาวฟังแล้วคิด เขาต้องไปแล้วจริงเหรอไปในที่ที่อันตราย คิดได้อย่างนี้เธอจึงอยากคัดค้านแต่คิดอีกแง่หนึ่งว่านี้คือหน้าที่รั่วของชาติที่ควรปฏิบัติรับใช้ประเทศชาติเพื่อสร้างความสงบสุขให้แก่บ้านเมือง ไอรินทร์กลืนคำพูดที่คิดอยากพูดครั้งแรกดวงตาคู่สวยกระพริบถี่เพื่อไล่ไอร้อนบางอย่างออกไป
           “ให้ช่วยอะไรไหมคะ” เธอเอ่ยอย่างยินดีอย่างน้อยนี้คือสิ่งที่พอจะทำให้เขาได้ก่อนไป
           ก้องภพพาไอรินทร์เข้ามาภายในห้องนอน แม้ว่าเจ้าของห้องเป็นผู้ชายแต่ห้องของเขาก็ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเพราะได้รับการฝึกระเบียบวินัยตั้งแต่เป็นนักเรียน เสื้อคลุมแขนยาวลายสีเขียวขี้ม้าที่เธอจะไม่ได้เห็นเขาใส่ มือเล็กลูบไหล่เสื้อที่รีดเรียบอย่างอาลัย ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้เจอกัน
          “รินทร์” ก้องภพเรียกคนที่กำลังใจลอยไปกับเสื้อของเขาและเห็นว่าดวงตาคู่สวยกำลังหม่นเศร้ายอมมองกองเสื้อของเขา ไอรินทร์หันไปหาคนเรียกซึ่งเขากำลังตบที่นอนบนเตียงข้างตัวที่ยังว่าง เธอเดินไปล้มตัวลงนอนโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดอย่างเดียวคืออยากอยู่กับเขาให้นานที่สุด ทันทีที่ศีรษะเล็กกระทบไหล่กว้างน้ำหยดใส่ที่ไม่พึงประสงค์ก็ร่วงหลนทันที
            ก้องภพโอบกอดร่างเล็กและเจ้าของร่างเล็กก็กอดตอบเช่นกัน “พี่ไปแค่หกเดือนเองเราค่อยโทรศัพท์หากันได้นะ” ชายหนุ่มปลอบใจใครไม่ค่อยเก่งจึงได้แต่พูดเสียงอ่อนโยนเพื่อปลอบเธอ
           “พอพี่กลับมาเราแต่งงานกันนะ” ริมฝีปากหนาหยักได้รูปกดยิ้มบางๆให้กับคำพูด ชายหนุ่มก้มลงมองคนในอ้อมแขนอย่างมีความหมาย เขาดีใจที่เธอเป็นห่วงและไม่ต้องการให้เขาไปแต่อย่างไรหน้าที่ก็คือหน้าที่ ก้องภพประคองศีรษะเล็กวางลงบนหมอนหนุ่มใบโตอย่างเบามือ นิ้วโป้งเรียวปาดคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มอย่าอ่อนโยนก่อนจะประทับริมฝีปากบนแก้มนุ่มอย่างอ่อนโยน
            ไอรินทร์หลับไปพักใหญ่แล้วรู้สึกตัวตื่นในช่วงบ่าย ดวงตาคู่สวยปรือขึ้นช้าๆ พยายามมองสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าเจ้าของห้องไม่อยู่ กองเสื้อผ้าถูกพับเก็บเข้ากระเป๋าเป้เรียบร้อยเพราะเธอเห็นว่ากระเป๋าป่องมาก
           “ตื่นนานหรือยัง” เสียงทุ่มเอ่ยเข้ามาพร้อมร่างสูงของเขาที่เดินเข้ามาในห้องและเดินมาหยุดนั่งที่ขอบเตียง หญิงสาวยิ้มให้
            ก้องภพนำเรื่องที่เขาจะแต่งงานกับไอรินทร์มาบอกให้ผู้เป็นมารดารับทราบ ส่วนตัวคุณสุภาพรก็รักและเอ็นดูหญิงสาวเสมือนลูกสาวคนหนึ่งอยู่เป็นทุนเดิมแล้วจึงไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว ถ้าหากลูกชายได้ผู้หญิงอื่นมานี้สิต้องดูก่อน แล้วคุณสุภาพรและคุณเกรียงภพเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวไปสูขอไอรินทร์ที่บ้าน เมื่อทางบ้านของฝ่ายหญิงทราบจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกันกับบ้านเปรมสุดาเพราะรู้จักมักคุ้นฝ่ายชายตั้งแต่เด็ก มีอยู่คนเดียวเท่าที่ดูเหมือนว่าก้องภพต้องฝ่าด่านให้ได้ ไม่ใช่คุณวิชัยแต่เป็นพีรพัฒน์
            “ฉันจะเชื่อใจนายได้อย่างไรว่าจะดูแลน้องฉันได้” พีรพัฒน์ตีสีหน้าเคร่งขรึมจ้องหน้าว่าที่น้องเขยเขม็ง ก้องภพยืดหลังตรงมือข้างหนึ่งกุมมือว่าที่เจ้าสาวในอนาคตแน่นและมองเธออย่างมีความหมายก่อนจะหันไปสบตากับผู้ใหญ่ทั้งสี่ท่านและเพื่อนหนุ่ม
            “ผม ร.อ.ก้องภพ เปรมสุดา ขอสัญญาว่าจะดูแล น.ส.ไอรินทร์ วัฒธนเวช ให้ดีที่สุดครับ!” เสียงทุ่มกล่าวหนักแน่นและจริงจังทำให้ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงอุ่นใจยิ่งขึ้นเมื่อชายหนุ่มรักและพร้อมจะดูและลูกสาวของท่านได้ดี ส่วนพีรพัฒน์ก็พยักหน้ารับน้อยๆ
            วันเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ วันที่สดใสแต่กลับรู้สึกเศร้าโสกสำหรับไอรินทร์ เธอรีบตีนตั้งแต่ตีห้าเพื่อจะออกไปส่งก้องภพที่จะไปประจำการที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ออกจากบ้านไอรินทร์จับมือก้องภพไม่ปล่อยจนกระทั่งถึงที่ขึ้นรถ ก่อนที่เขาจะขึ้นรถชายหนุ่มกอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายสักครู่แล้วจึงปล่อย
            “ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ” ไอรนิทร์กุมมือหนาแน่น จากนั้นรถบัสสีเขียวแก่แล่นออกไปช้าๆ พาหัวใจเธอออกไปพร้อมกัน
            แม้ระยะทางจะห่างไกลแต่หัวใจยังอยู่ด้วยกันทุกนาที อย่างที่เขาว่ากันว่าเทคโนโลยีสมัยนี้พัฒนาเร็วจนแทบตามไม่ทันอย่างเช่นเครื่องมือสื่อสารที่ทั้งโทร.ได้และยังสามารถใช้โปรแกรมวีดีโอคอลในการสื่อสารแบบไร้สายที่ได้ยินแค่เสียงและได้เห็นทั้งภาพทั้งเสียงสามารถช่วยบรรเทาความคิดถึงกันได้ไม่มากไม่น้อย
            [เวลาเนี่ยมันเดินเร็วไม่เคยรอใครเลยเนอะ] ชายหนุ่มแหงนหน้ามองท้องฟ้ายามวิกาลมีดวงดาวมากมายประดับเต็มท้องฟ้าผืนกว้างกำลังกระพริบแสงในตัวแข่งขันกันอวดสายตาผู้ชม ก้องภพรู้สึกว่าดวงดาวช่างน่าอิจฉายิ่งนัก ในทุกๆคืนต้องนอนกอดอาวุธทรงกระบอกแข็งทื่อ
            “นั้นสิคะ อีกสองเดือนพี่ก็หมดประจำการแล้ว” ไอรินทร์ซบใบหน้าลงบนหมอนข้างนุ่มนิ่ม ดวงตาคู่สวยทอดมองพระจันทร์ดวงโตสีนวลสุกใส มือเล็กข้างซ้ายที่มีแหวนเปลือกหอยประดับอยู่บนนิ้วนางเลื่อนขึ้นมาแตะกับริมฝีปากสีชมพู
            [เสียใจละสิ]
            “ค่ะเสียใจ” หญิงสาวว่าประชดและเงียบไปสักครู่ “เสียใจถ้าพี่ไม่กลับมา” เสียงหวานเอ่ยแผ่วลง รอยยิ้มบางๆเกิดขึ้นกับก้องภพ
            [วันที่พี่กลับอย่าลืมมารับด้วยนะ] เขาว่าอ้อนๆ ไอรินทร์ได้แต่ย่นจมูกใส่โทรศัพท์แล้วตอบว่า
            “ก็ได้” เสียงหวานตอบห้วนๆ
            [ตอบแบบนี้ไม่อยากมาละสิ...ขอโทษนะที่บังคับ ดึกแล้วนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องทำงานไม่ใช้เหรอ] เสียงทุ่มว่าเอื่อยๆ
            “คุณทหารขี้งอนจัง จะไปรับถึงที่เลยค่ะ พี่ก็พักผ่อนเสียบ้างนะเดี๋ยวไม่มีแรงสู้เพื่อชาติ” ท้ายประโยคเธอออกเสียงเข้มแข็งทำให้คนปลายสายกดยิ้มบางๆ
            [คร้าบบบผม คืนนี้พี่ยังนอนไม่ได้หรอกเพราะต้องอยู่เวรที่ด่านจนเช้ามืด]
            “ระวังตัวด้วยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยอ่อนโยนส่งความห่วงใยไปให้คนปลายสายได้รับความอบอุ่นหัวใจและมีพลังที่จะสู้ต่อไป
            “รินทร์ก็ดูแลตัวเองบ้างนะครับ”
            “ค่ะ”
            [เอาละพี่ต้องปะ...ตู้มมมมมมมมม ตู๊ดๆๆๆ...]
            “ฮัลโหล พี่ก้อง พี่ได้ยินรินทร์ไหม ฮัลโหลๆ” ไอรินทร์กดโทรศัพท์หาชายหนุ่มติดต่อกันหลายครั้งอย่างร้อนรนเสียงดังสนั่นจากปลายสายเมื่อครู่นั้นทำให้เธอใจคอไม่ค่อยดี เสียงปลายสายในโทรศัพท์บอกให้เธอทราบว่าไม่สามารถติดต่อกับก้องภพได้อีก…
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา