แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ
เขียนโดย ลันตนา
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) บทที่ 12 ปฏิบัติการป่วนหัวใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 12 ปฏิบัติการป่วนหัวใจ
ไอรินทร์กลับมาจากอังกฤษได้หกเดือนก็เริ่มเข้าทำงานในบริษัทของครอบครัวของตัวเอง โดยเริ่มจจากเป็นพนักงานฝึกหันเพื่อเรียนรู้งานในแผนกการตลาด
“ตรงนี้เข้าใจแล้วยัง” ณัฐพลพูดพลางชี้ลงไปในเอกสารที่กำลังอธิบายไอรินทร์
“รินทร์อ่านตั้งหลายรอบไม้เห็นจะเข้าใจเลย พอพี่โอ๊ตมาอธิบายปุ๊บก็เข้าใจปั๊บเลย” ไอรินทร์ยิ้มตาหยีพร้อมกับเอ่ยชมคุณครูจำเป็นที่มาช่วยทำให้เข้าใจกระจ่างมากขึ้นเกี่ยวกับเอกสารนี้
“เราเนี่ยขี้อ้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ” ณัฐพลพูดแล้วเอามือมาโยกศีรษะเล็กของไอรินทร์
ณัฐพลเองก็อยากมีน้องสาว แต่ก็ไม่ได้มีดังที่หวังเพราะคุณแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีบุตรได้อีก เขาจึงเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลสหไพศาร และเมื่อได้มาพบไอรินทร์เขาก็รักไอรินทร์เหมือนกับน้องสาวแท้ๆคนหนึ่ง
“เป็นไงบ้างน้องตั้งใจเรียนหรือเปล่า” คุณวรรณวิภาเดินเข้ามาหาหนุ่มสาวสองคนที่กำลังนั่งอ่านเอกสารด้วยกันอยู่ที่ศาลาในสวนหลังบ้าน
“ตั้งใจครับ...” ณัฐพลพูดพลางหันไปมองน้องสาวไม่แท้ที่ตอนนี้กำลังยิ้มแป้นกับคำตอบของพี่ชายไม่แท้ แต่มีเหตุให้ต้องหุบยิ้มเมื่อณัฐพลพูดว่า “ตั้งใจขี้เกียจมากกว่าครับ”
“โธ่ พี่โอ๊ต รินทร์ตั้งใจสุดๆแล้วนะ” ไอรินทร์ผิดหวังสุดๆ ตั้งใจสุดๆของเธอคือฟังบ้างไม่ฟังบ้างเล่นโทรศัพท์บ้าง
“เอาเถอะจ๊ะๆ ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน โอ๊ตวันนี้อยู่ทาบข้าวกับอาก่อนนะแล้วค่อยกลับ” ณัฐพลยกมือไหว้แทนคำตอบและขอบคุณเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มหิวแล้ว
(ที่โต๊ะอาหาร)
“ขอโทษครับที่มาช้า” เสียงของพีรพัฒน์เอ่ยขึ้นมาขณะเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“วันนี้ผมขอฝากท้องที่นี้ด้วยคนนะครับ” เสียงของก้องภพที่เดินตามหลังพีรพัฒน์มาติดๆ
“มาสิทานข้างด้วยกันหลายๆคนสนุกดี” คุณวิชัยพูด ก้องภพก็มานั่งที่เก้าอี้ข้างซ้ายของไอรินทร์ที่ยังว่าง ส่วนข้างขวาของไอรินทร์คือณัฐพล ไอรินทร์ก็ลอบมองคนที่มานั้งข้างซ้ายเล็กน้อย ‘ทำไมหัวใจฉันเต้นแรงอย่างนี้เนี่ย หยุดสิ...’ เธอคิดในใจ
“พี่โอ๊ตคะ ลองทานปลาทับทิมราดพริกดูสิคะรินทร์ทำเอง” ไอรินทร์ตักเนื่อปลาทับทิมชิ้นใหญ่ให้ณัฐพล แต่ยังไม่ทันถึงจานของเขา คนแขนยาวอย่างก้องภพก็ว้าช้อนที่อยู่ในมือไอรินทร์เอามาใส่จานตัวเอง
“ขอบคุณครับ... โอ้โห อร่อยจังคราวหลังทำอีกนะ” พร้อมด้วยคำขอบคุณและคำชมจากชายหนุ่ม
ไอรินทร์พยายามจะระงับอารมณ์โกรธให้ดีที่สุดกับคนที่ไม่มีมารยาท เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมก้องภพก้องต้องทำเช่นนี้ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเป็นผู้ชายที่สุภาพอ่อนน้อมและมีมารยาทกับทุกคน แต่ตอนนี้เขาเป็นอะไร มันเกิดอะไรขึ้น ณัฐพลเองก็ไม่ติดใจกับการกระทำของอีกฝ่าย เขากลับคิดว่าผู้ชายคนนี้อาจจะไม่ชอบหน้าเขาหรือไม่ก็ไม่ชอบให้น้องสาวของเขาสนใจผู้ชายคนอื่นก็เป็นได้ เพราะอาการแบบนี้เขาก็เคยเป็นมาก่อน
“น้องรินทร์ ลองกินผัดผักบุ้งดูสิเมื่อกี้พี่กินแล้วอร่อยมาก” ณัฐพลตักผัดผักบุ้งไฟแดงให้ไอรินทร์ แต่ช้อนของเขายังไปไม่ถึงจานของไอรินทร์ คนมือไวอย่างก้องภพก็ตักอาหารอีกอย่างใส่จานไอรินทร์เรียบร้อยแล้ว
“แต่พี่ว่ากุ้งชุบแป้งทอดอร่อยกว่าลองดูสิ” ก้องภพพูดพร้อมกับราดน้ำจิ้มลงบนกุ้งชุบแป้งทอดที่อยู่ในจานของไอรินทร์อีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ” ไอรินทร์เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม ก้องภพก็ยิ้มตอบเช่นกัน ‘อย่าทำแบบนี้สิ หัวใจรินทร์มันจะหลุดออกมาเต้นข้างนอกแล้วนะ’ ไอรินทร์คิดในใจ
เมื่อการรับประทานอาหารมื่อเย็นเสร็จสิ้นณัฐพลจึงขอตัวกลับ
“พรุ่งนี้ลูกค้าจะนัดดูสินค้าที่บริษัทของเราจะทำแบรนด์ร่วมกัน พรุ่งนี้เช้าพี่มารับนะ” ณัฐพลพูดกับไอรินทร์ขณะที่เดินออกมาจากบ้าน แล้วก็มีก้องภพเดินตามหลังมาด้วย
“ได้ค่ะ... ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ” ไอรินทร์พูดแล้วโบกมือบ๊ายบายชายหนุ่มที่เข้าไปนั่งประจำที่นั่งคนขับ แล้วรถของเขาก็เคลื่อนออกไป
“พี่จะกลับบ้านแล้วอวยพรพี่เหมือนไอ้หมอนั้นหน่อยสิ”
“ไอ้หมอนั้น ใครคะ”
“ก็ไอ้หน้าจืดนั้นไงเล่า” ก้องภพเริ่มหงุดหงิดกับกริยาท่าทางของหญิงสาว
“เขาชื่อพี่โอ๊ตค่ะ กรุณาเรียกให้ถูกด้วย” ไอรินทร์บอกชื่อคนที่ก้องภพหมายถึงเผื่อทีเขาอาจจะยังไม่รู้จัก
“จะชื่อโอ๊ต ไอ้หน้าจืด หรือไอ้หมอนั้นมันก็เหมือนกันนั่นแหละ” ความหงุดหงิดของก้องภพค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เขาเองก็อยากจะควบคุมอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้แต่มันทำไม่ได้จริงๆ เมื่อเห็นเธอคุยกันอย่างสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแล้วมันอยากจะเข้าไปขวางเหลือเกิน ยกเว้นพีรพัฒน์ ไอรินทร์เองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะยืนคุยกับคนอารมณ์ขี้หงุดหงิดคนนี้ทำไมเดินออกไปให้พ้นก็สิ้นเรื่อง
“อยากให้อวยพรใช่มั้ย” ไอรินทร์กอดอกถามคนอารมณ์หงุดหงิด “ที่หน้าบ้านเทศบาลยังไม่ได้ปิดฝาท่อ ระวังเดินตกท่อนะคะ” อวยพรเสร็จก็เดินเข้าไปในบ้าน
อารมณ์ของก้องภพก็หายหงุดหงิดทันทีที่ได้รับคำอวยพร ได้แค่นี้เขาก็พอใจแล้วไม่ต้องหวานแต่แค่ให้ออกมาจากปากของเธอก็เพียงพอแล้ว ไอรินทร์เดินเข้าไปในบ้านนานแล้ว แต่ก้องภพก็ยังยืนมองอยู่อย่างนั้นจนไม่รู้ตัวว่ามีคนมา
“เมื่อกี้นายทำอะไร” พีรพัฒน์ที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบเอ่ยถามคนที่ยืนมองหลังน้องสาวที่เดินเข้าไปในบ้านนานแล้ว
“เปล่า ฉันไม่ได้ทำอะไร” ก้องภพรู้ว่าพีรพัฒน์หมายถึงเรื่องใดแต่ก็ทำเฉไฉไม่รู้เรื่อง เตรียมจะหมุนตัวเดินออกไปแต่ก็ต้องหยุดเมื่อมือของพีรพัฒน์มายึดไหล่เอาไว้หนึ่งข้าง
“ปากแข็ง การกระทำของนายมันฟ้องฉันหมดแล้วว่านายชอบน้องฉันใช่ไหม” พีรพัฒน์จ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง
“ใช่” ก้องภพตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น มันคือความจริงไม่มีอะไรที่จะต้องปกปิด พีรพัฒน์ยิ้มพอใจกับคำตอบของก้องภพ
เช้าวันรุ่งขึ้นตามที่ณัฐพลได้นัดกับไอรินทร์ไว้ว่าจะไปพบลูกค้าด้วยกัน เมื่ออรินทร์เดินออกมาจากบ้านก็ต้องชะงักเท้าเมื่อมองเห็นรถสอคันจอดอยู่เบื้องหน้า คันซ้ายเป็นรถ Mercedes Benz C Class สีเงินของณัฐพล ส่วนคันขวาเป็นรถ Honda Accord สีขาวของก้องภพ ไอรินทร์ทราบดีว่าดีว่าณัฐพลมาเพื่อรับตนไปพบลูกค้าด้วยกัน แต่ก้องภพเขามาทำไม
“มารับใครคะ” ไอรินทร์เดินเข้าไปถามชายหนุ่มที่อยู่ในเครื่องแบบทหารสีกากีแกมสีเขียวคอพับแขนสั้น ที่ยืนอยู่ข้างๆรถตัวเอง
“มารับรินทร์ไปพบลูกค้าไง” หนุ่มในเครื่องแบบตอบไอรินทร์อย่างอารมณ์ดี
“แต่รินทร์มีคนมารับแล้ว”
ก้องภพหันไปมองเจ้าของรถเบนซ์ที่จะมารับไอรินทร์วันนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าณัฐพลจะมารับไอรินทร์แต่เขาเองก็อยากจะมารับไอรินทร์เหมือนกัน
ในตอนนั้นมีสาวใช้สองคนเดินผ่านมาแล้วหยุดดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ
“ป้านวลๆ ป้าว่าคุณรินทร์จะไปกับใครอะ ระหว่างหนุ่มในชุดสูทอยย่างคุณโอ๊ตกับหนุ่มในเครื่องแบบอย่างคุณก้อง” สาวใช้คนหนึ่งพูด
“นางกล้วย! เรื่องของเจ้านาย” สาวใช้ที่มีอายุหกสิบต้นๆที่มีชื่อว่าป้านวลดุสาวใช้ที่มีชื่อว่ากล้วย
“ฉันว่านะคุณรินทร์ต้องไปกับคุณก้องชัวร์” กล้วยก็ยังไม่เลิกจับคู่ให้เจ้านาย ป้านวลมองสาวใช้รุ่นหลานอย่างเอือมระอากับนิสัยชอบยุ่งเรื่องเจ้านาย ป้านวลเองก็อยากรู้แต่ไม่แสดงอาการออกมาจึงได้แต่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ
“ไปกันเถอะเดี๋ยวไปพบลูกค้าสาย” ก้องภพไม่สนใจคำพูดของไอรินทร์และไม่สนใจด้วยว่าใครนัดที่จะมารับเธอ พร้อมทั้งถือกระเป๋าและแฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือเธอแทน
“คุณก้องภพผมฝากน้องด้วยนะครับ” ณัฐพลพูดเมื่อเห็นว่าก้องภพไม่ยอมปล่อยให้ไอรินทร์ไปกับตน แล้วเขาก็เห็นว่าตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาที่นัดลูกค้าแล้วด้วย ‘ขี้หวงจริงๆเลยนะผู้ชายคนนี้ก็ดีแล้วละที่รินทร์ได้พบผู้ชายดีๆ’ ณัฐพลคิด
“แต่ว่า...” ไอรินทร์ส่งสายตาและน้ำเสียงขอความช่วยเหลือไปหาณัฐพลแต่เขากลับพยักหน้าในเชิงว่าไปเถอะ
“ไม่ต้องห่วงหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” พร้อมทั้งโอบไหล่บางของไอรินทร์ให้ขึ้นไปนั่งบนรถที่นั่งข้างๆคนขับ
รถแล่นมาเรื่อยๆจนมาถึงกน้าบริษัทวัฒธนเวชเดคคอร์เรดซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัววัฒธนเวช
“เย็นนี้พี่จะมารับ ห้ามไปไหนกับใครเด็ดขาด” ก้องภพกำชับอย่างหนักแน่น
“ทำไมคะ รินทร์จะไปไหนกับใครมันก็สิทธิ์ของรินทร์” ไอรินทร์พูดอย่างไม่เกรงกลัวคำสั่ง
“ก็คอยดูสิ” ก้องภพมองหน้าไอรินทร์นิ่งก่อนที่เธอจะลงจากรถ
ตกเย็นก้องภพก็มารับไอรินทร์ตามที่ได้บอกไว้เมื่อตอนเช้า แต่มีเหตุที่ต้องทำให้เขาต้องหงุดหงิดอีกคราเมื่อไอรินทร์ไม่ทำตามที่เขาสั่ง ไม่รอให้เขาไปรับไม่พอยังออกไปกับณัฐพลอีก ทำไมกันนะเขาแสดงความรู้สึกออกมาเธอยังมองไม่เห็นอีกเหรอ
“สวัสดีครับน้าภา รินทร์อยู้ไหมครับ” ก้องภพพยายามสะกดกลั้นอารมณ์
“น้องอยู่ที่สระว่ายน้ำจ๊ะ” เมื่อได้รับคำคอบคนตัวสูงก็มุ่งหน้าไปที่หมายทันที คุณวรรณวิภางงงันกับอาการรีบร้อนของชายหนุ่ม
‘อยากรู้นักว่าเธอทำอะไรแล้วก็อยู่กับใคร’ เขาคิดในใจ เมื่อมาถึงสระว่ายน้ำก็พบกับคนที่ไม่ทำตามคำสั่งกำลังนั่งทำงานอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยู่ที่ใต้ร่มคันใหญ่
“กลับมานนานแล้วยัง” น้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ของคนถามพยายามกลั้นอารมณ์ไว้ไม่ให้พลุ่งพล่านจนคนถูกถามตกใจ
“เพิ่งกลับมา” เสียงเรียบๆไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนตอบ เธอยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานเช่นเคย
ออกไปตั้งแต่บ่ายสามกลับมาสี่โมงจวนจะห้าโมงแล้ว พวกเขาไปทำอะไรกัน
“ทำไมถึงไม่รอให้ไปรับละ”
“มีงานด่วนต้องรีบออกไป” ไอรินทร์ลุกขึ้นแล้วหันมามองหน้าคนถาม
“อยากอยู่กับไอ้หมอนั้นสองต่อสองละสิ... ทำไม ทำไมถึงติดอกติดใจมันนักหนามันทำอะไร บอกพี่บ้างสิ เผื่อทำพี่จะทำให้บ้าง ไม่แน่อาจจะดีกว่ามันด้วยซ้ำ” ใบหน้าคมไม่มีแม้น้ำตาที่ไหลออกมาแต่ในหัวใจเขามันเปียกปอนไปหมดแล้ว ไอรินทร์ได้ยินประโยคนี้น้ำตากลั้นไว้ก็ไหลลงมาเป็นสาย ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาประชิดร่างเล็กที่กำลังเชิดหน้ามองเขา
“พี่โอ๊ตเขาไม่ต้องทำอะไร เขาก็ดีอยู่แล้ว”
คำพูดหายเข้าไปในอากาศยังไม่ทันหมดริมฝีปากหนาเข้ามาประกบริมฝีปากบางทันที บดขยี้ปากบางราวจะให้แหลกส่งรสสัมผัสที่รุนแรงและหยาบคายมาให้คนที่ไม่ทันตั้งตัว เธอเคยคิดว่าจูบแรกของเธอจะอ่อนหวานและอ่อนโยนจากผู้ชายที่เธอรัก แต่มันคงเป็นไปได้แค่ความฝัน น้ำตาที่เคยไหลตอนนี้ก็เริ่มไหลมากขึ้น อากาศที่ใช้หายใจกำลังจะหมดลง ก้องภพปล่อยให้เธอเป็นอิสระเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นลม
“เป็นไงแบบนี้ดีไหม” ไอรินทร์ยกมือขึ้นถูกปากตัวเองอย่างแรก เพื่อเช็ดรอยสัมผัสนั้นออกไป
เพี๊ยะ! “เลิกบ้าสักที” เมื่อได้สูดอากาศที่อยู่รอบตัวเข้าเต็มปอด ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคมคายหนึ่งทีเพื่อเรียกสติคนตรงหน้า
“เดี๋ยวฟังพี่ก่อน” เมื่อได้สติน้ำเสียงสำนึกผิดของชายหนุ่มที่ดังขึ้นแต่ก็ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้
ไอรินทร์กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาในบ้านก็พบกับคุณวรรณวิภา “เคลีย์งานเสร็จแล้วเหรอลูก” หญิงสูงวัยเห็นลูกสาวเดินเข้ามาในบ้านจึงเอ่ยถาม
“ยังเลยค่ะ รินทร์มึนหัวก็เลยอยากขึ้นไปพัก”
“อย่าลืมทานยาด้วยนะลูก” คุณวรรณวิภาเข้ามาลูบศีษระลูกสาวเบาๆ “อ้อ เมื่อกี้พี่ก้องมาด้วยได้เจอกันไหม”
“เจอค่ะ แต่ตอนนี้เขากลับไปแล้ว”
“กลับเร็วจังแม่อุตส่าห์สั่งเด็กให้เตรียมกับข้าวตั้งเยอะ ลูกขึ้นไปพักเถอะ” ไอรินทร์ขึ้นไปข้างบนแล้ว คุณวรรณวิภาเดินกลับจะไปนั่งที่เดิมก็เห็นก้องภพกำลังเดินออกไป “ไหนบอกว่ากลับไปแล้ว” หญิงสูงวัยพึมพำคนเดียว
เมื่อมาถึงห้องนอนเดินมาได้ถึงข้างเตียงขาที่ไม่มีเรี่ยวแรงก็ทรุดนั่งลงข้างเตียง ใบหน้าแนบกับข้างเตียงอย่างหมดแรง ในใจมีแต่ความสับสนว่าทำไมเขามีคนรักอยู่แล้ว ทำไมต้องทำเหมือนรัก หึง หวง หัวใจเธอก็คอยปฏิเสธความรู้สึกชอบ รู้สึกดีที่เข้ามา... แต่มันทำไม่ได้จริงๆ
ขาเรียวยาวพาเจ้าของมาหยุดที่สวนหน้าบ้านของตัวเอง กำปั้นใหญ่ต่อยลงบนลำต้นของต้นไม้เพื่อสั่งสอนตัวเองที่ทำอะไรไม่คิด เขายอมรับว่าหึงเธอมากจริงๆที่เธอออกไปกับผู้ชายคนอื่น แล้ก็ไม่พอใจที่เธอเห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าเขา ยิ่งแสดงความรู้สึกมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเดินหนี แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ