แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ
8.7
เขียนโดย ลันตนา
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.
33 บท
10 วิจารณ์
36.32K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) บทที่ 12 ปฏิบัติการป่วนหัวใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 12 ปฏิบัติการป่วนหัวใจ
ไอรินทร์กลับมาจากอังกฤษได้หกเดือนก็เริ่มเข้าทำงานในบริษัทของครอบครัวของตัวเอง โดยเริ่มจจากเป็นพนักงานฝึกหันเพื่อเรียนรู้งานในแผนกการตลาด
“ตรงนี้เข้าใจแล้วยัง” ณัฐพลพูดพลางชี้ลงไปในเอกสารที่กำลังอธิบายไอรินทร์
“รินทร์อ่านตั้งหลายรอบไม้เห็นจะเข้าใจเลย พอพี่โอ๊ตมาอธิบายปุ๊บก็เข้าใจปั๊บเลย” ไอรินทร์ยิ้มตาหยีพร้อมกับเอ่ยชมคุณครูจำเป็นที่มาช่วยทำให้เข้าใจกระจ่างมากขึ้นเกี่ยวกับเอกสารนี้
“เราเนี่ยขี้อ้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ” ณัฐพลพูดแล้วเอามือมาโยกศีรษะเล็กของไอรินทร์
ณัฐพลเองก็อยากมีน้องสาว แต่ก็ไม่ได้มีดังที่หวังเพราะคุณแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีบุตรได้อีก เขาจึงเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลสหไพศาร และเมื่อได้มาพบไอรินทร์เขาก็รักไอรินทร์เหมือนกับน้องสาวแท้ๆคนหนึ่ง
“เป็นไงบ้างน้องตั้งใจเรียนหรือเปล่า” คุณวรรณวิภาเดินเข้ามาหาหนุ่มสาวสองคนที่กำลังนั่งอ่านเอกสารด้วยกันอยู่ที่ศาลาในสวนหลังบ้าน
“ตั้งใจครับ...” ณัฐพลพูดพลางหันไปมองน้องสาวไม่แท้ที่ตอนนี้กำลังยิ้มแป้นกับคำตอบของพี่ชายไม่แท้ แต่มีเหตุให้ต้องหุบยิ้มเมื่อณัฐพลพูดว่า “ตั้งใจขี้เกียจมากกว่าครับ”
“โธ่ พี่โอ๊ต รินทร์ตั้งใจสุดๆแล้วนะ” ไอรินทร์ผิดหวังสุดๆ ตั้งใจสุดๆของเธอคือฟังบ้างไม่ฟังบ้างเล่นโทรศัพท์บ้าง
“เอาเถอะจ๊ะๆ ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน โอ๊ตวันนี้อยู่ทาบข้าวกับอาก่อนนะแล้วค่อยกลับ” ณัฐพลยกมือไหว้แทนคำตอบและขอบคุณเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มหิวแล้ว
(ที่โต๊ะอาหาร)
“ขอโทษครับที่มาช้า” เสียงของพีรพัฒน์เอ่ยขึ้นมาขณะเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“วันนี้ผมขอฝากท้องที่นี้ด้วยคนนะครับ” เสียงของก้องภพที่เดินตามหลังพีรพัฒน์มาติดๆ
“มาสิทานข้างด้วยกันหลายๆคนสนุกดี” คุณวิชัยพูด ก้องภพก็มานั่งที่เก้าอี้ข้างซ้ายของไอรินทร์ที่ยังว่าง ส่วนข้างขวาของไอรินทร์คือณัฐพล ไอรินทร์ก็ลอบมองคนที่มานั้งข้างซ้ายเล็กน้อย ‘ทำไมหัวใจฉันเต้นแรงอย่างนี้เนี่ย หยุดสิ...’ เธอคิดในใจ
“พี่โอ๊ตคะ ลองทานปลาทับทิมราดพริกดูสิคะรินทร์ทำเอง” ไอรินทร์ตักเนื่อปลาทับทิมชิ้นใหญ่ให้ณัฐพล แต่ยังไม่ทันถึงจานของเขา คนแขนยาวอย่างก้องภพก็ว้าช้อนที่อยู่ในมือไอรินทร์เอามาใส่จานตัวเอง
“ขอบคุณครับ... โอ้โห อร่อยจังคราวหลังทำอีกนะ” พร้อมด้วยคำขอบคุณและคำชมจากชายหนุ่ม
ไอรินทร์พยายามจะระงับอารมณ์โกรธให้ดีที่สุดกับคนที่ไม่มีมารยาท เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมก้องภพก้องต้องทำเช่นนี้ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเป็นผู้ชายที่สุภาพอ่อนน้อมและมีมารยาทกับทุกคน แต่ตอนนี้เขาเป็นอะไร มันเกิดอะไรขึ้น ณัฐพลเองก็ไม่ติดใจกับการกระทำของอีกฝ่าย เขากลับคิดว่าผู้ชายคนนี้อาจจะไม่ชอบหน้าเขาหรือไม่ก็ไม่ชอบให้น้องสาวของเขาสนใจผู้ชายคนอื่นก็เป็นได้ เพราะอาการแบบนี้เขาก็เคยเป็นมาก่อน
“น้องรินทร์ ลองกินผัดผักบุ้งดูสิเมื่อกี้พี่กินแล้วอร่อยมาก” ณัฐพลตักผัดผักบุ้งไฟแดงให้ไอรินทร์ แต่ช้อนของเขายังไปไม่ถึงจานของไอรินทร์ คนมือไวอย่างก้องภพก็ตักอาหารอีกอย่างใส่จานไอรินทร์เรียบร้อยแล้ว
“แต่พี่ว่ากุ้งชุบแป้งทอดอร่อยกว่าลองดูสิ” ก้องภพพูดพร้อมกับราดน้ำจิ้มลงบนกุ้งชุบแป้งทอดที่อยู่ในจานของไอรินทร์อีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ” ไอรินทร์เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม ก้องภพก็ยิ้มตอบเช่นกัน ‘อย่าทำแบบนี้สิ หัวใจรินทร์มันจะหลุดออกมาเต้นข้างนอกแล้วนะ’ ไอรินทร์คิดในใจ
เมื่อการรับประทานอาหารมื่อเย็นเสร็จสิ้นณัฐพลจึงขอตัวกลับ
“พรุ่งนี้ลูกค้าจะนัดดูสินค้าที่บริษัทของเราจะทำแบรนด์ร่วมกัน พรุ่งนี้เช้าพี่มารับนะ” ณัฐพลพูดกับไอรินทร์ขณะที่เดินออกมาจากบ้าน แล้วก็มีก้องภพเดินตามหลังมาด้วย
“ได้ค่ะ... ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ” ไอรินทร์พูดแล้วโบกมือบ๊ายบายชายหนุ่มที่เข้าไปนั่งประจำที่นั่งคนขับ แล้วรถของเขาก็เคลื่อนออกไป
“พี่จะกลับบ้านแล้วอวยพรพี่เหมือนไอ้หมอนั้นหน่อยสิ”
“ไอ้หมอนั้น ใครคะ”
“ก็ไอ้หน้าจืดนั้นไงเล่า” ก้องภพเริ่มหงุดหงิดกับกริยาท่าทางของหญิงสาว
“เขาชื่อพี่โอ๊ตค่ะ กรุณาเรียกให้ถูกด้วย” ไอรินทร์บอกชื่อคนที่ก้องภพหมายถึงเผื่อทีเขาอาจจะยังไม่รู้จัก
“จะชื่อโอ๊ต ไอ้หน้าจืด หรือไอ้หมอนั้นมันก็เหมือนกันนั่นแหละ” ความหงุดหงิดของก้องภพค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เขาเองก็อยากจะควบคุมอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้แต่มันทำไม่ได้จริงๆ เมื่อเห็นเธอคุยกันอย่างสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแล้วมันอยากจะเข้าไปขวางเหลือเกิน ยกเว้นพีรพัฒน์ ไอรินทร์เองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะยืนคุยกับคนอารมณ์ขี้หงุดหงิดคนนี้ทำไมเดินออกไปให้พ้นก็สิ้นเรื่อง
“อยากให้อวยพรใช่มั้ย” ไอรินทร์กอดอกถามคนอารมณ์หงุดหงิด “ที่หน้าบ้านเทศบาลยังไม่ได้ปิดฝาท่อ ระวังเดินตกท่อนะคะ” อวยพรเสร็จก็เดินเข้าไปในบ้าน
อารมณ์ของก้องภพก็หายหงุดหงิดทันทีที่ได้รับคำอวยพร ได้แค่นี้เขาก็พอใจแล้วไม่ต้องหวานแต่แค่ให้ออกมาจากปากของเธอก็เพียงพอแล้ว ไอรินทร์เดินเข้าไปในบ้านนานแล้ว แต่ก้องภพก็ยังยืนมองอยู่อย่างนั้นจนไม่รู้ตัวว่ามีคนมา
“เมื่อกี้นายทำอะไร” พีรพัฒน์ที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบเอ่ยถามคนที่ยืนมองหลังน้องสาวที่เดินเข้าไปในบ้านนานแล้ว
“เปล่า ฉันไม่ได้ทำอะไร” ก้องภพรู้ว่าพีรพัฒน์หมายถึงเรื่องใดแต่ก็ทำเฉไฉไม่รู้เรื่อง เตรียมจะหมุนตัวเดินออกไปแต่ก็ต้องหยุดเมื่อมือของพีรพัฒน์มายึดไหล่เอาไว้หนึ่งข้าง
“ปากแข็ง การกระทำของนายมันฟ้องฉันหมดแล้วว่านายชอบน้องฉันใช่ไหม” พีรพัฒน์จ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง
“ใช่” ก้องภพตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น มันคือความจริงไม่มีอะไรที่จะต้องปกปิด พีรพัฒน์ยิ้มพอใจกับคำตอบของก้องภพ
เช้าวันรุ่งขึ้นตามที่ณัฐพลได้นัดกับไอรินทร์ไว้ว่าจะไปพบลูกค้าด้วยกัน เมื่ออรินทร์เดินออกมาจากบ้านก็ต้องชะงักเท้าเมื่อมองเห็นรถสอคันจอดอยู่เบื้องหน้า คันซ้ายเป็นรถ Mercedes Benz C Class สีเงินของณัฐพล ส่วนคันขวาเป็นรถ Honda Accord สีขาวของก้องภพ ไอรินทร์ทราบดีว่าดีว่าณัฐพลมาเพื่อรับตนไปพบลูกค้าด้วยกัน แต่ก้องภพเขามาทำไม
“มารับใครคะ” ไอรินทร์เดินเข้าไปถามชายหนุ่มที่อยู่ในเครื่องแบบทหารสีกากีแกมสีเขียวคอพับแขนสั้น ที่ยืนอยู่ข้างๆรถตัวเอง
“มารับรินทร์ไปพบลูกค้าไง” หนุ่มในเครื่องแบบตอบไอรินทร์อย่างอารมณ์ดี
“แต่รินทร์มีคนมารับแล้ว”
ก้องภพหันไปมองเจ้าของรถเบนซ์ที่จะมารับไอรินทร์วันนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าณัฐพลจะมารับไอรินทร์แต่เขาเองก็อยากจะมารับไอรินทร์เหมือนกัน
ในตอนนั้นมีสาวใช้สองคนเดินผ่านมาแล้วหยุดดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ
“ป้านวลๆ ป้าว่าคุณรินทร์จะไปกับใครอะ ระหว่างหนุ่มในชุดสูทอยย่างคุณโอ๊ตกับหนุ่มในเครื่องแบบอย่างคุณก้อง” สาวใช้คนหนึ่งพูด
“นางกล้วย! เรื่องของเจ้านาย” สาวใช้ที่มีอายุหกสิบต้นๆที่มีชื่อว่าป้านวลดุสาวใช้ที่มีชื่อว่ากล้วย
“ฉันว่านะคุณรินทร์ต้องไปกับคุณก้องชัวร์” กล้วยก็ยังไม่เลิกจับคู่ให้เจ้านาย ป้านวลมองสาวใช้รุ่นหลานอย่างเอือมระอากับนิสัยชอบยุ่งเรื่องเจ้านาย ป้านวลเองก็อยากรู้แต่ไม่แสดงอาการออกมาจึงได้แต่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ
“ไปกันเถอะเดี๋ยวไปพบลูกค้าสาย” ก้องภพไม่สนใจคำพูดของไอรินทร์และไม่สนใจด้วยว่าใครนัดที่จะมารับเธอ พร้อมทั้งถือกระเป๋าและแฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือเธอแทน
“คุณก้องภพผมฝากน้องด้วยนะครับ” ณัฐพลพูดเมื่อเห็นว่าก้องภพไม่ยอมปล่อยให้ไอรินทร์ไปกับตน แล้วเขาก็เห็นว่าตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาที่นัดลูกค้าแล้วด้วย ‘ขี้หวงจริงๆเลยนะผู้ชายคนนี้ก็ดีแล้วละที่รินทร์ได้พบผู้ชายดีๆ’ ณัฐพลคิด
“แต่ว่า...” ไอรินทร์ส่งสายตาและน้ำเสียงขอความช่วยเหลือไปหาณัฐพลแต่เขากลับพยักหน้าในเชิงว่าไปเถอะ
“ไม่ต้องห่วงหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” พร้อมทั้งโอบไหล่บางของไอรินทร์ให้ขึ้นไปนั่งบนรถที่นั่งข้างๆคนขับ
รถแล่นมาเรื่อยๆจนมาถึงกน้าบริษัทวัฒธนเวชเดคคอร์เรดซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัววัฒธนเวช
“เย็นนี้พี่จะมารับ ห้ามไปไหนกับใครเด็ดขาด” ก้องภพกำชับอย่างหนักแน่น
“ทำไมคะ รินทร์จะไปไหนกับใครมันก็สิทธิ์ของรินทร์” ไอรินทร์พูดอย่างไม่เกรงกลัวคำสั่ง
“ก็คอยดูสิ” ก้องภพมองหน้าไอรินทร์นิ่งก่อนที่เธอจะลงจากรถ
ตกเย็นก้องภพก็มารับไอรินทร์ตามที่ได้บอกไว้เมื่อตอนเช้า แต่มีเหตุที่ต้องทำให้เขาต้องหงุดหงิดอีกคราเมื่อไอรินทร์ไม่ทำตามที่เขาสั่ง ไม่รอให้เขาไปรับไม่พอยังออกไปกับณัฐพลอีก ทำไมกันนะเขาแสดงความรู้สึกออกมาเธอยังมองไม่เห็นอีกเหรอ
“สวัสดีครับน้าภา รินทร์อยู้ไหมครับ” ก้องภพพยายามสะกดกลั้นอารมณ์
“น้องอยู่ที่สระว่ายน้ำจ๊ะ” เมื่อได้รับคำคอบคนตัวสูงก็มุ่งหน้าไปที่หมายทันที คุณวรรณวิภางงงันกับอาการรีบร้อนของชายหนุ่ม
‘อยากรู้นักว่าเธอทำอะไรแล้วก็อยู่กับใคร’ เขาคิดในใจ เมื่อมาถึงสระว่ายน้ำก็พบกับคนที่ไม่ทำตามคำสั่งกำลังนั่งทำงานอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยู่ที่ใต้ร่มคันใหญ่
“กลับมานนานแล้วยัง” น้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ของคนถามพยายามกลั้นอารมณ์ไว้ไม่ให้พลุ่งพล่านจนคนถูกถามตกใจ
“เพิ่งกลับมา” เสียงเรียบๆไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนตอบ เธอยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานเช่นเคย
ออกไปตั้งแต่บ่ายสามกลับมาสี่โมงจวนจะห้าโมงแล้ว พวกเขาไปทำอะไรกัน
“ทำไมถึงไม่รอให้ไปรับละ”
“มีงานด่วนต้องรีบออกไป” ไอรินทร์ลุกขึ้นแล้วหันมามองหน้าคนถาม
“อยากอยู่กับไอ้หมอนั้นสองต่อสองละสิ... ทำไม ทำไมถึงติดอกติดใจมันนักหนามันทำอะไร บอกพี่บ้างสิ เผื่อทำพี่จะทำให้บ้าง ไม่แน่อาจจะดีกว่ามันด้วยซ้ำ” ใบหน้าคมไม่มีแม้น้ำตาที่ไหลออกมาแต่ในหัวใจเขามันเปียกปอนไปหมดแล้ว ไอรินทร์ได้ยินประโยคนี้น้ำตากลั้นไว้ก็ไหลลงมาเป็นสาย ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาประชิดร่างเล็กที่กำลังเชิดหน้ามองเขา
“พี่โอ๊ตเขาไม่ต้องทำอะไร เขาก็ดีอยู่แล้ว”
คำพูดหายเข้าไปในอากาศยังไม่ทันหมดริมฝีปากหนาเข้ามาประกบริมฝีปากบางทันที บดขยี้ปากบางราวจะให้แหลกส่งรสสัมผัสที่รุนแรงและหยาบคายมาให้คนที่ไม่ทันตั้งตัว เธอเคยคิดว่าจูบแรกของเธอจะอ่อนหวานและอ่อนโยนจากผู้ชายที่เธอรัก แต่มันคงเป็นไปได้แค่ความฝัน น้ำตาที่เคยไหลตอนนี้ก็เริ่มไหลมากขึ้น อากาศที่ใช้หายใจกำลังจะหมดลง ก้องภพปล่อยให้เธอเป็นอิสระเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นลม
“เป็นไงแบบนี้ดีไหม” ไอรินทร์ยกมือขึ้นถูกปากตัวเองอย่างแรก เพื่อเช็ดรอยสัมผัสนั้นออกไป
เพี๊ยะ! “เลิกบ้าสักที” เมื่อได้สูดอากาศที่อยู่รอบตัวเข้าเต็มปอด ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคมคายหนึ่งทีเพื่อเรียกสติคนตรงหน้า
“เดี๋ยวฟังพี่ก่อน” เมื่อได้สติน้ำเสียงสำนึกผิดของชายหนุ่มที่ดังขึ้นแต่ก็ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้
ไอรินทร์กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาในบ้านก็พบกับคุณวรรณวิภา “เคลีย์งานเสร็จแล้วเหรอลูก” หญิงสูงวัยเห็นลูกสาวเดินเข้ามาในบ้านจึงเอ่ยถาม
“ยังเลยค่ะ รินทร์มึนหัวก็เลยอยากขึ้นไปพัก”
“อย่าลืมทานยาด้วยนะลูก” คุณวรรณวิภาเข้ามาลูบศีษระลูกสาวเบาๆ “อ้อ เมื่อกี้พี่ก้องมาด้วยได้เจอกันไหม”
“เจอค่ะ แต่ตอนนี้เขากลับไปแล้ว”
“กลับเร็วจังแม่อุตส่าห์สั่งเด็กให้เตรียมกับข้าวตั้งเยอะ ลูกขึ้นไปพักเถอะ” ไอรินทร์ขึ้นไปข้างบนแล้ว คุณวรรณวิภาเดินกลับจะไปนั่งที่เดิมก็เห็นก้องภพกำลังเดินออกไป “ไหนบอกว่ากลับไปแล้ว” หญิงสูงวัยพึมพำคนเดียว
เมื่อมาถึงห้องนอนเดินมาได้ถึงข้างเตียงขาที่ไม่มีเรี่ยวแรงก็ทรุดนั่งลงข้างเตียง ใบหน้าแนบกับข้างเตียงอย่างหมดแรง ในใจมีแต่ความสับสนว่าทำไมเขามีคนรักอยู่แล้ว ทำไมต้องทำเหมือนรัก หึง หวง หัวใจเธอก็คอยปฏิเสธความรู้สึกชอบ รู้สึกดีที่เข้ามา... แต่มันทำไม่ได้จริงๆ
ขาเรียวยาวพาเจ้าของมาหยุดที่สวนหน้าบ้านของตัวเอง กำปั้นใหญ่ต่อยลงบนลำต้นของต้นไม้เพื่อสั่งสอนตัวเองที่ทำอะไรไม่คิด เขายอมรับว่าหึงเธอมากจริงๆที่เธอออกไปกับผู้ชายคนอื่น แล้ก็ไม่พอใจที่เธอเห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าเขา ยิ่งแสดงความรู้สึกมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเดินหนี แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก
ไอรินทร์กลับมาจากอังกฤษได้หกเดือนก็เริ่มเข้าทำงานในบริษัทของครอบครัวของตัวเอง โดยเริ่มจจากเป็นพนักงานฝึกหันเพื่อเรียนรู้งานในแผนกการตลาด
“ตรงนี้เข้าใจแล้วยัง” ณัฐพลพูดพลางชี้ลงไปในเอกสารที่กำลังอธิบายไอรินทร์
“รินทร์อ่านตั้งหลายรอบไม้เห็นจะเข้าใจเลย พอพี่โอ๊ตมาอธิบายปุ๊บก็เข้าใจปั๊บเลย” ไอรินทร์ยิ้มตาหยีพร้อมกับเอ่ยชมคุณครูจำเป็นที่มาช่วยทำให้เข้าใจกระจ่างมากขึ้นเกี่ยวกับเอกสารนี้
“เราเนี่ยขี้อ้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ” ณัฐพลพูดแล้วเอามือมาโยกศีรษะเล็กของไอรินทร์
ณัฐพลเองก็อยากมีน้องสาว แต่ก็ไม่ได้มีดังที่หวังเพราะคุณแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีบุตรได้อีก เขาจึงเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลสหไพศาร และเมื่อได้มาพบไอรินทร์เขาก็รักไอรินทร์เหมือนกับน้องสาวแท้ๆคนหนึ่ง
“เป็นไงบ้างน้องตั้งใจเรียนหรือเปล่า” คุณวรรณวิภาเดินเข้ามาหาหนุ่มสาวสองคนที่กำลังนั่งอ่านเอกสารด้วยกันอยู่ที่ศาลาในสวนหลังบ้าน
“ตั้งใจครับ...” ณัฐพลพูดพลางหันไปมองน้องสาวไม่แท้ที่ตอนนี้กำลังยิ้มแป้นกับคำตอบของพี่ชายไม่แท้ แต่มีเหตุให้ต้องหุบยิ้มเมื่อณัฐพลพูดว่า “ตั้งใจขี้เกียจมากกว่าครับ”
“โธ่ พี่โอ๊ต รินทร์ตั้งใจสุดๆแล้วนะ” ไอรินทร์ผิดหวังสุดๆ ตั้งใจสุดๆของเธอคือฟังบ้างไม่ฟังบ้างเล่นโทรศัพท์บ้าง
“เอาเถอะจ๊ะๆ ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน โอ๊ตวันนี้อยู่ทาบข้าวกับอาก่อนนะแล้วค่อยกลับ” ณัฐพลยกมือไหว้แทนคำตอบและขอบคุณเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มหิวแล้ว
(ที่โต๊ะอาหาร)
“ขอโทษครับที่มาช้า” เสียงของพีรพัฒน์เอ่ยขึ้นมาขณะเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“วันนี้ผมขอฝากท้องที่นี้ด้วยคนนะครับ” เสียงของก้องภพที่เดินตามหลังพีรพัฒน์มาติดๆ
“มาสิทานข้างด้วยกันหลายๆคนสนุกดี” คุณวิชัยพูด ก้องภพก็มานั่งที่เก้าอี้ข้างซ้ายของไอรินทร์ที่ยังว่าง ส่วนข้างขวาของไอรินทร์คือณัฐพล ไอรินทร์ก็ลอบมองคนที่มานั้งข้างซ้ายเล็กน้อย ‘ทำไมหัวใจฉันเต้นแรงอย่างนี้เนี่ย หยุดสิ...’ เธอคิดในใจ
“พี่โอ๊ตคะ ลองทานปลาทับทิมราดพริกดูสิคะรินทร์ทำเอง” ไอรินทร์ตักเนื่อปลาทับทิมชิ้นใหญ่ให้ณัฐพล แต่ยังไม่ทันถึงจานของเขา คนแขนยาวอย่างก้องภพก็ว้าช้อนที่อยู่ในมือไอรินทร์เอามาใส่จานตัวเอง
“ขอบคุณครับ... โอ้โห อร่อยจังคราวหลังทำอีกนะ” พร้อมด้วยคำขอบคุณและคำชมจากชายหนุ่ม
ไอรินทร์พยายามจะระงับอารมณ์โกรธให้ดีที่สุดกับคนที่ไม่มีมารยาท เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมก้องภพก้องต้องทำเช่นนี้ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเป็นผู้ชายที่สุภาพอ่อนน้อมและมีมารยาทกับทุกคน แต่ตอนนี้เขาเป็นอะไร มันเกิดอะไรขึ้น ณัฐพลเองก็ไม่ติดใจกับการกระทำของอีกฝ่าย เขากลับคิดว่าผู้ชายคนนี้อาจจะไม่ชอบหน้าเขาหรือไม่ก็ไม่ชอบให้น้องสาวของเขาสนใจผู้ชายคนอื่นก็เป็นได้ เพราะอาการแบบนี้เขาก็เคยเป็นมาก่อน
“น้องรินทร์ ลองกินผัดผักบุ้งดูสิเมื่อกี้พี่กินแล้วอร่อยมาก” ณัฐพลตักผัดผักบุ้งไฟแดงให้ไอรินทร์ แต่ช้อนของเขายังไปไม่ถึงจานของไอรินทร์ คนมือไวอย่างก้องภพก็ตักอาหารอีกอย่างใส่จานไอรินทร์เรียบร้อยแล้ว
“แต่พี่ว่ากุ้งชุบแป้งทอดอร่อยกว่าลองดูสิ” ก้องภพพูดพร้อมกับราดน้ำจิ้มลงบนกุ้งชุบแป้งทอดที่อยู่ในจานของไอรินทร์อีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ” ไอรินทร์เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม ก้องภพก็ยิ้มตอบเช่นกัน ‘อย่าทำแบบนี้สิ หัวใจรินทร์มันจะหลุดออกมาเต้นข้างนอกแล้วนะ’ ไอรินทร์คิดในใจ
เมื่อการรับประทานอาหารมื่อเย็นเสร็จสิ้นณัฐพลจึงขอตัวกลับ
“พรุ่งนี้ลูกค้าจะนัดดูสินค้าที่บริษัทของเราจะทำแบรนด์ร่วมกัน พรุ่งนี้เช้าพี่มารับนะ” ณัฐพลพูดกับไอรินทร์ขณะที่เดินออกมาจากบ้าน แล้วก็มีก้องภพเดินตามหลังมาด้วย
“ได้ค่ะ... ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ” ไอรินทร์พูดแล้วโบกมือบ๊ายบายชายหนุ่มที่เข้าไปนั่งประจำที่นั่งคนขับ แล้วรถของเขาก็เคลื่อนออกไป
“พี่จะกลับบ้านแล้วอวยพรพี่เหมือนไอ้หมอนั้นหน่อยสิ”
“ไอ้หมอนั้น ใครคะ”
“ก็ไอ้หน้าจืดนั้นไงเล่า” ก้องภพเริ่มหงุดหงิดกับกริยาท่าทางของหญิงสาว
“เขาชื่อพี่โอ๊ตค่ะ กรุณาเรียกให้ถูกด้วย” ไอรินทร์บอกชื่อคนที่ก้องภพหมายถึงเผื่อทีเขาอาจจะยังไม่รู้จัก
“จะชื่อโอ๊ต ไอ้หน้าจืด หรือไอ้หมอนั้นมันก็เหมือนกันนั่นแหละ” ความหงุดหงิดของก้องภพค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เขาเองก็อยากจะควบคุมอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้แต่มันทำไม่ได้จริงๆ เมื่อเห็นเธอคุยกันอย่างสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแล้วมันอยากจะเข้าไปขวางเหลือเกิน ยกเว้นพีรพัฒน์ ไอรินทร์เองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะยืนคุยกับคนอารมณ์ขี้หงุดหงิดคนนี้ทำไมเดินออกไปให้พ้นก็สิ้นเรื่อง
“อยากให้อวยพรใช่มั้ย” ไอรินทร์กอดอกถามคนอารมณ์หงุดหงิด “ที่หน้าบ้านเทศบาลยังไม่ได้ปิดฝาท่อ ระวังเดินตกท่อนะคะ” อวยพรเสร็จก็เดินเข้าไปในบ้าน
อารมณ์ของก้องภพก็หายหงุดหงิดทันทีที่ได้รับคำอวยพร ได้แค่นี้เขาก็พอใจแล้วไม่ต้องหวานแต่แค่ให้ออกมาจากปากของเธอก็เพียงพอแล้ว ไอรินทร์เดินเข้าไปในบ้านนานแล้ว แต่ก้องภพก็ยังยืนมองอยู่อย่างนั้นจนไม่รู้ตัวว่ามีคนมา
“เมื่อกี้นายทำอะไร” พีรพัฒน์ที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบเอ่ยถามคนที่ยืนมองหลังน้องสาวที่เดินเข้าไปในบ้านนานแล้ว
“เปล่า ฉันไม่ได้ทำอะไร” ก้องภพรู้ว่าพีรพัฒน์หมายถึงเรื่องใดแต่ก็ทำเฉไฉไม่รู้เรื่อง เตรียมจะหมุนตัวเดินออกไปแต่ก็ต้องหยุดเมื่อมือของพีรพัฒน์มายึดไหล่เอาไว้หนึ่งข้าง
“ปากแข็ง การกระทำของนายมันฟ้องฉันหมดแล้วว่านายชอบน้องฉันใช่ไหม” พีรพัฒน์จ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง
“ใช่” ก้องภพตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น มันคือความจริงไม่มีอะไรที่จะต้องปกปิด พีรพัฒน์ยิ้มพอใจกับคำตอบของก้องภพ
เช้าวันรุ่งขึ้นตามที่ณัฐพลได้นัดกับไอรินทร์ไว้ว่าจะไปพบลูกค้าด้วยกัน เมื่ออรินทร์เดินออกมาจากบ้านก็ต้องชะงักเท้าเมื่อมองเห็นรถสอคันจอดอยู่เบื้องหน้า คันซ้ายเป็นรถ Mercedes Benz C Class สีเงินของณัฐพล ส่วนคันขวาเป็นรถ Honda Accord สีขาวของก้องภพ ไอรินทร์ทราบดีว่าดีว่าณัฐพลมาเพื่อรับตนไปพบลูกค้าด้วยกัน แต่ก้องภพเขามาทำไม
“มารับใครคะ” ไอรินทร์เดินเข้าไปถามชายหนุ่มที่อยู่ในเครื่องแบบทหารสีกากีแกมสีเขียวคอพับแขนสั้น ที่ยืนอยู่ข้างๆรถตัวเอง
“มารับรินทร์ไปพบลูกค้าไง” หนุ่มในเครื่องแบบตอบไอรินทร์อย่างอารมณ์ดี
“แต่รินทร์มีคนมารับแล้ว”
ก้องภพหันไปมองเจ้าของรถเบนซ์ที่จะมารับไอรินทร์วันนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าณัฐพลจะมารับไอรินทร์แต่เขาเองก็อยากจะมารับไอรินทร์เหมือนกัน
ในตอนนั้นมีสาวใช้สองคนเดินผ่านมาแล้วหยุดดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ
“ป้านวลๆ ป้าว่าคุณรินทร์จะไปกับใครอะ ระหว่างหนุ่มในชุดสูทอยย่างคุณโอ๊ตกับหนุ่มในเครื่องแบบอย่างคุณก้อง” สาวใช้คนหนึ่งพูด
“นางกล้วย! เรื่องของเจ้านาย” สาวใช้ที่มีอายุหกสิบต้นๆที่มีชื่อว่าป้านวลดุสาวใช้ที่มีชื่อว่ากล้วย
“ฉันว่านะคุณรินทร์ต้องไปกับคุณก้องชัวร์” กล้วยก็ยังไม่เลิกจับคู่ให้เจ้านาย ป้านวลมองสาวใช้รุ่นหลานอย่างเอือมระอากับนิสัยชอบยุ่งเรื่องเจ้านาย ป้านวลเองก็อยากรู้แต่ไม่แสดงอาการออกมาจึงได้แต่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ
“ไปกันเถอะเดี๋ยวไปพบลูกค้าสาย” ก้องภพไม่สนใจคำพูดของไอรินทร์และไม่สนใจด้วยว่าใครนัดที่จะมารับเธอ พร้อมทั้งถือกระเป๋าและแฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือเธอแทน
“คุณก้องภพผมฝากน้องด้วยนะครับ” ณัฐพลพูดเมื่อเห็นว่าก้องภพไม่ยอมปล่อยให้ไอรินทร์ไปกับตน แล้วเขาก็เห็นว่าตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาที่นัดลูกค้าแล้วด้วย ‘ขี้หวงจริงๆเลยนะผู้ชายคนนี้ก็ดีแล้วละที่รินทร์ได้พบผู้ชายดีๆ’ ณัฐพลคิด
“แต่ว่า...” ไอรินทร์ส่งสายตาและน้ำเสียงขอความช่วยเหลือไปหาณัฐพลแต่เขากลับพยักหน้าในเชิงว่าไปเถอะ
“ไม่ต้องห่วงหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” พร้อมทั้งโอบไหล่บางของไอรินทร์ให้ขึ้นไปนั่งบนรถที่นั่งข้างๆคนขับ
รถแล่นมาเรื่อยๆจนมาถึงกน้าบริษัทวัฒธนเวชเดคคอร์เรดซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัววัฒธนเวช
“เย็นนี้พี่จะมารับ ห้ามไปไหนกับใครเด็ดขาด” ก้องภพกำชับอย่างหนักแน่น
“ทำไมคะ รินทร์จะไปไหนกับใครมันก็สิทธิ์ของรินทร์” ไอรินทร์พูดอย่างไม่เกรงกลัวคำสั่ง
“ก็คอยดูสิ” ก้องภพมองหน้าไอรินทร์นิ่งก่อนที่เธอจะลงจากรถ
ตกเย็นก้องภพก็มารับไอรินทร์ตามที่ได้บอกไว้เมื่อตอนเช้า แต่มีเหตุที่ต้องทำให้เขาต้องหงุดหงิดอีกคราเมื่อไอรินทร์ไม่ทำตามที่เขาสั่ง ไม่รอให้เขาไปรับไม่พอยังออกไปกับณัฐพลอีก ทำไมกันนะเขาแสดงความรู้สึกออกมาเธอยังมองไม่เห็นอีกเหรอ
“สวัสดีครับน้าภา รินทร์อยู้ไหมครับ” ก้องภพพยายามสะกดกลั้นอารมณ์
“น้องอยู่ที่สระว่ายน้ำจ๊ะ” เมื่อได้รับคำคอบคนตัวสูงก็มุ่งหน้าไปที่หมายทันที คุณวรรณวิภางงงันกับอาการรีบร้อนของชายหนุ่ม
‘อยากรู้นักว่าเธอทำอะไรแล้วก็อยู่กับใคร’ เขาคิดในใจ เมื่อมาถึงสระว่ายน้ำก็พบกับคนที่ไม่ทำตามคำสั่งกำลังนั่งทำงานอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยู่ที่ใต้ร่มคันใหญ่
“กลับมานนานแล้วยัง” น้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ของคนถามพยายามกลั้นอารมณ์ไว้ไม่ให้พลุ่งพล่านจนคนถูกถามตกใจ
“เพิ่งกลับมา” เสียงเรียบๆไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนตอบ เธอยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานเช่นเคย
ออกไปตั้งแต่บ่ายสามกลับมาสี่โมงจวนจะห้าโมงแล้ว พวกเขาไปทำอะไรกัน
“ทำไมถึงไม่รอให้ไปรับละ”
“มีงานด่วนต้องรีบออกไป” ไอรินทร์ลุกขึ้นแล้วหันมามองหน้าคนถาม
“อยากอยู่กับไอ้หมอนั้นสองต่อสองละสิ... ทำไม ทำไมถึงติดอกติดใจมันนักหนามันทำอะไร บอกพี่บ้างสิ เผื่อทำพี่จะทำให้บ้าง ไม่แน่อาจจะดีกว่ามันด้วยซ้ำ” ใบหน้าคมไม่มีแม้น้ำตาที่ไหลออกมาแต่ในหัวใจเขามันเปียกปอนไปหมดแล้ว ไอรินทร์ได้ยินประโยคนี้น้ำตากลั้นไว้ก็ไหลลงมาเป็นสาย ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาประชิดร่างเล็กที่กำลังเชิดหน้ามองเขา
“พี่โอ๊ตเขาไม่ต้องทำอะไร เขาก็ดีอยู่แล้ว”
คำพูดหายเข้าไปในอากาศยังไม่ทันหมดริมฝีปากหนาเข้ามาประกบริมฝีปากบางทันที บดขยี้ปากบางราวจะให้แหลกส่งรสสัมผัสที่รุนแรงและหยาบคายมาให้คนที่ไม่ทันตั้งตัว เธอเคยคิดว่าจูบแรกของเธอจะอ่อนหวานและอ่อนโยนจากผู้ชายที่เธอรัก แต่มันคงเป็นไปได้แค่ความฝัน น้ำตาที่เคยไหลตอนนี้ก็เริ่มไหลมากขึ้น อากาศที่ใช้หายใจกำลังจะหมดลง ก้องภพปล่อยให้เธอเป็นอิสระเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นลม
“เป็นไงแบบนี้ดีไหม” ไอรินทร์ยกมือขึ้นถูกปากตัวเองอย่างแรก เพื่อเช็ดรอยสัมผัสนั้นออกไป
เพี๊ยะ! “เลิกบ้าสักที” เมื่อได้สูดอากาศที่อยู่รอบตัวเข้าเต็มปอด ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคมคายหนึ่งทีเพื่อเรียกสติคนตรงหน้า
“เดี๋ยวฟังพี่ก่อน” เมื่อได้สติน้ำเสียงสำนึกผิดของชายหนุ่มที่ดังขึ้นแต่ก็ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้
ไอรินทร์กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาในบ้านก็พบกับคุณวรรณวิภา “เคลีย์งานเสร็จแล้วเหรอลูก” หญิงสูงวัยเห็นลูกสาวเดินเข้ามาในบ้านจึงเอ่ยถาม
“ยังเลยค่ะ รินทร์มึนหัวก็เลยอยากขึ้นไปพัก”
“อย่าลืมทานยาด้วยนะลูก” คุณวรรณวิภาเข้ามาลูบศีษระลูกสาวเบาๆ “อ้อ เมื่อกี้พี่ก้องมาด้วยได้เจอกันไหม”
“เจอค่ะ แต่ตอนนี้เขากลับไปแล้ว”
“กลับเร็วจังแม่อุตส่าห์สั่งเด็กให้เตรียมกับข้าวตั้งเยอะ ลูกขึ้นไปพักเถอะ” ไอรินทร์ขึ้นไปข้างบนแล้ว คุณวรรณวิภาเดินกลับจะไปนั่งที่เดิมก็เห็นก้องภพกำลังเดินออกไป “ไหนบอกว่ากลับไปแล้ว” หญิงสูงวัยพึมพำคนเดียว
เมื่อมาถึงห้องนอนเดินมาได้ถึงข้างเตียงขาที่ไม่มีเรี่ยวแรงก็ทรุดนั่งลงข้างเตียง ใบหน้าแนบกับข้างเตียงอย่างหมดแรง ในใจมีแต่ความสับสนว่าทำไมเขามีคนรักอยู่แล้ว ทำไมต้องทำเหมือนรัก หึง หวง หัวใจเธอก็คอยปฏิเสธความรู้สึกชอบ รู้สึกดีที่เข้ามา... แต่มันทำไม่ได้จริงๆ
ขาเรียวยาวพาเจ้าของมาหยุดที่สวนหน้าบ้านของตัวเอง กำปั้นใหญ่ต่อยลงบนลำต้นของต้นไม้เพื่อสั่งสอนตัวเองที่ทำอะไรไม่คิด เขายอมรับว่าหึงเธอมากจริงๆที่เธอออกไปกับผู้ชายคนอื่น แล้ก็ไม่พอใจที่เธอเห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าเขา ยิ่งแสดงความรู้สึกมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเดินหนี แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ