แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ
8.7
เขียนโดย ลันตนา
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.
33 บท
10 วิจารณ์
36.29K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
26) แต่งงานกับพี่ไหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 26 แต่งงานกับพี่ไหม
ฝ่าเท้าหนาเปล่าเปลือยย่ำลงพื้นทรายแฉะชื้นน้ำ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความมั่นคงระหว่างเดินชายหนุ่มยังทอดมองดวงหน้าหวานที่หลับตาสนิท“เอาละ เปิดตาได้แล้ว” สิ้นเสียงเปลือกตาที่เคลือบด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ค่อยๆ ปรือขึ้นดวงตากลมโตกระพริบถี่ก่อนจะกวดสายตาสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบกาย ที่นี้คือ“พี่พารินทร์มาที่นี้ทำไม ปล่อยนะ!” เธอโวยวายเพราะที่นี้คือทะเลและตอนนี้ร่างกายท่อนล่างของชายหนุ่มจมอยู่ใต้น้ำระดับเอว“พี่มีเรื่องสำคัญจะบอก” ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักเพื่อจะปลดปล่อยพันธนาการแต่ไม่เป็นผลเพราะชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นภาพเด็กหญิงร่างอวบเนื้อตัวเปียกโชคกำลังนั่งร้องให้ขี้มูกโป่งอยู่บนพื้นทรายของริมหาดเพราะเมื่อตอนเธอเล่นน้ำเผลอดื่มน้ำทะเลไปอึกใหญ่ ภาพวัยเด็กฉายเข้าสู่สมองของก้องภพอีกครั้ง“บอกที่อื่นสิ ที่ดีๆกว่านี้ไม่มีแล้วเหรอ” หญิงสาวหน้างอง้ำ“ที่นี้แหละดีที่สุดแล้ว” ไอรินทร์ผินหน้าไปทางอื่น คนบ้ารู้ทั้งรู้ว่าเธอกลัวน้ำยังพาลงมาอีก“โกรธพี่แล้ว ไอ้พี่เต้าหู้ยี้ ไอ้พี่บ้า ไอ้ไม้เสียบผี ว้าย!!” ชายหนุ่มแสร้งทำเธอตกน้ำโทษฐานพูดจาไม่เพราะ ไอรินทร์กอดคอก้องภพแน่น“พูดอีกสิ” พูดยิ้มๆแต่ทำเสียงดุ หมีโคอาล่ายังคงเกาะต้นไม้แน่นเพราะกลัวว่าเขาจะโยนเธอลงน้ำจริงๆ เมื่อเห็นไอรินทร์สงบนิ่งก้องภพจึงค่อยๆเดินหาที่เพื่อกะเกนระดับน้ำทะเลให้สูงระดับหัวเข่าของเธอ แต่กว่าจะยืนหญิงสาวแปลงร่างเป็นรูปปั้นหมีคาล่าเกาะคอชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย “พี่อยู่ตรงนี้แล้วไม่ต้องกลัว” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูคนกอดคอให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่ปล่อยเธอ ฝ่าเท้าเล็กค่อยๆหย่อนลงน้ำจนร่างกายรับหัวเข้าลงไปจมอยู่ใต้น้ำ“ปล่อยเสื้อแล้วเงยหน้ามาคุยกัน” นายทหารหนุ่มบอกเมื่อเห็นคนกลัวน้ำกอดเอวของเขาไว้แน่นร่างกายแข็งทื่อ พร้อมหลับตาปี๋“พี่จะพูดอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะค่ะ รินทร์รอฟังอยู่” ไอรินทร์พูดเสียงอู้อี้ ใบหน้าเล็กซุกอยู่กลางอกหนาของชายหนุ่ม“ผู้ฟังไม่มองหน้าผู้พูด แล้วผู้พูดจะพูดได้อย่างไร” ประโยคนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นผู้ที่ไม่มีมารยาทในการฟังจึงยอมถอยออกเล็กน้อยแต่มือสองข้างกำแน่นอยู่ที่ชายเสื้อของก้องภพและเงยหน้ามองผู้พูดเรียวตาคมจ้องลึกลงในดวงตากลมโตที่ยังไหวระริกเพราะโรคกลัวน้ำอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบขวัญคนขี้กลัว รอยยิ้มอ่อนโยนทำให้ไอรินทร์ลืมสนิทว่าตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ในน้ำ ลืมความกลัวหมดสิ้นเหลือแค่เพียงความเชื่อมั่นและอบอุ่นใจ“เมื่อก่อนพี่รู้ตัวว่าพี่พูดแหย่ทำให้รินทร์ไม่พอใจ” เสียงทุ้มเอ่ยอ่อนโยน หัวใจอยากสารภาพ“ในใจรินทร์คิดอย่างไรพี่ไม่รู้ แต่พี่รู้อย่างเดียวคือพี่อยากคุยอยากอยู่ใกล้” นิ้วเรียวยาวเกลี่ยเศษปอยเส้นผมที่ถูกลมพัดปิดดวงหน้าหวานให้พ้น“ไม่ว่าปืนหรือระเบิดพี่ก็กล้าจับ แต่พี่ขี้ขลาดเกินไปที่จะพูดคำนี้ให้รินทร์ฟัง” มือหนาเลื่อนขึ้นกอบกุมไหล่บาง ดวงตาคมกล้าฉายแววหวานซึ่งเมื่อสบดวงตากลมโตไอรินทร์ยืนนิ่งสงบดวงตาคู่สวยสบกับดวงตาคมกล้าอย่างมีความหมาย หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วจนแทบจะหลุดออกมานอกอกเพื่อรอฟังคำคำนั้น “รัก...” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วแต่หวานซึ่งตรึงใจ มือหนาข้างหนึ่งสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเพื่อหยิบวัตถุบางอย่าง ส่วนมือที่ยังว่างกุมมือเล็กข้างซ้ายของหญิงสาวมาแนบที่ตำแหน่งของหัวใจ “ถ้าไม่รังเกียจ ช่วยรับรักคนขี้ขลาดไว้ได้ไหม” หัวใจดวงน้อยชุ่มฉ่ำราวกับได้น้ำฝนเย็นฉ่ำหล่อเลี้ยง ความตื้นตันใจถูกแสดงออกผ่านหยดน้ำที่หน่วยตาและไหลรินอาบสองข้างพวงแก้ม ดวงหน้าหวานเบือนหนีไปอีกทางเพื่อหลบซ่อนสิ่งที่ไม่อยากให้เขาเห็น “ไม่ค่ะ” นัยน์ตาสีนิลหดวูบวัตถุในมือเกือบหล่นน้ำถ้าหากกำไว้ไม่แน่น การที่เธอเธอหลบหน้าแสดงให้เขารู้สินะว่าเธอรังเกียจ ใช่สิความรักของคนขี้ขลาดมันคงไม่มีค่าและไม่มั่นคงพอที่จะทำให้เธอเชื่อมั่น ชายนุ่มหลุบตาลงต่ำยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น อย่างน้อยเขาก็ได้บอกในสิ่งที่ใจต้องการ ก้องภพปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระวัตถุชิ้นน้อยถูกเก็บเข้าที่เดิมก่อนจะก้าวเท้าออกเดินด้วยความยากลำบาก ทำไมร่างกายมันหนักอย่างนี้ “ไม่มีวัน ไม่มีวันที่รินทร์จะไม่รับรักพี่” เสียงหวานตะโกนสั่นเครือตามหลังชายหนุ่มที่ก้าวเดินได้ไม่กี่ก้าว ขาสองข้างที่หนักอึ้งหยุดชะงักก่อนจะเปลี่ยนทิศทางเดินไปที่เก่า “อะไรนะ พูดใหม่สิ” “ไม่มีวันที่จะไม่รับรักพี่ค่ะ” หญิงสาวพูดทั้งคราบน้ำตาเปื้อนแก้ม ร่างเล็กถูกรวบไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง นานเท่าไหร่มิอาจทราบได้ที่ร่างสองร่างแนบชิดกันแต่รับรู้เพียงว่าไออุ่นละมุนแห่งรักได้เชื่อมประสานใจทั้งสองดวงให้แนบแน่นยิ่งขึ้น แล้วร่างสูงก็ผละออกจากเธอ มือหนาสองข้างรวบมือคู่เล็กมาแนบตรงตำแหน่งของหัวใจ “พี่ละคะ พี่จะรับรักรินทร์ไหม” เธอถามในสิ่งที่ใจอยากรู้มานาน เธอรักพี่เต็มหัวใจ แล้วพี่ละรักเธอบ้างไหม “พี่ก็ไม่มีวันที่จะไม่รับรักรินทร์” เขาตอบโดยไม่ต้องคิด“ถ้าอย่างงั้นช่วยรับสิ่งนี้ไว้ด้วยนะ” ชายหนุ่มสอดมือเข้าในกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง วัตถุชิ้นน้อยถักด้วยเชือกเทียนสีน้ำตาลประดับด้วยเปลือกหอยหลากสีบนหัวแหวนถูกชูตรงหน้าเธอ “แต่งงานกับพี่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงหวาน แววตาทอดมองเธออย่างมีความหมาย “มาขอสาวแต่งงานทั้งทีให้แค่แหวนเปลือกหอยเหรอคะ” ไอรินทร์ถามแก้เขินแต่ก็แอบน้อยใจอยู่นิดหนึ่งที่ไม่ใช่แหวนมีราคา “แม้มันจะเป็นแค่แหวนวงละยี่สิบบาทแต่คุณค่าทางใจพี่ให้เต็มล้าน” ริมฝีปากหนาหยักได้รูปคลี่ยิ้มหวาน แม้เป็นวัตถุธรรมดาที่ดูแล้วไร้ราคาเทียบไม่ได้กับวัตถุที่มีอัตราสูงแต่คุณค่าของความรู้สึกของผู้ให้ที่มีต่อผู้รับมันมิอาจเทียบกับสิ่งใดได้เลย “แต่งงานกับพี่นะ” ไอรินทร์คลี่ยิ้มหวานและพยักหน้าแทนคำตอบ มือหนายกมือเล็กข้างซ้ายลอยขึ้นมาตรงกลางระหว่างอก วัตถุชิ้นน้อยถูกบรรจงสวมเข้าในนิ้วนางเรียวเล็กซ้ายมือ หลังมือเล็กถูกกดจุมพิตอ่อนโยนเพื่อประทับตราเป็นเจ้าของ“ส่งแค่นี้ก็พอค่ะ” ก้องภพเดินมาส่งไอรินทร์ถึงหน้าห้องพัก “ว้าย! พี่คะทำอะไรเนี่ย” หญิงสาวร้องทักเมื่อชายหนุ่มใช้ไหล่แคบของเธอหนุนศีรษะทุย“ขออยู่แบบนี้สักพักนะมันสบายดี” เสียงทุ่มพูดอู้อี้ เขายังหนุนอยู่อย่างนั้นแม้เธอจะบอกว่ามันดูไม่ดี มองเผินๆเหมือนคนยืนคลอเคลียกันไม่อายใครใบหน้าคมแสนซุกซนซุกไซร้ซอกคออุ่นหอมละมุน หญิงสาวขยับไปไหนไม่ได้เพราะร่างของเธอถูกล๊อคด้วยอ้อมกอดแข็งแรงหนาแน่นทำได้แค่เพียงเบี่ยงศีรษะหนีแต่นั้นยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เขารุกรานเธอมากกว่าเดิม เขาถอนใบหน้าออกจึงมองเห็นว่าดวงหน้าสวยบัดนี้แดงแจ๋เพราะความขวยเขิน เขาแค่แกล้งเธอเองนะ ไม่อยากจะเชื่อว่าร่างนี้จะทำให้ชายหนุ่มหลงใหลแทบจะหยุดไม่ได้
ฝ่าเท้าหนาเปล่าเปลือยย่ำลงพื้นทรายแฉะชื้นน้ำ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความมั่นคงระหว่างเดินชายหนุ่มยังทอดมองดวงหน้าหวานที่หลับตาสนิท“เอาละ เปิดตาได้แล้ว” สิ้นเสียงเปลือกตาที่เคลือบด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ค่อยๆ ปรือขึ้นดวงตากลมโตกระพริบถี่ก่อนจะกวดสายตาสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบกาย ที่นี้คือ“พี่พารินทร์มาที่นี้ทำไม ปล่อยนะ!” เธอโวยวายเพราะที่นี้คือทะเลและตอนนี้ร่างกายท่อนล่างของชายหนุ่มจมอยู่ใต้น้ำระดับเอว“พี่มีเรื่องสำคัญจะบอก” ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักเพื่อจะปลดปล่อยพันธนาการแต่ไม่เป็นผลเพราะชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นภาพเด็กหญิงร่างอวบเนื้อตัวเปียกโชคกำลังนั่งร้องให้ขี้มูกโป่งอยู่บนพื้นทรายของริมหาดเพราะเมื่อตอนเธอเล่นน้ำเผลอดื่มน้ำทะเลไปอึกใหญ่ ภาพวัยเด็กฉายเข้าสู่สมองของก้องภพอีกครั้ง“บอกที่อื่นสิ ที่ดีๆกว่านี้ไม่มีแล้วเหรอ” หญิงสาวหน้างอง้ำ“ที่นี้แหละดีที่สุดแล้ว” ไอรินทร์ผินหน้าไปทางอื่น คนบ้ารู้ทั้งรู้ว่าเธอกลัวน้ำยังพาลงมาอีก“โกรธพี่แล้ว ไอ้พี่เต้าหู้ยี้ ไอ้พี่บ้า ไอ้ไม้เสียบผี ว้าย!!” ชายหนุ่มแสร้งทำเธอตกน้ำโทษฐานพูดจาไม่เพราะ ไอรินทร์กอดคอก้องภพแน่น“พูดอีกสิ” พูดยิ้มๆแต่ทำเสียงดุ หมีโคอาล่ายังคงเกาะต้นไม้แน่นเพราะกลัวว่าเขาจะโยนเธอลงน้ำจริงๆ เมื่อเห็นไอรินทร์สงบนิ่งก้องภพจึงค่อยๆเดินหาที่เพื่อกะเกนระดับน้ำทะเลให้สูงระดับหัวเข่าของเธอ แต่กว่าจะยืนหญิงสาวแปลงร่างเป็นรูปปั้นหมีคาล่าเกาะคอชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย “พี่อยู่ตรงนี้แล้วไม่ต้องกลัว” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูคนกอดคอให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่ปล่อยเธอ ฝ่าเท้าเล็กค่อยๆหย่อนลงน้ำจนร่างกายรับหัวเข้าลงไปจมอยู่ใต้น้ำ“ปล่อยเสื้อแล้วเงยหน้ามาคุยกัน” นายทหารหนุ่มบอกเมื่อเห็นคนกลัวน้ำกอดเอวของเขาไว้แน่นร่างกายแข็งทื่อ พร้อมหลับตาปี๋“พี่จะพูดอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะค่ะ รินทร์รอฟังอยู่” ไอรินทร์พูดเสียงอู้อี้ ใบหน้าเล็กซุกอยู่กลางอกหนาของชายหนุ่ม“ผู้ฟังไม่มองหน้าผู้พูด แล้วผู้พูดจะพูดได้อย่างไร” ประโยคนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นผู้ที่ไม่มีมารยาทในการฟังจึงยอมถอยออกเล็กน้อยแต่มือสองข้างกำแน่นอยู่ที่ชายเสื้อของก้องภพและเงยหน้ามองผู้พูดเรียวตาคมจ้องลึกลงในดวงตากลมโตที่ยังไหวระริกเพราะโรคกลัวน้ำอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบขวัญคนขี้กลัว รอยยิ้มอ่อนโยนทำให้ไอรินทร์ลืมสนิทว่าตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ในน้ำ ลืมความกลัวหมดสิ้นเหลือแค่เพียงความเชื่อมั่นและอบอุ่นใจ“เมื่อก่อนพี่รู้ตัวว่าพี่พูดแหย่ทำให้รินทร์ไม่พอใจ” เสียงทุ้มเอ่ยอ่อนโยน หัวใจอยากสารภาพ“ในใจรินทร์คิดอย่างไรพี่ไม่รู้ แต่พี่รู้อย่างเดียวคือพี่อยากคุยอยากอยู่ใกล้” นิ้วเรียวยาวเกลี่ยเศษปอยเส้นผมที่ถูกลมพัดปิดดวงหน้าหวานให้พ้น“ไม่ว่าปืนหรือระเบิดพี่ก็กล้าจับ แต่พี่ขี้ขลาดเกินไปที่จะพูดคำนี้ให้รินทร์ฟัง” มือหนาเลื่อนขึ้นกอบกุมไหล่บาง ดวงตาคมกล้าฉายแววหวานซึ่งเมื่อสบดวงตากลมโตไอรินทร์ยืนนิ่งสงบดวงตาคู่สวยสบกับดวงตาคมกล้าอย่างมีความหมาย หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วจนแทบจะหลุดออกมานอกอกเพื่อรอฟังคำคำนั้น “รัก...” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วแต่หวานซึ่งตรึงใจ มือหนาข้างหนึ่งสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเพื่อหยิบวัตถุบางอย่าง ส่วนมือที่ยังว่างกุมมือเล็กข้างซ้ายของหญิงสาวมาแนบที่ตำแหน่งของหัวใจ “ถ้าไม่รังเกียจ ช่วยรับรักคนขี้ขลาดไว้ได้ไหม” หัวใจดวงน้อยชุ่มฉ่ำราวกับได้น้ำฝนเย็นฉ่ำหล่อเลี้ยง ความตื้นตันใจถูกแสดงออกผ่านหยดน้ำที่หน่วยตาและไหลรินอาบสองข้างพวงแก้ม ดวงหน้าหวานเบือนหนีไปอีกทางเพื่อหลบซ่อนสิ่งที่ไม่อยากให้เขาเห็น “ไม่ค่ะ” นัยน์ตาสีนิลหดวูบวัตถุในมือเกือบหล่นน้ำถ้าหากกำไว้ไม่แน่น การที่เธอเธอหลบหน้าแสดงให้เขารู้สินะว่าเธอรังเกียจ ใช่สิความรักของคนขี้ขลาดมันคงไม่มีค่าและไม่มั่นคงพอที่จะทำให้เธอเชื่อมั่น ชายนุ่มหลุบตาลงต่ำยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น อย่างน้อยเขาก็ได้บอกในสิ่งที่ใจต้องการ ก้องภพปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระวัตถุชิ้นน้อยถูกเก็บเข้าที่เดิมก่อนจะก้าวเท้าออกเดินด้วยความยากลำบาก ทำไมร่างกายมันหนักอย่างนี้ “ไม่มีวัน ไม่มีวันที่รินทร์จะไม่รับรักพี่” เสียงหวานตะโกนสั่นเครือตามหลังชายหนุ่มที่ก้าวเดินได้ไม่กี่ก้าว ขาสองข้างที่หนักอึ้งหยุดชะงักก่อนจะเปลี่ยนทิศทางเดินไปที่เก่า “อะไรนะ พูดใหม่สิ” “ไม่มีวันที่จะไม่รับรักพี่ค่ะ” หญิงสาวพูดทั้งคราบน้ำตาเปื้อนแก้ม ร่างเล็กถูกรวบไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง นานเท่าไหร่มิอาจทราบได้ที่ร่างสองร่างแนบชิดกันแต่รับรู้เพียงว่าไออุ่นละมุนแห่งรักได้เชื่อมประสานใจทั้งสองดวงให้แนบแน่นยิ่งขึ้น แล้วร่างสูงก็ผละออกจากเธอ มือหนาสองข้างรวบมือคู่เล็กมาแนบตรงตำแหน่งของหัวใจ “พี่ละคะ พี่จะรับรักรินทร์ไหม” เธอถามในสิ่งที่ใจอยากรู้มานาน เธอรักพี่เต็มหัวใจ แล้วพี่ละรักเธอบ้างไหม “พี่ก็ไม่มีวันที่จะไม่รับรักรินทร์” เขาตอบโดยไม่ต้องคิด“ถ้าอย่างงั้นช่วยรับสิ่งนี้ไว้ด้วยนะ” ชายหนุ่มสอดมือเข้าในกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง วัตถุชิ้นน้อยถักด้วยเชือกเทียนสีน้ำตาลประดับด้วยเปลือกหอยหลากสีบนหัวแหวนถูกชูตรงหน้าเธอ “แต่งงานกับพี่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงหวาน แววตาทอดมองเธออย่างมีความหมาย “มาขอสาวแต่งงานทั้งทีให้แค่แหวนเปลือกหอยเหรอคะ” ไอรินทร์ถามแก้เขินแต่ก็แอบน้อยใจอยู่นิดหนึ่งที่ไม่ใช่แหวนมีราคา “แม้มันจะเป็นแค่แหวนวงละยี่สิบบาทแต่คุณค่าทางใจพี่ให้เต็มล้าน” ริมฝีปากหนาหยักได้รูปคลี่ยิ้มหวาน แม้เป็นวัตถุธรรมดาที่ดูแล้วไร้ราคาเทียบไม่ได้กับวัตถุที่มีอัตราสูงแต่คุณค่าของความรู้สึกของผู้ให้ที่มีต่อผู้รับมันมิอาจเทียบกับสิ่งใดได้เลย “แต่งงานกับพี่นะ” ไอรินทร์คลี่ยิ้มหวานและพยักหน้าแทนคำตอบ มือหนายกมือเล็กข้างซ้ายลอยขึ้นมาตรงกลางระหว่างอก วัตถุชิ้นน้อยถูกบรรจงสวมเข้าในนิ้วนางเรียวเล็กซ้ายมือ หลังมือเล็กถูกกดจุมพิตอ่อนโยนเพื่อประทับตราเป็นเจ้าของ“ส่งแค่นี้ก็พอค่ะ” ก้องภพเดินมาส่งไอรินทร์ถึงหน้าห้องพัก “ว้าย! พี่คะทำอะไรเนี่ย” หญิงสาวร้องทักเมื่อชายหนุ่มใช้ไหล่แคบของเธอหนุนศีรษะทุย“ขออยู่แบบนี้สักพักนะมันสบายดี” เสียงทุ่มพูดอู้อี้ เขายังหนุนอยู่อย่างนั้นแม้เธอจะบอกว่ามันดูไม่ดี มองเผินๆเหมือนคนยืนคลอเคลียกันไม่อายใครใบหน้าคมแสนซุกซนซุกไซร้ซอกคออุ่นหอมละมุน หญิงสาวขยับไปไหนไม่ได้เพราะร่างของเธอถูกล๊อคด้วยอ้อมกอดแข็งแรงหนาแน่นทำได้แค่เพียงเบี่ยงศีรษะหนีแต่นั้นยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เขารุกรานเธอมากกว่าเดิม เขาถอนใบหน้าออกจึงมองเห็นว่าดวงหน้าสวยบัดนี้แดงแจ๋เพราะความขวยเขิน เขาแค่แกล้งเธอเองนะ ไม่อยากจะเชื่อว่าร่างนี้จะทำให้ชายหนุ่มหลงใหลแทบจะหยุดไม่ได้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ